และในค่ำคืนสุดสับสนนั้น ที่เธอและเขาโคจรมาเจอกัน สาวใสซื่อดวงตาบ้องแบ๊ว..หล่อนจำไม่ได้แม้กระทั่งว่าเขาทำอะไรกับเธอบ้าง.. "ถ้าได้ไป..จะไม่หยุดแล้วนะ !!""กอดฉันไว้..ถ้าไม่อยากเจ็บ..
มาเฟียร้ายพ่ายรัก
ตอนที่ 1 เดินเกมส์รุก
พรีมายาหญิงสาวนัยน์ตาหวาน ผิวขาวตัวเล็ก พูดมาก โมโหง่าย ไม่ทำอะไรใครก่อน ไม่ยอมคน..โกรธง่ายหายเร็วแต่ตอนนี้เธอเรียนจบแล้ว แถมยังจบความรักแรกตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยของเธอไปกับวศินแฟนของเธอ... เธอจมอยู่แต่กลับความทุกข์มานาน...
ส่วนพ่อของเธอเป็นหนี้รอบด้าน จนกระทั้งมาเฟียคอยมาตามที่บ้าน แต่พ่อของเธอก็ปกป้องเธอคอยกีดกันทุกวิถีทางไม่ให้เธอได้เจอกับพวกมาเฟียร้ายพวกนี้ ซึ่งเพราะพ่อเป็นห่วงความปลอดภัยของเธอและหวังให้เธอมีชีวิตที่ดี...
แยมมี่เพื่อนสาวคนสนิทของพรีมายา..มีนิสัย รักสนุก ใครอยู่ไกล้เป็นต้องมีรอยยิ้ม ชอบแต่งตัว มีฐานะ .. แต่บ้าผู้ชายรอบกายของแยมมี่มีผู้ชายมากหน้าหลายตาเข้ามาให้เธอขย้ำอยู่ไม่ขาดสาย ...
เมื่อพรีมายาเดินทางไปหาแยมมี่ที่คอนโด....แยมมี่สังเกตุเห็นพรีมายา นั่งเงียบ..หงอยๆหน้าซี๊ดผากราวกับซากดึกดำบรรพ์ เธอจึงถามต้นสายปลายเหตุ กับเรื่องราวที่เกิดขึ้น...
"มึง...ที่นั่งอยู่เยี่ยซากศพ หรือ ฟรอสซิล ทำไมถึงซี๊ด ได้ขนาดนี้."เพื่อนสาวเอ่ยถามด้วยความฉงน..
"ก็....ฉันเลิกกับวศินแล้ว...มันบอกว่าฉันไม่ยอมมันเว้ย...."พรีมายาพูดด้วยเสียงสั่นเครือราวกับจะร้องไห้
"โอ้ยยย......!!!!!!!!!!มึง กูนึกว่าอุกกาบาดจากดาวอังคารร่วงใส่บ้านมึง ถึงได้ดูทุกข์ขนาดนี้"..พยายามพูดให้เธอผ่อนคลายขึ้น...
"แค่ผู้ชายคนเดียวแกจะไปซีเรียสทำใหม่ หาใหม่เยอะแยะ พอๆจบ ถ้าจะมานั่งเป็นซากศพฟอสซิลแบบนี้กลับไปเลย"..
"ฮือ..."พรีมายา ร้องไห้ พลันโผเข้ากอดแยมมี่....
"ครึ่งนึงของชีวิตที่แกเคยทำหล่นหายไป...ไม่เป็นไรเพื่อน..ฉันจะช่วยแกเอง..ฉัน จะสอนจริตมารยาหญิง ให้แกเอง...แล้วฉันจะแปลงโฉมให้สวยปิ๊งเลยดีมั้ย" ...พูดจบยกนิ้วขึ้นมาดีด กลางอากาศ
แยมมี่พิถีพิถันคัดสรรค์เลือกเสื้อผ้าอาภรณ์ล้ำสมัยในตู้ของเขาราวกับร้านขายเสื้อผ้าขนาดใหญ่จัดการเปลี่ยนโฉมลงรองพื้นแต่งหน้าลงอายแชร์โดว์สีทองให้ดูเป็นประกายเขียนขอบตาชัด ปัดมาสคาร่าให้ดูดวงตากลมโต..ม้วนลอนทำผม ให้เพื่อนของเขาอย่างใส่ใจ...หากชายหนุ่มใดที่ได้เห็นเป็นต้องหลงไหลเป็นแน่แท้..
