เรื่องมันเริ่มขึ้น ตั้งแต่ตอนที่พี่ชายผมแต่งงาน และพาพี่สะใภ้แสนสวยมาอยู่ในบ้าน ต้องบอกก่อนว่าพี่สะใภ้ผมนั้นเป็นคนที่สวยมาก ดูจากแววตาท่าทางแล้วค่อนข้างจะเจ้าชู้เสียด้วย โดยเฉพาะในเวลาที่พี่เขามองมาที่ผม ทำให้ผมรู้สึกแปลกๆ อยู่ตลอดเวลา วันที่เกิดเรื่องนั้นไม่มีใครอยู่บ้าน พี่สะใภ้ผมเป็นคนทำกับข้าว เลยเข้าไปเก็บผักในสวนหลังบ้าน ซึ่งผักอยู่ตามรั้วที่ค่อนข้างสูง ทำให้แกต้องปีนขึ้นไปเก็บ จนเกิดพลัดตกลงมาข้อเท้าแพลง ผมก็เลยรีบไปช่วย นวดเท้านวดทายาให้ สายตาของพี่สะใภ้มองผมด้วยแววตาแปลกๆ ช่วงที่พยุงพี่สะใภ้นอนบนเตียง ความไม่ตั้งใจบวกกับความประหม่า อารมณ์หนุ่มที่ควรสงบกับคุกรุ่น ทั้งกลิ่นทั้งแรงเสียดสีที่เกิดบนความไม่ตั้งใจ ผมบังเอิญถูไถอยู่ด้านหลังสะโพกงอนๆ กับความอวบอัดที่เฉียดมือใต้ราวนม บอกตรงๆ ท่อนลำในเป้ากางเกงผมดีดผึ่ง กระดี๋กระด๋าเหมือนปลากระดี่ได้น้ำ ผมพยายามควบคุมความหื่น รีบทำหน้าที่ตัวเองให้เสร็จๆ แต่ผมไม่ได้คิดไปเองนะครับ สะโพกของพี่สะใภ้ ส่ายตามทุกครั้งที่ผมขยับตัว เหมือนกับว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้น คือการจงใจทำ...
บทที่1.เมื่อสัญชาตญาณของผมถูกปลุกให้ตื่น
ผมก็ไม่รู้หรอกว่าเรื่องแบบนี้มันเริ่มขึ้นตอนไหน และจะจบลงอย่างไร เรื่องอารมณ์ ความรู้สึก ตัณหา ราคะ ที่ยากที่จะควบคุม...เมื่อพี่สะใภ้เห็นผมมีอารมณ์ร่วมไปกับเธอ เธอยิ้มเจ้าเล่ห์ เอียงหน้าเข้ามาใกล้ และในจังหวะที่ผมเผลอตัว เธอก็ยื่นหน้าเข้ามาหาและจูบปากผมทันที กลิ่นกายของเธอหอมมาก ทำให้ผมรู้สึกคึกคัก ผมลืมตัวจูบตอบ แลกลิ้นกันอย่างดูดดื่ม ดูเหมือนจะมีอารมณ์ที่พลุ่งพล่านขึ้นมาเช่นกัน พี่สะใภ้ผมพริ้มตาหลับ หน้าแดงเหมือนกำลังเสียวซ่านเต็มที่ ผมจึงอุ้มร่างอวบอัดของพี่สะใภ้ไปยังห้องเก็บของหลังบ้าน ซึ่งน่าจะลับตาคนหน่อย จากนั้นผมก็เริ่มจูบและไซ้ไปตามซอกคอของเธออย่างเมามัน จนทำให้เธอถึงกับส่ายหน้าครางออกมาด้วยความเสียวซ่าน
“ซี๊ดดดด…พี่เสียวจัง…อ๊า”
