เธอถูกบังคับแต่งเข้าตระกูลเสิ่น ทุกคนต่างก็คาดหวังว่าเย่ชิงซีจะสามารถให้กำหนดลูกของคุณชายเสิ่น เสิ่นเซียวเหยาได้ ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในอาการหมดสติ เดิมที่เธอคิดว่าเธอคงจะต้องอยู่เป็นหม้ายไปแบบนี้ตลอดชีวิตนี้แล้ว แต่ไม่คิดว่าสามีเจ้าชายนิทราของเธอกลับฟื้นขึ้นมาได้! ชายหนุ่มลืมตาขึ้น จ้องมองไปยังเธอด้วยสายตาที่เย็นชา "คุณเป็นใคร?" "ฉันเป็นภรรยาของคุณ..." เสิ่นเซียวเหยามีสีหน้างุนงง "ทำไมผมถึงจำไม่ได้ว่าผมมีภรรยาแล้ว ผมไม่ยอมรับการแต่งงานนี้ พรุ่งนี้ผมจะให้ทนายมาจัดการเรื่องหย่า" ถ้าไม่ใช่เพราะคนในตระกูลเสิ่นเข้ามาหยุดเขาไว้ เธอคงจะกลายเป็นภรรยามหาเศรษฐีที่โดนทิ้งในวันที่สองหลังจากการแต่งงานไปแล้ว ต่อมาเธอตั้งครรภ์และวางแผนว่าจะออกไปจากตระกูลเสิ่นอย่างเงียบๆ แต่ชายหนุ่มกลับไม่ยอมปล่อยเธอไป เย่ชิงซียืนยัน"เสิ่นเซียวเหยา คุณรังเกียจฉันมากนักไม่ใช่เหรอ ฉันต้องการหย่า!" เขาลดท่าทีที่เย่อหยิ่งมาโดยตลอดลงและเข้าไปกอดเธอไว้ในอ้อมแขน "ในเมื่อคุณแต่งงานกับผมแล้ว คุณก็เป็นคนของผม คิดจะหย่างั้นเหรอไม่มีทางน่ะ!"
“คุณเย่ เซ็นชื่อเถอะครับ” ทนายความกล่าวพร้อมกับยื่นหนังสือยินยอมสำหรับการผ่าตัดทำกิ๊ฟท์ไปตรงหน้าเย่ชิงซี
เย่ชิงซีนั่งอยู่บนโซฟา เธอกำปากกาในมือแน่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว
เวลาที่ต้องเข้ารับการผ่าตัดคือวันพรุ่งนี้ อีกทั้งวันนี้ยังเป็นวันแต่งงานของเธออีกด้วย
คนที่ออกสเปิร์มให้คือเสิ่นเซียวเหยา ลูกชายคนโตของตระกูลเสิ่น ซึ่งเป็นเจ้าบ่าวของงานแต่งงานที่เลิศหรูอลังการแห่งศตวรรษครั้งนี้
แต่น่าเสียดายที่เจ้าบ่าวดันมาประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อสามเดือนก่อน จึงทำให้เขาต้องกลายเป็นเจ้าชายนิทรา เขาจึงไม่สามารถมาร่วมงานแต่งงานของวันนี้ได้ด้วย
มีข่าวลือว่า ดวงของเสิ่นเซียวเหยากำลังจะถึงฆาต คาดว่าเขาคงจะอยู่ได้อีกไม่นาน
ตระกูลเสิ่นเป็นตระกูลที่ร่ำรวยและมีอำนาจมาเป็นเวลายาวนาน พวกเขาให้ความสำคัญกับเรื่องทายาทและการสืบทอดความมั่งคั่งอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด จึงเป็นสาเหตุที่เสิ่นชางป๋อต้องรีบจัดงานแต่งงานให้กับลูกชายของเขา ก่อนที่เสิ่นเซียวเหยาจะตาย เขาต้องรีบใช้สเปิร์มที่เก็บเอาไว้ตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อนให้ได้
เย่ชิงซีอ่านข้อตกลงที่อยู่ตรงหน้าเธอ ใบหน้าเล็ก ๆ ที่ขาวกระจ่างใสของเธอตึงเครียดขึ้นเล็กน้อย ในดวงตาอันสดใสคู่นั้น ฉายแววความตื่นตระหนกอย่างยากที่จะสังเกตได้ขึ้นมา
“ขอโทษนะคะ พอดีฉันต้องอ่านให้ละเอียดก่อน คุณออกไปก่อนได้ไหมคะ?”
ทนายเงียบไปหลายวินาที หลังจากนั้นก็พยักหน้าและลุกขึ้นเดินออกจากห้องเตรียมการแต่งงานไป
หลังจากที่เขาออกไปแล้ว เย่ชิงซีก็รีบวางสัญญาลง แล้วก็โทรหาแฟนของเธอด้วยความตื่นตระหนก
ใช่ เธอมีแฟนแล้ว แต่ไม่มีใครรู้
แล้วที่มันบังเอิญก็คือ แฟนคนนี้ยังเป็นลูกชายคนที่สองของตระกูลเสิ่นอีกด้วย เขาชื่อเสิ่นเจ๋อ เป็นน้องชายต่างแม่ของเสิ่นเซียวเหยา
ส่วนการงานแต่งงานครั้งนี้ จริง ๆ แล้วเป็นแผนที่ชั่วร้ายของเสิ่นเจ๋อ
หนึ่งเดือนที่แล้ว พ่อของเย่ชิงซีเสียชีวิตเนื่องจากอาการป่วย ส่วนหลินเซี่ยะ แม่เลี้ยงของเธอก็ได้ฉวยโอกาสตอนนี้ในการยึดทรัพย์สินของครอบครัวไป แล้วก็ขับไล่เย่ชิงซีออกจากบ้าน แถมยังยึดข้าวของของแม่ผู้ให้กำเนิดของเธอไปอีกด้วย
เย่ชิงซีถูกบังคับให้จนมุมชีวิตไม่มีทางออก บังเอิญว่าเสิ่นเจ๋อแฟนของเธอมาหาเธอที่บ้านในเวลานี้พอดี เขาแนะนำให้เย่ชิงซีแกล้งทำเป็นแต่งงานกับเสิ่นเซียวเหยา แล้วก็หาโอกาสทำลายการผ่าตัดทำกิ๊ฟท์นั้นซะ ด้วยวิธีนี้ รอถึงเวลาที่เสิ่นเซียวเหยาตายไป เสิ่นเจ๋อก็จะได้เป็นทายาทเพียงคนเดียวของตระกูลเสิ่นเท่านั้นแล้ว
เสิ่นเจ๋อสัญญากับเย่ชิงซีว่าจะแต่งงานกับเธอในเมื่อเรื่องต่าง ๆ เสร็จสิ้นลงแล้ว แล้วก็จะช่วยเธอเอาของที่ระลึดของแม่ผู้ให้กำเนิดของเธอกลับคืนมาให้ได้ด้วย
ภายใต้การเข้ามายั่วยุในทุกวิถีทางของเสิ่นเจ๋อ เย่ชิงซีจึงใจอ่อนตอบตกลงไป แต่เมื่อเรื่องกำลังจะมาถึงนั้น เธอกลับลังเลใจแล้ว เธอพบว่า เธอไม่สามารถทำเรื่องแบบนี้ลงได้
เป็นเพราะโทรไม่ติด เย่ชิงซีจึงเริ่มวิตกกังวลขึ้นมา เธอเดินไปเดินมาในห้อง แล้วสุดท้ายก็เลือกที่จะแอบย่องออกไปตามหาเสิ่นเจ๋อ
เย่ชิงซีกังวลใจเป็นอย่างมาก กลัวว่าจะถูกคนอื่นจับได้ เธอไม่กล้าแม้แต่จะขึ้นลิฟต์ ดังนั้นเธอจึงถอดรองเท้าส้นสูงออกแล้วเดินลงบันไดแทน
เมื่อผ่านห้องรับรองห้องสุดท้ายที่อยู่ปลายสุดของทางเดิน ฝีเท้าของเย่ชิงซีก็หยุดชะงักไปอย่างกะทันหัน
เป็นเพราะประตูห้องรับรองไม่ได้ปิดสนิท เสียงหัวเราะอันแสนหวานที่คุ้นเคยดังลอดออกมาจากช่องของประตู
“เสิ่นเจ๋อ อยู่กับฉันต่ออีกหน่อยเถอะนะ ยังไงตอนนี้เย่ชิงซีก็ไม่มีเวลามาหาคุณหรอก”
หัวใจของเย่ชิงซีบีบรัดแน่นทันที เธอค่อย ๆ เดินเข้าไปใกล้อย่างเบา ๆ แล้วก็มองผ่านช่องเล็กของประตูนั้นเข้าไป
เธอเห็นชายหญิงคู่หนึ่งที่สวมเสื้อผ้าวับ ๆ แวม ๆ กำลังนั่งอยู่ด้วยกันบนโซฟาในท่าทางที่ชวนคิดไปไกล ผู้หญิงที่นอนซบอยู่ด้านบนคือเย่หว่านหว่าน น้องสาวคนละแม่ของเธอ ส่วนผู้ชายที่อยู่ข้างล่างตัวเธอ ก็คือเสิ่นเจ๋อ แฟนหนุ่มที่เย่ชิงซีกำลังตามหาด้วยความยากลำบากอยู่นั่นเอง
“ผมกลัวว่าเธอจะกลับใจและหนีไปจากการแต่งงานน่ะสิ หากไม่ได้ไปจับตาดูเธอผมคงไม่สบายใจ” น้ำเสียงของเสิ่นเจ๋อดูรำคาญใจมาก เขาผลักตัวเย่หว่านหว่านออก พยายามจะลุกขึ้น
แต่เย่หว่านหว่านกลับไม่ยอม เธอก้มหน้าลงไปจูบเสิ่นเจ๋ออย่างเร่าร้อนก่อนจะพูดขึ้นมาว่า “ไม่มีทางหรอก เธอเชื่อฟังคุณจะตาย อีกอย่าง ของที่ระลึกของแม่เธอก็ยังอยู่ในมือของพวกเราด้วย เธอจะกล้าได้ยังไงล่ะ”
“ก็จริง” เสิ่นเจ๋อพลิกตัวและกดเย่หว่านหว่านไว้ใต้ตัวเขา จากนั้นก็จูบเธออย่างเร่าร้อนดูดดื่มอย่างทนไม่ไหวอีกแล้ว “ขอบคุณคุณมากเลยนะ ที่รัก ถ้าแผนการทุกอย่างเสร็จสิ้นลงเมื่อไหร่ ผมจะสลัดผู้หญิงร่านที่ผ่านการแต่งงานมาแล้วคนนั้นทิ้งไปทันทีเลย ผมต้องการแค่คุณคนเดียวเท่านั้น……”
ฉากหลังจากนั้นเธอไม่สามารถที่จะทนดูได้อีกแล้ว ในห้องเหลือแต่เสียงหอบหายใจที่ฟังดูคลุมเครือของชายหญิงทั้งคู่นั้น
เย่ชิงซีไม่สามารถที่จะฝืนทรงตัวเอาไว้ได้ จึงเซไปข้างหลังสองก้าว
ที่แท้เสิ่นเจ๋อก็ทรยศเธอมานานแล้ว! ความรักที่เขาพูดออกมานั้น มันก็แค่คำโกหกที่เอาไว้หลอกใช้เธอเท่านั้นแหละ! น้ำตาของเธอไหลออกมาจากเบ้าตา ความจริงอันโหดร้ายนี้ทำให้เย่ชิงซีถึงกับหายใจไม่ออก
เธอบีบชายกระโปรงแน่น พอได้ยินเสียงที่ดังมาจากในห้อง เธอก็เคียดแค้นจนกัดฟันแน่นกรอด
ในเมื่อพวกเขาต้องการยึดครองตระกูลเสิ่น งั้นเธอก็จะทำให้พวกเขาต้องไม่สมปรารถนาอย่างแน่!
เย่ชิงซีเช็ดน้ำตาจนแห้ง สวมรองเท้าส้นสูง แล้วก็เดินกลับไปที่ห้องเตรียมงานแต่งงานทีละก้าว จากนั้นก็ลงนามในข้อตกลงโดยไม่ลังเลเลยสักนิด
เธอต้องการที่จะเป็นนายหญิงใหญ่ของตระกูลเสิ่นตัวจริง แล้วก็จะคอยเฝ้าดูชายโฉดหญิงชั่วคู่นั้นต้องตกนรกทั้งเป็นด้วยตาของเธอเอง!
-
ในตอนกลางคืน ที่คฤหาสน์ของตระกูลเสิ่น โคมไฟเปิดสว่างไสว
ทันทีที่งานแต่งงานจบลงไปแล้ว เย่ชิงซีก็ถูกส่งตัวมาที่นี่ โดยมีผู้ดูแลบ้านที่เป็นคนพาเธอมาที่ห้องของเสิ่นเซียวเหยา
นี่เป็นครั้งแรกที่เย่ชิงซีได้เห็นสามีของตัวเอง
จากที่เธอฟังมาจากปากของเสิ่นเจ๋อ เสิ่นเซียวเหยาเป็นคนที่มักจะอารมณ์ไม่ดีอยู่เสมอ นิสัยวิปริต โหดเหี้ยมไร้ความปรานีกับผู้อื่น แม้ว่าจะกับญาติสนิทเขาก็ยังไม่แยแสใครทั้งนั้น เรียกได้ว่าคำคุณศัพท์ที่แย่ที่สุดล้วนถูกเสิ่นเจ๋อเอามาใช้บรรยายถึงเสิ่นเซียวเหยาทั้งหมดแล้ว รวมไปถึงคำว่าอัปลักษณ์ด้วย
เย่ชิงซีเชื่อว่ามันเป็นเรื่องจริง เธอจึงเตรียมใจที่จะต้องมาเผชิญหน้ากับสามีที่อัปลักษณ์คนนี้ไว้มานานแล้ว แต่เธอกลับไม่คาดคิดเลยว่า ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าเธอจะหล่อเหลามากขนาดนี้ แม้ว่าเขาจะยังป่วยอยู่ แต่ก็ไม่สามารถปกปิดออร่าอันสูงส่งที่มีมาโดยกำเนิดของเขาได้เลย
เธอยืนอยู่ข้างเตียงด้วยความงุนงง มองดูใบหน้าที่คมคายราวกับมีดของเสิ่นเซียวเหยา ทำให้เธอเกิดความสงสัยขึ้นมาทันที
สรุป ที่เสิ่นเจ๋อพูดเป็นเรื่องโกหกทั้งหมดงั้นเหรอ ?
ทันใดนั้น ประตูได้ถูกผลักเปิดออกอย่างรุนแรง เสิ่นเจ๋อที่ดื่มเหล้าเมาเดินโซเซเข้ามาพร้อมกับขวดไวน์ เขาพูดเสียงดังอย่างไม่มีความละอายใจใด ๆ ทั้งนั้น ไม่ได้มีความหวาดกลัวเลยว่าเสิ่นเซียวเหยาที่นอนเป็นเจ้าชายนิทราอยู่นี้จะตื่นขึ้นมา
“ซีซี ผมต้องขอโทษด้วยนะ พอดีวันนี้ผมงานยุ่งมากเลย ก็เลยไม่รับสายคุณ จนเมินคุณไปเลย”
ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาฉีกหน้ากากเขา เย่ชิงซีไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องอดทนต่อความน่ารังเกียจและความเย่อหยิ่งของเสิ่นเจ๋อไปก่อน “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฉันไม่ได้ว่าอะไรคุณสักหน่อย”
เสิ่นเจ๋อยกมือขึ้นมาเพื่อจิบไวน์อึกหนึ่ง แล้วก็พูดด้วยยิ้มที่มั่นใจมากว่า “ผมรู้อยู่แล้วแหละ คุณรักผมมากขนาดนี้ ยังไงคุณก็ต้องเข้าใจผมอยู่แล้ว”
เย่ชิงซีกำหมัดแน่น เธอทนจนเส้นเลือดขมับโปนขึ้นมาแล้ว “นี่ก็ดึกมากแล้ว มีเรื่องอะไรไว้เราค่อยคุยกันพรุ่งนี้ดีกว่านะคะ.......”
หลังจากเธอพูดจบ เสิ่นเจ๋อก็ไปล็อคประตู ปิดไฟ แล้วก็เดินเข้ามาหาเธอทีละก้าว
เย่ชิงซีก้าวถอยหลังไปอย่างระมัดระวัง “เสิ่นเจ๋อ คุณจะทำอะไรน่ะ?”
“คืนวันแต่งงานที่มีค่าแบบนี้ อย่าทำให้เสียเปล่าสิ” เสิ่นเจ๋อเผยรอยยิ้มชั่วร้ายออกมา แล้วก็รีบวิ่งปรี่เข้ามาทั้งที่เนื้อตัวมีแต่กลิ่นแอลกอฮอล์เต็มไปหมด "ถ้าคุณตั้งท้องลูกของผม เขาก็สามารถสืบทอดตระกูลเสิ่นได้เหมือนกัน”
เขาไม่เห็นเสิ่นเซียวเหยาอยู่ในสายตาเลยจริง ๆ ถึงขนาดกล้าคิดมาปล้ำพี่สะใภ้แบบต่อหน้าต่อตาเขาเช่นนี้ได้ยังไง!
“ปล่อยฉันนะ!” เย่ชิงซีถึงขั้นสุดจะทน และพยายามขัดขืนสุดชีวิต แล้วตอนที่พวกเขากำลังจะสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตายอยู่นี้ จู่ ๆ เธอก็พบว่าเสิ่นเจ๋อหยุดการเคลื่อนไหวไปซะเลย
เธอจึงเงยหน้าขึ้นมองด้วยความงุนงง แล้วก็เห็นว่าเสิ่นเจ๋อกำลังมองข้างหลังเธอด้วยสีหน้าหวาดกลัว ราวกับเห็นผีเข้าอย่างไรอย่างนั้น
“พี่ พี่ใหญ่......”
เธอถูกบังคับแต่งเข้าตระกูลเสิ่น ทุกคนต่างก็คาดหวังว่าเย่ชิงซีจะสามารถให้กำหนดลูกของคุณชายเสิ่น เสิ่นเซียวเหยาได้ ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในอาการหมดสติ เดิมที่เธอคิดว่าเธอคงจะต้องอยู่เป็นหม้ายไปแบบนี้ตลอดชีวิตนี้แล้ว แต่ไม่คิดว่าสามีเจ้าชายนิทราของเธอกลับฟื้นขึ้นมาได้! ชายหนุ่มลืมตาขึ้น จ้องมองไปยังเธอด้วยสายตาที่เย็นชา "คุณเป็นใคร?" "ฉันเป็นภรรยาของคุณ..." เสิ่นเซียวเหยามีสีหน้างุนงง "ทำไมผมถึงจำไม่ได้ว่าผมมีภรรยาแล้ว ผมไม่ยอมรับการแต่งงานนี้ พรุ่งนี้ผมจะให้ทนายมาจัดการเรื่องหย่า" ถ้าไม่ใช่เพราะคนในตระกูลเสิ่นเข้ามาหยุดเขาไว้ เธอคงจะกลายเป็นภรรยามหาเศรษฐีที่โดนทิ้งในวันที่สองหลังจากการแต่งงานไปแล้ว ต่อมาเธอตั้งครรภ์และวางแผนว่าจะออกไปจากตระกูลเสิ่นอย่างเงียบๆ แต่ชายหนุ่มกลับไม่ยอมปล่อยเธอไป เย่ชิงซียืนยัน"เสิ่นเซียวเหยา คุณรังเกียจฉันมากนักไม่ใช่เหรอ ฉันต้องการหย่า!" เขาลดท่าทีที่เย่อหยิ่งมาโดยตลอดลงและเข้าไปกอดเธอไว้ในอ้อมแขน "ในเมื่อคุณแต่งงานกับผมแล้ว คุณก็เป็นคนของผม คิดจะหย่างั้นเหรอไม่มีทางน่ะ!"
ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวของเฉียวซิงเฉินหนีไปกับผู้หญิงอีกคน เธอโกรธมาก จึงสุ่มหาชายคนหนึ่งมาแต่งงานด้วยทันที "ตราบใดที่คุณกล้าแต่งงานกับฉัน ฉันก็ยอมเป็นเมียคุณ" หลังจากแต่งงาน เธอได้ค้นพบว่าสามีของเธอคือลูกชายคนโตของตระกูลลู่ที่ขึ้นชื่อว่าไร้ประโยชน์ ชื่อลู่ถิงเซียว ทุกคนเยาะเย้ยว่า "เธอยนี่ช่วยไม่ได้จริงๆ" และผู้ชายที่ทรยศเธอก็มาเกลี้ยกล่อมว่า "ไม่เห็นต้องทำร้ายตัวเองเพราะฉันหรอก สักวันเธอต้องเสียใจแน่ๆ" เฉียวซิงเฉินหัวเราะเยาะและโต้ตอบว่า "ไปให้พ้น ฉันกับสามีรักกันมาก" ทุกคนต่าก็คิดว่าเธอเป็นบ้า ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อตัวตนที่แท้จริงของลู่ถิงเซียวถูกเปิดเผย ที่แท้เขาเป็นคนรวยอันดับต้นๆในโลก ในการถ่ายทอดสดทั่วโลก ชายคนนี้คุกเข่าข้างเดียว ถือแหวนเพชรมูลค่าหลักพันล้าน และพูดช้าๆ ว่า "คุณภรรยา ชีวิตที่เหลือนี้ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ"
ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
เฉียวลู่ นักแสดงแถวหน้าของจีนมีข่าวฉาวออกมาทำให้ทางต้นสังกัดของเธอสั่งให้เธองดออกสื่อชั่วคราว จึงเป็นโอกาสที่หาได้ยากสำหรับคนงานยุ่งตลอดทั้งปีของเธอที่จะได้พักผ่อน เฉียวลู่เดินทางกลับบ้านเกิดของเธอและการกลับไปครั้งนี้ทำให้ชีวิตของเฉียวลู่เปลี่ยนไปตลอดการ ฉีหมิงเยี่ยน อนุชาองค์เล็กของฮ่องเต้แห่งแคว้นฉี ถูกลอบปลงพระชนม์ระหว่างที่เดินทางมาทำหน้าที่เจรจาสงบศึกกับเเเคว้นเซียว เพราะได้รับบาดเจ็บสาหัสทำให้ชินอ๋องความจำเสื่อมและได้รับการช่วยเหลือจากพ่อลูกตระกูลเฉียว เซียวยิ่น ฮ่องเต้แคว้นเซียวมีพระสนมมากมายเเต่กลับไม่สามารถให้กำเนิดพระโอรสได้โหรหลวงได้ทำนายเอาไว้ว่า ในอนาคตองค์รัชทายาทที่แท้จริงจะกลับมาเซียวยิ่นจึงมีรับสั่งให้ทหารออกตามหาพระโอรสและอดีตฮองเฮาของตนอย่างลับๆ ฉินอี้เหยา ได้รับบาดเจ็บสาหัสร่างลอยตามแม่น้ำมาพร้อมกับเด็กทารกในอ้อมแขนเมื่อฟื้นขึ้นมานางจึงแสร้งจำเรื่องราวในอดีตไม่ได้ เพื่อให้นางและบุตรชายมีชีวิตรอดต่อไป
ถึงจะโกรธ เกลียด เคียดแค้นแค่ไหน แต่หัวใจไม่อาจต้านรักได้ ----------------------------------------- ไรยาค่อยๆ คลานไป ทันทีที่เจ้าบ่าวหันหน้ามา เพื่อจะยื่นมือให้เธอจับ จะได้ไม่ล้มนั้น ยิ่งจะทำให้เธอเกือบล้มไปเพราะเขาแล้ว ในหัวสมองก็ประมวลผลออกมาได้คำตอบทันที ว่าคนที่เธอเฝ้าครุ่นคิดว่าเป็นใครมาตลอดสองอาทิตย์นั้น แท้จริงก็คือใครกันแน่ในที่สุด ‘Mr. H. Hhemmhawattana ก็คือหรัญญ์ เหมวัฒน์’ ‘หรือพี่ฮั้นท์ของสาวๆ ที่เธอมักจะได้ยินเรียกขานกันนี่เอง’ ‘เขากลายมาเป็นเจ้าบ่าวเธอได้ยังไง’ ‘เขาจะมาแต่งงานกับเธอทำไม’ เท่าที่รู้มา เขาไม่ได้ร่ำรวยระดับร้อยล้านพันล้านแน่ๆ แล้วเขาไปทำอะไรมา ถึงได้มีเงินมากมายขนาดเอามาทุ่มซื้อหุ้นบริษัทของพ่อเธอได้ ไหนจะไถ่บ้านคืนให้ และอีกหลายต่อหลายอย่างที่เขาจ่ายไป รวมทั้งแหวนเพชรน้ำงามและไม่น่าจะต่ำกว่าห้ากระรัตบนพานดอกไม้ตรงหน้าเธออีก ---------------------------------------------------------------------------------------- ฮั้นท์ (หรัญญ์ เหมวัฒน์) นักธุรกิจหนุ่ม ผู้มีชีวิตที่พลิกผันจากเลวร้ายกลับกลายเป็นดี ซึ่งเขาเองก็ตั้งตัวไม่ทัน แต่ทั้งหมดนั้น มาจากความดี ความขยันหมั่นเพียรของเขา บวกกับโชคช่วย ถึงเวลาที่เขากลับมายืนอยู่จุดเดิม ในฐานะใหม่ ที่ใครต่อใครต่างงุนงง โดยเฉพาะเพื่อนๆ หรือแม้แต่กับผู้หญิงที่เคยเมนเขามาแล้ว และเขาก็จะทำให้ผู้หญิงพวกนั้นได้รู้ ว่าไม่ควรเมินเขาจริงๆ ---------------------- ย้า (ไรยา เจริญรัตชตะ) ทายาทนักธุรกิจหลายร้อยล้าน ที่ชีวิตพลิกผัน จากดีกลายเป็นเลวร้ายในไม่กี่ปี จนเธอกับครอบครัวก็ตั้งตัวไม่ติด รับภาวะย่ำแย่แทบไม่ทัน และถึงเวลาที่เธอจะต้องเลือก ระหว่างช่วยกู้ทุกอย่างของครอบครัวคืน กับทิ้งทุกอย่างไปแบบไม่เหลียวหลัง เพื่อไปเลียแผลหัวใจจากชายที่เธอรักแทบตาย สุดท้ายเธอจะเลือกทางเดินยังไง จะไปต่อหรือพอแค่นี้ ---------------------------------------------------------------------------------------- เมียแต่งท่านประธาน Chairman's Wife ตอนแรกคิดว่าจะให้นิยายที่เรื่องนี้มีแค่ชื่อภาษาอังกฤษเท่านั้นค่ะ ที่เหลือให้รี้ดไปตีความเอาเอง ว่าควรจะใช้ภาษาไทยว่าอะไรดี ระหว่าง แรงรัก - รั้งรัก - รังรัก และใช้นามปากกาพิมรภัค แต่สุดท้ายก็คิดชื่อใหม่ได้แล้วค่ะ และตัดสินใจใช้นามปากกาหลัก นั่นคือ กันเกราค่ะ เพราะแว้ปไปเขียนอวตารหลายเรื่องแล้ว และไม่ได้ออกนามปากกานี้นานแล้ว ส่วนแนวก็จะเพิ่มดราม่าเข้าไปอีก ซึ่งจะเป็น Signature ของกันเกราอยู่แล้ว รี้ดอยากได้มาม่าเจ้มจ้นแค่ไหน บอกกันได้เด้อ ----------------------------------------------------------------------------------------
หลินตงหยาง อายุ 27 ปี เติบโตมากับแม่เพียงสองคน ในวัยเด็กหลินตงหยางเคยมีพ่อผู้ให้กำเนิดแต่หลังจากที่พ่อได้งานใหม่ในเมืองหลวงพ่อที่เคยมีก็ไม่มีอีกแล้ว พ่อกลับมาหย่าขาดกับแม่ทันทีที่ไปทำงานในเมืองหลวงได้เพียง 2 เดือน ด้วยให้เหตุผลในการหย่าว่า แม่กับและเขาคือตัวถ่วงความเจริญในชีวิตพ่อ สาเหตุก็ไม่มีอะไรมากแค่พ่อหน้าตาหล่อเหลาและเป็นที่ถูกใจของลูกสาวหัวหน้างาน เพื่อตำแหน่งงานและความเป็นอยู่ที่สบายขึ้น พ่อเลือกที่จะทิ้งภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากที่ผ่านเรื่องยากลำบากมาด้วยกัน หย่าขาดกับภรรยาเพื่อไปแต่งงานใหม่ มีชีวิตใหม่ในเมืองหลวง โดยทิ้งคนข้างหลัง ทิ้งภรรยาที่เคยสาบานว่าจะอยู่ครองคู่กันตลอดไป ในปีที่เขาเรียนจบมหาวิทยาลัย แม่ก็ล้มป่วยและจากเขาไปในที่สุด สาเหตุที่หลินตงหยางเสียชีวิต เพราะทำงานหนัก อาชีพโปรแกรมเมอร์ตัวเล็กๆ อย่างเขา ต้องพยายามทำงานให้ได้ตามที่หัวหน้าสั่งมา ในที่สุดเขาก็พัฒนาเกมกำลังภายในของบริษัทได้สำเร็จ หลินตงหยางนอนหลับไปด้วยความสบายใจ แต่ทว่าพอเขาลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที นี่ไม่ใช่คอนโดหรูย่านใจกลางเมืองปักกิ่ง หลังคามุงหญ้านี่คืออะไร มันควรจะเป็นเพดานสีขาวสิ เมื่อมองไปรอบๆ ห้องนี่คืออะไร นี่มันไม่ใช่ผนังที่ทำมาจากคอนกรีต มันคือดินเหนียว หลินตงหยางคิดว่าตัวเองฝันไป เขาหลับตาลงอีกครั้งแล้วลืมตาขึ้น ทุกอย่างยังเหมือนเดิม มารดามันเถอะ เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง หลังจากแน่ใจแล้วว่าไมไ่ด้ฝัน ตอนนั้นเองเขารู้สึกปวดหัวขึ้นมาอย่างรุนแรง และในหัวของเขามีภาพเหตุการณ์ของเด็กชายที่ชื่อเดียวกับเขา หลินตงหยาง อายุ 10 ขวบ เรื่องราวชีวิตตั้งแต่เกิดจนตายไปของเด็กชาย ทำเอาหลินตงหยางกำมือแน่น ก่อนจะสบถออกมา “พ่อสารเลว เฉินซื่อเหม่ยชัดๆ” และตามมาด้วยเสียงร้องไห้ของน้องสาว สาเหตุที่เด็กชายหลินตงหยางเสียชีวิต เพราะถูกผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นย่าแย่งผักป่าและทุบตี ทั้งๆ ที่คนพวกนั้นได้ตัดขาดพับพวกเขาสามแม่ลูกแล้ว แต่ยังมิวายข่มเหงรังแก