ที
วงหา ไม
ตาหลายคู่ที่ต่างจับจ้องไปที่ท่านหญิงซูมี่อย่างต้องการสังเกตว่านางจ
ถ้าเรื่องแรกเจ้ายังตกใจถึงเพียงนี้ แล้วเรื่องต่อไปเจ้าจะไม่สติหลุดออกจากร่างเลยรึ"
น่นอนขึ้นชื่อว่าท่านหญิงซูมี่แล้ว นี่นับว่าเป็นเพียงเรื่องพื้นฐานเท่านั้น” เมื่อลู่จิ้นจิวหันไปขอความเห็นจากอ๋องผิงอา
รียมใจไว้แล้ว” ลู่จิ้นจิวสูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ก่อนจะตัดสินใจรับฟังทุกอย่างให้ห
มอีกครั้งอย่างหยั่งเชิง เมื่อได้รับการพยักหน้าย
ามีนั้นคือข้าดังนั้นเจ้าจะต้องทำตนให้เทียบเคียงกับข้าให้ได้ ในเมื่อข้าเป็นฮ่องเต้เจ้าก็จะฮ่องเต้ด้วยเช่นกัน แม้ไม่ใช่บนแผ่นดินแคว้นหานแต่เจ้าจะต้องมีแผ่นดินเป็นของตนเอง เจ้ายังกล่าวอีกว่าในเมื่อจะให้เท่าเทียมกันแล้วการแต่งงานเดิมทีเป็นบุรุษที่จะส่งสินสอดมาสู
ังไม่หมดแค่นี้ใช่หรือไม่เพคะ” ลู่
แย้งและไม่ก่อเรื่องวุ่นวาย จะยอมทำตัวเป็นสตรีที่เรียบร้อยราวกับผ้าพับไว้ แม้ข้าจะให้เจ้าแต่งกับคนที่ชั่วร้ายที่สุดเจ้าก็ต้องยอมรับ” ลู่จิ้นจิวใจหลุดลอยจ
างจะมีความสุขได้อย่างไรกัน ขนาดครั้งนั้นนางแต่งออกไปพร้อมกับความรักที่มีให้เขาอย่างเต็มเป
น แต่ว่าในเมื่อเจ้าไม่สามารถทำตามที่พูดไว้ได้เจ้าก็ต้องแต่งงานตามที่รับปากกับข้าไว้” รอยยิ
ลู่จิ้นจิวจ้องกลับไปที่ฮ่องเต้อย่างแน่วแน่แววตาเต็มไปด้วยความดื้อรั้นไม่ยอมลงให้แก่ฮ่องเต้ผู้นี้ได้โดยง่าย แม้จะไม่ใช่
จบฮ่องเต้หนุ่มก็ลุกจากเก้าอี้แล้วเดินออกไปพร้อ
นัลต่างกลัดกลุ้ม ไม่รู้ว่าท่านหญิงทรงเป็นอะไรไปได้แต่คอยเฝ้าอยู่หน้าห้องบรรทมไม่ห่าง
เพราะตั้งแต่ท่านหญิงฟื้นขึ้นมาก็มักทำตัวผิดแปลกไปและยิ่งยามนี้ที่พึ่งกลับมาจากวังห
นี้ลู่จิ้นจิวที่พึ่งกลับมาจากวังหลวงพร้อมกับเจียงเฉียงก็เริ่มตั้งสติตนเอ
ตอบตามความจริงด้วยตนเองอยู่ไกลถึงหัวเมือง
าจะลงมือทำแต่นางก็อดนึกหวั่นใจไม่ได้ เดิมทีนางเป็นคุณหนูธรรมดาๆ คนหนึ่ง ถึงแม้จะมีความรู้อยู่บ้างแต่ก็ใช่ว่าจะสามารถทำส
์เพคะ หม่อมฉันจะคอยช่วยเหลือท่านหญิงเองเพคะ” เจียงเฉียงยืนยันเสียงหนั
ฮึดสู้ด้วยความตั้งมั่นอย่างแน่วแน่ เมื่อมีเวลาจำกัดแ
ฉียงพรุ่งนี้เจ้าไปรวบรวมตำราเกี่ยวกับห้าแคว้นมาให้หมด เราจักต้องเริ่มต้นเรียนรู้ทุกสิ่งอย่าง เวลาแค่ห้าปีจะให้เสียไปโดยเปล่าประโยชน์
นตัว สักวันหนึ่งเราต้องแยกออกจากแคว้นหานจึงจำเป็นต้องมีคนของเราเอง” ใน
ายและต้องใช้เวลา แม้ตอนนี้ยังไม่มีวิธีอะไรเลยสักอย่างแต่การหาความรู้ก่อนเป็นสิ่งสำคัญและกองกำลังเองก็ต้องใช้เวลา
ก็รู้อะไรไม่มากแต่ว่าเรื่องภายในกองทัพก็พอทราบอยู่ไม่น้อย ดังนั้นเรื่องจัดการกับกำ
หรับพวกเราแล้วเตรียมตัวไว้ให้ดี” ทั้งสองมองตากันอย่างรู้ใจ ต่อจากพรุ่งนี้ไปเป็นระยะเวลาห้าปีนางทั้งคู่จะไม่มีวันใดได้หยุดพัก
พราะนับจากนี้ไปนางจะต้องทำตัวให้คล่องแคล่วอยู่เสมอเพื่อเหมาะแก่การทำงานจึงทำให้ นางสั่งเปลี่ยนเครื่องแต่งกายให้เป็นชุดแบบเดียวกับเจียงเฉียงคือให้เป็นชุดที่คล้ายกับชุดบุรุษมากที่สุดเพ
นห้องทรงอักษรเรียบร้อยแล้วเพคะ” เจียงเฉียงเองวันน
๊ะกลางห้อง แต่ถึงแม้จะมากมายเพียงใดลู่จิ้นจิวก็จำต้องอ่านและจดจำเรื่
อของแคว้นเหอ หน้าขวามือของแคว้นเล่อ ส่วนกองสุดท้ายของแคว้นลู่เพคะ ตำราทั้งหมดนี้หม่อมฉันนำมาจากห้องหนังสือของวังเฉินเฟิน
ี ในเมื่อเจ้าถนัดเรื่องภายในกองทัพเช่นนั้นกลยุทธ์ต่างๆ ข้าม
มใช้กันในหมู่เหล่าคนมีเงินเพราะกระดาษพวกนี้มีราคาแพง ทั้งสองหยิบม้วนตำราออกมาคลี่อ่านผ่านไปม้วนแล้วม้วนเล่าแต่ก็ไม่มีใครกล่าวอะไร ลู่จิ้นจิ
ากาศด้านนอกตำหนักเพื่อพักสายตาจากเหล่าตัวหนังสือที่อ่านผ่านมาครึ่งวัน
กแล้วเพคะ อีกไม่เกินสามวันพวกเขาจะมาที่นี่ ไม่ทราบว่าท่านหญิงอยากจะพบพวกเขาไหมเพคะ " เมื่อเดินออกมา
ไปพบพวกเขาเอง " ลู่จิ้นจิวเอ่ยขึ้นพร้อมกับเดินสูดอ
งก็ไม่มีใครยอมวางตำราในมือลง ยิ่งอ่านทั้งสองยิ่งรู้สึกสนุกกับความรู้ใหม่ๆ ที่ได้จากตำราเหล่านี้ บางเรื่องเป็นสิ่งที่ทุกคนต่างเข้าใจผิดมาตลอด ภายในตำราเหล่านี้ก็มีคว
งไร ข้าว่าบางเรื่องเป็นความลับที่ไม่ควรให้คนนอกรู้เสียด้วยซ้ำไป”
ี่หม่อมฉันจะขนตำราพวกนั้นออกมาท่านอ๋องสั่งให้คนนำมันไปคืนที่เดิมแล้วให้คนนำตำราพวกนี้มาให้หม่อมฉันแทนเพ
ว้นเก็บไว้มากมายเพียงนี้ ถ้าเช่นนั้นแล้วสิ่งที่เราบันทึกไว้เมื่อทบทวนอีกครั้งแล้ว ควรทำลายให้สิ้นอย่าได้ให้ผู้ใดมาพบเห็นเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นแล้วภัยจะมาถึงตัว
่อมฉันเข
างหากและลงกลอนหีบไว้อย่างแน่นหนา หลังออกจากห้องทรงอักษรยังไม่ลืมลงกลอนประตูไว้กันคนนอกเข้าไปด้วย
ดาม้วนตำราอันแสนมีค่าที่เคยกองเป็นพะเนินก็ลดลงเรื่อยๆ จนตอนนี้เวลาผ่านไปสามวัน ม้วนตำราที่เ
พวกเขาเมื่อไหร่ดีเพคะ” ครั้นเมื่อเจียงเฉียง
วเงยหน้าขึ้นจากตำราแล้วเอ่ยตอบออกมาก่อ
ก่อนนะเพคะแล้วหม่อมฉันจะกลับมาภายในหนึ่งชั่วยาม” เจียงเฉียงลุกขึ้
ียงทำความเคารพก่อนจะหันออกไปจากห้องทรงอักษรที่นางนั่งประจำอยู่สามวันเต็ม ส่วนลู่จิ้นจิวก็นั่ง