หนึ่งเหตุการณ์ที่พลาดพลั้ง เปลี่ยนชีวิตของเธอไปตลอดกาล ความรับผิดชอบอย่างจำยอม แปรเปลี่ยนเป็นตรวนรักอย่างไม่รู้ตัว เมื่อเขาคือเพลย์บอยร้อยเล่ห์ สวนเธอเป็นแค่กวางสาวที่รอเสือขย้ำ
หนึ่งเหตุการณ์ที่พลาดพลั้ง เปลี่ยนชีวิตของเธอไปตลอดกาล ความรับผิดชอบอย่างจำยอม แปรเปลี่ยนเป็นตรวนรักอย่างไม่รู้ตัว เมื่อเขาคือเพลย์บอยร้อยเล่ห์ สวนเธอเป็นแค่กวางสาวที่รอเสือขย้ำ
“ปึก!”
เอกสารปึกใหญ่ถูกโยนโครมลงกลางโต๊ะ เจ้าของห้องหัวเสียไม่แพ้กันคราวก่อนที่โดนคู่แข่งดักหน้าปาดหน้าเค้กไป เพระลูกน้องของเขาไว้ใจเอเจนซี่มือสมัครเล่นมากเกินไป
“ฟ้องเรียกค่าเสียหาย เอาให้พวกแมลงหวี่พวกนั้นหลาบจำ คราวหน้ามันจะได้ไม่กล้ามาล้อเล่นกับฉันอีก”
อลัน ริชาร์ด มหาเศรษฐีหนุ่มใหญ่วัยสามสิบห้า หนุ่มลูกเสี้ยวไทย-อังกฤษ-รัสเซีย เจ้าของส่วนสูง 185 เซนติเมตรหยัดตัวลุกขึ้นยืนเต็มความสูง รองเท้ามันเงาพาเจ้าของก้าวเท้าเดินออกมานอกโต๊ะทำงาน นัยน์ตาสีเขียวมรกตจ้องลึกที่คนสนิทอย่างเอาเรื่อง
“สำหรับนาย ถ้าพลาดอีกครั้งเดียว ก็อย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีก ทำงานกับฉันต้องไม่มีคำว่าพลาด”
ผู้กุมบังเหียนจีแอลกรุ๊ปคำรามเสียงเข้ม อลันก้าวขึ้นแท่นผู้บริหารและควบตำแหน่งเจ้าพ่อธุรกิจค้าเพชรรัสเซียแทนบิดามาได้ห้าปี หลังจากบิดาเสียชีวิตลงอย่างกะทันหัน
เรื่องราวของบิดาถูกปิดตาย นางอลันดากลัวการสูญเสียจนถึงขึ้น สั่งห้ามให้ลูกชายยุ่งกับเรื่องนี้อีก และขอให้เขาหยุดรื้อพื้นเรื่องคดี เมื่อภรรยาเจ้าทุกข์ขอให้จบเรื่อง ทุกอย่างก็จบ
หากห้าปีในความอ่อนแอของครอบครัวและบริษัทที่กำลังง่อนแง่นเพราะการแย่งชิงตำแหน่งผู้บริหาร อลันก้าวเข้ามาในความขัดแย้งและการคัดค้านของหลายฝ่าย ด้วยคุณวุฒิที่ต่ำกว่าผู้ถือหุ้นหลายท่าน และวัยเพียงสามสิบที่เป็นปัญหาหลักก่อนเข้ารับตำแหน่ง แต่สามปีที่ผ่านมาเขาก็ได้พิสูจน์ความสามารถ พาจีแอลกรุ๊ปตีตลาดโลกกระจุย สร้างคู่ค้าและพันธมิตรระดับแนวหน้าของแต่ละประเทศไว้ทั่วโลก ไม่แปลกที่เขาจะได้รับฉายา “เทพบุตรนัยน์ตาเพชร”
เรื่องเสน่ห์ต่อเพศตรงข้าม เขาเพียงมองตาผู้หญิงคนไหน เจ้าหล่อนคนนั้นก็พร้อมจะตะกายขึ้นเตียงกับเขา ไม่มีข้อแม้ ไม่มีการันตี แต่พวกหล่อนก็จะได้ค่าตอบแทนมหาศาล มากพอที่จะก้าวออกไปตั้งตัว เพียงแค่เขาพอใจ...