โชคดีที่พรีมายา สีผิวโทนเย็น ความชมพู ๆ โทนเย็นเวลาใส่พวกเครื่องประดับสีเงิน ๆ แล้วจะช่วยขับผิวเธอให้ผ่องขึ้นไปอีก..
"ป่ะ..ฉันจะพาแกไปคลับ VIP แห่งใหม่.. ไปทดสอบฝีมือที่ฉันสอนแกซิจะได้เรื่องแค่ใหน..ฉันจะนั่งดูแกห่างๆ แกไปนั่งอยู่ตรงนั้นคนเดียว"พูดพลางจัดทรงผมลอนของเธอให้ดูเข้ารูป
"ฉะ ฉันเนี่ยนะ"...
"เออ..ก็สอนให้แล้วไง ทำตามอย่างที่บอก.."ใช้มือผลักไหล่พรีมายาไปเบาๆพลางพยักหน้า...
เมื่อเธอไปนั่งคนเดียวที่บาร์ ที่แยมมี่บอก...พรีมายาเหลือเห็นชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาเอาเรื่องเลยทีเดียว สูงยาว คมเข้ม...
"เอาวะ..คนนี้แหล่ะ"
พรีมายาพยายามสะกดความรู้สึกมองดวงตาคู่คมเฉียบของชายหนุ่มหล่อที่เล็งไว้ผู้อยู่ห่างจากบาร์ หน้าเคาน์เตอร์ที่เธอนั่งอยู่ไม่ไกลนัก ก่อนหน้านี้..หล่อนคิดหน้าตาดีแล้ว ยังสังเกดุเห็นว่านัยน์ตาของเขาเป็นสีน้ำตาลและอบอุ่น..หากวินาทีนี้เปลี่ยนเป็นดำขลับมีเสน่ห์ นั่นรวมถึงการจ้องมอง มายังใบหน้าของเธอไม่วางสายตาด้วยเช่นกัน..
"ทำไมใจสั่นจัง"
อย่างน้อยก็มั่นใจได้ว่าการปรากฎตัวของเธอในครั้งนี้ไม่ผิดจังหวะแน่นอนศอกหนึ่งข้างพร้อมวางคางได้รูปลงบนหลังมือ เผยรอยยิ้มน้อยๆส่งไปให้อีกฝ่าย ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ ชายหนุ่มผู้อยู่ท่ามกลางเสียงเพลงจะส่งยิ้มตอบกลับ
เขายกแก้วขึ้นชนกลางอากาศเป็นการทักทายเธอเช่นกัน ช่วงทำนองเลงแผ่วลง บทเพลงจังหวะ เพลงป๊อบ บรรเลงอย่างต่อเนื่อง กระซิบบอกชายหนุ่มให้ลุกจากโซฟาสีแดงนั่น..เดินมานั่ง บาร์ ข้างๆเธอ
"จะรังเกียจไหมถ้าผมจะเลี้ยงค็อกเทลคุณสักแก้ว"
ไม่น่ารังเกียจหรอก...เป็นการทักทายที่น่าสนใจ..บ่งบอกถึงนิสัยเจนจัดเรื่องผู้หญิงของเขาได้อย่างได้เป็นอย่างดี.."ได้สิคะ"พรีมายาตอบรับทันควัน โดยไม่ละต่อแววตาดุจพญาอินทรีของอีกฝ่าย..
