ตลอดระยะเวลาสามปีที่หยุยเอินแต่งงานกับฝู้ถิงหย่วน เธอพยายามทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุด เธอคิดว่าความอ่อนโยนของตนจะสามารถละลายใจที่เย็นชาของฝู้ถิงหย่วนได้ แต่ต่อมาเธอก็รู้ตัวว่าไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ผู้ชายคนนี้ก็ไม่มีวันจะตกหลุมรักเธอได้ ด้วยความสิ้นหวังของเธอ สุดท้ายเธอตัดสินใจที่จะยุติการแต่งงานครั้งนี้ ในสายตาของฝู้ถิงหย่วน หยุยเอิน ภรรยาของเขาเป็นผู้หญิงที่โง่ ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่าภรรยาของเขาจะกล้าโยนใบหย่าใส่เขาต่อหน้าคนมากมายในงานเลี้ยงวันครบรอบฝู้ซื่อ กรุ๊ป หลังจากหย่าร้าง ทุกคนต่างคิดว่าพวกเขาจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป แต่เรื่องราวระหว่างทั้งสองคงไม่ได้จบลงอย่างง่าย ๆ แบบนี้ หยุยเอินได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และคนที่เป็นผู้มอบถ้วยรางวัลให้กับเธอก็คือฝู้ถิงหย่วน หยุยเอินคิดไม่ถึงว่าผู้ชายที่สูงส่งและแสนเย็นชาคนนี้จะลดตัวลงอ้อนวอนเธอต่อหน้าผู้ชมทั้งหมด“หยุยเอิน ก่อนหน้านี้คือผมผิดเอง ขอโอกาสให้ผมอีกครั้งได้ไหม”หยุยเอินยิ้มด้วยความมั่นใจ“ขอโทษนะคุณฝู้ ตอนนี้ฉันสนใจแต่เรื่องงาน”ชายหนุ่มคว้ามือเธอไว้ ดวยตานั้นเต็มไปด้วยความผิดหวัง หยุยเอินสบัดมือเขาและเดินจากไปโดยปราศจากความลังเลใด ๆ
“ถิงหย่วน แกก็แต่งงานกับหยุยเอินมาสามปีแล้วนะ ควรคิดที่จะมีลูกได้แล้ว”
น้ำเสียงอันหนักแน่นของชายชราลอยออกมาจากห้องอ่านหนังสือที่ประตูเปิดไว้อยู่
คำพูดอันแสนเย็นชาของชายคนหนึ่งดังขึ้นตามมา “จะให้มีลูกกับผู้หญิงที่ไม่ได้รักได้ยังไงกันครับ”
หยุยเอินกำลังจะเคาะประตูบอกพวกเขาว่าอาหารเย็นพร้อมแล้ว เมื่อได้ยินคำพูดนั้น เธอก็หยุดชะงักทันที ใบหน้าอันอ่อนโยนของเธอก็ซีดเผือดลง
เสียงของชายหนุ่มดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้เขาเริ่มหมดความอดทนลงเล็กน้อย “คุณปู่ครับ ผมจะพูดกับคุณปู่ให้ชัดเจนอีกรอบนะครับ ผมกับหยุยเอินมีลูกด้วยกันไม่ได้ คุณปู่ล้มเลิกความคิดพวกนี้ไปได้เลย”
“ไอ้เด็กเปรตเอ๊ย!” ชายชราสบถออกมาด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว เขาทิ้งแก้วใบหนึ่งลงกับพื้น พร้อมกับเสียงฝีเท้าของชายคนหนึ่งที่เดินออกไป
หยุยเอินรีบไปซ่อนตัวอยู่ในห้องน้ำที่อยู่ข้าง ๆ เพราะว่าเธอตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก เอวของเธอจึงถูกขอบแหลม ๆ ของอ่างล้างมือบาดเข้าอย่างแรง
บาดแผลนั้นเจ็บลึกไปทั่วทั้งตัว แผ่ขยายไปจนถึงในหัวใจเลยทีเดียว เธอเจ็บปวดมากจนน้ำตาเอ่อล้นไปท้วมดวงตา
เมื่อไม่กี่วันก่อน เธอได้รับแจ้งใบรับรองการตั้งครรภ์ใบหนึ่งในโทรศัพท์ ซึ่งคนที่ส่งมาคือ เซิ่นเหยา นางฟ้าที่สามีของเธอฝู้ถิงหย่วนกำลังหลงใหลอยู่