อีกหนึ่งคือนักบริหารแถวหน้าที่นักธุรกิจในวงการเพชรเกรงขาม อีกหนึ่งคือเพลย์บอยจอมเจ้าเล่ห์ ผู้หญิงค่อนโลกต่างอยากพาตัวเข้าหา แต่เขาไม่เคยพลาดท่าสักคน ผู้ชายสองบุคลิก ลึกลับหาตัวจับยากที่หลายคนไม่เคยรู้จักตัวตนที่แท้จริงของเขา
อลันละสายตาจากหน้าจอ มองลูกน้องสองคนที่เข้ามาพร้อมกัน ฟิลิป เป็นคนสนิทที่เขาไว้ใจที่สุด เป็นเสมือนพี่เลี้ยงที่สอนงานเขาด้วย
ส่วนแมทซ์ เป็นหนุ่มไฟแรงที่เพิ่งจบปริญญาโทมาไม่นาน คนที่อลันพร้อมจะเทข้อมูลทุกอย่างปลุกปั้นให้ผงาดในวงการธุรกิจ หากแต่เจ้าตัวกลับชื่นชอบความสงบ ชอบทำอาหารและคอยดูแลความเป็นอยู่ของเจ้านายมากกว่าเรื่องธุรกิจ
“วันนี้ยังเหลืออีกกี่นัด”
“วันนี้หมดแล้วครับ แต่พรุ่งนี้บอสต้องบินไปเปอเซียร์ แล้วบินต่อไปที่เมืองไทย” ฟิลิปเป็นคนตอบ
คิ้วหนาของอลันขมวดมุ่น เงยหน้ามองลูกน้อง “ที่เมืองไทยงั้นหรือ!”
“ครับ...สมาคมผู้ค้าเพชรเพิ่งแจ้งกำหนดการที่แน่นอนมาเมื่อเช้า” คำตอบยังออกจากปากของฟิลิปเช่นเคย หากแต่คนถามกลับหันไปจ้องหน้าแมทซ์
“นายช่วยตรวจเช็คคิวงานอย่างละเอียดด้วย ถ้าเป็นงานลวกๆ ไม่มีแบบแผน ไม่เป็นสากล นายยกเลิกสัญญาไปได้เลย แล้วข้อมูลที่ให้หา ได้แล้วใช่ไหม”
อลันบอกเป็นเชิงสั่งงานแมทซ์ ครั้งนี้เขาตั้งใจจะพาแมทซ์ไปด้วยคนเดียว มีงานบางอย่างที่เขาจำเป็นต้องทำที่เมืองไทย และฟิลิปก็ต้องช่วยดูแลงานทางนี้แทนเขา
“งานนี้จัดโดยสมาคมนักธุรกิจผู้ค้าเพชร งานระดับประเทศอย่างนี้ผมว่าไม่น่าห่วง ส่วนข้อมูลวางอยู่บนโต๊ะ” อลันหันกลับไปมองหน้าลูกน้องเชิงตำหนิอีกครั้ง
“คราวที่แล้วนายก็พูดอย่างนี้ แต่ก็พลาด!”
“ผมรับรองว่าจะไม่มีข้อผิดพลาดอีก ในระหว่างการทำงานของผมต่อจากนี้ไป”
“อย่าดีแต่พูดล่ะ” อลันย้ำเสียงหนัก
“พรุ่งนี้บอสให้ผมโทรนัดคุณแคทรีน่าให้ไหมครับ” แมทซ์ถามอย่างเอาใจ เรื่องส่วนตัวเขาพูดได้เต็มปากว่ารู้ใจอลันที่สุด
อลันโบกมือ “ไม่ล่ะ ฉันต้องบินไปเมืองไทยต่อ ว่าจะไปพักผ่อนที่เมืองไทยแบบส่วนตัวสักพัก นายติดต่อเรื่องที่พักให้ฉันสักสองอาทิตย์นะ” ชายหนุ่มสั่งแมทซ์ก่อนที่จะหันหน้ามาหาฟิลิป
“ส่วนนาย...ฉันฝากทางนี้ด้วย นายเป็นคนเดียวที่ฉันไว้ใจที่สุด”
“ครับ” ฟิลิปโค้งรับ เขากับพ่อทำงานกับจีแอลกรุ๊ปตั้งแต่พ่อของอลันยังบริหาร จนถึงผลัดเปลี่ยนผู้บริหาร พ่อของเขาปลดเกษียณตัวเองกลับไปใช้ชีวิตที่บ้านเกิด แต่เขาก็ยังยืนเคียงบ่าเคียงไหล่กับอลันเรื่อยมา
อลันเหมือนเพิ่งนึกอะไรออก หันมากำชับแมทซ์อีกรอบ
“อ่อ...ฉันขอแบบเงียบที่สุด อย่าให้นักข่าวรู้ก่อนว่าฉันจะไป เมืองไทยเป็นตลาดใหม่ของเราและที่สำคัญ ฉันมีบางอย่างที่อยากได้ข้อมูล”
“แต่เราคงปิดไม่ได้ เจ้าของงานต้องประชาสัมพันธ์หนักอยู่แล้วว่าเจ้าพ่อธุรกิจค้าเพชรรัสเซียเดินทางไปร่วมงานด้วย”
“ฉันไล่นายออกวันนี้เลยดีไหมแมทซ์ ฉันหมายถึงวันที่ฉันเดินทาง ฉันอยากไปดูตลาดเพชรเมืองไทยก่อน แบบที่ไม่ต้องมีการจัดฉากเรียกนักลงทุน” ชายหนุ่มยกมือขึ้นแตะปลายคางอย่างครุ่นคิด เดินอ้อมกลับมาย่อตัวลงนั่งบนโต๊ะ ไขว้ขาสบายๆ
“ส่วนในงาน...เราหลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว ต้องไปทนยืนฟังพวกนั้นจัดฉากปั้นหน้าสวยหรู หลอกนักลงทุนไปตามหน้าที่”
“ครับบอส” เลขาหนุ่มรับคำ
แมทซ์เพิ่งทำงานกับอลันได้ไม่นาน ความสดใหม่ไฟแรงของเขาเป็นข้อดีลำดับต้นๆ แต่เพราะยังมีบางอย่างในใจของแมทซ์ที่ยังไม่ลบเลือน อลันก็ต้องพยายามผลักความรู้สึกนั้นออกไป และป้อนข้อมูลให้เขาเรียนรู้ในชั้นเชิงธุรกิจอีกมาก
อลันดึงเนคไทออกจากปกเสื้อ หลวมๆ กับจังหวะที่รองเท้ามันเงาของอลันยี่ห้อดังพาเจ้าของเข้ามาในบ้าน คฤหาสน์ของอาณาจักรเพชรริชาร์ดกลางกรุงเบลเกรด
“วันนี้ลูกชายฉันกลับบ้านได้รึ สงสัยพายุกำลังจะเข้า” เสียงของคนเป็นแม่ร้องทักลูกชาย ทั้งที่ปกตินางเองก็ไม่ค่อยได้อยู่ติดบ้านสักเท่าไร
นางอลันดา ริชาร์ด หรือ แอนเดียร์ ผู้หญิงวัยห้าสิบแปดที่ยังสวยพริ้งราวเพิ่งสี่สิบ นางสามารถเดินควงกับลูกชายได้ไม่อาย เพราะนางเคยเป็นนางแบบแถวหน้าของเมืองไทย หากแต่ได้แต่งงานเจ้าพ่อนักธุรกิจค้าเพชร ก้าวเข้าสู่วงสังคมชั้นสูงหรูหรา เข้าทางความชอบของนางที่ได้ออกงานสังคมทุกวัน
นางยอมทำทุกทางเพื่อลบเลือนความรู้สึกในอดีตที่ผ่านมา ไม่เคยพูดถึงสายเลือด “บูรกนก” สักครั้ง จนทำให้คนไทยหลายคนในอังกฤษเบือนหน้าหนีอย่างไม่ชอบใจ เพราะไม่ใครรู้ตื้นลึกหนาบางถึงความรู้สึกอัดอั้นที่นางต้องทนแบกรับมาคนเดียวมานานสามสิบกว่าปี
เธอ...ถูกส่งตัวมาทดสอบถุงยางบริษัทของเขา แต่พลาดท้อง เขา...เชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ของตัวเอง และไม่ยอมรับ และหาว่าเธอหน้าเงิน หญิงสาวต้องหอบลูกพิสูจน์ "เด็กคนนี้คือลูกของเขา" แต่ไม่คิดอยากได้พ่อเด็กหรอกนะแค่จะสวยให้หมามันน้ำลายหกเล่น ผัวที่ดีคือผัวใหม่เท่านั้น เธอทำให้เขาขาดความมั่นใจในตัวเอง เธอทำให้เพลย์บอยคลั่งไคล้แม่ลูกอ่อนจนโงหัวไม่ขึ้น และเธอก็ใจแข็งเหลือเกินกลับมาเถอะนะ *************************************** "ฉันท้อง!" "ท้องงั้นเหรอ! เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด ฉันใส่ถุงยางทุกครั้ง และฉันก็มั่นใจผลิตภัณฑ์ของบริษัทฉัน" ลีอาห์แค่นเสียงถาม มองมายาวีย์อย่างดูแคลน สุดท้ายการที่ผู้หญิงที่บอกว่าเกลียดเขาทุกวินาทีกลับมาขอพบด้วยประเด็นเหนือชั้นกว่าเดิม คงหนีไม่พ้น เงิน "หึ! มุกตื้นๆ แพทเทิร์นเดิมๆ ของผู้หญิงหากิน แค่เธออ้าปากฉันก็มองทะลุปรุโปร่ง คิดจะจับผู้ชายรวยง่ายๆ ฉันไม่ได้มีเขาอยู่บนหัวนะ แล้วก็ไม่ใช่พ่อพระที่จะยอมรับเด็กที่ไม่รู้ว่าเกิดจากสเปิร์มของใครมาเป็นลูกแน่นอน เล่นผิดคนแล้วล่ะ" "ฉันไม่เคยคิดจะให้คุณยอมรับ ลูกของฉันอยู่แล้ว ฉันเลี้ยงเองได้ ที่มาแค่จะมาบอกว่าฉันจะฟ้องบริษัทของคุณที่ผลิตถุงยางไม่ได้คุณภาพต่างหาก" "เธอจะบ้าหรือไง เธอมีหลักฐานอะไรมายืนยัน" ชายหนุ่มโกรธ มายาวีย์จ้องกลับอย่างท้าทาย "คอยดูความบ้าของฉันก็แล้วกัน มันจะเป็นตลกร้ายที่คุณจะจำฉันไม่มีวันลืมเลยทีเดียว" ปึก!! มายาวีย์โยนเอกสารลงที่โต๊ะทำงานของลีอาห์ "นี่เป็นผลตรวจการตั้งครรภ์ของฉัน รอผลตรวจดีเอ็นเอ แล้วก็ไปเจอกันที่ศาล หรือคุณจะยอมรับว่าใช้ถุงยางอนามัยของบริษัทอื่นทำฉันท้องก็ได้นะ" ไปตามลุ้นกันต่อนะคะ สุดท้ายจะลงเอยแบบไหน แอบกระซิบว่าพระเอกครางเป็นหมาเลยค่ะ นางเอกใจเด็ดมากเลยทีเดียว
เขาเรียกว่าบริหารเสน่ห์ อย่าหาว่าหนูแรดนะคะ นะคะ" "แรดเงียบๆ แอบกินเนียนๆ แต่เซียนต้องหลบ" อันดา เจ้าของสโลแกน ‘ถ้าผู้ชายคิดจะมอมเหล้าแล้วลากเข้าโรงแรม ผู้ชายตายก่อนเพราะเปลือง’ เด็กวิศวะก่อสร้างสุดแสบ สายปาร์ตี้ และนักล่าแต้มบริหารเสน่ห์ อันดาถูกครอบครัวมั่นหมายให้กับผู้ชายคนหนึ่งตั้งแต่ลืมตาดูโลกวันแรก เธอเรียกคู่หมั้นว่าห่วงคล้องคอ โซ่ตรวนที่กักขังอิสระของเธอมาตลอดชีวิต เธอตั้งป้อมเกลียดเขา โดยไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะอยากเอาชนะหรือความรู้สึกจริงๆ กันแน่ ถึงแม้จะเผลอมีอะไรกับเขาในวันที่เธอเมาหนัก เธอก็สั่งให้เขาลืมเรื่องวันนั้น และห้ามตอกย้ำกับเธออีก เธอไม่แคร์กับเรื่องแค่นั้น จนกระทั่งวันหนึ่ง…เขายอมหลีกทางให้เธอกับผู้ชายคนใหม่ วันนั้นเธอถึงได้รู้ความจริง ว่าเธอขาดผู้ชายคนนั้นไม่ได้ ปฏิบัติการตามล่าเฮียเบิ้มกลับมาทำผัวจึงเกิดขึ้น…
เรื่องชุลมุนเกิดขึ้น เพราะเขาดันไปเผลอพลาดท่า มีอะไรกับนักศึกษาฝึกงานเสียนี่ แถมเจ้าหล่อนยังทำเมินต่อพรหมจารีที่สูญเสีย หล่อนทำให้เขาเสียเซลฟ์ขาดความมั่นใจอยู่หลายวัน จนเขาจะต้องค้นหาความจริง หล่อนมีดีอะไรกันแน่ ถึงทำให้เขาลุ่มหลงได้มากขนาดนี้ คีรติหวงความโสดขั้นสุด รอดมือแม่เสือสาวนักล่ามาหลายปี แต่ดันมาตกม้าตาย ติดกับดักนักศึกษาสาว โดนเด็กตกเข้าให้ หัวใจแพ้ลูกอ้อนอ่อนยวบ แต่ร่างกายกลับฟิตปึ๋งปั๋งซะนี่ "เอาสิ! อยากจับตรงไหนก็เชิญ" วิเวียน นักศึกษาฝึกงานทางด้านวิศวกรรมศาสตร์ก่อสร้าง แต่เธอกลับถูกส่งไปดูแลห้องของเจ้านายในกรณีพิเศษ แต่ก็ทำปลาหายากราคาสูงลิบของเขาตายไป 9 ตัว เธอจึงต้องทำงานชดใช้เขาต่อหลังจากฝึกงาน บอสคีย์ ผู้ชายฮอตแห่งปี ควงสาวไม่ซ้ำหน้าแถมดีกรีแต่ละคนไม่ธรรมดา แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ยอมลงเอยกับใคร ประธานบริษัทที่แสนดุ เฮี๊ยบและโหดขั้นสุด ทุกอย่างที่อยู่รอบตัวเขาต้องสมบูรณ์เป๊ะทุกองศา
“รอยจูบ” ที่เธอมอบให้เขาเพราะความสะใจ แต่มันกลับกลายเป็นพันธนาการให้เธอดิ้นไม่หลุด เพลย์บอยร้ายอย่างเขาจะไม่ยอมให้ใครจูบฟรี!
สำหรับปราบ...เขาก็แค่สนุก แต่กลับผูกพันจนอยากกักตัวเธอไว้ สำหรับแป้งฝุ่น เธอแค่รอให้ข้ามคืน แค่กลับเป็นพันธนาการรั้งเธอไว้ชั่วชีวิต
หล่อนถูกหลอกให้มานอนอยู่บนเตียงนายหัวกริน และถูกเจ้าของเตียงยัดเยียดตำแหน่งเมียบรรณาการให้ แรกเริ่มจำยอม...ก่อเกิดรักจนตั้งท้อง...แต่ตัวจริงก็มาทวงคืน เขาเฉดหัวเธอออกจากบ้านพร้อมกับลูกในท้อง!!! นายหัวกริน เทวารักษ์ สมิธ(Smith) ผู้ชายที่เกลียดผู้หญิงในสังคมเมือง แต่เขากลับต้องตกกระไดรับเมียบรรณาการที่มารดาส่งมาให้จากกรุงเทพอย่างไม่ทันตั้งตัว สาวแรกแย้มที่สามารถแย้มหัวใจด้านชาให้กลับมาชุ่มฉ่ำอีกครั้ง พลอยขวัญ เพียงเกตุ สาวสวยลูกกำพร้าที่ถูกกดทับด้วยหน้าที่คนรับใช้ แต่มีโอกาสได้เรียนจบปริญญาตรีแต่เธอก็ถูกศยามลกดขี่และล้ำเลิกบุญคุณตลอดเวลา จนเกิดจับพลัดจับพลูได้เดินแบบเฉิดฉายบนแคทวอร์ก สาเหตุของเรื่องราวทั้งหมด เมื่อพลอยขวัญต้องมานอนอยู่บนเตียงนายหัวหนุ่มเมืองใต้ และถูกเจ้าของเตียงยัดเยียดตำแหน่งเมียบรรณาการอย่างไม่ทันตั้งตัว แรกเริ่มจำยอม...ผ่านมารัก...ตัวจริงกลับมาทวงคืน และเธอต้องเลือก...ระหว่าง “กตัญญู” กับ “หัวใจ”
เมื่อเซิ่งหนิงเตรียมจะบอกฮั่วหลิ่นเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ของเธอ ทว่ากลับพบเขาช่วยพยุงผู้หญิงอีกคนลงจากรถอย่างเอาใจใส่... เคยคิดว่าตนเองอยู่เคียงข้างฮั่วหลิ่นคอยดูแลเขามาสามปี สักวันหนึ่งเขาจะมาสามารถสร้างความประทับใจให้กับเขา แต่สุดท้ายเป็นตนเองที่คิดเองเออเองไปฝ่ายเดียว เซิ่งหนิงตายใจแล้วจากไป สามปีต่อมา ข้างกายของเธมีผู้ชายอีกคนหนึ่ง และฮั่วหลิ่นเสียใจมาก เจาพูดด้วยความโศกเศร้า "เซิ่งหนิง เรามาแต่งงานกันเถอะ" เซิ่งหนิงยิ้มอย่างเฉยเมย "ขออภัยนะคุณฮั่ว ฉันมีคู่หมั้นแล้ว"
“คุณรักฉันยอมรับมาเถอะ” “เปล่าเลย มิรันดา ผมไม่เคยรักคุณเลยสักนิด ที่ผ่านมามันก็แค่เรื่องเซ็กซ์ ให้ยืนยันอีกกี่ครั้งผมก็พูดเหมือนเดิม ผมไม่ได้รักคุณผมรักแค่เซ็กซ์ของคุณ” ************************* เพราะเสียคนรักจากการลอบทำร้ายของคู่อริเมื่อห้าปีก่อน มาร์คัสจึงไม่คิดจะรักใครอีก แต่เหมือนฟ้าจะกลั่นแกล้งเมื่อมาเจอกับมิรันดาสาวน้อยที่เขาใช้เงินซื้อมาเพื่อให้เธอเลิกยุ่งกับน้องเขยของตนเอง ชายหนุ่มทั้งทั้งหลง แต่ก็ไม่อยากให้เหตุการณ์แบบเดิมเกิดขึ้นอีก เขาจึงคิดจะวางมือและถอนตัวจากธุรกิจสีเทา แต่การจะลงจากหลังเสือนั้นมันยากกว่าที่คิดไว้ ในเมื่อมีคนที่จ้องจะกำจัดเขาให้สิ้นซาก
ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวของเฉียวซิงเฉินหนีไปกับผู้หญิงอีกคน เธอโกรธมาก จึงสุ่มหาชายคนหนึ่งมาแต่งงานด้วยทันที "ตราบใดที่คุณกล้าแต่งงานกับฉัน ฉันก็ยอมเป็นเมียคุณ" หลังจากแต่งงาน เธอได้ค้นพบว่าสามีของเธอคือลูกชายคนโตของตระกูลลู่ที่ขึ้นชื่อว่าไร้ประโยชน์ ชื่อลู่ถิงเซียว ทุกคนเยาะเย้ยว่า "เธอยนี่ช่วยไม่ได้จริงๆ" และผู้ชายที่ทรยศเธอก็มาเกลี้ยกล่อมว่า "ไม่เห็นต้องทำร้ายตัวเองเพราะฉันหรอก สักวันเธอต้องเสียใจแน่ๆ" เฉียวซิงเฉินหัวเราะเยาะและโต้ตอบว่า "ไปให้พ้น ฉันกับสามีรักกันมาก" ทุกคนต่าก็คิดว่าเธอเป็นบ้า ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อตัวตนที่แท้จริงของลู่ถิงเซียวถูกเปิดเผย ที่แท้เขาเป็นคนรวยอันดับต้นๆในโลก ในการถ่ายทอดสดทั่วโลก ชายคนนี้คุกเข่าข้างเดียว ถือแหวนเพชรมูลค่าหลักพันล้าน และพูดช้าๆ ว่า "คุณภรรยา ชีวิตที่เหลือนี้ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ"
คุณลู่ผู้เย่อหยิ่งแสร้งทำตัวเป็นช่างซ่อมรถเพื่อแต่งงานกับเจียงวานก็เพียงเพื่อแก้แค้น ในสายตาของเขา เธอเป็นผู้หญิงใจแคบที่รังเกียจความพิการของเขา เขาแสร้งทำท่าทางเอาอกเอาใจ ดูเหมือนรักใคร่ แต่ในใจกลับเฉยชาไร้ความรู้สึก ทว่าไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไร เขากลับตกหลุมรักเธอโดยไม่รู้ตัว หลังหย่าขาด เขากลับรู้สึกเสียดาย พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อขอคืนดี ทว่ากลับได้รับเพียงเสียงหัวเราะเย้ยหยันจากเธอ “คุณลู่คงจำคนผิดแล้วมั้ง อดีตสามีของฉันเขา... เป็นแค่ช่างซ่อมรถคนหนึ่ง ไม่ใช่เจ้าของบริษัทลู่ซื่อกรุ๊ปผู้ร่ำรวยอันดับหนึ่งของประเทศแบบคุณ ฉันเอื้อมไม่ถึงหรอก” คุณลู่หัวเราะหึ ๆ สองเสียง “ไม่ต้องเอื้อมหรอก งั้นฉันจะลาออกจากตำแหน่งประธานบริษัทแล้วไปเป็นช่างซ่อมรถก็ได้” “??”
หยางจื้อซี เด็กกำพร้าจากศตวรรษที่21 ถูกองค์กรมืดเลี้ยงดูจนเติบโตและทำให้เธอกลายเป็นมนุษย์กลายพันธ์ ในระหว่างที่ถูกส่งตัวไปทำภารกิจลับ เธอกลับถูกคนในองค์กรมืดหักหลังและถูกฆ่าโดยเพื่อนสนิทที่เธอไว้ใจมากที่สุด ก่อนสิ้นใจเธอถามเพื่อนสนิทว่าทำไม แต่ไม่ได้รับคำตอบจากปากของอีกฝ่าย สิ่งที่เธอได้รับคือรอยยิ้มที่ดูถูกเหยียดหยามและ คำว่า “โง่” จากปากของอีกฝ่ายเท่านั้น หลังจากที่ตายไปแล้วสิ่งที่เธอคิดไว้ คงจะเป็นนรกหรือที่ไหนสักแห่งที่เป็นโลกหลังความตาย แต่ทว่ามันกลับไม่เป็นเช่นนัน เธอตื่นขึ้นมาในร่างของ หยางจื้อซี เด็กหญิงอายุ เพียง 13 ขวบปีในหมู่บ้านป่าหมอก ในดินแดนโบราณล้าหลังที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ คล้ายกับว่าเป็นโลกคู่ขนานที่อยู่อีกมิติหนึ่ง เธอตื่นขึ้นมาในบ้านที่ผุพัง ครอบครัวยากจน มีแม่ที่อ่อนแอและเจ็บป่วย มีพี่น้องที่อายุน้อย มีปู่ย่าตายายที่เห็นแก่ตัวและใจร้าย มีลุงที่เห็นแก่ได้ป้าสะใภ้ที่เต็มไปด้วยความละโมบโมบโลภมาก หยางจื้อซี คิดว่านับจากนี้ไปชีวิตจะต้องอยู่ได้ด้วยตัวเอง หากใครมารังแกก็แค่ทุบตี เธอไม่เชื่อว่าด้วยพลังที่ติดตัวเธอมาจากชาติที่แล้วจะไม่สามารถอยู่รอดได้ในโลกล้าหลังแห่งนี้
หลี่เมิ่งเหยาย้อนเวลามาอยู่ในร่าง ของเด็กสาววัยสิบสองปี ในวันที่มารดาอนุผู้โง่เขลา ถูกขับไล่ออกจากจวน โชคยังดีที่ตอนตาย นางสวมกำไลหยกโลกันตร์เอาไว้ มันจึงติดตามนางมาที่นี่ด้วย +++ 1 : มารดาโง่ จนถูกไล่ออกจากตระกูล จวนตระกูลหลี่เจ้าเมืองถัง สตรีสองนางถูกสาวใช้จับคุกเข่าลง ตรงหน้าของหลี่หงซวนเจ้าเมืองถัง ทั้งยังเป็นพ่อสามีของทั้งคู่อีกด้วย ท่านกำลังสอบสวนเรื่องของสะใภ้ใหญ่ของบ้านสาม ถูกฮูหยินรองกับอนุรวมหัวกันลอบทำร้าย ด้วยการวางยาขับเลือดในถ้วยน้ำแกงบำรุงครรภ์ ทำให้นางต้องสูญเสียทารกในครรภ์ไป “ท่านพ่อข้าไม่รู้จริง ๆ ว่านั่นเป็นยาขับเลือด ฮูหยินรองบอกว่าเป็นน้ำแกงบำรุงครรภ์ ให้ข้าเป็นคนนำไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ เป็นนางนั่นเอง นางหลอกข้า !” เฉาซูหลิ่งชี้นิ้วไปทางสตรีด้านข้าง ร้อนรนเอ่ยออกมาเหมือนคนไม่ได้รับความเป็นธรรม “อนุเฉาเจ้าอย่ามาใส่ร้ายข้านะ เจ้าทำคนเดียวทั้งนั้นไม่เกี่ยวกับข้าเลย” ฮูหยินรอง ถูซวงอี้ ชี้นิ้วใส่หน้าเฉาซูหลิ่งกลับคืน ต่างคนต่างโยนความผิดให้กัน ฮูหยินผู้เฒ่าหลิวเยี่ยนหนานโบกมือให้คนเข้ามา “ข้าให้โอกาสพวกเจ้าสองคนพูดความจริง แต่กลับไม่มีใครยอมรับความผิดแม้แต่คนเดียว มันน่าจับส่งทางการให้รู้แล้วรู้รอด” พ่อบ้านหลัวให้คนลากสาวใช้คนหนึ่งเข้ามา สภาพของนางถูกทรมานจนเนื้อตัวบวมช้ำไปหมด “เรียนนายท่านข้าให้คนไปค้นห้องสาวใช้ทุกคนในจวน พบเทียบยาซ่อนไว้ใต้หมอน จากห้องของสาวใช้คนนี้ขอรับ” ถูซวงอี้ถึงกับคุกเข่าต่อไปไม่ไหว ทิ้งตัวลงไปนั่งอยู่บนพื้น สาวใช้ที่ถูกทรมานจนสภาพน่าเวทนานั่น เป็นเสี่ยวอิงสาวใช้สินเดิมของนางเอง “ฮูหยินรอง ข้าขอโทษ ข้าทนต่อไปไม่ไหวจริง ๆ ข้าขอโทษ !” เสี่ยวอิงโขกศีรษะลงตรงหน้าของถูซวงอี้แรง ๆ น้ำตาไหลนองหน้าจน แทบไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่แล้ว พ่อบ้านหลัวเอ่ย “ข้าให้คนไปถามที่หอโอสถแล้วขอรับนายท่าน เป็นเทียบยาขับเลือดจริง ๆ” หลี่หงซวนมองไปทางบุตรชายคนที่สามของตน พบว่าเขามีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก สตรีที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าคือฮูหยินรอง กับอนุภรรยาที่เขารักใคร่ไม่ต่างกัน เหตุใดถึงได้คิดร้ายต่อฮูหยินใหญ่ของเขาได้ เป็นเหตุให้เขาต้องสูญเสียลูกที่อยู่ในท้องของนางไป เดิมทีฮูหยินใหญ่ของเขาก็ตั้งท้องยากอยู่แล้ว เขารอมาตั้งนานกว่าจะมีวันนี้ได้ ไม่คิดมาก่อนว่าจะต้องสูญเสียไปเช่นนี้ “หย่วนเจ๋อนี่เป็นเรื่องในเรือนของเจ้า เจ้าอยากตัดสินเรื่องนี้ด้วยตัวเองหรือไม่” ผู้เป็นบิดาเอ่ยถามบุตรชาย “ไม่ ข้าไม่อยากเห็นหน้าพวกนางอีกต่อไป แล้วแต่ท่านพ่อเถอะขอรับ ข้าขอตัวไปดูฮูหยินใหญ่ก่อน” หลี่หย่วนเจ๋อคำนับบิดา สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปในทันที หางตายังไม่แม้แต่จะมองสตรีทั้งสองนาง เฉาซูหลิ่งลนลานตามเขาไป “ท่านพี่ช่วยข้าด้วย ข้าไม่ผิดนะเจ้าคะ ท่านพี่ !” แต่ถูกบ่าวรับใช้ขวางทางเอาไว้ หลี่หงซวน “หยุดโวยวายได้แล้วอนุเฉา เจ้าเป็นคนถือถ้วยน้ำแกงใส่ยาขับเลือด ไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ด้วยตัวเอง ยังคิดจะหนีความผิดนี้ไปได้อีกรึ” “ท่านพ่อขะข้าข้า...