เดนนิส โอซิล แค้นใจนักที่ถูก มาร์คอส โรเจอริโอ ฉกเลขาสาวผู้จงรักภักดีย่าง พเยีย ศุภกานต์ ไปเป็นเมียเก็บ ดังนั้นชายหนุ่มจึงวางแผนเอาคืนด้วยการล่อลวง แองเจลล่า หรือ แองจี้ น้องสาววัยเพียง 18 ปีผู้อ่อนต่อโลกของ มาร์คอส โรเจอริโอ มาขึ้นเตียง แต่ทุกอย่างกลับตาลปัตรอย่างสิ้นเชิง เมื่อผู้หญิงที่เขาคิดว่าคือ แองเจลล่า โรเจอริโอ กลับเป็นแค่เพียงสาวใช้เสียนี่ แต่กว่าจะรู้ความจริงข้อนี้เขาก็ตกหลุมพรางของมาร์คอส โรเจอริโอจนดิ้นไม่หลุดเสียแล้ว
บนยอดตึกสูงระฟ้านามว่า อาควา ทาวเวอร์ ในกรุงเทพมหานคร เมืองหลวงของประเทศไทย เมืองที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นสยามเมืองยิ้ม เมืองที่หล่อนใฝ่ฝันมานานยี่สิบปีกว่าจะต้องมาเหยียบให้ได้ และในที่สุดก็ได้มา... แต่เหตุผลของการเดินทางมาเมืองไทยในครั้งนี้มันกลับไม่ได้ทำให้รู้สึกมีความสุขเหมือนที่ควรจะมีแม้แต่นิดเดียว
ตรงกันข้าม... หญิงสาวกลับรู้สึกว่าหัวใจเต็มไปด้วยความวิตกกังวล ความหวาดกลัวต่อเภทภัยที่มาร์คอสกลัวจะเกิดขึ้นกับแองเจลล่า โรเจอริโอ น้องสาวตัวจริงของตัวเองมากมายเหลือเกิน และมันก็ทำให้หล่อนไม่อาจจะนอนหลับสบายบนเตียงนุ่มขนาดใหญ่ด้านหลังได้เลย
นาริกา ธรรมพัฒนากุล หรือ ริก้า สาวไทยแท้ที่มีฐานะเป็นเพียงสาวใช้ประจำตัวของแองเจลล่า โรเจอริโอเท่านั้น หล่อนถูกเลือกขึ้นมาสวมบทบาทของแองเจลล่า โรเจอริโอ ด้วยเหตุผลหลักๆ ก็คือวัยและหน้าตาใกล้เคียงกัน แถมหล่อนยังอยู่กับแองเจลล่ามานาน ทำให้รู้ว่าแองเจลล่าเป็นคนยังไง ชอบหรือไม่ชอบอะไร และนี่แหละก็ทำให้มาร์คอสเลือกหล่อน
นาริกาไม่มีทางจะปฏิเสธได้เลย นอกจากก้มหน้าทำตามความต้องการของเจ้านาย เจ้านายที่ให้ทั้งชีวิตและลมหายใจ
หญิงสาวถอนใจเฮือกแล้วเฮือกเล่า จ้องมองผ่านกระจกบานใสขนาดใหญ่ตรงหน้าลงไปยังแผ่นพื้นเบื้องล่างที่อยู่ต่ำกว่าเกือบสองพันฟุต สีสันของแสงไฟสีเหลืองทองงดงามประดุจประกายของอัญมณีที่สะท้อนออกมาจากตึกสูงจำนวนมากมายและตามท้องถนนไม่ได้ทำให้ความหวาดหวั่นที่กัดกินไปทั่วทั้งหัวใจลดน้อยถอยลงได้เลย
