"อุบัติรักสามีจอมบงการ" SET อุบัติรักอุบัติร้ายนิยายรักโรมานซ์พาฝันที่จะพาหญิงสาวทุกคนโบยบินไปกับนุชลตรี สตรีชาวไทยผู้โชคดีได้จับพลัดจับพลูมาแต่งงานกับมาฮันห์ มหาเศรษฐีเมืองมัทราส อินเดียใต้ นุชลตรีไม่รู้สึกว่าหล่อนโชคดีเลยสักนิดที่มหาเศรษฐีแห่งมัทราสมาสู่ขอเธอแต่งงานถึงบ้านหลังเล็กที่กำลังจะสิ้นเนื้อประดาตัวของหล่อนกับแม่ เพราะเธอรู้ดีว่าไม่นานมาฮันห์จะต้องเฉดหัวเธอทิ้งสักวันหนึ่งหากเธอมีทายาทให้กับเขา แม้ว่ามาฮันห์จะมีรูปงามดั่งเจ้าชาย หากในสายตาของนุชลตรีเขาดุร้ายยิ่งกว่าราชสีห์ ทั้งยังมีจิตใจอำมหิตเมื่อเห็นว่าหล่อนมีลูกไม่ได้ เขาจึงส่งเธอไปนอนในห้องใต้ดิน และกุเรื่องใส่ร้ายหล่อนว่าภรรยาคนแรกของเขาเป็นสตรีที่ห้ามคนในบ้านรับใช้เว้นแต่เพียงกุลลี หญิงรับใช้ใบ้ที่เขาส่งมา ไฉนมาฮันห์จึงย่ำยีจิตวิญญาณของนุชลตรีได้ถึงเพียงนี้ หรือแค่เพราะว่าหล่อนไร้ทายาทสืบสกุลให้กับเขามาค้นหาคำตอบในนิยายเล่มนี้กันค่ะ สรีสามัญยังได้จับมือร่วมกันส่งมอบความสนุกกับนักเขียนมากฝีมือหลายท่าน โดยมีผลงานในเซ็ตดังต่อไปนี้ 1.) อุบัติรักนายบอดี้การ์ด #คุณธิดา 2.) อุบัติร้ายเจ้าสาวจำเป็น #พิมพ์พิชญ์ 3.) อุบัติรักนางฟ้า #Chertampmy 4.) อุบัติรักสามีจอมบงการ #สรีสามัญ 5.) อุบัติรักเล่ห์กามเทพ #Waraarphon 6.) อุบัติร้ายเจ้าสาวไร้ศักดินา #อรอินทุ์ 7.) อุบัติรักเมียนายหัว #ฉัตรขวัญ ขอบคุณจากหัวใจ สรีสามัญ
ภาพวาดสีดำขาวถูกวางแขวนไว้บนฝาผนังลายเรียบอย่างจงใจ นุชลตรีสัมผัสได้ถึงความนัยที่แฝงไว้ในภาพวาดดอกไม้รูปกุหลาบบนรูปเขียนสีนั้น
ดอกไม้สีดำสนิทแซมเป็นช่อตั้งอยู่ท่ามกลางโลงศพแสดงถึงความรักอันเป็นอมตะ กุหลาบดำเบ่งบานสะพรั่งตรงปลายของกุหลาบดำเคลือบผิวมันเงาคล้ายหยดน้ำไหลเปรอะอยู่กลางภาพเขียนสี
หญิงสาวรู้สึกราวกับว่าหล่อนกำลังตกหลุมรักภาพวาดภาพเขียนสีกวอชที่แขวนเรียงรายเหล่านี้อยู่อย่างถอนตัวไม่ขึ้น
นุชลตรีมองภาพเขียนสีกวอชอย่างหลงใหล หล่อนเกือบเอื้อมมือไปจับภาพนั้น โชคยังดีที่สายตาของเธอเหลือบมองเห็นป้ายสีทองตัวอักษรสีน้ำตาลเข้มเขียนไว้ว่าห้ามจับไม่งั้นโดนปรับ