ไม่ผิด” เฉาซูหลิ่งทิ้งตัวไปด้านหลังอย่างหมดเรี่ยวแรง เดิมทีนางก็ไม่เป็นที่โปรดปรานของพ่อแม่สามีอยู่แล้ว เพราะไม่สามารถให้กำเนิดบุตรชายได้ ครั้นได้บุตรสาวก็นิสัยขี้ขลาดขี้กลัว ไหนเลยจะเชิดหน้าชูตาให้ตระกูลหลี่ได้ เฉาซูหลิ่งนั่งเหม่อลอย คล้ายคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขณะที่หลี่หงซวนกำลังประกาศโทษทัณฑ์ของพวกนาง ถูซวงอี้กับคนของนาง ถูกขายออกจากจวน ไปอยู่หอนางโลมอย่างเงียบ ๆ ชาตินี้อย่าได้ก้าวเท้า กลับมาเหยียบที่จวนตระกูลหลี่อีก ส่วนเฉาซูหลิ่งถูกขับไล่ออกจากจวน ไปพร้อมกับบุตรสาว ให้ไปอยู่เรือนร้างของตระกูลหลี่ที่เมืองฉาง ห้ามกลับมาที่ตระกูลหลี่อีกชั่วชีวิต “ท่านพ่อท่านขับไล่ข้าไป ข้ายังพอรับได้ เหตุใดต้องขับไล่เหยาเอ๋อร์ไปด้วย นางเพิ่งจะสิบสองปีเองนะเจ้าคะ” เฉาซูหลิ่งนึกถึงบุตรสาวร่างกายผ่ายผอม นอนซมเพราะพิษไข้อยู่ เกิดนึกสงสารนางขึ้นมาจับใจ ฮูหยินผู้เฒ่าหันไปมองสามีเล็กน้อย นางเห็นเด็กสาวคนนั้นมาตั้งแต่เกิด แม้ไม่ได้เอ็นดูแต่ก็นับว่าเป็นสายเลือดเดียวกัน “ฮูหยินเรื่องนี้ข้าตัดสินใจไปแล้ว ไม่อาจคืนคำได้” คำพูดของประมุขของตระกูล มีหรือใครจะกล้าขัด เฉาซูหลิ่งปล่อยเสียงร้องไห้โฮออกมาดัง ๆ นางโง่งมจนทำให้บุตรสาว ต้องมารับเคราะห์กรรมตามไปด้วย “ลากตัวอนุเฉาออกไป หารถม้าสักคันให้คนส่งนาง ไปที่เรือนร้างเมืองฉาง” คำสั่งของหลี่หงซวนเป็นคำขาด บ่าวไพร่รีบทำตามในทันที ครั้นได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพังกับฮูหยินผู้เฒ่า หลี่หงซวนถึงได้บอกเหตุผล ที่ต้องตัดสินใจทำเช่นนี้ นั่นเพราะตระกูลจี้ได้ยื่นคำขาดมา ให้ขับไล่พวกเขาออกไปให้หมด อย่าให้เหลืออยู่แม้แต่ตนเดียว ไม่ต้องการให้คนที่ทำร้ายบุตรสาวของพวกเขา อยู่ระคายสายตาของจี้ชิวหรงอีกต่อไป ฮูหยินผู้เฒ่าแค่นออกมาหนึ่งคำ “อ้างเหตุผลข้าง ๆ คู ๆ ความจริงแล้วต้องการกำจัดอนุในเรือนบุตรสาวทิ้งให้หมด นี่กระทั่งเด็กคนหนึ่งก็ไม่เว้น แต่ก็เอาเถอะ เหยาเอ๋อร์อยู่ที่นี่ ก็ใช่จะมีประโยชน์อันใด นางไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเราด้วยซ้ำ ให้นางไปกับแม่ของนางนั่นแหละดีแล้ว” หลี่หงซวนนั้นเป็นเพียงเจ้าเมืองเล็ก ๆ มีตำแหน่งเป็นขุนนางขั้นที่ห้า ฝั่งตระกูลจี้บ้านเดิมของจี้ชิวหรงนั้น อยู่ในเมืองหลวงมีตำแหน่งใหญ่โตกว่าหนึ่งขั้น เรื่องนี้เขาจึงต้องขบคิด ถึงผลได้ผลเสียในอนาคตอีกด้วย การเสียสละอนุกับหลานสาวคนหนึ่ง เพื่อชดเชยให้แก่คนตระกูลจี้ นับว่าเป็นเรื่องสมควรทำแล้ว “ข้าก็คิดเช่นฮูหยินนั่นแหละ เพียงแต่สะใภ้สามแท้งคราวนี้ ไม่รู้จะยังสามารถตั้งท้องได้อีกหรือไม่ พวกเรารอดูไปก่อนดีกว่า หากนางไม่สามารถตั้งท้องได้จริง ๆ เราค่อยหาอนุมาให้หย่วนเจ๋อภายหลังก็ยังได้ ยามนั้นคนตระกูลจี้จะเอาอะไรมาง้างกับเราได้อีก” “จริงดังท่านว่าเจ้าค่ะ” ฝ่ายเฉาซูหลิ่งที่ถูกคนใช้ ลากตัวออกมาให้เก็บของในเรือน นางส่งเสียงเอะอะโวยวายตลอดทาง พร่ำบอกต้องการพบหลี่หย่วนเจ๋อให้ได้ แต่ถูกสาวใช้ขวางไว้ไม่ให้ไป นางจำใจกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง รีบเก็บของสำคัญใส่ห่อผ้าเพื่อออกเดินทาง
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY