คาถาศักดิ์สิทธิ์ในยุคสามราชา ห้าจักรพรรดิจารึกอยู่ในกระดองเต่าโบราณ กำหนดให้ไป๋หลันฮวา ลูกสาวเจ้าพ่อไป๋โหย่งอี้จากแก๊งสามพยัคฆ์แดนมังกรและอดีตรัชทายาทไร้บัลลังก์โจวโยว่เฉิง ให้โคจรมาพบกัน หากแต่บุรุษที่เธอพบนั้นคือแม่ทัพไร้พ่ายในตำนานเมื่อ 3000 ปีในอดีต จวบจนกระทั่งอดีตรัชทายาทโจวโย่วเฉิงได้มาโคจรพบมาเฟียสาวทรงเสน่ห์ ลูกสาวเจ้าพ่อแก๊งสามพยัคฆ์ที่ถูกส่งไปเรียนต่อและให้เป็นหัวหน้าคุมบรรดายากูซ่าทางประเทศญี่ปุ่น เธอฉีกกฎความเป็นมาเฟียไปอย่างสิ้นเชิง กฎของมาเฟียต้องโหดเหี้ยม เลวสุดขั้ว ทำงานสุจริตไม่ได้เพราะไม่เจริญรุ่งเรืองและรวยช้า แต่เธอกลับทิ้งสโลแกนมาเฟียทุกข้อ เพราะแม่ไม่โหด(ถ้าไม่จำเป็น) แม่ไม่อยากเป็นคนเลว (เพราะอยากเป็นคนดี เบื่อหนีตำรวจ) แม่อยากทำงานสุจริต (เพราะแม่สวยระดับนางเอกซีรีย์ยังต้องหลบ ก็เลยมีอาชีพเสริมเป็นดารา แต่มีอาชีพหลักเป็นมาเฟีย) ทว่าสถานการณ์บังคับทำให้ต้องแบกรับเป็นหัวหน้าแก๊งฝีมือยิงปืนของแม่แม่นชนิดที่ว่าหลับตาก็ยังยิงถูก อำนาจลึกลับจากยุคโบราณ นำเธอกลับไปใช้ชีวิตในยุคสมัยราชวงศ์โจวตะวันตก เพื่อทำหน้าที่สำหรับผู้ที่ถูกเลือก คืนราชบัลลังก์ให้แก่รัชทายาทในอดีต คืนความเป็นมนุษย์ให้หวนกลับคืนมา และคืนความรักที่พระองค์มีต่อนางตราบชั่วนิจรันดร์
เสียงครึกครื้นของผู้คนเต็มไปด้วยความยินดีกันอย่างถ้วนหน้า กลิ่นหอมโรยรื่นจากมวลดอกไม้นานาพรรณ ส่งกลิ่นตลบอบอวลไปทั่วบริเวณ คบไฟถูกจุดให้มีแสงสว่างไปโดยรอบและภายในประดับด้วยโคมไฟมากมายไปทุกจุดประหนึ่งว่ากำลังมีงานมงคลถูกจัดขึ้นในค่ำคืนนี้
ภายในห้องขนาดใหญ่ประดับด้วยขนมและผลไม้มงคลมากมาย วางอยู่บนโต๊ะ ทั่วห้องข้าวของทุกอย่างล้วนเป็นสีแดงด้วยกันทั้งสิ้น ในขณะที่บนเตียงนอนปรากฏหญิงสาวนางหนึ่งนั่งอยู่เพียงลำพัง โฉมสะคราญสวมชุดเจ้าสาวสีขาวพร้อมถือพัดปิดบังใบหน้าเอาไว้ นางกำลังรอเจ้าบ่าวเข้ามาภายในห้องหอเพื่อร่วมคืนหฤหรรษ์ด้วยกัน
โคมไฟในห้องหอเริ่มหรี่ลงอย่างช้าๆ พร้อมความมืดมิดเริ่มแผ่เข้ามาปกคลุมโดยรอบ จนทำให้เจ้าสาวในชุดขาวเริ่มขยับกายไปมาพร้อมวางพัดที่กำลังถืออยู่ในมือลง
“แสงจากโคมไฟกำลังมอดดับลงแล้วหรือนี่ เวลาผ่านไปเนิ่นนานเพียงใดแล้วหนอ”เจ้าสาวรำพึงออกมาเบาๆ พร้อมลุกขึ้นยืนพลางก้าวตรงไปยังโคมไฟที่ถูกจุดเอาไว้ทันที
แท่งเทียนอันใหม่ถูกนำมาจุดแทนที่ของเดิม ทันทีที่เทียนแท่งใหม่ถูกจุดขึ้นกลิ่นหอมจากไฟที่ลุกติดพร้อมให้แสงสว่างไปทั่วห้องกลับคืนมาอีกครั้ง มาพร้อมกลิ่นหอมประหลาดที่พวยพุ่งออกมาจากแท่งเทียนอันนั้น
“หอมจัง! แปลกจริงเชียวทำไมเทียนแท่งนี้จึงมีกลิ่นหอมฟุ้งกระจายไปทั่วห้องแบบนี้นะ”เจ้าสาวโฉมงามรำพึงออกมาเบาๆ พลางหันหลังก้าวเดินกลับไปยังเตียงนอนตามเดิม
แปะ! โลหิตสีแดงฉานหยดลงบนพื้นห้องทันที เป็นเหตุให้ร่างระหงของเจ้าสาวหยุดชะงักงันไปโดยพลัน
“เลือด!เลือดจากที่ไหนจึงได้หยดลงบนพื้นเช่นนี้”เจ้าสาวโฉมสะคราญกล่าวออกมาด้วยความแปลกใจ
แปะ!แปะ! โลหิตหยดลงบนพื้นอีกครั้งและครานี้หยาดโลหิตสีแดงสดตกกระทบตัวชุดเจ้าสาวจนเปรอะเปื้อนไปหมด พร้อมมือเรียวสวยยกขึ้นจับบนใบหน้าเมื่อรู้สึกว่ามีน้ำไหลออกทางดวงตาของนาง พลางใช้นิ้วเรียวแตะหยาดน้ำดังกล่าวที่กำลังไหลออกมาอย่างไม่ขาดสายอยู่ในขณะนั้น
“เลือด!”เจ้าสาวโฉมสะคราญกล่าวออกมาด้วยความตกใจสุดขีด
เมื่อหยาดน้ำที่ไหลออกจากดวงตาทั้งสองข้างของเธอในขณะนี้เป็นโลหิตที่ไหลออกจากตัวของนางนั้นเอง และทั่วดวงหน้างามในยามนี้ โลหิตแดงฉานกำลังหลั่งไหลทะลักออกมาจากดวงตาทั้งสองข้าง หู จมูกและปากจนมีแต่เลือดเต็มไปหมด ด้วยผลของพิษร้ายแรงที่ได้รับเข้าไปอย่างไม่รู้ตัวจนเปิดจุดทวารทั้ง 7 ทันที ร่างงามยืนโงนเงนไปมาก่อนจะทรุดฮวบลงไปกับพื้นทันที
ตุบ!!! ร่างเจ้าสาวในชุดขาวล้มลงไปนอนกับพื้นทั้งยืนขาดใจตายไปโดยพลัน ในสภาพดวงตาเบิกกว้าง ทั่วทั้งดวงหน้างามเต็มไปด้วยหยาดโลหิตไหลนอง นางสิ้นใจตายไปโดยไม่รู้ตัว และมิรู้ว่าเป็นฝีมือของผู้ใดที่ลงมืออย่างเลือดเย็นกับเจ้าสาวตัวเล็กๆ ที่ไม่รู้เรื่องอะไรแม้แต่น้อย
ทว่ากลับต้องมาสังเวยชีวิตของตนในคืนวันแต่งงานและในขณะที่นางกำลังเข้าหอเสียด้วย โดยที่เจ้าบ่าวก็มิล่วงรู้เลยว่าเจ้าสาวของตนในขณะนี้สิ้นชีพอยู่ภายในห้องหอดังกล่าวไปเสียแล้ว นางจากไปอย่างไม่มีวันกลับและมิอาจหวนคืนมาได้อีกเลย
ภายในห้องหอดังกล่าวมีเพียงร่างอันไร้วิญญาณของเจ้าสาวนอนนิ่งตาเบิกค้างเอาไว้อยู่เช่นนั้น ก่อนจะปรากฏเงาเลือนรางของดวงวิญญาณเจ้าสาวกำลังยืนมองร่างของนางด้วยความงุนงง
“นะ...นี่...นี่ข้า...ข้าตายแล้วอย่างนั้นเหรอ...ไม่จริงใช่ไหม..ไม่จริงใช่ไหม”ดวงวิญญาณกล่าวออกมาด้วยความตกใจสุดขีด
กรี๊ดดดดด!!!! เสียงกรีดร้องของดวงวิญญาณเจ้าสาวผู้อาภัพดังโหยหวนขึ้นมาทันทีในโลกของคนตาย
“ท่านแม่ทัพช่วยข้าด้วย! ท่านพี่ช่วยข้าด้วย! ข้ายังไม่อยากตาย..ข้ายังไม่อยากตาย!!!!
