รสรัก รอยเสน่หา ทำให้เธอสุข ทุกข์เฝ้ารอคอย ปาฏิหารย์ หากเมื่อวันนั้นมาถึง เขากลับทำให้เธอทุกข์ทรมานเจ็บเจียนจะขาดใจ “ปล่อยเนยนะ เนยไม่ยอมพี่อีกแล้ว จากนี้ไปเราจะเป็นแค่คนแปลกหน้า เนยจะไปตามทางที่พี่ต้องการ” เนวิตาเสียงข่มขืนใกล้ใบหูเขา “จะทำได้จริงๆ หรือสาวน้อย ลองดูกันไหม สักพักเธอจะวอนขอฉันหน้าดำหน้าแดงเชียวล่ะ”
1
ลอนดอน อังกฤษ
ภายในอพาร์ตเม้นต์หรู พยัคฆ์ สืบขจรเกียรติกำลังพยายามยกหัวขึ้นจากหมอนนุ่ม แต่ช่างยากเย็นเพราะเมื่อคืนดื่มหนักที่สุดในรอบสามปี… เมาขนาดที่ว่าคู่ขาสาวสวยแดนผู้ดียังทิ้งเขาไว้ด้วยความขัดใจเหตุที่ทำบทรักล่มไม่เป็นท่า เมื่อทรงตัวได้ร่างสูงสะบัดศีรษะแรงๆ ให้หายมึน คว้าผ้าขนหนูพันเอวสอบเดินไปนั่งตรงมินิบาร์ หาน้ำเย็นดื่ม
ติด ติด ติด มือถือร้องหาเจ้าของ พยัคฆ์กดรับ
“ตาเมฆจะกลับวันไหน” เสียงพวงพกาน้าสาวดังมาตามสาย พยัคฆ์คิดครุ่นว่าจะตอบดีหรือไม่
“อีกไม่กี่วันครับ” หาคำตอบได้จึงบอกน้าสาว
“อย่านานนักนะตาเมฆ” น้าสาวรบเร้ามาอีก พยัคฆ์ตอบรวดเร็ว
“ครับๆ ผมวางสายนะครับแล้วค่อยคุยกันครับ”
สาเหตุที่น้าสาวโทรตามในช่วงสามสี่วันที่ผ่านเพราะการเสียชีวิตของมารดา ซึ่งเรื่องนี้ทำให้พยัคฆ์ช็อก มันเหมือนฝัน จะให้ยอมรับกับสิ่งที่เกิดนั้นมันช่างยากเย็น มารดาต่อสู้กับโรคหัวใจมาหลายปี หากไม่เป็นเพราะนายพลผู้เป็นพ่อและผู้หญิงคนนั้นซึ่งได้ชื่อว่าเมียน้อย มีหรือที่ท่านจะจากไปเร็วขนาดนี้ ชายหนุ่มจึงสัญญากับตนเองจะจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยราบคาบเมื่อกลับไปถึงเมืองไทย
กรุงเทพฯ สองวันต่อมา
นมมาลีคนใช้เก่าแก่ของบ้านสืบขจรเกียรติรีบเดินออกจาห้องครัวเมื่อเด็กรับใช้มารายงานว่าคุณหนูของตนกลับมาแล้ว
“คุณหนูกลับมาไม่เห็นบอกนมเลยค่ะ จะให้คนขับรถไปรับ” นมมาลีเข้าไปกอดร่างสูงร้อยแปดสิบเซนติเมตรของเจ้านายน้อยด้วยความดีใจ
“บอกว่ากลับมาก็ไม่รู้สิครับว่าบ้านของผม มีกาฝากเข้ามาอยู่อย่างสุขสบาย น่าสงสารคุณแม่เก็บเงียบเชียวต้องให้ผมรู้จากคนอื่น แถมบ้านแบบเดิมๆ ที่คุณแม่ชื่นชอบก็เปลี่ยนไป” น้ำเสียงดุดันแม้จะเบาลง แต่สายตาที่ดังมีเปลวเพลิงสุมไม่ได้ลดน้อยลงไปด้วย เด็กรับใช้ที่เข้ามาถอยร่น หากต้องสะดุ้งโหยงเมื่อเดินไปได้เพียงสามก้าว
“อย่าเพิ่งไป เอาภาพพวกนี้ไปเก็บให้ไกลตาด้วย!”
เด็กรับใช้สายตาลนลานเดินมาเก็บรูปถ่ายที่เจ้านายชี้
“คุณหนูไม่ชอบตรงไหน นมจะปรับเปลี่ยนให้เองค่ะ ตอนนี้ไปพักผ่อนนะคะ คืนนี้จะได้ไปฟังพระสวด” นมมาลีเข้ามาบอกให้เด็กออกไป พยายามชวนเจ้านายคุยเรื่องอื่น และก็ได้ผล เมื่อพยัคฆ์ยอมเดินไปทรุดนั่งที่โซฟา
“ใครช่วยดูแลเรื่องงานศพคุณแม่ครับ” หัวใจอ่อนไหว น้ำเสียงจึงอ่อนโยนเมื่อเอ่ยเรื่องมารดา… คงไม่มีใครมาช่วยจัดการสินะเพราะบิดาเองก็ล้มเจ็บตั้งแต่วันนั้น
“ คุณน้าคุณหนูมาฟังพระสวดทุกคืนค่ะ ผู้คนเยอะแยะ”
“ผมหมายถึงญาติๆ ครับ ไม่ใช่ลูกน้องของคุณพ่อ ส่วนคนที่มาช่วยคงคุณน้าพวงพกากับคุณน้าพายัพน่ะสิครับ”
คงไม่มีใครนอกจากสองคนนี้ คนที่เทียวไปเทียวมามารดากว่าคนอื่น
นมมาลีพยักหน้า “คะ แล้วคุณหนูจะขึ้นไปหาคุณพ่อเลยหรือเปล่าคะ”
ใบหน้าหล่อเหลาปานหนุ่มแดนกิมจิแหงนหน้าไปทางห้องนอนบิดา ไม่ตอบคำถาม จากนั้นเดินขึ้นด้านบนยังห้องเดิมที่คิดถึงจับหัวใจ นมมาลีถอนหายใจ สามปีที่ไม่พบเจอดูท่าคุณพยัคฆ์ผู้อ่อนโยนจะกลายเป็นคนมองโลกในแง่ลบไปเสียแล้วหรืออย่างไร
เนวิตา เจ้าของรูปร่างบอบบาง ผิวสีแทนกลับจากมหาวิทยาลัยในมือถือผลไม้หลายชนิด บอกให้เด็กรับใช้นำไปล้างเพราะตนเองจะเอาไปให้บิดาทาน เนวิตารีบร้อนทั้งจมกับความคิดตนเองจนไม่ได้สังเกตการพูดคุยซุบซิบที่ผิดปกติของเด็กรับใช้
พรุ่งนี้ไม่มีเรียนเห็นทีคืนนี้ต้องไปวัดให้เร็วกว่าทุกวัน เพื่อไปช่วยตรวจดูความเรียบร้อย แม้รู้สึกเครียดเมื่อไปที่นั่นแต่เธอคงหลีกหนีเรื่องนี้ไม่ได้
“แต่นี้ไปเนยคือลูกสาวของพ่อ อย่าคิดมากถ้าอยากให้แม่สบายใจก็ทำตัวสบายๆ เมื่อมาอยู่ด้วยกัน แม่จะได้ไม่ต้องเป็นห่วง”
การมีแม่เพียงคนเดียวมาโดยตลอด อยู่ๆ ก็มีบิดาบุญธรรมกะทันหัน แม้จะไม่ชินในความเป็นพ่อลูกที่ท่านนายพลมอบให้แต่เนวิตาก็พยายามปรับตัวให้ได้ สองปีที่ผ่านมา เธอได้สัมผัสถึงความรักความเอาใจใส่ของพ่อบุญธรรมแล้ว เนวิตาบอกตนเองว่าสมควรจะดีใจที่โชคชะตาทำให้เธอได้เข้ามาอยู่ที่บ้านหลังใหญ่โตนี้