หญิงสาวหักห้ามใจไว้ได้ทันพลางเดินไปชมงานศิลปะในโซนถัดไปอย่างรวดเร็ว
นุชลตรีจำได้ว่าโซนแสดงงานนิทรรศการ ‘เสพก่อนตาย’ มีประมาณ ห้าส่วนด้วยกัน สามส่วนแรกหญิงสาวได้ไปเสพมาจนจุใจแล้ว อีกสองโซนนั้นจะอยู่ในอาคารถัดไปซึ่งอยู่ตรอกซอยเล็ก ๆในเมืองฝรั่งเศส
ปารีสเป็นหนึ่งในเมืองแห่งความรุ่มรวยไปด้วยศิลปะนานาชนิด ที่นี่มีพิพิธภัณฑ์มากมายหลายแห่งเปิดรองรับนักท่องเที่ยวผู้คนสายอาร์ตที่หลั่งไหลมาอย่างเนืองแน่น
หญิงสาวเดินผ่านออกมาจากหน้าประตูซุ้มต้อนรับเพื่อจะเดินไปชมงานศิลป์จัดแสดงในโซนถัดไป
นุชลตรีอดรู้สึกตื่นเต้นไม่ได้ นั่นก็เพราะว่าโซนที่อยู่ห่างไกลถัดไปเป็นผลงานศิลปะของสรากาเดีย นักประพันธ์ที่ผันตัวมาเป็นศิลปินอย่างเต็มตัว
เธออดมองภาพโปสเตอร์ที่แปะผนังไม่ได้ งานในเปเปอร์เป็นวัสดุคล้ายกระดาษเคลือบผิวมันวาวที่วางเรียงรายคล้ายกับกระจกในโบสถ์อาสนวิหารนัวยงที่แคว้นโอดฟร็องส์ที่เธอเห็นเมื่อทริปก่อนจะมาลองเที่ยวคนเดียว
ฟรานซ์เป็นเมืองที่นุชลตรีชื่นชอบมากที่สุดในบรรดาเมืองต่างประเทศที่หล่อนเคยไปเยือน เพราะความงดงามของศิลปะตั้งแต่ประตูเมืองไปยังรูปเขียนสี…หล่อนอดหัวใจพองโตขึ้นมาไม่ได้
พิพิธภัณฑ์ วูลฟ์ แด มาเรีย ที่เชิญหล่อนมาดูนิทรรศการของศิลปินหญิงในวันนี้ เป็นอีกหนึ่งมิวเซียมที่เลื่องชื่อในฟรานซ์เป็นอย่างมาก นุชลตรีรู้ดีว่าคนในวงการอาร์ตทุกคนรักศิลปะ และพวกเขาก็เชื่อว่าศิลปะก็รักพวกเขาเช่นกัน
นุชลตรีจบจากคณะนิเทศศิลป์ในประเทศไทย ทว่าวันนี้หล่อนได้รับโบนัสจากแม่ของเธอให้มาชื่นชมผลงานเป็นรางวัลที่หญิงสาวเรียนจบ
ปลายเท้าสองข้างของหญิงสาวเดินออกมานอกพิพิธภัณฑ์ นุชลตรียกมือขึ้นมากอดอกตนเองไว้เพื่อกันความหนาวเย็นของอุณหภูมิที่ลดต่ำลงในปารีส
หญิงสาวสวมเสื้อสเวตเตอร์สีชมพูสด ด้านในของเสื้อสเวตเตอร์เป็นเสื้อไหมพรมตัวเล็ก หากแต่บางแนบเนื้อของหญิงสาว
นุชลตรีเลือกใส่เสื้อสเวตเตอร์กับกระโปรงอัดพลีซคล้ายกับกระโปรงนักศึกษาเวลาที่หล่อนไปเรียนมหาวิทยาลัย
หญิงสาวเดินออกมาข้างนอก แสงแดดอ่อนๆสาดประกายลงมาเล็กน้อย ดวงอาทิตย์ในกรุงปารีสทอแสงอ่อนจางหากแต่ฉายรัศมีอาบไล้ลงมาจนฟากฟ้าสีครามกลายเป็นสีฟ้าสดใสจนนุชลตรีเห็นเมฆที่รายล้อมบนท้องนภา
หญิงสาวเดินไปตามทางก้อนหินที่เรียงรายต่อกันอย่างรวดเร็วเพียงเพื่อหมายจะชมนิทรรศการกุหลาบหินแสนปีของพิพิธภัณฑ์ที่หล่อนวาดฝันวางแผนไว้ว่าจะต้องดูให้สักครั้งหนึ่งให้ได้ในชีวิตนี้ของเธอ
“พี่สาว…กุหลาบไหมจ้ะ” เสียงหนึ่งเอ่ยดังขึ้นขณะหญิงสาวกำลังเดินผ่านทางเข้าออกหน้าพิพิธภัณฑ์ไปเพื่อไปอย่างอีกอาคารหนึ่งที่กำลังจัดแสดงงานที่เธอใฝ่ฝันว่าจะมาดู
นุชลตรีหยุดมองมือเล็กของเด็กชายที่ส่งกุหลาบสีแดงสดมาให้เธอเพียงชั่วครู่ หญิงสาวสังเกตเห็นเด็กชายมีใบหน้ากลมแก้มของเขามีสีแดงคล้ายมะเขือเทศสุกแต้มอยู่ ดวงตาของชายหนุ่มมีสีน้ำตาลเปล่งประกายแวววับคล้ายกับเมล็ดถั่วอัลมอนด์
เวลานี้นุชลตรีต้องเดินทางไปชมนิทรรศการกุหลาบแสนปีให้ได้ ทว่าหล่อนไม่สามารถที่จะรับของจากเด็กชายผู้ขายดอกกุหลาบแดงสดนี้ได้
หญิงสาวอดรู้สึกประหลาดใจไม่ได้ว่าเหตุไฉนพวกเขาจะมาขายกุหลาบดอกไม้ในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ หรือว่าพวกเขาจะเป็นโจรกันแน่นะ
ในหนังสือพิมพ์คอลัมน์นิตยสารเตือนภัยผู้หญิงได้เคยลงเตือนสาว ๆ เอาไว้ว่าในประเทศนี้มักมีโจรชุกชุมและเหล่าโจรจะมีวิธีในการหาเหยื่อที่แตกต่างกันออกไป
หญิงสาวอดรู้สึกขนลุกไม่ได้เลยเพราะเวลานี้หล่อนอดรู้สึกไม่ได้เลยว่าเด็กชายตรงหน้าอาจเป็นมิจฉาชีพก็เป็นได้
จิตใจฝ่ายดีและฝ่ายชั่วของเธอตีกันมั่วซั่วไปหมด ใจหนึ่งหล่อนเองก็สงสารหากแต่อีกใจหล่อนนั้นก็กลัว เหลือเกินว่าเขาจะเป็นคนร้าย และอาจร้ายกว่าที่หล่อนคิดไว้มาก ๆ
ดวงตาคู่สีสนิมของสาวเอเชียทอดมองวงหน้าของเด็กน้อยด้วยดวงตาระยับระยับพร่างพรมแสงนัยน์ตาของเด็กชายคนนั้นพร่างพราว หากแต่ว่ากลับมีหยาดน้ำตาไหลคลอหน่วยตา
ในที่สุดจิตใจฝ่ายดีก็ชนะจิตใจฝ่ายต่ำของนุชลตรีได้ จิตใจฝ่ายดีกลับสามารถเอาชนะความหวาดกลัวในใจของหล่อนลง
หญิงสาวโน้มตัวลงมาเพียงเล็กน้อยเพื่อคุยกับเด็กชายตัวน้อยแล้วจึงเอ่ยถามกับเด็กชายว่า
“เท่าไหร่จ้ะ” หญิงสาวเอ่ยถามเด็กน้อยตัวเล็ก ขณะที่ไหล่ข้างซ้ายของหล่อนสะพายกระเป๋าแบรดน์เนมราคาแพงเหยียบแสน
ภาพที่อยู่ด้านหน้าของนุชลตรีเป็นเด็กชายสวมหมวกไหมพรมละม้ายคล้ายหมวกศิลปะ กรอบหน้าของเด็กน้อยนั้นคมคายเสียจนนุชลตรีอดรู้สึกประหม่าเขินอายไม่ได้
“ราคาไม่แพงหรอกจ้ะพี่สาวแค่ 10 เซน” เด็กน้อยกล่าวด้วยน้ำเสียงอู้อี้เล็กน้อย
หญิงสาวถอนหายใจอย่างโล่งอก ไม่นานนักหล่อนก็หยิบกระเป๋าสตางค์ออกมาจากกระเป๋าสะพายแบรนด์เนมราคาแพงหูฉี่ของเธอ
ดวงตาของนุชลตรีทอแสงประกายระยับวาววับ หญิงสาวส่งยิ้มหวานให้เด็กชายตัวน้อยที่ยักคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง
ทว่ายังไม่ทันที่หญิงสาวจะได้หยิบเงินจ่ายให้กับดอกกุหลาบที่อยู่ในมือของเด็กชายตัวน้อย ไวเท่าความคิด กระเป๋าสตางค์หรูหราลวดลายสวยในมือของหญิงสาวก็ถูกกระชากออกไปจากมือหล่อนเสียก่อน
นุชลตรีมองบุรุษที่สวมหมวกคลุมปิดบังใบหน้าด้วยความตระหนก หญิงสาวหวีดร้องขึ้นสุดเสียง
ฉับพลันร่างของนุชราตรีล้มลงสุดแรงเกิด เวลานี้กระเป๋าสะพายราคาแพงหูฉี่ของเธอก็ถูกวิ่งราวไปเสียแล้ว
“ช่วยด้วยจ้ะ…ช่วยด้วย” หญิงสาวร้องเรียกให้คนช่วย แต่แล้วก็หามีใครสนใจเสียงร้องเรียกของเธอไม่
ผู้คนแถวนั้นหันมามองและซุบซิบนินทาเธอ
อย่างรวดเร็วไม่มีแม้สักคนที่มีน้ำใจกับนุชลตรี
นุชลตรีตั้งสติได้จึงตัดสินใจเก็บกระเป๋าสตางค์ของหล่อนเอาไว้ในกระเป๋ากางเกง หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่อย่างพยายามนะงับแรงโทสะที่พวยพุ่งออกมา
ในที่สุดหญิงสาวชาวเอเชียตัดสินใจวิ่งตามโจรผู้ร้ายที่เข้ามาขโมยกระเป๋าของเธอในทันทีที่หล่อนได้สติ
หญิงสาววิ่งตามคนร้ายไปอย่างติด ๆจนเห็นหลังของคนร้ายอยู่ไม่ไกลจากหล่อนมากนัก
เมื่อคนร้ายเหลียวมองข้างหลังก็พบว่าหญิงสาวนั้นวิ่งตามมาจนใกล้ถึงตัวของมัน มันจึงเลี้ยวเข้าไปในตรอกแคบและมืดทึบไร้ซึ่งแสงจากโคมไฟ
นุชลตรีเลี้ยวไปตามตรอกทางที่มืดทึบทันที หญิงสาวได้กลิ่นอับของท่อน้ำทิ้งที่หล่อนวิ่งเข้าไปใกล้ทว่านี่ไม่ใช่เวลาที่เธอจะมาคิดเรื่องท่อน้ำทิ้งที่ไม่ควรมาอยู่ในซอยนี้
นาทีความเป็นความตายของนุชลตรีอยู่เบื้องหน้าต่างหากล่ะ เพราะในกระเป๋าของหล่อนมีพาสปอร์ต หล่อนจะไม่ยอมให้วายร้ายอย่างมันได้ย่ามใจแม้แต่น้อย
‘รอบนี้ตายเป็นตายยัยนุช’
โชคยังดีที่ในซอยนั้นเป็นตรอกซอยตัน และเวลานี้ยังเช้าอยู่มากในซอยนั้นจึงยังมีแสงอาทิตย์สาดส่องลงมาบ้างประปราย
+++
นิยายจอมใจฮิปปาเรียนี้จะถูกเรียกว่าหนังสือชุด #อาณาจักรฮิปปาเรีย ค่ะ โดยซีรีส์อาณาจักรฮิปปาเรียมีนิยายทั้งหมด 10 เล่ม ดังต่อไปนี้ 1.จอมใจฮิปปาเรีย ภาค 1 เล่ม 1 บัลลังก์สราเนีย 2. จอมใจฮิปปาเรีย ภาค 1 เล่ม 2 ผจญภัยป่าดงดิบฮานาบี 3. จอมใจฮิปปาเรีย ภาค 2 เล่ม 1 กำเนิดรัชทายาทฮิปปาเรีย 4. จอมใจฮิปปาเรีย ภาค 2 เล่ม 2 นางบรรณาการแคว้นดิมาเรีย 5. จอมใจฮิปปาเรีย ภาค 3 เล่ม 1 ปราบกบฎบัลลังก์สราเนีย 6. จอมใจฮิปปาเรีย ภาค 3 เล่ม 1 ห้าเจ้าหญิงผู้นำทางปริศนา 7. จอมใจฮิปปาเรีย ภาค 4 เล่ม 1 หนึ่งเดียวในหทัย 8. จอมใจฮิปปาเรีย ภาค 4 เล่ม 2 อาณาจักรฮิปปาเรีย 9. จอมใจฮิปปาเรีย ภาค พิเศษ เล่ม 1 เจ็ดขุนนางผู้พิทักษ์ 10. จอมใจฮิปปาเรีย ภาค พิเศษ เล่ม 2 ราชอาณาจักรฮิปปาเรีย นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดจาก จินตนาการของ "ดวงดาหลา" เองค่ะ ดินแดนฮิปปาเรียเป็นดินแดนสมมติที่ผู้เขียนเฝ้าฝันถึง จอมใจฮิปปาเรีย มีสี่ภาค แต่ละภาคแบ่งเป็น 2 เล่มค่ะ รับรองค่ะว่า เข้มข้น หวานซึ้ง ตรึงใจทุกคนแน่นอนค่ะ เนื้อเรื่องจะสนุกขนาดไหน ขอเชิญนักอ่านทุกท่านเพลิดเพลินไปกับ จอมใจฮิปปาเรีย ภาค 1 เล่ม 1 บัลลังก์สราเนียได้แล้ว ณ บัดนี้ Duangdala Talk ดวงดาหลากลับมาเเล้วค่ะ หลังจากติดภารกิจมานาน รี้ดทุกคนสามารถคอมเม้น หรือกดใจทั้ง 5 ให้ดวงดาหลาได้นะคะ ขอบคุณที่ติดตามค่ะ #ดวงดาหลา ป.ล. นักอ่านท่านใด หรือ ใครอ่านเเล้วมารีวิว มาเม้นมาพูดคุยกันกับดวงดาหลา ได้น้า
พจน์ศรัช โคฟาวเดอร์ หนุ่มที่ได้โคจรมาพบกับธาสิกา คู่หมั้นคนสุดท้ายที่เหลืออยู่ เรื่องราวชุลมุนยิ่งขึ้นเมื่อคู่หมั้นคนก่อนเสียชีวิตลงอย่างเป็นปริศนาในสถานอโคจรที่เขาต้องมีเอี่ยวไปด้วย งานนี้ธาสิกาจึงต้องลงมือสืบสาวเรื่องราวด้วยตัวเอง งานแต่งยังคงดำเนินต่อไป และใครกันเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการเสียชีวิตอย่างเป็นปริศนาของยศรินทรา แฝดพี่ของธาสิกา ไม่รู้ว่าจะเรียกพรหมลิขิตเขียนไว้หรือจะเป็นบาปเวรแต่ชาติปางไหน...เมื่อหัวใจรักของเขาทั้งคู่เริ่มก่อตัวขึ้นโดยที่ทั้งสองไม่รู้ตัว
“เพ่ยอินเหยาข้านี่แหละยอดขุนพลสตรี เล่ม 1” นิยายรักจีนโบราณสายบู๊และบุ๋น ‘อินตูตู’ ขุนพลสตรีผู้มีศักดิ์เป็นแม่ทัพคุมค่ายพลทหารชาวฉินเพื่อออกรบในสมรภูมิทีเดิมพันด้วยชีวิตอย่างแคว้นฉี หากการมาแคว้นฉีไม่ได้มีเพียงแค่สงครามระหว่างแคว้นเท่านั้น ทว่าการมาครั้งนี้ของนางมาเพื่อแก้ปมปริศนาสตรีที่หายไปในแคว้นฉินด้วยต่างหาก สงครามระหว่างแคว้นฉินและฉีจะจบลงเช่นไร แล้วใครกันเป็นผู้บงการเกมที่ต้องเดิมพันด้วยชีวิต
ความจริงใดกันแน่ที่หลบซ่อนในเคหาสน์สถานแห่งนี้ หรือมันอาจจะเป็นกลลวงของใครบางคนที่กำลังมุ่งหมายจะทำลายพวกเขา เจ้าหล่อนจะทำเช่นไรในเกมล้างเกมผลาญชีวิตเช่นนี้ จุดเริ่มต้นความน่าสะพรึงกลัวของทุกสิ่งที่จารีย์ได้เจอนั้นมาจากคฤหาสน์หลังโตโอ่อ่าแห่งนี้ ภายนอกงดงามหากแต่ภายในกลับรกร้างราวกับไม่เคยมีใครอาศัยอยู่มาก่อน แรงแค้น แรงพยาบาท แรงอาฆาต ของสิ่งลี้ลับยังคงวนเวียนตามจองกรรมทวงถามความเป็นธรรมอย่างที่พวกมันรอคอยตลอดมา! +++ นรีกุลรับรู้ถึงอุณหภูมิที่กำลังทวีความคุกรุ่นในเรือนกายของหล่อน เรียวปากบางของเขาซอนไซ้ไปยังใบหูของนรีกุลจนหญิงสาวเผลอไผลร้องซี้ดปากด้วยความสุขใจ มือหนาของชายหนุ่มเอื้อมปลดตะขอชุดที่นรีกุลสวมใส่อยู่ เขาแนบเรือนกายของหล่อนให้ผสานกับเขาอย่างลุ่มหลงในตัวของนรีกุล หญิงสาวปิดเปลือกตาของหล่อนลงอย่างพลั้งเผลอ ความหวามไหวแทรกไปทั่วอณูของนรีกุล ภรรยาของนัฐธวีร์ปิดเปลือกตาลงไปแล้ว หากแต่เวลานี้ดวงวิญญาณร้ายของกรวีร์ยังคงทำงานตามคำสั่งของเดรัจฉานต่อไป นิ้วเรียวของวิญญาณร้ายซอนไซ้เข้าไปยังปากถ้ำสวรรค์ของหญิงสาว นรีกุลบิดตัวแล้วครวญเสียงหวานจนนัฐธวีร์สะดุ้งเล็กน้อยทว่าความอ่อนเพลียจากการเดินทางในระยะเวลานานทำให้เขาฟุบหลับไป หนุ่มสาวสองคนหารู้ไม่ว่าเวลานี้ดวงวิญญาณของกรวีร์ได้เสพสมเรือนกายของนรีกุลอย่างอุกอาจ และดวงจิตของนัฐธวีร์ได้ถูกเรียกจิตไปโดยสัตว์ร้ายในคราบของสาวงามเสียแล้ว!
"วันดับนางริษยา" นิยายแนวสยองขวัญกระตุกประสาทที่จะมาเขย่าขวัญทุกคนให้กระเจิง ความจริงใดกันแน่ที่หลบซ่อนในเคหาสน์สถานแห่งนี้ หรือมันอาจจะเป็นกลลวงของใครบางคนที่กำลังมุ่งหมายจะทำลายพวกเขา เจ้าหล่อนจะทำเช่นไรในเกมล้างเกมผลาญชีวิตเช่นนี้ มาร่วมค้นหาบทสรุปในนิยายเล่มนี้กันค่ะ
"วันดับนางริษยา" นิยายสยองขวัญกระตุกประสาท #ดวงดาหลา ที่จะพาเขย่าขวัญทุกคนให้กระเจิง เมื่อรักไม่อาจแบ่งใจนรีกุลจึงต้องแบกรับทั้ง นัฐธวีร์ คนเป็น และคนตายในคราเดียวกัน นรีกุลจะทำเช่นไรต่อไป...ความรัก แรงอาฆาตเปลวพยาบาทของพวกเขาจะเผาหญิงสาวให้ตายทั้งเป็นหรือไม่! มาร่วมค้นหาคำตอบในนิยายเล่มนี้กันค่ะ ++++++++++++ โปรปราย เวลานี้นรีกุลอดรู้สึกไม่ได้ว่าร่างกายของตนขยับไม่ได้อีกแล้วหากแต่ท้องของหล่อนกับปวดมากราวกับเป็นไส้ติ่งอักเสบ หญิงสาวพยายามดีดดิ้นให้รอดพ้นจากการเกาะกุมของวิญญาณร้ายที่เธอเชื่อว่าติดตามมา หญิงสาวเปิดตามองไปยังด้านบนก็พบว่าเธฮนอนใกล้คาน ไม่นานนักหญิงสาวก็ต้องหวีดร้องสุดเสียงอีกครั้ง ยามเมื่อเวลานี้มีวิญญาณร้ายนั่งอยู่บนคานสูงเหนือหัวของเธอ วิญญาณร้ายที่นั่งแกว่งขาไป,kอยู่นั้นราวกับว่าจะเห็นเธอ หญิงสาวรีบปิดเปลือกตาลงอย่างรวดเร็ว กลิ่นเหม็นเน่าโชยไปเข้าจมูกของหญิงสาวอย่างจัง จนเธอต้องลืมตาขึ้นมามอง ภาพที่ปรากฏตรงหน้าหล่อนทำให้หญิงสาวช็อคสุดขีดเมื่อเวลานี้ศีรษะของวิญญาณร้ายค่อยๆห้อยลงมาจรดยังจมูกของเธอ นรีกุลหวีดร้องอย่างดังลั่นพลางออกปากไล่อย่างตระหนกสุดขีด หญิงสาวพยายามยกมือขึ้นสวดอ้อนวอนแต่ก็ไร้ผล เธอกลับยกมือไม่ขึ้นราวกับว่าเธอถูกผีอำอย่างไรอย่างนั้น ยังไม่ทันธรรมดาหญิงสาวจะสวดมนต์จบเธอก็ได้ยินเสียงข้างหูพูดขึ้นมาว่า
อวิ๋นเจินอาศัยอยู่ในตระกูลอวิ๋นมาเป็นเวลา 20 ปี กลับพบว่าเธอเป็นลูกสาวปลอม พ่อแม่บุญธรรมของเธอวางยาเธอเพื่ออยากจะได้เงินมาลงทุน หลังจากที่อวิ๋นเจินรู้เรื่องนี้ เธอก็ถูกไล่กลับไปที่ชนบท จากนั้นเธอก็ค้นพบว่าตัวเองคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลเฉียวและมีชีวิตที่หรูหราสุด ๆ หลังจากกลับมา เธอได้รับความรักจากครอบครัวและมีชื่อเสียงโด่งดัง น้องสาวจอมปลอมใส่ร้ายอวิ๋นเจิน แต่เธอไม่คาดคิดว่าอวิ๋นเจินจะมีความสามารถต่างๆ เมื่อต้องเผชิญกับการยั่วยุ เธอได้แสดงความสามารถและทักษะต่างๆ มากมายเพื่อจัดการผู้รังแก มีข่าวลือกันว่าอวิ๋นเจินยังคงโสด และชายหนุ่มชื่อดังแห่งเมืองงก็ผลักเธอไปเข้ากำแพง "คุณนายกู้ ถึงตามราเปิดเผยตัวตนได้แล้วนะ"
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
"นางเป็นบุตรีผู้สูงศักดิ์ของฮูหยินเอกของจวนเสนาบดี นางมีหน้าตาโดดเด่น ทั้งอ่อนโอนและมีน้ำใจไมตรีต่อผู้อื่น แต่... นางทำดีต่อป้าของนาง นางกลับฆ่าแม่ของนางตาย นางรักเอ็นดูน้องสาวของนาง แต่น้องสาวกลับแย่งสามีของนางไป นางคอยสนับสนุนและดูแลสามีของนางอย่างสุดหัวใจ แต่สามีกลับทำให้นางตายทั้งกลม...ตระกูลฝ่ายมารดาของนางก็ถูกประหารชีวิตทั้งตระกูลด้วย นางตายตาไม่หลับและสาบานว่าหากมีชาติหน้า นางจะไม่เมตาตาต่อใครอีก ใครก็ตาม กล้ามาทำร้ายข้า ข้าจะล้างแค้นด้วยชีวิตทั้งตระกูลของพวกเจ้า เมื่อเกิดใหม่อีกครั้ง นางอายุได้สิบสี่ปี นางสาบานว่าจะต้องเปลี่ยนชะตากรรมและแก้แค้นชาติก่อน ป้านางใจ้ร้าย นางจะใจร้ายกลับยิ่งกว่านาง นางคิดจะได้ครองตำแหน่งฮูหยินงั้นเหรอ บอกเลยไม่มีทาง! ส่วนน้องสาวชอบผู้ชายชั่ว ๆ นักไม่ใช่หรือ ได้!ข้าจะยกให้เลย ส่วนชายชั่วนั่น ข้าจะทำให้เจ้าไม่สามารถมีทายาทได้อีกตลอดทั้งชาติ!แต่ข้าจะแก้แค้น เหตุใดเจ้าต้องมาช่วยข้าด้วย?"
หลังจากแต่งงานกันสามปี เจียงหยุนถังพยายามสุดความสามารถเพื่อช่วยชีวิตสามีที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ โดยไม่คาดคิด ว่าเขาได้ละทิ้งเธอเหมือนกับขยะ รับรักแรกของเขากลับประเทศและตามใจเธอทุกอย่าง เจียงหยุนถังที่ท้อใจตัดสินใจหย่า และทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอที่กลายเป็นภรรยาที่ถูกทอดทิ้งจากตระกูลเศรษฐี อย่างไรก็ตาม เธอกลับเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างกะทันหันเป็นหมอเทวดาที่พบเจอยาก "Lillian"แชมป์แข่งรถที่มีฐานแฟนคลับจำนวนมาก และยังเป็นนักออกแบบสถาปัตยกรรมระดับโลกอีกด้วย ชายร้ายหญิงชั่วคู่นั้นเยาะเย้ยเธอว่า เธอจะไม่มีวันหาคู่รักได้ใ แต่ไม่คาดคิดว่าลุงของอดีตสามีของเธอ ซึ่งเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดทำกแงทัพกลับมาเพียงเพื่อขอแต่งงานกับเธอ
เพราะคิดว่าเป็นความฝัน ฉินหร่านจึงร่วมมือบรรเลงเพลงรักอย่างไม่ได้ตั้งใจ ไฉนตื่นขึ้นมาถึงมีสามีเป็นของตัวเอง อีกทั้งสามีนางยังตาบอดอีกด้วย! แต่นั่นไม่น่าตกใจ เท่ากับที่นางมาอยู่ในร่างเด็กสาวในยุคจีนโบราณ ที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ อีกทั้งร่างนี้ถูกขายให้มาเป็นภรรยาของชายตาบอด แต่ไหนๆ ก็มาแล้วจึงจะใช้ชีวิตให้ดี ส่วนสามีนะหรือ หล่อขนาดนั้น แซ่บขนาดนี้ เดินหน้าเกี้ยวสามีสิ จะรออะไร!
เธอก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่เคยสนใจ แต่ก็ยังดึงดันอยากจะอยู่ใกล้ ต่อให้เธอเป็นเมียแต่งเขาก็คงไม่มีวันเปลี่ยนใจ เพราะเหตุนี้เธอจึงตัดสินใจจากไปในคืนแต่งงาน "จากนี้ไปเราไม่มีอะไรติดค้างกันอีก" 🥀