เพียงสบตาร่างกายเธอสั่นสะท้าน คาเอล เดอร์มินอฟ ชายผู้มีใบหน้าหล่อเหล่าแววตาชวนฝัน แต่นัยน์ตาสีอำพันกลับซ่อนเปลวไฟอันลุกโชน เธอไม่อาจรับรู้ความแค้นอันล้ำลึก แม้ตอนที่อยู่ภายใต้ร่างอันสมบูรณ์แบบของเขา
เพียงสบตาร่างกายเธอสั่นสะท้าน คาเอล เดอร์มินอฟ ชายผู้มีใบหน้าหล่อเหล่าแววตาชวนฝัน แต่นัยน์ตาสีอำพันกลับซ่อนเปลวไฟอันลุกโชน เธอไม่อาจรับรู้ความแค้นอันล้ำลึก แม้ตอนที่อยู่ภายใต้ร่างอันสมบูรณ์แบบของเขา
ตี๊ด! ตี๊ด!
เสียงโทรศัพท์ปลุกคนตัวใหญ่ให้ตื่นขึ้น ชายหนุ่มรูปร่างสูงกำยำ ใบหน้าคมเข้ม คิ้วหนาได้รูป ริมฝีปากหยักลึก ดวงตาเรียวคม นัยน์ตาสีอำพัน คาเอล เดอร์มินอฟลุกนั่งหยิบมือถือหัวเตียงขึ้นมาดูเบอร์ เขากดรับแล้วกรอกเสียงตามสาย
“โทรมาหาพี่มีอะไรเหรอมิร่า”เขาถามปลายสายน้ำเสียงอ่อนโยน เพราะคุ้นเคยกับน้ำเสียงหวานแผ่วดี
“พี่คาเอล” เสียงสะอื้นทำให้ชายหนุ่มชะงัก รู้สึกตกใจไม่น้อย
“มีเรื่องอะไรมิร่า!”
“ฟาเบียนเค้ากำลังจะแต่งงาน ฟาเบียนขอเลิกกับมิร่า มิร่าจะทำยังไงดีคะพี่คาเอล มิร่ากำลังท้องลูกของเขาอยู่”มิร่าสะอื้นไห้หัวใจแทบแหลกสลาย คำมั่นสัญญาแต่เก่าก่อนไม่มีความหมายเหตุใดเขาถึงเห็นหญิงอื่นดีกว่าเธอ ทั้งที่อยู่ด้วยกันมานาน
ได้ฟังคำน้องสาวชายหนุ่มครุ่นคิด มันเรื่องบ้าอะไรกันแน่ไอ้ฟาเบียนกล้าทำกับน้องเขาขนาดนี้เชียวเหรอ ทีเมื่อก่อนมันมาขอร้องคบหา แทบจะคุกเข่าเอาหน้าแนบเท้า แต่มาวันนี้คิดจะทิ้งก็ตัดกันอย่างไรเยื่อใย ไม่สนแม้แต่ลูกตัวเอง บัดซบ! หากไม่ได้สั่งสอนคงไม่รู้สำนึกสินะ
“มิร่าใจเย็นนะมันอาจไม่เป็นความจริงก็ได้”คนเป็นพี่ช่วยปลอบ ใจภาวนาอย่าให้สิ่งที่น้องบอกเป็นความจริง เขาเองตอนนี้ยุ่งยากวุ่นวาย เพราะโปรเจคใหม่กำลังจะสำเร็จ หากได้ตั้งบริษัทน้องสาวคงสบาย
ปลายสายเงียบกัดริมฝีปากแน่น หากเธอไม่แน่ใจคงไม่ติดต่อพี่ชายหรอก ที่พึ่งสุดท้ายมีเพียงพี่คาเอลเท่านั้น
“มิร่าแน่ใจพี่คาเอล มิร่าเห็นกับตาตัวเอง”
เสียงน้องสาวทำเอาหัวใจกระตุกวูบ ลางสังหรณ์บางอย่างทำให้เขาใจคอไม่ดี
“มิร่ารอพี่ก่อนนะ เดี๋ยวพี่บินไปหา มันยังไม่แต่งตอนนี้หรอกใช่ไหม!”