เพื่อรอใครบางคนกลับมา
เรื่องที่เข้ามาอยู่ที่สืบขจรเกียรติแม้ถูกมองด้วยสายตาไม่เป็นมิตรจากญาติของคุณหญิงเดือนฉายและพ่อบุญธรรม หนำซ้ำสองสัปดาห์ที่แล้วก็มีเรื่องราวใหญ่โตที่ทำเธอเครียดขึ้นมากกว่าเดิมหลายร้อยพันเท่า แต่เธอจะต้องผ่านมันไปให้ได้
สองอาทิตย์ที่แล้วบ้านสืบขจรเกียรติ
เสียงโวยวายในห้องรับแขก เนวิตาเดินอยู่บริเวณนั้นจึงรีบวิ่งไปดู
“อะไรนะ คุณบอกว่าจะพาลูกมาอยู่คนเดียวในตอนแรก ทำไมตอนนี้บอกว่าจะพาเมียน้อยคุณมาอยู่ด้วย คนไม่รักษาสัญญา อย่าไปนะยังไงฉันก็ไม่ยอม ฉันไม่ยอม!”
เป็นเสียงคุณหญิง ภรรยาพ่อบุญธรรมที่ไม่เคยพูดจากันสักคำตั้งแต่เนวิตาเข้ามาอยู่ หากความเป็นผู้ดีของคุณหญิง เนวิตาก็ไม่เคยโดนพูดจากระทบเสียดสีเช่นกัน แต่วันนี้เธอตกใจน้ำเสียงที่ได้ยิน และตกใจคำว่า ‘เมียน้อย’
แม่ไม่ได้เป็นแบบนั้น เนวิตาแน่ใจคุณหญิงกำลังเข้าใจผิด
“พูดอะไรเลอะเทอะคุณหญิง ใครมาได้ยินเข้าหรอก สงสารเขาเถอะ ผมเพียงสงสาร อย่าคิดมากสิ คุณไม่ใช่คนใจแคบ ผมอธิบายคุณไปแล้วนี่น่า” นายพลเนวิน พยายามหว่านล้อมภรรยา
“สงสารคนอื่น เห็นใจคนอื่น ฉันต้องอกตรมหมองไหม้ขนาดไหนคุณรู้ไหม แค่ลูกยังพอไหวแต่ให้แม่มาอยู่ด้วย อยากจะเชิดชูที่ไหนฉันไม่ว่าแต่ถ้าเป็นที่นี่ ฉันจะไม่ทน ไม่ทนอีกต่อไป”
“คุณ…” นายพลเนวินอึดอัด หาทางออกไม่ได้
“ถ้าอย่างนั้นแค่ชั่วคราวจนกว่าเขาจะ…” นายพลต่อรองยังไม่เสร็จเสียงคุณหญิงเดือนฉายก็ขัดขึ้น
“ฉันให้คุณได้แค่ที่บอก หากคุณต้องการอะไรมากกว่านี้ ฉันจะไปอยู่ที่อื่นเอง ”
ความเด็ดขาดของคุณหญิงทำให้นายพลซึ่งไม่เคยเห็น ไม่เคยโดนขัดใจ รีบตะบึงรถออกจากบ้านไม่เรียกคนขับรถ พ่อบุญธรรมจากไปคุณหญิงร้องไห้เงียบๆ ก่อนจะทรุดลงกับพื้น
