หนุ่มใหญ่วัย 42 เจ้าของโรงแรมและรีสอร์ตระดับ 5 ดาว ผู้ทรงอิทธิพลแห่งขุนเขา ดุดัน โหดและดินเถื่อน ต้องมาพ่ายแพ้ให้กับสายตาและรอยยิ้้มแสนหวาน ของสาวน้อยวัย 19 เธอคือ made mind day เธอคือคนที่ทำให้วันเครียดๆ ของเขากลายเป็นสีชมพู รอยยิ้มของเธอทำให้เขาไม่มีวันลืม นอนไม่หลับ และเฝ้ารอที่จะได้เห็นรอยยิ้มนั้นอีกครั้ง “ปวดท้องอีกแล้วค่ะ อื้อ! พอปวดมันก็ไหลออกมาอีก” “บอกอาเลย ให้อาทำยังไง” “ไปร้านสะดวกซื้อ ซื้อผ้าอนามัยให้วีได้ไหมคะ” “ไอ้เขตไปร้านสะดวกซื้อ เร็ว” พ่อเลี้ยงหนุ่มสั่งอย่างรีบร้อน ก่อนจะประคองมนัสวีเขามากอดปลอบไปก่อนเพราะไม่รู้จะทำอย่างไร “ครับๆ” ว่าแล้วเขตแดนก็ขับรถไปพาร้านสะดวกซื้อทันทีซึ่งหาไม่ยาก “ถึงแล้ว ให้อาซื้ออะไรบ้างบอกมาซิ” ครั้นจะให้หนุ่มๆ ไปซื้อก็มีความรู้เท่ากันนั่นแหละ สู้เขาไปจัดการเองดีกว่า “ได้เหรอคะ วีกลัวคุณอาจะ...” “ไม่เป็นไรวีเดินไม่ไหว ไหนกางเกงน่าจะเปื้อนแล้ว” “เอาแบบกลางวัน ยาว 30 cm. 1 ห่อนะคะ แล้วกลางคืนยาว 35 cm. ค่ะ ถ้าหาไม่เจอบอกพนักงานก็ได้ค่ะ” “โอเคจ้ะ” ได้หรือไม่ได้เขาก็รับปากไปก่อนก็แล้วกัน ว่าแล้วจึงรีบลงจากรถพุ่งตัวเข้าไปในร้านในทันที เพียงไม่กี่ล็อกก็เจอผ้าอนามัยแต่ “คุณพระคุณเจ้ามีเป็นร้อย เอ่อ ไงดีวะ” ด้วยความไม่แน่ใจ กลัวหยิบไปผิด ต้องรวบรวมความกล้าและทิ้งความอายไปถามพนักงาน ไม่งั้นเมียเขาม่ได้ใส่ผ้าอนามัยแน่ๆ เชียว “ขอโทษทีครับ คือ ผม... มาซื้อผ้าอนามัยให้... ภรรยา แต่ไม่รู้ว่าต้องเลือกยี่ห้อไหนขนาดอะไรหรือแบบไหนถึงจะดี”
ในตัวจังหวัดเชียงใหม่ เหล่าผู้ประกอบการรายเล็ก และรายใหญ่เข้าร่วมประชุมประจำเดือนเป็นปกติ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพื่อพัฒนาธุรกิจของตัวเอง หนึ่งในผู้ร่วมประชุม คือพ่อเลี้ยงแสนลักษณ์ เหมราช หนุ่มใหญ่วัย 42 ปี ที่ได้รับเชิญมาเป็นวิทยากรให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการ นั่นก็เพราะว่าเขาคือนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก เป็นมหาเศรษฐีที่คนรู้จักกันทั้งจังหวัด มีหลายธุรกิจมูลค่านับพันล้าน ไม่ใช่น้อยๆ ความสามารถของเขาจึงเป็นที่สนใจของทุกกลุ่ม
แต่ก็อีกนั่นแหละ เขาไม่ได้ชอบออกงานแบบนี้เท่าไหร่ เขาเป็นคนติดบ้าน ทำแต่งาน ไม่ชอบเข้าเมืองยกเว้นต้องเข้ามาทำงาน วันนี้ก็จำใจเท่านั้น จนกระทั่งประชุมเสร็จสิ้นเวลาสามโมงเย็น เขาก็เตรียมเดินทางกลับพร้อมกับผู้ติดตามอีก 3 คน
“โห! รถติด! เด็กๆ คงเลิกเรียนพอดีเลยครับ” คเชนทร์ผู้ช่วยมือขวาของพ่อเลี้ยงแสนลักษณ์เอ่ยขึ้น พร้อมกับถอนหายใจ
“ยิ่งร้อนๆ อยู่ด้วย ข้างนอกคงแดดเปรี้ยง” หนุ่มเลี้ยงหนุ่มกล่าวอย่างหงุดหงิด
“หิวไหมครับ ตอนเที่ยงไม่ยอมกินอะไรเลย นี่บ่ายสามแล้ว” คเชนทร์ถามด้วยความเป็นห่วง
“ที่ไม่กินเพราะว่าอาหารที่จัดมาน่ะมันไม่อร่อย ไม่ถูกปากสักอย่าง”
“แล้วตอนนี้ล่ะครับ แวะกินอะไรก่อนไหม”
“เฮ้อ! เหนื่อย อากาศร้อน เหมือนน้ำตาลตก”
“น้ำตาลตก! เอ่อๆ หาน้ำหวานดื่มเลยครับ ที่ไหนดีๆ” คเชนทร์บอกอย่างร้อนใจตื่นเต้นซะอย่างนั้น
“จะตกใจอะไรเนี่ย แค่อยากดื่มอะไรหวานๆ จอดแถวๆ เนี่ย เดี๋ยวลงไปหาอะไรดื่มซะหน่อย”
“แถวนี้มันไม่อร่อยนะครับ ผมว่าไปร้านที่แบรนด์ดีกว่า”
“อืม เวลานี้ต้องแบรนด์ด้วยเหรอ จะเป็นลมแล้วเนี่ย”
“เอ่อๆๆ มะ มะ ไม่มีที่จอดครับ”
“แกนี่นะ ฉันจะลงตรงนี้ โน่นร้านชานม คนเต็มร้านเลย ฉันจะลง”
“ให้ผมลงไปซื้อให้ก็ได้นะครับพ่อเลี้ยง” อัษฎาลูกน้องอีกคนกล่าวแทรกขึ้น
“พวกแกไม่เคยซื้อเครื่องดื่มพวกนี้ถูกใจฉันสักที ซื้อเองดีกว่า” สิ้นคำพ่อเลี้ยงหนุ่มก็เปิดประตูลงจากรถเสียเลย ทั้งๆ ที่รถติดอยู่นั่นแหละ นั่นก็เพราะว่ารถจอดติดไฟแดงยาวเหยียด นักเรียนทยอยกันออกมาจากโรงเรียนด้วย เพราะบริเวณนี้เป็นโรงเรียนมัธยม
แสนลักษณ์ต้องเดินฝ่าดงนักเรียนเข้าไปยังร้านขายชานม ร้อนก็ร้อน แดดจ้า จนต้องสวมแว่นตาดำเอาไว้ แล้วไหนจะต้องไปยืนต่อแถวกับเด็ก วัยรุ่นอีก ซึ่งก็ต้องทำ จะอาศัยว่าเป็นผู้ใหญ่ แล้วเดินแทรกไปซื้อก็คงจะไม่ใช่ และด้วยความที่เขาอยู่ลำดับที่ 5 ทำให้เขายืนพ้นซุ้มออกมาโดนแดดเต็มๆ เขาทนได้กับความร้อน ไม่ได้งอแงอะไร แต่กับความเบียดเสียดแน่นกันนี่สิที่ทำให้น่าหงุดหงิด คนด้านหน้าก็เริ่มขยับถอยหลังมาเรื่อยๆ จนกระทั่งชนเขา
“อุ้ย!” เสียงอุทานเล็กๆ ดังออกมา เพราะความตกใจ ก่อนจะหันขวับกลับมามอง
“ขอโทษค่ะ” เด็กสาวในชุดนักเรียน ม.ปลายเอ่ยขึ้นพลางยิ้มแห้ง
“ไม่เป็นไรครับ” เขาตอบกลับเสียงเรียบโดยไม่ได้มองหน้า แต่เด็กสาวกลับแหงนหน้ามองเข้านิดหน่อยแล้วหันกลับ แต่เกิดความประหม่าชอบกล เพราะสีหน้าของเขาดูไม่รับแขกเอาเสียเลย สัมผัสได้ว่าถ้าหันไปมองอีกรอบเขาคงแยกเขี้ยวใส่เธอแน่ๆ เชียว เธอคิด พร้อมกับยืนรอให้ถึงคิวของตัวเอง
“หนูเอาชาเขียวเย็น 1 แก้วค่ะ” เด็กสาวที่ยืนอยู่ด้านหน้าแสนลักษณ์สั่งน้ำเสียงหวานเจื้อยแจ้ว ได้ยินแล้วเขาก็ต้องเหลือบมอง เสียงเล็กๆ เพราะและหวานเสียจริง เขาคิด แต่ก็หงุดหงิดใจเพราะร้อน
“ชาเขียวได้แล้วค่ะ” แม่ค้าทำให้เด็กสาวอย่างว่องไว เธอก็จ่ายเงินแล้วขยับออกเปิดทางให้กับเขา ทว่าก็ต้องรอเงินทอนเช่นกัน จากนั้นก็ถึงคิวเขา
“ผมขอน้ำแดงโซดาครับ” คำสั่งของเขาดูเข้ม จนแม่ค้าเองก็มือสั่น สีหน้าเขาบอกบุญไม่รับ ยิ่งเขาถอดแว่นตาแล้วพ่นลมหายใจหนักๆ จากนั้นแม่ค้าก็รีบชงให้เพราะเป็นเครื่องดื่มที่ทำเสร็จเร็ว
“ได้แล้วค่ะน้ำแดงโซดา” แม่ค้าบอกพร้อมกับยื่นเครื่องดื่มให้ เขาก็รับมาแล้วจ่ายซะแบงค์ใหญ่เลยทีเดียว
“อุ้ย! เอ่อ ไม่มีแบงค์ย่อยเหรอคะ 35 บาทเอง คือ พอดีทอนไปหมดแล้วน่ะค่ะ” แม่ค้าบอกพร้อมกับทำสีหน้ายิ้มแห้งๆ
“เอ่อ ผมมีแต่แบงค์ใหญ่ ทำไงดี” ชายหนุ่มบอกด้วยน้ำเสียงเกรงใจขึ้นมาทันที
“เดี๋ยวนะครับ” เขาบอกพร้อมกับขยับออกจากแถว แล้วหันไปมองรถของตัวเองว่าจอดอยู่ตรงไหน ก็ไม่เห็นน่าจะไปจอดไกลพอสมควรแหละ
“ไปจอดตรงไหนวะเนี่ย ไอ้พวกนี้นี่” เขาสบถด้วยความหงุดหงิดก่อนจะหันมามองแม่ค้า เพราะเขาก็ไม่มีเงินย่อยเลยจริงๆ แถมยังหาลูกน้องไม่เจออีก จังหวะเดียวกันนั้นสาวน้อยแสนน่ารักเงยหน้ามอง และยิ้มตามธรรมชาติสลับกันหันไปมองแม่ค้า เพราะเธอยังคงยืนหลบแดดอยู่ กะดื่มสักหน่อยแล้วค่อยไป
“ขอล้วงหาเหรียญสักครู่ครับเผื่อมี” ว่าแล้วเขาก็ล้วงมันทุกกระเป๋า แต่ดูท่าลูกค้าคนอื่นจะรอนาน สาวน้อยแสนน่ารักก็ขันอาสาทันที
“เอ่อ! แก้วนี้คิดรวมกับหนูก็ได้ค่ะน้าอ้อม” เด็กสาวบอกน้ำเสียงสดใส เรียกแม่ค้าอย่างสนิทปาก
“เอ่อ คือ” แม่ค้าอึกอักหันมามองหน้าชายหนุ่มทันที และเช่นเดียวกันเขาก็มองหน้าเด็กสาว
“ไม่เป็นไรมั้งครับ” เขาปฏิเสธอย่างเกรงใจ
“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวค่อยคืนหนูก็ได้ จ่ายก่อนแล้วลูกค้าคนอื่นจะได้สั่งนะคะ” สาวน้อยบอกอย่างยินดี จากนั้นจึงจ่ายค่าเครื่องดื่มให้เขา พร้อมกับหยิบแก้วให้ ก่อนจะออกไปจากหน้าเคาน์เตอร์ ไม่งั้นลูกค้าคนอื่นจะไม่ได้ซื้อ เสร็จแล้วเธอก็หาที่นั่ง
“เอ่อ คือ ขอบคุณครับ เดี๋ยวอา... เอ่อ น้า ผะ ผะ ผม... จะไปขอกับคนขับรถให้ แต่ไม่รู้ว่าจอดรถอยู่ที่ไหน” ด้วยอายุของเขาแล้ว เห็นการแต่งตัวเป็นเด็ก ม.ปลายขนาดนี้ แทนตัวเองไม่ถูกเลยทีเดียว
“ไม่เป็นไรค่ะ หนูเลี้ยง แค่น้ำแดงโซดาเอง แต่ท่าทางคุณอาต้องเหนื่อยจากการทำงานแน่ๆ ดื่มเลยค่ะ จะได้รู้สึกดีขึ้น” เด็กสาวบอกอย่างยิ้มแย้มและหวานจนเห็นลักยิ้มเลยทีเดียว
“รู้ได้ยังไงว่าผมเหนื่อย” เขาถามเสียงเรียบ และเพิ่งจะได้สังเกตหน้าเธอชัดๆ หน้าตาสวยเก๋บวกหวาน ผิวขาวโอโม่เลยทีเดียวรูปร่างเรียกได้ว่าสูงเพรียวเลยแหละ หากแต่ตัวเล็กกว่าเขาอยู่ดี เพราะเขาสูงถึง 189 cm.
“ก็สังเกตสีหน้าซีดๆ มีเหงื่อ น่าจะหิวน้ำ แล้วหนูเห็นท่าทางหงุดหงิด”
“หึๆ สังเกตเก่งนะเรา” เขาถามพร้อมกับยิ้มมุมปาก พอยิ้มแล้วเธอก็รู้สึกสบายใจขึ้นเพราะเขาลดความน่ากลัวลงจากก่อนหน้านี้
“ดูง่ายจะตายค่ะ เหนื่อยๆ ต้องได้น้ำหวานๆ เย็นๆ ค่ะจะได้มีแรง”
“ขอบคุณนะครับ จริงๆ แล้ว ไม่ต้องเลี้ยงก็ได้จ้ะ วัยอย่างเราน่ะ ยังไม่น่าจะมีรายได้ ให้เด็กเลี้ยงแบบนี้เกรงใจ”
“พอเลี้ยงได้ค่ะ 35 บาทเอง ปกติหนูไม่เลี้ยง แต่เห็นท่าทางคุณอาจะเป็นลม แถมยังมีแต่แบงค์ใหญ่อีก”
“หึๆ ไม่ขนาดนั้นหรอกน่า แค่ทำงานเหนื่อยน่ะ”
สิ้นคำเขาก็ยิ้มแล้วดื่มน้ำแดงโซดาหวานๆ เย็นๆ ให้ชื่นใจ แต่มันก็ช่วยได้เยอะเพราะความหวานทำให้หายเหนื่อย
“เรียนอยู่ ม.ไหนครับเนี่ย”
“ม. 6 ค่ะ วันนี้ก็มาโรงเรียนวันสุดท้ายแล้ว”
“ถึงว่า นักเรียนเยอะเชียว”
