รู้ว่ามันผิด แต่ก็จะทำ... รู้ว่ามันเจ็บ แต่ก็ยังรัก... การรักใครมากๆ มันไม่ใช่เรื่องผิด แต่มันผิดที่ว่าฉันยอม และอดทนกับเขามากเกินไป มากเกินจนทำให้ตัวเองต้องเจ็บหลายต่อหลายครั้ง และสักวันหนึ่งความอดทนของฉันมันก็คงจะหมดลง "ฉันทนอยู่กับนายอีกต่อไปไม่ได้แล้ว" "เออ งั้นก็ออกไปสิ"
เพื่อความรักต่อให้ต้องแรกด้วยความเจ็บมากแค่ไหนเธอก็ยอมได้...
ท่ามกลางบรรยากาศใต้ตึกคณะนิติศาสตร์ ที่เต็มไปด้วยเสียงพูดคุยของเหล่านักศึกษา ที่เจื้อยแจ้วไปทั่วบริเวณ แต่กลับมีนักศึกษาหนุ่มสาวเพียงแค่สองคน ที่นั่งอยู่กันตามลำพังตรงโต๊ะใต้ต้นไม้ใหญ่ โดยไม่สนใจใครนอกจากกันและกัน
ถึงแม้ว่าฝ่ายชายจะมีแฟนอยู่แล้ว แต่เขาก็ทำกับผู้หญิงตรงหน้าอย่างไม่สนใจอะไร มือหนาของเขากอดที่ไหล่บาง พร้อมกับลูบผมของเธอไปด้วย ทั้งสองพูดคุยหยอกล้อกันอย่างสนุกสนาน ไม่แม้แต่จะสนใจ ว่าตัวจริงของฝ่ายชายกำลังยืนดูทั้งคู่อยู่อีกฟาก
พ้อยท์ หญิงสาวหน้าสวยที่อยู่ในชุดนักศึกษา มองจ้องไปที่ทั้งคู่ด้วยหัวใจที่ปวดหนึบ ถึงแม้ว่าเธอและเขาจะคบกันได้ยังไม่ถึงปี แต่เธอก็รักเขามากยิ่งกว่าอะไร เพราะความจริงแล้วเธอนั้นแอบชอบเขามานานนับหลายปีได้ เธอชอบเขาตั้งแต่สมัยมัธยมต้น จนกระทั่งตอนนี้ทั้งคู่อยู่มหาลัยกันแล้ว
แต่ใช่ว่าเมื่อเธอสมหวังกับเขามันจะทำให้เธอมีแต่ความสุข ต่างกันมันกลับทำให้เธอทุกข์มากกว่าแอบชอบเขาแบบเงียบๆ ด้วยซ้ำ
เหมือนเขาตอบรับคำขอเป็นแฟนของเธอส่งๆ โดยที่ไม่เคยดูดำดูดี หรือดูแลเธอในฐานะคนรักสักนิด
ถ้าเป็นคนอื่นอาจจะไม่ทน แต่เพราะเธอรักเขาเธอถึงพยายามทนให้ได้…
.:POI PART:.
