คืนนี้วาบหวามซาบซ่านหัวใจ ประกอบด้วยนิยาย 6 เรื่องดังนี้ 1. อุ้มรักทายาทท่านประธาน 2. หื่นกว่านี้ก็พี่ไง 3. พี่ขาอย่าหื่น 4. ค่ำคืนนี้มีแต่หื่น 5. คืนนี้มีเสียว 6. คืนนี้วาบหวามซาบซ่านหัวใจ
อุ้มรักทายาทท่านประธาน เล่ม 1
วันเผด็จทอดสายตามองเลขาคนสวยของมารดาแล้วต้องแตะลิ้นเลียริมฝีปากตัวเองเบาๆ
เจ้าหล่อนอวบอัดน่าจับขย่มบนเตียงเสียนี่กระไร ในความคิดของเจ้านายหนุ่มเธอเหมือนอาหารหวาน หรืออาหารจานโปรดที่เขาอยากเคี้ยวกินเสียให้อร่อยลิ้น
วันเผด็จ ราชกร หนุ่มหล่อวัยยี่สิบเจ็ด เขาเพิ่งจบการศึกษาจากต่างประเทศมาหมาดๆ ควบตำแหน่งทายาทเจ้าของกิจการอสังหาผู้ร่ำรวยติดอันดับต้นๆ ของประเทศ
จะหาเลขาสาวสวยถูกใจนั้นไม่ยาก แต่เขาหมายตาเลขาของมารดาที่ทำงานเก่งและยิ้มเก่งไม่แพ้กัน จะว่าเธอทอดสายตาให้เขาก็ย่อมได้ หรือจะว่าเขาคิดเข้าข้างตัวเองก็ไม่ผิด
รูปหล่อพ่อรวย การศึกษาดี ย่อมมีสาวๆ หมายปองเป็นของธรรมดา
ถึงเขาจะดูเพลย์บอย แต่เขาก็อยากพิสูจน์ตัวเองให้ทุกคนยอมรับ โดยเฉพาะคนในครอบครัว เขาจึงต้องการเลขาคู่ใจที่ทำงานเก่ง ไปไหนมาไหนด้วยกันได้โดยไม่มีเรื่องหึงหวงจากแฟนหรือสามีของเจ้าหล่อน
วันเผด็จค่อนข้างเลือกคน เขาไม่ชอบคนมีอายุเพราะแรงกายแรงใจไม่เหมือนคนหนุ่มไฟแรง เพิ่งจบใหม่ก็ไร้ประสบการณ์ ดังนั้นอยากได้ที่มีประสบการณ์แต่เพิ่งทำงานได้ไม่นาน เพราะเขาคิดว่าจะขยันและตั้งใจทำงานเพราะอยากพิสูจน์ฝีมือเช่นกัน
นอกจากการทำงานแล้ววันเผด็จก็คือเรื่องอื่นด้วยตามประสาผู้ชายเจ้าสำราญ เขาไม่ใช่พระอิฐพระปูนแต่ก็เลือกสรรเป็นอย่างดี คบกันแล้วไม่ผูกมัด วินๆ กันทั้งคู่ แต่ก็ต้องพึงใจต่อกันด้วย การบังคับไม่ใช่เรื่องที่ดี เพราะเขาไม่ได้ไร้หญิงพึงเชยไม่มีใครเอา
การหอบเอาใบปริญญาและประสบการณ์การทำงานจากต่างประเทศทำให้บิดามารดาที่อยากปลดเกษียณตัวเอง มอบหน้าที่ให้ลูกชายคนเดียวอย่างวันเผด็จด้วยความยินดี
วันเผด็จอยากให้บิดามารดาพักผ่อนตามที่ท่านต้องการ
จริงๆ แล้วถ้าจะพูดให้ถูกคือ เลขาที่มารดาหวงแหนรักใคร่นั้นก็เป็นบุตรสาวของเพื่อนรักที่ท่านนั้นเอ็นดูให้มาทำงานด้วยกัน เพราะบิดามารดาของหล่อนได้เสียชีวิตไปเมื่อหลายปีก่อน หล่อนจึงเหลือตัวคนเดียว
ก่อนที่ท่านจะส่งเลขาหน้ามนมาทำงานกับเขา ท่านก็พูดจาดักคอเอาไว้แล้วว่าดูแลกันดีๆ อย่าให้มีเรื่องอะไรไม่ดี ประโยคของมารดาและท่าทีหวงแหนของท่านทำให้เขายิ่งอยากที่จะทำความรู้จักกับเจ้าหล่อนให้มากขึ้นไปอีก
ดาหวัน ตะวันวาดเป็นชื่อของเลขาสาวคนสวย อายุอานามของเธอยี่สิบสามย่างยี่สิบสี่
เธอเรียนเก่งคว้าปริญญาเกียรตินิยมอันดับหนึ่งมาได้ โดยจบการศึกษาในวัยเพียงยี่สิบเท่านั้น
หล่อนสวย ดูดี เสื้อผ้าหน้าผม เรือนร่างของหล่อนก็เป็นที่สะดุดตาสำหรับเขายิ่งนัก ยิ่งได้อยู่ใกล้เขาก็ยิ่งรู้สึกพอเศษกับเจ้าหล่อน
เนื้อตัวหอมสะอาด คำพูดคำจาแถมการทำงานยังดีเยี่ยม เขาจึงไม่สงสัยเลยว่าทำไมมารดาถึงได้รักใคร่บุตรสาวของเพื่อนรักเช่นนี้
ยิ่งมารดาหวงแหน เขายิ่งอยากชิดใกล้ อยากยัดเยียดตัวเองให้เธอ มีผู้หญิงสาวๆ สวยๆ มากมายแต่ไม่มีใครทำให้เขารู้สึกปรารถนาได้เช่นเธอ
“ท่านประธานเมาแล้วนะคะ” ดาหวันเอ่ยบอกเจ้านายหนุ่มอย่างห่วงใย วันนี้เขาเอาแต่เมามายเพราะเจรจางานกับลูกค้าไม่สำเร็จ เธอก็นึกเห็นใจเขาเพราะเขาจริงจังกับงานและอยากพิสูจน์ตัวเองให้ทุกคนยอมรับ
“ผมอยากเมา อยากเมาให้ลืมความผิดหวังเสียใจ”
“เรื่องเล็กน้อยสำหรับการทำงานค่ะ ทำงานก็ต้องมีผิดพลาดหรือผิดหวังไม่สมหวังกันบ้าง” เธอปลอบเขาไปตามประสา
“คุณรำคาญคนเมาแบบผมเหรอ” เขาเอ่ยถาม เธอจึงรีบส่ายหน้าไปมาพลางยิ้มให้เขาอย่างปลอบประโลม
เธอช่างเป็นคนดีในความคิดของเขา ไม่เคยถือสาหาความอะไรกับใคร มีน้ำใจกับคนอื่น ขนาดผู้ชายจีบยังไม่รู้
นี่แหละ! ขนาดผู้ชายจีบยังไม่รู้ ช่างไม่รู้อะไรเสียบ้างเลย
วันเผด็จจับมือของเธอมากุมเอาไว้ เขานำมือน้อยๆ มาแนบกับใบหน้า บอกเลยว่ามือของเธอหอมมาก น่าจับ น่าจูบ น่าลูบ น่าคลำ
เธอไร้เดียงสาแบบนี้แหละ เขาถึงได้ตกหลุมรักเลขาสาวของตัวเอง หลังจากที่ทำงานด้วยกันมาพักใหญ่
วันเผด็จมองสองเต้าเต่งตึงที่ดันเสื้อสูทที่เธอสวมใส่อยู่นั้นอย่างหักห้ามใจไม่ไหว เขาไม่ได้คิดจะลามกกับเธอเลย แต่เขาคิดอยากจะลากเธอขึ้นเตียงเสียตอนนี้เลย
ในหัวสมองของเขาคิดเรื่องเซ็กซ์ร้อยเปอร์เซ็นต์ เขายอมรับกับตัวเองว่าพิศวาสเธอเป็นที่สุด
เขาว่าผู้ชายทุกคนก็ย่อมคิดเรื่องเซ็กซ์เป็นธรรมดา เขากะขนาดสองเต้าทรวงของเธอไม่กว่าสามสิบหกนิ้ว และมันก็อวบอัดจนเขาอยากขยำเคล้นคลึงเสียเหลือเกินแล้วในตอนนี้
รสนิยมของเขาไม่ต่างจากผู้ชายทั่วไปคือชอบของใหญ่และอวบอัด
ปากของเขาอยากจะดูดรวบกอดรัดและขยำให้มันมือไปเลยหากได้สัมผัสแตะต้องทรวงอกอวบอิ่มของเจ้าหล่อน
“คุณรู้ไหมว่าคุณน่ารักมากนะ มีน้ำใจแล้วก็ทำให้ผมรู้สึกมีแรงกายแรงใจในการทำงาน” คนเมาพร่ำเพ้อออกมา ทำให้ดาหวันยิ้มให้เขาอย่างน่ารัก
หุ่นของเธอเท่ทันสมัยดูดีแล้วยังน่าฟัดอีกด้วย วันเผด็จแอบไล้สะโพกผายของเธอเบาๆ เมื่อไม่ได้รับการปฏิเสธอันใด เขาก็ขยับเข้าไปใกล้
เขาคิดว่าหนุ่มๆ ในบริษัทไม่ว่าจะใครๆ ก็อยากลิ้มรสของเจ้าหล่อน ผู้หญิงน่ารัก อ่อนเดียงสา ทำงานเก่งแต่ไม่คิดเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ แบบหล่อนทำให้ดูมีเสน่ห์เสียยิ่งกว่าอะไร
เขาอยากจะลิ้มรสอาหารหวานอันโอชะอย่างหล่อนเช่นกัน
“ผมบอกคุณแม่แล้วนะครับว่าจะดูแลคุณอย่างดี”
“ดาเป็นเลขาของท่านประธาน ก็ต้องดูแลท่านประธานสิคะ จะให้ท่านประธานมาดูแลดาได้ยังไงกัน” เธอบอกเขายิ้มๆ
ความน่ารักอ่อนหวานและมีเสน่ห์ของเธอทำให้เขาเผลอยกมือขึ้นจับแก้มสาวของเธอเบาๆ
“อุ๊ย! สงสัยท่านประธานจะเมาแล้วค่ะ” เธออุทานเบาๆ เมื่อเขาสัมผัสแก้มของเธอ
“ก็น่าจะเมาแหละครับ ดื่มเข้าไปเยอะ” เขาไม่ได้บอกเธอหรอกว่าลูกค้าพึงพอใจกับงานที่เขาเสนอแค่ไหน แต่บอกเธอไปว่าลูกค้าปฏิเสธ
คืนนี้เขาได้กินเธอเมื่อไหร่ ค่อยบอกว่าลูกค้าเปลี่ยนใจชอบงานที่เสนอไปก็ยังไม่สายจนเกินไป
เขาบอกตัวเองเลยว่า เขาตั้งใจที่จะกินเธอให้สำเร็จในค่ำคืนนี้ จึงพาเธอมาที่คอนโดฯ ส่วนตัว และแกล้งเมามายไม่ได้สติแบบนี้
ยอมรับว่าแผนการมันช่างชั่วร้ายเสียเหลือเกิน แต่ในเมื่อเธอไม่ได้ปฏิเสธที่จะมากับเขา แล้วเหตุไฉนเขาต้องปล่อยเธอไปด้วย
