ผู้หญิงสวย รวย เก่ง อย่างพลอยใส จะแต่งงานทั้งที ก็ต้องแต่งกับคนที่ศึกษากันมาเป็นอย่างดี ตั้งแต่หน้าตา ไปจนถึงโจ้ย เอ้ย ถึงใจ ยิ่งเฉพาะกับเขาคนนั้น ที่เคยผิดสัญญา จะให้ไปแต่งงานด้วยเหรอ ไม่มีทาง! ถ้าเขาเป็นกรงเธอก็จะแหก ถ้ายังจะแต่ง ก็จะทำให้ร้องขออย่าแทบไม่ทันเลย คอยดู!
“เฮลโล!! ไทยแลนด์!! ฉันกลับมาแล้ววว” ความจริงฉันก็อยากตะโกนดัง ๆ ออกไปแบบนี้ทันทีที่เท้าแตะพื้นสนามบินสุวรรณภูมิ แต่เมื่อใช้สายตากวาดมองไปรอบ ๆ แล้วก็คิดว่าตะโกนในใจคงจะดีกว่า ก็คนเยอะยิ่งกว่าตลาดนัดจตุจักรขนาดนี้ คงต้องมีคนหันมามองฉันเพียบแน่ ๆ
ความจริงแล้วฉันชอบประเทศไทย ฉันรักประเทศไทย รักมาก และไม่เคยคิดที่จะไปใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศเลยสักครั้ง ถ้าไม่ติดว่าคุณพ่อของฉัน ส่งฉันไปดัดสันดาน เอ้ย! ส่งไปหาประสบการณ์ชีวิตที่ประเทศฝรั่งเศสถึงสี่ปี ให้ตายชีวิตนี้ฉันก็ไม่มีทางไปอยู่ที่อื่นเด็ดขาด และการกลับมาครั้งนี้ฉันจะใช้ชีวิตให้สนุกสุดเหวี่ยง เอาให้คุ้มกับที่ต้องเหี่ยวเฉามาตลอดสี่ปีเลยคอยดู
..แต่ก่อนอื่น ฉันต้องปลีกตัวจากคนพวกนี้ให้ได้ก่อน..
“ยินดีต้อนรับกลับประเทศไทยครับคุณพลอยใส!”
คำกล่าวต้อนรับเสียงดังฟังชัด สมกับเป็นลูกน้องของพ่อฉันจริง ๆ และนี่ก็คือกลุ่มคนที่ฉันต้องหาทางหนีให้ได้ ไม่อย่างนั้นฉันคงไม่มีทางได้ใช้ชีวิตเป็นอิสระแน่ ๆ
“พวกนายเอากระเป๋าของฉันกลับบ้านไปก่อนเลย แล้วก็เอากุญแจรถมานี่ ฉันจะไปบ้านเพื่อนก่อน” ฉันออกคำสั่งพร้อมกับยื่นมือไปขอกุญแจรถจากลูกน้อง ให้ทายว่าพวกนี้จะฟังที่ฉันสั่งหรือเปล่า ไม่มีทาง!
“ไม่ได้ครับ คุณท่านบอกว่าให้พาตัวคุณพลอยใสกลับบ้านไปด้วยกัน ห้ามให้ไปเถลไถลที่ไหนครับ” นั่นไง คิดแล้วไม่มีผิด ไอ้พวกนี้มันเข้าใจแต่คำสั่งของพ่อฉันเท่านั้นแหละ
“โอ้ย!! กี่ปี ๆ พวกนายมันก็ทำตัวน่าเบื่อเหมือนเดิม น่ารำคาญชะมัด” ในเมื่อทำอะไรไม่ได้ ฉันก็ทำได้แค่เดินกระทืบเท้าปึงปังตามลูกน้องอีกคนไปยังรถที่จอดรอรับอยู่ ให้มันได้อย่างนี้สิ หมดกันความคิดจะไปลัลล้า..
ฉันนั่งอยู่ในรถคันโตราคาเกือบยี่สิบล้าน สายตาได้แต่มองออกไปนอกหน้าต่างรถ สี่ปีที่ฉันไม่อยู่ ประเทศไทยก็เปลี่ยนไปมากเหมือนกันนะ แต่ที่ไม่เปลี่ยนไปเลยก็คงจะมีแต่พ่อฉันกับพวกลูกน้องซื่อบื้อพวกนี้แหละ
///////////
“ยกกระเป๋าฉันลงมาดี ๆ นะ ถ้าเกิดพังขึ้นมาฉันจะหักเงินเดือนพวกนายให้หมดเลยคอยดู”
“คุณท่านเป็นคนจ่ายเงินเดือนครับ ไม่ใช่คุณพลอยใส”
เออ ให้มันได้อย่างนี้สิ มีลูกน้อง ลูกน้องก็ไม่เคยเชื่อฟังคำสั่ง อุตส่าห์เกิดมาเป็นลูกสาวคนเดียวของตระกูล จันทรพิพัฒน์ ตระกูลไฮโซเก่าแก่ชื่อดังทั้งที แต่ชีวิตนี้ไม่เคยได้ดั่งใจสักอย่าง ชีวิตพลอยใสทำไมมันอาภัพอย่างนี้วะเนี่ย
“นั่นมันชุดอะไร ทำไมสั้นขนาดนั้น”
เสียงทุ้มที่ฟังทีไรแล้วขนลุกทุกที ไม่ต้องหันไปมองก็รู้ว่าเป็นเสียงของพ่อฉันเอง คนที่ส่งลูกสาวตัวเองไปลำบากตรากตรำอยู่ต่างประเทศคนเดียวได้ลงคอ ถึงแม้จะส่งเงินให้ใช้ไม่ขาดมือก็เถอะ
“ก็เมืองไทยมันร้อนนี่คะ แล้วอีกอย่างชุดนี้ก็ไม่เห็นจะสั้นตรงไหน” ฉันก้มมองกางเกงยีนส์ขาสั้นที่ยาวจากเอวลงมาประมาณคืบกว่า ๆ กับเสื้อครอปสายเดี่ยว ซึ่งมันก็ดูปกติดี นี่ฉันอุตส่าห์ใส่เสื้อแขนยาวคลุมข้างนอกแล้วนะ ถึงมันจะบางไปหน่อยก็แค่นั้น
“แกนี่นะ ฉันอุตส่าห์ส่งไปเรียนเมืองนอก นึกว่ากลับมาจะเป็นผู้เป็นคนขึ้นมาบ้าง แต่ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลยสักนิด”
“หนูไม่ได้เป็นคนอยากจะไปสักหน่อย พ่ออยากจะส่งหนูไปเอง ช่วยไม่ได้” ฉันพูดพร้อมกับยักไหล่ให้พ่อ แล้วก็เดินขึ้นมาชั้นบนของตัวบ้าน ไม่ใช่อยากจะพักผ่อนนะ แต่ฉันจะรีบอาบน้ำแล้วออกไปหาเพื่อนสนิทต่างหากล่ะ
หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยด้วยเสื้อผ้าที่เหมาะกับบรรยากาศเมืองไทยสุด ๆ ฉันก็ค่อย ๆ ย่องลงมาจากชั้นบน เพื่อที่จะไม่ให้ไอ้ลูกน้องพวกนั้นเห็นฉัน ส่วนกุญแจรถสปอร์ตคู่ใจ ฉันได้แอบทำสำรองไว้เป็นสิบอัน ต่อให้พ่อจะยึดไปกี่รอบฉันก็ยังมีกุญแจรถเสมอ
“คุณพลอยใส!! หยุดครับ หยุดเดี๋ยวนี้นะครับ” เสียงโวยวายของลูกน้องดังมาแต่ไกล พอวิ่งมาถึงก็รีบทุบรถให้ฉันลงไป แต่อย่างพลอยใสจะฟังเหรอ ไม่มีทาง ฝันไปเถอะ
...พลอยใส แปลว่าอิสระ..ย่ะ
“มีความสุขจริงโว้ย!!” ฉันตะโกนแข่งกับเสียงเพลงแนว EDM ที่เปิดดังกระหึ่มผ่านเครื่องเสียงราคาแพงที่โมดิฟายมาอย่างดี พร้อมกับโยกตัวไปตามจังหวะ เท้าก็เหยียบคันเร่งจนแทบจะมิดไมล์ เพื่อจะไปหาเพื่อนซี้สุดเลิฟ กลับมาทั้งทีมันต้องฉลองกันหน่อยสิ
////////////
ระหว่างที่ขับรถ มือข้างหนึ่งก็กดเบอร์โทรหายัยแขไข เพื่อนสนิทที่ร่วมหัวจมท้ายมาด้วยกันตลอดตั้งแต่มัธยมต้น
/ฮัลโหล๊!! ว่ายังไงคะคุณหนูพลอยใส ใกล้จะถึงบ้านฉันหรือยังล่ะค่ะ/ เอาจริง เสียงทักทายของเพื่อนฉันมันก็น่าหมั่นไส้ไม่น้อยเลยนะ
/ใกล้จะถึงแล้ว แกบอกให้คนเปิดประตูรั้วรอเลย แล้วก็นับถอยหลังอีก 2 นาทีเจอกัน/
/ได้เลยเพื่อนเลิฟ/
หลังจากวางสาย 2 นาทีพอดิบพอดีฉันก็เลี้ยวรถเข้าจอดในบ้านหลังใหญ่พอ ๆ กับบ้านฉัน บ้านหลังนี้แขไขอยู่คนเดียว ส่วนพ่อกับแม่อยู่อีกหลังหนึ่ง เห็นไหม ใคร ๆ เขาก็แยกบ้านกันแล้วทั้งนั้น มีแต่ฉันเท่านั้นแหละที่พ่อกับแม่ไม่ยอมให้แยกบ้านสักที แถมยังบอกอีกว่า ต้องแต่งงานเท่านั้นฉันถึงจะมีสิทธิ์ย้ายออกจากบ้านได้ ส่วนเหตุผลนะเหรอ พ่อกับแม่บอกว่ากลัวฉันจะอดตายเพราะทำมาหากินไม่เป็น เฮ้อ!
“เวลคัมแบ็ค! ค่าคุณเพื่อนสุดที่รัก เก่งนี่ที่หนีคุณพ่อจอมโหดออกมาหาฉันได้”
เสียงต้อนรับดังลงมาจากทางชั้นสอง พร้อมกับร่างเพรียวบางฉบับนางแบบเบอร์หนึ่งของเมืองไทยกำลังก้าวลงมาทางบันได
“แกก็รู้ว่าไม่มีใครจะขังฉันได้นานเกิน 5 นาที” ฉันตอบกลับไปพร้อมกับรอยยิ้มภาคภูมิใจในความฉลาด ที่ฉันสามารถหนีพ่อออกมาได้
“ขังได้ไม่เกิน 5 นาที แต่ดันถูกส่งไปฝรั่งเศสตั้งสี่ปี”
“นี่ยัยแข แกเลิกพูดเรื่องฝรั่งเศสได้ไหม แกไม่รู้หรอกว่ามันโคตรน่าเบื่อ” พูดเสร็จฉันก็ทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาโดยที่ไม่ต้องรอคำเชิญจากเจ้าของบ้าน
“แล้วนี่วางแผนจะไปไหนยะ แต่งตัวมาซะขนาดนี้”
แขไขพูดพลางไล่สายตามองดูชุดเดรสสายเดี่ยวแสนสั้นสีแดงเพลิงที่ฉันใส่อยู่
“ออกมาทั้งที มันก็ต้องสุดเหวี่ยงหรือเปล่า ออกไปเช็คความฮอตที่ไม่ได้ใช้มาตั้งสี่ปีสักหน่อยจะเป็นไร” พูดพลางฉันก็สะบัดเส้นผมยาวสลวยไปมา หน้าตาก็สวยขนาดนี้แท้ ๆ แต่ฉันก็ดันโสดมาจนถึงตอนนี้
“เป็นความคิดที่ดี งั้นแกรอฉันแป๊บหนึ่ง ขอไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดเริ่ด ๆ ก่อน แล้วออกไปจับผู้ชายกัน” แขไขรีบวิ่งกลับขึ้นไปข้างบนทันทีที่พูดจบ
..จับผู้ชายงั้นเหรอ.. ก็ดีเหมือนกันนะ เผื่อมีใครถูกใจจะได้ลองอะไรใหม่ ๆ ดูบ้าง ความสาวเนี่ยเก็บนานเกินไปเดี๋ยวจะเหี่ยวทิ้งไปเปล่า ๆ
///////////////////
...คุณเชื่อในเรื่องกลับชาติมาเกิดไหม.. เมื่อก่อนผมก็ไม่เคยเชื่อในเรื่องพวกนี้ จนกระทั่งเมื่อสามเดือนก่อนเรื่องมหัศจรรย์ที่สุดก็เกิดขึ้นในชีวิตของผม เมื่อผมได้พบกับเธอ ผู้หญิงที่เหมือนกับคนรักที่ตายจากไปแล้วถึง 21 ปีทุกกระเบียดนิ้ว ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตา น้ำเสียง อายุ หรือแม้กระทั่งชื่อของเธอ ..ตะวัน.. เคลลี่ ชายหนุ่มที่เคยสูญเสียคนรักไปเมื่อ 21 ปีที่แล้วด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ จู่ ๆ เขาก็ได้พบกับผู้หญิงคนหนึ่งด้วยความบังเอิญ ผู้หญิงคนที่เหมือนกับคนรักของเขาที่ตายไปแล้วทุกกระเบียดนิ้ว และนั่นก็ทำให้เขาเชื่อสนิทใจว่าเธอคือตะวันกลับชาติมาเกิด เขาจึงพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ได้กลับมาคบกับเธออีกครั้ง ดุจตะวัน หญิงสาววัยย่างเข้า 21 ปี เขาพบเจอกับเคลลี่ด้วยความบังเอิญ และมันก็เป็นความบังเอิญอย่างต่อเนื่อง เมื่อเขาคือประธานบริษัทที่เธอกำลังฝึกงานอยู่ และเขาสั่งให้เธอเข้ามาฝึกงานในห้องทำงานของเขา นั่นถึงทำให้เธอรู้ว่าที่เคลลี่เอ็นดูเธอ เพราะว่าหน้าตาและชื่อคล้ายแฟนที่เสียชีวิตไป ความสัมพันธ์ของทั้งคู่พลิกผันแบบไม่คาดคิด เคลลี่พยายามทำทุกอย่างเพื่อจะให้ดุจตะวันรู้ว่าเธอคือตะวันกลับชาติมาเกิด แต่มันก็ไม่ง่ายเมื่ออุบัติเหตุเกิดขึ้นอีกครั้งซ้ำรอยเดิม และเธอก็ลืมความสัมพันธ์ระหว่างเขาและเธอจนหมด ........ มาติดตามว่าเคลลี่จะทำยังไงให้เธอกลับมาจำความสัมพันธ์ของเขาและเธอได้ แล้วเธอจะใช่คนรักกลับชาติมาเกิดจริง ๆ หรือเปล่า รักครั้งนี้ จะสมหวัง หรือสุดท้ายแล้วจะลงเอยด้วยน้ำตาเช่นเดิม //////
จากนี้ไปผมคงทำได้เพียงจดจำความรักของเธอเอาไว้ ว่าครั้งหนึ่งเคยมีผู้หญิงที่ชื่อตะวันรักผมมากขนาดไหน ความรักที่ผมไม่สามารถตอบแทนอะไรให้เธอได้เลย
เพราะต้องหาเงินมาไว้ใช้จ่าย และเตรียมไว้สำหรับการผ่าตัดให้คุณยาย พิมพ์มาดาเลยจำเป็นต้องหางานพิเศษทำตัวเป็นเกลียว จนวันหนึ่งเธอเห็นป้ายรับสมัครงานที่ติดอยู่หน้าคฤหาสน์หลังใหญ่ เงินเดือนสูง และเวลาทำงานไม่กระทบกับชีวิตประจำวันของเธอ พิมพ์มาดาตัดสินใจสมัครงานทันที เพราะเธอคิดว่าเป็นงานดูแลผู้สูงอายุ แต่มันไม่ใช่ เจ้าของคฤหาสน์ที่ทุกคนเรียกว่าคุณท่านรับเธอเข้าทันงานทันที โดยที่พิมพ์มาดาไม่รู้เลยว่า สัญญาที่เธอเซ็นไปนั้นมันแตกต่างจากของคนอื่น มันเป็นสัญญาฉบับพิเศษที่ทำขึ้นเพื่อเธอเพียงคนเดียว อาร์เดน ชายหนุ่มหลังม่านสีดำเจ้าของคฤหาสน์หลังใหญ่ และเป็นผู้สืบทอดกลุ่มมาเฟีย ไททันสเนค เขากำลังสืบหาคนที่ลอบวางระเบิดรถของพ่อเขาเมื่อสองปีก่อน แต่ยิ่งสืบ ความจริงก็ยิ่งทำให้เขาเจ็บปวดใจ เพราะคนที่อยู่เบื้องหลังทั้งหมดคือคนที่เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อน การแก้แค้นก็สำคัญ แต่ความปลอดภัยของหญิงสาวที่อยู่ใต้อาณัติของตัวเองนั้นก็มองข้ามไม่ได้ เมื่อเธอถูกจับตัวไป ความอดทนเส้นสุดท้ายของอาร์เดนก็ขาดลง ทุกคนที่ทำเลวกับเขาจะต้องชดใช้ /////////
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
ตลอดระยะเวลาสามปีของการแต่งงาน เธอรู้สึกสิ้นหวัง ที่ถูกบังคับให้เซ็นใบหย่า ทั้งๆที่เธอกำลังท้อง เธอใจสลายกับความไร้มนุษยธรรมของเขา กระทั่งเธอออกไปจากชีวิตของเขา เขาเพิ่งรู้ตัวว่าเธอคือรักแท้ของเขา ไม่มีวิธีใดที่จะเยียวยาหัวใจที่บอบช้ำของเธอให้หายขาดได้ เขาจึงมอบความรักทั้งหมดของเขาให้แก่เธอเพื่อชดเชย
เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้
ในวันแต่งงาน เสิ่นเยวียนถูกคู่หมั้นและน้องสาวของเธอทำร้าย และถูกจำคุกเป็นเวลาสามปีด้วยความทุกข์ทรมาน หลังจากได้รับการปล่อยตัวจากคุก น้องสาวผู้ชั่วร้ายได้คุกคามด้วยชีวิตแม่และพยายามให้เธอมอบตัวกับชายชรา อย่างไรก็ตาม เธอได้พบกับเซียวเป่ยหาน ซึ่งเป็นผู้ทรงอิธิพลที่หล่อเหลาและเย็นชาแห่งแห่งสังคมด้านมืด อย่างไม่คาดคิด และชะตากรรมของเธอก็เปลี่ยนไปตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แม้ว่าเซียวเป่ยหานจะเย็นชา แต่เขากลับปฏิบัติต่อเสิ่นเยวียนดั่งเป็นสมบัติล้ำค่า นับแต่นั้นมา เธอจัดการคนเสแสร้ง เอาคืนแม่เลี้ยงและไม่ถูกกลั่นแกล้งอีกต่อไป
ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวของเฉียวซิงเฉินหนีไปกับผู้หญิงอีกคน เธอโกรธมาก จึงสุ่มหาชายคนหนึ่งมาแต่งงานด้วยทันที "ตราบใดที่คุณกล้าแต่งงานกับฉัน ฉันก็ยอมเป็นเมียคุณ" หลังจากแต่งงาน เธอได้ค้นพบว่าสามีของเธอคือลูกชายคนโตของตระกูลลู่ที่ขึ้นชื่อว่าไร้ประโยชน์ ชื่อลู่ถิงเซียว ทุกคนเยาะเย้ยว่า "เธอยนี่ช่วยไม่ได้จริงๆ" และผู้ชายที่ทรยศเธอก็มาเกลี้ยกล่อมว่า "ไม่เห็นต้องทำร้ายตัวเองเพราะฉันหรอก สักวันเธอต้องเสียใจแน่ๆ" เฉียวซิงเฉินหัวเราะเยาะและโต้ตอบว่า "ไปให้พ้น ฉันกับสามีรักกันมาก" ทุกคนต่าก็คิดว่าเธอเป็นบ้า ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อตัวตนที่แท้จริงของลู่ถิงเซียวถูกเปิดเผย ที่แท้เขาเป็นคนรวยอันดับต้นๆในโลก ในการถ่ายทอดสดทั่วโลก ชายคนนี้คุกเข่าข้างเดียว ถือแหวนเพชรมูลค่าหลักพันล้าน และพูดช้าๆ ว่า "คุณภรรยา ชีวิตที่เหลือนี้ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ"
ในช่วงสามปีที่หลูเฉียนหนิงอยู่ข้างๆ เขา โจวเป่ยจิ้งคิดอยู่เสมอว่าเธอเป็นเพียงผู้ช่วยพิเศษ เธอต้องการเงินเพื่อรักษาอาการป่วยของแม่ และจะไม่มีวันจากตนเองไป ครั้งแล้วครั้งเล่า ให้เงินแลกกับความต้องการอย่างชัดเจน ในที่สุด เมื่อเขาเกือบจะหลงใหลนั้น หลูเฉียนหนิงก็ไม่อดทนอีกต่อไป "มีคนรักในใจแล้ว ยังนอนกับฉันทุกวัน คุณชั่วชัดๆ" เมื่อข้อตกลงการหย่าถูกโยนต่อหน้าต่อตา โจวเป่ยจิ้งก็ตระหนักว่าภรรยาลึกลับที่เขาแต่งงานเมื่อหกปีที่แล้วกลับคือเธอ? จากนั้นเป็นต้นมา เขาก็ขึ้นชื่อเป็นชายเจ้าชู้อละตามจีบภรรยาทั้งยังเอาเปรียบเธอ! เขาอุ้มเธอไว้ในอ้อมแขนด้วยทัศนคติที่เผด็จการและเอาใจเธออย่างเต็มที่ เมื่อทุกคนรังเกียจที่เธอมีภูมิหลังที่ต่ำต้อย เขาก็มอบทรัพย์สินและหุ้นของตระกูลทั้งหมดอย่างตรงๆ และเข้าไปอยู่บ้านของตระกูลหลู จู่ๆ เธอก็กลายเป็นประธานหลู ซึ่งเป็นเจ้าของทรัพย์สินนับไม่ถ้วน และทุกคนอิจฉา แต่โจวเป่ยจิ้งกลับตกลงไปในวังวนที่ใหญ่กว่านั้น...