มือเล็กสีขาวเนียนยกขึ้นลูบเส้นผมสีน้ำตาลไหม้ของตัวเองแผ่วเบา เมื่อก่อนมันเคยเป็นสีดำ ดำสนิทดุจสีของนิล แต่ตอนนี้มันถูกย้อมจนเปลี่ยนมาเป็นสีน้ำตาลไหม้ตามสีผมของแองเจลล่า โรเจอริโอตัวจริง แต่ผมไม่ใช่อย่างเดียวที่หล่อนต้องเปลี่ยนแปลง เพราะสีของลูกตาหล่อนก็ต้องเปลี่ยนด้วยเช่นกัน ใช่สินะ... สีตาของหล่อนเป็นสีดำสนิทไม่ผิดจากสีของเส้นผม แต่ตอนนี้มันถูกบดบังด้วยสีของคอนแทคเลนส์สีน้ำตาลไหม้เช่นเดียวกับสีผม
ตอนนี้หล่อนไม่หลงเหลือคราบไคล้ของสาวใช้ผู้ต่ำต้อยอีกแล้ว... ไม่ว่าจะเสื้อผ้า หน้าผม ทุกอย่างที่ประดับอยู่บนกายล้วนแต่เป็นของมีแบรนด์ดังก้องโลก ราคาของมันแพงระยับ มาร์คอสบอกว่าหล่อนจะได้ใช้ชีวิตเป็นเจ้าหญิงนับตั้งแต่ยอมตกปากรับคำช่วยเหลือน้องสาวของเขา
ใช่สินะ... ตอนนี้หล่อนกลายเป็นเจ้าหญิงไปแล้ว เจ้าหญิงกำมะลอที่มีทุกอย่างไม่ผิดจากเจ้าหญิงตัวจริงเลยแม้แต่น้อย
หล่อนควรจะยิ้มสิ ยิ้มออกมาให้สมกับชีวิตที่พลิกผันครั้งยิ่งใหญ่ จากต่ำต้อยด้อยค่า กลับกลายมาเป็นสูงดุจดอกฟ้าที่มีเพียงเทพบุตรเท่านั้นที่ควรคู่
“นอกจากเธอจะได้เป็นเจ้าหญิงแล้ว เธอยังจะได้เจ้าชายรูปหล่อปานเทพบุตร และตอนจบของเทพนิยายที่เต็มไปด้วยความสุขแบบที่เธอเคยฝันเอาไว้ไง นาริกา”
นี่คือคำพูดของมาร์คอส โรเจอริโอ เมื่อครั้งที่เรียกหล่อนเข้าไปพบในห้องส่วนตัวและหยิบยื่นข้อเสนอน่าลำบากใจนี้ให้ แม้อยากจะบอกว่าหล่อนไม่ได้ต้องการอะไรแบบนี้ ไม่ได้ต้องการเจ้าชาย ไม่ได้ต้องการความร่ำรวยอะไรเลย แต่ที่สิ่งหล่อนต้องการมันคือความรักต่างหาก ความรักที่หล่อนโหยหามาตลอดชีวิตจากทั้งพ่อแม่แท้ๆ ที่ไม่เคยเหลียวแลตั้งแต่แรกเกิด รวมไปถึงความรักจากชายคนรักที่ถูกหญิงอื่นแย่งไป แต่ก็ไม่ได้พูด... หล่อนไม่มีสิทธิ์พูดหรอก ในเมื่อฐานะต่ำต้อยแบบนี้ ทำได้แค่เพียงพยักหน้ารับเพียงอย่างเดียว
“ฉันจะมอบเงินจำนวนหนึ่งล้านดอลล่าเป็นค่าตอบแทนให้กับเธอ เงินจำนวนนี้จะถูกโอนเข้าบัญชีของเธอทันทีเมื่อเธอได้แต่งงานกับไอ้เดนนิส โอซิล...”
แต่งงาน...!
ใช่สินะ นี่คืออีกเงื่อนไขหนึ่งที่หล่อนต้องทำ...