“คุณหญิง คุณหญิงเป็นอะไรไปคะ!” เนวิตามือสั่น ตกใจเห็นคุณหญิงหายใจติดขัด
เด็กรับใช้ต่างวิ่งเข้ามาเพื่อดูแล “ยาค่ะ ยา” นมมาลีรีบนำยามาให้ หากวินาทีนั้นคุณหญิงได้แน่นิ่งไปเสียแล้ว เสียงร้องเรียกของคนเก่าแก่ที่รับใช้มานาน ทำให้เนวิตาตกใจ น้ำตาไหลด้วยความกลัว เพราะเธอรู้คุณหญิงมีโรคประจำตัวอยู่ นั่นคือโรคหัวใจ
“นมคะ ให้เด็กเอารถออกเร็วคะ ไปโรงพยาบาล” เนวิตาบอกนมมาลีเสียงสั่น
ขณะที่กำลังตกอกตกใจ เนวิตาก็ถูกผลักจนเซ พวงพกาเข้ามาตวาดให้ออกไปไกลคุณหญิง เนวิตาจึงได้แต่ชะเง้อมองคุณหญิงด้วยความเป็นห่วง
อทิตยาคือหญิงสาวที่นายพลภัทรอุปการะไว้ตั้งแต่อายุสิบขวบ เธอรัก เคารพนายพลเหมือนพ่อแต่กลัวคุณหญิง ภรรยานายพลมาก ดังนั้นเมื่อโตเป็นสาวเธอก็ไม่กล้าเข้าใกล้นายพลอีก จนกระทั่งภัทรกร ลูกชายคนโตของนายพลเข้ามาแทรกซึมให้หัวใจที่ว้าเหว่อบอุ่นขึ้น เธอหลงรักเขาอย่างห้ามใจไม่ได้ เธอยอมเป็นคนในความลับ เพื่อรอวันที่จะได้ทะเบียนสมรสจากเขา แต่แล้ววันหนึ่งคนรักเขากลับมา เขาไม่รีรอที่จะมอบเงินให้เธอ ตัดสัมพันธ์ที่เธอหวงแหนลง แล้วเธอจะพูดอะไรได้ นอกจากทำตามที่เขาต้องการ ทว่าเมื่อรู้ว่าตั้งท้องเธอก็เปลี่ยนใจ อยากให้ภัทรกรรู้เรื่องลูก แต่เขากลับคิดว่าเธอโกหกเพราะคิดจะจับเขา หญิงสาวเสียใจมาก เธอยอมไปจากบ้านดลจิตรตามที่คุณหญิงสั่ง เพราะที่นี่ไม่มีใครช่วยเธอได้ นายพลเธอก็ไม่อยากให้เดือดเนื้อร้อนใจเพราะเธอ
กัญญายอมมาเป็นผู้หญิงของรอน กวี อลอนโซแทนน้องเพื่อใช้หนี้ให้พ่อ แม้เธอจะต้องทิ้งรักแรกแต่ก็ไม่สามารถหลีกหนีได้ ทว่าวันหนึ่งกลับเจอว่าน้องสาวและคนรักเก่ากำลังคบหาจะแต่งงานกัน เธอได้รับรู้ที่ผ่านมาไม่มีใครสนใจถึงความเสียสละของเธอแม้แต่น้อย กัญญารู้สึกโดดเดี่ยว เสียใจเป็นที่สุด และในเวลานั้นรอนก็กำลังจะแต่งงาน ยุติความสัมพันธ์กับเธอ ซ้ำจะยกเธอให้ลูกน้องเขา เธอไม่มีค่ากับใครเลยหรือ?