โปรดติดตาม นางครวญรอรักพันปี เล่มจบ เร็วๆ นี้
“อัยยะ! อะไรกันวะเนี่ย...จบแบบนี้อย่างนั้นเหรอ! โอ๊ยตาย! ปัดโธ่เว้ยนึกว่าเล่มเดียวจบ..ใครบอกให้ซื้อมาแค่นี้! ฉันบอกให้พวกแกซื้อมาให้ครบจบทุกภาคและทุกเล่มไม่ใช่เหรอ!!!”เสียงโวยวายอย่างไม่สบอารมณ์ของหญิงสาวนางหนึ่ง พร้อมหันกลับไปมองร่างชายฉกรรจ์ที่ยืนอยู่ใกล้ๆ ก่อนจะกวาดสายตาไปหยุดที่คนหัวแถว
“อาหัว!”หญิงสาวเรียกชื่อลูกน้องของเธอดังก้อง
เฮือก!!! ร่างสันทัดสะดุ้งจนสุดตัวเมื่อเสียงเรียกชื่อของตนดังออกมาจากปากของหญิงสาวนางนั้น
“ฉันให้ไปรับหนังสือที่สั่งซื้อนางครวญรอรักพันปี มาให้หมดทุกเล่มไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมมีแค่ 9 เล่ม เล่มจบหายไปไหน!”เสียงตวาดเอ็ดอึงดังไปทั่วห้อง เล่นเอาคนถูกถามขนลุกขนพองไปตามๆ กัน
“โธ่! หัวหน้า...อาหัวพยายามไปเข้าแถวซื้อนิยายชุดนี้มาให้ตั้งแต่ตี 5 พอร้านเปิดก็รีบเข้าไปรับหนังสือที่สั่งเอาไว้ตามคำสั่งทุกอย่างไม่ขาดตกบกพร่องแม้แต่น้อย ลูกค้าที่สั่งซื้อจะได้เหมือนหัวหน้าหมดทุกคน เพราะเล่มจบกำลังตีพิมพ์อยู่ยังไม่เสร็จเลยครับ”
ลูกน้องนามว่าอาหัวรายงานหัวหน้าของตนซึ่งเป็นลูกสาวเพียงคนเดียวนามว่าไป๋หลันฮวาของเจ้าพ่อไป๋โหย่งอี้ เจ้าพ่อใหญ่ผู้ที่มีอิทธิพลสูงสุดคุมแก๊งสามพยัคฆ์แดนมังกรจากแผ่นดินจีน
“อะไรนะ! มีแบบนี้ด้ว นิยายเรื่องนี้ทางญี่ปุ่นซื้อลิขสิทธิ์จากหวังอีโหม่วมาขอตีพิมพ์ในประเทศนี้แล้ว อีกอย่างเรื่องนี้ก็เขียนจบแล้วด้วย ทำไมถึงไม่จัดพิมพ์แบบรวดเดียวจบด้วยว้า มันจะขยักเล่มจบเอาไว้หาทำพระแสงดาบคาบแก้วเพื่ออะไรกัน!เดี๋ยวแม่บุกไปยิงทิ้งทั้งสำนักพิมพ์เลยให้ตายสิ!”มาเฟียสาวเจ้าอารมณ์สบถออกมาเป็นการใหญ่
“หัวหน้าก็ใจเย็นหน่อยเถอะครับ..ได้ยินข่าวว่าทางญี่ปุ่นพอได้ลิขสิทธิ์มาก็เร่งตีพิมพ์แบบหามรุ่งหามค่ำกันเลยทีเดียวเห็นว่าตีพิมพ์ทั้งแบบภาษาจีน ภาษาญี่ปุ่นเลยนะครับ ว่าแต่ทำไมหัวหน้าถึงติดนิยายเรื่องนี้นักละ เรื่องอื่นๆ ไม่เห็นว่าจะติดมากมายถึงขนาดนี้เลย..นี่ถ้าอ่านตำราเรียนได้เหมือนอ่านนิยายหัวหน้าใหญ่ดีใจตายเลย”อาหัวถามกลับไปด้วยความอยากรู้
และจากคำถามดังกล่าวทำให้ดวงตาคู่สวยของเจ้านายสาวซึ่งเพิ่งจะมีอายุเพียง 21 ปีเท่านั้นถลึงออกมาแทบจะถลนออกมานอกเบ้าทันที เจ้านายคนสวยคุณหนูไป๋หลันฮวาคนงามของแก๊งสามพยัคฆ์
ลูกสาวสุดรักสุดหวงของเจ้าพ่อจากจีนแผ่นดินใหญ่ถูกส่งมาเรียนต่อในระดับในมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่เรียนจบชั้นมัธยมจากฮ่องกง และไป๋หลันฮวามีหน้าที่ดูแลควบคุมแก๊งยากูซ่าซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกสามพยัคฆ์ให้กับพ่อของเธอไปพร้อมกัน
“เรื่องของฉันเว้ย! จะอยากรู้ไปทำไมกัน...ก็อ่านนิยายแล้วมันสนุกและทำให้ลุ้นทุกตอนเลย ตรงกันข้ามกับตำราเรียนแค่หยิบก็ง่วงแล้ว! อีกอย่างที่อ่านก็เพราะว่าเขียนมาจากตำนานโบราณที่พาดพิงถึงสกุลไป๋ทางแผ่นดินจีนของฉันอย่างไงเล่า”
ครั้นลูกน้องคนสนิทได้ยินเช่นนั้นถึงกับบางอ้อขึ้นมาทันใด
“อ่อ..ที่แท้ก็เป็นแบบนี้เอง ทำไมหัวหน้าไม่อ่านตำนานโบราณนี้จากหอสมุดพงศาวดารจีนเลยละครับ มาอ่านแบบนิยายทำไมกัน ตำนานแม่ทัพไร้พ่ายของราชวงศ์โจวในสมัยโบราณ เป็นหนึ่งในเรื่องเล่าขานต่อๆ กันมาเลยนะครับ มีทั้งด้านเรื่องการกอบกู้บัลลังก์คืนจากคนเป็นอา การสู้รบแย่งชิงเพื่อปกป้องดินแดน รวมไปถึงความรักแปลกประหลาดของแม่ทัพไร้พ่ายผู้นั้นด้วย”อาหัวอธิบายกลับไป
และนั้นทำให้ไป๋หลันฮวาถึงกับนั่งมองหน้าลูกน้องคนสนิทเขม็งเลยทีเดียว
“เฮ้ย!อาหัวนายก็รู้เรื่องตำนานแม่ทัพไร้พ่ายด้วยเหรอ ทำไมถึงไม่เล่าให้ฉันฟังปล่อยให้เสียเงินซื้อนิยายมานั่งอ่านทำไมตั้ง 9 เล่ม 10 เล่มแบบนี้กันห๊ะ!!!”หญิงสาวโวยวายกลับไปอีกคำรบ