ต้าเฉิน มีคำสัญญาที่ให้ไว้กับเด็กสาวคนหนึ่ง ที่เขาตกหลุมรัก เป็นความรักอันแสนบริสุทธิ์ ที่ไม่มีคำว่ารักหลุดออกมาให้ได้ยิน จนถึงเวลาที่ต้องไปจากเธอ โดยที่ไม่บอกเธอสักคำ ทิ้งไว้แต่เพียงแหวนเพชรพร้อมกับคำสัญญาที่ว่า "รอพี่นะตัวเล็ก" อีก 6 เดือนเขาจะกลับมา หากใจเธอยังมีเขาอยู่ให้สวมแหวนวงนี้เอาไว้ที่นิ้วนางข้างซ้าย เมื่อกลับมาเขาจะเห็นและจะมอบคำว่ารักให้เธอ แต่... ชะตามันช่างเล่นตลก ทำให้คำว่ารักที่เตรียมเอาไว้ให้เธอ กลับกลายเป็นความแค้นและความตายที่เขากำลังจะส่งให้ เธอ... อลิน ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของน้องสาวมาเฟีย เธอต้องชดใช้ด้วยชีวิต เขาเอาเธอมาทรมานให้สาแก่ใจและปล่อยให้ตายไปทีละนิด แต่มันไม่ง่ายเมื่อเธอคือคนที่มาเฟียรัก และเฝ้ารอมาตลอดหลายเดือน แทนที่เขาจะได้ทรมานเธอ แต่กลับเป็นเธอ... ที่ทรมานให้เขาคุ้มคลั่งแทน “คุณต้องการอะไรจากฉัน” เธอตัดสินใจถาม ในเมื่อเขาก็ออกตัวว่าไม่ใช่คนที่เธอคิดถึง “ความตาย!!! แต่ก่อนตาย มาตกนรกกับผมก่อน” จบคำ เขาก็กระชากเธอแรงๆ จนแทบจะตัวปลิว
เสี่ยต้น หรือเจ้าสัวตันติวัฒน์ ชื่อนี้ที่สาวๆ การันตีว่าคาสโนว่าที่สุดแห่งภูมิภาค เจ้าพ่อเงินกู้ หนุ่มใหญ่ร้างไร้คนรัก ที่มักจะเอาเรือนร่างของสาวๆ มาขัดดอก เขาไม่เคยมีหัวใจให้ใครง่ายๆ “ซื้อกินสบายใจกว่า” แม้บางคนจะบอกว่าแก่ แต่บอกเลยว่าหล่อ เท่ แซ่บ ทว่าไม่มีใครได้เป็นคุณนายเบอร์ 1 เสียที จนกระทั่งหัวใจของเขาได้เต้นตูมตาม เมื่อเจอสาวสวยลูกสาวกำนันที่การันตีด้วยตำแหน่งนางงาม หนุ่มใหญ่หัวใจว้าวุ่น อยากได้ก็ต้องได้… “ใครมา” “สาวๆ ของคุณ” เธอตอบแบบขอไปที พลางมองยาในกล่อง ไม่ยอมมองหน้าเขา ใบหน้าเธอก็ดูบูดบึ้งชอบกล “เยอะดีนะคะ” “จ้ะ” เขาก็กล้าตอบเช่นกัน เท่านั้นแหละเธอก็ตวัดหางตาขึ้นมองหน้าทันที ยิ่งโกรธมากกว่าเดิมเสียอีกแต่เธอไม่พูด กลับค่อยๆ เอายาทาป้ายไปตามแขนของเขาแรงๆ “ซี้ดโอ๊ย ฟ้า” เขากับถึงร้องออกมาเลยทีเดียว ยัง ยังไม่พอเธอก็ทาไปตามแก้มและรอยช้ำบนใบหน้าของเขาแรงๆ “โอ๊ยๆ ฟ้าจ๋า เบาๆ” “ยังมีอีกไหมคะเนี่ย” เธอถามไปพลางก็ทายาไปพลาง “น่าจะมาอีก” สิ้นคำเธอก็ทำแรงกว่าเดิม “ซี๊ด! โอ๊ย