เขาทิ้งเธอไว้ไปในวันฝนพร่ำเพื่อไปหาคนรักที่รอคอยมาเนิ่นนาน ความฝันที่จะได้เคียงคู่พลันมลายลง เธอเป็นแค่คนผ่านทาง เธอจะไม่ร้องไห้ แต่ทำไม น้ำตาไหลไม่หยุดแบบนี้เล่า ------------------------ เพราะยินยอมพร้อมใจเป็นเด็กเลี้ยงของหมอดลทัช เมื่อเขาจะจากไป โดยที่ไม่บอกกล่าวล่วงหน้า ชลรัมภาจำต้องยอมรับความทุกข์ ความปวดร้าวให้ได้ ทว่าเมื่อต้องเจอหน้าเขาอยู่ร่ำไป เพราะเธอคือเพื่อนรักน้องสาวเขา เธอจะทำตัวเช่นไรดี ให้เขาไม่สมเพช ไม่เห็นน้ำตาที่ไม่มีค่าของเธอ
เพราะอนาคตของน้องสาว เพราะแม่ พลอยหวาน สาวสมองขี้เลื่อยจึงต้องมารับกรรมที่ไม่ได้ก่อ คีตะคราม เขาหล่อ แต่เขาร้าย แต่ไม่ปราณีเธอ แม้เป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ วันที่หลานชายเขาฟื้นขึ้นมาจากการหลับใหล เธอรู้ว่าตนเองท้อง ทว่าพ่อของลูก คนใจร้ายคนนั้นไม่ยอมรับฟัง เขายังต้องการให้เธอไปให้ไกลตาหลานชายของเขา แต่กลับไปบ้าน สักวันคนบ้านนั้นอาจจะรู้เรื่องน้องสาว ที่ไม่เคยเหลียวแลพี่สาวอย่างเธอ ดังนั้นเธอต้องไปหางาน หาเงินเอาข้างหน้า คลอดลูกเมื่อไหร่ จะเอามาให้พ่อเขาก็แล้วกัน ไม่โกรธแม่ใช่ไหมลูก? เธอน้ำตาไหล เธอหวังลูกจะตอบกลับเป็นประโยคเดียวกับคำถามของเธอ
เรื่องราวของอัญชลียาผู้ซึ่งยึดมั่นในความผูกพัน จนกลายเป็นความรัก แม้รู้ว่าคุณอคินของเรามีให้แค่เงินและสัมพันธ์ทางกายเธอก็ยังไม่เปลี่ยนใจจากเขา จนกระทั่งวันที่ต้องลาจากมาถึง เพราะคนรักที่เขาสัญญาจะแต่งงานด้วยกลับมาจากเมืองนอก ความผูกพันของเธอก็ดูไร้ค่าจนน่าสมเพชตนเอง และเรื่องราวที่เกิดขึ้นมากมายทำให้ความรักกลายเป็นความแค้น เรื่องราวจะเป็นอย่างไรติดตามกันในเล่มนะคะ ------ “ฉันไปนะอันอัน อย่าลืมฝากคีย์การ์ดไว้ที่เคาน์เตอร์นะ” “อะไรกันแค่คีย์การ์ด ฉันจะเอาไปทำไม” อันอัน เช็ดหน้าเดินไปหาเสื้อผ้า ดึงของใช้ตนเองออกมา” “เธอจะโมโหทำไม เอ๊ะ! หรือว่าคิดไม่ทำตามสัญญา อย่าเชียวนะ นั่นๆ ดึงไปให้หมดเลยเสื้อผ้าพวกนั้น” เขายืนมอง ปากก็พูดไล่อีกครั้ง หญิงสาวหันไปมองเขา “เลือดเย็นกับฉันจังเลยนะอคิน ทั้งที่เมื่อคืนปากบอกว่าชอบฉัน” อดไม่ได้จะตัดพ้อ แต่เขาคงฟังเป็นถ้อยคำน่ารำคาญ เพราะหันหลังหนีไปอีกครั้ง หยิบกุญแจรถขึ้น “เวลาเข้าด้ายเข้าเข็ม กำลังมันส์จะให้พูดว่าเกลียดหรือไง เธอเองก็ชอบนี่น่า พอๆ อย่าหาเรื่อง นั่นเช็คนะ ดูแลตัวเองด้วย” อย่างน้อยยังมีน้ำใจ แม้จะออกมาเพราะเธอคาดคั้น อัญชลียาหันมองเช็ค ใจแห้งเหี่ยวเดินเข้าไปแต่งตัว พร้อมกับเจ้าของห้องหรูเดินห่างไป เสียงประตูปิดลง หญิงสาวผู้ไม่เคยแสดงความอ่อนแอ นั่งลงปาดน้ำตา ขอบคุณทุกการสนับสนุนค่ะ ทรายสีรุ้ง
เขารักคนอื่น กำลังจะแต่งงานกัน ในค่ำคืนหนึ่งเธอกลายเป็นของเขาด้วยความงงๆ อยากบอกเขาให้รับผิดชอบ เพราะไม่รู้จะทำอย่างไร แต่คนที่เขาจะแต่งงานเป็นคนที่เธอรัก เคารพ อารยายอมตัดใจ แม้อุ้มท้องและโดนพ่อด่าทอ ทุบตี ว่าแย่งของคนอื่นเธอก็ไม่อาจโต้แย้ง ---------------------- “อย่าเพิ่งไป” มือใหญ่คว้ามือเธอไว้ อารยาสะบัด “จะกลับแล้ว ถ้าคุยเรื่องไร้สาระ” “การที่เรานอนกันดุเดือดคืนนั้น เธอพูดว่าไร้สาระเหรอ ฉันคงจะคิดผิดเสียแล้ว ว่าเธอไร้เดียงสา” ดวงตาคมโตหันไปถลึงตา “พูดอะไรเงียบไปเลยนะ” โยธินหัวเราะขื่น “แสดงท่าทีแบบนี้ ยอมรับแล้วสินะ” อารยากำหมัดแน่น มองซ้ายขวา ที่นี่คงให้เธอตะโกนให้หายแค้นใจได้ “ยอมรับแล้วไง คุณก็ไม่สามารถทำอะไรให้ฉันกลับมาเป็นคนเดิม พอๆ เลิกพูดเรื่องนี้ อย่ามายุ่งกับฉันอีก!” ไม่คิดจะกลายเป็นคำพูดนี้ที่ปิดการสนทนา เธอแหงนมองท้องฟ้า ห้ามน้ำตาไม่ให้ไหล ไม่มีอะไรดีขึ้น จะร้องไห้ไปทำไม “เธอหวังอะไรล่ะ น่าจะรู้ฉันจะแต่งกับพี่สาวเธอเท่านั้น” อารยากำหมัดแน่น พลั่ก! “โอ้ย!” โยธินกุมจมูก สบถเสียงดัง “เธอเป็นบ้าอะไร เจ็บนะ” “ให้คุณมีสติและคิดบ้าง ตั้งแต่เกิดเรื่อง ฉันเคยอ้อนวอนอะไรคุณบ้าง ฉะนั้นอย่ามาตัดสินว่าฉันคิดหรือไม่คิดอะไร เข้าใจไหม” โยธินอึ้งไปแต่ไม่ยอมแพ้ “ผู้หญิงเก็บกด อยากลองจะว่างั้น แล้วทำไมไม่บอกกันดีๆ ล่ะ แอบลอบเข้าไปมันคงเร้าใจใช่ไหม ก็แน่ล่ะ หุ่นผมมันคงน่ากิน” อารยายกมือจะซัดอีกครั้งแต่กลับโดนรวบที่เอว ก่อนใบหน้าบึ้งตึงจะก้มลงมาบดจูบปากเธอ หญิงสาวพยายามกระทืบเท้าเขาและดิ้น คนบ้านี่ ทำอะไรอีก
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
‘ทริปฮันนิมูนที่ไม่ได้มีแค่เรา แต่ฉันและเขายังมีผู้ร่วม ทริปเข้ามาสร้างสีสันอีกมากมาย’ หลังแต่งงาน ตฤณก็พาภรรยาสาววัยละอ่อนอย่างยี่หวาไปฮันนิมูนเหมือนคู่สามีภรรยาคู่อื่น ๆ แต่การเดินทางไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์กับสามีผู้เป็นนักธุรกิจในครั้งนี้ กลับทำให้ยี่หวาได้รู้ว่าตฤณสามีของเธอมีรสนิยมทางเพศแบบไหน และที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นคือ เขาทำให้เธอได้รู้จักตัวตนของตัวเองอย่างที่เธอไม่คิดว่าจะได้รู้จักด้วยซ้ำ ตฤณจะพายี่หวาไปฮันนิมูนที่ไหน อย่างไร และกับใคร ติดตามอ่านได้ใน “ฉ่ำรักเมียนักธุรกิจ” แนะนำตัวละคร ยี่หวา : สาวสวยวัย 24 ปี ผู้มีผิวขาว และรูปร่างอวบอัด แต่น่าทะนุถนอม นิสัยอ่อนหวาน ว่าง่าย แต่เป็นคนอยากรู้อยากลอง ยี่หวาเพิ่งจะรู้ว่าสิ่งที่ตฤณทำกับเธอในห้องหอนั้นมันก็แค่น้ำจิ้ม เพราะเมื่อเดินทางไปฮันนิมูนกับตฤณจริง ๆ เธอกลับได้เรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ จนเธอติดอกติดใจอย่างยากจะถอนตัว สำหรับยี่หวาแล้ว 'คืนเข้าหอที่เคยคิดว่าเด็ด ยังไม่เผ็ดเท่าทริปฮันนิมูนที่สามีหนุ่มจัดให้' ตฤณ : นักธุรกิจหนุ่มวัย 34 ปีหนุ่มลูกเสี้ยว บ้างาน แต่เวลาคลายเครียดก็สนุกสุดเหวี่ยง โดยเฉพาะเรื่องเซ็กส์ ตฤณหมั้นหมายกับยี่หวาตามความเห็นชอบของผู้ใหญ่เพราะถูกใจในความน่ารัก แต่ยิ่งไปกว่านั้นคือเพราะยี่หวาเป็นเด็กดี และไม่เคยดื้อกับเขาเลยสักครั้ง ว่านอนสอนง่ายแบบนี้สิ ถึงจะใช้ชีวิตคู่ไปด้วยกันตลอดรอดฝั่ง
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
เธอก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่เคยสนใจ แต่ก็ยังดึงดันอยากจะอยู่ใกล้ ต่อให้เธอเป็นเมียแต่งเขาก็คงไม่มีวันเปลี่ยนใจ เพราะเหตุนี้เธอจึงตัดสินใจจากไปในคืนแต่งงาน "จากนี้ไปเราไม่มีอะไรติดค้างกันอีก" 🥀
ว่าที่ลูกสะใภ้ไฟแรงสูงเธอต้องเข้ามาอยู่ร่วมบ้านกับว่าที่พ่อผัวหม้ายร้างเมียมานายอรมปี
เพิ่งหย่ากับอดีตสามีไปไม่นานแต่ปรากฏว่าตัวเองท้อง จะทำอย่างไรดี? หรือจะให้อดีตสามีรับผิดชอบ แต่ก็ไม่คิดว่าอดีตสามีมีคนรักใหม่ไปแล้ว ชีวิตของถังชีชีนั้นช่างสับสน ช่างน่าวิตกกังวลและไม่รู้จะอธิบายยังไงดี เธอต้องคอยระวังไม่ให้คุณเฟิงรู้เรื่องการตั้งครรภ์จนกระทั่งคลอดลูกออกมาอย่างปลอดภัย แต่ไม่คิดว่าจะถูกเขาบังคับถึงเพียงนี้ "เราหย่ากันแค่สี่เดือน แต่เธอกลับตั้งครรภ์ได้เจ็ดเดือนแล้ว บอกมาดี ๆ ว่า ลูกเป็นของใคร!"