“พี่ธันวา...” ดารัณเรียกเหมือนละเมอ เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไงกัน เขามายังไง เธอฝันไปใช่ไหม? ธันวาประคองใบหน้าที่เขรอะไปด้วยคราบน้ำตาแล้วประทับริมฝีปากของตนกับริมฝีปากนุ่มสั่นระริกอย่างรวดเร็วและรุนแรง มันไม่ใช่จูบปลอบขวัญแต่มันเป็นจูบลงลงทัณฑ์ หญิงสาวรู้สึกว่ามันเป็นจูบลงโทษ ไม่อยากคิดต่อเลยว่าถ้าผู้ชายแสนอบอุ่นอย่างเขาโกรธจัดขึ้นมาจะร้ายกาจเพียงใด เอ๊ะ! แล้วเขาจะมาโกรธเธอทำไมกันเล่า ในเมื่อเธอไม่ไดทำอะไรผิดเสียหน่อย รู้สึกเจ็บเมื่อเขาขบเม้มริมฝีปากเธออย่างรุนแรงอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน เขาแทบดูดกลืนวิญญาณของเธอไปพร้อมกับมอบจูบเร่าร้อนและหนักหน่วงจนเธอแทบขาดอากาศหายใจ “เด็กโง่! ทำไมชอบทำให้เป็นห่วงนักนะ” น้ำเสียงเข้มดุคนตัวเล็กด้วยความโมโห หมอหนุ่มอย่าง “ธันวา” จำใจต้องแต่งงานกับ “ดารัณ” ผู้หญิงที่คุณแม่ของเขาวางแผนจับเขาให้แต่งงานกับผู้หญิงที่แม่เลือก เขาไม่เคยนึกเลยว่าเด็กผู้หญิงที่เคยเจอเมื่อ 9 ปีก่อน คนที่เขาเคยวิ่งหนี วันนี้จะกลายเป็นสาวสวยและหวานฉ่ำจนเขาต้องวางแผนลักพาตัวภรรยาตัวเอง!.
ฝนหลงฤดูกระหน่ำลงอย่างหนักรถจี๊ปคันเก่าที่ว่าเก๋าก็ยังติดหล่มยากจะดึงดันให้หลุดพ้น ชายหนุ่มกระโดดลงจากรถลงมาช่วยชาวบ้านเข็นรถขึ้นจากหล่ม
“คุณหมอไม่ต้องลงมาหรอกครับ” ชายวัยกลางคนกล่าวเสียงดังแข่งกับเสียงฝน
“ไม่ช่วยได้ไง ต้องช่วยซิ” หมอหนุ่มหัวเราะพลางเช็ดน้ำฝนที่สาดเข้าหน้า “ลุงไปหาไม้มาหนุนล้อก่อน เราช่วยเข็นกันสองสามแรงจะได้ออกจากหล่มได้เสียที”
“คุณหมอเลยต้องมาลำบากเพราะพวกเราเลย” ชายวัยกลางคนพึมพำแล้วไปหาไม้แถวๆ นั้นมาหนุนใต้ล้อรถเพื่อให้รถหลุดจากหล่ม
“โธ่! ลำบากอะไรกัน”
ชายหนุ่มออกแรงดันรถ เขาตะโกนบอกให้เด็กหนุ่มอีกคนที่อยู่หลังพวงมาลัยเหยียบคันเร่งเต็มที แต่รถก็ขยับขึ้นไปนิดก่อนจะไหลลงมาที่เก่าซ้ำยังดีดโคลนใส่คนที่อยู่ท้ายรถจนเนื้อตัวมอมแมมไปหมด
ท้องฟ้ามืดมิดมีเพียงแสบแลบแปลบปลาบจากสายฟ้า ชายหนุ่มเม้มปากเน้นอย่างครุ่นคิด เขาออกมาตรวจคนไข้ที่อยู่ไกลจากโรงพยาบาลหลายสิบกิโลเมตร แต่ขากลับติดพายุฝนจนเริ่มค่ำมืดก็ยังไปได้ไม่ถึงครึ่งทาง รถจี๊ปคันเก่าก็ดันมาติดหล่มเสียอีก เห็นท่าว่าคืนนี้อาจจะได้ตากฝนอยู่แถวนี้จนถึงรุ่งเช้าเป็นแน่ ขณะที่เขากำลังคิดหาทางออก แสงไฟวาบก็ส่องมาทางเขาจนต้องยกมือขึ้นป้องแสงที่แยงตา
“ไอ้หมอ! ไอ้หมอธันวา!”
หมอหนุ่มเจ้าของชื่อเพ่งสายตาหลังแว่นตาจ้องมองไปผู้มาใหม่ ชายหนุ่มร่างใหญ่ในชุดเสื้อกันฝนเนื้อหนาสีเขียวทหารเดินเข้ามาใกล้แล้วยื่นมามาข้างหน้า ธันวาหรือหมอธันวาจับมือเพื่อนที่ที่ช่วยดึงเขาขึ้นจากโคลน เพื่อนตบไหล่สองสามทีแล้วหันไปสั่งลูกน้องที่ตามมาให้ช่วยกันลากรถจี๊ปขึ้น
“หมอเอากระเป๋ามาแล้วไปกับเราก่อน” พิชญะสั่งเพื่อน “เราเอารถมาสองคัน เดี๋ยวให้ลูกน้องจัดการลากรถหมอกลับไปเอง”
“ได้ๆ”
ธันวาเอื้อมมือไปหยิบเป้ส่วนตัวกับกระเป๋าเครื่องมือเดินตามหลังเพื่อนมาที่รถรถโฟร์วิลล์ที่มีสติกเกอร์ ‘ไร่ฉายฉาน’ ติดอยู่ประตูรถ โชคดีที่เขาออกตรวจเพียงลำพัง ถ้าวันนี้มีพยาบาลติดตามมาด้วยคงลำบากไม่น้อย ธันวาก้าวขึ้นนั่งแล้ว พิชญะก็ส่งผ้าขนหนูผืนกำลังดีให้ซับหน้าก่อนจะพารถเคลื่อนออกไป
“โชคดีที่นายผ่านมาทางนี้พอดี” ธันวาถอดแว่นตาออกแล้วเช็ดหน้าที่เปื้อนน้ำฝน เขามองแว่นตาในมือมีโคลนเลอะติดแว่นของเขาด้วย
“ไม่ได้บังเอิญผ่านมาแต่ตั้งใจมาเลยล่ะ” พิชญะหัวเราะและบังคับรถฝ่าสายฝนด้วยความชำนาญ
“อ้าว! ยังไงกันละ?” ธันวามองเพื่อนแล้วขมวดคิ้ว “ที่บ้านมีใครไม่สบายหรือเปล่า คุณรินหรือลูกชายของนายป่วยเหรอ”
พิชญะแหงนหน้าหัวเราะเสียงดัง “คนที่บ้านเราปกติดีทุกคน แต่คนที่บ้านนายนั้นแหละมีปัญหาแน่ๆ”
“ตกลงมันอะไรกัน นี่เรางงไปหมดแล้ว”
“ไม่ได้กลับบ้านกี่เดือนแล้วล่ะ” พิชญะถามยิ้มๆ “บ้านที่กรุงเทพฯนะ”
ธันวาโคลงศีรษะไปมา เขากำลังจะบอกว่าไม่กี่เดือนนี่เอง แต่พอนับนิ้วในใจก็กว่าครึ่งปีแล้วกระมั้ง เอ...หรือจะนานกว่านั้นแล้วนะ แต่คงไม่ถึงปีแน่ๆ เอ๋? หรือจะครบปีแล้วละนี่?
“แม่นายโทรมาตามให้กลับบ้าน”
“มีใครเป็นอะไรหรือเปล่า?” คุณหมอหนุ่มเริ่มเป็นกังวล จริงๆ แม่ของเขามักจะโทรศัพท์พูดคุยกันบ่อยๆ เขาจึงไม่รู้สึกห่างเหินคนที่บ้านนัก เพียงแต่ค่เขามีบางอย่างที่ทำให้ไม่อยากกลับบ้านก็เท่านั้น
“อันนี้ไม่รู้นะ” พิชญะยักไหล่ “แต่คงเป็นกังวลที่ติดต่อนายไม่ได้เสียที ก็พอดีเมียเราเห็นฝนลงหนักกลัวนายจะออกจากหมู่บ้านหลังเขาไม่ได้ เราก็เลยต้องรับรถมารับนายไง”
“อ่อ! นี่คำสั่งเมีย” ธันวาหัวเราะออกมาบ้าง เพื่อนซี้ของเขาแต่งงานไปเมื่อปีที่แล้วและตอนนี้ก็มีลูกชายตัวน้อยน่ารักวัยไม่ถึงขวบดีนัก “ไอ้เราก็นึกว่าเป็นห่วงเพื่อน”
“ทำเป็นหัวเราะไป มีเมียเมื่อไหร่เดี๋ยวก็รู้เอง”
ธันวาส่ายหน้าไปมานี่เขาก็เพิ่งอกหักทั้งที่ไม่ได้บอกรักก็เพราะไอ้คุณเพื่อนซี้นี้นะ แต่ในเมื่อผู้หญิงไม่ได้รักเขาก็ช่วยอะไรไม่ได้ รอยยิ้มจางไปเมื่อนึกถึงเรื่องที่บ้าน เขาก็แอบถอนหายใจหนักๆ ไม่ได้กลับบ้านร่วมปีคงทำให้แม่ไม่ค่อยพอใจนัก การที่เขามาทำงานเป็นแพทย์ชนบทอย่างนี้แม่ก็ไม่ค่อยจะเห็นด้วยอยู่แล้ว แม้จะเข้าใจดีว่าแม่อยากให้เขากลับไปทำงานอยู่ใกล้ๆ แม่มีหุ้นในโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังและหวังใจให้เขาทำงานที่นั้น แต่หัวใจเขาปฏิเสธการทำงานในเมืองหลวง แม่เรียกว่าเขาเป็นพวกกินอุดมการณ์ เกือบสิบปีแล้วที่เขาทำงานอย่างนี้ทำให้เขากลับบ้านแทบนับครั้งได้เพราะไม่ต้องการได้ยินเสียงบ่นว่าของแม่
แต่ถ้าแม่โทรมาตามให้กลับบ้านนี่คงไม่ธรรมดาแน่ๆ จริงๆ งานที่นี่เขาก็วางระบบทุกอย่างไว้ดีแล้ว แล้วตลอดหลายปีมานี่เขาแทบไม่เคยลาหยุดเลย ถ้าจะลากลับบ้านสักอาทิตย์สองอาทิตย์คงไม่เป็นไร อย่างน้อยก็กลับไปให้แม่บ่นว่าจะได้สบายใจก็แล้ว.
นางเป็นฮูหยินที่ถูกต้อง แต่เขากลับเฉยชาใส่ มีเพียงบนเตียงเท่านั้นที่เขาเร่าร้อนจนนางแทบมอดไหม้ จ้าวจื่อรั่วอายุเพียงสิบหกปีเป็นลูกอนุของเสนาบดีสกุลจ้าว ถูกสับเปลี่ยนตัวมาเป็นเจ้าสาวมาแต่งงานกับแม่ทัพที่ชายแดนใต้ กู้ตงหยางบุรุษหนุ่มอายุยี่สิบสี่ปีฉายาแม่ทัพปีศาจที่แสนเหี้ยมโหด "เจ้าติดค้างข้า ไม่ว่าจะเล่นลิ้นอย่างไร เจ้าย่อมรู้ดีว่าสกุลจ้าวปลิ้นปล้อน เจ้าอย่าได้หวังว่าจะได้อยู่อย่างสุขสบายเลย" พูดจบชายหนุ่มก็ผุดลุกขึ้นเดินจากไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้หญิงสาวได้แต่นั่งเพียงลำพัง แม้จะเตรียมใจไว้แล้ว แต่ก็อดเศร้าใจไม่ได้ ชีวิตนางจะได้พบความสุขเช่นคนอื่นบ้างไหม.
มันควรเป็นOne night stand แต่เขากลับไม่ยอมให้จบลงแค่นั้น “ก็บอกแล้วไง ถ้าอยากกัดก็กัดผมนี่ อื้ม” ไรอันพูดเสียงพร่าเร่งขยับเอวสอบถี่รัว ร่องรักคับแน่นดูดรัดลำเอ็นจนทำให้เขาอดกลั้นไม่ไหว กระแทกแก่นกายเข้าไปจนสุดปลดปล่อยน้ำรักในกายสาวพร้อมแหงนหน้าคำรามอย่างสุขสม อยากจะบ้า! ไรอันอดสถบไม่ได้ ยัยพนักงานเวอร์จิ้นทำเขาเสียผู้เสียคนจริงๆ จากที่เคยตั้งกฎให้ตัวเองจะไม่ยุ่งกับพนักงาน ไม่มีเซ็กส์ในที่ทำงาน. 4เรื่องสั้น แนวPWP > >หลงสวาท boss คลั่งรัก / คลั่งรัก น้องเมียแสนหวาน/ เมียเด็กของคุณป๋า / เล่นกับไฟ
พันดาว สตั๊นท์เกิร์ลสาววัยยี่สิบหกปี เธอเข้าวงการบันเทิงตั้งแต่อายุสิบแปดปี แต่ก่อนหน้านี้เธอใช้ชีวิตในค่ายมวยเล็กๆ เธอเป็นเด็กที่ถูกแม่เอามาทิ้งให้ลุงทองดีช่วยเลี้ยง แล้วหายไปไม่ส่งข่าว ด้วยความสงสารลุงทองดีจึงเลี้ยงเหมือนลูก แต่เนื่องจากสภาพร่างกายบอบช้ำ จึงผันตัวเองมาครูมวยแทน ประจวบกับรุ่นน้องเปิดโรงเรียนสตั๊นท์แมนให้ลุงทองดีเป็นครูสอนเทคนิกการป้องกันตัว เบื้องหน้าพันดาวจะเป็นสาวห้าญไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ แต่เธอมีคนรักที่คบหาตั้งแต่อยู่โรงเรียนสอนสตั๊นท์แมนด้วยกัน แต่ตอนนี้เขากลายเป็นพระเอกละครสุด Hot ในวันที่ทั้งคู่เดินทางไปเข้าฉากสำคัญที่ประเทศจีน พันดาวได้เห็นภาพบาดตาที่คนรักนอกใจ และวันนั้นเกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝัน ระเบิดทำงานผิดพลาดพาให้ดวงจิตของพันดาวทะลุมิติมายังดินแดนที่ไม่มีบันทึกไว้ในประวัติศาตร์ พันดาวฟื้นตื่นมาอยู่ในร่างเด็กสาวอายุสิบหกนามว่า เหมยซิง เมืองที่พันดาวไม่รู้จัก ทุกอย่างประหลาดไปหมด ราวกับตัวเองอยู่ในภาพยนตร์จีนกำลังภายใน พล็อตละครแนวย้อนยุคทะลุมิติเคยเห็นมาเยอะแล้ว แต่ทำไมหญิงสาวอย่างเธอต้องมาดูแลชายร่าง ‘ผัก’ อย่างเขา! รับภารกิจส่งร่างผักกลับเมืองหลวง! บุรุษคนหนึ่งแต่งงานมีภรรยาได้หลายคนเป็นที่ยอมรับได้ แต่สตรีนางหนึ่งจะรักใคร่ชายสองคนไม่ได้ คิดถึงเรื่องนี้นางก็อยากเอาหัวโขกต้นไม้ใหญ่ให้ได้สติ นางไม่ใช่หญิงมากรักสองใจนะ! นางแค่...แค่ไม่รู้ว่าตนเองคิดอย่างไรกันแน่.
หมอสาวสู้ชีวิตแต่อกหักทั้งที่ยังไม่ได้บอกรัก เผลอOne Night Standกับผู้ชายคนหนึ่ง ใครเลยจะรู้ว่าเป็นพรหมลิขิตหรือเวรกรรม ทำให้เธอมาเจอกับมาเฟียหนุ่มที่ไม่ยอมปล่อยให้เรื่องของคืนนั้นผ่านเลยไป . . . . "คุณนี่นะเอาใจผู้หญิงไม่เก่ง" เธอทำจมูกย่นใส่เขา "ผิดแล้วผมเอาใจไม่เก่งแต่เอาเก่งนะ เรื่องนี้ผมมั่นใจ" "อีริค!" เธอขึงตาใส่ด้วยใบหน้าแดงเรื่อ "ให้ตายสิ" เขาพึมพำ "ผมเองก็ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้นะ คุณร่ายมนตร์ใส่ผมหรือเปล่า" "คุณเชื่อเรื่องไร้สาระพวกนั้นด้วยหรือคะ?" "แต่ก่อนผมไม่เคยเชื่อเรื่องdestiny แต่การได้พบคุณมันอยู่นอกเหนือความคาดหมาย บางทีพรหมลิขิตอาจมีจริงก็ได้" หญิงสาวได้แต่อมยิ้ม นั้นสิ ผู้หญิงจืดชืดอย่างเธอได้เจอกับผู้ชายสุดเพอร์เฟกต์อย่างเขาได้ ถ้าวันนั้นก้องภพไม่ประกาศตัวคนรัก เธอคงไม่อกหักจนเสียการควบคุมแล้วได้เจอเขาที่หน้าลิฟต์พอดีอย่างนั้น แถมเจอกันด้วยความบังเอิญอีกด้วย
“เมื่อชะตากำหนดมาให้ทั้งสองครองคู่ ไม่ว่าจะพลัดหลงกันไปทางใดก็ย่อมได้กลับมาพบกันอีกครา” เรื่องราวความรักของหลัวเสี้ยวเวยและหยางเหลาหู่ คู่หมั้นคู่หมายที่มิเคยได้พบหน้า แม้เดิมทีหยางเหลาหู่คิดว่านางตายไปแล้ว แต่ไม่รู้เลยว่า ‘สาวใช้’ ที่เขารับเข้ามาทำงานนั้นจะเป็นคู่หมั้นของเขาเอง เมื่อชะตากำหนดให้ทั้งสองได้เป็นคู่ชีวิต แต่กว่าจะถึงจุดนั้นได้ต้องมาคอยลุ้นกันว่า สาวใช้ตัวจิ๋วกับคุณชายใหญ่แห่งป้อมพยัคฆ์ทมิฬจะลงเอยอย่างไร ....... “นั้นของข้ามิใช่รึ” เขาปลดสายจูงม้า เห็นนางกินพุทราเชื่อมท่าทางเอร็ดอร่อยจึงอดหยอกล้อนางไม่ได้ “แค่พุทราเชื่อม ท่านจะแย่งข้ารึ” นางทำท่าหวงขึ้นมา มันก็แค่พุทราเชื่อม แต่นางไม่ได้กินนานแล้วนี่ “แต่นั้นมันของๆ ข้า เจ้าควรให้ข้ากินก่อน” เขาไม่ชอบกินขนมของหวาน แต่เห็นนางหวงแบบนี้แล้วนึกอย่างแย่งชิง หลัวเสี้ยวเวยส่ายหน้าไปมา กลัวถูกแย่งของกินจึงอ้าปากงับพุทราเชื่อมลูกสุดท้ายไว้ในปาก เหลือเพียงไม้เสียบเปล่าๆ ในมือ คิดว่าอย่างไรของอยู่ในปากนางแล้วเขาไม่มีทางแย่งชิงเอาไปแน่ ทว่านางกลับคาดไม่ถึงว่าเขาจะยื่นมือมารั้งท้ายทอยของนางไว้ โน้มหน้าลงมาประกบปากที่เผยอขึ้นอย่าตกใจของนาง เรียวลิ้นหนาตวัดเอาพุทราเชื่อมในปากของนางมาสู่ปากของเขา 'หวานล้ำเกินคาดคิดจริงๆ'
มู่ลี่หยางใช้ชีวิตเป็นพรานป่าหาของป่าไปขายอยู่หลายปี แต่เข้าป่าครั้งนี้เขาได้พบหญิงสาวผู้หนึ่งหมดสติอยู่จึงช่วยนางไว้ ทว่าทันทีที่นางลืมตา นางกลับจำอะไรไม่ได้แม้แต่ชื่อของตัวเอง เขาจึงจำเป็นต้องดูแลนาง แต่ที่ทำให้เขาหนักใจ ก็คือนิสัยนอนละเมอของนาง เหตุใดทุกครั้งที่นางละเมอต้องมาอยู่บนเตียงเขาด้วยเล่า! “พี่ลี่หยาง!” “นอนดีๆ อย่าฟุ้งซ่าน คืนนี้เจ้าต้องพักผ่อน” “ข้ารู้ แต่ไม่ต้องมัดข้าขนาดนี้ก็ได้”" “ไม่ได้” เขาสะบัดมือเพียงคราวเดียว เปลวเทียนในห้องก็ดับลง “หากจะนอนเตียงเดียวกับข้าก็อย่าดื้อ อย่าซุกซน” “พี่ลี่หยาง” เสียงหวานเอ่ยขึ้น “นอนเสีย!” เขาตวาดทีเดียวหญิงสาวก็เงียบเสียงไป แม้ได้เห็นเพียงแผ่นหลังของเขา นางก็มีความสุข ขอเพียงได้ใช้ชีวิตร่วมกัน ไม่ว่าอย่างไร นางก็ยอมทำทุกอย่าง แม้จะถูกมัดเป็นบะจ่างก็ยอม.
"ความรักทำให้คนตาบอด" เซิงเกอละทิ้งชีวิตที่สงบสุขเพื่อแต่งงานกับชายคนนั้น ยินยอมทำตัวเหมือนคนรับใช้ที่ไร้ตัวตนมาสามปีเต็ม แต่ในที่สุดเธอก็ตระหนักว่าความพยายามของเธอ มันไร้ประโยชน์สิ้นดี เพราะในใจของสามีตัวเองมีแต่รักแรกของเขา เซิงเกอรู้สึกผิดหวังอย่างมาก และขอหย่าอย่างเด็ดขาด "ถึงเวลาแล้ว ฉันไม่ปกปิดอีกแล้ว จะบอกความจริงให้" ทันใดนั้น โลกออนไลน์ก็ระเบิดขึ้นทันที มีข่าวลือว่าสาวรวยพันล้านคนหนึ่งหย่าร้างแล้ว ดังนั้น ซีอีโอนับไม่ถ้วนและชายหนุ่มรูปงามต่างรีบเข้าหาเธอเพื่อเอาชนะใจเธอ เฝิงอวี้เหนียนเห็นดังนั้นจึงทนไม่ไหวอีกต่อไปเลยจัดงานแถลงข่าวในวันถัดไป โดยขอร้องอย่างจริงจังว่า: ผมรักเซิงเกอ ขอร้องคุณภรรยากลับบ้านนะ
นางเจ็บปวดปางตายเมื่อเขาโยนร่างบอบช้ำทิ้งไว้หลังจวนโดยไม่แยแส เมิ่งลี่เฟยน้ำตาไหลพรากทว่ากลับไม่ทำให้คนที่เพิ่งเหยียบย่ำร่างกายเล็กเห็นใจแต่ประการใด"เฝ้านางเอาไว้ให้ดีอย่าให้ออกมาทำเรื่องชั่วอีก"
ในการแต่งงานที่ทำข้อตกลงไว้ เจียงหว่านเป็นฝ่ายที่มีใจให้อีกฝ่ายก่อน แต่ตอนที่เธอต้องการเผยเสี้ยนมากที่สุด เขากลับอยู่เคียงข้างคนรักในใจของเขา ในท้ายที่สุด เจียงหว่านก็ตัดสินใจหย่า และเริ่มต้นชีวิตใหม่ เมื่อเผยเสี้ยนรู้สึกตัวขึ้นมา เธอก็จากไปแล้ว เมื่อเผชิญหน้ากับคู่แข่งที่เข้าคิวเพื่อรับป้ายหมายเลข เผยเสี้ยนหยิบเงินร้อยล้านออกมาและพูดว่า "หว่านหว่าน คู่รักก็ต้องเป็นคู่เดิมเราแต่งงานใหม่อีกครั้งได้ไหม"
วิญญาณแพทย์นิติเวชที่มีชื่อเสียงในศตวรรษที่ 21 ได้เข้ามาอยู่ในร่างคุณหนูของจวนเสนาบดีอย่างบังเอิญ ผู้คนกล่าวหาว่านางไม่เชี่ยวชาญด้านการแพทย์และทำให้บุตรชายของแม่ทัพตาย ด้วยเหตุนี้ฮ่องเต้ต้องการฆ่านางเพื่อให้คำอธิบายกับแม่ทัพ! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนหยิ่งยโสและเจ้ากี้เจ้าการ ทุกคนเกลียดนาง และครอบครัวของนางต้องการไล่นางออก! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนเลวทรามและไร้ความปรานี วางยาน้องสาว และพ่อของนางต้องการโบยนางจนตาย! ในความเป็นจริงหากอยากจะกล่าวหาผู้ใดสักคน มันก็หาข้ออ้างได้ทั่ว แต่นางเป็นคนไม่ยอมใคร นางผอมบางนางหนึ่งปลุกปั่นโลกด้วยความสามารถอันทรงพลังตนเอง ท่านอ๋องกล่าวว่า หากได้เจ้ามาครอบครอง ข้ายอมทรยศทุกคนในโลก นางกล่าวว่า เพื่อท่าน ต่อให้ทุกคนในโลกเกลียดข้า ข้าก็ยอม
นุชพินตา ควรเป็นเจ้าสาวที่น่าอิจฉาที่สุดที่ได้แต่งงานกับ ปุลวัชร เจ้าบ่าวที่ทั้งหล่อ รวย เนื้อหอม เป็นเจ้าชายในฝันของสาวๆ ทั้งเมือง แต่ใครจะรู้ว่าเจ้าบ่าวในฝันนั้น...ทั้งไร้หัวใจ และไม่ได้รักเธอสักนิด! การแต่งงานที่ไร้รัก อยู่กันไปก็มีแต่เจ็บปวดเท่านั้น แต่จะทำยังไงได้ ในเมื่อเธอไม่อาจปฏิเสธ แม้จะต้องถูกเขาทำร้ายหัวใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า จะทำอย่างไรหากใจที่ไม่คิดปรารถนารักกลับอยากได้ความรักจากเขา ------------------------------ “เธอเคยนอนกับผู้ชายหรือเปล่า” เขาถามออกมาจากปากร้าย ตอนที่เธอได้ยินถึงกับสะอึก ไม่คิดว่าเขาจะถามตรง ๆ และในนาทีต่อมา นุชพินตาก็รู้สึกโกรธมาก หญิงสาวโต้เขากลับ “ทำไมผู้ชายดี ๆ การศึกษาดี ๆ ถึงได้พูดจาแบบนี้คะ มาพูดดูถูกกัน เมื่อกี้ก็หาว่าพวกเราขายตัว และตอนนี้ยังมากล่าวหาฉันอีกว่าฉันสำส่อน คุณถามคำถามแบบนี้กับผู้หญิงทุกคน ที่คุณเคยนอนด้วยหรือยังไงคะ” ความเจ็บปวดระบายออกมาทางสายตา เขาเป็นบ้าอะไรกันนี่ คำพูดแบบนี้มาจากสันดานข้างในหรือเพราะว่าเขาเมา “แล้วเธอเคยมีอะไรกับผู้ชายหรือเปล่าล่ะ” เขาย้ำอีกครั้ง จ้องสบตาด้วยนัยน์ตาแดงก่ำ “ปากร้าย ประโยคนี้คุณไม่ควรถามออกมาด้วยซ้ำไป” จากที่เรียกเขาว่าพี่ปุ่น ชักขุ่นและมีอารมณ์โมโหขึ้นมาเปลี่ยนสรรพนามที่คนฟังก็รู้ว่าห่างเหิน “ผู้หญิงที่ดี ๆ ที่ไหน จะตอบตกลงแต่งงานกันชายแปลกหน้าอย่างรวดเร็วโดยไม่คิด เวลาเพียงแค่หนึ่งเดือนเท่านั้น” “แล้วมันยังไงคะ” นุชพินตาก็ไม่ยอมเหมือนกัน “เธออาจจะเป็นมือสองก็ได้” ‘เมื่อคืนเขาไปนอนที่ไหน แล้วไปนอนกับใคร’ ‘อ้อ… ก็คงจะเป็นผู้หญิงคนนั้นสินะ’ ดวงตาเศร้าลง เธอลุกขึ้นไปเปิดม่านหน้าต่าง และมองออกไปยังท้องทะเล แสงอาทิตย์กระทบกับระลอกคลื่นที่ไล่เรียงกันกระทบเข้าฝั่ง นุชพินตาถึงกับถอนหายใจดังเฮือก ‘ฉันมาทำอะไรอยู่ตรงนี้ มาให้เขาย่ำยีเล่นใช่หรือไม่’ เฝ้าถามตัวเองซ้ำไปซ้ำมา ‘ยะหยาอย่าเสียใจไปเลยนะ เธอต้องทำตัวเองให้เข้มแข็ง แข็งแรงเถอะ ในเมื่อเธอก็ไม่ได้รักเขาเหมือนกัน’ คำพูดปลอบโยนตัวเอง ‘ใช่… ฉันไม่ได้รักเขา และจะเกลียดเขาให้มากกว่านี้’ เธอตอกย้ำคำนี้เข้าไปในหัวใจของตัวเองด้วยความมุ่งมั่นและสายตาที่แน่วแน่ แม้จะรู้สึกเจ็บแน่นในหัวอก ------------------------------ “ฉันจะหย่ากับเธอ” เขาเอ่ยอย่างใจดำ หญิงสาวถึงกับใจหล่นวูบ เธอเม้มขบริมฝีปาก กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่แล้ว นุชพินตาพูดอะไรไม่ออกแม้แต่คำเดียว “นางผู้หญิงไร้ยางอาย แพศยาฉันเกลียดผู้หญิงหลายใจ ฉันเกลียดผู้หญิงที่นอกใจ ไปให้พ้นจากบ้านของฉัน ไปให้พ้นจากหน้าฉัน พรุ่งนี้จะให้ทนายทำใบหย่า” “พี่ปุ่นคะ” เธอยกมือขึ้นมาไหว้เขาปลก ๆ “เราสองคนเพิ่งแต่งงานกันเองนะคะ ยะหยาไม่อยากให้คุณลุงและคุณย่าเสียใจ” “แต่สิ่งที่เธอทำล่ะ มันน่าอาย แล้วเธอไม่ละอายบ้างเหรอ หน้าด้าน” เขามีอาการเสียใจ และหัวเสีย นุชพินตาเอง เธอไม่คิดว่าปุลวัชรจะปากร้ายด่าทอเธอได้ถึงเพียงนี้ “ฉันจะหย่ากับเธอแน่นอน เตรียมปากกาไว้เซ็นใบหย่าในวันพรุ่งนี้ก็แล้วกัน” พูดจบ เขาเดินเข้าไปใช้มือปัดแจกันที่อยู่ใกล้ และชกบานกระจกที่ใช้ตกแต่งอยู่ในห้องโถงด้วย จนกระจกแตกละเอียดทั้งบาน มือของปุลวัชรมีเลือดไหลซึม เขาจะเดินเข้าห้องทำงานและปิดประตูตามหลังดังโครม นุชพินตาตกใจ และหวาดกลัวกับสิ่งที่เธอได้เห็น ความดีใจที่สามีจะกลับมา เธอจะบอกข่าวดีเขา และกินข้าวด้วยกัน ได้มลายหายไปสิ้น มีเพียงความเศร้าเข้ามาทับถมอยู่ในจิตใจของนุชพินตา แล้วหญิงสาวยกมือขึ้นมาปิดหน้าปิดตาปล่อยโฮ
รูรักอันบริสุทธิ์เมื่อถูกปลายลิ้นร้อนของชายหนุ่มเป็นครั้งแรกดูเหมือนว่าจะตอบสนองได้เป็นอย่างดี ร่องของนางขมิบรัว สะโพกของนางยกขึ้นยังเด้งเข้าไปหาปากร้อน ฝ่าบาทเก่งกาจยังสามารถแยงลิ้นเข้าไปในรู อันซูเซี่ยถูกทาขี้ผึ้งหอมรอบปากทาง ขี้ผึ้งนี้นอกจากจะมีรสชาติดีส่งเสริมรสน้ำรักของนางแล้วยังมีคุณสมบัติอันวิเศษ แม้จะเป็นหญิงพรหมจรรย์ก็จะไม่รู้สึกเจ็บปวด และเผลอทำร้ายฝ่าบาทจนบาดเจ็บ อี้หลงดูดแบะขาของนางให้กว้างขึ้นแล้วรวบขึ้นไปให้ขาชี้ฟ้า จากนั้นมุดใบหน้าลงมาอย่างหลงใหล “หอมอร่อยเหลือเกิน รู้สึกเหมือนดื่มสุราไม่เมามาย อ้า ข้าชอบยิ่ง หอยของฮองเฮาช่างใหญ่โต ดูโคกเนื้อโยนีแทบจะล้นริมฝีปากของข้า สีแดงเช่นนี้คงไม่เคยผ่านสิ่งใดมาก่อน บริสุทธิ์ยิ่งนัก ซี้ด” นางดิ้นเร่าอยู่ในปาก ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรนอกจากเชื่อฟังในคำของฝ่าบาท “อืม อร่อยยิ่งนัก อ้า ข้าไม่ไหวแล้วขอดูหน้าฮองเฮาของข้าหน่อยเถิด” ดูเหมือนว่าร่องรักของนางยังขมิบ นางไม่อยากให้เขาเงยหน้าขึ้นจากตรงนั้นด้วยซ้ำ อยากถูกปลายลิ้นเลียเช่นนั้นจนกว่านางจะได้รับการปลดปล่อย “อ้า ฝ่าบาทเพคะ อย่าหยุดเพคะ อื้อ” นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักสำหรับผู้ใหญ่ มี 2 เล่มจบ เป็นนิยายแบบพล็อตอ่อน เน้นฉากรักบนเตียงของตัวละครเป็นหลัก เหมาะสำหรับผู้มีอายุ 25 ปีขึ้นไป ไม่เหมาะสำหรับสายคลีนใส ๆ นะคะ หากใครไม่ชอบอ่าน NC เยอะ ๆ กรุณาเลื่อนผ่าน เพราะเรื่องนี้เน้น NC เป็นหลักค่ะ ซีไซต์ นักเขียน