เมื่อคนที่เขารักกำลังจะหมั้นหมายกับผู้ชายคนอื่น เขาเลยต้องปิดบังฐานะของตัวเอง เพื่อเข้าไปทำงานในบริษัทของเธอ เขาจะทำให้เธอหันมาสนใจเขาได้รึป่าว ในเมื่อการหมั้นหมายของเธอนั่นมันมีเรื่องของธุรกิจเข้ามาเกี่ยวข้อง
Bankpan talk.
"มึงจะไปทำงานที่นั่นจริงดิวะไอ้สัส ไปเป็นลูกน้องเขาเนี่ยนะไอ้ควาย ทั้งที่มึงมีหุ้นอยู่ที่นั่นเกือบ30%เนี่ยนะ"ผมคิดผิดหรือคิดถูกวะเนี่ย ที่ให้มันช่วย มาถึงแม้งก็ด่ากูตั้งแต่เจอหน้าจนจะเที่ยงแล้วมันยังไม่หยุดด่าผมเลย ที่กับเมียมันนะเสียงอ่อนเสียงหวาน เชื่องเป็นลูกหมาเลยสัส กับกูนี่ด่าเอาๆจนหูผมจะชาอยู่แล้ว
ผมขับรถเข้ามาหาไอ้ดีมที่บริษัท เพื่อจะเอาข้อมูลบางอย่างของบริษัท ที่ผมจะไปเริ่มงานพรุ่งนี้ มีหลายบริษัทครับที่เรียกตัวผม แต่ละที่ให้เงินสูงพอสมควรสำหรับนักศึกษาที่จบใหม่ประสบการณ์ไม่เยอะ แต่ระดับนักศึกษาป.โทเกียรตินิยมอันดับหนึ่งอย่างผม เริ่มต้นก็หลายหมื่นอยู่นะครับ แต่ที่ผมเลือกจะไปทำงานที่นี่เพราะผมมีเหตุผลบางอย่าง
"เออดิ" ผมตอบก่อนจะนั่งเซ็นต์เอกสารที่โต๊ะทำงาน ผมร่วมหุ้นกับไอ้ดีมคนละ50% เพื่อเปิดบริษัทนำเข้ารถยนต์ เพราะมันไม่ยุ่งยาก แค่ซื้อมาแล้วขายไป ส่วนมากรถนำเข้าของบริษัทผม จะสั่งซื้อตามออเดอร์ลูกค้ามากกว่าครับ ผมจะเข้ามาทุกวันอาทิตย์ เพื่อมาเซ็นต์เอกสารสำคัญ ที่เพื่อนผมมันไม่ยอมเซ็นต์ อ้างว่าไม่กล้าตัดสินใจทั้งที่มันก็สามารถตัดสินใจได้ แต่มันกวนตีนผมไง ไอ้ดีมมันจะเก็บเอกสารเกี่ยวกับการเงินไว้ให้ผมเซ็นต์อนุมัติ
"มึงนี้โง่หรือโง่วะ กูไม่เข้าใจ รวยล้นฟ้าชนิดที่ใช้ทั้งชาติก็ไม่หมด เสือกอยากไปเป็นลูกจ้างเงินเดือนแค่ไม่กี่หมื่น"
"ก็กูขี้เกียจบริหารมึงก็รู้ไม่งั้นกูจะขายโรงงานให้พี่เขยมึงรึไง"ผมขายโรงงานผลิตผลไม้กระป๋องให้ไอ้อาร์ม พี่เมียไอ้ดีมนั่นแหละครับ เหตุผลง่ายๆผมไม่ชอบเรื่องบริหาร อะไรๆยุ่งยากๆนี่กูขอผ่าน พ่อผมเสียไปสองสามปีแล้วครับ มรดกทั้งหมดเลยเป็นของผมคนเดียว รวมทั้งโรงงานผลิตผลไม้กระป๋องด้วย แต่หุ้นที่ซื้อไว้กับหลายๆบริษัทผมไม่ได้ขายนะครับ ก็ไม่ได้ไปนั่งบริหาร รับเงินเข้ากระเป๋าอย่างเดียวใครจะไม่เอา
"ไอ้สัสแล้วตอนนี้กูใช้มึงมาช่วยกูบริหารรึไง"
"เอาน่ากูขออยู่เบื้องหลังดีกว่า"ผมพูดยิ้มๆ ผมขี้เกียจบริหารไง ผมเลยโยนงานทุกอย่างให้มันบริหาร ถ้าเพื่อนผมมันจะแบ่งกำไรให้ผมน้อยกว่ามันผมก็ไม่โกรธหรอกครับ แต่ไอ้ดีมมันไม่เคยทำแบบนั่นไง มันบังคับให้ผมเข้าบริษัททุกอาทิตย์ ผมเลยเลือกเข้าทุกวันอาทิตย์ ไม่วุ่นวายดี
"เออๆ นี่ข้อมูลที่มึงอยากรู้" ผมหยิบซองสีน้ำตายที่ไอ้ดีมส่งมาให้ก่อนจะเปิดดู
"คนหรือนางฟ้าวะไอ้เหี้ย"ผมพูดทันทีที่เห็นรูปท่านประธานคนสวย ที่เขาว่าทั้งเก่งทั้งดุ ผมรู้จักเธอดี เธอเป็นหนึ่งในหลายเหตุผลที่ผมอยากเข้าไปทำงานที่นั่น พ่อของเธอป่วยครับ เลยยกตำแหน่ง CEO ให้เธอบริหาร ผมแอบชอบเธอมานานแล้วครับตั้งแต่ไปดูงานตอนปี3 ก็เธอทั้งเก่ง ทั้งสวย จนผมอยากจะได้เธอมาเป็นเมียจริงๆ
"สนใจ"ไอ้ดีมมันรู้ทันผมไปซะทุกอย่าง ที่มาเอาข้อมูลนี้ ไม่ใช่ข้อมูลของบริษัทนะครับ บริษัทนั่นผมรู้จักดีเพราะผมมีหุ้นอยู่ในนั่น แต่ผมมาเอาข้อมูลของเธอต่างหาก
"..."ผมยิ้มแทนคำตอบ
"ได้ข่าวว่าเธอกำลังจะหมั้นนิ"คำพูดของไอ้ดีมทำให้ผมหันไปมองหน้ามัน
"คนอย่างกู อยากได้อะไร ก็ต้องได้ไอ้เหี้ย จะไม่มีงานหมั้นของเธอกับใครทั้งนั่น แต่จะมีงานแต่งของเธอกับกูแทน"
"มึงทำได้หรอวะ"
"พูดเหมือนไม่รู้จักกู มึงคอยดูแล้วกัน ถ้ากูทำไม่ได้ หุ้นบริษัทนี้กูยกให้มึงหมดเลย"
"เอาจริงวุ้ย แต่ถ้ามึงทำได้นะหุ้นกูก็คือหุ้นกูเหมือนเดิม"
"เออ"
พอเที่ยงไอ้ดีมมันก็ชวนผมไปกินข้าวข้างนอกเพราะนัดเมียมันไว้ แม้งเสือกเลือกร้านถูกใจผมอีก ผมเห็นมะปรางค์เพิ่งลงจากรถก่อนจะเดินเข้าไปในร้าน แต่มีผู้ชายที่ผมไม่เคยคิดอยากจะเจอหน้า แล้วไม่อยากจะใช้อากาศร่วมกับมันอย่างไอ้มิค ผู้ชายที่ผมรู้จักดีมันทำธุระกิจสีเทา ที่สำคัญมันเป็นว่าที่คู่หมั้นของเธอ ศัตรูหัวใจของผมเดินตามเธอเข้าไปในร้านด้วยนี่สิ
"จะเปลี่ยนร้านไมวะ"ไอ้ดีมหันมาถามผมที่เริ่มจะอารมณ์ไม่ดีขึ้นมาเฉยๆ
"ไม่ต้องหรอกมึงนัดน้องแอมไว้ที่นี่ไม่ใช่หรอวะ"ผมพูดก่อนจะเดินนำไอ้ดีมเข้าไปในร้าน
"พี่ดีมค่ะ ทางนี้"น้องแอมยิ้มหวานให้ไอ้ดีมก่อนจะโบกมือทำให้คนทั้งร้านหันไปสนใจความน่ารักของเธอ เพื่อนผมก็ยิ้มก่อนจะเดินไปหาเมียมัน ผมเลยเดินตามมันไป โต๊ะในร้านมีเป็นร้อยน้องแอมดันเลือกนั่งข้างๆโต๊ะของมะปรางค์กับไอ้มิค
"อ้าว แบงค์ไม่เจอกันนานเลยนะ มากินข้าวหรอวะ"ไอ้มิคมันทักผม
"เออ"ผมตอบแค่นั่นก่อนจะนั่งลงตรงข้ามกับเพื่อน ไม่ได้สนใจมันอีก มะปรางค์หันมามองหน้าผมนิดหน่อยก่อนจะหันไปมองทางอื่น
"พี่แบงค์อยากกินอะไรคะ ที่นี่อร่อยทุกอย่าง ลูกจันทร์เป็นคนทำเองเลยนะคะ ที่สำคัญลูกจันทร์เพื่อนหนูยังโสดด้วยคะ"น้องแอมพูดยิ้มๆ ผมอยากจะบอกเธอเหลือเกิน ให้เธอหันมองไปที่เค้าเตอร์ ก็คนที่น้องแอมว่าโสดกำลังยืนคุยอยู่กับไอ้เบสเพื่อนรุ่นเดียวกับผม ได้ข่าวว่ามันตามจีบสาวน่าจะคนนี้ละมั้ง
"น้องแอมสั่งเลยค่ะ พี่กินได้ทุกอย่าง แต่ที่พี่อยากกินตอนนี้คือมะปรางค์มากกว่า"พอผมพูดจบ คนที่นั่งโต๊ะข้างๆก็หันมามองหน้าผมด้วยสายตาดุๆ แต่ผมว่ามันน่ารักดีนะครับผมเลยกระตุกยิ้มที่มุมปากให้เธอ
อาร์ม>>>นักศึกษาปี4 คณะวิศวะ สุดหล่อที่โคตรใจร้อนไม่เคยสนใจผู้หญิงคนไหนนอกจากน้องสาวอย่างแอมแปร์และเพื่อนรักอย่างน้ำฝน "เด็กแพทย์กูนึกว่ามีแต่คนเรียบร้อย แต่คนนี้กูว่ามาร้อยก็เรียบ" เมเบิ้ล>>>นักศึกษาปี4 คณะแพทย์ สาวสวยประจำคณะ เพื่อนสนิทของน้ำขิง สวยแรง เก่ง ฉลาด "เรียนแพทย์เขาใช้สมองนะ ไม่ใช่การแต่งตัว" ดีม>>>นักศึกษาป.โท คณะวิศวะ เพื่อนสนิทของอานนต์ เพลย์บอย เจ้าชู ไม่เคยจริงจังกับใคร "ก็พี่อยากรับผิดชอบหนูนี่คะ" แอมแปร์>>>นักศึกษาปี1 คณะบริหารสาวสวยที่พี่ชายโคตรหวง น่ารัก นิสัยดี แต่ดวงซวยเสียทีให้ผู้ชายในผับของพี่ตัวเอง "จะตามหนูเป็นเงาเลยรึไงคะ"
สายน้ำประธานหนุ่มหน้าหวานที่พูดน้อยต่อยหนัก กับพ่อเลี้ยงอานนต์คนตรงๆไม่ยอมลงให้ใครนอกจากแฟนคนเดียว เกิดความเข้าใจถึงขั้นแตกหัก พ่อเลี้ยงอานนต์จะทำยังไงให้คนรักยอมให้อภัย
เพราะความกลัวทำให้เธอต้องปิดบังความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขาไม่ให้คนอื่นรู้โดยเฉพาะเพื่อนสนิท จนเป็นเหตุทำให้เขาเกิดความน้อยใจเธอขึ้นมา เขาเลยหลุดปากพูดบางสิ่งออกไปโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ แต่อีกฝ่ายกลับคิดว่าคนที่อยากจะเป็นอิสระจากเธอคือเขาซะเอง แล้วเขาจะทำยังไงให้เธอรู้ว่าเขาไม่ได้ต้องการให้เป็นแบบนั่น เขาแค่ต้องการเปิดเผยสถานะของตัวเองให้คนอื่นรู้ว่าเขาเป็นอะไรกับเธอ
เพราะความผิดพลาดเลยทำให้เธอโดนว่าที่คู่หมั้นของเพื่อนรักตัวเองจับตัวไป ถึงเพื่อนเธอจะไม่ได้ชอบเขา แต่มันก็ไม่ควรเธอกับเขาไม่รู้จักกันสักหน่อย แถมเขาคือคนของเพื่อนอีก เธอเลยลืม แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่ยอมง่ายๆ แนะนำตัวละคร มิคเซอร์>>>นักธุรกิจหนุ่มหน้าใหม่ไฟแรง ที่ต้องจากบ้านเกิดมาอยู่ในไทยเพราะคำสั่งสุดท้ายของพ่อ เป็นคนชอบเอาชนะคน ไม่เคยแพ้ใคร ยกเว้นน้องชายคนละแม่ของตัวเอง ไม่เคยรักใครนอกจากตัวเอง แต่ดันมาตกหลุมรักนางแบบสาวสุดฮอตอย่างจุ๊บแจง "ไม่ได้เป็นอะไรกันแต่นอนด้วยอย่างนั่นสินะ" จุ๊บแจง>>>นางแบบสาวสวยสุดฮอต เพื่อนสนิทคนเดียวของมะปรางค์ รักอิสระ ไม่ชอบการถูกบังคับ คิดเสมอว่าตัวเองเป็นแค่ของเล่นของเขา "ทำไมถึงอยากเป็นแฟนกับหนูทั้งที่คุณมีเจ้าของหัวใจอยู่แล้ว"
อวิ๋นเจินอาศัยอยู่ในตระกูลอวิ๋นมาเป็นเวลา 20 ปี กลับพบว่าเธอเป็นลูกสาวปลอม พ่อแม่บุญธรรมของเธอวางยาเธอเพื่ออยากจะได้เงินมาลงทุน หลังจากที่อวิ๋นเจินรู้เรื่องนี้ เธอก็ถูกไล่กลับไปที่ชนบท จากนั้นเธอก็ค้นพบว่าตัวเองคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลเฉียวและมีชีวิตที่หรูหราสุด ๆ หลังจากกลับมา เธอได้รับความรักจากครอบครัวและมีชื่อเสียงโด่งดัง น้องสาวจอมปลอมใส่ร้ายอวิ๋นเจิน แต่เธอไม่คาดคิดว่าอวิ๋นเจินจะมีความสามารถต่างๆ เมื่อต้องเผชิญกับการยั่วยุ เธอได้แสดงความสามารถและทักษะต่างๆ มากมายเพื่อจัดการผู้รังแก มีข่าวลือกันว่าอวิ๋นเจินยังคงโสด และชายหนุ่มชื่อดังแห่งเมืองงก็ผลักเธอไปเข้ากำแพง "คุณนายกู้ ถึงตามราเปิดเผยตัวตนได้แล้วนะ"
เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"
"ไล่ผู้หญิงคนนี้ออกไปซะ" "โยนผู้หญิงคนนี้ลงทะเลซะ" ขณะที่ไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเหนียนหย่าเสวียน โฮว่หลิงเฉินได้ปฏิบัติต่อเธออย่างไม่เป็นมิตร "คุณหลิงเฉินครับ เธอคือภรรยาของท่านครับ" ผู้ช่วยของหลิงเฉินกล่าวเตือนเขา เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลิงเฉินหยุดเพ่งมองไปที่เขาอย่างเย็นชาและบ่นขึ้นมาว่า "ทำไมไม่บอกผมให้เร็วกว่านี้?" นับจากนั้นเป็นต้นมา หลิงเฉินได้ตามใจและรักใคร่ทะนุถนอมหย่าเสวียนมาตลอด โดยไม่มีใครคาดคิดว่าพวกเขาจะหย่าร้างกัน
เธอก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่เคยสนใจ แต่ก็ยังดึงดันอยากจะอยู่ใกล้ ต่อให้เธอเป็นเมียแต่งเขาก็คงไม่มีวันเปลี่ยนใจ เพราะเหตุนี้เธอจึงตัดสินใจจากไปในคืนแต่งงาน "จากนี้ไปเราไม่มีอะไรติดค้างกันอีก" 🥀
ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"
ว่าที่ลูกสะใภ้ไฟแรงสูงเธอต้องเข้ามาอยู่ร่วมบ้านกับว่าที่พ่อผัวหม้ายร้างเมียมานายอรมปี