“ปล่อยหนูเดี๋ยวนี้นะคะ ถ้าไม่ปล่อยเรื่องนี้ก็จะไม่รู้แค่หนูคนเดียวแน่ แต่ถ้าคุณเตี่ยปล่อยหนู หนูก็จะถือว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างเรา หนูจะถือว่าหนูไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งนั้น” “ได้ ถ้าหนูต้องการแบบนั้น แต่เรื่องที่หนูให้ฉันเลียจนเพลียถึงกับออกมากินข้าวเย็นไม่ได้ เรื่องนี้ก็คงไม่รู้แค่ฉันคนเดียวเหมือนกัน หนูคิดว่าคลิปที่หนูช่วยตัวเอง บีบนม เลียกางเกงในและยัด…” “หยุดค่ะ อย่าพูด!” ฝ่ามือเอื้อมปิดริมฝีปากของคุณเตี่ย ทว่าเขากลับแลบลิ้นออกมาเลียที่ฝ่ามือ จนหล่อนสะท้านแทบยืนไม่อยู่
‘มิลิน’ สาวสวยหมดจดทั้งเนื้อตัว นั่งเหม่ออยู่ริมระเบียงห้องนอน เพราะเข้า 1 เดือนแล้วที่ ‘กวิน’ สามีวัยหนุ่มของหล่อนไปเกณฑ์ทหาร ปล่อยให้หล่อนนอนเฝ้าเรือนหอตามลำพัง
หากรู้ว่าสามีจะสมัครทหาร หัวเด็ดตีนขาดอย่างไรหล่อนก็จะไม่ยอมแต่งงานกับเขาเด็ดขาด เพราะคิดว่าหลังจากแต่งงานจะได้ใช้ชีวิตหวานชื่นแบบผัวหนุ่มเมียสาว ได้หยอกเย้าและร่วมรักกันได้ตามแต่ใจต้องการ อยากไปเที่ยวไหนก็ได้ไป อยากกินอะไรก็ได้กิน อยากทำอะไรก็ทำได้หมด ไม่ต้องคอยขออนุญาตพ่อแม่เหมือนตอนที่ยังเรียนอยู่อีกแล้ว เพราะว่าหล่อนแต่งงานแล้ว สิทธิ์ขาดในตัวหล่อนคือสามี
แต่เรื่องราวไม่เป็นอย่างที่หล่อนคิด เพราะกวินเกิดอยากกินอุดมการณ์ อยากลองใช้ชีวิตแบบชายไทยสู้ๆ ลุยๆ แทนที่จะทำเรื่องผ่อนผันและไปเรียนต่อปริญญาโทอย่างที่เคยคุยกันไว้ กวินกลับไปสมัครเป็นทหาร โดยไม่ถามความเห็นของหล่อนเลย สุดท้ายกลายเป็นหล่อนต้องมาอยู่โยงเฝ้าเรือนหอและนั่งเหงาอยู่แบบนี้ จากที่คิดว่าจะอิสระกลับกลายเป็นอยู่ในกรงที่แน่นหนากว่าเดิม
ลำพังถ้าอยู่บ้านตัวเองหล่อนยังได้ออดอ้อนพ่อแม่ได้ไปเที่ยวไหนมาไหนบ้าง แต่พอมาอยู่กับครอบครัวสามี จะกระดิกไปไหนก็มีสายตาพ่อแม่สามีและคนงานในบ้านจับตามอง เพราะนี่คือธุรกิจกงสี ครอบครัวสามีหล่อนทำร้านค้าส่งวัสดุทำขนมและบรรจุภัณฑ์ใส่ขนมที่ใหญ่ที่สุดในตัวอำเภอ หล่อนที่เป็นสะใภ้ก็กลายมาเป็นเครื่องจักรตัวหนึ่งของธุรกิจอย่างเลี่ยงไม่ได้
ดังนั้นหากหล่อนจะออกไปไหนก็ต้องบอกกล่าวให้พ่อแม่สามีรู้ก่อน หรืออีกนัยหนึ่งหล่อนควรขออนุญาต ในเมื่อสามีไม่อยู่คนที่หล่อนควรขออนุญาตก็ควรจะเป็นพ่อแม่สามี แต่ปัญหาก็คือหล่อนไม่กล้า เพราะกลัวว่าพ่อแม่สามีจะว่าหล่อนเอาแต่เที่ยวเตร่ไม่ยอมช่วยงาน เพราะงานที่ท่านมอบหมายให้ก็เป็นงานที่ต้องการความไว้วางใจเป็นอย่างสูง นั่นคืองานบัญชี
มองอีกมุมนี่คือพ่อแม่สามีเปิดใจ ไม่อย่างนั้นคงไม่มอบหมายงานที่สำคัญให้ แต่จะมองอีกมุม พ่อแม่สามีอาจต้องการทาสที่ไว้วางใจก็ได้ และนั่นคือหล่อน
“เฮ้อ!” คิดแล้วมิลินก็ได้แต่ถอนหายใจ หล่อนอยากออกไปเที่ยวกับเพื่อน
ไฟสว่างวาบที่โทรศัพท์มือถือซึ่งวางอยู่บนเก้าอี้ด้านข้าง ดวงตาสวยชำเลืองมองอย่างไม่สบอารมณ์ และดูจะอารมณ์บูดมากขึ้นเมื่อนั่นเป็นข้อความจากกลุ่มเพื่อนสาวของหล่อน ใบหน้างามอ่อนเยาว์มีแววเง้างอน ริมฝีปากอวบอิ่มสีชมพูระเรื่อเบะขึ้นอย่างระอา เพราะเรื่องยอดฮิตที่จะคุยกัน ก็ไม่พ้นลีลาเด็ดของผัวแต่ละคน
การแลกเปลี่ยนเรื่องราวประสบการณ์เสียวในกลุ่ม คือสิ่งที่หล่อนและเพื่อนตกลงกัน ไม่ว่าใครจะเสียวแบบไหนท่าไหน ดีหรือไม่ดียังไงก็ต้องมาบอกกล่าว มาแนะนำกัน ถ้าดีและมันส์ จะได้ไปทำตามกันบ้าง แต่ถ้าไม่เวิร์คก็จะได้ไม่ทำให้เสียเวลาเสียว
แต่หล่อนตอนนี้ล่ะ “เฮ้อ!” คิดแล้วก็ถอนหายใจหนักๆ อีกหลายครั้ง เพราะตอนนี้หล่อนจะมีเรื่องอะไรไปเล่า หล่อนไม่ได้เสียวมา 1 เดือนแล้ว ถ้าเล่าเรื่องเสียวกับนิ้วตัวเอง เพื่อนคงหัวเราะ แต่แสงไฟแสดงข้อความเข้าต่อเนื่องก็กระตุ้นให้หล่อนต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดอ่านข้อความ
แม้กวินจะไม่อยู่แต่ความอยากของหล่อนไม่ได้ลดน้อยลง มันกลับอยากขึ้นเรื่อยๆ อยากจะควบขี่ดุ้นใหญ่ให้คลายความกระสัน อยากบดเบียดเต่าไฮโซของหล่อนใส่ดุ้นแข็งๆ ของกวิน
คิดถึงวันที่ลักลอบได้เสียกันครั้งแรก กวินเป็นผู้ชายคนแรกของหล่อน ครั้งแรกนั้นหล่อนเจ็บมาก แม้กวินจะค่อยๆ ไป แต่หล่อนก็เจ็บอยู่ดี แต่พอกวินพาดุ้นใหญ่ใส่ร่องฉ่ำน้ำของหล่อนได้ เขาก็แทงไม่ยั้ง นั่นทำให้หล่อนเสียวจนกรีดร้องไม่หยุด และการเสร็จสมครั้งแรกที่ไม่ใช่จากนิ้วตัวเองก็มาเยือน เวลานั้นร่างกายของหล่อนเบาราวล่องลอยขึ้นสู่ที่สูง เหมือนร่างหล่อนลอยคว้างอยู่กลางอากาศ ก่อนจะถูกกวินกระชากลงมาเพื่อเรียนรู้บทเรียนสุขเสียวครั้งใหม่
กวินทำให้หล่อนทุกท่วงท่าตามที่เพื่อนๆ บอกเล่า ไม่ว่าจะเป็นยกขาหล่อนแล้วสอดใส่จากด้านหน้า จับหล่อนคว่ำหน้าแล้วกระแทกใส่จากด้านหลัง ให้หล่อนตะแคงข้างและเสียบดุ้นเข้ามาเสย หรือที่หล่อนชอบที่สุดก็คือ เขานอนราบกับเตียง ให้หล่อนใช้ปากกับดุ้นของเขาจนแข็งโด่ ก่อนที่กวินจะบอกให้หล่อนนั่งลงบนตัวเขา จ่อดุ้นให้ตรงกับร่องเสียวและกลืนกินให้สุดดุ้น นั่นคือความเสียวสุดยอดจนหล่อนสั่นไปทั้งร่าง จากนั้นการควบขี่ม้าอัศจรรย์ก็เกิดขึ้น
หล่อนชอบอยู่ข้างบนเพราะเป็นท่วงท่าที่หล่อนพอใจ สามารถกำหนดจังหวะจะโคนได้เอง หล่อนอยากจะควบขี่เขาเนิบนาบเชื่องช้าและมองเขาครวญครางเรียกร้องให้หล่อน ‘เร็ว!’ หรือจะควบขี่สุดแรงเกิด หรืแเขาร่ำร้องให้หล่อน ‘ช้าก่อน!’ ทั้งหมดหล่อนทำได้ เพราะหล่อนเป็นผู้คุมเกม
ดูเหมือนว่า ‘เซ็กซ์’ ของหล่อนกับกวินเข้ากันได้ดีเป็นปี่เป็นขลุ่ย ทว่าสิ่งที่หล่อนต้องการยังไม่สุด เมื่อเรื่องเล่ากลุ่มเสียวของบรรดาผองเพื่อนมักคุยกันถึงเทคนิคการใช้ ‘ลิ้น’ ของผัวแต่ละคนมากกว่า เพราะ ‘ลิ้นสวรรค์’ คือสิ่งปรารถนาของผู้หญิงแต่ละคน
ว่ากันว่า... ถ้าผัวคนไหนลงลิ้นเลียเต่าน้อยหอยน้อยของเมีย นั่นย่อมแปลว่า ผัวคนนั้นรักเมียมาก
แล้วกวินล่ะรักหล่อนหรือเปล่า แม้กวินจะทำให้หล่อนเสร็จสมในทุกครั้งที่ได้ร่วม แต่เขาไม่เคยลงลิ้นให้หล่อนสักครั้ง เขาเล้าโลมหล่อนทั้งตัว ยกเว้นตรงนั้น เขาไม่เคยแตะสักนิด มันทำให้หล่อนค้าง เหมือนเสร็จแต่ไม่เสร็จ
หากนาไม่แล้ง ข้าวไม่แห้งตาย ‘เดช’ ก็ไม่คิดจะหอบเอา ‘ฟ้า’ เมียรักเข้ามาทำงานในเมืองกรุง แต่ความจนทำให้เลือกไม่ได้ และงานดี เงินดี เจ้านายเห็นใจ ก็เป็นเส้นทางที่ดีที่สุด ทว่า... หากรู้ว่ามาแล้วจะต้องเสียเมียให้นายฝรั่ง เดชเลือกที่จะไม่มาเสียยังดีกว่า แต่... เสียแล้วคือเสียเลย สิ่งเดียวที่จะชดเชยความแค้นก็คือ ‘เมียนาย’ คุณผู้หญิงเร่าร้อน เร่งเร้า รุนแรง และมากครั้งเท่าที่ต้องการ เดชไม่รู้แล้วว่านั่นคือการแก้แค้นหรือรางวัล +++++ ‘เดช’ พา ‘ฟ้า’ เมียรักมาทำงานที่บ้านนายฝรั่ง แต่ ‘คริส’ นายฝรั่งกินเมียเขาไปแล้ว และยังเอาดุ้นยาวใหญ่มาล่อให้ฟ้าติดใจ จนฟ้ากินไม่อิ่มไม่พอ อยากได้อะไรที่เทียบเท่า เขาก็เลยแอบกิน ‘โรส’ เมียของนายฝรั่ง แก้แค้นให้สาสม แต่แค้นช่างแสนหวานและฉ่ำชุ่ม จนเขาต้องกินซ้ำๆ ยิ่งได้กินพร้อมๆ กับพี่โชค เขาก็ยิ่งเมามัน และแน่นอนว่าโรสชอบ ในขณะที่นายฝรั่งกระหยิ่มยิ้มที่ได้กินเมียเขา เดชกลับสุขและยิ้มกว้างยิ่งกว่า เพราะเขาได้กิน ‘คุณหนูแพทตี้’ คุณหนูช่างร่านร้อนไม่ต่างจากแม่ แน่นอนว่าเขาชวนพี่โชคมากินด้วย
‘หากหัวใจปราศจากความแค้น คงไร้แล้วซึ่งลมหายใจ’ สำหรับหล่อน เขาคือชายชุดดำ บอดี้การ์ดหน้านิ่งของพ่อ เคร่งขรึม เก๊กหล่อ หมางเมินใส่ราวหล่อนไม่สำคัญ ก็แน่ล่ะ เพราะพี่สาวเขากำลังจะมาเป็นเมียใหม่ของพ่อ แต่มีเหรอที่หล่อนจะยอม นารีมีรูปเป็นทรัพย์ฉันใด หล่อนก็พร้อมจะลงทุนเพื่อสิ่งที่ได้มา ภายใต้แว่นดำนั้น หล่อนต้องรู้ให้ได้ว่า ‘หัวใจ’ หรือเปล่าที่ซุกซ่อนอยู่ แต่สำหรับเขา... หล่อนคือ เหยื่อ! ที่ความแค้นจะได้เอาคืน
ความรักหรือเพียงความปรารถนาแค่ข้ามคืน พบกับนิยายสุดเร่าร้อน 3 เรื่อง 1.คืนเคาท์ดาวน์ 2.คืนฝนฉ่ำรัก 3.คืนเหงาสาวข้างบ้าน
#มาดามทรายกับชายเลี้ยงม้า เปิดประสบการณ์รักร้อนในฟาร์มม้ากันสักครั้ง หรือจะลองกลิ่นฟางแห้งบ่มแดดอุ่นๆ ในโรงนาก็ไม่เลวนะ +++++ เคิร์กรู้ว่าฉันชอบขี่ม้า เขาจึงสอนให้ฉันขี่ม้าจริงๆ หลังจากขี่เขาจนช่ำชองมาหลายครั้ง และฉันก็หัวไวสอนง่ายซะด้วย เพราะเมื่อฝึกหัดขี่ม้าจริงตอนเย็นเสร็จ พอตกกลางคืนฉันก็ซ้อมขี่กับม้าเทียมอย่างเคิร์กอยู่ทุกวัน ไม่ได้ว่างเว้น และก็มีบ้างเป็นบางวันที่ฉันทนไม่ไหวและเคิร์กก็อดไม่ได้ เมื่อฟางใหม่หอมกลิ่นแดดเร่งเร้าความกำหนัดของเราเหลือเกิน เคิร์กก็จะพาฉันไปซ้อมขี่กันที่คอกม้าในโรงนาซะหลายครั้ง และความตื่นเต้นก็ทำให้ฉันกับเคิร์กคึกคักกันมากเป็นพิเศษ ยามที่ฉันควบขี่เคิร์กอยู่ในโรงนา กลิ่นฟางแห้งที่รองรับร่างกายยิ่งใหญ่ของเขาอยู่นั้น เร้าใจจนฉันควบขี่เขาได้ไวกว่าที่เคยทำได้ บั้นเอวและช่วงบั้นท้ายทำหน้าที่โยกตัวไปข้างหน้าและโย้มาข้างหลัง ทว่าปากก็ร่ำร้องบอกถึงความเสียวซ่านที่ดุ้นบังเหียนกระทำกับร่องลึกลับของฉันอยู่ตลอดเวลา
พี่หนึ่งจะทำยังไงถ้าต้องเจอหน้า ‘พี่ชมพู่’ อยู่ทุกวัน รุ่นพี่สาวสวยที่เขาเคยไปสารภาพรัก แต่เธอกลับปฏิเสธอย่างไม่มีเยื่อใยด้วยข้อหา ‘เด็กไป’ ครั้งนี้ พี่หนึ่งตั้งใจจะลบคำสบประมาทให้ได้ พี่ชมพู่จะได้รู้ว่า ‘รุ่นน้อง’ ก็ทำอะไรได้หลายๆ อย่างไม่แพ้รุ่นพี่ โดยเฉพาะพี่หนึ่งน่ะจบด็อกเตอร์สาขา ‘เซ็กซ์ศาสตร์’ มาซะด้วย ‘เด็กกว่าแล้วไง’ รุ่นพี่ถ้ามาเจอ ‘รุ่นน้อง... สายดาร์ก’ จะทนได้เหรอ พี่หนึ่งจะพิสูจน์เอง
เพราะเป็นคนสวน 'เมฆ' จึงต้องรดน้ำดอกไม้ของ 'คุณนายชวนชม' ทั้งวัน...ทั้งคืน ‘คุณนายครับ’ เป็นเรื่องราวความเร่าร้อนของ ‘เมฆ’ คนสวนหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ผิวกายดำแดง ตามแบบฉบับคนท้องไร่ท้องนาเต็มขั้น เมื่อเมฆต้องมาทำสวนที่บ้านของ ‘คุณนายชวนชม’ เมฆก็เลยต้องเป็นคนสวนที่ดีที่สุด ดังนั้นดอกไม้ในบ้านของคุณนายไม่ว่าจะมีกี่ดอก เมฆก็ต้องทำหน้าที่รดน้ำดอกไม้เหล่านั้นให้ชุ่มฉ่ำ ทั้งวันและทั้งคืน
ผมต้องทำงานนอกเวลาทุกวันเพื่อหารายได้ประคองชีวิตและจ่ายค่าเรียนมหาวิทยาลัยด้วยตัวเอง เนื่องจากฐานะครอบครัวยากจนและไม่สามารถส่งเสียผมเข้ามหาวิทยาลัยได้ และตอนเรียนที่มหาวิทยาลัย ผมก็ได้พบกับเธอ-สาวแสนสวยที่หนุ่มๆ ทุกคนในชั้นเรียนต่างก็ใฝ่ฝันถึง ไม่เว้นแม้แต่ผมเอง แต่ผมก็รู้ตัวดีว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเธอ ถึงอย่างนั้นก็ตาม ผมก็รวบรวมความกล้าสารภาพกับเธอจนได้ สุดท้ายผมนึกไม่ถึงว่าเธอจะยอมตกลงเป็นแฟนกับผม เธอบอกกับผมว่าอยากได้ของขวัญเป็นไอโฟนรุ่นล่าสุด ผมก็ไปรับงานซักเสื้อผ้าให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนเพื่อพยายามเก็บเงินซื้อให้เธอจนได้ และในที่สุดหนึ่งเดือนต่อมา ผมก็ซื้อมาได้จริง ๆ แต่ขณะที่ผมกำลังห่อของขวัญเพื่อนำไปมอบให้เธอ ก็พบว่าเธอกำลังมีอะไรกับหัวหน้าทีมฟุตบอลในห้องล็อกเกอร์ เธอเหมือนเปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่งซึ่งผมไม่เคยรู้จักเลย เธอหัวเราะเยาะความโง่เขลาของผม เหยียดหยามศักดิ์ศรีของผม ปล่อยให้เขาซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นแฟนใหม่ของเธอไปแล้ว ทุบตีผม ผมนอนเจ็บอยู่บนพื้นอย่างสิ้นหวัง ต่อมา จู่ ๆ ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากพ่อ ตั้งแต่วันนั้น ชีวิตของผมก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างกับหนัามือเป็นหลังมือ ใครจะไปรู้ว่า ผมเป็นลูกชายของมหาเศรษฐี
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
"นางเป็นบุตรีผู้สูงศักดิ์ของฮูหยินเอกของจวนเสนาบดี นางมีหน้าตาโดดเด่น ทั้งอ่อนโอนและมีน้ำใจไมตรีต่อผู้อื่น แต่... นางทำดีต่อป้าของนาง นางกลับฆ่าแม่ของนางตาย นางรักเอ็นดูน้องสาวของนาง แต่น้องสาวกลับแย่งสามีของนางไป นางคอยสนับสนุนและดูแลสามีของนางอย่างสุดหัวใจ แต่สามีกลับทำให้นางตายทั้งกลม...ตระกูลฝ่ายมารดาของนางก็ถูกประหารชีวิตทั้งตระกูลด้วย นางตายตาไม่หลับและสาบานว่าหากมีชาติหน้า นางจะไม่เมตาตาต่อใครอีก ใครก็ตาม กล้ามาทำร้ายข้า ข้าจะล้างแค้นด้วยชีวิตทั้งตระกูลของพวกเจ้า เมื่อเกิดใหม่อีกครั้ง นางอายุได้สิบสี่ปี นางสาบานว่าจะต้องเปลี่ยนชะตากรรมและแก้แค้นชาติก่อน ป้านางใจ้ร้าย นางจะใจร้ายกลับยิ่งกว่านาง นางคิดจะได้ครองตำแหน่งฮูหยินงั้นเหรอ บอกเลยไม่มีทาง! ส่วนน้องสาวชอบผู้ชายชั่ว ๆ นักไม่ใช่หรือ ได้!ข้าจะยกให้เลย ส่วนชายชั่วนั่น ข้าจะทำให้เจ้าไม่สามารถมีทายาทได้อีกตลอดทั้งชาติ!แต่ข้าจะแก้แค้น เหตุใดเจ้าต้องมาช่วยข้าด้วย?"
เพราะคิดว่าเป็นความฝัน ฉินหร่านจึงร่วมมือบรรเลงเพลงรักอย่างไม่ได้ตั้งใจ ไฉนตื่นขึ้นมาถึงมีสามีเป็นของตัวเอง อีกทั้งสามีนางยังตาบอดอีกด้วย! แต่นั่นไม่น่าตกใจ เท่ากับที่นางมาอยู่ในร่างเด็กสาวในยุคจีนโบราณ ที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ อีกทั้งร่างนี้ถูกขายให้มาเป็นภรรยาของชายตาบอด แต่ไหนๆ ก็มาแล้วจึงจะใช้ชีวิตให้ดี ส่วนสามีนะหรือ หล่อขนาดนั้น แซ่บขนาดนี้ เดินหน้าเกี้ยวสามีสิ จะรออะไร!
ในสายตาของเขา เธอเป็นคนขี้โกหก ในสายตาของเธอ เขาเป็นคนไร้หัวใจ เดิมทีถังหว่านคิดว่าเธอคือคนพิเศษหลังจากอยู่กับเสิ่นติงหลานมาสองปี แต่สุดท้ายก็พบว่าตัวเองเป็นแค่ของเล่นที่สามารถทิ้งได้อย่างตามใจเมื่อไม่มีค่าอีกต่อไป จนกระทั่งถังหว่านเห็นว่าเสิ่นติงหลานพาคนรักของเขาไปตรวจครรภ์ เธอจึงยอมแพ้แล้ว เธอหยุดติดตามเขาอีก แต่จู่ๆ เขากลับไม่ยอมปล่อยเธอไป "ถ้าคุณไม่เชื่อฉัน ทำไมคุณไม่ปล่อยฉันไปล่ะ?" ชายผู้เคยหยิ่งยะโสขนาดนั้น ตอนนี้ก้มหัวลงและขอร้องว่า "หวานหว่าน ฉันผิดไปแล้ว โปรดอย่าทิ้งฉันไป"
หลังจากแต่งงานกันมาสองปี สามีของเธอไม่เคยเหยียบเข้าไปในบ้านและมองดู 'ภรรยาขี้เหร่' ของเขาเลย แถมเขาก็มีเรื่องอื้อฉาวกับดาราหน้าใหม่หลายคนทุกวัน ซูเหว่ยทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอตัดสินใจปล่อยเขาไป ต่อไปก็ต่างคนต่างไปเลย แต่เมื่อเธอเสนอเรื่องหย่า... ฟู่เหยียนอันพบว่านักออกแบบในบริษัทนั้นสะดุดตาเป็นพิเศษ เขาค่อยๆ ทำความรู้จักกับเธอเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาค้นพบตัวตนที่แท้จริงของเธอเข้า เขาเสียใจแล้ว