แต่งงานกับเดนนิส โอซิล ผู้ชายที่หล่อนไม่เคยรู้จักมาก่อนเลยในชีวิต และแค่รูปถ่ายเพียงใบเดียวที่มาร์คอสมอบให้คงไม่สามารถทำให้หล่อนรู้จักผู้ชายตาสีฟ้าคนนี้ได้ทะลุปรุโปร่งนักหรอก แต่กระนั้นหล่อนก็ต้องยอมรับด้วยความละอายใจว่า ตัวเองยังไม่สามารถลบเลือนสายตาสีฟ้าดุจสีของน้ำทะเลของผู้ชายหล่อจัดอย่างเดนนิสลงได้เลยแม้แต่วินาทีเดียว
เขาหล่อมาก... หล่อได้อย่างเหลือเชื่อ ทั้งๆ ที่หล่อนเคยมองว่ามาร์คอส โรเจอริโอหล่อสุดๆ แล้วนะ แต่พอมาเห็นรูปของเดนนิส โอซิลเข้า หล่อนจึงได้ตระหนักว่าตัวเองชื่นชมผู้ชายตาสีฟ้ามากกว่าสีทอง หัวใจของหล่อนเต้นแรงระส่ำเพียงแค่ได้จ้องตากับเขาในรูปเท่านั้น
นี่หล่อนต้องเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆ ที่รู้สึกแปลกประหลาดแบบนี้กับผู้ชายที่ยังไม่ได้แม้แต่จะเจอะเจอกันจริงๆ มันเป็นความรู้สึกวูบวาบ ซาบซ่านน่ามหัศจรรย์ และไอ้ความรู้สึกนี้มันกลับไม่เคยเกิดขึ้นยามที่หล่อนมองเดวิดอดีตคนรักที่ตอนนี้หันไปคั่วอยู่กับสาวอื่นเลยสักครั้ง
นาริกาพ่นลมออกจากกลีบปากสีแดงสดของตัวเองซ้ำอีกครั้งแต่หนักหน่วงกว่าครั้งก่อนหน้ามากนัก ก่อนจะหมุนตัวเดินกลับเข้ามาภายในห้องนอน ดวงตาหวานฉ่ำจ้องมองเตียงนอนกว้างใหญ่สีชมพูอ่อนนิ่ง ทุกอย่างรอบตัวมันดูดี ตอนนี้หล่อนรู้สึกว่าตัวเองหลงอยู่บนสรวงสวรรค์ก็ไม่ปาน
แต่อันตรายจากความพิโรธของผู้ชายคนนั้น ผู้ชายที่หล่อนต้องทำทุกทางเพื่อให้เขาติดบ่วงวิวาห์ของตัวเอง มันยังตามหลอกหลอนหล่อนอยู่ในทุกๆ ลมหายใจเข้าออก
หญิงสาวที่เคยมีฐานะเป็นเพียงแค่บ่าวรับใช้ของแองเจลล่า โรเจอริโอทิ้งตัวลงบนที่นอนนุ่มเต็มแรง ดวงตาหวานฉ่ำค่อยๆ ปรือปิดลงช้าๆ จากนั้นก็ปลดปล่อยสมองให้ดำดิ่งลงสู่ห้วงนรกโลกันต์อย่างไม่อาจจะช่วยเหลือตัวเองได้อีก ไม่ว่าจะกรีดร้อง ดิ้นรนแค่ไหนแต่ร่างของหล่อนก็จมหายลงไปในแดนอเจวีอย่างไร้ทางรอด
ดวงตาสีฟ้าจ้องมองรูปถ่ายใบเล็กในมือใหญ่สีแทนของตัวเองนิ่ง คิ้วสีเข้มขมวดเข้าหากันด้วยความเคลือบแคลง ผู้หญิงคนที่เขาเห็นเมื่อตอนบ่าย... ที่โรงแรมทำไมถึงได้ดูสวยสดและดูดีกว่าในรูปมากมายนัก ทั้งๆ ที่เป็นคนๆ เดียวกันแท้ๆ ผู้หญิงคนเดียวกันที่มองยังไงก็ไม่เหมือนกันสักนิด
เฮ้อ...
เสียงถอนใจถูกปลดปล่อยออกมาจากริมฝีปากบางเฉียบสีสดแรงๆ พร้อมๆ กับรูปถ่ายในมือปลิวร่วงหล่นลงบนโต๊ะกระจกตรงหน้า ใกล้ๆ กับแก้วใบสวยและขวดเหล้า เดนนิสหรี่ตามอง แต่ก็ไม่คิดจะใส่ใจมันอีก นอกจากลุกขึ้นยืนและเดินตรงไปหยุดยืนอยู่ที่หน้าต่างกระจกบานใส ทิวทัศน์ของกรุงเทพมหานครในยามค่ำคืนสวยงามไม่แพ้เมืองหลวงประเทศอื่นเลยแม้แต่น้อยสะท้อนเข้ามาในสายตา กรามแกร่งที่ตอนนี้เขียวครึ้มไปด้วยไรหนวดขบกันแน่น
จะยังไงก็ช่าง... ในเมื่อแองเจลล่า โรเจอริโอ เดินเข้ามาหากับดักที่เขาวางล่อเอาไว้แล้ว เขาก็จะไม่มีทางปล่อยให้เจ้าหล่อนหลุดลอยออกไปจากอุ้งมือโดยไม่ขยี้ให้แหลกอย่างเด็ดขาด เจ้ามาร์คอส โรเจอริโอ มันจะต้องได้ลิ้มรสของการถูกลูบคมจนถึงแก่นเลยทีเดียว
รอยยิ้มร้ายกาจผุดพรายขึ้นที่มุมปากหยักสวยของเดนนิส โอซิลอย่างมหาศาล สมองอันชาญฉลาดที่ได้รับฉายาว่าบิลเกตต์สองเต็มเอี๊ยดไปด้วยแผนการลากแม่แองจี้น้องสาวสุดที่รักของศัตรูมาขยี้ให้แหลกคามือ
“ต่อให้มีปีก... ก็หนีฉันไม่พ้นหรอกแองจี้...”
คนตัวโตที่ภายในร่างกายนั้นอัดแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อแน่นหนั่นละสายตาจากภาพงดงามในยามราตรีของมหานครตรงหน้า เดินกลับมาภายในห้องรับแขกกว้างบนเพ้นเฮ้าส์ราคาแพงระยับของตัวเอง มือใหญ่ที่ตั้งใจจะหยิบแก้วเหล้าขึ้นมาดื่ม แต่ก็เปลี่ยนใจกะทันหัน เพราะชายหนุ่มหันเหไปให้ความสนใจกับขวดเหล้าแทน
เดนนิสยกขวดเหล้าราคาแสนแพงขึ้นเทกรอกลงไปในลำคอจนพร่องไปกว่าครึ่งขวด จากนั้นจึงวางมันลง ดวงตาสีฟ้าน้ำทะเลตอนนี้มืดดำไม่ผิดจากคืนเดือนดับเลยแม้แต่นิดเดียววาววับน่ากลัว
“พรุ่งนี้เราจะได้พบกัน แองเจลล่า โรเจอริโอ...”
รอยยิ้มเหี้ยมเกรียมผุดพรายขึ้นมาบนใบหน้าหล่อปานเทพของเดนนิส โอซิลมากมายนัก และมันก็บอกให้รู้ว่าเขาไม่มีทางรามือแน่หากศัตรูคู่อาฆาตไม่พินาศย่อยยับไปต่อหน้า
“นางฟ้าของไอ้มาร์คอส...”
เมื่อ คิมหันต์ ชายหนุ่มหล่อ รวย ทายาทคนเดียวของตระกูล ถูกใจ พอฤทัย นักกายภาพบำบัดที่คุณย่าจ้างมา เขาคิดว่าหล่อนง่าย แต่หล่อนกลับไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิดเลย หล่อนสวย แต่ยาก และนั้นก็ยิ่งทำให้เขากระหาย ยิ่งอยากได้หล่อนจนใจจะขาด ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ ประตูห้องยังไม่ทันจะปิดสนิท คิมหันต์ก็ดึงคนตัวเล็กเข้ามาประกบปากจูบดูดดื่ม ราวกับว่าถ้ารออีกนิดเดียวเขาจะขาดใจตาย "คุณคิมหันต์ อย่าค่ะ...คุณปวดเอวอยู่ไม่ใช่เหรอ?" หล่อนจับมือที่บีบขยำนมออก แต่เขาก็เอาขึ้นมาบีบใหม่ ก้มหน้าลงกระซิบข้างหู "ปวดก็ต้องซ้ำครับ จะได้หายปวด" พูดจบก็อุ้มร่างบางขึ้นแนบอกทันที พอฤทัยรู้ว่าโดนหลอก ก็โมโหเอาฟันกัดที่หัวไหล่เขาไปทีหนึ่ง แล้วก็รู้ว่าตัวเองทำผิดพลาดครั้งใหญ่ เมื่อได้ยินประโยคที่เขาพูดออกมา "ที่แท้คุณก็ชอบความรุนแรงนี่เอง ได้เลยครับเมียจ๋า...เดี๋ยวผัวจัดให้" เขาเดินก้าวยาว ๆ จนมาถึงเตียง วางร่างบางบนที่นอน จากนั้นก็ถอดเหมือนกระชากชุดของหล่อนออกจากร่าง ตามด้วยเสื้อผ้าของตัวเอง แล้วทาบทับลงไป "เห็นคุณชอบความรุนแรงแบบนี้ แสดงว่าต้องชอบแบบจูบแรกของเราด้วยใช่ไหม?" เขาเคลื่อนหน้าลงมาถาม หล่อนถลึงตาใส่เขา เมื่อนึกถึงจูบรุนแรง ที่มีแต่ความเจ็บตรงหน้าห้องน้ำ "ก็ลองทำอีกสิ คราวนี้ฉันจะกัดลิ้นคุณให้ขาดเลย" เขาได้ยินก็หัวเราะเสียงร่วนออกมา ก่อนจะก้มหน้าลงไปจูบกลีบปากอิ่มอ่อนโยน และเปลี่ยนเป็นร้อนแรงขึ้นในเวลาต่อมา
นนท์ปวิธคือคุณหมอหนุ่มรูปงามและใจดี และมีเพียงแค่เธอคนเดียวเท่านั้นที่ได้เห็นมุมมืดของผู้ชายคนนี้ มุมมืด... ที่เขาสร้างเอาไว้เพื่อทำร้ายเธอเพียงคนเดียว +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "นอนกับฉัน แล้วฉันจะยอมช่วยลูกสาวของเธอ" นี่คือข้อเสนอของนายแพทย์นนท์ปวิธ อริณวัฒน์ ศัลยแพทย์หัวใจชื่อดังของเมืองไทย เขาคือเทพเจ้าแห่งการผ่าตัดหัวใจ เพราะคนไข้ทุกคนที่ผ่านมีดผ่าตัดของเขาจะประสบความสำเร็จทุกราย ทุกคนต่างชื่นชมในฝีมือและความมีน้ำใจของคุณหมอหนุ่มหล่อคนนี้มาก เขาคือเทพบุตร คือเทวดาสำหรับคนไข้และญาติๆ แต่ในมุมมืดของเขามีเพียงแค่หล่อนคนเดียวที่ได้เห็น แน่ล่ะ... เขาสร้างมุมมืดเอาไว้เพื่อทำร้ายหล่อนแค่เพียงคนเดียวเท่านั้น "ตกลงค่ะ" รอยยิ้มหยันเกลื่อนใบหน้าหล่อเหลาของนายแพทย์นนท์ปวิธ ขณะที่เคลื่อนเรือนร่างสูงโปร่งหกฟุตสามนิ้วเข้ามาหยุดใกล้ๆ "งั้นก็คืนนี้เลย" "ตาว... ขอเวลา..." "ลูกสาวของเธอ มีเวลาเหลือเยอะสินะ" "เอ่อ..." "ฉันต้องการเอาเธอคืนนี้..." แล้วเท้าใหญ่ก็ขยับเข้ามาใกล้ขึ้นอีก จนตอนนี้ร่างกายอยู่ห่างกันแค่เพียงฟุตเดียวเท่านั้น กลิ่นหอมเฉพาะตัวของเขาโชยฟุ้งเข้ามาในจมูก ทำให้รจิตราตัวสั่นเทา หล่อนช้อนตาขึ้นมองคนตัวสูง ซึ่งเขาก็ลดสายตามองลงมามองพอดี ดวงตาสองดวงสบประสานกัน โลกทั้งใบหยุดหมุน ความทรงจำเมื่อห้าปีก่อนย้อนกลับเข้ามาราวกับสายน้ำไหลหลาก ความทรงจำที่หล่อนไม่เคยลืม... และใช้มันหล่อเลี้ยงหัวใจมากว่าห้าปี
ในสายตาของทุกคน คชาวุฒิเก่งฉลาด สุภาพเรียบร้อย และสุดเนิร์ด คงมีเพียงแค่เธอคนเดียวเท่านั้น ที่รู้ว่าใต้แว่นตาหนาของเขาซ่อนความร้อนแรงเอาไว้มากแค่ไหน ไม่รู้จะอวยยศให้อาจารย์ฟิสิกส์คนนี้ยังไงดี แต่รับประกันว่าอาจารย์แซ่บมาก แซ่บฉ่ำแฉะ^^ +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "ตรงไหนดี..." หล่อนควรต่อต้านสิ ควรผลักไส เพราะมันไม่ใช่เรื่องที่ควรเกิดขึ้นเลย แต่... แต่ร่างกายของหล่อนมันอ่อนระทวยไม่มีแรงเลย "ตรงไหนดีเด็กน้อย..." เขากระซิบถามเสียงกระเส่า "ถ้าคุณไม่ตอบ ผมจะเลือกเองนะ..." "อาจารย์... หนู... หนู..." ใบหน้านวลแดงระเรื่อ ตอนนี้สมองของหล่อนขาวโพลนไร้ความคิดชั่วคราว รอยยิ้มจากปากหยักสวยของอาจารย์ฟิสิกส์สุดหล่อช่างบาดใจเหลือเกิน เขาค่อยๆ ย่อตัวลง และคุกเข่าลงกับพื้น ขณะที่สายตาช้อนขึ้นมาสบประสานกับหล่อนตลอดเวลา ไฟร้อนๆ ในดวงตาของเขากำลังแผดเผาให้หล่อนมอดไหม้ "อา... จารย์..." นี่เขากำลังจะทำอะไรน่ะ เขาคุกเข่าทำไม
พระเอกเรื่องนี้แรกๆ จะออกแนวปากหมา ใจร้าย ชอบทำนางเอกช้ำใจ แต่หลังจากเห่าหอนเป็นแล้ว ก็จะกลายเป็นหมาโบ้คลั่งรักสุดๆ เลยค่ะ ไรต์นอนยันเลย 555+++ คำเตือน... พระเอกเรื่องนี้โบ้ซ้ำโบ้ซ้อนโบ้ไม่ปรานีใคร 55 ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "คุณ... ภาม... เป็นอะไรคะ..." คำถามของหล่อนตะกุกตะกักจนแทบฟังไม่เป็นคำ "หึ... ยังจะมีหน้ามาถามอีกหรือคาลิสา!" เขายื่นมาบีบคอของหล่อน และนั่นก็ทำให้หล่อนตกใจแทบช็อก "คุณภาม... ครีม... กลัว..." ทำไมเขาทำแบบนี้ ทำไมภาวินทร์ถึงบีบคอหล่อนล่ะ แม้จะไม่ได้บีบแรงนัก แต่ก็ทำให้หล่อนกลัวจนแทบหยุดหายใจ "เธอนี่มันเลี้ยงไม่เชื่อง" "คุณภาม... พูดอะไรคะ ครีมไม่เข้าใจ... อ๊ะ..." นิ้วยาวของเขาบีบเค้นลงกับลำคอขาวผ่องของหล่อนแรงขึ้น จนหล่อนเกือบจะหายใจไม่ออก "ยังจะมีหน้ามาถามอีกเหรอ เธอไปทำอะไรเอาไว้ล่ะ" "ครีม... ครีมเปล่า..." "เลิกตอแหลเถอะ ฉันรู้เรื่องจากน้องอัญหมดแล้ว" "..." "เธอจงใจละเมิดข้อตกลงของเรา" "ครีมเปล่านะคะ คุณอัญเธอรู้อยู่แล้ว... เธอรู้จากคุณภามไม่ใช่เหรอคะ..." หล่อนพยายามจะอธิบายในมุมของตัวเอง แต่ชายหนุ่มไม่ยอมรับฟัง "เธอเดือดร้อน ฉันก็ช่วย ให้ข้าวให้น้ำ ให้เงิน เซ็กซ์ดีๆ ฉันก็ให้ งานก็มีให้ทำ แล้วเธอยังต้องการอะไรจากฉันอีก อยู่เงียบๆ อยู่ในที่ตัวเองไม่ได้หรือไง หื้อ!" "ครีม... ฮืออออ..." "แล้วเธอยังมีหน้าไปโกหกน้องอัญว่าท้องกับฉันอีกเหรอ เธอกล้าดียังไงพูดแบบนั้นออกไป คาลิสา!" หากหล่อนบอกออกไปว่าตัวเองกำลังตั้งท้องลูกของเขาจริงๆ ภาวินทร์ก็คงจะไม่เชื่อ ใช่... เขาไม่มีทางเชื่อหรอก ตอนนี้เขาเชื่อคำพูดของคู่หมั้นคนสวยของเขาคนเดียวเท่านั้น "ตอบมาสิ... เธอท้องลูกของฉันจริงหรือเปล่า" ใบหน้าที่เปียกชุ่มไปด้วยหยาดน้ำตาส่ายไปมา ก่อนจะตอบเสียงสะอื้น "ไม่... ไม่ได้ท้องค่ะ..." "หึ... นึกอยู่แล้วเชียว เธอมันก็แค่ผู้หญิงมารยา ที่ต้องการทำให้ฉันเดือดร้อนเท่านั้นเอง" เขาหยุดบีบคอของหล่อน และผลักร่างของหล่อนออกห่าง แสดงท่าทางรังเกียจออกมา "เราเลิกกันเถอะ"
เรื่องนี้พระเอกเป็นพวกชอบวิ่ง ตอนแรกวิ่งหนี ตอนหลังวิ่งชนจนมดลูกน้องแทบอักเสบ ฝากติดตามเป็นกำลังใจให้ไรต์ด้วยค่ะ เลิฟ เลิฟ ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "พี่วิศ... ทำไมพี่เปลี่ยนไปแบบนี้คะ... อื้อ... อย่าทำแบบนี้สิคะ... " แม้จะพยายามขัดขืน แต่เสียงก็แผ่วเบา และอ่อนแรงเหลือเกิน "แล้วชอบพี่แบบนี้ไหมล่ะครับ... อืมม หอมจัง" ปลายจมูกของเขาซุกไซ้อยู่ที่ลำคอ ในขณะที่ฝ่ามืออบอุ่นลูบไล้ซุกซน "พี่ชอบก้นของเธอจัง นุ่มนิ่มมาก" "พี่วิศ..." "และพี่ก็ชอบเสียงครางของเธอด้วย ฟังแล้วยิ่งมีอารมณ์..." เขาเงยหน้าขึ้นจากลำคอของหล่อนที่ดูดเม้มจนแดงช้ำ ดวงตาสบประสานกัน ก่อนที่ปากหยักสวยจะแนบชิดลงมาหา เขาจูบเบาๆ หนึ่งครั้ง ก่อนจะกระซิบเสียงแปร่งพร่า "ให้พี่เอานะ... พี่หิว..."
เพราะแอบรักจึงยอมทุกอย่าง ยอมแม้กระทั่งเป็นคนในความลับ อยู่เงียบๆ ในเงามืดชั่วนิรันดร์ กฎของเขาก็คือ มีอะไรกัน นอนด้วยกัน สนุกกัน แต่ห้ามบอกใคร ห้ามให้ใครรู้ว่ามีความสัมพันธ์กันแบบไหน ในที่ทำงานเขาคือท่านประธาน และเธอก็คือพนักงานคนหนึ่งในบริษัทเท่านั้น เมื่อเจอกันก็ทักทายกันบ้างแบบเจ้านายกับลูกน้อง ห้ามแสดงท่าทางหรือแสดงความเป็นเจ้าของ ห้ามโพสต์สถานะในโซเชียล แม้จะไปเที่ยวด้วยกัน ไปถึงไหนต่อไหนด้วยกันก็แล้วแต่ห้ามเปิดเผยทั้งนั้น ซึ่งด้วยความรักที่มีต่อเขา ทำให้เธอตกลงยอมเป็น คนในความลับของเขาอย่างเต็มใจ +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "มามี๊ขา..." วชิรวัฒน์มองเด็กหญิงตัวน้อยที่อายุน่าจะไม่ถึงสามขวบวิ่งเข้ามาสวมกอดฟาริดาด้วยความประหลาดใจและตกใจในเวลาเดียวกัน เขามองใบหน้ากลมๆ ของเด็กหญิงคนนั้น สลับกับใบหน้าของฟาริดา ซึ่งก็พบว่าหญิงสาวกำลังหน้าซีดเผือดไร้สีเลือด "นี่มันอะไรกัน น้องฟาง... เด็กคนนี้... เป็น..." เขายังพูดไม่ทันจบ ฟาริดาก็ดันร่างของเด็กหญิงไปไว้ด้านหลัง ก่อนจะตอบเขาด้วยสุ่มเสียงดังฟังชัด "ลูกสาวของฟางเองค่ะ" วชิรวัฒน์ถึงกับอึ้ง เขาหันไปมองสบตากับอภิวัฒน์ ก็พบว่าเลขาฯ หนุ่มก็อึ้งไม่ต่างกัน หลังจากตั้งสติอยู่ชั่ววินาที เขาก็หันกลับมาจ้องหน้าฟาริดาเขม็ง "เด็กคนนี้เป็นลูกของใครครับ" เขาพยายามที่จะถามเสียงสุภาพ ทั้งๆ ที่ภายในในเต็มไปด้วยเพลิงไฟกัลป์ เพราะอย่างนี้เองเหรอ ฟาริดาถึงได้หนีจากเขาไป เพราะหล่อนท้อง... แล้วหล่อนท้องกับใครล่ะ นอกจากเขาแล้ว หล่อนยังแอบมีความสัมพันธ์กับผู้ชายคนอื่นอีกอย่างนั้นเหรอ บ้าชิบ! นี่หล่อนกำลังจะทำให้เขาโมโหจนเป็นบ้าอยู่แล้วนะ! "ลูกของใครก็ช่างเถอะค่ะ แต่ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับพี่โรมแน่นอน"