ผมค่อยๆ ไซ้ต่ำไปเรื่อยๆ มือทั้งสองข้างรีบแกะกระดุมเสื้อของพี่สะใภ้ออก ตามด้วยเสื้อชั้นใน เมื่อผมปลดตะขอเสื้อในของเธอออก นมขนาดมหึมาก็ดัดผึ่งใส่หน้าผม หัวนมของเธอตั้งชันเป็นสีชมพูคล้ำนิดๆ ทำให้ผมอดไม่ได้ที่จะห่อปากแล้วรีบก้มหน้าลงดูดไปที่ยอดอกของเธอทันที
“โอ้ยยยย…เสียววววว...ซี๊ดดดด” เธอร้องครางออกมาดังๆ เมื่อผมดูดเม้ม และตวัดลิ้นเลียที่หัวนมทั้งสองข้างอย่างเอร็ดอร่อย เสียงครางกระเส่าของเธอทำให้ผมดูดหนักขึ้น จนพี่สะใภ้ถึงกับแอ่นตัวไปมาเอามือกดที่หัวผมอย่างเสียวซ่านเต็มที่
“โอ้ยยยย…พี่เสียวมากเลยเบส…จะทำอะไรก็ทำเถอะ เดี๋ยวคนอื่นกลับมา จะอด...ซี๊ดดดด”
พี่สะใภ้ร่ำร้องบอกผม ผมเองก็สองจิตสองใจ จะเดินหน้าต่อ หรือหยุดแค่นี้ มันไม่ดีกับตัวผมเองและพี่ชาย ผู้หญิงตรงหน้าคือพี่สะใภ้ เป็นเมียพี่ชายผมนะ ผมพยายามเตือนตัวเองแบบนั้น...แต่ ตัณหาอะ ใครห้ามได้ เมื่อความเงี่ยนเข้าครอบงำ อะไรที่ไม่ควรทำก็ยังเกิดขึ้น
เรื่องผิดศีลธรรมไม่อยู่ในหัวผมแล้ว
ผมชั่งใจตัวเอง...ผมกับพี่ชายมักจะแบ่งผู้หญิงให้กันบ่อยๆ แต่นั่นสมัยที่พี่ชายผมโสด ไม่ได้ลงเอยกับพี่สะใภ้
ขณะที่ผมกำลังคิดทบทวน พี่สะใภ้ผมกลับใจร้อน
เธอดึงมือผมวางไว้บนเนินโหนกใต้กระโปรงสั่นแค่หน้าขาร่องเสียวของเธอกำลังฉ่ำแฉะไปด้วยน้ำเงี่ยน เมื่อเห็นแบบนั้นผมเองก็ทนไม่ไหว รีบถอดกางเกงของตัวเองออก แยกขาของพี่สะใภ้ แล้วกระดกบั้นเอวดันท่อนเอ็นเข้าในรูเสียวของเธอทันที มันฟิตมาก แต่ก็สามารถเข้าได้ง่ายเพราะมีน้ำเงี่ยนหล่อลื่นอยู่มาก แต่ความฟิตก็เล่นเอาผมต้องห่อปากครางออกมาด้วยความเสียวเช่นกัน
ผมโยกเอวไปมา พร้อมกับครางเบาๆ ผสมกับเสียงครางของพี่สะใภ้ ไม่ถึงสิบนาที ความเสียวซ่านก็มาถึงจุดจบจนได้ ผมเขย่งตัวกระเด้าบั้นเอวถี่ยิบ ก่อนจะปล่อยน้ำเชื้อเข้าไปในรูของเธอเต็มแรงจนเธอสะดุ้ง ผวาเข้ามากอดผม เราสองคนจูบปากแลกลิ้นกันไปมาอย่างดูดดื่มครู่หนึ่ง ก่อนที่จะรีบออกมาจากห้องเก็บของหลังบ้านเพราะกลัวว่าจะมีใครมาเห็นเข้า
ผมคิดว่านั่นจะเป็นความระยำครั้งสุดท้ายของตัวเอง
ผมไม่ได้กลัวบาปหรอกนะครับ เพราะผมคิดว่า สิ่งที่เกิดขึ้น เกิดจากความร่วมมือของผมกับพี่สะใภ้ อย่างย้อยความผิดนี่ก็แบ่งกันคนละครึ่ง
ผมคงเป็นเป็นผู้ชายเลวในสายตาของพวกคุณสินะ
เรื่องไม่ได้จบแค่นี้หรอก...
ผมระวังตัว พยายามอยู่ห่างจากพี่สะใภ้ ผมไม่อยากให้เหตุการณ์เหมือนที่เล่าข้างต้นเกิดขึ้นอีก ถึงผมจะเป็นคนเลว สำนึกฝ่ายดีผมก็ยังพอมีอยู่
อย่างว่าแหละ พี่ชายผมกับพี่สะใภ้คนนี้ ไม่มีทางไปรอด หากพี่สะใภ้ผม ยังเอวไว้ ทุกครั้งที่เข้าใกล้ผู้ชาย
ผมกลับไปเรียน เมื่อกลับบ้าน พี่ชายผม ก็เลิกกับผู้หญิงคนนั้นแล้ว พี่ผมจับได้ ว่าพี่สะใภ้ผม แอบเล่นเสียวกับผู้ชายเกือบทั้งหมู่บ้าน
“แม่มเอ่ย กูก็นึกว่ามันทำงานบ้านเหนื่อยเลยไม่อยากกวน ที่ไหนได้ ออกไปแรดๆ เอากะคนอื่นจนเพลีย เลยไม่มีแรงให้กูเด้า” บาส พี่ชายผมบ่น
ผมนั่งอมยิ้ม ไม่พูดแทรกให้พี่ชายอารมณ์เสีย
“มึงละไอ้เบส เสร็จอีนอมมันด้วยไหม?”
พี่ชายผมหันมาถาม ผมสะดุ้งแต่ก็รีบปฏิเสธ ไม่ได้กลัวพี่ชายโกรธหรอกนะครับ ผมกลัวมันอาย
“ดีแล้วแหละ ต่อไปนี้ กูจะหาเมียอีกที คงต้องดูนานๆ”
บาสมันบ่นต่อ ท่าทางมันไม่เข็ดเรื่องผู้หยฺงหรอก ตัวพี่ชายผมก็เจ้าชู้ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่าใคร คงได้สายเลือดแบบนี้มาจากพ่อของเรานั่นเอง
ยี่หวาไม่เคยคิดว่าปลายทางชีวิตของเธอจะจบลงแบบนี้ ก่อนที่เธอจะทิ้งอนาคตที่เหลือไปอย่างไร้ค่า เนื่องจากสุดที่จะทนกับความชอกช้ำที่ได้รับมาจากสามีคนเดียว เธอตัดสินใจฝากดวงใจของตัวเองไว้กับน้องสาวฝาแฝด น้องสาวที่ไม่มีคนรอบตัวรู้จัก มันคือความลับที่เธอปิดบังพวกเขาไว้ สมัยเด็กๆ พ่อกับแม่แยกทางกัน ทั้งสองท่านเลยแบ่งลูกไปเลี้ยงดูคนละคน ยี่หวาอยู่กับแม่ ส่วนญาดาไปอยู่กับบิดา สองสาวที่เหมือนกันทุกกระบิ แตกต่างที่นิสัย คนหนึ่งเรียบร้อย พูดน้อย น่ารัก ส่วนอีกคนตรงข้ามทุกอย่าง แกร่ง และกล้าท้าชน… และเพราะแค้นใจแทนพี่สาว ญาดาเลยรับปากก่อนยี่หวาสิ้นลม เธอจะเอาคืนทั้งสองคนนั้นให้สาสม ไม่ว่าจะเป็นปกป้องสามีสุดที่รักของยี่หวา หรือแม้แต่...ฉันทา ว่าที่ภรรยาคนใหม่แสนผยองคนนั้น สองคนนี้ต้องหาความสุขไม่ได้ เธอจะรังควานพวกเขา ให้เหมือนตกนรกทั้งเป็น...การจองเวรคืองานที่เธอควรทำ…ถ้าเป็นดั่งที่ตั้งใจไว้ ญาดาคงไม่กลุ้มใจหนัก ‘ความรัก’ บทจะมาก็มาประชิด เธออยากแก้แค้น แต่ดันไปหลงรัก ผู้ชายเลวคนนั้นเสียอีก หลังจากเฉดหัวฉันทา คงต้องหาทางมัดใจปกป้อง อย่างน้อยก็ทำเพื่อหลาน ถ้าเธอตกนรก เธอจะลากปกป้องตามไปด้วย...
คงไม่มีความซวยไหนเลวร้ายเท่ากับการถูกตราหน้าว่าเป็น ‘เด็กดริ้ง’ ความตั้งใจของณิรินคือไปจับผิดว่าที่พี่เขย แต่กลับกลายเป็นว่าเธอถูกเข้าใจผิดเสียเอง แถมผู้ชายคนนั้นดันเป็นคนสำคัญที่เธอต้องคอยดูแลระหว่างที่เขามาเจรจา เพื่อเป็นคู่ค้ากับบริษัทของลุงกับป้า หน้าที่นั้นเลยถูกโยนมาให้ณิรินรับผิดชอบ ผู้ชายปากร้ายเอาแต่ใจตัวเอง ค่อนข้างงี่เง่าคนนั้น เขาคิดว่าเธอมีอาชีพเสริม และพยายามเกาะแกะจนณิรินโมโห บางครั้งณิรินก็อดคิดไม่ได้ มันเป็นเพราะช่วงเบญจเพศของเธอหรือเปล่า เรื่องซวยๆ เลยเกิดขึ้นกับเธอไม่หยุดหย่อน
เสียงของเขาดังก้องอยู่ในหู ฉันไม่สามารถสลัดเสียงแหบๆ ของเขาออกไปจากความทรงจำได้เลย นี่เกิดอะไรขึ้นกับฉันนะ สิ่งที่ฉันคิดอยู่นี่คือ...ความผิด แม้จะเป็นแค่ความคิด แต่มันเป็นก้าวแรกที่ฉันตั้งใจทำผิดศีลธรรม กับผู้ชายที่มีภรรยาแล้ว!! ฉันกำลังเป็นคนเลว และอีกไม่ช้า ฉันคงโดนคนทั้งโลกประณามหากฉันไม่หยุดความคิดทุเรศๆ นั่นเสียตั้งแต่ตอนนี้ จะทำยังไงดีล่ะ? ฉันคิดอะไรไม่ออกเลย มีเพียงเสียงแหบๆ ของคน คนนั้นดังก้องอยู่ในหูเท่านั้น “สามีของเธอเดินทางไปทำธุรกิจ” “เธอบอกว่าสามีของเธอจะไม่อยู่ประมาณหนึ่งอาทิตย์!!” “มันจะดีแค่ไหนนะ หากฉันเปลี่ยนสิ่งที่ได้ยินได้ เขาน่าจะไปซัก7ปี” ผมพยายามข่มใจให้รู้สึกเศร้าตาม แต่หัวใจของผมกลับเต้นระรัวเกินกว่าจะควบคุมได้ “คุณอยู่ที่ไหน?
รัชศกปีที่สิบ มันเป็นช่วงเวลาแสนสุขที่ลืมไม่ลง แม้เวลาจะผ่านมาเนิ่นนาน ครั้งหนึ่ง ข้าเคยเป็น ‘สาวงาม’ ที่ผู้คนทั้งเมืองหลงใหล เมืองหลวงกว้างใหญ่ใต้แผ่นฟ้าเดียว ข้าผู้มาก่อนกาล เดิมทีข้าคิดว่าเป็นแค่ความฝันหนึ่งตื่น แต่ที่ไหนได้ ทุกเหตุการณ์ที่ข้าพบเจอ คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริง ความสุขที่ท่วมท้นอยู่ในใจ เป็นความทรงจำเดียวที่ทำให้ข้าอยากมีชีวิตอยู่ต่อ เพื่อ...รอ...ใครบางคน
เมื่อสามีตะโกนใส่หน้า “ผมต้องการหย่ากับเธอ!! คนที่ผมรักเขากลับมาหาผมแล้ว” เมษาเซ็นจำใจชื่อบนใบหย่าพร้อมทั้งน้ำตาที่ไหลพรู เธอตัดสินใจเก็บงำความลับไว้กับตัว พร้อมกับจากไปโดยไม่ปริปากบอกคีรินเลยสักคำ ผ่านไป 5 ปี เด็กชายคนหนึ่งมาตามหาพ่อ... “ผมจะไปหาพ่อผม ปล่อยผมนะ!!” เสียงแผดก้องบริเวณหน้า ล็อบบี้ แม้แต่คีรินเองยังอดสนใจไม่ได้ เด็กชายคนหนึ่งถูก รปภ. รั้งตัวไว้ เขาดิ้นกระแด๋วๆ ตะโกนลั่น ผิวทั้งหน้าแดงก่ำ มีเม็ดเหงื่อผุดเต็มไปหน้า และเมื่อเด็กชายวิ่งตรงมาหาเขา “พ่อคร๊าฟฟฟฟฟ” คิรินเข่าอ่อน สัญชาตญาณบางอย่างเตือน เด็กชายตรงหน้าเขานี่ เป็นเลือดเนื้อส่วนหนึ่งของเขาร้อยเปอร์เซ็นต์
เป็นข้อเสนอที่น่าสนใจไม่หยอก หากสามารถปราบพยศผู้ชายเจ้าอารมณ์ได้ ดานันจะเป็นอิสระจากข้อผูกมัดของบิดา ทว่า...ในความโชคร้าย มีความโชคดีแอบแฝงอยู่ ว่าที่สามีของเธอ เป็นบุตรชายผู้มั่งคั่งของตระกูลใหญ่ แต่เขาเพิ่งสูญเสียดวงตาไปจากอุบัติเหตุ ดานันต้องรองรับความเกรี้ยวกราดเช่นนี้ จนกว่าจะเปลี่ยนความคิดของเขาได้ ครามไม่ได้พิกลพิการมาตั้งแต่กำเนิด เขามีหนทางรักษาได้ ขึ้นอยู่กับว่า...ดานันจะโน้มน้าวว่าที่สามีของเธอได้หรือเปล่า
ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"
ตลอดระยะเวลาสามปีของการแต่งงาน เธอรู้สึกสิ้นหวัง ที่ถูกบังคับให้เซ็นใบหย่า ทั้งๆที่เธอกำลังท้อง เธอใจสลายกับความไร้มนุษยธรรมของเขา กระทั่งเธอออกไปจากชีวิตของเขา เขาเพิ่งรู้ตัวว่าเธอคือรักแท้ของเขา ไม่มีวิธีใดที่จะเยียวยาหัวใจที่บอบช้ำของเธอให้หายขาดได้ เขาจึงมอบความรักทั้งหมดของเขาให้แก่เธอเพื่อชดเชย
หลินตงหยาง อายุ 27 ปี เติบโตมากับแม่เพียงสองคน ในวัยเด็กหลินตงหยางเคยมีพ่อผู้ให้กำเนิดแต่หลังจากที่พ่อได้งานใหม่ในเมืองหลวงพ่อที่เคยมีก็ไม่มีอีกแล้ว พ่อกลับมาหย่าขาดกับแม่ทันทีที่ไปทำงานในเมืองหลวงได้เพียง 2 เดือน ด้วยให้เหตุผลในการหย่าว่า แม่กับและเขาคือตัวถ่วงความเจริญในชีวิตพ่อ สาเหตุก็ไม่มีอะไรมากแค่พ่อหน้าตาหล่อเหลาและเป็นที่ถูกใจของลูกสาวหัวหน้างาน เพื่อตำแหน่งงานและความเป็นอยู่ที่สบายขึ้น พ่อเลือกที่จะทิ้งภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากที่ผ่านเรื่องยากลำบากมาด้วยกัน หย่าขาดกับภรรยาเพื่อไปแต่งงานใหม่ มีชีวิตใหม่ในเมืองหลวง โดยทิ้งคนข้างหลัง ทิ้งภรรยาที่เคยสาบานว่าจะอยู่ครองคู่กันตลอดไป ในปีที่เขาเรียนจบมหาวิทยาลัย แม่ก็ล้มป่วยและจากเขาไปในที่สุด สาเหตุที่หลินตงหยางเสียชีวิต เพราะทำงานหนัก อาชีพโปรแกรมเมอร์ตัวเล็กๆ อย่างเขา ต้องพยายามทำงานให้ได้ตามที่หัวหน้าสั่งมา ในที่สุดเขาก็พัฒนาเกมกำลังภายในของบริษัทได้สำเร็จ หลินตงหยางนอนหลับไปด้วยความสบายใจ แต่ทว่าพอเขาลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที นี่ไม่ใช่คอนโดหรูย่านใจกลางเมืองปักกิ่ง หลังคามุงหญ้านี่คืออะไร มันควรจะเป็นเพดานสีขาวสิ เมื่อมองไปรอบๆ ห้องนี่คืออะไร นี่มันไม่ใช่ผนังที่ทำมาจากคอนกรีต มันคือดินเหนียว หลินตงหยางคิดว่าตัวเองฝันไป เขาหลับตาลงอีกครั้งแล้วลืมตาขึ้น ทุกอย่างยังเหมือนเดิม มารดามันเถอะ เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง หลังจากแน่ใจแล้วว่าไมไ่ด้ฝัน ตอนนั้นเองเขารู้สึกปวดหัวขึ้นมาอย่างรุนแรง