ฟ้า เฮียเจ็บจริงๆ นะ นี่หึงเหรอเนี่ย” เขาแกล้งแซวแต่ก็เจ็บมากจริงๆ “ถ้าจะมีเยอะขนาดนี้ แล้วยังจะมีหน้าอยากได้ลูกสาวกำนันอีก ใครเขาจะพิศวาส” เธอออกปากบ่น ลมหึงพัดแรงขึ้นเรื่อยๆ “ก็ถ้าลูกสาวกำนันใจอ่อนได้ เฮียก็จะยอมเลิกยุ่งกับทุกคนเลย แต่นี่ลูกสาวกำนันไม่สนใจอ่อนกับเฮียเลยแม้แต่น้อย” เขาพูดพลางหรี่ตามองเธอเล็กน้อย “คุณทำไม่ได้หรอกค่ะฟ้าดูแล้วล่ะ มันอยู่ในสันดาน”
แสงเหนือ เจ้าของฟาร์มวัวนม เป็นคนดุ ทำแต่งาน ไม่ยุ่งเกี่ยวกับใคร และเกลียดเด็ก! แต่กลับถูกขอร้องให้ช่วยดูแลลูกสาวของเพื่อน และใช่... คิดว่าสามขวบ ที่ไหนได้ยี่สิบสองต่างหาก นี่เวลาผ่านไปเร็วอะไรเบอร์นี้ แต่เขายังหล่อ รวย โสดอยู่เลย กับคำขอร้องของเพื่อนรุ่นพี่ ให้ดัดนิสัยลูกสาวให้แต่เขาปฏิเสธหัวชนฝา ไม่เอาเด็ดขาด แต่ความจริงบางอย่าง ทำให้เขาต้องช่วยเหลือและปฏิเสธไม่ได้ แคท หรือแคทรียา ลูกสาวท่านนายพลจากเมืองกรุงฯ ต้องจากบ้านอันแสนสุขสบาย ไปเลี้ยงวัว ล้างขี้วัว ตากแดดหน้าดำ เพื่อ... เพื่อหนีไอ้เฒ่าหัวงูหื่นกามที่มารดาสรรหามาให้ จะฟังพ่อหรือฟังแม่ก็เลือกเอา แน่นอนเธอเลือกฟังพ่อ แต่หนีเสือปะจระเข้หรือเปล่าไม่รู้ เพราะแค่วันแรก... ก็ทำเอาใจเหลวเป็นน้ำเพราะเจ้าของฟาร์มดันอวดสาขาใหญ่ให้เธอใจเต้น...
“ที่รัก ร่างกายของคุณหวานอร่อยไปทั้งตัว หวานจนผมหยุดกินไม่ได้ แล้วตอนนี้ผมหิวอีกแล้ว” ตฤณ ท่านประธานบริษัท วัย 37 ปี หนุ่มโสดหล่อ รวย พ่อบุญทุ่ม ถูกใจใครก็เปย์หนัก ไม่เว้นแม้แต่เลขาสาวสวยที่เขาบังคับมารับตำแหน่ง ด้วยวิธีแสนเจ้าเล่ห์แม้เธอไม่เต็มใจ แต่ในเมื่อเขา “อยากได้” วิธีสุดแสนร้ายกาจเขาก็งัดมาใช้ เพื่อให้ได้เธอมาครอบครอง ***** “ผมขับรถไปรับคุณได้ด้วยตัวเองเลย ไม่ได้ขู่ด้วย เอาให้รู้ไปทั้งบริษัทว่า... คุณเป็นคนของผม ผมมีรถให้เลือกนั่ง 10 คัน ลือกมาสักยี่ห้อเดี๋ยวขับไปหาครับ” “คุณมันบ้า อีตาผู้ชายบ้า เวรกรรมอะไรของฉันเนี่ย แล้วต้องมาอยู่ซอยเดียวกัน” “ท่านประธาน คำที่ถูกต้อง ตกลงขึ้นรถมาหรือยังครับปั้นหยา” “คอยดูนะ ถ้าฉันเจอหน้าคุณ...” “จะสมนาคุณผมด้วยจูบเหรอ” “คุณ!”
One night stand คำที่ นิโคไล แอนตัน มหาเศรษฐีเพลย์บอย เลือกมาใช้กับชีวิตที่เต็มไปด้วยสีสันและ มีความสุขแบบไร้ข้อผูกมัด แต่แล้วค่ำคืนที่แสนหฤหรรษ์ของเขาก็เปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล เพราะผู้หญิงแปลกหน้าที่ทำให้เขาพอใจตั้งแต่แรกเห็น แต่เธอกลับทำร้ายเขาเพราะความเข้าใจผิด ทำให้ได้อับอายต่อสายตานับร้อยคู่ เพียงคำขอโทษเท่านั้นที่เขาต้องการ ทว่าไม่ง่ายอย่างที่คิดเพราะดันเจอกับผู้หญิง หัวแข็ง ปากร้ายและดื้อ ทางเดียวที่จะกำราบและให้เธออยู่ในอ้อมกอดอันแน่นหนาของเขาได้ นั่นคือขังเธอเอาไว้เสียเลย พร้อมกับข้อตกลงเพียงข้อเดียว ดินเนอร์แล้วจบ ความผิดพลาดเพียงครั้งเดียวทำให้ ไอลดาต้องหนีความรู้สึกผิดต่อตัวเอง และหนีจากความทรงจำคืนเดียวที่แสนวาบหวาม หอบกายใจที่เต็มไปด้วยรอยรักจากชายแปลกหน้ากลับประเทศไทย แต่หารู้ไม่ว่ามันไม่ใช่แค่รอยรักที่ติดตัว มาด้วยเท่านั้น หากแต่เป็นพยานรักที่ถือกำเนิดขึ้นโดยไม่รู้มาก่อน จนกระทั่งได้พบเขาอีกครั้งหนึ่ง คราวนี้เธอต้องหนีใจตัวเองและปกปิดความลับบางอย่างไม่ให้เขารู้ว่า พยานรักตัวน้อยเป็น “ลูกใคร”
ของขวัญ กลายเป็นคนไวต่อความรู้สึก นับตั้งแต่สัมผัสร้อนรุ่มในคืนอัปยศนั้นเป็นต้นมา ทุกค่ำคืนเธอเอาแต่นอนฝันถึงเงาปริศนา ที่มอบรอยจูบบนร่องรัก มือของเธอคือสิ่งที่ช่วยให้ปลดปล่อยจากความปรารถนา ราวกับต้องคำสาป พอคิดถึงเงานั้น ก็ทำให้ร่องรักแฉะไปด้วยน้ำหวาน จนต้องช่วยตัวเองทุกคืน ทว่าเธอไม่ยอมมีแฟน ไม่คบใคร หัวใจเจ้ากรรมเฝ้าแต่ถวิลหาสัมผัสนั้นด้วยความทรมาน แต่เขารังแกเธอ เธอควรเกลียดและสาปแช่ง อธิษฐานขอให้ได้เจอสักวัน แล้วเธอจะเอาคืนให้สาสม ทว่าเธอจะเป็นฝ่ายเอาคืน หรือเขาจะเป็นฝ่าย เอา... กันแน่
ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
เพราะคิดว่าเป็นความฝัน ฉินหร่านจึงร่วมมือบรรเลงเพลงรักอย่างไม่ได้ตั้งใจ ไฉนตื่นขึ้นมาถึงมีสามีเป็นของตัวเอง อีกทั้งสามีนางยังตาบอดอีกด้วย! แต่นั่นไม่น่าตกใจ เท่ากับที่นางมาอยู่ในร่างเด็กสาวในยุคจีนโบราณ ที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ อีกทั้งร่างนี้ถูกขายให้มาเป็นภรรยาของชายตาบอด แต่ไหนๆ ก็มาแล้วจึงจะใช้ชีวิตให้ดี ส่วนสามีนะหรือ หล่อขนาดนั้น แซ่บขนาดนี้ เดินหน้าเกี้ยวสามีสิ จะรออะไร!
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
เสิ่นชิงชิว หลานสาวของเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองไห้ คบหาอยู่กับลู่จั๋วมาเป็นเวลาสามปีแล้ว แต่ความจริงใจของเธอกลับสูญเปล่า ลู่จั๋วปฏิบัติกับเธอเพียงในฐานะหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง และทอดทิ้งเธอในวันแต่งงาน โดยไปหารักแรกของเขา หลังจากเลิกรากันอย่างเด็ดขาด เสิ่นชิงชิวก็กลับมามีสถานะเป็นสาวรวยอีกครั้ง ได้รับมรดกมูลค่าหลายร้อยพันล้าน และเริ่มต้นชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุด แต่แล้วมักจะมีคนโผล่มาทไให้กับเธอหงุดหงิดอยู่เสมอ! ขณะที่เธอกำลังจัดการกับผู้ร้าย คุณชายฟู่ผู้มีอำนาจนั้นก็ปรบมือและโห่ร้องว่า "ที่รักของฉันสุดยอดมากจริงๆ"