"นางเป็นบุตรีผู้สูงศักดิ์ของฮูหยินเอกของจวนเสนาบดี นางมีหน้าตาโดดเด่น ทั้งอ่อนโอนและมีน้ำใจไมตรีต่อผู้อื่น แต่... นางทำดีต่อป้าของนาง นางกลับฆ่าแม่ของนางตาย นางรักเอ็นดูน้องสาวของนาง แต่น้องสาวกลับแย่งสามีของนางไป นางคอยสนับสนุนและดูแลสามีของนางอย่างสุดหัวใจ แต่สามีกลับทำให้นางตายทั้งกลม...ตระกูลฝ่ายมารดาของนางก็ถูกประหารชีวิตทั้งตระกูลด้วย นางตายตาไม่หลับและสาบานว่าหากมีชาติหน้า นางจะไม่เมตาตาต่อใครอีก ใครก็ตาม กล้ามาทำร้ายข้า ข้าจะล้างแค้นด้วยชีวิตทั้งตระกูลของพวกเจ้า เมื่อเกิดใหม่อีกครั้ง นางอายุได้สิบสี่ปี นางสาบานว่าจะต้องเปลี่ยนชะตากรรมและแก้แค้นชาติก่อน ป้านางใจ้ร้าย นางจะใจร้ายกลับยิ่งกว่านาง นางคิดจะได้ครองตำแหน่งฮูหยินงั้นเหรอ บอกเลยไม่มีทาง! ส่วนน้องสาวชอบผู้ชายชั่ว ๆ นักไม่ใช่หรือ ได้!ข้าจะยกให้เลย ส่วนชายชั่วนั่น ข้าจะทำให้เจ้าไม่สามารถมีทายาทได้อีกตลอดทั้งชาติ!แต่ข้าจะแก้แค้น เหตุใดเจ้าต้องมาช่วยข้าด้วย?"
เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"
ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"
ผมต้องทำงานนอกเวลาทุกวันเพื่อหารายได้ประคองชีวิตและจ่ายค่าเรียนมหาวิทยาลัยด้วยตัวเอง เนื่องจากฐานะครอบครัวยากจนและไม่สามารถส่งเสียผมเข้ามหาวิทยาลัยได้ และตอนเรียนที่มหาวิทยาลัย ผมก็ได้พบกับเธอ-สาวแสนสวยที่หนุ่มๆ ทุกคนในชั้นเรียนต่างก็ใฝ่ฝันถึง ไม่เว้นแม้แต่ผมเอง แต่ผมก็รู้ตัวดีว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเธอ ถึงอย่างนั้นก็ตาม ผมก็รวบรวมความกล้าสารภาพกับเธอจนได้ สุดท้ายผมนึกไม่ถึงว่าเธอจะยอมตกลงเป็นแฟนกับผม เธอบอกกับผมว่าอยากได้ของขวัญเป็นไอโฟนรุ่นล่าสุด ผมก็ไปรับงานซักเสื้อผ้าให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนเพื่อพยายามเก็บเงินซื้อให้เธอจนได้ และในที่สุดหนึ่งเดือนต่อมา ผมก็ซื้อมาได้จริง ๆ แต่ขณะที่ผมกำลังห่อของขวัญเพื่อนำไปมอบให้เธอ ก็พบว่าเธอกำลังมีอะไรกับหัวหน้าทีมฟุตบอลในห้องล็อกเกอร์ เธอเหมือนเปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่งซึ่งผมไม่เคยรู้จักเลย เธอหัวเราะเยาะความโง่เขลาของผม เหยียดหยามศักดิ์ศรีของผม ปล่อยให้เขาซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นแฟนใหม่ของเธอไปแล้ว ทุบตีผม ผมนอนเจ็บอยู่บนพื้นอย่างสิ้นหวัง ต่อมา จู่ ๆ ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากพ่อ ตั้งแต่วันนั้น ชีวิตของผมก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างกับหนัามือเป็นหลังมือ ใครจะไปรู้ว่า ผมเป็นลูกชายของมหาเศรษฐี