“อีกสองวันค่ะพี่คาเอล”
“รอพี่นะ พี่จะไปจัดการไอ้ฟาเบียนมันเอง”
“แล้วมิร่าจะรอนะคะพี่คาเอล”
มือใหญ่ยกขึ้นเสยผมด้วยความหงุดหงิด กดเบอร์ติดต่อว่าที่น้องเขยกลับไม่มีสัญญาณตอบรับ หากฟาเบียนทำเรื่องนี้จริงเขาไม่มีวันให้อภัยแน่ แล้วผู้หญิงที่กล้าแต่งงานกับคนที่มีพันธะมันเป็นใครกัน ช่างไร้ยางอายไม่มีจิตสำนึกในส่วนดี นั่งประจำเครื่องคอมพิวเตอร์จัดการจองตั๋วเดินทางไปยังอเมริกา เร็วที่สุดคือมะรืน กัดฟันข่มกลั้นความขุ่นเคืองเอาไว้ พยายามทำใจให้เย็นทั้งที่มันร้อนจนแทบระอุ หากฟาเบียนคิดถึงตอนที่ตนมาขอคบน้องสาวสักหน่อยมันคงใช้สมองครุ่นคิดถึงการเลิกรากับมิร่า
ไม่เป็นไรหากเขาเกลี่ยกล่อมอาจยังทัน ฟาเบียนไม่ใช่คนโง่งม หมอนั้นพอมีส่วนดีในตัวบ้างหากเอาเรื่องลูกมายึดไว้คงคิดได้ ร่างสูงใหญ่ทิ้งตัวลงบนฟูกหนาหลับตาลงในที่สุด
งานวิวาห์บุตรสาวนักธุรกิจระดับแนวหน้าของประเทศไทย พิมพ์วลี ปัทมพิสุทธิ์ สาวชาวไทยมาศึกษายังอเมริกา ด้วยใบหน้าเรียวรูปไข่ ดวงตาเรียวสวย จมูกโด่งรั้น ผิวขาวเนียนลออ ริมฝีปากบางระเรื่อสีชมพู จึงมีชายหนุ่มมากมายมาขายขนมจีบแต่ทว่าเธอไม่เล่นด้วย เพราะถูกใจกับอดีตนักศึกษาดีเด่นเจ้าของบริษัทซีเจคจำกัด ลูกครึ่งสเปนไทย ฟาเบียน อาลาโน่ พรหมจักร งานแต่งถูกจัดอย่างยิ่งใหญ่ โดยมีเพื่อนนักศึกษาสมัยร่วมเรียน รวมถึงแวดวงนักธุรกิจ ทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวถึงความงดงามของเจ้าสาว และความหล่อเหลาของเจ้าบ่าว
ร่างสูงในชุดทักซิโด้สีขาวก้าวออกมาต้อนรับแขกในงาน การแต่งงานครั้งนี้เพื่อบริษัทซีเจค หากได้เงินทุนจากบริษัทภรรยามาหมุนเวียน เขาจะเติบโตก้าวหน้าในงานมากยิ่งขึ้น แม้ความรู้สึกผิดมันเกาะกุมเต็มใจก็ตาม ยังไงเสียเขาเองคิดดูแลมิร่าอยู่แล้ว แต่ในฐานะภรรยาลับไม่อาจเชิดหน้าชูตาได้
เวลาผ่านไปพักใหญ่พิธีกรเริ่มงาน เจ้าสาวในชุดวิวาห์เกาะอกสีขาวยามกร่อมเท้า เรียวแขนสวมถุงมือถึงข้อศอก ผมถูกรวบประดับด้วยดอกลิลลี่ใบหน้าแต่งแต้มโทนสีอ่อนปรากฎตัว ฟาเบียนยกยิ้มพึงพอใจในตัวเจ้าสาวตนเอง สองร่างก้าวเคียงกันยืนบนเวทีเพื่อบอกถึงความในใจที่มีต่อกันให้แขกเหรื่อได้รับรู้
“คุณสองคนพบกันได้ยังไงเหรอครับ”พิธีกรเอ่ยถามชายหนุ่ม
“เราพบกันที่มหาวิทยาลัยครับ”
“แล้วเป็นรักแรกพบเลยหรือเปล่า”
ฟาเบียนหันมองว่าที่ภรรยาแล้วอมยิ้ม เดินเข้ามาโอบไหล่บาง
“ครับ รักแรกพบ”
เสียงผู้คนโห่ร้องด้วยความยินดี กับคำพูดของเจ้าบ่าว ก่อนพิธีกรจะหันมาทางเจ้าสาวบ้าง
“แล้วคุณพิมพ์วลี ชอบอะไรในตัวเจ้าบ่าวครับ”
“ฉันชอบที่เขาเป็นคนเก่งค่ะ”เธอตอบชัดเจน
การที่ยินยอมแต่งงานกับฟาเบียน เขาเก่งมีความสามารถในการบริหารธุรกิจ หน้าตาใช้ได้ควงไปไหนมาไหนไม่อาย มีดีกรีถึงนักเรียนดีเด่นของมหาวิทยาลัยชื่อดัง มีหรือเธอจะปล่อยให้หลุดมือ ต่อให้เขาจะมีใครควงอยู่ก็ตาม
“ตอบชัดเจนมากเลยนะครับ”พิธีกรหัวเราะเบาๆ “ถ้าอย่างนั้นเรามาตัดเค้กกันต่อเลยนะครับ”
สองบ่าวสาวก้าวลงจากเวที แต่ทว่ากลับมีเสียงฮือฮาดังขึ้น สาวร่างอวบอิ่มเนื่องจากการตั้งครรภ์ปรากฏในงาน มิร่าสาวเท้าอย่างเชื่องช้าในชุดราตรีสีดำ หยุดยืนกลางงาน ทุกคนต่างมองเป็นตาเดียว เสียงซุบซิบเริ่มดังขึ้น ฟาเบียนจ้องมองใบหน้าซีดเผือด พิมพ์วลีกัดฟันแน่นความโกรธพุ่งทะยาน
“ใครปล่อยให้คนบ้าเข้ามาในงาน ไล่มันออกไป!”พิมพ์วลีตะโกนลั่น บอดี้การ์ดวิ่งกรูกันเข้ามา
มิร่าล้วงกระเป๋าหยิบมัจจุราชสีดำออกมา
“กรี๊ด!”เสียงแขกในงานกรีดร้อง แล้วพากันวิ่งหนีแตกตื่น
โชคชะตาเล่นตลกกับเธอหรือไร แค่ต้องการเดินทางมาท่องเที่ยวแต่กลับถูกลักพาตัว เธอตื่นขึ้นมาในห้องที่ไม่คุ้นเคยมิหนำซ้ำยังมารู้ความจริงอีกว่า ชายรูปหล่อที่ตนตบหน้าในคืนนั้น ดันเป็นกษัตริย์แห่งประเทศซากวัย ความซวยยังไม่หมด เมื่อฝ่าบาททรงยืนยันต้องการให้เธอเป็นสนม แต่มีหรือคนอย่างนิลลนาจะยินยอม ต่อให้ใหญ่มาจากไหน เธอไม่เคยเกรง แต่แล้วทำไมจากพระพักตร์บึ้งตึง ดันกลับกลายมาเป็นอ่อนโยน เวลายิ่งผันผานหัวใจยิ่งแปรเปลี่ยน
กลิ่นจันทร์ หญิงสาวมากความสามารถ หนีห่างไกลเมืองไทยเพราะเจ็บช้ำจากแฟนหนุ่มซึ่งนอกใจ ทว่าเมื่อกลับมาเขากลับกลายเป็นเจ้าของบ้านที่เธอเคยอาศัยตั้งแต่เด็ก แม่เลี้ยงและพี่สาวต่างบิดารวมหัวกันหักหลังเธอกับพ่อ ขายบ้านหลังนี้ กลิ่นจันทร์ต้องการได้คืน แต่เธอไม่มีเงินมากพอ เมื่อนั้น แฟนหนุ่มซึ่งอยู่ในหัวใจเธอตลอดเวลา แม้เขาทำเรื่องผิดมหันต์ เธอก็มิอาจทำใจให้ลืมลง คิมหันต์ ชายหนุ่มผู้ฝ่าฝันอุปสรรค จำตั้งตัวเป็นเจ้าของบริษัทยักษ์ใหญ่ได้สำเร็จ กระนั้นในหัวใจเขากลับเย็นเยือกราวกับน้ำแข็ง เพียงเพราะถูกแฟนสาวทรยศหนีไปต่างประเทศ เพียงเพราะได้พบกับผู้ชายคนใหม่ ความแค้นฝังแน่นในอก เขารอวันเอาคืน และโอกาสก็มาถึง “ผมจะคืนบ้านให้ ถ้าคุณยอมเป็นเมียผมเป็นเวลาหนึ่งปี”
เมื่อหนึ่งมีรักให้แต่ไม่อาจบอก กับอีกหนึ่งที่ไม่เคยรู้และตั้งหน้าตั้งตาชิงชัง การหมั้นหมายที่เกิดจากผู้ใหญ่ส่งผลให้นาฎสุรีย์ต้องจากลาไปไกลเพื่อรักษาแผลใจ ส่วนอีกคนที่ไม่เคยรับรู้ แท้จริงแล้วกลับห่วงหา ห้าปีต่อมา สองคนได้พบกันอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เธอเปลี่ยนไป ส่วนเขากลับรู้หัวใจตัวเอง ******************** เพียะ! ใบหน้าหันตามแรงฝ่ามือ ชายหนุ่มนิ่งงัน มันชาไปทั้งแถบ นาฎสุรีย์มองมือตัวเอง มันกำลังสั่น เมื่อเขาหันมาสบตา เห็นสีหน้าแววตามันเปลี่ยนไป เธอชะงักตัดสินใจหันหลังคิดวิ่งหนี แต่ทว่าเรียวแขนกลับถูกคว้าเอาไว้ “คิดว่าทำแบบนี้ แล้วจะหนีไปงั้นเหรอ มันง่ายไปมั้ง” พูดจบ เขาเหวี่ยงร่างบางลงบนเตียง แล้วใช้เท้าถีบประตูปิดลง ก่อนล็อคอย่างแน่หนา “ช่วยด้วย ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยที!” หญิงสาวร้องลั่น “แหกปากไปเลย เอาให้ดัง ห้องฉันเป็นห้องเดียวที่ไม่มีกุญแจสำรองไข ถึงมีก็ไม่มีใครก็กล้ามายุ่งหรอกนะ เพราะฉันเป็นคนยังไง ทุกคนรู้ดี” เขาส่งเสียงข่มขู่ นาฎสุรีย์จ้องมองอีกฝ่าย กัดริมฝีปากครุ่นคิดหาทางเอาตัวรอด เธอไม่ได้อยากตบหน้าเขา แต่เพราะคำพูดนั้นมันทำให้ระงับความโกรธไว้ไม่ได้เลย “ฉันไม่ได้ตั้งใจ ก็นายพูดจาไม่ให้เกียรติกันเลย!” หญิงสาวพยายามเอาน้ำเย็นเข้าลูบ ตอนนี้ตนเองตกอยู่ในสถานการณ์ เสียเปรียบอย่างรุนแรง ทว่าแววตาของอีกฝ่าย กลับไม่เย็นลงเลยแม้แต่น้อย “ตอนนี้ต่อให้พ่นอะไรออกมา มันก็ไม่มีประโยชน์แล้ว เพราะฉันไม่ให้อภัยเธอ!” เขาตวาดลั่น คนใต้ร่างสะดุ้งสีหน้าตื่นกลัว มือหนาจับสาบเสื้อ ที่เคยถูกกระชากมาก่อนหน้า ออกแรงดึง แควก! มันขาดติดมือ เจ้าของเสื้อชะงักดวงตาเบิกกว้าง กรีดร้องขึ้นมาทันที พยายามดิ้นรนผลักดันอีกฝ่ายเพื่อให้พ้นจากการโดนกระทำ แต่ทว่าอารมณ์ของเขา กลับรุนแรงเกินกว่า เรี่ยวแรงเธอจะต้านทานเอาไว้ได้ “ปล่อยฉันนะ ปล่อยฉัน ได้ยินไหม!” คนหน้ามืด ไม่ฟังเสียง ตอนนี้ในหัวเขาแค่ต้องการเอาคืน กับการกระทำไร้ซึ่งการไตร่ตรองของอีกคน คนอย่างพีรดล ไม่มีวันยอมให้ใครมาหยาม เท่าที่ผ่านก็ถือว่ายอมมามากพอแล้ว ริมฝีปากบางถูกฉกฉวยอย่างรวดเร็ว จนคนใต้ร่างร้องครางในลำคอ พยายามผลักไสอีกฝ่าย แต่ร่างกายนั้นกลับไม่สะดุ้งสะเทือนแม้แต่น้อยเลย มือหนาลูบไล้ไปตามสัดส่วน ทำเอาเลือดในกายชายหนุ่มเริ่มร้อนฉ่า กระโปรงนักศึกษาถูกรั้งออก เจ้าของน้ำตาเริ่มคลอ ความหวาดกลัวแล่นพล่าน เธอไม่น่าโมโหจนน่ามืด แล้วหลงลืมไปว่า แท้จริงแล้วพีรดลเป็นคนเช่นไร หมดสิ้นแล้วซึ่งหนทางเอาตัวรอด อยากหลับโดยไม่รับรู้อะไรอีกเลย เขาถอนริมฝีปากจ้องมองอีกคน เห็นน้ำตาเธอกำลังไหลรินออกมา ทว่ามันได้ทำให้รู้สึกสงสาร เมื่ออารมณ์ตอนนี้มันกระเจิงไปไกล นาฎสุรีย์มีดีกว่าที่คิด เรือนร่างเย้ายวน ตรงหน้าทำเอาหายใจแทบไม่ออก ตัวตนแข็งขืนจนแทบปริแตก มันกำลังต้องการปลดปล่อย “ปล่อยฉันไปเถอะ ฉันขอโทษ ฉันผิดเอง นายอย่าทำอะไรฉันเลยนะ...” เธออ้อนวอนทั้งน้ำตา “มันสายไปแล้ว เธอไม่ควรเข้ามาที่ห้องฉันตั้งแต่แรก...” เขาตอบเสียงรอดไรฟัน จะให้ผละไปได้ยังไง ในเมื่อเธอทำให้เขาแทบคลั่งแบบนี้
เธอถูกจ้างให้แย่งชิงชายคนหนึ่ง ทว่าหญิงคนนั้นเสียใจจนฆ่าตัวตาย เธอจมอยู่กับความเสียใจจนกระทั่งได้พบกับเขา ชายผู้เอื้อมมือมาปลุกปลอบและทำลาย
เพราะความผิดพลาดในค่ำคืนนั้น ทำให้นรีกานต์และกวีวัธน์ต้องแต่งงานกัน ทว่าเขากลับยังคงมีเยื่อใยต่อคนรักเก่าอยู่ เธอจำต้องเดินออกมา เพื่อให้เขาได้สมหวังกับคนรัก แม้กำลังตั้งครรภ์อยู่ก็ตาม ทว่าเขากลับตามหา เพื่อทวงสิทธิ์ของความเป็นสามีและพ่อของลูกกับเธอ ******************************* ปัง! ประตูปิดลงร่างเธอถูกโยนลงบนเตียง รีบลุกพรวด จ้องมองอีกฝ่ายแววตาตื่นตระหนก “นี่คุณทำบ้าอะไร ไม่ตลกแล้วนะ!” เธอตวาดลั่น “ฉันก็ไม่ตลกเหมือนกัน มาอยู่ที่นี่เพราะต้องการเป็นเมียฉันไม่ใช่หรือไง นี่ไง! กำลังจะทำให้ เธอมาได้จังหวะพอดีเลย ฉันกำลังว่าง กำลังโสด แต่ก่อนแต่ง ฉันขอเช็คของหน่อยก็แล้วกัน ว่ามีดีแค่ไหน!” คนตัวเมากระโจนเข้าหา นรีกานต์รู้ในทันทีว่า ชีวิตตนเองกำลังตกอยู่ในอันตรายแล้ว กระโจนหนีด้วยความหวาดกลัว วิ่งตรงไปหาประตู ทว่าเรียวแขนกลับถูกคว้าไว้ กระชากร่างบางเข้าหาจนปะทะแผงอก มือยกทุบตีจิกข่วนอีกฝ่ายไม่หยุดหย่อน แต่เหมือนเขาไม่สะเทือนเลยสักนิด “ปล่อยฉันนะ ช่วยด้วย! ใครก็ได้ช่วยที!” ไม่ทันได้ร้องขอความช่วยเหลือต่อ ริมฝีปากถูกปิดอย่างรวดเร็ว “อื้อ!” ร่างถูกตรงบนเตียง เรียวแขนรวบไว้เหนือศีรษะ น้ำตาคนโดนกระทำไหลริน เมื่อรู้ว่าตนเองหมดหนทางรอดในคราวนี้ เขาชะงักจ้องมองใบหน้าของคนใต้ร่าง น้ำตาของผู้หญิงมันไร้ความหมายสิ้นดี มารยาแบบนี้ เห็นมาจนสะอิดสะเอียนแล้ว “ปล่อยฉันไปเถอะ ฉันกลัวแล้ว...” “หยุดพูดให้รำคาญสักที นอนเฉยๆ ไปเถอะ เดี๋ยวก็มีความสุขเอง!”
เธอยอมเสียสละทุกอย่างเพื่อความรัก แต่คนรักกลับมีคนอื่น เธอเลยตัดสินใจแต่งงานกับเขา เพื่อเอาคืนคนพวกนั้น โดยหวังให้เขาคือเครื่องมือระบายความแค้น ทว่าเป็นเธอเองที่ตกหลุมกับดักที่ตนเองวางไว้ ใครจะรู้ว่าเขาจะนำพาให้เธอตกอยู่ในห้วงอารมณ์พิศวาส จนอยากจะถอนตัว
ลู่หมิงเยว่ถูกแฟนนอกใจ และยังโดนดูถูกว่าเธอแค่ดีแต่หน้าตา ด้วยความโกรธ ลู่หมิงเยว่ใช้เสน่ห์ของเธอไปมีความสัมพันธ์กับเยี่ยนเฉิงจือประธานบริษัท แต่เธอกล้าทำแต่ไม่กล้ายอมรับ หลังจากเสร็จธุระนั้นเธอก็หนีไปเงียบๆ และยังเข้าใจผิดว่าคนในคืนนั้นคือเพลย์บอย เสิ่นเว่ยตง ทำให้เยี่ยนเฉิงจือเข้าใจผิดว่าเธอชอบคนอื่น เขาเลยแอบอิจฉาและหึงหวงอยู่เงียบๆ มานาน
เมื่อเธออายุยี่สิบ ชิงฉือได้รู้ว่าตนเองไม่ใช่ลูกโดยกำเนิดของตระกูลต้วน เธอถูกลูกสาวที่แท้จริงของตระกูลต้วนล้อมกรอบ จนถูกพ่อแม่บุญธรรมไล่ออกจากบ้านและกลายเป็นตัวตลกในเมือง เมื่อเธอกลับไปหาพ่อแม่ชาวนา จากนั้นก็พบว่าบิดาผู้ให้กำเนิดของเธอเป็นคนที่รวยที่สุดในเมืองเจียงเฉิงส่วนพี่ชายของตนเองเป็นอัจฉริยะในแวดวงต่างๆ ทุกคนมองดูเด็กสาวตัวเล็กคนนี้ด้วยความเห็นใจและถือว่าเธอเป็นสมบัติล้ำค่า แต่ค่อยๆ พบว่า... ที่แท้ว่าน้องสาวเป็นคนมากความสามารถ? อดีตแฟนหนุ่มผู้น่ารังเกียจหัวเราะเยาะ "อย่ามาตามเซ้าซี้ไม่เลิก ฉันมีแต่เมียนเมียนอยู่ในใจ!" คนใหญ่แห่งเมืองหลวงปรากฏตัว "เมียฉันจะเห็นหัวนายเหรอ?"
ทุกคนต่างรู้ดีว่าเจียงว่านหนิงรักเย่เชินมานานหลายปี เธอที่มักจะว่านอนสอนง่ายและน่ารักเสมอ ได้สักลายเพื่อเขาและยอมทนอยู่ใต้อำนาจผู้อื่น เมื่อเธอถูกทุกคนใส่ร้ายจนโดนตำหนิ เขากลับนิ่งเฉยและยังถึงขั้นให้เธอคุกเข่าให้แฟนเก่าของเขาอีกด้วย เธอที่รู้สึกอับอาย ในที่สุดก็หมดหวัง หลังจากยกเลิกการหมั้น เธอก็หันไปแต่งงานกับทายาทพันล้านทันที คืนนั้นเอง ใบทะเบียนสมรสของทั้งคู่ก็กลายเป็นข่าวฮิตบนโลกออนไลน์ เย่เชินที่เคยคิดว่าตัวเองเก่งกาจที่สุดก็เริ่มวิตกและพูดออกมาด้วยความโกรธว่า "อย่าเพ้อฝันไปเลย นายคิดว่าเธอรักนายจริงๆ งั้นเหรอ เธอแค่ต้องการใช้พลังอำนาจของตระกูลฟู่เพื่อแก้แค้นฉันเท่านั้นเอง" ฟู่จิงเซินจูบหญิงสาวในอ้อมกอดและตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจว่า "แล้วจะเป็นไรไปล่ะ ก็พอดีว่าฉันมีทั้งเงินและอำนาจนี่"
นางเจ็บปวดปางตายเมื่อเขาโยนร่างบอบช้ำทิ้งไว้หลังจวนโดยไม่แยแส เมิ่งลี่เฟยน้ำตาไหลพรากทว่ากลับไม่ทำให้คนที่เพิ่งเหยียบย่ำร่างกายเล็กเห็นใจแต่ประการใด"เฝ้านางเอาไว้ให้ดีอย่าให้ออกมาทำเรื่องชั่วอีก"
ซูลี่สวยแต่ชอบเสแสร้ง โม่สิงหย่วนไม่เคยสนใจฟังคำหวานที่ซูลี่พูดล้อเล่นเลย ต่อมา ซูลี่ก็เลิกเอาใจเขา โม่สิงหย่วนคว้าเธอเข้ามากอด “ซูลี่ เอาใจฉันหน่อยสิ ฉันจะยกทุกอย่างให้หมด” โม่สิงหย่วนมักจะสุขุมรอบคอบเสมอ จนกระทั่งพบซูลี่ เขาก็หมดความควบคุม
ซูหลีพยายามทำทุกอย่างเพื่อเอาใจตระกูลซูมาตลอดห้าปี แต่ก็ต้องพ่ายแพ้ต่อคำใส่ร้ายของน้องสาวเพียงคำเดียว เรื่องที่ซูหลีเป็นคุณหนูปลอมก็ถูกเปิดเผย ทำให้คู่หมั้นทิ้งเธอ เพื่อนๆ ก็ห่างเหิน และพี่ชายขับไล่เธอออกจากบ้าน บอกให้เธอกลับไปหาพ่อแม่ชาวนาของเธอ ในที่สุดซูหลีก็สิ้นหวังและตัดสินใจตัดขาดความสัมพันธ์กับตระกูลซู ยึดความช่วยเหลือทุกอย่างคืนและไม่อดทนอีกต่อไป แต่เธอไม่คาดคิดเลยว่าชาวนาที่พี่ชายพูดถึงนั้นกลับกลายเป็นตระกูลลั่วผู้มั่งคั่งที่สุดในประเทศ ในคืนเดียวเธอเปลี่ยนจากคุณหนูตัวปลอมที่ถูกทุกคนรังเกียจเป็นลูกสาวของมหาเศรษฐีที่มีพี่ชายสามคนที่รักเธอ พี่ชายคนโตที่เป็นผู้บริหารใหญ่“เลิกประชุม จองตั๋วเครื่องบินกลับประเทศ ฉันอยากดูสิว่าใครกล้าแกล้งน้องสาวฉัน” พี่ชายคนที่สองที่เป็นนักวิทยาศาสตร์ยอดเยี่ยมระดับโลก“หยุดการวิจัย ฉันจะไปรับน้องสาวกลับบ้านเดี๋ยวนี้ ” พี่ชายคนที่สามที่เป็นนักดนตรีระดับโลก “เลื่อนคอนเสิร์ต ไม่มีอะไรสำคัญเท่าน้องสาวของฉัน” จู่ๆ คนทั้งเมืองจิงก็ต้องตกใจช็อก ตระกูลซูเสียใจจนสุดขีด คู่หมั้นก็กลับมาขอคืนดี ผู้คนที่มาขอจีบเธอก็แห่กันมาถึงหน้าบ้าน ไม่ทันที่ซูหลีจะตอบสนอง ตระกูลชือซึ่งเป็นตระกูลสูงสุดในเมืองจิงและมีตำแหน่งสูงสุดในกองทัพเรือ ก็เสนอใบสมรสให้เธอ ทำให้เธอกลายเป็นคนดังในสังคมชั้นสูง!
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY