U4 - ถ้ารอบนี้อาจารย์ให้เอฟหนูอีกเจอดีแน่! / ดี.. งั้นเอาเอฟไปเลย
U4 - ถ้ารอบนี้อาจารย์ให้เอฟหนูอีกเจอดีแน่! / ดี.. งั้นเอาเอฟไปเลย
• ACTION •
“ถ้าปีนี้แกเรียนไม่จบ เตรียมตัวเก็บข้าวของออกไปจากบ้านฉันได้เลย” เสียงคุณพ่อขาโหดพูดบอกกับลูกสาวตัวแสบ ที่ไม่ตั้งใจเรียนจนได้เรียนซ้ำเพื่อแก้รายวิชาที่ติดเอฟ
“รู้แล้วน่า” เซนตอบกลับพ่อของเธอด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์นัก เมื่อได้ยินเสียงผู้เป็นพ่อบ่นอุบ ในเช้าที่เธอกำลังจะออกไปมหาลัย
หน้าคฤหาสน์หลังใหญ่...
“เพราะไอแว่นตัวเดียวเลย”
สาวสวยที่กำลังยืนรอรถแท็กซี่อยู่ที่หน้าคฤหาสน์หลังใหญ่ พูดขึ้นอย่างไม่พอใจ เพราะชีวิตที่เคยสุขสบายของเธอนั้นต้องมาตกอับ และเขาที่เธอพูดถึงก็เป็นอาจารย์คู่แค้นที่ทำให้เธอติดเอฟ จนต้องกลับมาเรียนแก้ใหม่อีกครั้ง พร้อมกับรุ่นน้อง
แถมเธอยังต้องโดนพ่อดุด่าอยู่ทุกวี่วัน หนำซ้ำเธอยังถูกผู้เป็นพ่อยึดรถสปอร์ตคันหรูไว้อีกต่างหาก บัตรเครดิตที่เคยได้ใช้แบบไม่จำกัดวงเงิน ตอนนี้ก็มีไว้ให้ใช้อย่างจำกัด เธอจึงโทษความเฮงซวยที่เกิดขึ้นกับชีวิตของเธอนี้ ว่าเป็นความผิดของอาจารย์ ‘ปฐพี’
“ถ้าปีนี้แกทำให้ฉันเรียนซ้ำอีก แว่นแกแตกแน่...”
แม้ว่าเขาจะมีอายุมากกว่าเธอเป็นสิบปี แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เธอเคารพเขาอย่างที่ควรจะทำเลย เพราะความหยิ่งทะนงและอวดดีของเธอ ที่ไม่ยอมก้มหัวให้ใครและคิดว่าเงินจะแก้ปัญหาให้เธอได้ทุกอย่าง...
ณ.มหาลัย...
เซนมาดักรออาจารย์ ‘ปฐพี’ อยู่ที่หน้าคณะตั้งแต่เช้า เพื่อที่จะคุยข้อตกลงเรื่องเอฟที่เธอไม่ต้องการ
“ขอคุยด้วยหน่อย” เซนรีบวิ่งเข้ามาขวางหน้าอาจารย์ไว้ทันทีอย่างไร้มารยาท และนั้นก็ทำให้คนที่ไม่ชอบเธอเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ยิ่งเกลียดขี้หน้าเธอเข้าไปใหญ่
“ฉันรีบไปสอน..” คนหน้านิ่งเจ้าของแว่นเฉิ่มพูดบอกกับนิสิตสาวอย่างไม่เต็มใจคุยด้วย
เธอเบี่ยงมาขวางทางเขาไว้ เมื่อเห็นว่าคนตัวสูงกำลังจะเดินหนีเธอไป...
“อาจารย์ต้องการเท่าไหร่” เซนยิงคำถามที่ดูถูกเขา ซึ่งมันก็ทำให้อีกคนไม่พอใจเป็นอย่างมาก แต่ก็ต้องเก็บกั้นอารมณ์โกรธนั้นไว้
“เก็บเงินของเธอไว้ แล้วกลับไปตั้งใจเรียนซะลชิตา...” อาจารย์พูดจบก็ผลักไหล่ของสาวสวยเต็มแรงเพื่อต้องการให้เธอหลบทาง
“ถ้ารอบนี้อาจารย์ให้เอฟหนูอีก เจอดีแน่!” เธอตะโกนสุดเสียงด้วยความโกรธแค้น
“ดี.. งั้นเอาเอฟไปเลย”
“อาจารย์!!”
ผมไม่คิดว่าการเจรจากับเธอด้วยเหตุผลจะเป็นสิ่งที่ควรทำ เพราะยัยเด็กน่ารำคาญนั้นไม่มีสมอง พูดด้วยก็เสียเวลาเปล่า...
ช่วงเย็นของวัน...
พอผมสอบคาบสุดท้ายเสร็จ ก็กะว่าจะรีบกลับบ้านไปเคลียร์งาน เพื่อจะได้พักผ่อนในวันพรุ่งนี้ที่เป็นวันหยุดให้เต็มที่
สภาพอาการที่มืดฟ้ามัวดิน ทำให้อาจารย์ที่เดินออกมาจากตึก ต้องรีบวิ่งมาที่รถเก๋งของตัวเอง และขับออกจากมหาลัยมุ่งสู่บ้านพักที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลนั้น จนไม่ทันสังเกตเห็นว่ามีแท็กซี่ขับตามเขามาตั้งแต่มหาลัย ซึ่งในรถคันนั้นก็ไม่ใช่ศัตรูที่ไหน แต่เป็น ‘ยัยตัวแสบ’ ที่ตามป่วนเขาเมื่อเช้านั่นเอง
อาจารย์หนุ่มที่เพิ่งจอดรถเสร็จ ยังไม่ทันได้เดินเข้าบ้าน ก็มีเสียงกดกริ่งดังขึ้นหยุดเขาไว้ซะก่อน
กริ๊ง!
บ้านผมไม่เคยมีแขกที่ไหนเข้ามาเลย หากไม่ใช่คนที่รู้ที่อยู่ผมจริงๆ นั่นคือเจ้านายเก่า แต่เมื่อเปิดประตูออกก็ต้องหัวเสีย ที่เห็นว่าเป็นยัยเด็กบ้านี่...
“มาทำไม?”
“มาคุยธุระค่ะ” เธอเดินเข้ามาด้านในรั้วบ้านหน้าตาเฉย ก่อนจะโดนเจ้าของบ้านจับโยนออกไปทันทีทันควัน
ปุก!
“กลับบ้านไปแล้วอย่ามาที่นี่อีก” ปึก! เขาเปิดประตูไล่เธออย่างไม่แยแส
“อาจารย์!!” เสียงโวยวายนั้นยังคงดังอยู่ตลอด จนเสียงนั้นเงียบหายไปเพราะเสียงฝนที่เทลงมากลบเสียงน่ารำคาญนั้นจนสนิท
อาจารย์หนุ่มเริ่มทำงานที่ค้างคาอยู่ โดยไม่สนว่าฝนจะตกหนักแค่ไหน และไม่สนด้วยว่าเธอจะยังอยู่หน้าบ้านหรือว่าถอดใจกลับไปแล้ว เพราะเขามีสิ่งที่สำคัญกว่า คืองานที่ค้างอยู่...
ไฟของทั้งบ้านหรูเริ่มเปิดสว่างขึ้น บ้านที่เขาซื้อมาด้วยน้ำพักน้ำแรง ชีวิตใหม่ที่ขาวสะอาด ต้องแรกมาด้วยเลือดด้วยเนื้อ กว่าจะมีชีวิตธรรมดาเช่นทุกวันนี้ได้
แม้ว่าจะเลือกทางเดินใหม่ให้กับชีวิตแล้ว แต่ผมก็ยังไม่เลิกหวาดระแวง และยังทิ้งสัญชาตญาณของความเป็นตัวตนนั้นไปไม่ได้สักที...
งานยุ่งๆ ของการเป็นอาจารย์ และชีวิตใหม่นี้มันทำให้ผมลืมเรื่องเลวร้ายในอดีตที่ผมเคยกระทำไว้ได้บ้าง แต่มันก็เพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งผมก็ไม่สามารถที่จะนอนหลับได้อย่างสนิทใจ จึงต้องพึ่งแอลกอฮอล์เป็นตัวช่วยให้หลับไปในทุกคืน เพราะไม่อย่างนั้นผมจะถูกบางสิ่งคอยตามหลอกหลอนอยู่ทุกคืน ‘อดีต’ ที่แสนเน่าเฟะของผม
เพร้ง!!
เสียงกระจกแตกที่ชั้นล่างของบ้าน เรียกให้เขาที่นั่งทำงานอยู่ชั้นบนต้องหยุดมือ และรีบลงมาดู ว่าเสียงนั้นเป็นเพียงผลกระทบจากลมพายุ หรือมีผู้บุกรุกเข้ามาในบ้านเขากันแน่
ชายหนุ่มร่างสูงคว้าอาวุธปืนคู่ใจติดมือลงไปด้วย เพื่อป้องกันตัวเอง แต่เมื่อลงมาถึงชั้นล่างของบ้านก็ต้องลดอาวุธลง และเก็บแอบไว้ทางด้านหลัง
เพราะภาพที่เห็นตรงหน้านั้น ทำเขาแทบเป็นบ้าที่เห็นว่าสาวแสบในชุดนักศึกษาทุบกระจกหน้าต่างบุกเข้ามาในบ้าน
เนื้อตัวเปียกซ่ก เลือดที่อาบแขนของเธอมันไม่ทำให้เขาเห็นใจเธอเลยสักนิด หนำซ้ำยังอยากจับเธอฉีกเป็นชิ้นๆ อีกต่างหาก
“ลชิตา! เธอทำบ้าอะไร!?”
--------------------------------------------------------------------------
[ติดตามตอนต่อไป] - [Follow the next episode]
[-กดใจ -เพิ่มเข้าชั้น -คอมเมนท์ให้กำลังใจ และฝากกดติดตามไรท์ด้วยนะครับ🙏]
S2(ต่อจากเรื่อง ไอมาเฟียนั่นเมียกู) เรื่องราวความรักของคู่ยูมิ และโจอิ น้องชายตัวแสบของโจดิน
U7 - ฉันเพิ่งมารู้ว่าเด็กที่ฉันถูกว่าจ้างให้อุ้มบุญ เป็นลูกของแฟนเก่าที่เลิกกันไปเมื่อสองปีก่อน… (ผู้ชายที่เขาไม่เคยรักฉัน)
เพื่อนของผมดันหาเด็กสาวมาเป็นติวเตอร์ให้ แถมเธอก็กำลังแตกเนื้อสาวซะด้วย ( ความใสซื่อของเธอทำให้ผมสับสนเรื่องตามไปง้อเมียที่เมืองนอกแล้วทำไงดี )
คู่หมั้นของ ‘โจดิน’ มาเฟียผู้ยิ่งใหญ่ ดันเป็น ’ยูมิ’ แฟนสาวผู้อ่อนแอของ ’นิเณอ’ หญิงแกร่งใจกล้า และบุคลิกของเธอมันก็ดันเข้าตาเขาเต็มๆ จนอยากได้เธอมาเป็นเมียแทน…
พวกเขาไม่รู้ว่าฉันเป็นผู้หญิง พวกเขามองฉันและเห็นฉันเป็นเด็กผู้ชาย เป็นเจ้าชาย คนนหึ่ง พวกเขาซื้อมนุษย์อย่างฉันเพื่อตอบสนองความต้องการทางเพศ และเมื่อพวกเขาบุกเข้ามาในอาณาจักรของเราเพื่อซื้อพี่สาวของฉัน เพื่อปกป้องเธอ ฉันหมดหนทาง จึงต้องเข้าไปขอร้องให้พวกเขาพาฉันไปด้วย แผนของฉันคือหาโอกาส จะพาพี่สาวหนีไป แต่ฉันไม่คาดคิดว่าคุกของเราจะเป็นสถานที่ที่มีการป้องกันมากที่สุดในอาณาจักรของพวกเขา แต่เดิมฉันเป็นคนที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เป็นคนที่พวกเขาไม่ต้องการ พวกเขาไม่เคยคิดจะซื้อ เลย แต่แล้ว ราชาผู้ยิ่งใหญ่ที่ไร้ความปรานี บุคคลที่มีอำนาจที่สุดในดินแดนป่าเถื่อนของพวกเขากลับสนใจใน "เจ้าชายน้อยผู้น่ารัก" เราจะเอาชีวิตรอดในอาณาจักรที่อันตรายนี้ได้อย่างไร และเผชิญหน้ากับผู้คนที่ไม่เป็นมิตรกับเรายังไง และคนที่มีความลับอย่างฉันจะกลายเป็นทาสแห่งความต้องการทางเพศได้อย่างไร . หมายเหตุของผู้เขียน นี่คือนิยายรักแนวดาร์ก เนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่ เรตติ้งสูง 18+ เตรียมพบกับเนื้อหาที่กระตุ้นอารมณ์และเข้มข้นได้เลย หากคุณเป็นนักอ่านตัวยงของแนวนี้ที่กำลังมองหาอะไรที่แตกต่าง พร้อมที่จะอ่านแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัวโดยไม่รู้ว่าจะเจออะไรใหม่ๆ บ้าง แต่ก็อยากรู้เพิ่มเติมอยู่ดีล่ะก็ รีบอ่านเลย! . จากผู้เขียนหนังสือขายดีระดับนานาชาติเรื่อง "ทาสผู้เกลียดชังของราชาอัลฟ่า"
หลังผ่าตัดนักพรตเฒ่าผู้หนึ่งนั้น นางวูบหมดสติและเสียชีวิตลงไป ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที ก็อยู่ในร่างของคุณหนูปัญญาอ่อนที่มีชื่อเดียวกันผู้นี้เสียแล้วทั้งยังจำอดีตชาติยามเป็นปรมาจารย์เต๋าได้อีกด้วย +++ 1 : ไล่ออกจากอารามไท่ผิงกวน แคว้นจิ้น ราชวงศ์เซวียน อารามไท่ผิงกวน “ไป ๆ อาจารย์ขับไล่พวกท่านออกจากอารามแล้ว อย่าได้มาเหยียบที่นี่อีก” “ศิษย์พี่รองรีบปิดประตูเร็วเข้า !” ตุบ ! ห่อผ้าสองห่อถูกโยนออกมาจากประตูอาราม ปัง ! ตามด้วยเสียงปิดประตูลงสลักอย่างหนาแน่น สตรีนางหนึ่งยืนตัวตรงเป็นสง่า เสื้อผ้ากับเส้นผมของนางปลิวไสวดั่งไผ่ลู่ลม หลินซือเยว่เงยหน้าขึ้นมองป้ายชื่ออารามไท่ผิงกวนด้วยสายตาเลื่อนลอย อาศัยอยู่ที่นี่มานานเท่าใดแล้วนะ บางครั้งนางเองก็ลืมเลือนวันเวลาไปเหมือนกัน “คุณหนูเจ้าคะ ศิษย์น้องทั้งสองของท่านทำเกินไปแล้วนะเจ้าคะ เหตุใดถึงไล่พวกเราสองคนออกจากอารามได้เล่า” เผิงฉือกระทืบเท้าเบา ๆ ตรงไปฉวยห่อผ้าทั้งสองบนพื้น ขึ้นมาคล้องแขนตัวเองไว้ “หากไม่ได้รับคำสั่งจากอาจารย์ ศิษย์น้องทั้งสองคงไม่กล้าขับไล่ข้าออกจากอารามหรอก” น้ำเสียงของนางสงบนิ่งฟังแล้วสบายหูยิ่งนัก หาได้มีความโกรธเกลียดแต่อย่างใด “นั่นรถม้า” นิ้วเรียวสวยชี้ไปยังรถม้าคันที่มีคนนั่งเฝ้าอยู่ “ป้าเผิงไปถามดูว่าใช่รถม้าของเราหรือไม่” เผิงฉือไม่รอช้ารีบตรงไปหาคนเฝ้ารถม้าที่อยู่ใต้ต้นไผ่ในทันที ไม่ช้านางก็กลับมาพร้อมกับรอยยิ้มนิด ๆ “เป็นรถม้าของเราจริง ๆ เจ้าคะคุณหนู คนขับบอกว่าเป็นคนของตระกูลหลินเจ้าค่ะ ได้รับคำสั่งจากท่านพ่อของคุณหนู ให้มารับคุณหนูกลับตระกูลหลินเพื่อไปแต่งงานเจ้าค่ะ” “กลับไปแต่งงานนี่เอง” นางเอ่ยเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ หันหลังกลับไปทางประตูอาราม ประสานมือค้อมตัวคำนับลาอาจารย์ เผิงฉือเห็นเช่นนั้นก็อดที่จะคำนับตามนางไม่ได้ ภายในอารามไท่ผิงกวน “อาจารย์เหตุใดถึงไม่บอกลากับศิษย์พี่ใหญ่ไปตรง ๆ ล่ะ ทำเช่นนี้นางไม่โกรธท่านไปจนวันตายเลยรึ” เหอกุ้ยแม้มีอายุยี่สิบแปดปีแล้ว ทว่าเขากราบเป็นศิษย์เจ้าอาวาสชุนหวังเหล่ยหลังสตรีผู้นั้น จึงได้เป็นเพียงแค่ศิษย์พี่รองเท่านั้น “นั่นสิอาจารย์ ศิษย์พี่ใหญ่นางไม่เคยออกจากอารามไปไหนไกล ท่านทำเช่นนี้ไม่ใช่ขับไล่นางไปสู่ความตายหรอกรึ” จางเจียเฟิ่งเห็นด้วยกับศิษย์พี่รองของเขา “ให้มันน้อย ๆ หน่อยเจ้าศิษย์โง่ทั้งสอง พวกเจ้าคิดว่าอารามไท่ผิงกวนแห่งนี้ สามารถอยู่รอดมาได้เพราะใครกัน หากไม่ใช่เพราะฝีมือของศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้า เห็นนางเงียบ ๆ แบบนั้น ความคิดนางกว้างไกลยิ่งนัก อาจารย์อย่างข้ายังเทียบนางไม่ติดด้วยซ้ำไป” เจ้าอาวาสชุนปีนี้อายุอานามปาเข้าไปหกสิบห้าปีแล้ว ทว่าร่างกายยังแข็งแรง อารามเต๋าแห่งนี้มีวิถีแบบไม่เคร่งครัด ใช้ชีวิตเยี่ยงฆราวาสผู้หนึ่ง สามารถแต่งงานมีครอบครัวได้ “อาจารย์นางอยู่ในอารามวาดยันต์กันภัยให้ชาวบ้านที่มากราบไหว้ ตั้งโต๊ะรักษาโรคภัยให้ผู้คนในตัวอำเภอฝู แต่หนนี้นางต้องกลับบ้านไปเพื่อแต่งงาน นางบริสุทธิ์ถึงเพียงนั้นมิถูกสามีจับกลืนกินจนไม่เหลือกระดูกหรอกรึ” เหอกุ้ยนึกภาพเทพเซียนผู้สูงส่งอย่างหลินซือเยว่ หากต้องร่วมเตียงกับบุรุษหยาบกระด้าง เพียงเท่านั้นเขาก็ทำใจไม่ได้จริง ๆ แทบอยากจะไปแย่งตัวศิษย์พี่ใหญ่ของตัวเองกลับคืนมา “เลิกคร่ำครวญได้แล้ว กลับไปกวาดลานอารามกับตรวจดูน้ำมันตะเกียงให้เรียบร้อย ศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้าไม่อยู่ เจ้าทั้งสองต้องรีบร่ำเรียนศึกษาหาความรู้ อารามไท่ผิงกวนจะได้เจริญรุ่งเรืองในภายภาคหน้าต่อไปได้” เจ้าอาวาสชุนทำเสียงดังใส่ลูกศิษย์ทั้งสอง “ไป ๆ ข้าจะสวดมนต์” โบกมือไล่ทั้งคู่ให้ออกจากห้องสวดมนต์ไป เจ้าอาวาสชุนรีบลุกไปปิดประตูลั่นกลอน ท่าทางลุกลี้ลุกลนจนผิดปกติ ย่องเบา ๆ ไปที่ใต้เตียงนอน ดึงหีบไม้เก่าเก็บออกมา ครั้นกดสลักเปิดออก ก็พบตั๋วเงินจำนวนสามพันตำลึงอยู่ในนั้น ตระกูลหลินที่ไม่ได้บริจาคน้ำมันตะเกียงมาหลายปี จู่ ๆ ก็ส่งตั๋วเงินมาให้ พร้อมกับขอรับคนกลับไปเพื่อแต่งงาน ช่วงนี้ชาวบ้านมาทำบุญที่อารามน้อยลง หลินซือเยว่ก็ไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้นกับนาง ถึงไม่ยอมลงจากอารามไปรักษาผู้คน รายได้เลยหายหดแทบจ่ายอาหารการกิน(สุรานารี)ไม่พอ ตั๋วเงินสามพันตำลึงนี่มาได้ทันเวลาพอดี ! แครก ๆ ๆ ๆ เสียงกวาดลานหน้าอารามดังขึ้นพร้อมกับเสียงบ่นของเหอกุ้ย “ข้ารู้ว่านางเก่งเอาตัวรอดได้ ข้าเพียงไม่อยากให้นางไปก็เท่านั้น” “ศิษย์พี่รองท่านอย่าได้เสียใจไปเลย ไม่ใช่ว่ามีแต่นางที่ต้องแต่งงานมีครอบครัว ท่านเองก็เถอะที่บ้านส่งคนมารับทุกปีไม่ใช่รึ” จางเจียเฟิ่งรู้ดีว่าตนและเหอกุ้ย ถูกครอบครัวลงโทษด้วยการส่งมาอยู่ยังอารามแห่งนี้ ทว่าเพียงชั่วคราวเท่านั้น “ตัวข้านั้นไม่เป็นไรหรอก เจ้านั่นแหละศิษย์น้องสาม ข้าได้ยินว่าที่บ้านของเจ้า เพิ่งหาคู่หมั้นหมายคนใหม่ให้เจ้าอีกคนแล้วไม่ใช่รึ” สองศิษย์พี่น้องหยุดกวาดลานอาราม แล้วหันหน้าไปมองตากัน จากนั้นพวกเขาก็ถอนหายใจดัง ๆ พร้อมกัน ไม่มีศิษย์พี่ใหญ่อยู่ด้วย นับจากนี้ไปยามทำความผิดใครจะออกหน้าคอยช่วยเหลือ ยามเงินหมดใครจะให้หยิบยืม ยิ่งคิดพวกเขาก็ยิ่งไม่สบายใจเป็นอย่างมาก บนถนนมุ่งหน้าสู่เมืองหลวง รถม้าไม้ธรรมดาไม่เล็กไม่ใหญ่ ไร้ป้ายชื่อตระกูลบอกกล่าว คล้ายไม่อยากให้ผู้อื่นล่วงรู้ว่าคนที่นั่งอยู่ด้านในเป็นใคร เผิงฉือพยายามหลอกถามคนขับรถม้าอยู่หลายหน ถึงสถานการณ์ของตระกูลหลินในยามนี้ นางไม่เคยไปที่นั่นมาก่อนไม่รู้จักใครสักคน คนขับรถม้าตอบว่า เขามีหน้าที่มารับคุณหนูรองกลับบ้านเท่านั้น เรื่องอื่นนั้นเขาไม่รู้จริง ๆ “ได้ถามหรือไม่ ใช้เวลากี่วันในการเดินทาง” หลินซือเยว่เอ่ยเสียงเนิบ ๆ “ถามแล้วเจ้าค่ะ เขาบอกว่าราว ๆ สิบวันก็ถึงเมืองหลวงแล้ว” “สิบวันเชียวรึ” หลินซือเยว่มองห่อผ้าที่วางอยู่ด้านข้าง มีเพียงของใช้จำเป็นของนางไม่กี่ชิ้น พร้อมกับก้อนเงินจำนวนห้าสิบตำลึง “คงต้องแวะซื้อของในอำเภอฝูเสียก่อน” เผิงฉือรีบเปิดม่านบอกกับคนขับรถม้า แต่เขากลับทำเสียงฮึดฮัดคล้ายไม่พอใจ “เสียเวลาเดินทางเปล่า ๆ” น้ำเสียงเขากระด้างกระเดื่อง
เสิ่นหยวูแต่งงานกับเหอซวี่ที่เป็นสูติแพทย์ตอนอายุยี่สิบสี่ปี สองปีต่อมา เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ห้าเดือนแล้ว เหอซวี่ก็วางแผนแท้งลูกเธอด้วยมือตัวเอง และหย่าร้างกับเธอ ระหว่างช่วงเวลาที่มืดมนเหล่านี้ ตู้หยวุนปรากฏตัวเข้าในชีวิตของเสิ่นหยวู เขาทำดีต่อเธออย่างอ่อนโยน และให้ความอบอุ่นแก่เธออย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็ทำให้เธอต้องเจ็บปวดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนเช่นกัน สุดท้าย เสิ่นหยวูจึงเข้มแข็งขึ้นหลังผ่านพ้นไปกับทุกอย่างแล้ว แต่เมื่อความจริงก็ถูกเปิดเผยในที่สุด เธอจะยอมรับและอดทนได้ไหม? อยู่เบื้องหลังตู้หยวุนผู้ที่หล่อเหลาดูมีเสน่ห์นั้นเป็นใคร?และเมื่อพบคำตอบแล้ว เสิ่นหยวูจะรับมือยังไง ?
ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวของเฉียวซิงเฉินหนีไปกับผู้หญิงอีกคน เธอโกรธมาก จึงสุ่มหาชายคนหนึ่งมาแต่งงานด้วยทันที "ตราบใดที่คุณกล้าแต่งงานกับฉัน ฉันก็ยอมเป็นเมียคุณ" หลังจากแต่งงาน เธอได้ค้นพบว่าสามีของเธอคือลูกชายคนโตของตระกูลลู่ที่ขึ้นชื่อว่าไร้ประโยชน์ ชื่อลู่ถิงเซียว ทุกคนเยาะเย้ยว่า "เธอยนี่ช่วยไม่ได้จริงๆ" และผู้ชายที่ทรยศเธอก็มาเกลี้ยกล่อมว่า "ไม่เห็นต้องทำร้ายตัวเองเพราะฉันหรอก สักวันเธอต้องเสียใจแน่ๆ" เฉียวซิงเฉินหัวเราะเยาะและโต้ตอบว่า "ไปให้พ้น ฉันกับสามีรักกันมาก" ทุกคนต่าก็คิดว่าเธอเป็นบ้า ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อตัวตนที่แท้จริงของลู่ถิงเซียวถูกเปิดเผย ที่แท้เขาเป็นคนรวยอันดับต้นๆในโลก ในการถ่ายทอดสดทั่วโลก ชายคนนี้คุกเข่าข้างเดียว ถือแหวนเพชรมูลค่าหลักพันล้าน และพูดช้าๆ ว่า "คุณภรรยา ชีวิตที่เหลือนี้ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ"
เนี่ยหลิง ตายแบบ งงๆ และได้ไปเกิดใหม่แบบ งงๆ ในโลกลมปราณของผู้ฝึกตนและพร อีก สอง ข้อ พร้อมธนู และลูกธนูหนึ่งชุด แหวนมิติเก็บของหนึ่งวง อย่าถามหา เหตุผล ว่าทำไม เนี่ยหลิงก็ไม่รู้เช่นกัน หวังว่า มันจะดี
หลังจากดูแลสามีมาเป็นเวลาสามปี เมื่อเห็นสามีสอบติดขุนนาง เฉียวชูเยว่ก็นึกว่าชีวิตดีๆ จะมาแล้ว แต่กลับไม่รู้ว่าสามีเป็นคนโลภ และเจ้าชู้ เพื่อจัดการปัญหาให้สามี เฉียวชูเยว่เสียตัวให้กับจักรพรรดิโหดร้ายโดยไม่ได้ตั้งใจ เพื่อชีวิตและอนาคตของสามี นางได้แต่อดทนเอาไว้ จากนั้น สามีของนางก็ได้รับการยกย่องจากจักรพรรดิ และถูกเลื่อนตำแหน่งเรื่อยๆ เมื่อสามีของนางกำลังเพลิดเพลินอำนาจและสาวสวยนั้น นางกำลังรับใช้กับจักรพรรดิอย่าง้อยใจ แต่ไม่คาดคิดว่าความพยายามของนางได้แลกกับใบหย่าจากสามี ในวันแต่งงานของสามี นางถูกฆาตกรไล่ตามและตกลงไปในโคลน เมื่อนางหมดหวังนั้น จักรพรรดิก็มายืนอยู่ตรงหน้านาง "มาเป็นคนของข้าสิ และจะไม่มีใครกล้ารังแกเจ้าอีก!"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด