ซ่งหยุนหยุนแต่งงานไปแล้ว แต่เจ้าบ่าวไม่เคยปรากฏตัวตั้งแต่ต้นจนจบเลย ด้วยความโกรธหนัก เธอจึงมอบกายให้กับชายแปลกหน้าคนหนึ่งแทนในคืนการแต่งงานนั้น หลังจากวันนั้น เธอก็ถูกชายคนนั้นจับตาเข้า...
ซงยุ่นยุ่นแต่งงานแล้ว เจ้าบ่าวกลับไม่ได้ปรากฏตัวเลย
ชุดเครื่องนอนสีแดง ตัวอักษรอวยพรที่อยู่บนฝาผนัง สีที่โดดเด่นสะดุดตาเหมือนกับกำลังตบหน้าของเธอทีละฉาด
ความอัปยศอดสู! ไม่พอใจ!
แต่แล้วจะทำยังไงได้
ตั้งแต่เกิดมาชีวิตของเธอก็ล้วนแต่อยู่ในกำมือของคนอื่นมาโดยตลอด รวมถึงการแต่งงานนี้ด้วย
ที่เธอแต่งงานเข้ามาในตระกูลเจียง ก็เป็นเพราะความโลภของพ่อ
ปู่ของเธอเคยเป็นคนขับรถของเฒ่าแก่เจียง จากอุบัติเหตุเหตุการณ์หนึ่ง ทำให้คุณปู่เสียงชีวิตเนื่องจากช่วยชีวิตเฒ่าแก่เจียงไว้
บริษัทเล็ก ๆ ที่ดำเนินการกันเองในครอบครัว ได้แบกหนี้สินก้อนโต้ ใกล้จะล้มละลาย พ่อผู้เฉลียวฉลาดรู้ว่าถ้าเกิดไปขอเงินจากตระกูลเจียง บุญคุณที่ติดค้างไว้ก็จะชดใช้หมด ดังนั้นเขาจึงคิดหาวิธีกอบโกยผลประโยชน์จากคนอื่นขึ้นมา โดยเสนอให้เจียงเย่าจิ่ง หลานชายของเฒ่าแก่เจียงแต่งงานกับเธอ
จากความมั่งคั่งของตระกูลเจียง จะต้องมอบสินสอดก้อนใหญ่ให้อย่างแน่นอน
แล้วก็สามารถได้เป็นทองแผ่นเดียวกันกับตระกูลเจียงด้วย
ตระกูลเจียงเนื่องด้วยรักในศักดิ์ศรีของตัวเอง ก็เลยไม่อาจที่จะปฏิเสธได้
การแต่งงานในครั้งนี้เจียงเย่าจิ่งรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก ดังนั้นเขาก็เลยไม่มาปรากฏตัวในงานเลี้ยงแต่งงานที่จัดขึ้นระหว่างสองตระกูลเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นยังเสนอเงื่อนไขออกมาว่า ห้ามไม่ให้เธอแสดงตัวว่าเป็นภรรยาของเขาในที่สาธารณะอีกด้วย
เรื่องทั้งหมดนี้ ไม่มีใครถามเธอเลยว่าเธอเต็มใจหรือไม่
เธอลืมตาที่สว่างสดใส ขนตาที่ม้วนงอนสั่นกระพือเล็กน้อย เก็บซ่อนความรั้นเอาไว้
ตอนที่เธอไม่รู้ว่าจะข้ามผ่านคืนแรกของการแต่งงานนี้ไปยังไงนั้น เธอก็ได้รับข้อความจากเพื่อนร่วมงาน
ขอให้เธอช่วยมาเข้าเวรแทน
เธอเรียกรถไปที่โรงพยาบาล
จากชุดแต่งงานสีแดงเปลี่ยนเป็นเสื้อกาวน์สีขาว
จู่ ๆ ประตูของห้องเฝ้าเวรก็ถูกเปิดออกมาอย่างรุนแรง เสียงดังปัง
เธอกำลังคิดที่จะเงยหน้าขึ้น ก็ได้ยินเสียงดังขึ้นมาก่อน ไฟในห้องดับลง
ซงยุ่นยุ่นขนลุกตั้งขึ้นมาด้วยความตกใจ
“ใคร...”
คำพูดของเธอยังไม่ทันได้พูดออกมา ก็ถูกกดลงไปบนโต๊ะ สิ่งของที่อยู่บนโต๊ะร่วงตกลงเต็มพื้นเสียงดังโครมคราม มีดแหลมคมจ่อตรงคอของเธอ ก่อนจะพูดขู่ออกมา “หยุดพูด!”
ภายใต้แสงไฟที่มืดสลัว เธอเห็นแค่ใบหน้าที่เต็มไปด้วยเลือด และดวงตาที่ดุร้ายคู่นั้นของผู้ชายคนนั้นเท่านั้น
กลิ่นคาวเลือดที่เข้มข้นโชยมาแตะที่ปลายจมูก เธอรู้ว่าผู้ชายคนนี้ได้รับบาดเจ็บ
บางทีอาจจะเป็นเพราะงานของเธอ ทำให้เธอมีนิสัยที่สงบนิ่ง
เธองอขาขึ้นมาเบา ๆ พยายามโจมตีไปยังจุดอ่อนของผู้ชายคนนั้น แต่ทันทีที่เธอขยับก็ถูกผู้ชายคนนั้นจับได้ เขาใช้แรงหนีบสองขาที่อยู่ไม่สุขของเธอเอาไว้
“ฉันเห็นว่ามันมาทางนี้ชัด ๆ ”
เสียงฝีเท้าเริ่มเข้ามาใกล้ประตู
ได้ยินเสียงของพวกเขากำลังจะเปิดประตู
ในช่วงวิกฤต ผู้ชายคนนั้นก้มหน้าลงจูบไปที่ริมฝีปากของเธอ
ซงยุ่นยุ่นขัดขืน ผลักผู้ชายคนนั้นออกไปเขาไม่ได้ใช้อาวุธแหลมคมที่อยู่ในมือทำร้ายเธอ
เธอชะงักไป
แกร๊ก!
ตอนนี้ลูกบิดประตูถูกบิดแล้ว
ซงยุ่นยุ่นรู้สึกตื่นตระหนก เงยหน้าขึ้นมาจูบตอบกลับไป เธอเริ่มเป็นฝ่ายโอบคอของผู้ชายคนนั้นเอง
เสียงของเธอสั่น แต่พยายามฝืนให้สงบนิ่ง “ฉันช่วยคุณได้นะ”
ลูกกระเดือกของชายคนนั้นขยับขึ้นลง วินาทีต่อมาก็เปลี่ยนจากผู้ถูกกระทำเป็นฝ่ายกระทำแทน ลมหายใจที่ร้อนผ่าวรดใบหูของเธอ น้ำเสียงทุ้มต่ำ และเซ็กซี่ “ผมจะรับผิดชอบคุณเอง”
ไม่สิ เขาเข้าใจผิดแล้ว เธอแค่อยากที่จะแสดงละครเท่านั้น
นาทีที่ประตูห้องถูกเปิดออก
เธอก็ร้องครวญครางออกมาแบบในละครเสียงครวญที่นุ่มนวลนั้น ทำให้ชายคนนั้นหลุ่มหลง
แล้วก็ทำให้คนที่อยู่ตรงประตูนั้น ได้ยินแล้วก็รู้สึกวาบหวามเช่นกัน
“ให้ตายสิ มาแอบเอากันในโรงพยาบาลแบบนี้ ช่างเร้าใจจริง ๆ ”
ประตูห้องถูกเปิดออก แสงไฟตรงทางเดินส่องลอดผ่านช่องเข้ามาข้างใน ชายคนนั้นกดร่างกายของเธอเอาไว้ บดบังการสอดส่องของคนตรงประตู ภายใต้แสงไฟที่มืดสลัวเห็นแค่เรือนร่างที่ชวนให้เห็นแล้วเลือดลมสูบฉีดด้วยอารมณ์ที่ตื่นตัว
“ไม่มีทางเป็นเจียงเย่าจิ่งอย่างแน่นอน มันบาดเจ็บขนาดนั้น ต่อให้เอาสาวงามขนาดไหนมาให้มัน มันก็ทำไม่ไหว”
“นังนี่ร้องครางได้อารมณ์จริง ๆ ”
“รีบไปหาตัวมันสิวะ ไม่อย่างนั้นพวกเราได้ตายแน่ ๆ !”
