และในค่ำคืนสุดสับสนนั้น ที่เธอและเขาโคจรมาเจอกัน สาวใสซื่อดวงตาบ้องแบ๊ว..หล่อนจำไม่ได้แม้กระทั่งว่าเขาทำอะไรกับเธอบ้าง.. "ถ้าได้ไป..จะไม่หยุดแล้วนะ !!""กอดฉันไว้..ถ้าไม่อยากเจ็บ..
และในค่ำคืนสุดสับสนนั้น ที่เธอและเขาโคจรมาเจอกัน สาวใสซื่อดวงตาบ้องแบ๊ว..หล่อนจำไม่ได้แม้กระทั่งว่าเขาทำอะไรกับเธอบ้าง.. "ถ้าได้ไป..จะไม่หยุดแล้วนะ !!""กอดฉันไว้..ถ้าไม่อยากเจ็บ..
มาเฟียร้ายพ่ายรัก
ตอนที่ 1 เดินเกมส์รุก
พรีมายาหญิงสาวนัยน์ตาหวาน ผิวขาวตัวเล็ก พูดมาก โมโหง่าย ไม่ทำอะไรใครก่อน ไม่ยอมคน..โกรธง่ายหายเร็วแต่ตอนนี้เธอเรียนจบแล้ว แถมยังจบความรักแรกตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยของเธอไปกับวศินแฟนของเธอ... เธอจมอยู่แต่กลับความทุกข์มานาน...
ส่วนพ่อของเธอเป็นหนี้รอบด้าน จนกระทั้งมาเฟียคอยมาตามที่บ้าน แต่พ่อของเธอก็ปกป้องเธอคอยกีดกันทุกวิถีทางไม่ให้เธอได้เจอกับพวกมาเฟียร้ายพวกนี้ ซึ่งเพราะพ่อเป็นห่วงความปลอดภัยของเธอและหวังให้เธอมีชีวิตที่ดี...
แยมมี่เพื่อนสาวคนสนิทของพรีมายา..มีนิสัย รักสนุก ใครอยู่ไกล้เป็นต้องมีรอยยิ้ม ชอบแต่งตัว มีฐานะ .. แต่บ้าผู้ชายรอบกายของแยมมี่มีผู้ชายมากหน้าหลายตาเข้ามาให้เธอขย้ำอยู่ไม่ขาดสาย ...
เมื่อพรีมายาเดินทางไปหาแยมมี่ที่คอนโด....แยมมี่สังเกตุเห็นพรีมายา นั่งเงียบ..หงอยๆหน้าซี๊ดผากราวกับซากดึกดำบรรพ์ เธอจึงถามต้นสายปลายเหตุ กับเรื่องราวที่เกิดขึ้น...
"มึง...ที่นั่งอยู่เยี่ยซากศพ หรือ ฟรอสซิล ทำไมถึงซี๊ด ได้ขนาดนี้."เพื่อนสาวเอ่ยถามด้วยความฉงน..
"ก็....ฉันเลิกกับวศินแล้ว...มันบอกว่าฉันไม่ยอมมันเว้ย...."พรีมายาพูดด้วยเสียงสั่นเครือราวกับจะร้องไห้
"โอ้ยยย......!!!!!!!!!!มึง กูนึกว่าอุกกาบาดจากดาวอังคารร่วงใส่บ้านมึง ถึงได้ดูทุกข์ขนาดนี้"..พยายามพูดให้เธอผ่อนคลายขึ้น...
"แค่ผู้ชายคนเดียวแกจะไปซีเรียสทำใหม่ หาใหม่เยอะแยะ พอๆจบ ถ้าจะมานั่งเป็นซากศพฟอสซิลแบบนี้กลับไปเลย"..
"ฮือ..."พรีมายา ร้องไห้ พลันโผเข้ากอดแยมมี่....