“อ๋อย!ก็หัวหน้าไม่ถามอาหัวก็เลยไม่รู้ อันที่จริงรายละเอียดของแม่ทัพผู้นี้ในพงศาวดารจีนเอ่ยถึงพอสมควร แต่จะเป็นเรื่องกลยุทธ์ในการทำศึกสงครามที่แปลกแหวกแนว และการชิงราชบัลลังก์ของพระองค์กลับคืน แต่ถ้าไปอ่านในตำนานโบราณละก็จะมีการกล่าวถึงเรื่องลับๆ ของท่านแม่ทัพหรือถ้าเรียกให้ถูกต้องก็คือ เรื่องนินทาที่คนสมัยนั้นเขาเล่าขานกันต่อๆ มาว่ากันว่าพี่แกจ๊าบมากเลยนะหัวหน้า”กล่าวพลางยกหัวแม่นิ้วโป้งชูขึ้นมาทันที
“จ๊าบแบบไหน...เล่าให้ฟังหน่อยดิ”หญิงสาวรบเร้าลูกน้องคนสนิทก่อนจะได้ยินอีกฝ่ายตอบกลับมา
“เออ..”จู่ๆ อาหัวก็ยืนนิ่งค้างไปเสียดื้อๆ อย่างมิรู้สาเหตุท่ามกลางความงงงันของนายหญิง
“เอ้า! ยืนเซ่ออะไรอยู่เนี่ยไม่รู้หรือไงว่ากำลังตั้งใจฟังอยู่ เป็นอะไรอาหัวแกกวนประสาทฉันใช่ไหม!”เธอถามกลับอย่างเอาเรื่องเลยทีเดียว
ในขณะที่อีกฝ่ายได้แต่กลืนน้ำลายลงคอเมื่อได้ยินเช่นนั้น
“เออ...ปกติอาหัวจำตำนานเรื่องนี้ได้นะแต่ทำไมจู่ๆ ถึงลืมได้ก็ไม่รู้ นึกไม่ออกเสียขึ้นมาดื้อๆ เลยหัวหน้า”อาหัวตอบกลับไปตามความเป็นจริงที่กำลังเกิดขึ้นกับตน
“หา! อาหัว!แกตั้งใจกวนประสาทฉันนี่หว่า”ไป๋หลันฮวากล่าวพร้อมลุกขึ้นยืนเงื้อฝ่ามือขึ้นทันที
ผัวะ!ผัวะ! ฝ่ามือพิฆาตสะบัดลงหัวเหม่งของลูกน้องคนสนิทด้วยความหมั่นไส้
“อมพะนำดีนักตบแม่งสักสองที คราวนี้นึกออกหรือยังห๊ะ!”หญิงสาวคำรามใส่ลูกน้องไม่เลิกรา
ก๊อก!ก๊อก!ก๊อก! เสียงเคาะประตูดังขึ้นอยู่นอกห้องเป็นสัญญาณขออนุญาต ประตูบานใหญ่ถูกเปิดออกพร้อมร่างอวบอิ่มของสตรีสาวนางหนึ่งก้าวเข้ามาภายใน พลางมองชายฉกรรจ์ที่มีถึงห้าคนอยู่ภายในห้องแต่งตัวของนักแสดงนำด้วยความสงสัยระคนแปลกใจ
“มีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่าคะคุณหลันฮวา เสียงเอะอะดังออกไปถึงข้างนอกเลย พวกเราได้ยินก็เลยรีบเข้ามาดูแล”หญิงสาวคนดังกล่าวเอ่ยถามกลับไปด้วยความเป็นห่วง
และนั้นทำให้แม่มาเฟียสาวต้องแปลงร่างกลายเป็นสตรีสาวทรงเสน่ห์ขึ้นมาโดยพลัน
“อ่อ..ไม่มีอะไรหรอกค่ะ พอดีว่าผู้จัดการและทีมงานของหลันฮวาเถียงกันเรื่องคิวงานที่รับไว้ก็เท่านั้นเอง ว่าแต่จะลงมือถ่ายทำหรือยังคะ”หญิงสาวถามกลับไปด้วยความอยากรู้
ใบหน้าอวบอิ่มของผู้ช่วยกำกับแย้มยิ้มออกมาครั้นได้ยินเช่นนั้น
“กำลังจะเข้ามาบอกเรื่องนี้พอดีเลยค่ะ อีกครึ่งชั่วโมงเตรียมตัวเข้าฉากได้เลยนะคะ ทางกองถ่ายเตรียมพร้อมลงมือถ่ายทำฉากสุดท้ายของเรื่องแล้ว”
หญิงสาวพยักหน้าขึ้นลงติดต่อกันเมื่อได้รับคำตอบดังกล่าวกลับมา
“ถ่ายทำฉากนี้เสร็จก็ปิดกล้องแล้วละสิ หลันฮวาคงคิดถึงพวกคุณแย่เลย ร่วมงานกันตั้งห้าเดือน ไม่ได้เจอกันแล้ว”แม่มาเฟียสาวทรงเสน่ห์กล่าวออกมาเบาๆ
“ใครบอกว่าเราจะไม่ได้เจอกันอีกละคะ ซีรีย์เรื่องต่อไปมีชื่อของคุณเป็นนักแสดงนำที่บริษัทฯ เพิ่งซื้อลิขสิทธิ์บทประพันธ์เรื่องดังมาจากคุณหวังอีโหม่ว ถ้าแคสติ้งนักแสดงผ่านก็คงจะลงมือถ่ายทำอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าและสถานที่ถ่ายทำคือประเทศจีนทั้งเรื่องเลยละคะ”
“จริงเหรอเนี่ย!ซีรีย์เรื่องต่อไปเป็นบทประพันธ์ของอาจารย์หวังอีโหม่ว อย่างนั้นเหรอคะ”หญิงสาวถามกลับไป
ในขณะที่อีกฝ่ายพยักหน้าขึ้นลงติดต่อกันเป็นการยืนยันคำพูดของเธอ ก่อนจะได้ยินแม่มาเฟียสาวในคราบดาราถามกลับมา
“แล้วบทประพันธ์อะไรเหรอคะที่บริษัทได้ลิขสิทธิ์จากคุณหวัง”เธอถามกลับไปด้วยความอยากรู้
ผู้ช่วยวัยกลางคนฉีกยิ้มกว้างเมื่อเห็นสาวสวยทรงเสน่ห์อยากรู้อยากเห็นเช่นนั้น
“บริษัทของเราได้ลิขสิทธิ์บทประพันธ์ของอาจารย์หวัง เรื่องนางครวญรอรักพันปีค่ะ”
และนั้นทำให้ไป๋หลันฮวาเบิกดวงตากลมโตขึ้นมาทันใดครั้นได้ยินชื่อบทประพันธ์ดังกล่าว
“นางครวญรอรักพันปีอย่างนั้นเหรอคะ!!!”แม่สาวน้อยเอ่ยออกมาทันที ด้วยไม่อยากจะเชื่อว่าเธอจะมีรายชื่อเป็นหนึ่งในนักแสดงนำบทประพันธ์เรื่องดัง ที่มีการแปลหลายภาษาและตีพิมพ์วางขายในหลายประเทศ
“ใช่แล้วค่ะ ส่วนจะแคสได้บทไหนไปก็ต้องอยู่ที่ฝีมือของนักแสดงแต่ละคนแล้วละค่ะว่าจะมีความสามารถช่วงชิงบทไหนไปได้”ผู้ช่วยผู้กำกับกล่าวพร้อมเหลือบสายตาไปทางโต๊ะกลางซึ่งมีหนังสือวางตั้งสูงอยู่หลายเล่ม เพียงแค่เห็นหน้าปกก็ล่วงรู้แล้วว่าเรื่องอะไร”
“คุณหลันฮวาอ่านบทประพันธ์เรื่องนี้ของคุณหวังเสียด้วยเป็นแฟนหนังสือตัวยงเลยนะเนี่ย”
ใบหน้าสวยเซ็กซี่ยกยิ้มออกมาเล็กน้อย
“พอดีว่าเรื่องนี้อาจารย์หวังเขียนได้น่าติดตามและสนุกมาก ทิ้งปมทุกตอนอ่านแล้วเพิ่มรอยหยักในสมองให้คิดตามดีค่ะ อีกอย่างผีในเรื่องก็หลอนดีจริงๆ เลย”หญิงสาวตอบกลับไป
“อ่อ..แล้วคุณหลันฮวาคิดว่าอยากจะเล่นบทไหนมากที่สุดคะ”ผู้ช่วยคนดังกล่าวถามกลับไปด้วยความอยากรู้
“ก็ต้องเป็นผีฮูหยินท่านแม่ทัพสิคะ! ออกมาทุกฉากทุกตอน ทั้งดุทั้งเฮี้ยนตัวเดินเรื่องเลยนะนั่น”ไป๋หลันฮวาตอบกลับไปโดยไม่เสียเวลาคิดแม้แต่น้อย
“เข้าใจเลือกบทเด่นเสียด้วย คุณเลือกเล่นบทผีฮูหยินท่านแม่ทัพไร้พ่ายแทนที่จะเลือกบทนางเอกของเรื่อง ตาถึงมากเลยทีเดียว”ผู้ช่วยกำกับกล่าวชมตรงไปตรงมา
“ก็...ก็คิดว่าตัวละครนี้มีสีสันและแสดงอารมณ์เยอะกว่าใคร ไม่ได้ตาถึงอะไรหรอกค่ะ”
ใบหน้าอวบอิ่มยิ้มออกมาบางๆ เมื่อได้ยินเช่นนั้น
“เอาละค่ะคุณหลันฮวาเตรียมตัวด้วยนะคะใกล้จะถึงเวลา เดี๋ยวพี่ขอตัวไปดูนักแสดงคนอื่นๆ ก่อน”กล่าวพร้อมส่งยิ้มให้พลางหันหลังกลับก้าวเดินออกจากห้องแต่งตัวของแม่มาเฟียสาวโดยมีสายตาของลูกน้องหนุ่มวัยฉกรรจ์ทั้งห้าในคราบทีมงานผู้จัดการส่วนตัวของหัวหน้าแก๊งของตน
“โอโห่หัวหน้าตกลงจะรับเล่นซีรีย์เรื่องยาวจริงๆ อย่างนั้นเหรอครับ มันจะไม่เบียดบังเวลาในการทำงานของแก๊งเราไปจนหมดอย่างนั้นเหรอ”อาหัวแสดงความคิดเห็นของตนออกมาทันใด
โป๊ก!!! หญิงสาวเขกศีรษะมันวาวลูกน้องคนสนิทลงไปอย่างแรง
“เจ้าโง่เอ๊ย!”หญิงสาวเอ็ดลูกน้องของเธอกลับไปเสียงขรมเล่นเอาลูกน้องที่เหลือต่างพากันก้มหน้านิ่งทันที
“วันๆ ฉันทำอะไรบ้างในแก๊ง นอกจากนั่งนับเงินที่ส่งมาแล้วก็หลบตำรวจ อีกอย่างอาชีพนี้ทำให้ฉันไม่ต้องตกเป็นเป้าสายตาของพวกตำรวจสากล ไม่เคยมีใครล่วงรู้ว่าหัวหน้าแก๊งสามพยัคฆ์คุมญี่ปุ่นคือฉัน! รู้แต่ว่าเป็นผู้หญิงก็พอแล้ว จะได้ไปไหนมาไหนไม่ต้องหลบๆ ซ่อนๆ แต่กลายเป็นคนดังเข้ามาแทนที่มีแต่คนล้อมหน้าล้อมหลังแบบนี้สิหัวหน้าแกก็ปลอดภัยไม่ถูกพวกตำรวจก่อกวน ทีนี้เข้าใจกันหรือยัง!!!”หญิงสาวเอ็ดบรรดาลูกน้องลอดไรฟันออกมาเบาๆ
ทันใดนั้นเอง
“หัวหน้า!หัวหน้าครับหัวหน้า!!!”เสียงของลูกน้องวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาภายในห้องแต่งตัวของหญิงสาว
“มีอะไร! โหวกเหวกโวยวายมาตั้งแต่หน้าประตูทำอย่างกับว่ามีใครตายอย่างนั้นแหละ!เบาๆ หน่อยไม่ได้หรือไงเดี๋ยวคนอื่นก็รู้หรอกว่าฉันเป็นอะไร!”เธอคำรามเสียงต่ำในลำคอกลับไป
คำกล่าวของหัวหน้าแก๊งสาววัยแรกรุ่น ทำให้ลูกน้องที่เพิ่งวิ่งมาบอกข่าวนั้นต้องรีบก้มหน้ามองพื้นทันใด พร้อมชี้ไปที่มือถือส่วนตัวของเธอ
“หัวหน้าปิดเครื่องอย่างนั้นเหรอครับ ตอนนี้มีข่าวด่วนจากทางเซี่ยงไฮ้ ทางนั้นติดต่อหัวหน้าไม่ได้ก็เลยโทรเข้ามาที่เบอร์ของผม รีบเปิดเครื่องเถอะครับเกิดเรื่องกับหัวหน้าใหญ่แล้ว”ลูกน้องคนดังกล่าวบอกกลับไป
“อะไรนะ!”หญิงสาวกล่าวออกมาได้เพียงแค่นั้นเธอหมุนตัวคว้างอย่างรวดเร็วพร้อมคว้าโทรศัพท์มือถือของเธอรีบเปิดเครื่องทันที
และทันทีที่ระบบมือถือพร้อมทำงานปลายนิ้วรีบกดหมายเลขปลายทางตรงไปที่เซี่ยงไฮ้ทันใด พลางยืนรอสายอย่างใจจดใจจ่อและทันทีที่ปลายสายรับ
“ฉันหลันฮวาพูดมีอะไร! เกิดเรื่องอะไรกับพ่อ!”เธอกรอกเสียงถามไปตามสายอย่างรวดเร็วก่อนจะได้ยินเสียงอีกฝ่ายตอบกลับมา
“หัวหน้าใหญ่เสียชีวิตแล้วคุณหนู รีบกลับเซี่ยงไฮ้โดยด่วนเลยครับ”
“ห๊ะ!”เธออุทานออกมาทันทีครั้นได้ยินเช่นนั้น
ตุบ!!! โทรศัพท์มือถือหลุดร่วงลงจากมือของเธอโดยพลันครั้นได้ยินคำตอบจากปลายสายบอกกลับมา
“พ่อตายแล้วอย่างนั้นเหรอ!”ไป๋หลันฮวายืนพึมพำเสียงเบาด้วยไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เธอได้ยิน เมื่อหัวหน้าใหญ่ของแก๊งค์สามพยัคฆ์ไป๋โหย่งอี๋ บิดาของเธอเสียชีวิตอย่างปัจจุบันทันด่วนเช่นนี้
คำโปรย การกลับมาแก้ไขเหตุการณ์ในอดีตครั้งนี้ ทำให้นางมารใจโฉดกลับกลายเป็นคนดี แต่กลับมีเหตุการณ์ที่ทำให้ ถานหยี่เหยียนซึ่งผสานจิตใจกับร่างในปัจจุุบัน จนสงบกลับปะทุขึ้นมาอีกครั้ง และกลับมาทำลายล้างทุกอย่างจนวอดวาย เอลิซาเบธ ลีหรือหยางลี่จู บินกลับประเทศจีนเป็นครั้งแรกในชีวิตและถูกดวงตาสวรรค์ที่มีวาสนาผูกพันกันนำนางหวนคืนกลับตระกูลถาน ซึ่งเป็นชาติอดีตของตัวเองเพื่อกลับมาแก้ไขเหตุการณ์ในอดีตตามที่เคยอ้อนวอนต่อสวรรค์เบื้องบน ดวงตาสวรรค์นำนางกลับมาในชาติที่เกิดเป็นสตรีที่แสนจะร้ายกาจที่สุดในตระกูลถาน และนางก็คือนางมารชื่อกระฉ่อน ถานหยี่เหยียน คุณหนูใจโฉดที่เต็มไปด้วยความอำมหิต สนใจแต่ตัวเองไม่เคยใส่ใจผู้ใดและต้องได้ทุกอย่างที่นางต้องการ จนเป็นต้นเหตุทำให้ตระกูลถานถูกประหารล้างตระกูล และการคัดเลือกพระชายาของอดีตฉู่อ๋องเพื่อเลือกเฟ้นให้กับพระอนุชา เป็นที่มาของการประหารล้างตระกูลถานในอดีต แต่การกลับมาอีกครั้งของถานหยี่เหยียน ซึ่งเป็นร่างในยุคปัจจุบันทำให้ร่างในอดีตและปัจจุบันหลอมรวมเป็นร่างเดียวกันและนางก็คือนางในฝันของบุรุษหน้าหยกผู้เลื่องลือ สตรีใจโฉดผู้เคยเป็นอนุชายาของชินอ๋องรูปงามก่อนที่จะกลับมาแก้ไขเปลี่ยนแปลง
อุปราชปีศาจ สมญานามนี้เลื่องลือไปทั่วหล้า อุปราชเฟิงหลง ผู้ก่อตั้งแผ่นดินเป่ยถังจนเป็นปึกแผ่นเป็นหนึ่งเดียว วิชาอมตะทำให้มีชีวิตเป็นนิรันดร์ และมีญาณหยั่งรู้ล่วงรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าและหูทิพย์ หากแม้นผู้ใดเข้ามาใกล้พระวรกายน้อยกว่ารัศมีสิบฉื่อ ร่างจะต้องสลายกลายเป็นเถ้าธุลีขาวไปทันที อุปราชในตำนานประทับอยู่ในพระตำหนักลืมเลือนมานานกว่า 329 ปีนับตั้งแต่สถาปนาแคว้น จวบจนกระทั่งองค์หญิงเย่วเพ่ยเพ่ย จากแคว้นเย่วปรากฎกาย นางเป็นสตรีเพียงหนึ่งเดียวที่สามารถเข้าใกล้และสัมผัสพระองค์ได้ และนางคือสตรีที่ผูกพันกับพระองค์นับตั้งแต่พานพบกันตั้งแต่ครั้งแรก แรงรักแรงพิศวาสเริ่มก่อตัวขึ้นภายในตำหนักลืมเลือน ก่อนจะถึกปิดตายหายไปอย่างไร้ร่องรอยเพื่อรอคอยนางหวนคืนกลับมาอีกครั้ง กลับมาเพื่อครองรักกับอุปราชปีศาจอีกครั้งตามสัญญาที่มีไว้ให้ต่อกัน ไม่ว่ากาลเวลาจะผ่านไปนานนับพันปีก็ตาม
เพราะการพบกันครั้งแรกระหว่าง จอมอำมหิตแห่งกู้กงและหวางเย่หลิง ทำให้รองผู้บัญชาการองครักษ์เสื้อแพร ต้องการนางเก็บไว่้ใกล้ตัวเพื่อ เหตุผลบางอย่าง และเพื่อสืบเสาะหามารดาผู้ให้กำเนิดจากนาง ครั้นเกิดเหตุการณ์เงินห้าหมื่นตำลึงทองสูญหายไปอย่างไร้ร่องรอย ภายในสำนักคุ่้มกันหวางซื่อของตระกูลหวาง จึงทำให้จอมอำมหิตสบโอกาส หวางเย่หลิง บุตรีเพียงคนเดียวของหวางเจี้ยนเฉิง จะต้องถูกนำส่งเข้าจวน ในฐานะสตรีของอิ๋งชวนโหว เพื่อช่วยทุกชีวิตของตระกูลหวางให้รอดพ้นจาก การถูกประหารชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว
ตงฟางลี่หยาง แม่ทัพหนุ่มแห่งแคว้นเทียนหยวน หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความด้านชาและเต็มไปด้วยความแค้น ที่ฝังแน่นอยู่ภายในใจที่รอวันชำระแค้นกับอดีตสหายเก่า หากแต่หัวใจที่เต็มไปด้วยความด้านชา กลับปรากฏหมอหญิงจากสกุลหลิง ผู้มาจากยุคปัจจุบัน ผุดขึ้นอยู่ภายในหัวใจ หยกบุบผานำเธอให้มาพบกับแม่ทัพจอมโหด และหลิงลี่ย่านางคือสตรีที่แม่ทัพหนุ่มต้องตามจับเธอ !!!
หวังฉิงชวน สาวสวยจากศตวรรษที่ 21 นักศึกษาคณะศิลปะการแสดงและการละคร ซึ่งจะต้องเขียนบทละครแนวพีเรียดย้อนยุคเพื่อผลิตซีรีย์เรื่องยาว 40 ตอนจบ และยังเป็นผลงานภาคบังคับที่นักศึกษาทุกคนจะต้องทำบทละครเพื่อขออนุมัติจบการศึกษา หญิงสาวจึงนำเกร็ดประวัติของท่านหญิงธิดาลูกเจ้าเมือง จากยุคจ้านกว๋อ มาเขียนบทละคร ทว่าประวัติของท่านหญิงผู้นั้นเป็นของปลอมที่ถูกทำขึ้นในยุคนั้น เป็นเหตุให้หวังฉิงชวนเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นกับชีวิต เมื่อเธอเกิดหัวใจวายกะทันหัน ครั้นฟื้นขึ้นมาอีกครั้งดวงวิญญาณของเธอกลับอยู่ในร่างของท่านหญิงหยางเฉียนเฉียน ธิดาเจ้าเมืองอูเจี๋ยนผู้วายชนม์ เธอถูกกลับมาในเหตุการณ์ของท่านหญิงที่นำประวัติของนางมาทำเป็นบทละคร เพื่อล่วงรู้เหตุการณ์จริงในอดีตที่เกิดขึ้น และเธอกลับมาเพื่อผูกวาสนากับจอมโจรเยี่ยคัง ซึ่งมีอดีตเป็นถึงองค์ชายเฉินคัง องค์ชายห้าแคว้นหมิ่นเย่ว วาสนาผูกพันลึกซึ้งเกิดขึ้นกับคนทั้งสอง และสัญญารักมั่นจากหัวใจที่พี่คังมีต่อเฉียนเฉียน นำหวังฉิงชวนให้หวนกลับคืนสู่อ้อมกอด องค์ชายเฉินคังแห่งแคว้นหมิ่นเย่วอีกครั้งเพื่อครองคู่ไปชั่วนิจนิรันดร์
ว่านฉีฉี ลูกสาวเจ้าพ่อจากเมืองเซี่ยงไฮ้ถูกส่งตัวไปเมืองปักกิ่ง เพื่อความปลอดภัยจึงต้องแยกจากพ่อของเธอ ซึ่งเป็นเจ้าพ่อผู้มีอิทธิพลครองเมือง หญิงสาวเข้าเรียนสถาบันที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมืองปักกิ่ง และสถานที่แห่งนั้นทำให้เธอ ถูกนำกลับไปเมืองหลวงจี้ แห่งเมืองต้าเยียน ซึ่งกำลังถูกฆ่าล้างเมืองอยู่ในเวลานั้น หลี่เหวินฉาง แม่ทัพผู้โหดเหี้ยมและอำมหิตผิดมนุษย์ ได้พบกับว่านฉีฉี ในวันคือพระจันทร์สีเลือด แม่ทัพหนุ่มนำลูกสาวเจ้าพ่อในยุคอนาคตมาเป็นสตรีบำเรอ โดยไม่รู้ว่าเธอมีพลังปีศาจของนางพญามาร และเขาคือแม่ทัพปีศาจแห่งเฉียนฉิน
หลังผ่าตัดนักพรตเฒ่าผู้หนึ่งนั้น นางวูบหมดสติและเสียชีวิตลงไป ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที ก็อยู่ในร่างของคุณหนูปัญญาอ่อนที่มีชื่อเดียวกันผู้นี้เสียแล้วทั้งยังจำอดีตชาติยามเป็นปรมาจารย์เต๋าได้อีกด้วย +++ 1 : ไล่ออกจากอารามไท่ผิงกวน แคว้นจิ้น ราชวงศ์เซวียน อารามไท่ผิงกวน “ไป ๆ อาจารย์ขับไล่พวกท่านออกจากอารามแล้ว อย่าได้มาเหยียบที่นี่อีก” “ศิษย์พี่รองรีบปิดประตูเร็วเข้า !” ตุบ ! ห่อผ้าสองห่อถูกโยนออกมาจากประตูอาราม ปัง ! ตามด้วยเสียงปิดประตูลงสลักอย่างหนาแน่น สตรีนางหนึ่งยืนตัวตรงเป็นสง่า เสื้อผ้ากับเส้นผมของนางปลิวไสวดั่งไผ่ลู่ลม หลินซือเยว่เงยหน้าขึ้นมองป้ายชื่ออารามไท่ผิงกวนด้วยสายตาเลื่อนลอย อาศัยอยู่ที่นี่มานานเท่าใดแล้วนะ บางครั้งนางเองก็ลืมเลือนวันเวลาไปเหมือนกัน “คุณหนูเจ้าคะ ศิษย์น้องทั้งสองของท่านทำเกินไปแล้วนะเจ้าคะ เหตุใดถึงไล่พวกเราสองคนออกจากอารามได้เล่า” เผิงฉือกระทืบเท้าเบา ๆ ตรงไปฉวยห่อผ้าทั้งสองบนพื้น ขึ้นมาคล้องแขนตัวเองไว้ “หากไม่ได้รับคำสั่งจากอาจารย์ ศิษย์น้องทั้งสองคงไม่กล้าขับไล่ข้าออกจากอารามหรอก” น้ำเสียงของนางสงบนิ่งฟังแล้วสบายหูยิ่งนัก หาได้มีความโกรธเกลียดแต่อย่างใด “นั่นรถม้า” นิ้วเรียวสวยชี้ไปยังรถม้าคันที่มีคนนั่งเฝ้าอยู่ “ป้าเผิงไปถามดูว่าใช่รถม้าของเราหรือไม่” เผิงฉือไม่รอช้ารีบตรงไปหาคนเฝ้ารถม้าที่อยู่ใต้ต้นไผ่ในทันที ไม่ช้านางก็กลับมาพร้อมกับรอยยิ้มนิด ๆ “เป็นรถม้าของเราจริง ๆ เจ้าคะคุณหนู คนขับบอกว่าเป็นคนของตระกูลหลินเจ้าค่ะ ได้รับคำสั่งจากท่านพ่อของคุณหนู ให้มารับคุณหนูกลับตระกูลหลินเพื่อไปแต่งงานเจ้าค่ะ” “กลับไปแต่งงานนี่เอง” นางเอ่ยเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ หันหลังกลับไปทางประตูอาราม ประสานมือค้อมตัวคำนับลาอาจารย์ เผิงฉือเห็นเช่นนั้นก็อดที่จะคำนับตามนางไม่ได้ ภายในอารามไท่ผิงกวน “อาจารย์เหตุใดถึงไม่บอกลากับศิษย์พี่ใหญ่ไปตรง ๆ ล่ะ ทำเช่นนี้นางไม่โกรธท่านไปจนวันตายเลยรึ” เหอกุ้ยแม้มีอายุยี่สิบแปดปีแล้ว ทว่าเขากราบเป็นศิษย์เจ้าอาวาสชุนหวังเหล่ยหลังสตรีผู้นั้น จึงได้เป็นเพียงแค่ศิษย์พี่รองเท่านั้น “นั่นสิอาจารย์ ศิษย์พี่ใหญ่นางไม่เคยออกจากอารามไปไหนไกล ท่านทำเช่นนี้ไม่ใช่ขับไล่นางไปสู่ความตายหรอกรึ” จางเจียเฟิ่งเห็นด้วยกับศิษย์พี่รองของเขา “ให้มันน้อย ๆ หน่อยเจ้าศิษย์โง่ทั้งสอง พวกเจ้าคิดว่าอารามไท่ผิงกวนแห่งนี้ สามารถอยู่รอดมาได้เพราะใครกัน หากไม่ใช่เพราะฝีมือของศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้า เห็นนางเงียบ ๆ แบบนั้น ความคิดนางกว้างไกลยิ่งนัก อาจารย์อย่างข้ายังเทียบนางไม่ติดด้วยซ้ำไป” เจ้าอาวาสชุนปีนี้อายุอานามปาเข้าไปหกสิบห้าปีแล้ว ทว่าร่างกายยังแข็งแรง อารามเต๋าแห่งนี้มีวิถีแบบไม่เคร่งครัด ใช้ชีวิตเยี่ยงฆราวาสผู้หนึ่ง สามารถแต่งงานมีครอบครัวได้ “อาจารย์นางอยู่ในอารามวาดยันต์กันภัยให้ชาวบ้านที่มากราบไหว้ ตั้งโต๊ะรักษาโรคภัยให้ผู้คนในตัวอำเภอฝู แต่หนนี้นางต้องกลับบ้านไปเพื่อแต่งงาน นางบริสุทธิ์ถึงเพียงนั้นมิถูกสามีจับกลืนกินจนไม่เหลือกระดูกหรอกรึ” เหอกุ้ยนึกภาพเทพเซียนผู้สูงส่งอย่างหลินซือเยว่ หากต้องร่วมเตียงกับบุรุษหยาบกระด้าง เพียงเท่านั้นเขาก็ทำใจไม่ได้จริง ๆ แทบอยากจะไปแย่งตัวศิษย์พี่ใหญ่ของตัวเองกลับคืนมา “เลิกคร่ำครวญได้แล้ว กลับไปกวาดลานอารามกับตรวจดูน้ำมันตะเกียงให้เรียบร้อย ศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้าไม่อยู่ เจ้าทั้งสองต้องรีบร่ำเรียนศึกษาหาความรู้ อารามไท่ผิงกวนจะได้เจริญรุ่งเรืองในภายภาคหน้าต่อไปได้” เจ้าอาวาสชุนทำเสียงดังใส่ลูกศิษย์ทั้งสอง “ไป ๆ ข้าจะสวดมนต์” โบกมือไล่ทั้งคู่ให้ออกจากห้องสวดมนต์ไป เจ้าอาวาสชุนรีบลุกไปปิดประตูลั่นกลอน ท่าทางลุกลี้ลุกลนจนผิดปกติ ย่องเบา ๆ ไปที่ใต้เตียงนอน ดึงหีบไม้เก่าเก็บออกมา ครั้นกดสลักเปิดออก ก็พบตั๋วเงินจำนวนสามพันตำลึงอยู่ในนั้น ตระกูลหลินที่ไม่ได้บริจาคน้ำมันตะเกียงมาหลายปี จู่ ๆ ก็ส่งตั๋วเงินมาให้ พร้อมกับขอรับคนกลับไปเพื่อแต่งงาน ช่วงนี้ชาวบ้านมาทำบุญที่อารามน้อยลง หลินซือเยว่ก็ไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้นกับนาง ถึงไม่ยอมลงจากอารามไปรักษาผู้คน รายได้เลยหายหดแทบจ่ายอาหารการกิน(สุรานารี)ไม่พอ ตั๋วเงินสามพันตำลึงนี่มาได้ทันเวลาพอดี ! แครก ๆ ๆ ๆ เสียงกวาดลานหน้าอารามดังขึ้นพร้อมกับเสียงบ่นของเหอกุ้ย “ข้ารู้ว่านางเก่งเอาตัวรอดได้ ข้าเพียงไม่อยากให้นางไปก็เท่านั้น” “ศิษย์พี่รองท่านอย่าได้เสียใจไปเลย ไม่ใช่ว่ามีแต่นางที่ต้องแต่งงานมีครอบครัว ท่านเองก็เถอะที่บ้านส่งคนมารับทุกปีไม่ใช่รึ” จางเจียเฟิ่งรู้ดีว่าตนและเหอกุ้ย ถูกครอบครัวลงโทษด้วยการส่งมาอยู่ยังอารามแห่งนี้ ทว่าเพียงชั่วคราวเท่านั้น “ตัวข้านั้นไม่เป็นไรหรอก เจ้านั่นแหละศิษย์น้องสาม ข้าได้ยินว่าที่บ้านของเจ้า เพิ่งหาคู่หมั้นหมายคนใหม่ให้เจ้าอีกคนแล้วไม่ใช่รึ” สองศิษย์พี่น้องหยุดกวาดลานอาราม แล้วหันหน้าไปมองตากัน จากนั้นพวกเขาก็ถอนหายใจดัง ๆ พร้อมกัน ไม่มีศิษย์พี่ใหญ่อยู่ด้วย นับจากนี้ไปยามทำความผิดใครจะออกหน้าคอยช่วยเหลือ ยามเงินหมดใครจะให้หยิบยืม ยิ่งคิดพวกเขาก็ยิ่งไม่สบายใจเป็นอย่างมาก บนถนนมุ่งหน้าสู่เมืองหลวง รถม้าไม้ธรรมดาไม่เล็กไม่ใหญ่ ไร้ป้ายชื่อตระกูลบอกกล่าว คล้ายไม่อยากให้ผู้อื่นล่วงรู้ว่าคนที่นั่งอยู่ด้านในเป็นใคร เผิงฉือพยายามหลอกถามคนขับรถม้าอยู่หลายหน ถึงสถานการณ์ของตระกูลหลินในยามนี้ นางไม่เคยไปที่นั่นมาก่อนไม่รู้จักใครสักคน คนขับรถม้าตอบว่า เขามีหน้าที่มารับคุณหนูรองกลับบ้านเท่านั้น เรื่องอื่นนั้นเขาไม่รู้จริง ๆ “ได้ถามหรือไม่ ใช้เวลากี่วันในการเดินทาง” หลินซือเยว่เอ่ยเสียงเนิบ ๆ “ถามแล้วเจ้าค่ะ เขาบอกว่าราว ๆ สิบวันก็ถึงเมืองหลวงแล้ว” “สิบวันเชียวรึ” หลินซือเยว่มองห่อผ้าที่วางอยู่ด้านข้าง มีเพียงของใช้จำเป็นของนางไม่กี่ชิ้น พร้อมกับก้อนเงินจำนวนห้าสิบตำลึง “คงต้องแวะซื้อของในอำเภอฝูเสียก่อน” เผิงฉือรีบเปิดม่านบอกกับคนขับรถม้า แต่เขากลับทำเสียงฮึดฮัดคล้ายไม่พอใจ “เสียเวลาเดินทางเปล่า ๆ” น้ำเสียงเขากระด้างกระเดื่อง
คำโปรย : “นี่คุณ!! ”‘ เธอยังบริสุทธิ์!! เป็นไปได้ไง? ’ ไหนว่าเป็นหม้าย??!! ..เมื่อมาเฟียหนุ่มได้ช่วยเหลือหม้ายสาวแสนสวยที่ถูกวางยา... ทว่า!ก็กลับต้องแปลกใจ ที่เขาดันเป็นคนแรกของเธอ #สปอย “ อื้อออออ.. ” เสียงครางต่อสู้กับความต้องการบางอย่างที่เริ่มรุนแรงขึ้นทุกขณะ รินรดาหน้าแดงก่ำ เริ่มกัดรีมฝีปากล่างจนแดงเอ่อ สองขาหนิบบิดหากันแน่น เสียดสีกันไปมาในอ้อมแขนของมาเฟียหนุ่ม สติของเธอกำลังเตลิด และเริ่มที่จะคบคุมตัวเองไม่ได้อีกครั้ง มือบางอยู่ไม่สุข คว้าเอาสาปเสื้อเชิ้ตสีดำของคนอุ้ม ก่อนดึงกระชากจนกระดุมหลุดขาดกระเด็น มืออีกข้างเริ่มเลื้อยลงไปผลุบตรงส่วนล่างของตัวเองอย่างควบคุมไม่ได้ ภาพอันรัญจวนใจตรงหน้า ทำเอามาเฟียหนุ่มใจเต้นแรงส่วนล่างของเขากำลังปวดหนึบแทบจะดันทะลุเป้ากางเกง กับสิ่งยั่วยวน ชวนชิม ที่อยู่ในอ้อมแขนของตัวเอง มาเฟียหนุ่มเองก็แทบจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว “ คุณริน.. คุณรินครับ ตั้งสติหน่อย ” ลำแขนแกร่งพยายามเขย่าตัวร่างบางอีกครั้งเพื่อเรียกสติก่อนที่ประตูลิฟท์ชั้นบนสุดจะเปิดออก ปภาวินโอบอุ้มคนตัวเล็กกึ่งเดินกึ่งวิ่งตรงดิ่งไปยังห้องพักตัวเอง ผ่านส่วนห้องรับแขกตรงไปยังห้องนอนของตัวเองบอดี้การ์ดวิ่งไปเปิดประตูให้คนเป็นนาย เมื่อประตูห้องนอนถูกปิดลง แขนแกร่งรีบวางร่างเล็กอ่อนปวกเปียกที่กำลังบิดกายไปมาลงบนเตียงนุ่ม ก่อนผละออกมายืนอยู่ตรงปลายเตียง จ้องมองดูร่างระทวยอย่างใจสั่นไหว มาเฟียหนุ่มขมกรามแน่นอย่างข่มอารมณ์ความต้องการของตัวเอง มองดูร่างบางที่กำลังดิ้นเร่าบิดกายไปมาอย่างทรมานจากฤทธิ์ยาปลุกกำหนัด รู้สึกสงสารเธอเหลือเกินที่ถูกคนเลวคิดทำร้าย “ ร้อน.. รินร้อน.. ทรมานเหลือเกิน อื้ออออ ” เสียงครางหวานแหบพร่า ที่ต่อสู้กับความทรมานจากฤทธิ์ยาปลุกกำหนัด เริ่มขาดๆหายๆ “ อิ้อออ นะ..น้ำ ห้องน้ำ พารินไปห้องน้ำ รินต้องอาบน้ำ ” เสียงครางกระเส่ากับสติที่ยังหลงเหลืออยู่อันน้อยนิด คิดได้ว่าน้ำอาจช่วยลดความร้อนรุ่มภายในกายได้ ร่างบางอ่อนปวกเปียกกำลังตะเกียกตะกายลงจากเตียงอย่างทุลักทุเล คนที่ยืนมองอยู่ได้ยินแบบนั้น ก็รีบเข้าไปช้อนร่างบางขึ้นไว้ในอ้อมแขนแกร่งแล้วตรงไปยังห้องน้ำทันที ลำแขนแกร่งประคองร่างเล็กให้ยืนอยู่ใต้ฝักบัวอาบน้ำขนาดใหญ่ รินรดาหวังเพียงใช้น้ำเพื่อดับความร้อนรุ่มในกาย ฝ่ามือหนาไม่รอช้ารีบเปิดน้ำให้เธออย่างรวดเร็ว สายน้ำจากฝักบัวไหลพรมลงบนร่างเล็กจนเปียกชุ่มทั้งตัว ทำให้ชุดเดรสสั้นที่เธอสวมใส่มานั้นเปียกชุ่มจนแนบเนื้อ เผยให้เห็นเนื้อเนียนภายใต้ชุดนั่น “ อึก!” สัดส่วนเว้าโค้งเอวคอดกิ่วของร่างเล็กนั่นอย่างชัดเจน ทำเอาคนที่กำลังยืนมองถึงกับกลืนน้ำลายเอื้อกใหญ่ลงคอ มาเฟียหนุ่มใบหน้าร้อนผ่าวเมื่อเขาเห็นเนินอกอวบอิ่มที่ไร้บรา มีแค่เพียงจุกปิดยอดถัน แม้จะอยู่ภายใต้ชุดเดรสแต่ก็ยังเห็นเด่นชัด ส่วนล่างของเค้ามันกำลังเริ่มคับแน่น เขากำลังเกิดอารมณ์เพราะร่างเล็กที่เปียกชุ่มเป็นต้นเหตุ #มาเฟียหนุ่มได้ช่วยเหลือหญิงหม้ายที่ถูกวางยาปลุกเซ็กซ์ ทว่าเขากลับต้องตกใจ!เธอจะเป็นหม้ายได้ไง? ในเมื่อรู้ว่าเธอยังบริสุทธิ์อยู่ และเขาเป็นคนแรก มาเฟียหนุ่มหลงเสน่ห์หญิงหม้ายที่ว่าเพียงชั่วข้ามคืน ‘ปภาวิน’ (30) มาเฟียหนุ่มโสด หล่อ หน้าตาดี เป็นทายาทตระกูลมาเฟียใหญ่ที่มีธุรกิจโรงแรมมากกว่า 40 แห่ง รวมถึงธุรกิจสีเทามากมายอีกทั้งยังมีสาวๆในสต็อกมากมาย ‘ รินรดา’ (36) หม้ายสาวแสนสวยใบหน้าอ่อนกว่าวัยราวกับเด็กสาวมหา’ลัย เจ้าของธุรกิจโรงแรมรีสอร์ทที่เธอออกแบบและสร้างมันกับมือ Talk.. Set มาเฟียร้าย สวัสดีค่ะนักอ่านทุกท่าน นามปากกา รดามณีนัฐฐ์ นะคะ ชื่อเล่นว่า นา ค่ะ ขอบคุณสำหรับการตอบรับนะคะ Set มาเฟียร้าย ทั้งหมดมี 3 เรื่องนะคะ เรื่องแรกเริ่มต้นที่คู่ของ ปภาวิน & รินรดา มาเฟียร้ายหลงบ่วงหม้ายเสน่หา ค่ะ เรื่องที่ 2 เป็นคู่ของ คทา & มัสลิน ร้อนรักคุณอามาเฟีย นะคะ เรื่องที่ 3 เป็นคู่ของ หมอสันต์ & ผักหวาน รักร้ายหมอมาเฟีย ฝากติดตามผลงานของไรท์ด้วยนะคะ
ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!
"อ๊ะ..ที่ไหนนี่มืดจัง อึดอัดจังเลย โอ้ย !!ใครถีบหัววะ" "ฮูหยินคลอดแล้วเป็นคุณชายน้อยเจ้าค่ะ ยังมีอีกคนเจ้าค่ะ เบ่งอีกเจ้าคะ " "อุ๊แว" "เป็นคุณหนูเจ้าค่ะฮูหยิน"
เมื่อพวกเขาพบกันอีกครั้ง ฟู่หนานเซียวก็ขจัดความหวาดระแวงและความเย่อหยิ่งให้หมดแล้ว และกอดเมิ่งชิงหนิงอย่างแน่น “กลับมาอยู่กับผมดีมั้ย?” เธอเคยเป็นเลขาของเขา และเป็นคู่นอนของเขาในตอนกลางคืนด้วย ใช้ชีวิตแบบนี้กินเวลาสามปี เมิ่งชิงหนิงทำตามที่เขาบอกโดยตลอด ราวกับสัตว์เลี้ยงที่ว่าง่าย จนกระทั่งฟู่หนานเซียวประกาศว่าเขากำลังจะแต่งงานกับคนอื่น เธอจึงตัดสินใจให้พ้นจากความรักที่ไร้ค่าของตนเองและเตรียมจะจากไป แต่ใครจะไปรู้ว่า มีเหตุไม่คาดคิดเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ความพัวพันของเขา การตั้งครรภ์ของเธอ และความโลภของแม่เธอค่อยๆ ผลักเธอลงสู่นรก สุดท้ายก็โดนทรมานอย่างหนัก เมื่อเธอกลับมาในอีกห้าปีต่อมา เธอก็ไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไป แต่เขาตกอยู่ในความบ้าคลั่งห้าปี
ชีคชามิล บิน ไซฟูติน ชีคหนุ่มจากแดนไกลที่หลงรักสาวน้อยหน้าหวานดวงตาสวยแปลกเพื่อนรักของน้องสาว อญู่ร่า อิลฮัม หญิงสาวชาวไทยที่แอบหลงรักเพื่อนพี่ชายมานานแสนนาน แต่การพบเจอกันทำให้เขายื่นข้อเสนอที่ทำให้หญิงสาวโกรธจนหน้าแดงตัวสั่น การที่เธอไม่รับข้อเสนอของเขาก็เพราะหวาดระแวงไม่ไว้ใจ ดูเขาทำกับเธอก่อนหน้าสิ แล้วแบบนี้จะให้เธอหน้าชื่นตาบานรับข้อเสนอที่อาจมีอะไรแอบแฝงของเขาหรือไง “หม่อมฉันจะลองฟังข้อเสนอของพระองค์ดู แต่ไม่ได้หมายความว่าหม่อมฉันจะอยากรับข้อเสนอของฝ่าบาทหรอกนะเพคะ” อญู่ร่าบอกอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงมั่นคง “เราจะใช้หนี้ให้พ่อของเจ้าทั้งหมด แลกกับการที่เจ้าต้องไปเป็นนางบำเรอของเราสามเดือน” “นางบำเรอ!!!” อญู่ร่าผุดลุกขึ้นยืนด้วยความโมโหจัด เขาจะดูถูกเธอมากไปแล้วนะ!