เขาก็แค่อยากได้หล่อนมาบำบัดความใคร่ หล่อนก็แค่อยากได้เงินเพื่อให้ชีวิตหลุดพ้นความลำบาก ฉากหน้าเป็นเจ้านายกับเลขา ฉากหลังคือหน้าที่พิเศษบนเตียง โดยมีข้อตกลงสำคัญที่มีเนื้อใหญ่ใจความว่า ‘ ห้ามมีคนอื่นในระหว่างนั้น ห้ามทำตัวเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ ห้ามรู้สึกอะไรกับผมนอกจากอารมณ์ทางเพศ ห้ามตกหลุมรักผม ’ มันคงจะง่ายหากเขาไม่ได้เพอร์เฟคไปทุกกระเบียดนิ้ว ทั้งหล่อ ล่ำ กำยำ สูงใหญ่ สายเปย์ ที่ร้ายสุดคือบทรักเร่าร้อนที่ทำให้หล่อนหลงใหล แถมเขายังเป็นผู้ชายคนแรกในชีวิตอีก ..งานยากแล้วคราวนี้.. ตัวอย่างจากในเล่ม : เขาลุกขึ้นยืนเหยียดเต็มความสูงเมตรแปดสิบห้า อวดเรือนร่างเปลือยเปล่ากำยำแห่งวัยฉกรรจ์อันอัดแน่นไปด้วยลอนกล้าม มันงดงามราวรูปสลักไปทุกส่วนสัด งดงามและน่าเกรงขาม ทำให้หล่อนรู้สึกชื่นชม ตื่นกลัว คอแห้งผากกระสันใคร่ใฝ่รู้ สับสนไปหมดแล้ว... โดยเฉพาะอย่างยิ่งส่วนนั้น ตรงใจกลางระหว่างขาที่ยื่นออกมาจากหน้าขากำยำ มันช่างดูเข้มแข็ง คุกคาม ยิ่งใหญ่ และน่ากลัว แต่กลับสะกดสายตาไม่ให้หล่อนละเลยไปได้ อริสาจ้อง จ้อง และจ้องจนตาเป็นมัน... พยัคฆินเลื่อนฝ่ามือใหญ่มากำส่วนนั้นไว้แล้วขยับข้อมือสาวเข้าออกช้า ๆ นั่นมันทำให้ลมหายใจของหล่อนติดขัด “ Do you wanna be mine , Little girl ? ” เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแหบห้าวเจือสั่นพร่าด้วยฤทธิ์ราคะ หล่อนนั่งอ้าปากค้าง ราวกับกล้ามเนื้อในเรือนกายได้ตายไปหมดแล้ว เขาสาวเท้าเข้ามาใกล้อีกก้าว จนสิ่งนั้นมันห่างจากปากของหล่อนเพียงไม่ถึงฟุต แล้วปล่อยมือให้มันเป็นอิสระ ก่อนจะใช้มือข้างเดียวกันนั้นประคองใบหน้าหวานไว้ในอุ้งมือ ไล้นิ้วโป้งเบา ๆ บนริมฝีปากนุ่มนิ่ม แล้วเอ่ยถามอีกครั้ง “ พร้อมจะเป็นของผมหรือยัง ที่รัก ”
ปัง ๆๆๆ !
เสียงรัวเคาะประตูอย่างไม่เกรงอกเกรงใจหน้าอินทร์หน้าพรหม สลับกับแหกปากร้องเรียกคอแทบแตกดังขึ้นหน้าห้องเช่าราคาถูกในซอยของชุมชนแออัดแห่งหนึ่ง
“ นี่ นังอารี นังอาย เจ๊รู้นะว่าอยู่ในนั้นทั้งแม่ทั้งลูกน่ะค่าเช่าน่ะสามเดือนแล้วนะโว้ย เมื่อไรจะจ่าย ที่นี่ห้องเช่านะ ไม่ใช่สถานบริการผู้ยากไร้ ไม่ใช่มูลนิธิบรรเทาทุกข์ จะได้อยู่ฟรีกันอย่างสบายหอยน่ะ ” เสียงเจ๊ม้อย เจ้าของตลาดสดและห้องเช่าโวยวายอยู่หน้าห้อง ที่ภายในมีสตรีสองวัยนั่งกอดกันเงียบกริบ
“ มึงจะเปิดไม่เปิด ถ้าไม่เปิดกูพัง เฮ้ย ถีบ ! ”
เจ๊ม้อยหันไปสั่งสมุนตัวใหญ่ด้านหลังที่กำลังเงื้อส้นตีนอย่างว่องไว เป้าหมายคือประตูห้องที่ทำจากไม้อัดเบื้องหน้า ทว่ายังไม่ทันได้ลงน้ำหนัก เสียงร้องห้ามด้านหลังก็ทำให้ชะงักไว้ทัน
“ เดี๋ยว ! ”
ทั้งสามหันมาประจันหน้าคนขัดจังหวะ
“ เสือกอะไรด้วย ไอ้เพียว ” หนึ่งในสองหมารับใช้ของเจ๊ม้อยถามผู้มาเยือนอย่างเอาเรื่อง
เพียว ชายร่างสันทัด ผิวสีเข้มประสาชายไทย สืบเท้าเข้ามาใกล้
“ อายติดค่าเช่าเท่าไรเจ๊ ”
“ สามเดือน สี่พันห้า ” เจ๊ม้อยกระชากเสียงตอบ
“ เอานี่ ผมจ่ายให้ แถมค่าเช่าเดือนหน้าด้วยเลย ”
เขาว่าพลางหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมาเปิดนับเงินให้นางหกพันบาท ริมฝีปากสีแดงแจ๊ดที่บึ้งตึงของเจ๊ม้อยเมื่อครู่กลับกลายเป็นยิ้มแย้มทันที
“ ดีมากอาเพียว แต่ขอถามนิดหนึ่งนะ ทำไมลื้อต้องจ่ายเงินค่าห้องให้อายมันวะ หรือว่าได้เสียเป็นเมียผัวกันเรียบร้อยแล้ว ”
“ อย่ามาพูดจาให้ร้ายคนอื่นแบบนี้นะ อายกับผมเป็นแค่เพื่อนกัน เสร็จธุระก็กลับไปได้แล้ว ” เพียวสวนขึ้น เล่นเอาเจ๊ม้อยหน้าหุบ ก่อนหันไปสั่งสองสมุน
“ เฮ้ย กลับโว้ย ”
ก่อนเขาจะหันไปเคาะประตูห้องที่เกือบจะโดนกระทืบทะลุเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้
“ อาย นี่เพียวเอง เปิดประตูให้หน่อย ”
สักอึดใจประตูก็ถูกเปิดออกช้า ๆ พร้อมด้วยสายตาหวาดกลัวของคนอยู่ข้างใน
“ ไม่ต้องกลัว เราจ่ายให้หมดแล้ว ”
“ อ้าว แล้วเพียวไปเอาเงินมาจากไหนตั้งสี่ห้าพันขนาดนั้น ”
“ เข้าไปคุยข้างในเหอะ ” เพียวว่าเมื่อเห็นคนในห้อง อื่น ๆ โผล่หน้ามาดูด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“ ไอ้พี่เอกมันขโมยเงินที่เราให้แม่ไว้จ่ายค่าห้องไปหมดเลย ” อริสา หรืออาย พูดถึงพี่ชายนักพนันของตัวเองด้วยน้ำตาปริ่มขอบตา ทั้งโกรธ ทั้งเสียใจ
“ อายก็อย่าไปว่าพี่เขาเลยลูก เอกมันคงมีเรื่องจำเป็นต้องใจ ” นางอารีผู้เป็นแม่รีบแก้ตัวแทนลูกชายทันที หญิงสาวถอนใจเฮือกใหญ่ก่อนบ่นเสียยาว
“ แม่ก็เป็นเสียอย่างนี้ แก้ตัวแทนพี่เอกตลอด ทั้งที่แม่ก็รู้ว่ามันติดบอล ติดเหล้า ติดการพนัน ก็เป็นซะแบบนี้เมียถึงได้หนีไป ให้ท้ายมันแบบนี้แล้วเมื่อไรมันจะคิดได้ หามาได้เท่าไรก็ถมไม่เต็ม ”
“ เดี๋ยวแม่จะพยายามโทรหามันนะ ให้มันรีบเอาเงินมาใช้ให้เพียว ” นางอารีว่า
“ ครับน้าอารี ” เพียวตอบ ก่อนจะมองไปที่เพื่อนอย่างเห็นใจ
เขากับอริสาเป็นเพื่อนโรงเรียนเดียวกันตั้งแต่อนุบาล จนตอนนี้เรียนจบมหาวิทยาลัยทั้งคู่ อริสาทำงานที่ร้านสะดวกซื้อที่ต้องเข้ากะหมุนวนยี่สิบสี่ชั่วโมง ส่วนตัวเขามีเพื่อนรุ่นพี่ชวนไปเป็นพนักงานยกกระเป๋าในโรงแรมชื่อดังแห่งหนึ่ง
“ เรียนจบตั้งปริญญา เสือกไปเป็นเด็กยกกระเป๋า ทุเรศฉิบหาย ไม่มีสมอง ไม่มีศักดิ์ศรี ” นี่คือคำที่ชาวบ้านครหานินทา โดยหารู้ไม่ว่าไอ้เด็กยกกระเป๋าอย่างเขาได้เงินเดือนบวกทิปแล้วเดือนหนึ่งไม่เคยต่ำกว่าสามสี่หมื่นเลย
“ กินมื้อเช้ายัง ” เอกถามอริสาที่นั่งหมดอาลัยตายอยากกอดเข่าอยู่บนพื้น หล่อนส่ายศีรษะ
“ ไปกินก๋วยเตี๋ยวเรือร้านพี่บัวกัน เราเลี้ยง ”
“ ไม่หิว ”
“ ไม่หิวก็ต้องกิน ซื้อมาให้น้าอารีด้วย น้าอารีต้องกินยานะ ลืมแล้วหรือไง ” เพียวเร้าหรือ อีกฝ่ายจึงจำใจลุกขึ้นไปล้างหน้าล้างตาก่อนเดินตามกันออกไปยังร้านก๋วยเตี๋ยวเรืออันเป็นเป้าหมาย
“ อายเหนื่อยว่ะเพียว ”
อริสาพูดขึ้นเบา ๆ เพียวจ้อง มองเพื่อนรักอย่างสงสารจับใจ
โปรย : " ขออีกครั้งได้ไหม " " หมายถึงโอกาสเหรอคะ " " ก็ โอกาสด้วย อย่างอื่นด้วย " เธอยิ้ม ขยับเข้าไปหาแล้วกระซิบข้างหูเขาเบา ๆ " อย่างอื่นนี่คืออะไรเหรอคะ " ลมหายใจอุ่น ๆ เป่าลงที่ซอกคอ และเธอตั้งใจแตะริมฝีปากให้ถากบนใบหูของเขา เพียงเท่านั้นเลือดหนุ่มก็เดือดพล่านเหลือเกินแล้ว " พูดได้เหรอ " " ถ้าไม่อยากพูด ทำเลยก็ได้ " ++++++++++++ มาเซ้ นางเอกเราสู้คนค่ะคุณขา หมายเหตุ : แมธธิว พระเอกของเรื่องนี้ เป็นตัวละครหนึ่งในกลุ่มเพื่อนสนิทจากเรื่อง คุณแสนร้าย , น้องนุ่ง , เล่ห์ร้อน ทุกเรื่องจะมีตัวละครทั้งสี่ปรากฏในเรื่อง แต่เนื้อเรื่องไม่เกี่ยวข้อง สามารถอ่านแยกกันได้ แต่ถ้าจะให้ม่วนจอยครบสูตรก็ฝากทั้งสี่ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะคะ ++++++++++++++++++++++++ 4 เรื่อง 4 รส 4 หนุ่ม ดังนี้ 1. คุณแสนร้าย (แสนสราญ + หนึ่งฤทัย) 2. ขออีกครั้ง (แมธธิว + พราวด์ ) 3. น้องนุ่ง (เอกบุรุษ + เขมิรา) 4. เล่ห์ร้อน (เขมมะ + ขนม)
เธอไม่ได้ชอบเบา ๆ หรอก ฉันรู้ดี... โปรย : จากเด็กในบ้านที่มีสัมพันธ์กันลับ ๆ วันหนึ่งเธอตัดสินใจโบยบินไปจากอ้อมอก ตอนนั้นเขาพึ่งรู้หัวใจตัวเอง เขาหวง เขาหึง เขาคิดถึง เขาคลั่งแทบบ้า และจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เธอคืนมา ! ตัวอย่าง : " คุณแสนมีธุระอะไรคะ " ใบหน้าหล่อเหลาที่เรียบเฉยยกยิ้มมุมปากทันทีที่ได้ยินคำถามนั้น " พูดจาดูห่างเหินจังนะ " " คุณทราบได้ยังไงคะว่าหนึ่งอยู่ที่นี่ " " ก็แค่บังเอิญผ่านมา " " บังเอิญแน่เหรอคะ " " แน่สิ ทำไมล่ะ ที่นี่มันร้านกาแฟที่ลูกค้าที่ไหนจะมาซื้อก็ได้ทั้งนั้น รวมถึงฉันด้วย " " หนึ่งจะปิดร้านแล้วค่ะ " " ใจดำจังนะ ออกมาไม่บอกไม่กล่าว รีบอะไรขนาดนั้น " คราวนี้เธอเงียบ เขาจึงยิงคำถามต่อ " เห็นน้าละมุนบอกว่าวันที่ขนของมีหนุ่มไปรับ " คำพูดนั้นทำให้เธอเชิดหน้าขึ้น " ค่ะ แฟนหนึ่งเอง หนึ่งย้ายมาอยู่กับเขาที่นี่ " เธอเน้นย้ำคำว่า ที่นี่ ให้เขาได้ยินชัด ๆ เขานิ่งไปชั่วขณะก่อนจะยิ้มออกมา " แต่ตอนนี้ร้านดูเงียบ ๆ แฟนไม่อยู่เหรอ " " คุณแสนจะสั่งอะไรไหมคะ ถ้าไม่สั่งหนึ่งขออนุญาตเชิญกลับ เพราะหนึ่งต้องปิดร้าน " " นี่เป็นแม่ค้ายังไงจะไล่ลูกค้าออกจากร้าน ใจร้ายจังนะ " เธอยืนจ้องเขาเขม็ง คิ้วได้รูปขมวดนิด ๆ อย่างหงุดหงิด แสนสราญนึกสนุกที่ได้เห็นท่าทีแข็งกร้าวต่อต้าน และคนสันดานเสียอย่างเขาก็ชอบที่จะเอาชนะเสียด้วยสิ " อยากได้เครื่องดื่ม " " รับอะไรดีคะ " " นมสด " " นมสดไม่มีค่ะ เมนูตามนี้เลย " เธอผายมือไปยังป้ายเมนูไม้แบบมินิมอลน่ารักที่มีรายชื่อเครื่องดื่มอยู่บนนั้น แต่เขาไม่ได้มองตามไปที่นั่น สายตากรุ้มกริ่มจ้องอยู่ที่อกอวบ แม้มีเสื้อยืดสีขาวสกรีนชื่อร้านห่อหุ้มอีกทั้งผ้ากันเปื้อนทับอีกชั้น แต่เธอก็ยังรู้สึกถึงความร้อนผ่าวที่เกิดขึ้นภายในทรวงเพียงถูกเขาจ้อง " มีสิ เต็มปากเต็มคำดีเสียด้วย " หมายเหตุ : คุณแสน พระเอกของเรื่องนี้ เป็นตัวละครหนึ่งในกลุ่มเพื่อนสนิทจากเรื่อง ขออีกครั้ง , น้องนุ่ง , เล่ห์ร้อน ทุกเรื่องจะมีตัวละครทั้งสี่ปรากฏในเรื่อง แต่เนื้อเรื่องไม่เกี่ยวข้อง สามารถอ่านแยกกันได้ แต่ถ้าจะให้ม่วนจอยครบสูตรก็ฝากทั้งสี่ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะคะ ++++++++++++++++++++++++ 4 เรื่อง 4 รส 4 หนุ่ม ดังนี้ 1. คุณแสนร้าย (แสนสราญ + หนึ่งฤทัย) 2. ขออีกครั้ง (แมธธิว + พราวด์ ) 3. น้องนุ่ง (เอกบุรุษ + เขมิรา) 4. เล่ห์ร้อน (เขมมะ + ขนม)
" ผมใหญ่ครับ " " ใหญ่นี่ ชื่อหรือสรรพคุณคะ " " ก็... ทั้งสองอย่างครับ " +++++++++++++++++++++++++++ " ผมอยากเอาคุณเป็นบ้าเลย " ดวงตาของมิถุนาเบิกกว้างเมื่อได้ยินประโยคนั้น ไม่คิดไม่ฝันว่าเขาจะพูดมันออกมาตรง ๆ อย่างไม่ให้เกียรติเธอแม้แต่นิด " ไอ้โรคจิต หยาบคาย ! " เธอผรุสวาทออกมาทั้งยังพยายามดิ้นรนผลักไสให้ตัวเองหลุดพ้นพันธนาการอันเป็นอ้อมแขนเหนียวแน่นนั้น และแน่นอนว่านอกจากไม่หลุดแล้วเขายังรัดเธอแน่นเข้าไปอีก " ปล่อยฉันนะ ! " " ก็คุณบอกให้ผมพูดเอง " " ใครจะไปรู้ว่าความคิดคุณจะทุเรศลามกขนาดนั้น " " มันเป็นเรื่องปกติของมนุษย์ ธรรมชาติสร้างให้สัตว์เพศผู้เพศเมียสมสู่กันเพื่อดำรงเผ่าพันธุ์ ความต้องการทางเพศมันเป็นเรื่องปกติ หรือว่าคุณไม่เคยมีมัน " " ฉันมีคู่หมั้นแล้วและไม่ได้อยากดำรงเผ่าพันธุ์อะไรกับคนแบบคุณ ! " เขาหัวเราะเบา ๆ ต่างกับเธอที่ตาเขียวปั้ด อยากจะยกมือขึ้นตะกายหน้าหล่อ ๆ นั่นแทบบ้า ไอ้คนไร้มารยาท ! " เราไม่ต้องดำรงเผ่าพันธุ์อะไรทั้งนั้น " เขาเริ่มบทสนทนาต่อก่อนโน้มตัวไปกระซิบที่ข้างหูเธอเบา ๆ " แค่เอากันก็พอ " ++++++++++++++++++++++++++++++++++++ " ...แค่อยากจะมาทักทายคนคุ้นเคยเป็นการส่วนตัว " " ฉันไม่ใช่คนคุ้นเคยของนาย " " งั้นคุณเป็นคนคุ้นเคยของผมฝ่ายเดียวก็ได้ " " อย่ามากวนนะ ระวังจะโดนเอาคืน " " ก็เอาสิ จะเอาคืน เอาวัน หรือเอาทั้งวันทั้งคืนเลยก็ได้นะ ผมไม่ติด "
จะผิดไหม ถ้าอยากมีอะไรกับเพื่อนรัก เขาอยากสอดเสยลำใหญ่เข้าไปในกายเธอเหลือเกิน..เช่นเดียวกับเธอที่อยากให้เขาเข้ามาลึกๆ แรงๆ
พี่สาวครับ ตอนนี้ผมเป็นหนุ่มแล้วครับ ผมอยากกอด อยากหอม อยากจับ อยากเหลือเกินครับ อยากจะจับพี่ทำเมีย...
ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"
เพราะคิดว่าเป็นความฝัน ฉินหร่านจึงร่วมมือบรรเลงเพลงรักอย่างไม่ได้ตั้งใจ ไฉนตื่นขึ้นมาถึงมีสามีเป็นของตัวเอง อีกทั้งสามีนางยังตาบอดอีกด้วย! แต่นั่นไม่น่าตกใจ เท่ากับที่นางมาอยู่ในร่างเด็กสาวในยุคจีนโบราณ ที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ อีกทั้งร่างนี้ถูกขายให้มาเป็นภรรยาของชายตาบอด แต่ไหนๆ ก็มาแล้วจึงจะใช้ชีวิตให้ดี ส่วนสามีนะหรือ หล่อขนาดนั้น แซ่บขนาดนี้ เดินหน้าเกี้ยวสามีสิ จะรออะไร!
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
ตลอดระยะเวลาสามปีที่หยุยเอินแต่งงานกับฝู้ถิงหย่วน เธอพยายามทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุด เธอคิดว่าความอ่อนโยนของตนจะสามารถละลายใจที่เย็นชาของฝู้ถิงหย่วนได้ แต่ต่อมาเธอก็รู้ตัวว่าไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ผู้ชายคนนี้ก็ไม่มีวันจะตกหลุมรักเธอได้ ด้วยความสิ้นหวังของเธอ สุดท้ายเธอตัดสินใจที่จะยุติการแต่งงานครั้งนี้ ในสายตาของฝู้ถิงหย่วน หยุยเอิน ภรรยาของเขาเป็นผู้หญิงที่โง่ ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่าภรรยาของเขาจะกล้าโยนใบหย่าใส่เขาต่อหน้าคนมากมายในงานเลี้ยงวันครบรอบฝู้ซื่อ กรุ๊ป หลังจากหย่าร้าง ทุกคนต่างคิดว่าพวกเขาจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป แต่เรื่องราวระหว่างทั้งสองคงไม่ได้จบลงอย่างง่าย ๆ แบบนี้ หยุยเอินได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และคนที่เป็นผู้มอบถ้วยรางวัลให้กับเธอก็คือฝู้ถิงหย่วน หยุยเอินคิดไม่ถึงว่าผู้ชายที่สูงส่งและแสนเย็นชาคนนี้จะลดตัวลงอ้อนวอนเธอต่อหน้าผู้ชมทั้งหมด"หยุยเอิน ก่อนหน้านี้คือผมผิดเอง ขอโอกาสให้ผมอีกครั้งได้ไหม"หยุยเอินยิ้มด้วยความมั่นใจ"ขอโทษนะคุณฝู้ ตอนนี้ฉันสนใจแต่เรื่องงาน"ชายหนุ่มคว้ามือเธอไว้ ดวยตานั้นเต็มไปด้วยความผิดหวัง หยุยเอินสบัดมือเขาและเดินจากไปโดยปราศจากความลังเลใด ๆ
ตลอดระยะเวลาสามปีของการแต่งงาน เธอรู้สึกสิ้นหวัง ที่ถูกบังคับให้เซ็นใบหย่า ทั้งๆที่เธอกำลังท้อง เธอใจสลายกับความไร้มนุษยธรรมของเขา กระทั่งเธอออกไปจากชีวิตของเขา เขาเพิ่งรู้ตัวว่าเธอคือรักแท้ของเขา ไม่มีวิธีใดที่จะเยียวยาหัวใจที่บอบช้ำของเธอให้หายขาดได้ เขาจึงมอบความรักทั้งหมดของเขาให้แก่เธอเพื่อชดเชย
คุณท่านเสียว คุณชายยอดเยี่ยมที่โด่งดังในเมือง B ได้แต่งงาน แต่มีข่าวลือว่าเจ้าสาวมีรูปร่างหน้าตาที่น่าเกลียดและมีฐานะต่ำต้อย สามปีมานี้ เขาปฏิบัติกับเธออย่างเย็นชาและทำเหมือนเป็นคนแปลกหน้า เจียงซิงซิงอดทนกับความเย็นชาอย่างเงียบ ๆ เธอยังคงรักเขาอย่างสุดหัวใจ เสียสละความนับถือตนเองและยอมละทิ้งตัวตนของเธอเอง จนกระทั่งวันหนึ่ง สุดที่รักของเขากลับประเทศ เขได้สารภาพว่าเขาแต่งงานกับเธอเพียงเพื่อช่วยชีวิตคนรักในใจของเขาเท่านั้น เจียงซิงซิงเสียใจและผิดหวังมาก เธอจึงเซ็นเอกสารหย่าและจากไปด้วยความเศร้าใจ สามปีต่อมา เจียงซิงซิงผู้สวยงามจนน่าทึ่งกลับมาอีกครั้ง ได้กลายมาเป็นศัลยแพทย์ที่ดีที่สุดและเป็นยอดฝีมือด้านเปียโน อดีตสามีรู้สึกเสียใจ และกอดเธอแน่นท่ามกลางสายฝน เสียงของเขาสั่นเครือ "ที่รัก คุณเป็นของผม..."