"ครึ่งนึงของชีวิตที่แกเคยทำหล่นหายไป...ไม่เป็นไรเพื่อน..ฉันจะช่วยแกเอง..ฉัน จะสอนจริตมารยาหญิง ให้แกเอง...แล้วฉันจะแปลงโฉมให้สวยปิ๊งเลยดีมั้ย" ...พูดจบยกนิ้วขึ้นมาดีด กลางอากาศ
แยมมี่พิถีพิถันคัดสรรค์เลือกเสื้อผ้าอาภรณ์ล้ำสมัยในตู้ของเขาราวกับร้านขายเสื้อผ้าขนาดใหญ่จัดการเปลี่ยนโฉมลงรองพื้นแต่งหน้าลงอายแชร์โดว์สีทองให้ดูเป็นประกายเขียนขอบตาชัด ปัดมาสคาร่าให้ดูดวงตากลมโต..ม้วนลอนทำผม ให้เพื่อนของเขาอย่างใส่ใจ...หากชายหนุ่มใดที่ได้เห็นเป็นต้องหลงไหลเป็นแน่แท้..
โชคดีที่พรีมายา สีผิวโทนเย็น ความชมพู ๆ โทนเย็นเวลาใส่พวกเครื่องประดับสีเงิน ๆ แล้วจะช่วยขับผิวเธอให้ผ่องขึ้นไปอีก..
"ป่ะ..ฉันจะพาแกไปคลับ VIP แห่งใหม่.. ไปทดสอบฝีมือที่ฉันสอนแกซิจะได้เรื่องแค่ใหน..ฉันจะนั่งดูแกห่างๆ แกไปนั่งอยู่ตรงนั้นคนเดียว"พูดพลางจัดทรงผมลอนของเธอให้ดูเข้ารูป
"ฉะ ฉันเนี่ยนะ"...
"เออ..ก็สอนให้แล้วไง ทำตามอย่างที่บอก.."ใช้มือผลักไหล่พรีมายาไปเบาๆพลางพยักหน้า...
เมื่อเธอไปนั่งคนเดียวที่บาร์ ที่แยมมี่บอก...พรีมายาเหลือเห็นชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาเอาเรื่องเลยทีเดียว สูงยาว คมเข้ม...
"เอาวะ..คนนี้แหล่ะ"
พรีมายาพยายามสะกดความรู้สึกมองดวงตาคู่คมเฉียบของชายหนุ่มหล่อที่เล็งไว้ผู้อยู่ห่างจากบาร์ หน้าเคาน์เตอร์ที่เธอนั่งอยู่ไม่ไกลนัก ก่อนหน้านี้..หล่อนคิดหน้าตาดีแล้ว ยังสังเกดุเห็นว่านัยน์ตาของเขาเป็นสีน้ำตาลและอบอุ่น..หากวินาทีนี้เปลี่ยนเป็นดำขลับมีเสน่ห์ นั่นรวมถึงการจ้องมอง มายังใบหน้าของเธอไม่วางสายตาด้วยเช่นกัน..
"ทำไมใจสั่นจัง"
อย่างน้อยก็มั่นใจได้ว่าการปรากฎตัวของเธอในครั้งนี้ไม่ผิดจังหวะแน่นอนศอกหนึ่งข้างพร้อมวางคางได้รูปลงบนหลังมือ เผยรอยยิ้มน้อยๆส่งไปให้อีกฝ่าย ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ ชายหนุ่มผู้อยู่ท่ามกลางเสียงเพลงจะส่งยิ้มตอบกลับ
เขายกแก้วขึ้นชนกลางอากาศเป็นการทักทายเธอเช่นกัน ช่วงทำนองเลงแผ่วลง บทเพลงจังหวะ เพลงป๊อบ บรรเลงอย่างต่อเนื่อง กระซิบบอกชายหนุ่มให้ลุกจากโซฟาสีแดงนั่น..เดินมานั่ง บาร์ ข้างๆเธอ
"จะรังเกียจไหมถ้าผมจะเลี้ยงค็อกเทลคุณสักแก้ว"
ไม่น่ารังเกียจหรอก...เป็นการทักทายที่น่าสนใจ..บ่งบอกถึงนิสัยเจนจัดเรื่องผู้หญิงของเขาได้อย่างได้เป็นอย่างดี.."ได้สิคะ"พรีมายาตอบรับทันควัน โดยไม่ละต่อแววตาดุจพญาอินทรีของอีกฝ่าย..
"ถ้าคุณไม่แอบใส่สารอย่างอื่นเข้าไป..ก็น่าจะไม่มีปัญหาอะไรนะคะ"
ดวงตาคู่คมเป็นประกายยิ้มให้อย่างเป็นมิตร
"ไม่น่าเชื่อว่าคนไกล้ชิดของคุณจะปล่อยให้ผู้หญิงสวยๆมาสถานที่แบบนี้คนเดียว"
"ไม่หรอกค่ะ..ปรกติก็ไปไหนมาใหนคนเดียวตลอด เพื่อนๆฉันไปทำธุระเดียวมาค่ะที่สำคัญคนไกล้ชิดที่คุณพูดถึงยังไม่มีสักคนค่ะ"
"อ้อผมยังไม่ได้ถามชื่อคุณเลย"กล่าวโทษตัวเองว่า
"แย่จริงๆเลยเรา"
"พรีมายาค่ะ" แล้ว..คุณล่ะคะ
ผม....แอล..พูดไม่ทันจบ.เสียงโทรศัพท์ของเธอดังขึ้น
ทันทีเสียงโทรศัพท์ในกระเป๋าถือสั่นแล้วดังขึ้น..เธอล้วงหยิบมันออกมาแนบหู พรีมายา.."ขอตัวสักครู่นะคะ"
"ฮัลโหล...อึม..อยู่ตรงใหน..โอเค..เจอกัน..ยืนอยู่ตรงนั้นแหล่ะ..โอเค"
คุยเสร็จ..วางสาย..."ฉัน..ต้องเสียมารยาทแล้ว..ขอตัวไปหาเพื่อนนะคะ"
พรีมายา ปรายตามองอีกฝ่ายอย่างพยายามโปรยเสน่ห์..ร่างบางลุกเดินออกไปแต่กลิ่นหอมนั้นยังเย้ายวนอยู่..
แอล มาเฟียหนุ่มผู้เย็นชาไม่เคย ต้องตามผู้หญิงคนใหน เหมือนโดนตกเข้าอย่างจัง..แต่ตอนนี้กลับโดนพรีมายา..ลุกออกไปกลางคัน..เขารู้สึกหงุดหงิดมากที่โดนหยามหน้าขนาดนี้..แอลโบกมือเรียกบาร์เทนเดอร์ "ขอวอดก้า"
ด้วยความโมโห..จึงยกไปหลายแก้ว..แต่ยังแอบมองตามพรีมายาอยู่ว่าเธอไปใหน.."ทำไมฉันต้องสนใจผู้หญิงพวกนี้ด้วย.."
ส่วนทางด้านพรีมายา ได้เจอกับ แยมมี เพื่อสาวคนสนิทที่เนรมิตและสอนจริตให้เธอสวยดูดีมีระดับโปรยเสน่ห์ได้เพียงนี้ แยมมี่เป็นผู้วางแผนสอนทุกอย่างให้ พรีมายาจาการที่พรีมายาอ่อนหัดเรื่องผู้ชายจนโดนหลอกให้กลายเป็นผู้อยู่เหนือเกมส์บ้าง..
"หมดเวลาสำหรับ บททดสอบนี้..ฉันมองดูอยู่ห่างๆ ใช้ได้เลยทีเดียวเอาเท่านี้ก่อนพอกรุบกริบ"
เพื่อนสาวเรียกตัวกลับหลังจากแยกโต๊ะนั่ง..พรีมายาพยักน่าถามด้วยความสงสัย.."แกว่าเค้าสนใจฉันมั้ย..ปล่อยทิ้งไว้กลางคันแบบนี้เลยเหรอ"
"อึม...จะได้ดูน่าค้นห้าถ้าเค้าชอบแกจริงเดี๋ยวเค้าก็ตามมา"
ผู้คนระดับหรูในคลับให้แห่งนี้คนไม่พลุกพล่าน..แต่ดูเหมือนเสน่ห์พรีมายาจะไม่หยุดแค่นั้น..มีหนุ่มเพล์บอยคนอื่นมาขอชนแก้วกับหล่อน
ด้วยความที่แยมมี่ สอนจริตวางตัวให้เพื่อนและแปลงโฉมให้สวยดุจนางพญา แต่สิ่งที่แยมมี่ไม่ได้สอนให้เพื่อนอีกอย่างนึงคือ.....สอนดื่มเหล้า ....แต่ไม่ทันแล้ว..
พะ..พะ..พรี..
โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ ขอบคุณรี๊ดทุกท่านที่เข้ามาอ่านค่ะ
ฉันไม่ต้องการความสัมพันธ์แบบทองหล่อในคืนวันศุกร์นะคะ ...ขอตัว..//ส่วนตัวไม่เน้นความสัมพันธ์เน้นมันส์อย่างเดียวรับได้หรือเปล่า
เชื่อเสมอว่าประตูบานนี้ปิดลง เราจะได้เปิดประตูไปเจอสิ่งที่ดีกว่าเสมอ...เธอออกตามหาคนที่ให้ชีวิตใหม่กับเธอ แต่เรื่องมันไม่ง่ายขนาดนั้น.. สันดานแบบคุณ แค่เห็นนรกก็คิดว่าแค่ชื่อน้ำพริกสินะ
เรื่องคืนนั้น..มันไม่ควรเป็นแบบนี้ !! ถ้าไม่คิดอะไร..อย่าจับหัวได้ปะ
อยากเห็นใบหน้าของเขาในช่วงเวลาแบบนั้น..สีหน้าท่าทางเขาจะเป็นแบบไหน.. ไม่ได้ง่ายกับทุกคนนะ...แต่ก็ไม่ได้ยากขนาดนั้น
ทดลองเป็นลูกค้ากันก่อนถ้าชอบค่อยกลับมาซื้อ..ถ้าคุณพร้อมโอน..ฉันก็พร้อม..อ..NC18+
โปรยปราย... เมื่ออยากให้มหาเศรษฐีนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อย่าง ‘ปวีร์’ ช่วยให้ ‘พิมพ์พิศา’ หลุดพ้นจากสภาพของสาวค้าบริการอย่างไม่สมยอม ไหนจะ ‘พ่อเลี้ยง’ บ้ากามที่จ้องคุกคามพรหมจรรย์ หญิงสาวบริสุทธิ์จึงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อ ‘จับ’ เขาไว้ให้อยู่หมัด ด้วยรู้ว่าอิทธิพลของเขาจะช่วยคุ้มภัยให้เธอไปตลอดกาล แต่นักธุรกิจทุกกระเบียดอย่างเขา จะช่วยใครย่อมต้องมีข้อแลกเปลี่ยนบางอย่าง... ข้อนั้นพิมพ์พิศารู้ดี แต่ไม่รู้เลยว่า... เพียงเพื่อแลกกับอิสรภาพ เธอจะต้องมีทายาทให้เขา +++++++++++++++
เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที
"คุณต้องการเจ้าสาว ส่วนฉันก็ต้องการเจ้าบ่าว ทำไมเราไม่แต่งงานกันล่ะ?" ภายใต้เสียงเยาะเย้ยของทุกคน ถังเลี่ยน ซึ่งถูกคู่หมั้นของเธอทอดทิ้งในพิธีแต่งงาน กลับแต่งงานกับเจ้าบ่าวพิการข้างบ้านที่ถูกรังเกียจ ถังเลี่ยนคิดว่าอวิ๋นเซินเป็นชายหนุ่มที่น่าสงสาร และเธอสาบานว่าจะให้ความรักใคร่แก่เขาและตามใจเขาหลังแต่งงาน ใครจะรู้ว่าเขาแกล้งเป็นแบบนั้น... ก่อนแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "เธอต้องสนใจเงินของผมถึงยอมแต่งงานกับผม ผมจะหย่ากับเธอหลังจากที่ผมใช้ประโยชน์เธอเสร็จ" หลังแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "ภรรยาของผมต้องการหย่าทุกวัน แต่ผมไม่อยากหย่า ทำอย่างไรดีล่ะ"
"ฉันจะนอนกับคุณทุกที่ ทุกเวลา และทุกครั้งที่คุณต้องการ เพื่อแลกกับอิสรภาพของพ่อฉัน" "แล้วถ้าผมไม่ตกลงล่ะ" ในที่สุดเขาก็พูดออกมาจนได้ ยาหยีก้มหน้าซ่อนความเจ็บช้ำเอาไว้จนมิด ก่อนจะเงยหน้าขึ้นอีกครั้งและพูดออกไปเสียงแผ่วเบา "ฉันจะให้คุณดูสินค้าก่อนก็ได้...แล้วค่อยตัดสินใจ" เมื่อบิดาของตนเป็นโจรขโมยเพชรล้ำค่าของตระกูลมาเฟียที่ยิ่งใหญ่แห่งกรุงมอสโค ยาหยี จำต้องโยนศักดิ์ศรีของตัวเองทิ้งแล้วกลายเป็นหญิงไร้ยางอายเพื่อให้บิดารอดพ้นจากเงื้อมมือมัจจุราชอย่างเขา ทางเลือกเพียงทางเดียวที่มีคือยอมพลีกายให้ผู้ที่ขึ้นชื่อว่าหล่อเหลาในสามโลกได้เชยชม สาวพรหมจรรย์อย่างหล่อนแทบขาดใจตายเพราะบทพิศวาสเร่าร้อนรุนแรงที่ไม่เคยได้พานพบ ความวาบหวามครั้งแล้วครั้งเล่าที่เขามอบให้ทำให้ยาหยีคลั่งไคล้ในรสสิเน่หา กายสาวร่ำร้องโหยหาแต่เขาเพียงผู้เดียว หากภายในใจก็ต้องคอยย้ำเตือนตนเองไว้ว่า หล่อนก็เป็นได้แค่ของเล่นชั่วคราว สักวันพอเขาเบื่อ ก็จะถูกเขี่ยทิ้งอย่างไร้ความปรานี!! จากที่คิดจะตามไล่ล่าเด็ดหัวคนทรยศให้แดดิ้นไปต่อหน้า คอร์เนล ซีร์ยานอฟ เจ้าพ่อยักษ์ใหญ่แห่งวงการโทรคมนาคมในประเทศรัสเซีย ก็เปลี่ยนเป้าหมายทันทีเมื่อได้เจอสาวน้อยนัยน์ตากลมหวานซึ้ง ใบหน้าหวานๆ ส่งผลให้เขาต้องการอยากครอบครองหล่อนแทบคลั่ง คอร์เนลมั่นใจว่ามันจะมีผลกับร่างแกร่งได้ไม่นานหรอก เพราะสำหรับเขา ผู้หญิงคือวัตถุทางเพศเคลื่อนที่ได้เท่านั้น เพียงได้ลิ้มลองแค่ครั้งเดียว เขาก็ไม่เคยหันกลับไปกินของเก่าอีก แต่ทฤษฎีนี้กลับใช้ไม่ได้ผลกับหล่อน ให้ตายสิ! เขาไม่เคยรู้สึกติดใจผู้หญิงรุนแรงขนาดนี้มาก่อน คอร์เนลหลงใหลเนื้อนุ่มจนกลายเป็นเสพติด ทั้งที่ความยโสโอหังของบุรุษเลือดเย็นเยี่ยงเขาพยายามบอกกับตนเองว่า เขายังเชยชมร่างงามไม่คุ้มค่ากับสิ่งที่สูญเสียไป แต่ภายในใจลึกๆ กลับตะโกนก้องสวนทางออกมาว่า เขาขาดเธอไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียว!!
" ผมใหญ่ครับ " " ใหญ่นี่ ชื่อหรือสรรพคุณคะ " " ก็... ทั้งสองอย่างครับ " +++++++++++++++++++++++++++ " ผมอยากเอาคุณเป็นบ้าเลย " ดวงตาของมิถุนาเบิกกว้างเมื่อได้ยินประโยคนั้น ไม่คิดไม่ฝันว่าเขาจะพูดมันออกมาตรง ๆ อย่างไม่ให้เกียรติเธอแม้แต่นิด " ไอ้โรคจิต หยาบคาย ! " เธอผรุสวาทออกมาทั้งยังพยายามดิ้นรนผลักไสให้ตัวเองหลุดพ้นพันธนาการอันเป็นอ้อมแขนเหนียวแน่นนั้น และแน่นอนว่านอกจากไม่หลุดแล้วเขายังรัดเธอแน่นเข้าไปอีก " ปล่อยฉันนะ ! " " ก็คุณบอกให้ผมพูดเอง " " ใครจะไปรู้ว่าความคิดคุณจะทุเรศลามกขนาดนั้น " " มันเป็นเรื่องปกติของมนุษย์ ธรรมชาติสร้างให้สัตว์เพศผู้เพศเมียสมสู่กันเพื่อดำรงเผ่าพันธุ์ ความต้องการทางเพศมันเป็นเรื่องปกติ หรือว่าคุณไม่เคยมีมัน " " ฉันมีคู่หมั้นแล้วและไม่ได้อยากดำรงเผ่าพันธุ์อะไรกับคนแบบคุณ ! " เขาหัวเราะเบา ๆ ต่างกับเธอที่ตาเขียวปั้ด อยากจะยกมือขึ้นตะกายหน้าหล่อ ๆ นั่นแทบบ้า ไอ้คนไร้มารยาท ! " เราไม่ต้องดำรงเผ่าพันธุ์อะไรทั้งนั้น " เขาเริ่มบทสนทนาต่อก่อนโน้มตัวไปกระซิบที่ข้างหูเธอเบา ๆ " แค่เอากันก็พอ " ++++++++++++++++++++++++++++++++++++ " ...แค่อยากจะมาทักทายคนคุ้นเคยเป็นการส่วนตัว " " ฉันไม่ใช่คนคุ้นเคยของนาย " " งั้นคุณเป็นคนคุ้นเคยของผมฝ่ายเดียวก็ได้ " " อย่ามากวนนะ ระวังจะโดนเอาคืน " " ก็เอาสิ จะเอาคืน เอาวัน หรือเอาทั้งวันทั้งคืนเลยก็ได้นะ ผมไม่ติด "
ในวันแต่งงาน เสิ่นเยวียนถูกคู่หมั้นและน้องสาวของเธอทำร้าย และถูกจำคุกเป็นเวลาสามปีด้วยความทุกข์ทรมาน หลังจากได้รับการปล่อยตัวจากคุก น้องสาวผู้ชั่วร้ายได้คุกคามด้วยชีวิตแม่และพยายามให้เธอมอบตัวกับชายชรา อย่างไรก็ตาม เธอได้พบกับเซียวเป่ยหาน ซึ่งเป็นผู้ทรงอิธิพลที่หล่อเหลาและเย็นชาแห่งแห่งสังคมด้านมืด อย่างไม่คาดคิด และชะตากรรมของเธอก็เปลี่ยนไปตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แม้ว่าเซียวเป่ยหานจะเย็นชา แต่เขากลับปฏิบัติต่อเสิ่นเยวียนดั่งเป็นสมบัติล้ำค่า นับแต่นั้นมา เธอจัดการคนเสแสร้ง เอาคืนแม่เลี้ยงและไม่ถูกกลั่นแกล้งอีกต่อไป
© 2018-now MeghaBook
บนสุด