เสียงฝีเท้าค่อย ๆ ออกไปไกลเรื่อย ๆ
ชายคนนั้นรู้ว่าคนกลุ่มนั้นไปกันแล้ว แต่เขาพบว่าตัวเองควบคุมตัวเองไม่อยู่อีกต่อไป ถูกผู้หญิงแปลกหน้าคนนี้มากระตุ้นความต้องการที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเข้าแล้ว
อาจเป็นเพราะบรรยากาศเป็นใจ และท่าทางของทั้งสองคนก็ดูโรแมนติก ในที่สุดความอดกลั้นที่กดอยู่ในใจของซงยุ่นยุ่นก็ปะทุขึ้นมาก็เหมือนกับก่อการกบฏ
ชีวิตที่ถูกควบคุมบงการ ทำให้ชีวิตของเธอดำมืดไปหมด
เธอต่อต้านมันด้วยการปล่อยเนื้อปล่อยตัวทำตามใจตัวเอง!
ซงยุ่นยุ่นเองก็ไม่ได้ต่อต้านขัดขืนอะไร เธอคล้อยตามชายคนนั้น มอบครั้งแรกของตัวเองไปด้วยความรู้สึกเจ็บปวด
......
หลังจากเสร็จสิ้นแล้วชายคนนั้นก็จูบแก้มของเธอเบา ๆ เสียงในลำคอที่ทุ้มต่ำเต็มไปด้วยความแหบแห้ง “เดี๋ยวผมจะกลับมาหาคุณ” พูดจบก็ออกจากที่นี่ไปอย่างรวดเร็ว
ซงยุ่นยุ่นไม่ได้ลุกขึ้นมาทันที ช่วงเอวถูกกดทับกับขอบโต๊ะอยู่นาน ทำให้รู้สึกปวดแสบปวดร้อนไปหมด
และตอนนี้โทรศัพท์ที่ถูกดันมาอยู่ตรงขอบโต๊ะเกือบจะตกลงไปนั้นก็ดังขึ้นมา
เธอยื่นมือออกมาคว้าเอาไว้ มีเสียงที่รีบร้อนดังขึ้นมาจากในสาย “คุณหมอเฉิน มีผู้ได้รับบาดเจ็บที่ประสบอุบัติเหตุรถยนต์กำลังรออยู่ที่แผนกฉุกเฉิน บาดเจ็บสาหัสจำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือ คุณรีบมาเถอะ”
ซงยุ่นยุ่นจัดการกับเสียงของตัวเอง ก่อนจะตอบกลับไปอย่างนิ่ง ๆ “ค่ะ ฉันจะรีบไป”
พอวางสายลง เธอก็เหม่อไปสองสามวินาที เมื่อตะกี้...
เสื้อผ้าที่ยับยู่ยี่ ความรู้สึกเหนียวเหนอะหนะตรงส่วนล่าง ล้วนแต่กำลังบอกกับเธอว่า เมื่อตะกี้นี้มันไม่ใช่ความฝัน มันเกิดขึ้นจริง เธอมีอะไรกับผู้ชายแปลกหน้าคนหนึ่งในคืนวันแต่งงานจริง ๆ ...
ชีวิตนี้ทั้งชีวิตของเธอ นี่เป็นเรื่องที่เธอแหกกฎที่สุด!
แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาคิดเรื่องนี้ เธอเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนจะมุ่งตรงไปที่แผนกฉุกเฉินทันที
ยุ่งมาตลอดทั้งคืน
เธอกลับมาถึงห้องเฝ้าเวร ห้องยังคงระเกะระกะอยู่
พอเธอนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน สองมือก็กำแน่นเล็กน้อย
“หมอซ่งขอบคุณที่มาเฝ้าเวรแทนฉันนะคะ” เฉินเวินเหยียนเดินตรงมาอย่างยิ้มแย้ม
ซงยุ่นยุ่นพยายามฝืนยกยิ้มที่มุมปากขึ้นมา “ไม่เป็นไรค่ะ”
“ฉันจัดการธุระเสร็จแล้ว คุณกลับไปพักผ่อนเถอะค่ะ” พอเฉินเวินเหยียนเห็นห้องระเกะระกะ ก็ยกคิ้วขึ้น “นี่มันเกิดอะไรขึ้นคะ?”
ซงยุ่นยุ่นหันหน้าไป เธอปกปิดความตื่นตระหนกในแววตา “ฉันไม่ทันระวังเผลอไปชนข้าวของจนตกหล่นเข้าน่ะ ในเมื่อคุณมาแล้ว ฉันขอตัวกลับก่อนแล้วกัน”
เฉินเวินเหยียนรู้สึกว่าเธอแปลก ๆ แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร ก่อนจะเข้าไปเก็บข้าวของที่อยู่บนพื้น
แต่ในเวลานี้คณบดีก็พาฮั่วซวิน ผู้ช่วยของเจียงเย่าจิ่งมาที่ประตู
ต่อหน้าทุกคน เธอเป็นเลขานุการส่วนตัวของท่านประธาน โดยส่วนตัวแล้ว เธอเป็นภรรยาของเขา กู้เวยยีรู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่งเมื่อเธอทราบว่าตนเองตั้งครรภ์ ทว่าเธอกลับเห็นฟู่จิงเฉินกับรักแรกของเขาสิทสนมกัน... เธอจากไปอย่างเศร้าใจและตัดสินใจที่จะให้พวกเขาสมหวัง ต่อมา เมื่อฟู่จิงเฉินมองดูท้องที่ยื่นออกมาของเธอ และถามอย่างตื่นเต้นว่า "้กู้เวยยี นี่คือลูกของใคร!" เธอตอบอย่างหัวเราะเยาะ "มันไม่เกี่ยวอะไรกับคุณด้วย อดีตสามี!"
เธอเป็นหมอเก่งๆ ระดับสากล เป็นประธานของบริษัทใหญ่แห่งหนึ่ง ผู้บังคับบัญชาหารรับจ้างที่แข็งแกร่งที่สุด และผู้คลั่งไคล้เทคโนโลยีอันดับหนึ่ง... ไม่นานมานี้ เจี่ยนอู่ ผู้มีความสามารถแข็งแกร่งกลับปกปิดตัวตนของนางและแต่งงานกับชายหนุ่มยากจนคนหนึ่ง โดยไม่คาดคิดก่อนวันแต่งงาน คู่หมั้นของเธอกลายเป็นนายน้อยที่หายไปจากครอบครัวที่ร่ำรวย เขาไม่เพียงเสียใจกับการหมั้นหมายเท่านั้น แต่ยังปราบปรามและทำให้เธออับอายด้วยทุกวิถีทางอีกด้วย เมื่อความจริงถูกเปิดเผย อดีตคู่หมั้นของเธอตกตะลึง และขอร้องให้กลับมาคืนดีกัน ผู้คนใหญ่โตที่ร่ำรวยและน่านับถือคนหนึ่งยืนอยู่ต่อหน้าเจี่ยนอู่ "นี่คือภรรยาของผม ใครกล้าหวังกับเธอ"
“ไล่ผู้หญิงคนนี้ออกไปซะ” “โยนผู้หญิงคนนี้ลงทะเลซะ” ขณะที่ไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเหนียนหย่าเสวียน โฮว่หลิงเฉินได้ปฏิบัติต่อเธออย่างไม่เป็นมิตร “คุณหลิงเฉินครับ เธอคือภรรยาของท่านครับ” ผู้ช่วยของหลิงเฉินกล่าวเตือนเขา เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลิงเฉินหยุดเพ่งมองไปที่เขาอย่างเย็นชาและบ่นขึ้นมาว่า “ทำไมไม่บอกผมให้เร็วกว่านี้?” นับจากนั้นเป็นต้นมา หลิงเฉินได้ตามใจและรักใคร่ทะนุถนอมหย่าเสวียนมาตลอด โดยไม่มีใครคาดคิดว่าพวกเขาจะหย่าร้างกัน
นรีรัตน์ตอบตกลงทำตามสัญญาที่ว่าเธอจะแต่งงานกับชยุดและต้องมีลูกกับเขาภายในเวลาหนึ่งปี มิเช่นนั้น เธอจะต้องสูญเสียทุกอย่างในชีวิตของเธอไป แต่การกระทำมักทำยากกว่าคำพูดเสมอ การที่เธอต้องเผชิญกับการถูกกลั่นแกล้งให้ขายหน้าวันแล้ววันเล่า จนที่สุดเธอหมดความอดทนและไม่อยากจะยอมก้มหัวอย่างคนพ่ายแพ้อีกต่อไป ในวันที่เขาประสบอุบัติเหตุ เธอได้อุทิศเสียสละโดยไม่ได้นึกถึงความปลอดภัยของตนเองเพื่อช่วยชีวิตของเขาไว้ ถึงแม้ว่าในตอนนี้เธอยังคงมีชีวิตอยู่ แต่ในอีกไม่ช้าเธอจะหายตัวไปจากชีวิตของเขา ตราบจนถึงเวลาที่ลูกของพวกเขาเติบโตขึ้นมา และเมื่อถึงเวลานั้นโชคชะตาจะพัดพาให้พวกเขากลับพันผูกกันอีกครั้ง เดิมทีเธอจะกลับไปหาเขาก็ได้ แต่ตอนนี้เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่จะอุทิศทุกสิ่งอย่างเพื่อความรักในตัวเขาอีกต่อไปแล้ว ตอนนี้เธอพร้อมแล้วที่จะต่อสู้เพื่อลูกชายของตัวเอง
"ไง...หลบหน้าผัวมาหลายวัน" คนตัวโตกดเสียงมาอย่างไม่น่าฟัง ยิ่งเธอขัดขืนเขายิ่งเพิ่มแรงบีบที่ข้อมือ "ปล่อยนะพี่ริว พี่ไม่ใช่ ผัว..." เสียงเล็กถูกกลื้นหายในลำคอ เมื่อโดนคนใจร้ายตรงหน้าระดมจูบไปทั้งใบหน้า อย่างไม่ทันตั้งตัว ริวถอนจูบออก เสมองคนตรงหน้าอย่างเย้ยหยัน "ผัว...ที่เอาเธอคนแรกหนะ" "พี่ริว..." เจนิสตะเบ่งเสียงด้วยสีหน้าอันโกรธจัด "ทำไม เรียกชื่อพี่บ่อยแบบนี้ละครับ" ริวเอ่ยพร้อมกับสบตาคนตรงหน้าด้วยสายตาดุดัน "คิดว่าคืนนี้เธอจะรอดเหรอ" ริวตะเบ่งเสียงขึ้นมา จนร่างบางถึงกับชะงัก "ปล่อย...นะ คนเลว" ยิ่งเธอต่อต้านเขายิ่งรุนแรงกับเธอมากขึ้น "เอาดิ...เธอตบ ฉันจูบ..." ริวเอ่ยพร้อมกับจ้องมองด้วยสายตาดุดัน
เดิมทีฟางจินซิ่วมีอวกาศติดตัวได้เปิดคลินิกการแพทย์แผนจีนในยุคปัจจุบันและเจริญรุ่งเรือง ไม่มีการแข่งขันหนัก และทำงานมีวันหยุด เธอใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย แต่แล้วมีวันหนึ่งที่เธอตื่นขึ้นมากลับข้ามมิติกลายเป็นชาวนาที่ฟมู่บ้านยากจน อีกทั้งได้เจอภัยแล้ง จากนั้นก็โดนขาย โชคดีที่ครอบครัวที่ซื้อเธอแตกต่างจากที่เธอจินตนาการไว้ เธอไม่ได้ถูกทารุณกรรม แต่ได้รับการดูแลอย่างดี ในยุคแห่งความขาดแคลนอาหาร และมีภัยแล้ง ฟางจินซิ่วตัดสินใจตอบแทนความเมตตาของครอบครัวนี้ แม่สามีป่วยหนัก? สำหรับปัญหาเล็กๆ น้อยๆ เธอเก็บสมุนไพรและแช่ในสระศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งรักษาเธอให้หายดีภายในไม่กี่นาที ที่บ้านไม่มีอาหาร? ปัญหาเล็กๆ น้อยๆ เธอไปล่าสัตว์กับครอบครัวและโชคก็เข้าข้างเธอ ไม่ว่าเธอจะไปที่ไหน เหยื่อก็จะตกหลุมพรางเสมอ กินแต่เนื้อสัตว์โดยไม่มีผักหรือ? มันเป็นปัญหาเล็กๆ เทน้ำในสระศักดิ์สิทธิ์เพียงหยดเดียว ก็สามารถปลูกพืชได้ทุกชนิดและกินผักและผลไม้อะไรก็ได้ที่พวกเธอต้องการ ญาติที่อิจฉากำลังมาก่อเรื่องเมื่อเห็นว่าพวกเธอใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย สำหรับปัญหาเล็กน้อยนี้ เธอเรียกผู้ชายที่มีความแข็งแกร่งของเธอมาจัดการพวกเขา อะไร คุณถามว่าสามีของฉันทำไมเชื่อฟังได้ขนาดนี้? จงหวี่เดินเข้ามาด้วยสายตาเร่าร้อน “คุณภรรยา ตราบใดเจ้ายอมอยู่เคียงข้างข้าตลอดชีวิต ถึงเอาชีวิตข้าไปข้าก็ยอม”