และในหัวของเขามีภาพเหตุการณ์ของเด็กชายที่ชื่อเดียวกับเขา หลินตงหยาง อายุ 10 ขวบ เรื่องราวชีวิตตั้งแต่เกิดจนตายไปของเด็กชาย ทำเอาหลินตงหยางกำมือแน่น ก่อนจะสบถออกมา “พ่อสารเลว เฉินซื่อเหม่ยชัดๆ” และตามมาด้วยเสียงร้องไห้ของน้องสาว สาเหตุที่เด็กชายหลินตงหยางเสียชีวิต เพราะถูกผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นย่าแย่งผักป่าและทุบตี ทั้งๆ ที่คนพวกนั้นได้ตัดขาดพับพวกเขาสามแม่ลูกแล้ว แต่ยังมิวายข่มเหงรังแก
เพิ่งหย่ากับอดีตสามีไปไม่นานแต่ปรากฏว่าตัวเองท้อง จะทำอย่างไรดี? หรือจะให้อดีตสามีรับผิดชอบ แต่ก็ไม่คิดว่าอดีตสามีมีคนรักใหม่ไปแล้ว ชีวิตของถังชีชีนั้นช่างสับสน ช่างน่าวิตกกังวลและไม่รู้จะอธิบายยังไงดี เธอต้องคอยระวังไม่ให้คุณเฟิงรู้เรื่องการตั้งครรภ์จนกระทั่งคลอดลูกออกมาอย่างปลอดภัย แต่ไม่คิดว่าจะถูกเขาบังคับถึงเพียงนี้ "เราหย่ากันแค่สี่เดือน แต่เธอกลับตั้งครรภ์ได้เจ็ดเดือนแล้ว บอกมาดี ๆ ว่า ลูกเป็นของใคร!"
เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้
ผมต้องทำงานนอกเวลาทุกวันเพื่อหารายได้ประคองชีวิตและจ่ายค่าเรียนมหาวิทยาลัยด้วยตัวเอง เนื่องจากฐานะครอบครัวยากจนและไม่สามารถส่งเสียผมเข้ามหาวิทยาลัยได้ และตอนเรียนที่มหาวิทยาลัย ผมก็ได้พบกับเธอ-สาวแสนสวยที่หนุ่มๆ ทุกคนในชั้นเรียนต่างก็ใฝ่ฝันถึง ไม่เว้นแม้แต่ผมเอง แต่ผมก็รู้ตัวดีว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเธอ ถึงอย่างนั้นก็ตาม ผมก็รวบรวมความกล้าสารภาพกับเธอจนได้ สุดท้ายผมนึกไม่ถึงว่าเธอจะยอมตกลงเป็นแฟนกับผม เธอบอกกับผมว่าอยากได้ของขวัญเป็นไอโฟนรุ่นล่าสุด ผมก็ไปรับงานซักเสื้อผ้าให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนเพื่อพยายามเก็บเงินซื้อให้เธอจนได้ และในที่สุดหนึ่งเดือนต่อมา ผมก็ซื้อมาได้จริง ๆ แต่ขณะที่ผมกำลังห่อของขวัญเพื่อนำไปมอบให้เธอ ก็พบว่าเธอกำลังมีอะไรกับหัวหน้าทีมฟุตบอลในห้องล็อกเกอร์ เธอเหมือนเปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่งซึ่งผมไม่เคยรู้จักเลย เธอหัวเราะเยาะความโง่เขลาของผม เหยียดหยามศักดิ์ศรีของผม ปล่อยให้เขาซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นแฟนใหม่ของเธอไปแล้ว ทุบตีผม ผมนอนเจ็บอยู่บนพื้นอย่างสิ้นหวัง ต่อมา จู่ ๆ ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากพ่อ ตั้งแต่วันนั้น ชีวิตของผมก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างกับหนัามือเป็นหลังมือ ใครจะไปรู้ว่า ผมเป็นลูกชายของมหาเศรษฐี