U3 - หม่ามี๊อย่าแต่งตัวโป๊ได้ไหมครับ บอกแล้วไงว่าผมหวง...
• ACTION •
ซู่!!
เสียงฝนเทลงมาเป็นสาย ทำให้เด็กสาวที่เพิ่งกลับจากขายของที่ตลาดนัด ต้องหาที่หลบฝนก่อนจะกลับไปยังบ้านเด็กกำพร้า ที่เธออาศัยเป็นที่หลับนอนตั้งแต่จำความได้
@ป้ายรถเมย์ 19.50น.
“ตกอะไรตอนนี้เนี่ย จะถึงอยู่แล้วเชียว” เสียงเค้กเด็กสาววัยสิบแปดปี พูดบ่นกับฝนที่ตกในช่วงฤดูของมัน ซึ่งเธอก็ลืมพกร่มมาเหมือนทุกวัน จึงต้องอาศัยหลบฝนอยู่ที่ป้ายรถเมย์เป็นการชั่วคราว เพื่อรอฝนซา
โชคดีนะที่ไม่ได้รอคนเดียว...
เค้กหันไปเห็นว่ามีสองแม่ลูกยืนหลบฝนอยู่ที่ชายคาป้ายรถเมย์นี้ด้วย จึงเกิดความสบายใจขึ้น...
“หนู..”
“คะ?” เค้กหันไปเมื่อหญิงสาวคนที่นั่งอยู่ข้างๆ หันมาเรียกเธอ
“น้าฝากลูกชายแป๊ปนึงได้ไหม น้าจะวิ่งไปเอากระเป๋าที่วางไว้ฝั่งนู้นน่ะ เดี๋ยวน้ารีบกลับมา” เธอพูดด้วยสีหน้าเป็นกังวล
“อ๋อได้ค่ะ เดี๋ยวหนูดูให้” เธอตอบรับไปทันทีด้วยความมีน้ำใจ
“ขอบใจมากนะจ๊ะ” เธอขอบใจเด็กสาวก่อนหันมาพูดบอกลูกชายวัยสามขวบ “อยู่กับพี่เขานะมียู”
หนุ่มน้อยพยักหน้าตอบรับคำสั่งของแม่ ก่อนจะมองตามแม่ที่วิ่งหายเข้าสายฝนไป...
“มานั่งข้างพี่สิ เดี๋ยวแม่ก็มา” เค้กพูดบอกกับหนุ่มน้อยที่นั่งนิ่งไม่รู้ความให้ขยับเข้ามานั่งใกล้เธอ ซึ่งเด็กน้อยก็ทำตามคำสั่งนั้นอย่างไม่ดื้อดึง
เขาจับมือพี่สาวใจดีคนข้างๆ ไว้แน่น เพราะกลัวกับบรรยากาศรอบข้างที่ไม่คุ้นชิน
“กลัวฝนเหรอ? ไม่ต้องกลัวนะ แม่หนูข้ามไปเอาของฝั่งนู้นแป๊ปเดียว เดี๋ยวก็กลับมาแล้ว” เธอกุมมือหนุ่มน้อยตอบกลับ เพื่อไม่ให้เขาหวาดกลัว
แต่เมื่อเวลาผ่านไปนานเกือบครึ่งชั่วโมง เด็กสาวที่นั่งอยู่กับหนุ่มน้อย ก็เริ่มชะเง้อคอมองหา หญิงสาวที่วิ่งหายเข้าสายฝนไป
“หนาวหรือเปล่า?”
“...” หนุ่มน้อยพยักหน้าตอบกลับเสียงหงอย มือก็ไม่ปล่อยจากมือของพี่สาวคนใจดี
“ในกระเป๋าได้พกเสื้อมาหรือเปล่า?” เค้กเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าหนุ่มน้อยสะพายกระเป๋าเป้ใบหนึ่งไว้ที่ด้านหลัง ซึ่งเมื่อหนุ่มน้อยได้ยินคำถามนั้นก็ถอดกระเป๋ายื่นให้กับเค้กดู เพราะตนก็ไม่รู้ว่าผู้เป็นแม่นั้นใส่อะไรมาให้บ้างในกระเป๋าใบเล็กนั้น
“ไม่เห็นมีเลย มีแต่ซองเอกสารอะไรก็ไม่รู้” เธอเงยหน้ามองเด็กหนุ่มที่นั่งตัวสั่น ก่อนจะตัดสินใจอุ้มหนุ่มน้อยมานั่งบนตัก และใช้กระเป๋าใบเล็กนั้นคุ้มกันเขาจากความเหน็บหนาว พร้อมกับเสียสละอ้อมกอดอุ่นให้หนุ่มน้อยได้ซุกกอด
“อุ่นขึ้นไหม?”
“...” พยักหน้าพร้อมยิ้มเล็กๆ ให้กับพี่สาวใจดี
“ชื่ออะไรเหรอ?”
“...”
“กลัวพี่เหรอ?”
“...มียูครับ ผมชื่อมียู”
“ชื่อเท่ห์จัง^^”
เวลาผ่านไปจนแล้วจนเล่าแม่ของหนุ่มน้อยก็ยังไม่กลับมา สายฝนที่ตกหนักก็เริ่มซาลงจนเริ่มเห็นความสว่างบนท้องถนน และเห็นรถที่วิ่งผ่านไปผ่านมาอย่างชัดเจนขึ้น
“ทำไมยังไม่มาอีกเนี่ย?” เด็กสาวเริ่มเป็นกังวลและไม่รู้ว่าต้องจัดการอย่างไรกับปัญหาที่เกิดขึ้น จึงได้แต่นั่งรออยู่เช่นนั้น จากเวลาสองทุ่มยาวไปจนเกือบถึงเที่ยงคืน
@สถานีตำรวจ...
เธอพามียูมาส่งไว้ที่นี่ เพราะคิดว่าตำรวจน่าจะช่วยตามหาแม่ให้กับหนุ่มน้อยได้ แต่พอเธอกำลังจะเดินจากที่ตรงนั้นมา กลับมีมือน้อยที่รั้งมือของเธอไว้
“พี่ต้องกลับบ้านแล้ว มียูอยู่กับคุณตำรวจนะ เดี๋ยวแม่ก็มารับ” เค้กนั่งลง และพูดบอกกับหนุ่มน้อยที่น้ำตาเอ่อคลอเพราะความหวาดกลัว แต่ถึงไม่อยากจะทิ้งเขาไว้ที่นี่ เธอก็ต้องทำแบบนั้นอยู่ดี
@บ้านเด็กกำพร้า 3วันต่อมา
ในช่วงสามวันที่ผ่านมา ฉันนอนไม่หลับเลย เอาแต่คิดถึงหน้าเด็กคนนั้น น้องคงหวาดกลัวมาก “จะได้เจอกับแม่หรือยังนะ ขออย่าให้โดนทิ้งเหมือนฉันเลย”
เธอพูดถึงความหลังหน้าเศร้าของตัวเอง ก่อนจะเตรียมตัวออกไปขายของที่ตลาดเหมือนกับทุกวัน
เค้กเป็นเด็กขยัน และเธอก็เลือกที่จะมุ่งมั่นกับความรวย เพื่อชีวิตที่ดีขึ้น เธอมีความคิดนั้นตั้งแต่อายุสิบห้าปี และออกไปขายของที่ตลาดนัดอย่างสม่ำเสมอ และหวังว่าวันนึงเธอจะได้ออกจากที่บ้านเด็กกำพร้านี้ และไปมีชีวิตที่ดีกว่า …ชีวิตที่เธอวาดฝันไว้
“มาได้ไง?!” เธอหันไปเห็นว่าหนุ่มน้อยที่เจอกันที่ป้ายรถเมย์เมื่อสามวันก่อนยืนมองเธออยู่ใกล้ๆ
“น้องเพิ่งมาใหม่นะ เห็นว่าพ่อแท้ๆ เสีย แล้วแม่เลี้ยงก็พาไปทิ้งไว้ที่ป้ายรถเมย์ ช่วยๆ กันดูด้วยนะเค้ก” เสียงผู้ดูแลเด็กในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ที่เด็กๆ ที่นี่ต่างเรียกว่า ‘แม่’ พูดบอกกับเค้กที่ยืนทำหน้าสงสัย
“คะ ค่ะแม่”
ปุก!
หนุ่มน้อยวิ่งเข้ามากอดเค้กด้วยความดีใจ พร้อมกับยิ้มให้เธอทั้งน้ำตา เพราะรู้สึกดีใจที่ได้เจอพี่สาวใจดีคนนั้น...
“ทิ้งลงได้ยังไงนะ?” เค้กพูดขึ้นในขณะที่ลูบหัวหนุ่มน้อยเบาๆ อย่างสงสารและเห็นใจ ที่เขาต้องมาเจอชะตากรรมที่คล้ายกันกับเธอ
@15ปีต่อมา
ภาพสาวสวยวัยสามสิบสามปีในบ้านหลังใหญ่ เธอกำลังแต่งตัวสวยเพื่อที่จะออกไปเที่ยวสังสรรค์กับเพื่อนสาว
ในเวลานี้เค้กไม่ได้เป็นเด็กกำพร้าที่วิ่งขายน้ำหอมตามตลาดนัดอีกต่อไปแล้ว เพราะปัจจุบันเธอเป็นCEOน้ำหอมแบรนด์ดัง และขายดีติดต่อกันมาถึงหกปี สร้างรายได้ให้เธอมหาสาร จนเธอกลายเป็นเศรษฐี มีเงินใช้และกินอยู่สบายอย่างที่เธอวาดฝันไว้
“หม่ามี๊จะออกไปไหนครับ?” เสียงห้าวแตกหนุ่มของมียู เด็กหนุ่มวัยสิบแปดที่เค้กรับเข้ามาอยู่ที่บ้านด้วย ในฐานะลูกบุญธรรม เมื่อแปดปีก่อน
เพราะเหตุผลที่ว่ามียูนั้นคอยตามติดเธออยู่ตลอด จนวันที่เธอย้ายออกจากบ้านเด็กกำพร้า เขาก็เริ่มแสดงความก้าวร้าวเพื่อเรียกร้องความสนใจจากเธอ จนในที่สุด เธอต้องไปรับมาอยู่ในความดูแล
“จะออกไปเที่ยว เดี๋ยวมา”
“เปลี่ยนชุดก่อนครับ บอกกี่ทีแล้วว่าอย่าแต่งตัวโป๊” เขาพูดพร้อมกับมองชุดเดรสสีชมพูสุดเซ็กซี่ที่เธอใส่อย่างไม่ชอบใจ
“ฉันโตแล้วนะ!”
“หม่ามี๊อย่าแต่งตัวโป๊ได้ไหมครับ บอกแล้วไงว่าผมหวง...”
(คอมเมนท์ขึ้นเร็วไรท์มาอัปให้อีก ขอคนละหนึ่งคอมเมนท์เพื่อเป็นกำลังใจนะครับ)
--------------------------------------------------------------------------
[ติดตามตอนต่อไป] - [Follow the next episode]
[-กดใจ -เพิ่มเข้าชั้น -คอมเมนท์ให้กำลังใจ และฝากกดติดตามไรท์ด้วยนะครับ🙏]
S2(ต่อจากเรื่อง ไอมาเฟียนั่นเมียกู) เรื่องราวความรักของคู่ยูมิ และโจอิ น้องชายตัวแสบของโจดิน
U7 - ฉันเพิ่งมารู้ว่าเด็กที่ฉันถูกว่าจ้างให้อุ้มบุญ เป็นลูกของแฟนเก่าที่เลิกกันไปเมื่อสองปีก่อน… (ผู้ชายที่เขาไม่เคยรักฉัน)
เพื่อนของผมดันหาเด็กสาวมาเป็นติวเตอร์ให้ แถมเธอก็กำลังแตกเนื้อสาวซะด้วย ( ความใสซื่อของเธอทำให้ผมสับสนเรื่องตามไปง้อเมียที่เมืองนอกแล้วทำไงดี )
คู่หมั้นของ ‘โจดิน’ มาเฟียผู้ยิ่งใหญ่ ดันเป็น ’ยูมิ’ แฟนสาวผู้อ่อนแอของ ’นิเณอ’ หญิงแกร่งใจกล้า และบุคลิกของเธอมันก็ดันเข้าตาเขาเต็มๆ จนอยากได้เธอมาเป็นเมียแทน…
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
เพิ่งหย่ากับอดีตสามีไปไม่นานแต่ปรากฏว่าตัวเองท้อง จะทำอย่างไรดี? หรือจะให้อดีตสามีรับผิดชอบ แต่ก็ไม่คิดว่าอดีตสามีมีคนรักใหม่ไปแล้ว ชีวิตของถังชีชีนั้นช่างสับสน ช่างน่าวิตกกังวลและไม่รู้จะอธิบายยังไงดี เธอต้องคอยระวังไม่ให้คุณเฟิงรู้เรื่องการตั้งครรภ์จนกระทั่งคลอดลูกออกมาอย่างปลอดภัย แต่ไม่คิดว่าจะถูกเขาบังคับถึงเพียงนี้ "เราหย่ากันแค่สี่เดือน แต่เธอกลับตั้งครรภ์ได้เจ็ดเดือนแล้ว บอกมาดี ๆ ว่า ลูกเป็นของใคร!"
เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"
ในสายตาของเขา เธอเป็นคนขี้โกหก ในสายตาของเธอ เขาเป็นคนไร้หัวใจ เดิมทีถังหว่านคิดว่าเธอคือคนพิเศษหลังจากอยู่กับเสิ่นติงหลานมาสองปี แต่สุดท้ายก็พบว่าตัวเองเป็นแค่ของเล่นที่สามารถทิ้งได้อย่างตามใจเมื่อไม่มีค่าอีกต่อไป จนกระทั่งถังหว่านเห็นว่าเสิ่นติงหลานพาคนรักของเขาไปตรวจครรภ์ เธอจึงยอมแพ้แล้ว เธอหยุดติดตามเขาอีก แต่จู่ๆ เขากลับไม่ยอมปล่อยเธอไป "ถ้าคุณไม่เชื่อฉัน ทำไมคุณไม่ปล่อยฉันไปล่ะ?" ชายผู้เคยหยิ่งยะโสขนาดนั้น ตอนนี้ก้มหัวลงและขอร้องว่า "หวานหว่าน ฉันผิดไปแล้ว โปรดอย่าทิ้งฉันไป"
เธอก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่เคยสนใจ แต่ก็ยังดึงดันอยากจะอยู่ใกล้ ต่อให้เธอเป็นเมียแต่งเขาก็คงไม่มีวันเปลี่ยนใจ เพราะเหตุนี้เธอจึงตัดสินใจจากไปในคืนแต่งงาน "จากนี้ไปเราไม่มีอะไรติดค้างกันอีก" 🥀
หลังจากแต่งงานกันมาสองปี สามีของเธอไม่เคยเหยียบเข้าไปในบ้านและมองดู 'ภรรยาขี้เหร่' ของเขาเลย แถมเขาก็มีเรื่องอื้อฉาวกับดาราหน้าใหม่หลายคนทุกวัน ซูเหว่ยทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอตัดสินใจปล่อยเขาไป ต่อไปก็ต่างคนต่างไปเลย แต่เมื่อเธอเสนอเรื่องหย่า... ฟู่เหยียนอันพบว่านักออกแบบในบริษัทนั้นสะดุดตาเป็นพิเศษ เขาค่อยๆ ทำความรู้จักกับเธอเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาค้นพบตัวตนที่แท้จริงของเธอเข้า เขาเสียใจแล้ว