"ถ้าคุณไม่แอบใส่สารอย่างอื่นเข้าไป..ก็น่าจะไม่มีปัญหาอะไรนะคะ"
ดวงตาคู่คมเป็นประกายยิ้มให้อย่างเป็นมิตร
"ไม่น่าเชื่อว่าคนไกล้ชิดของคุณจะปล่อยให้ผู้หญิงสวยๆมาสถานที่แบบนี้คนเดียว"
"ไม่หรอกค่ะ..ปรกติก็ไปไหนมาใหนคนเดียวตลอด เพื่อนๆฉันไปทำธุระเดียวมาค่ะที่สำคัญคนไกล้ชิดที่คุณพูดถึงยังไม่มีสักคนค่ะ"
"อ้อผมยังไม่ได้ถามชื่อคุณเลย"กล่าวโทษตัวเองว่า
"แย่จริงๆเลยเรา"
"พรีมายาค่ะ" แล้ว..คุณล่ะคะ
ผม....แอล..พูดไม่ทันจบ.เสียงโทรศัพท์ของเธอดังขึ้น
ทันทีเสียงโทรศัพท์ในกระเป๋าถือสั่นแล้วดังขึ้น..เธอล้วงหยิบมันออกมาแนบหู พรีมายา.."ขอตัวสักครู่นะคะ"
"ฮัลโหล...อึม..อยู่ตรงใหน..โอเค..เจอกัน..ยืนอยู่ตรงนั้นแหล่ะ..โอเค"
คุยเสร็จ..วางสาย..."ฉัน..ต้องเสียมารยาทแล้ว..ขอตัวไปหาเพื่อนนะคะ"
พรีมายา ปรายตามองอีกฝ่ายอย่างพยายามโปรยเสน่ห์..ร่างบางลุกเดินออกไปแต่กลิ่นหอมนั้นยังเย้ายวนอยู่..
แอล มาเฟียหนุ่มผู้เย็นชาไม่เคย ต้องตามผู้หญิงคนใหน เหมือนโดนตกเข้าอย่างจัง..แต่ตอนนี้กลับโดนพรีมายา..ลุกออกไปกลางคัน..เขารู้สึกหงุดหงิดมากที่โดนหยามหน้าขนาดนี้..แอลโบกมือเรียกบาร์เทนเดอร์ "ขอวอดก้า"
ด้วยความโมโห..จึงยกไปหลายแก้ว..แต่ยังแอบมองตามพรีมายาอยู่ว่าเธอไปใหน.."ทำไมฉันต้องสนใจผู้หญิงพวกนี้ด้วย.."
ส่วนทางด้านพรีมายา ได้เจอกับ แยมมี เพื่อสาวคนสนิทที่เนรมิตและสอนจริตให้เธอสวยดูดีมีระดับโปรยเสน่ห์ได้เพียงนี้ แยมมี่เป็นผู้วางแผนสอนทุกอย่างให้ พรีมายาจาการที่พรีมายาอ่อนหัดเรื่องผู้ชายจนโดนหลอกให้กลายเป็นผู้อยู่เหนือเกมส์บ้าง..
"หมดเวลาสำหรับ บททดสอบนี้..ฉันมองดูอยู่ห่างๆ ใช้ได้เลยทีเดียวเอาเท่านี้ก่อนพอกรุบกริบ"
เพื่อนสาวเรียกตัวกลับหลังจากแยกโต๊ะนั่ง..พรีมายาพยักน่าถามด้วยความสงสัย.."แกว่าเค้าสนใจฉันมั้ย..ปล่อยทิ้งไว้กลางคันแบบนี้เลยเหรอ"
"อึม...จะได้ดูน่าค้นห้าถ้าเค้าชอบแกจริงเดี๋ยวเค้าก็ตามมา"
ผู้คนระดับหรูในคลับให้แห่งนี้คนไม่พลุกพล่าน..แต่ดูเหมือนเสน่ห์พรีมายาจะไม่หยุดแค่นั้น..มีหนุ่มเพล์บอยคนอื่นมาขอชนแก้วกับหล่อน
ด้วยความที่แยมมี่ สอนจริตวางตัวให้เพื่อนและแปลงโฉมให้สวยดุจนางพญา แต่สิ่งที่แยมมี่ไม่ได้สอนให้เพื่อนอีกอย่างนึงคือ.....สอนดื่มเหล้า ....แต่ไม่ทันแล้ว..
พะ..พะ..พรี..
โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ ขอบคุณรี๊ดทุกท่านที่เข้ามาอ่านค่ะ
ฉันไม่ต้องการความสัมพันธ์แบบทองหล่อในคืนวันศุกร์นะคะ ...ขอตัว..//ส่วนตัวไม่เน้นความสัมพันธ์เน้นมันส์อย่างเดียวรับได้หรือเปล่า
เชื่อเสมอว่าประตูบานนี้ปิดลง เราจะได้เปิดประตูไปเจอสิ่งที่ดีกว่าเสมอ...เธอออกตามหาคนที่ให้ชีวิตใหม่กับเธอ แต่เรื่องมันไม่ง่ายขนาดนั้น.. สันดานแบบคุณ แค่เห็นนรกก็คิดว่าแค่ชื่อน้ำพริกสินะ
เรื่องคืนนั้น..มันไม่ควรเป็นแบบนี้ !! ถ้าไม่คิดอะไร..อย่าจับหัวได้ปะ
อยากเห็นใบหน้าของเขาในช่วงเวลาแบบนั้น..สีหน้าท่าทางเขาจะเป็นแบบไหน.. ไม่ได้ง่ายกับทุกคนนะ...แต่ก็ไม่ได้ยากขนาดนั้น
ทดลองเป็นลูกค้ากันก่อนถ้าชอบค่อยกลับมาซื้อ..ถ้าคุณพร้อมโอน..ฉันก็พร้อม..อ..NC18+
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
หลังจากแต่งงานกันมาสองปี สามีของเธอไม่เคยเหยียบเข้าไปในบ้านและมองดู 'ภรรยาขี้เหร่' ของเขาเลย แถมเขาก็มีเรื่องอื้อฉาวกับดาราหน้าใหม่หลายคนทุกวัน ซูเหว่ยทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอตัดสินใจปล่อยเขาไป ต่อไปก็ต่างคนต่างไปเลย แต่เมื่อเธอเสนอเรื่องหย่า... ฟู่เหยียนอันพบว่านักออกแบบในบริษัทนั้นสะดุดตาเป็นพิเศษ เขาค่อยๆ ทำความรู้จักกับเธอเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาค้นพบตัวตนที่แท้จริงของเธอเข้า เขาเสียใจแล้ว
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"
"ไล่ผู้หญิงคนนี้ออกไปซะ" "โยนผู้หญิงคนนี้ลงทะเลซะ" ขณะที่ไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเหนียนหย่าเสวียน โฮว่หลิงเฉินได้ปฏิบัติต่อเธออย่างไม่เป็นมิตร "คุณหลิงเฉินครับ เธอคือภรรยาของท่านครับ" ผู้ช่วยของหลิงเฉินกล่าวเตือนเขา เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลิงเฉินหยุดเพ่งมองไปที่เขาอย่างเย็นชาและบ่นขึ้นมาว่า "ทำไมไม่บอกผมให้เร็วกว่านี้?" นับจากนั้นเป็นต้นมา หลิงเฉินได้ตามใจและรักใคร่ทะนุถนอมหย่าเสวียนมาตลอด โดยไม่มีใครคาดคิดว่าพวกเขาจะหย่าร้างกัน
เธอก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่เคยสนใจ แต่ก็ยังดึงดันอยากจะอยู่ใกล้ ต่อให้เธอเป็นเมียแต่งเขาก็คงไม่มีวันเปลี่ยนใจ เพราะเหตุนี้เธอจึงตัดสินใจจากไปในคืนแต่งงาน "จากนี้ไปเราไม่มีอะไรติดค้างกันอีก" 🥀