ส่งมาพร้อมกับคำพูดเสียดสีของเซิ่นเหยาด้วย……
“หยุยเอิน เธอแต่งงานกับถิงหย่วนมาสามปีแล้ว แต่เขาไม่เคยรักเธอเลย เธอนี่ช่างล้มเหลวเสียจริงนะ”
“เธอได้เเต่ตัวของเขา เเต่กลับไม่ได้ใจของเขาเลย มีแต่เธอเท่านั้นแหละที่ถนัดทำเรื่องต่ำต้อยไม่เคารพตัวเองเช่นนี้ ถ้าเป็นฉันก็คงจะอับอายจนกระโดดตึกฆ่าตัวตายไปนานแล้ว”
ก่อนแต่งงาน หยุยเอินไม่รู้ด้วยซ้ำว่า เซิ่นเหยามีตัวตนอยู่จริง
จนกระทั่งถึงวันแต่งงาน ฝู้ถิงหย่วนไม่กลับมาทั้งคืน เช้าวันรุ่งขึ้นข่าวอื้อฉาวของเขากับเซิ่นเหยาดาราสาวชื่อดังที่เดินเข้าออกโรงแรมก็ดังสนั่นไปทั่ว
เธอถึงได้เข้าใจว่า ที่แท้สามีของเธอมีคนอยู่ในใจอยู่แล้ว
ที่น่าตลกก็คือ ในตอนนั้นเธอยังคงคาดหวังว่าเธอจะได้ความรักเเละความสุขจากเขา เธอคิดว่า เขาคงจะเปลี่ยนเเปลงตัวเองได้หลังจากที่เเต่งงานกันเเล้ว เธอจึงลาออกจากงาน เเล้วกลายมาเป็นภรรยาอย่างเต็มตัวของเขาด้วยความอุ่นใจ
เเต่น่าเสียดายที่สามปีต่อมา……
ทันทีที่เธอเข้าไปซ่อนตัวในห้องน้ำ ประตูก็ถูกผลักเปิดออกอย่างแรง เธอเดินเซถอยหลังไปสองสามก้าว
ในสายตาอันปริ่มน้ำตาของเธอนั้น เธอเห็นชายผู้เย็นชาเดินเข้ามา เขาก็คือ ฝู้ถิงหย่วน สามีของเธอนั่นเอง
ท่าทางของเขาเย็นยะเยือกยิ่งนัก ชุดสูทสีดำทั้งตัวของเขายิ่งเพิ่มรัศมีโหดร้ายให้แผ่ออกมามากขึ้นไปอีก พอเข้ามา เขาก็บีบกรามของเธออย่างไม่เกรงใจใด ๆ “ไปยุให้คุณปู่เร่งให้ผมมีลูกกับคุณเหรอ? หยุยเอิน ไม่กี่ปีมานี้ฝีมือของเธอช่างพัฒนาขึ้นมาเรื่อย ๆ เลยนะ จริงไหม? !”
ยังไม่ทันที่หยุยเอินจะอ้าปากพูดอะไร ดวงตาของเขาก็ยิ่งหนาวเหน็บราวกับป่าดิบชื้น “เมื่อสามปีก่อน คุณได้วางแผนเข้ามาเป็นสะใภ้ในตระกูลฝู้ ตอนนี้คุณคงอยากใช้ลูกเป็นข้ออ้างในการพึ่งพาตระกูลฝู้ไปตลอดชีวิตเลยใช่ไหม?”
สีหน้าของหยุยเอินเปลี่ยนไป เธอกัดริมฝีปากแน่น “ไม่ใช่นะ!”
“ถ้าไม่ใช่ แล้วทำไมถึงต้องเป็นยายแม่มดมาแอบฟังการสนทนาของผมกับคุณปู่ด้วยล่ะ?”
สายตาของถิงหย่วนเย้ยหยันยิ่งนัก “แต่ว่า คุณคงมาได้ยินพอดีสินะ จะได้รู้ว่าผมรู้สึกกับคุณยังไง หยุยเอิน คุณจะให้กำเนิดลูกของผมอย่างนั้นเหรอ คุณไม่คู่ควรเลย!”
คำพูดอันแสนโหดร้ายของถิงหย่วนทำให้หยุยเอินกำมือทั้งสองข้างไว้เเน่น เล็บของเธอจิกเข้าไปในฝ่ามือของเธอเป็นรอยลึก
เธอรู้มาตลอดว่า ถิงหย่วนไม่ได้รักเธอ แต่พอได้ยินเขาพูดกับปากของเขาเองว่า “ไม่คู่ควร” วลีนี้ได้ทิ่มแทงหัวใจเธอราวกับโดนมีดปักนับหมื่นเล่ม
เป็นเวลาสามปีแล้วที่เธอพยายามทำหน้าที่เป็นภรรยาของเขาอย่างเต็มที่ เธอไม่กล้าที่จะหยุดพักเลยแม้แต่นิดเดียว
เธอคิดว่า เธอสามารถทำให้หัวใจของถิงหย่วนจะค่อย ๆ ละลายลงมาบ้าง แต่ตอนนี้เธอพบว่า หัวใจของเขาเป็นภูเขาน้ำแข็งหมื่นปี ไม่ว่าเธอจะพยายามมากแค่ไหนก็ไม่สามารถละลายมันได้
“ถิงหย่วน ในช่วงระยะเวลาสามปีมานี้ คุณเคย…… ชอบฉันสักนิดไหม?”
เธอพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ร่างกายของเธออดทนแรงสั่นสะเทือนเอาไว้อย่างแรงกล้า ราวกับว่าเธอได้ใช้พละกำลังและความกล้าหาญทั้งหมดของเธอไปหมดเเล้ว
คำถามด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำและแผ่วเบาเช่นนี้ทำให้ในใจของถิงหย่วนรู้สึกแปลก ๆ แต่ชั่วพริบตาก็จางหายไป
ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเย็นชา “แล้วคุณว่าไงล่ะ?”
การเยาะเย้ยถากถางของเขาทำลายฟางเส้นสุดท้ายในใจของหยุยเอิน หัวใจของเธอเจ็บปวดมากเสียจนรู้สึกชาไปทั่วร่าง
เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"
จู่ๆ ก็ถูกหมอผีที่แม่นับถือฟันธงว่าโดนของและต้องรีบแต่งงานเพื่อแก้คุณไสย ‘คริสตัล’ ไม่อยากถูกคลุมถุงชนจึงลี้ภัยมาอยู่ที่หอพักพี่ชายทำให้เธอได้เจอกับ‘ฮาเร็ม’ชายที่เป็นรักแรก เพราะอยากให้เขาสนใจจึงไปขอร้องให้‘เยลล์’เพื่อนชายที่รู้จักกันช่วยแต่ขนาดเปลี่ยนตัวเองจนสวยพริ้งเขาก็ยังไม่แลสักนิดซ้ำร้ายหัวใจเธอยังมาเต้นตึกตักกับตัวช่วยอย่างนายเยลล์ซะอีก สับสนเรื่องรักไม่พอยังมาปวดหัวเพราะแม่ส่งคนตามล่าตัวให้กลับไปแต่งงานอีกโอ๊ย! เคราะห์ซ้ำกรรมซัดอะไรกัน แล้วเธอจะทำยังไงต่อไปดีล่ะเนี่ย?!
เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที
เมื่อย้อนเวลามาอยู่ในยุคโบราณที่ผู้ชายล้วนมีสามภรรยาสี่อนุ จื่อรั่วอิงจึงมองหาบุรุษที่จะทำให้นางใช้ชีวิตอย่างสงบสุขและได้รู้ว่ามีอ๋องผู้หนึ่งไร้ภรรยาและตาบอดเขาคือคนไม่มีใครเอา"สวรรค์ให้ทางรอดข้าแล้ว" นิยายเรื่องนี้เป็นแนวสุขนิยม ปมเบา ๆ ไม่หนัก นะคะ พระเอกมีเมียเดียว พระเอกสายซึนคลั่งรักนางเอกแต่ไม่รู้ตัว นางเองจอมตื๊อเพื่อทำให้สามีรักสามีหลงขนความฮามาพร้อม ๆ กับบ่าวรับใช้และครอบครัว แนวขบขัน สายฮา สายตลกไม่ควรพลาดค่ะ ซีไซต์ นักเขียน
หลังจากดูแลสามีมาเป็นเวลาสามปี เมื่อเห็นสามีสอบติดขุนนาง เฉียวชูเยว่ก็นึกว่าชีวิตดีๆ จะมาแล้ว แต่กลับไม่รู้ว่าสามีเป็นคนโลภ และเจ้าชู้ เพื่อจัดการปัญหาให้สามี เฉียวชูเยว่เสียตัวให้กับจักรพรรดิโหดร้ายโดยไม่ได้ตั้งใจ เพื่อชีวิตและอนาคตของสามี นางได้แต่อดทนเอาไว้ จากนั้น สามีของนางก็ได้รับการยกย่องจากจักรพรรดิ และถูกเลื่อนตำแหน่งเรื่อยๆ เมื่อสามีของนางกำลังเพลิดเพลินอำนาจและสาวสวยนั้น นางกำลังรับใช้กับจักรพรรดิอย่าง้อยใจ แต่ไม่คาดคิดว่าความพยายามของนางได้แลกกับใบหย่าจากสามี ในวันแต่งงานของสามี นางถูกฆาตกรไล่ตามและตกลงไปในโคลน เมื่อนางหมดหวังนั้น จักรพรรดิก็มายืนอยู่ตรงหน้านาง "มาเป็นคนของข้าสิ และจะไม่มีใครกล้ารังแกเจ้าอีก!"
จะทำยังไงเมื่อเชฟสาวที่อยู่ๆก็โดนลูกหลงตายแบบไม่รู้เรื่อง จากเหตุปล้นธนาคาร