“ท่านประธานควรจะพักผ่อนได้แล้วนะคะ”
“คุณจะกลับแล้วเหรอ” เขาเอ่ยถามเธอ
“ท่านประธานมีอะไรจะเรียกใช้อีกไหมคะ” เธอไม่ได้รีบกลับเพราะนึกเป็นห่วงเขาอยู่มาก
“ถ้าผมอยากให้คุณอยู่ต่อ คุณก็จะอยู่ใช่ไหม”
“ได้สิคะ ดายินดีอยู่ดูแลท่านประธานค่ะ”
น้ำเสียงนุ่มนวลของหล่อนทำให้วันเผด็จกระหยิ่มในใจขึ้นมาทันที
วันนี้เขาจะติววิชาสวาทให้กับเลขาสาวคนสวยอย่างชนิดที่ว่าเนื้อแนบเนื้อกายแนบกายกันเลยทีเดียว
เธอเก่งกาจเรื่องงาน เขาก็อยากให้เธอเก่งกาจเรื่องบนเตียงด้วยเช่นกัน
“คุณดื่มเป็นเพื่อนผมหน่อยสิ” เขายกแก้วเหล้ายื่นมาตรงหน้าของเธอ
“จะดีเหรอคะ”
“ทำไมล่ะ หรือคุณรังเกียจผม”
“ไม่ใช่หรอกค่ะ ดาแค่คิดว่าถ้าเมาแล้วจะขับรถกลับบ้านไม่ไหวน่ะค่ะ” เธอขับรถมาส่งเขา เพราะว่ารถของเขาดันเสีย เขาเสียใจจนเมา เธอก็นั่งเป็นเพื่อน คอยดูแลเขา พยายามห้ามปรามไม่ให้เขาดื่มเข้าไปเยอะ
“ถ้าคุณเมาก็นอนค้างที่คอนโดฯ ผมก็ได้ ผมนอนข้างนอกเอง คุณนอนในห้อง แต่ถ้าคุณไม่สะดวก อึดอัดใจ และรังเกียจไม่อยากดื่มกับผมก็ไม่เป็นไร” เขายังพูดต่อ
“ไม่ได้รังเกียจเลยค่ะ แต่ดาดื่มไม่ค่อยเก่ง อาจจะดื่มได้ไม่มากนะคะ” เธอแบ่งรับแบ่งสู้ไม่อยากให้เขาอยู่คนเดียว อาจเพราะว่ามารดาของเขามีบุญคุณกับเธอค่อนข้างมาก
เขาชนแก้วกับเธอแก้วแล้วแก้วเล่า คะยั้นคะยอให้เธอดื่มอย่างมีแผนการ ไม่ว่าเช่นไรในค่ำคืนนี้เขาก็ต้องได้เธอ เขาค่อยๆ โอบกอดเธอเอาไว้ ดาหวันพยายามถอยหนี เขาก็รีบรั้งเธอเอาไว้
ปานวาดตื่นขึ้นมาด้วยอาการอ่อนเพลียและปวดหัวอย่างรุนแรง เธอค้นพบว่าไม่ได้นอนอยู่คนเดียว กวาดสายตามองรอบตัวก็เห็นเพียงห้องไม่คุ้นตา แต่ที่ทำให้เธอตกใจแทบช็อกก็เพราะว่าร่างเปลือยเปล่าของผู้ชายข้าง ๆ “กรี๊ด!!!” ปานวาดกรีดร้องสุดเสียง ปลุกให้เชนที่นอนอยู่ข้าง ๆ สะดุ้งตื่น เขารีบคร่อมทับร่างของเธอเอาไว้ ก่อนที่จะจัดการอุดปากของเธออย่างตกใจเช่นกัน “กรีดร้องทำไมแม่ตัวดี เดี๋ยวคนก็แห่กันมาหรอก” “อื้อ ๆ ๆ” เธอร้องประท้วง อึก ๆ อัก ๆ อยู่ใต้ร่างหนาหนัก ดวงตาเบิกกว้างอย่างตกใจ “ถ้าเธอไม่ร้องพี่จะปล่อยเธอ เข้าใจไหม” เธอรีบพยักหน้า แต่พอเชนปล่อยมือเธอก็กรีดร้องอีก “กะ.. กรี๊ด! อื้อ...” เชนอุดปากของเธอเอาไว้ กอดปล้ำกันจนเตียงสั่นไปหมด สุดท้ายเชนก็กระแทกริมฝีปากลงไปหา บดจูบเพื่อปิดเสียงร้องของเธอ แต่จูบไปจูบมาดันมามีอารมณ์ อาจเพราะเบื้องล่างไม่มีอะไรสวมใส่อยู่เลย ทำให้แก่นกายชายของเขาเสียดสีกับน้องสาวของเธอถนัดถนี่ “ไม่เงียบใช่ไหม งั้นพี่คงต้องหาอะไรอุดปากของเธอซะ”
โปรย คลั่งรักเมียทาส เพราะพี่สาวขโมยเงินและเครื่องเพชรหนีไป เขาจึงต้องจับเธอเอาไว้เป็นตัวประกัน เป็นทาสบำเรอรักบนเตียงกว้างอันแสนเร่าร้อน เหนือสิ่งอื่นใดยังมีบางอย่างแอบแฝงที่เธอไม่เคยรับรู้มาก่อน ว่าเขาอยากได้เธอตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น และคลั่งรักเธอมากเพียงใด ตัวอย่างบางช่วงบางตอน มยุรินมองเขาอย่างชื่นชม เขาหล่อ ดูดี ร่ำรวย และเซ็กซี่เหลือร้าย แต่เขาก็ร้ายกาจมากเช่นกัน ไม่น่าเชื่อว่าเธอจะหลงรักผู้ชายร้ายกาจคนนี้ได้ เด็กสาวอยากที่จะเจียมเนื้อเจียมตัว แต่ก็ทำไม่ได้เมื่อใจเจ้ากรรมดันตกหลุมคนใจร้ายอย่างเขาไปเสียแล้ว "อาบน้ำให้ฉันหน่อย" เขาเชยคางสาวให้แหงนขึ้นมาสบตา ก่อนที่ก้มลงมาบดจูบอย่างร้อนแรง "คุณชัชคะ หนูเหนื่อยจังค่ะ" เธอประท้วงน้อย ๆ ในชณะที่ชัชมองเด็กสาวด้วยสายตาร้อนแรง "เธอเป็นทาสของฉันจำไม่ได้หรือไง ถ้าเธอทำตัวดี ๆ เจอพี่สาวเธอเมื่อไหร่ฉันจะไว้ชีวิต หรือเธออยากให้พี่สาวของเธอตาย" "ไม่ค่ะ" มยุรินรีบส่ายหน้าไปมา "ก็อย่าขัดใจฉันสิ" ชัชพูดเสียงกร้าว มองเด็กสาวเหมือนจะกลืนกิน "หนูแค่เหนื่อยน่ะค่ะ" เขาตื่นมาตอนเที่ยงแล้วลากเธอขึ้นเตียงจนเกือบเย็น ก้นของเธอปวดเมื่อยระบบไปหมดแล้ว ช่องคลอดเหมือนจะฉีกขาดเสียให้ได้ ชัชกระแทกไม่ยั้งจนช่วงล่างของเธอแทบพัง เธอตกเป็นของเขาในครั้งแรกยังบริสุทธิ์ผุดผ่อง เขายิ่งรู้ก็ยิ่งเอา ไม่ได้บันยะบันยังตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา "นอนอ้าขาเฉย ๆ เหนื่อยด้วยเหรอ บอกให้ตอดก็ทำบ้างไม่ทำบ้าง" เขาสลัดผ้าห่มที่คลุมกายของเธอออก มยุรินร้องเบา ๆ เพราะตอนนี้ร่างเปลือยเปล่าเปิดเผยต่อสายตาของเขาอีกครั้ง "หนูจะขาดใจแล้วค่ะ" เธอบอกเขาเสียงสั่น กอดอกหน้าแดง แต่เขากระชากแขนที่กอดอกของเธอออก ทำให้ปทุมถันอวบเต็มเด้งไปมาจากแรงขยับ ริมฝีปากหน้าร้ายกาจก้มลงงับดูดอย่างเร่าร้อน
เธอแอบรักเขา จึงยอมเขาทุกอย่าง จนกระทั่งวันที่เธอตั้่งท้อง เธอต้องเลือกระหว่างการทนอยู่กับคนที่ไม่รัก หรือจากไปพร้อมกับลูกน้อยที่กำลังจะลืมตาดูโลก
"วันนี้เธอมาหาฉันทำไม" พายัพเอ่ยถามพลางไล่สายตามองร่างสมส่วนไม่วางตา "หนูจะมาขอผัดผ่อนหนี้สินของคุณพ่อไปก่อนจะได้ไหมคะ" เธอบอกเขาเสียงสั่น "ได้สิ มีอะไรแลกเปลี่ยนไหม" เขาแตะลิ้นเลียริมฝีปาก "ตัวหนูพอจะแลกเปลี่ยได้ไหมคะ" เธอรู้ว่าเขาอยากได้เธอ แม้จะรังเกียจเขาเพียงใด แต่เธอก็ต้องทำเพื่อครอบครัว "ก็พอได้นะ" เขายกยิ้มมุมปาก รอยยิ้มแบบนี้ทำให้เธอต้องกัดปากตัวเอง เขาชอบยิ้มแบบนี้เสมอ ผู้ชายตรงหน้าคือมาเฟียตัวร้าย เขามีเงิน มีอำนาจ ยิ่งใหญ่คับบ้านคับเมืองเสียเหลือเกิน เธอเป็นเพียงแค่เด็กสาวที่ไม่สามารถต่อกรอะไรกับเขาได้เลย "ไหนลองช่วยตัวเองให้ฉันดูหน่อยสิ" ประโยคของเขาทำให้ข้าวหอมหน้าชาด้วยความอาย ฃ เพี้ยะ!!! เธอตบหน้าเขาจนหน้าหัน ไม่รู้เหมือนกันว่ากล้าตบหน้าเขาแบบนี้ได้อย่างไรกัน ใบหน้าของพายัพกระด้าง เขาดุนดันกระพุ่งแก้มเบา ๆ คล้ายเจ็บ ๆ คัน ๆ ดวงตาคมกริบของเขามองเธอไม่วาง "ชอบตบจูบอย่างนั้นเหรอ" เขากระชากเธอเข้ามาหา ก่อนจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงดุดัน "ปล่อยหนูนะ" "ไม่เคยมีใครกล้าตบหน้าฉันมาก่อน" พายัพดันร่างของเด็กสาวไปจนชิดกับผนัง กวาดสายตามองเธอไม่วาง "ถ้าฉันยังไม่ได้ทดสอบสินค้าจะรู้ได้ยังไงว่ามันคุ้มกับการแลกเปลี่ยนหรือเปล่า เพราะไอ้แฟนของเธอคงไม่ปล่อยให้เธอยังเวอร์จิ้นอยู่กระมัง" ประโยคของเขาทำให้ข้าวหอมหน้าชาอีกครั้ง ทั้งอับอาย ทั้งโกรธเกลียดเขาอย่างเหลือล้น เจ้าหนี้หน้าเลือดของบิดา!!!
เธอปลอมตัวไปเป็นเลขาของเขาเพื่อจะจับผิดว่าเขานอกใจเธอหรือเปล่า เพราะแท้ที่จริงเขาคือคู่หมั้นของเธอที่เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ แต่ปลอมตัวอย่างไรไม่ทราบ ดันไปตกเป็นเมียของเขาเสียนี่ ตัวอย่างบางช่วงบางตอน “ต่อไปผมจะมารับคุณไปทำงานทุกวัน” “รับทำไมคะ” พิมพ์พิศาอุทานออกมา กำลังคิดอยู่เชียว เขาเหมือนรู้ว่าเธอคิดอะไรเลยพูดดักคอออกมาแบบนี้ “คุณเป็นเลขา เผื่อผมมีงานด่วนอะไรต้องเรียกใช้คุณ คุณก็ต้องพร้อมทุกสถานการณ์ คุณไปทำงานพร้อมผมน่ะดีแล้ว” “เจ้านายคนอื่นเขามารับเลขาไปทำงานด้วยกันแบบนี้ไหมคะ” เธอประชด “รับ” คำสั้น ๆ ของเขาทำให้เธอค้อนเขาเสียวงใหญ่ “เพิ่งรู้นะคะนี่” “คุณกินอาหารเช้าหรือยัง” เสียงท้องของเธอเป็นคำตอบ ทำเอาพิมพ์พิศาต้องลูบท้องตัวเองอย่างเขินอาย “ผมคงไม่ต้องถามคุณซ้ำหรอกนะว่าคุณหิวหรือไม่หิว” ระยะทางที่ขับรถมาถึงคอนโดฯ ของเขาไกลพอสมควร เธอเหลือบมองเขาพลางคิดในใจว่าเขาขับรถจากคอนโดฯ มารับเธอไกลขนาดนี้เชียวหรือ พิมพ์พิศารีบเสไปมองข้างทางเมื่อเขาหันมาสบตากับเธอเข้าพอดี เธอกำลังมองเขาเพลินเชียว เวลาอยู่กับเปรม เธอรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองพอสมควร สมบูรณ์จอดรถหน้าคอนโดฯ หรูของเปรม ก่อนจะรีบลงไปเปิดประตูให้คนทั้งสอง ในขณะที่พิมพ์พิศากำลังเก้ ๆ กัง ๆ อยู่นั้น เปรมก็แตะข้อศอกของเธอเบา ๆ ทำให้หญิงสาวถึงกับสะดุ้ง “ตามผมมาสิ” เขาเอ่ยกับเธอก่อนจะเดินนำเข้าไปด้านใน พิมพ์พิศาเริ่มลังเลว่าจะตามเขาขึ้นไปดีไหม เธอเป็นผู้หญิงจะขึ้นห้องไปกับผู้ชายมันก็ดูไม่ดี “เร็วสิคุณ เดี๋ยวไปทำงานสายนะ เรามีเวลาไม่มาก” เขายกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู เร่งเร้าให้เธอเดินตามเขาไป พิมพ์พิศาจึงต้องรีบตามเขาขึ้นไปบนห้องพัก “เชิญครับ” เขาเปิดประตูห้องให้เธอ ก่อนจะผายมือให้เธอเข้าไปด้านในก่อน เธอยืนอึ้ง ๆ ทำตัวไม่ถูกอยู่หน้าประตู แต่ก็โดนเขาดันร่างเข้ามาภายในห้องโดยไม่ทันตั้งตัว เพียงแค่ประตูปิดลง เปรมก็กดร่างของเธอไปกับผนังห้อง ก่อนที่ริมฝีปากหนาจะบดจูบเข้าหาปากของเธออย่างเร่าร้อน “อื้อ... ท่านประธานทำอะไรคะ” พิมพ์พิศาดิ้นรน แต่มือหนาของเขากดมือเธอไปกับผนังห้องไม่ยอมปล่อย “ผมหิว” “หิวอะไรคะ อื้อ... พอก่อนค่ะ” ถามอีกก็ถูกจูบอีก จูบจนปากแทบช้ำ “หิว” เขาตอบสั้นน้ำเสียงอ้อยอิ่ง มองริมฝีปากจิ้มลิ้มของเธอไม่วาง สายตาของเธอนั้นทำให้ท้องไส้ของเธอปั่นป่วนยิ่งนัก “ท่านประธาน อย่าค่ะ” เธอเบี่ยงหลบเมื่อเขาทำท่าจะประทับจุมพิตลงมาอีกครั้ง “ทำไมเรียกพี่เสียห่างเหินแบบนั้นล่ะ” “คะ” พิมพ์พิศาหลุดอุทานออกมา มองเขาตาปริบ ๆ พลางกัดปากตัวเองด้วยความรู้สึกใจสั่นสะท้าน อย่าบอกนะว่าเขารู้ความจริงหมดแล้ว “อุตส่าห์นั่งรถไปตั้งไกล เหนื่อยไหม”
ตัวอย่างบางช่วงบางตอน “เดี๋ยวบ่าวไปเอาขมิ้นกับมะขามเปียกก่อนนะเจ้าคะ คุณบัวรออยู่ที่ท่าน้ำก่อนนะเจ้าคะ” “จ้ะพี่” กลีบบัวตอบรับ นั่งรออยู่ที่ท่าน้ำด้วยจิตใจเลื่อนลอย “พี่พุดซ้อนมาแล้วเหรอจ๊ะ อุ๊ย! พี่พฤกษ์” หล่อนร้องอุทานเมื่อหันไปก็เจอเข้ากับพฤกษ์ที่วางมือร้อนๆ อยู่ตรงไหล่บอบบางของหล่อน “จะอาบน้ำเหรอ” เขาเอ่ยถาม “ค่ะพี่พฤกษ์” คนพูดมีท่าทีเขินอาย เสียงสั่นสะท้าน ก้มงุดเพราะตัวเองอยู่ในสภาพอันล่อแหลมนัก “ตัวหอมอยู่แล้ว ไม่ต้องอาบก็ได้” เขากระซิบลงตรงริมหู ใช้ริมฝีปากดุนดันกลีบปากของหล่อนเบาๆ พอหล่อนเบี่ยงหลบเขาก็หอมแก้ม ขบเม้มติ่งหูสาวอย่างมีชั้นเชิง “อย่าเจ้าค่ะพี่พฤกษ์ เดี๋ยวบ่าวในเรือนมาเห็นเข้า” “ไม่มีใครมาเห็นหรอก ข้าสั่งไอ้เข้มเอาไว้แล้วว่าไม่ให้ใครเข้ามา” “ตรงนี้เป็นท่าน้ำนะเจ้าค่ะ มันไม่เหมาะสม” “ท่าน้ำแล้วทำไม” เขาปลดอาภรณ์ออกจากกาย ไม่ได้สนใจเสียงประท้วงของหล่อนอีก เขาอยากได้อะไรก็ต้องได้ และเวลานี้เขาต้องได้หล่อนให้สมใจอยาก
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้
เพราะคิดว่าเป็นความฝัน ฉินหร่านจึงร่วมมือบรรเลงเพลงรักอย่างไม่ได้ตั้งใจ ไฉนตื่นขึ้นมาถึงมีสามีเป็นของตัวเอง อีกทั้งสามีนางยังตาบอดอีกด้วย! แต่นั่นไม่น่าตกใจ เท่ากับที่นางมาอยู่ในร่างเด็กสาวในยุคจีนโบราณ ที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ อีกทั้งร่างนี้ถูกขายให้มาเป็นภรรยาของชายตาบอด แต่ไหนๆ ก็มาแล้วจึงจะใช้ชีวิตให้ดี ส่วนสามีนะหรือ หล่อขนาดนั้น แซ่บขนาดนี้ เดินหน้าเกี้ยวสามีสิ จะรออะไร!
ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"