ฉันมองภาพตรงหน้าด้วยดวงตาสั่นระริก ขณะที่ขาเรียวของฉันก็กำลังเดินตรงเข้าไปหาทั้งคู่ พวกเขาเงยหน้าขึ้นมามองฉัน ก่อนจะหันกลับไปคุยกันต่ออย่างไม่สนใจฉันที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้า
“บอมส์ไปกินข้าวกัน” ฉันเอ่ยปากชวนออกมา ทั้งๆ ที่ฉันก็เป็นแฟนของเขาแท้ๆ แต่ฉันก็ไม่กล้าปริปากโวยวายออกมา ได้แต่ทำตัวนิ่งๆ เหมือนกับไม่คิดอะไร ทั้งที่ในใจอยากจะจับทั้งสองให้แยกออกจากกัน ฉันกลัวว่าเขาจะโกธรจึงไม่กล้าที่จะทำอะไรสักอย่าง เหตุการณ์ลักษณะแบบนี้มันเกิดขึ้นค่อนข้างบ่อย ฉันควรที่จะชินกับมัน แต่ก็ไม่สามารถทำได้
“ฉันกินกับดารินมาแล้ว เธอไปเถอะ” บอมส์หันมาบอกกับฉัน คำพูดของเขามันเหมือนเป็นเชิงไล่ฉันให้ออกไปพ้นๆ จากตรงนี้ยังไงก็ไม่รู้
“ถ้าหิวข้าวก็ไปกินเลยก็ได้นะพ้อยท์ เดี๋ยวเราดูแลบอมส์ให้ ไม่ต้องห่วงหรอกนะ” ดารินพูดขึ้นยิ้มๆ แต่ยังไงฉันก็รู้อยู่ดีว่าเธอกำลังเสแสร้ง คำว่าดูแลของเธอมันหมายถึงดูแลจริงๆ หรือจะเก็บไว้แดกเองก็ไม่รู้
“ก็ไม่ได้หิวมากเท่าไหร่ ขอนั่งด้วยคนละกันนะ” แล้วสุดท้ายฉันก็เลือกที่จะเดินเข้าไปนั่งแทรกตรงกลางระหว่างพวกเขาสองคน
“มานั่งตรงนี้ก็ได้ดาริน” บอมส์พยักเพยินไปยังที่นั่งด้านข้างของเขา ดารินส่งยิ้มให้ฉันน้อยๆ ก่อนที่เธอจะเดินไปนั่งตามที่เขาบอก แล้วทั้งคู่ก็นั่งคุยกันเหมือนเดิม ตอนนี้ฉันทั้งรู้สึกอึดอัดและดูเหมือนจะเป็นส่วนเกินทั้งที่มันไม่ควรเกิดขึ้นกับฉันก็ตาม
“ฉันเหมือนเป็นส่วนเกินเลยเนอะ” และปากของฉันมันก็ไวเท่ากับความคิดในหัว ฉันพูดพร้อมกับมองสบตาพวกเขาทั้งสองไปด้วย
“ทำกันขนาดนี้ทำไมไม่คบกันไปเลยล่ะ” ฉันพูดเสริมเข้าไปอีก บอมส์เองก็เริ่มขมวดคิ้วเข้าหากัน
“ก็กำลังปรึกษาเรื่องงานกันอยู่ ไม่เห็นหรือไงว่าอะไรกองอยู่บนโต๊ะ” บอมส์พูดออกมาด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด
“แล้วทุกทีนายเคยสนใจฉันบ้างหรือเปล่าล่ะ นายทำแบบนี้รู้มั้ยว่าฉันอึดอัดแค่ไหน สำหรับนายฉันเป็นอะไรกันแน่” ฉันพูดออกมาอย่างยาวเหยียด ขณะที่พูดฉันก็พยายามกลืนก้อนสะอื้นที่มันจุกอยู่ที่ลำคอไปด้วย ฉันอยากจะร้องไห้ออกมาซะให้รู้แล้วรู้รอด แต่ก็ต้องพยายามข่มน้ำตาเอาไว้ไม่ให้มันไหลออกมา
“ถ้าเธออึดอัดมากนัก จะเลิกกับฉันก็ได้นะ” นี่เป็นคำพูดที่ฉันไม่อยากได้ยินจากปากเขามากที่สุด ยิ่งได้ยินมันก็ยิ่งทำให้ฉันอ่อนแอ
“ใจเย็นๆ นะบอมส์” ดารินยกมือขึ้นลูบที่แขนแกร่งของเขา พร้อมกับพูดออกมาด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล ตอนนี้ฉันเหมือนนางมารร้าย แต่เธอกลับเหมือนนางเอก บนโลกนี้มันไม่มีอะไรยุติธรรมสำหรับฉันเลย
พรึบ!
ฉันลุกขึ้นยืน ก่อนจะมองจ้องเข้าไปในดวงตาของเขา ในดวงตาคู่นั้นฉันมองแล้วไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันมีความรักให้กับฉันบ้างหรือเปล่า
ฉันละสายตาออกมาจากเขา ก่อนจะเดินออกมาจากตรงนั้นอย่างรวดเร็ว สุดท้ายแล้ว ฉันก็เป็นคนที่ต้องยอมแพ้ แพ้ในทุกๆ เรื่อง และยอมในทุกๆ อย่างเพื่อรักษาความสัมพันธ์ของเราเอาไว้
ฉันเดินออกมาขณะที่ดวงตาก็เริ่มมีน้ำใสๆ ไหลออกมาไม่ขาดสาย ฉันยกหลังมือขึ้นปาดมันออกลวกๆ แล้วพยายามปลอบใจตัวเองว่าต้องเข้มแข็ง
.:END POI PART:.
.:BOM PART:.
ผมได้แต่มองตามแผ่นหลังเล็กที่เดินไกลออกไปเรื่อยๆ โดยที่ไม่คิดจะลุกขึ้นแล้ววิ่งตามเธอกลับมา
“ไม่ไปง้อหน่อยหรอ” ดารินเอ่ยถามผมขึ้นทันที เธอเป็นเพื่อนของผม และก็ไม่ใช่เพื่อนธรรมดาๆ ด้วย
ยามใดที่ได้กลิ่นหอมของเธอ นิสัยของผมจะกลับกลายเป็นอีกคน... ทั้งชีวิตที่เกิดมา ไม่เคยมีใครแสดงท่าทีรังเกียจฉันได้มากเท่าเขาอีกแล้ว… “คุณมีปัญหาอะไรกับฉันหรือเปล่าคะคุณแซ้งค์” “ใครจะกล้ามีปัญหากับลูกสาวเจ้าพ่ออย่างคุณเอวาได้ล่ะครับ” “ก็คุณไงคะ” .......................................................................................... ฉันต้องรู้สึกยังไงที่จู่ ๆ ก็มีคนบางคนชอบแสดงท่าทีเหมือนรังเกียจ ทุกครั้งที่พยายามเข้าใกล้ เขาก็จะถอยห่าง มองจากดาวอังคารยังรู้ ว่า ‘คุณแซ้งค์’ กำลังไม่ชอบขี้หน้าฉันอย่างแรง แต่บอกไว้ก่อน เราไม่เคยมีเรื่องกัน แล้วทำไมเขาถึงเป็นแบบนี้ไปได้ “บอกเหตุผลมาหน่อยได้มั้ยคะ ว่าทำไมถึงทำเหมือนไม่ชอบฉันนัก” “ไม่ใช่ไม่ชอบ แต่ผมแค่ไม่อยากอยู่ใกล้คุณ” “แล้วมันทำไม?” “ก็เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเอง” หลังจากได้รับคำตอบ ฉันก็ไม่เคยเข้าใจในความหมายนั้น กระทั่งคืนหนึ่งได้เกิดเหตุการณ์บางอย่างขึ้น ซึ่งนี่แหละคือจุดเปลี่ยนความสัมพันธ์ของเราไปตลอดกาล...
ยามใดที่ร่างกายสัมผัสถูกเกสรดอกไม้ นิสัยของผมจะกลับกลายเป็นอีกคน... เพราะความเมามายเป็นเหตุ จึงทำให้ฉันต้องอยู่บนเตียงกับเขาตลอดทั้งค่ำคืนนั้น คิดว่าจะจบ ทว่าเราสองคนกลับหวนมาเจอกันอีกครั้งในวันหนึ่ง “คุณท้องกับผมเหรอ?” “คุณคิดว่าเครื่องตัวเองฟิตสตาร์ทติดง่ายขนาดนั้นเลยเหรอคะ?” .......................................................................................... ชีวิตของฉันซวยมากเลยค่ะคุณกิตติคะ ด้วยความที่เพื่อนงอนกับแฟนก็เลยอยู่ช่วยปลอบใจ พร้อมคอยปรามไม่ให้เพื่อนดื่มแอลกอฮอล์จนเมามายไร้สติ แต่จู่ๆ ก็มีนังตัวดีที่ไหนไม่รู้ส่งคลิปคนรักของฉันซึ่งกำลังนัวเนียกับผู้หญิงคนอื่นมาให้ดู ไป ๆ มา ๆ จึงกลับกลายเป็นว่าเพื่อนต้องปลอบใจฉันแทน อาการเจ็บช้ำหัวใจที่จู่โจมเข้ามากะทันหันโดยไม่ทันได้ตั้งตัว ส่งผลให้ฉันกระดกเหล้าเข้าปากรัว ๆ แบบไม่หยุดยั้ง ยังค่ะ...เรื่องยังไม่จบที่ตรงนั้น แฟนเพื่อนตามมารับเพื่อนกลับบ้าน แต่ก็ยังมีน้ำใจพาฉันขึ้นไปห้องพัก ทว่า...ห้องนั้นดันไม่ใช่ห้องของฉันนี่สิ "คุณเป็นใคร เข้ามาในห้องของผมได้ยังไง ออกไปเดี๋ยวนี้!" ท่าทางของผู้ชายตรงหน้าที่กำลังเอ่ยปากไล่ฉันดูแปลกตา คล้ายกับกำลังระงับอารมณ์บางอย่าง กระนั้นระดับแอลกอฮอล์ในร่างกายก็ทำให้ฉันไม่อยากสนใจอะไรนอกเสียจากล้มตัวลงนอนบนเตียงกว้าง "อะไร? จะแปลงร่างเหรอ? ไปเล่นที่อื่นไปหนู พี่จะนอน" ความเมาเป็นเหตุสังเกตได้ ตื่นขึ้นมานั่นแหละถึงได้รู้ ว่าตนเองถูก 'คนแปลกหน้า' พรากความบริสุทธิ์ไปเสียแล้ว...
ยามใดที่ดวงอาทิตย์ตกดิน นิสัยของผมจะกลับกลายเป็นอีกคน... ค่ำคืนนั้นเขาช่างเร่าร้อน ทว่าสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเราล้วนไม่ใช่เพราะความรัก... "ขึ้นชื่อว่าคนดูแลชั่วคราว เธอก็จะได้อยู่แค่ในสถานะนั้น อย่าใฝ่สูง" .......................................................................................... ฉันได้รับหน้าที่ให้ดูแล 'ผู้ชายคนหนึ่ง' ทว่าของแถมที่พ่วงติดมาด้วยนั้นคือเรื่องราวน่า 'ประหลาด' ซึ่งเป็นเหตุทำให้ชีวิตของฉันต้องพลิกผันไปตลอดกาล "คุณซานเป็นอะไรหรือเปล่าคะ" การเห็นเจ้านายแสดงท่าทีราวกับทุกข์ทรมานอยู่ตรงหน้า จึงไม่นิ่งนอนใจที่จะเอ่ยปากถามด้วยความเป็นห่วง พร้อมขยับก้าวเข้าไปเพื่อช่วยพยุง "ออกไป!" ทว่าร่างสูงตรงหน้ากลับตะคอกใส่อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน หนำซ้ำยังสะบัดตัวฉันออกจนเซถลาเกือบล้มลงกระแทกพื้น "ออกไปจากห้องฉัน...เดี๋ยวนี้!!" หากย้อนเวลากลับไปได้ คืนนั้นฉันจะเชื่อฟัง และยอมเดินออกไปจากห้องแต่โดยดี...
ผมไม่เคยคิดว่าการที่ไว้หนวดไว้เครา และทำตัวเซอร์ๆ จะทำให้ใครบางคนต้องร้องไห้เพียงเพราะแค่เห็นหน้า "ฮือ...แม่จ๋าหนูกลัวโจร" เด็กผู้หญิงที่ร้องไห้ในวันนั้น คือคนที่ผมต้องสยบจวบจนถึงทุกวันนี้... ........................................................................ ฉันไม่รู้ว่าเริ่มชอบเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้แต่ว่าพอได้ชอบฉันก็ไม่สามารถห้ามความรู้สึกของตัวเองได้อีกเลย... วินาทีแรกที่เจอกัน 'เขา' ทำให้ฉันรู้สึกกลัว แต่พอนานวันเข้า เขากลับเป็นคนที่สอนให้ฉันรู้จักคำว่า 'ความรัก' "ถ้าโตขึ้นแล้วมีผู้ชายมาชอบหนู แด๊ดดี้จะทำยังไงคะ?" "ฆ่ามัน" ได้แต่เก็บความสงสัยนั้นเอาไว้ในใจ พอโตมาถึงได้รู้ ว่าฉันจะต้องเป็นของแด๊ดคนเดียวตลอดไป ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม...
"มาโรงพยาบาลวันนี้ป่วยเป็นอะไรอีกล่ะคะ" "พอดีกินข้าวไม่ค่อยได้น่ะครับ" "หืม? มีอาการอาเจียนด้วยหรือเปล่าคะ หรือว่ายังไง" "เปล่าครับ แค่ไม่มีตังค์" "..." "ถ้าคุณพยาบาลไม่รังเกียจ ผมขอฝากท้องไว้สักมื้อนะครับ" "คุณท้องเหรอคะ?" ........................................................................ "ถ้านายทำร้ายฉัน ฉันจะโทรไปฟ้องพี่" ฉันรู้ว่าคำขู่ของตัวเองมันอาจจะไม่ได้ผล เพราะเขาเป็นผู้ชายที่หน้าด้านหน้าทนยิ่งกว่าปูนซีเมนต์ หมายถึงทนมือทนตีนน่ะนะ "ฟ้องมากๆ ระวังโดนตบด้วยปากและกระชากด้วยลิ้นนะ" นอกจากจะเป็นผู้ชายที่กวนตีนแล้ว ความหื่นของเขาก็มีมากเช่นกัน หมดเรี่ยวแรงไปเท่าไหร่แล้วกับผู้ชายพันธ์นี้...โปรดอยู่ให้ห่างแล้วชีวิตจะปลอดภัย
เคยได้ยินคำว่าเสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้หรือเปล่า? และฉันก็ไม่ชอบให้ใครมาหากินในที่ของฉัน แต่ 'มัน' เสือกทำ "ไม่ใช่เด็กถิ่นเช็คอินได้เปล่า" ด้วยความที่โชคชะตามันโหดร้าย จึงทำให้เราสองคน 'ได้' กัน ........................................................................ สิ่งที่ฉันเกลียดที่สุดก็คือความเจ้าชู้ แต่แล้ววันหนึ่งฉันกลับกลายทำตัวเป็นแบบนั้นซะเอง เหตุการณ์ที่พบเจอมันบีบบังคับให้ฉันต้องร้าย ต้องแรง และ...อยู่ให้เป็น "นี่ไม่ใช่ที่วิ่งเล่นของเด็ก กลับบ้านไปดูดนมนอนไป๊!" วาจาที่พ่นออกมาจากริมฝีปากหนาเป็นอะไรที่ฉันรังเกียจพอๆ กับการเห็นหน้า 'คนพูด' "ก่อนไป ขอเตะปากทีดิ" เท้าของฉันมันกำลังกระตุก เมื่อหูได้ยินอะไรที่ไม่เข้าท่าสักเท่าไหร่ เขาว่ากันว่าเสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้ เห็นทีว่ามันจะจริง...
อวิ๋นหลาน นักฆ่าอันดับหนึ่งแห่งศตวรรษที่ 25 ได้ข้ามภพและเกิดใหม่ในร่างของหญิงสาวผู้ไร้ประโยชน์ซึ่งมีชื่อเดียวกันในจวนเทพเจ้าแห่งสงคราม รากวิญญาณถูกทำลายไป? บำเพ็ญวิชาไม่ได้? คู่หมั้นถอนหมั้น? ทุกคนหัวเราะเยาะนาง? การควบคุมอสูร ยาพิษ ยาลูกกลอนปีศาจ อาวุธลับ...นางจัดการได้อย่างสบายๆ อดีตผู้ไร้ค่า แต่บัดนี้มาแก้แค้นชาาเจ้าชู้ เอาคืนทุกคนที่รังแกตนเอง ได้ประสบความสำเร็จ และขึ้นไปสู่จุดสูงสุด ผู้แข็งแกร่งอย่าคิดจะทำอะไรตามใจ ผู้อ่อนแออย่าท้อแท้ กล้ามารุกรานข้า งั้นก็อย่าหาว่าข้าไม่เตือนก็แล้วกัน เขาเป็นจ้าวแห่งอาณาจักรปีศาจ ชอบเอาใจนาง นางฆ่าคน เขาช่วยปิดปาก นางทำลายศพ เขาช่วยกำจัดหลักฐาน เขายอมทำทุกอย่างเพื่อนาง ชีวิตนี้ยอมร่วมทุกข์ร่วมสุขไม่ทอดทิ้งกัน
เส้าหยวนหยวนแต่งงานกับแม่ทัพเทพทรงพลังที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจนส่งผลกระทบต่อทางจิตใจหลังจาดที่เธอย้อนเวลา เธอไม่ต้องการเข้าไปพัวพันกับการสมรู้ร่วมคิด และต้องการร่วมมือกับเขาเพื่อแสวงหาอิสรภาพ เธอก่อตั้งธุรกิจ รักษาโรคของคนไข้ และช่วยชีวิตผู้คน เป็นคนที่ยอดเยี่ยม กลายเป็นผู้ช่วยที่ดีของแม่ทัพ แต่ต่อมาแม่ทัพกลับคืนคำ ไหนตกลงไว้ว่าจะหย่าล่ะ?
ตายด้วยเงื้อมมือของเพื่อนร่วมสาขา เนเน่ เนตรนภา จึงทะลุมิติมาอยู่ในร่างเด็กน้อยวัยสิบหนาวที่ป่วยตาย นามเซี่ยซูเหยา มีบิดา พี่สาว พี่ชายที่เป็นห่วงนางมากกว่าสิ่งใด
เสิ่นซือหนิงซ่อนตัวตนไว้ยอมทำทุกอย่างให้ แต่ความจริงใจของเธอกลับถูกสามีทำลายไปหมด และสิ่งที่เธอได้รับนั้นคือข้อตกลงการหย่า ด้วยความผิดหวังเธอจึงหันหลังจากไปและกลายเป็นตัวเองที่แท้จริงอีกครั้ง หลังจากได้เห็นความใกล้ชิดของสามีกับคนรักของเขา เธอก็จากไปด้วยความผิดหวัง จากนั้นเปิดเผยตัวตนที่เป็นนักปรุงน้ำหอมอัจฉริยะระดับนานาชาติ ผู้ก่อตั้งองค์กรข่าวกรองที่มีชื่อเสียง และผู้สืบทอดในโลกแฮ็กเกอร์ อดีตสามีของเธอเลยเสียใจมาก เมื่อเมิ่งซือเฉินรู้ว่าตัวเองทำผิด เขาก็เสียใจมาก หนิง ผมผิดไปแล้ว ให้โอกาสผมอีกครั้งเถอะ ทว่าฮั่วจิ่งชวนขาพิการนั้นกลับลุกขึ้นยืนและจับมือกับเธอว่า "อยากคบกับเธอ นายยังไม่มีค่าพอ"
จางหยู่เสวียน เดิมทีเป็นสตรีปากร้ายและถูกผีพนันเข้าสิงจนไม่ใส่ใจลูกและสามีที่เกิดอุบัติเหตุจนพิการไป สตรีนางนั้นก็เริ่มทอดทิ้งสามีแล้วเลือกที่จะทอดสะพานให้บัณฑิตหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่ง จนทำให้ภรรยาของเขาเกิดความหึงหวงผลักนางตกน้ำจนพบจุดจบที่น่าอดสู ทว่าเมื่อจางหยู่เสวียน นักฆ่าสาว เจ้าของรหัสหมายเลข 13 ในองค์กรนักฆ่าระดับโลกมีเหตุให้ถูกฆ่าตาย เนื่องจากไม่ยอมสังหารคนดี เธอจึงได้รับโอกาสใหม่จากสวรรค์เพื่อตอบแทนความดีครั้งนี้ในการมาเกิดใหม่ในร่างคนอื่นในยุคจีนโบราณ ทว่าเจ้าของร่างเดิมนั้นทำตัวเหลวแหลก ไม่เคยใส่ใจความรู้สึกของครอบครัว จนถึงขนาดคิดขายลูกกิน นักฆ่าสาวที่ข้ามเวลามาจากอนาคตจึงต้องทำทุกทางเพื่อแก้ไขเรื่องราวที่ยุ่งเหยิงนี้ ก่อนที่จะมีจุดจบเลวร้ายไม่ต่างไปจากเจ้าของร่างเดิม ชีวิตใหม่ครั้งนี้ นางจะใช้มันอย่างดีเพื่อดูแลครอบครัวนี้ให้มีความสุข และลบแผลใจแย่ๆ ให้หมดไปจากทุกคนในครอบครัว "ท่านแม่จะทิ้งเราเหรอ!" ไม่รู้เด็ก ๆ ที่วิ่งเล่นกันอยู่ด้านนอกเข้ามาได้ยินที่ประโยคไหน เข้าใจว่าผู้เป็นแม่จะออกไปและไม่กลับมาอีก สองพี่น้องกอดหมับที่ขามารดาคนละข้าง ทิ้งน้ำหนักลงพื้นเต็มที่ หากจะไปพวกเขาจะเกาะหนึบนางไปเช่นนี้ "ท่านแม่อย่าทิ้งข้าเลยนะเจ้า" ซ่งอวี้หลานร้องไห้โฮ น้ำตาทะลักออกจนชายชุดนางชุ่มในเวลาไม่กี่พริบตา ทางด้านซ่งหยวนหมิงก็รู้สึกว่าจะแพ้ไม่ได้ เลยกลั้นใจบีบน้ำตาจนหน้าแดง เห็นลูกทุ่มเทช่วยเขาขนาดนี้ ซ่งอี้หนานก็คุกเข่าลง ประคองมือนางไว้ไม่ปล่อย ใบหน้าคมคายจากมุมมองที่สูงกว่า ทำให้เขาดูคล้ายสุนัขตัวโต "ข้า เอ่อ" จางหยู่เสวียนพูดไม่ออก
แต่งงานกันเป็นเวลาสามปี เสิ่มชูคิดว่าต่อให้ป๋อมู่เหนียนจะใจแข็งสักแค่ไหนก็ควรจะอ่อนลงได้ด้วยความรักที่เธอมีกับเขามาโดยตลอด แต่เมื่อเขาบังคับให้เธอคุกเข่าลงในหอบรรพบุรุษของตระกูล เสิ่มชูถึงตระหนักว่าแท้ที่จริง ผู้ชายคนนี้ไม่มีหัวใจ คนที่ไม่มีหัวใจ เธอยังจะอาลัยอาวรณ์อยู่อีกทำไม? ดังนั้น เมื่อป๋อมู่เหนียนขอให้เธอเลือกระหว่างการคุกเข่าและการหย่าร้าง เสิ่มชูจึงเลือกการหย่าร้างไปโดยไม่ได้ลังเล เธอยังสาวยังสวยอยู่เช่นนี้ ทำไมจะต้องมาเสียเวลากับไอ้ผู้ชายคนนี้ด้วย!มิสู้กลับบ้านไปสืบทอดมรดกพันล้านของตระกูลจะดีกว่า