อดีตที่ยากจน แม่เลี้ยงสามีที่เอาเปรียบบ้านใหญ่ บ้านรอง ของพวกเธอต้องชดใช้!
อดีตที่ยากจน แม่เลี้ยงสามีที่เอาเปรียบบ้านใหญ่ บ้านรอง ของพวกเธอต้องชดใช้!
บรรยากาศภายในห้องทำงานเย็นเฉียบท่ามกลางอากาศภายนอกที่ร้อนระอุ
“อีกแค่ 10 วันเองเหอเสี่ยวหง” หญิงสาวพึมพัมกับตัวเองหลังเปิดดูปฏิทินประจำปีที่ตั้งไว้บนโต๊ะทำงาน
อีกแค่สิบวันก็จะถึงวันเกิดที่เธอเกิดขึ้นมาบนโลกใบนี้ เป็นเวลาเกือบสามสิบปีที่รอคอยมันใกล้จะมาถึงแล้ว
เหอเสี่ยวหงใช้มือที่ถือปากกาเช็ดน้ำตาที่กำลังจะไหล “ฉันใกล้จะได้กลับไปหาทุกคนแล้ว” เธอยิ้มอย่างยินดี
ก๊อก! ก๊อก!
‘คุณเหอคะ! หยาดฟ้าเองค่ะ’
“เข้ามา!”
เสียงรองเท้าส้นสูงกระแทกกับพื้นห้องดังขึ้น ทำให้เหอเสี่ยวหงที่เหม่ออยู่ เงยหน้าขึ้นมองคนที่เดินเข้ามาภายในห้อง
“มีอะไร” เหอเสี่ยวหงถามเสียงเรียบ พลางก้มหน้าอ่านเอกสารต่อ
“กลีเซอรีนจำนวน 10,000,000 ก้อน ขี้ผึ้งสีขาวจำนวน 3,000,000 ก้อน เทียนคละสีจำนวน 5,000,000 เล่ม หยาดได้สั่งซื้อจากโรงงานให้ไปส่งที่สวนแล้วนะคะ ไม่เกิน 2 วัน ทางโรงงานน่าจะส่งถึง” หยาดฟ้าที่ก้มหน้าอ่านใบเสร็จเงยหน้าขึ้นบอกแล้วพูดต่อ
“แล้วก็ของที่คุณเหอซื้อมันเป็นจำนวนมาก ทางโรงงานเลยแถมน้ำมันรำข้าวกับน้ำมันมะพร้าวให้ชนิดละ 1,000 ลิตรค่ะ” ว่าจบก็ยื่นใบเสร็จให้ผู้เป็นเจ้านาย
เหอเสี่ยวหงปิดแฟ้มเอกสารแล้วหยิบใบเสร็จขึ้นตรวจก่อนจะถามต่อ “อืม แล้ววันนี้มีอะไรอีกไหม”
“อ๋อ! เมื่อกี้คุณนายเหอให้เลขาโทรมานัดคุณเหอ ไปกินข้าวกับครอบครัวที่ร้านคุณเหอหลินหลินค่ะ” หยาดฟ้าเอ่ยรายงาน
“ฮึ คุณแม่อยากเจอลูกสาวนอกคอกคนนี้ด้วยหรือยังไง” เหอเสี่ยวหงหลุดขำด้วยใบหน้าที่นิ่ง
หยาดฟ้าเห็นท่าทีไม่ดีจึงรีบเปลี่ยนเรื่อง “แล้วคุณเหอต้องการสั่งอะไรเพิ่มไหมคะ หยาดจะได้ไปเตรียมให้”
“เธอไปพักเถอะ เย็นนี้ฉันคงจะต้องเข้าห้างไปซื้อของสักหน่อย” หลังว่าจบก็เปิดแฟ้มเอกสารขึ้นมาอ่าน
“ได้เลยค่ะ ถ้ามีอะไรโทรเรียกหยาดได้ตลอดเลยนะคะ”
“อือ บอกให้คนงานที่ไร่เอารถไปจอดรอหลังห้างเลยนะ”
“ได้เลยค่ะ ฉันจะโทรบอกหัวหน้าคนงาน”
เสียงประตูปิดลงพร้อมกับเหอเสี่ยวหงที่วางปากกา ก่อนที่เธอจะหลับตาลงแล้วเอนตัวพิงเก้าอี้ตัวโปรด
เหอเสี่ยวหงเป็นลูกสาวคนโตของท่านายพลทหารยศใหญ่และคุณนายร้านเพชรชื่อดัง ปีนี้เหอเสี่ยวหงจะอายุครบสามสิบปีแล้ว เธอมีน้องสาวที่อายุห่างกันเป็นสิบ ๆ ปี ชื่อเหอหลินหลิน ปีนี้หล่อนก็เพิ่งจะยี่สิบปีเหมือนกัน แต่หล่อนนั้นเป็นลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของคนเป็นพ่อและแม่ ช่างแตกต่างกับเหอเสี่ยวหงผู้เป็นพี่สาว
แต่ก่อนในตอนที่เหอเสี่ยวหงยังเด็ก พ่อของเธอยังเป็นเพียงพลทหารตัวเล็ก ๆ ในกองทัพ และแม่ของเธอก็เป็นเพียงพนักงานในร้านเพชรที่เป็นของแม่เธอในปัจจุบัน จึงทำให้ไม่มีเวลาดูลูกสาวคนโต เหอเสี่ยวหงจึงถูกส่งให้ไปอยู่กับผู้เป็นย่าตั้งแต่จำความได้
และเมื่อเหอเสี่ยวมีอายุสิบขวบ มีแม่เฒ่าชรามาอ้างว่าเป็นหมอดูมาทำนายว่าลูกสาวผู้หนึ่งจะเป็นใหญ่ และลูกสาวอีกคนจะเป็นน้อย ซึ่งในเวลานั้นครอบครัวของเหอเสี่ยวหงยังไม่เชื่อมากนัก แต่แล้วพอผ่านไปสองเดือนคุณนายเหอกลับตั้งครรภ์ขึ้นมาอีกครั้ง ทั้ง ๆ ที่หลังจากคลอดเหอเสี่ยวหง คุณนายเหอไม่มีท่าทีว่าจะตั้งครรภ์อีกครั้ง
และเมื่อคุณนายเหอตั้งครรภ์ได้ห้าเดือน ท่านนายพลเหอที่เป็นเพียงทหารปลายแถว กลับได้รับโอกาสให้ขึ้นเป็นทหารยศสูง จึงทำให้ท่านทั้งสองเชื่อว่าเด็กในท้องจะขึ้นเป็นใหญ่ ลูกสาวคนโตที่ละเลยอยู่แล้วยิ่งละเลยไปอีก ยิ่งเมื่อคลอดลูกสาวคนเล็กออกมาผู้เป็นเจ้านายของคุณนายเหอก็ย้ายตามสามีไปอยู่ต่างประเทศ ร้านเพชรเล็ก ๆ จึงถูกยกให้คนสนิทที่ทำงานมาตั้งแต่ที่เปิดร้านอย่างคุณนายเหอ
ยิ่งพอมีหน้ามีตาในสังคม ไม่ต้องคอยวิ่ง คอยเดินตามหัวหน้า ทำให้ทั้งสองมีเวลาว่างจากการทำงาน
มาเลี้ยงเหอหลินหลิน ส่วนเหอเสี่ยวหงที่อายุครบสิบปีก็ถูกส่งกลับไปให้ผู้เป็นย่าเลี้ยง ทั้ง ๆ ที่เพิ่งจะมาอยู่กับพ่อแม่ไม่กี่ปี
เมื่อเหอเสี่ยวหงอายุได้ยี่สิบปีคุณย่าเหอก็เสียชีวิตลงด้วยโรคชรา ตอนนั้นเหอเสี่ยวหงที่เรียนมัธยมควบคู่ปริญญาตรีเพิ่งจะจบพอดี จากที่ต้องพักผ่อนก่อนทำงานเป็นปี สองปี ก็ต้องมาบริหารไร่หลายร้อยหมู่ ในนามทายาทคนเดียวของคุณย่าเหอ
นายพลเหอกับคุณนายเหอที่คิดว่าจะได้รับมรดกจากผู้เป็นแม่ก็รีบไปเรียกหาทนายผู้จัดการมรดกทันที แต่แล้วก็ทำให้ตกใจเพราะคุณย่าเหอยกทุกอย่างให้กับเหอเสี่ยวหง และให้เงินสดเหอหลินหลินผู้เป็นหลานสาวอีกคนเพียงหนึ่งแสนหยวน
เมื่อชื่อผู้รับมรดกมีเพียงเหอเสี่ยวหง เธอก็ถูกบิดามารดาต่อว่า ที่เป่าหูคุณย่าเหอให้ยกทรัพย์สินทุกอย่างให้คนเดียว ทั้ง ๆ ที่เหอเสี่ยวหงไม่รับรู้อะไรในส่วนนี้เลย
ต่างจากเหอหลินหลินที่แทบจะกระโดดดีใจที่ได้เงินเป็นแสนหยวน
และแล้วเวลาล่วงเลยมาหลายสิบปีก็ทำให้นายพลเหอกับคุณนายเหอรู้ซึ้งกันเลยว่าใครเป็นใหญ่ ใครเป็นน้อย เหอหลินหลินที่ทุกคนภูมิใจนักหนาได้ขอเงินไปเปิดร้านอาหาร ลูกสาวสุดรักสุดหวงขอทั้งทีทำไมจะไม่ให้ล่ะ แต่ผ่านไปไม่ถึงเดือนเหอหลินหลินก็ได้กลับมาขอเงินไปอีกหลายล้านหยวน ซึ่งหากคนขอเป็นลูกสาวคนโตอย่างเหอเสี่ยวหงทั้งสองคงจะไม่ให้ แต่นี่เป็นเหอหลินหลินลูกสาวที่ไม่กล้าขัดใจ
ยังไม่พอ! เมื่อลูกสาวที่พวกเขาทะนุถนอมมาอย่างดีกลับตั้งครรภ์ขึ้นมาในวัยยังไม่ถึงสิบแปดปี ยิ่งพ่อของเด็กเป็นวัยรุ่นเสเพลกินเหล้าข้างบ้านก็ทำให้พวกเขาแทบกระอักเลือด
เหอหลินหลินที่เรียนยังไม่จบมัธยมปลายจึงต้องออกจากโรงเรียนกลางคัน ทั้งนายพลเหอกับคุณนายเหอจึงต้องแบกหน้ามาขอให้เหอเสี่ยวหง
ลูกสาวที่พวกเขาแทบจะไม่ได้เลี้ยง เซ็นรับลูกของน้องสาวเป็นลูกบุญธรรม เพราะต้องการส่งเหอหลินหลินเรียนแพทย์ แต่เพราะกลัวจะมีประวัติไม่ดี ซึ่งเหอเสี่ยวหงก็ปฏิเสธ
นายพลเหอกับคุณนายเหอที่บังคับลูกสาวคนโตไม่ได้ก็ต้องกลับบ้านมือเปล่า พอกลับมาถึงบ้านเห็นลูกสาวสุดที่รักท้องป่องก็ต้องคิดหนัก ลูกสาวคนโตที่พวกเขาละเลยกลับได้ดิบได้ดี แต่ลูกสาวที่เลี้ยงมาอย่างดีกลับกำลังแย่ลง
เงินเกือบสี่ล้านหยวนที่เหอหลินหลินได้ขอไปตอนแรกและบอกจะเปิดร้านอาหาร หล่อนเอาไปปรนเปรอให้ผู้ชายจนหมดตัว! เงินสี่ล้านหยวนหายวับไปกับตา ไหนจะไม่รับผิดชอบลูกสาวกับหลานในท้องอีก
เหอหลินหลินกลัวว่าจะถูกด่าจึงไม่กล้าบอกว่าตั้งครรภ์ พอเรื่องแดงขึ้นมาก็ไม่สามารถเอาเด็กออกได้แล้ว เพราะคนเป็นแม่จะเป็นอันตราย นายพลเหอกับคุณนายเหอจึงต้องให้ลูกสาวเก็บหลานเอาไว้ แต่ตอนนี้เงินที่บ้านเหลือไม่ถึงหนึ่งแสนหยวนเลย
นายพลเหอไม่มีทางเลือกจึงเช่าร้านอาหารที่กำลังจะเจ๊งให้ลูกสาวดูแล แต่เขาคงจะลืมไปว่าลูกสาวของตัวเองเป็นคนแบบไหน ต้องจ่ายค่าเช่า ค่าพนักงาน รายได้ที่ได้มาในแต่ละวันไม่เพียงพอให้หล่อนใช้จ่าย
คุณนายเหอจึงหาทางมาพบลูกสาวคนโตที่กำลังเป็นนักธุรกิจที่กำลังเติบโต เพื่อให้เหอเสี่ยวหงเอาเสี่ยวตงผู้เป็นหลานชายมาเลี้ยง อีกอย่างถ้าเหอเสี่ยวหงเสียชีวิตอย่างน้อยมรดกก็ต้องถูกส่งให้หลานชายที่รับเลี้ยงอยู่แล้ว แต่ก็ถูกเหอเสี่ยวหงปฏิเสธอยู่ดี
ก๊อก! ก๊อก
‘คุณเหอคะ! คุณนายเหอโทรมาค่ะ!”
เหอเสี่ยวหงยกยิ้ม ทั้งสองคนรักเหอหลินหลินมาก เมื่อลูกสาวสุดที่รักไม่มีเงินใช้ก็ต้องบากหน้าไปหายืมเงิน แต่อีกไม่กี่วันต้องหาเงินจ่ายดอกเบี้ยเงินที่มีมันก็ไม่พอ ทางเลือกสุดท้ายจึงต้องเข้าหาเหอเสี่ยวหง
“ไม่ต้องรับ!” เหอเสี่ยวหงตะโกนลั่นห้องทำงาน
จริง ๆ แล้วเหอเสี่ยวคือคนปี1960 ในเวลานั้นเธอแท้งลูกเพราะถูกแม่เลี้ยงสามีโขกสับ เพราะสามีของเธอที่ทำงานเป็นยามในอำเภอถูกส่งไปทำงานที่มณฑลอื่น พ่อสามีก็เสียแล้ว แม่เลี้ยงสามีจึงได้ใจ
เหอเสี่ยวหงเป็นคนรักลูกกับสามีมาก พอรู้ตัวว่าแท้งลูกก็เอาหัวโขกเตียงเตาเสียชีวิต นี่คงจะเป็นตราบาปของเธอที่ทำให้ไม่ลืมเรื่องราวในชาติก่อน
เหอเสี่ยวหงได้เกิดใหม่ในเด็กที่ต้องออกจากท้องแม่ เธอเกิดมาโดยใช้ชื่อและแซ่เดียวกับชาติก่อน ไหนจะเกิดมาพร้อมกับของวิเศษอย่างมิติ
ตึก! ตึก!
“คุณหยาด!”
“เฮ้ย! ตกใจหมด”
เหอเสี่ยวหงหัวเราะคิกคักเมื่อเห็นท่าทางตกใจของเลขาคนสนิท เธอหยิบเอกสารที่เซ็นมาวางให้กับหล่อนพร้อมบอกว่าจะออกจากบริษัทแล้ว
“ฉันจะไปแล้วนะคะ”
“จะไปแล้วเหรอคะ” หล่อนรีบลุกจากเก้าอี้ที่นั่ง “หยาดขอตัวเก็บของก่อน” อาจเพราะมีเอกสารหลายอย่างที่สำคัญ เหอเสี่ยวหงจึงได้เห็นภาพวุ่นวายตรงหน้าที่เห็นแทบจะทุกวัน
“งั้นฉันจะไปรอที่รถนะ” ก่อนจะเดินตรงไปยังลิฟท์
“รอด้วยค่าาาา”
เหอเสี่ยวหงหัวเราะออกมาอย่างมีความสุข หยาดฟ้าเป็นลูกสาวคนสนิทของคุณย่าเหอ เมื่อแม่ของหล่อนป่วยและเสียชีวิต จึงถูกคุณย่าเหอรับหล่อนเป็นหลานบุญธรรม
ทั้งเหอเสี่ยวหงและหยาดฟ้ามีอายุเท่ากัน ทั้งสองจึงสนิทสนมกันและคุยกันได้ทุกเรื่อง โดยเฉพาะความลับของเหอเสี่ยวหงที่หยาดฟ้าบังเอิญได้รู้ เหอเสี่ยวหงจึงต้องบอกหล่อน แต่หล่อนก็เก็บเป็นความลับมาตลอด
ปรื้น ปรื้น ปรื้นนน
เสียงรถยนต์ รถเครื่องดังขึ้นในเวลาเลิกงานของชาวออฟฟิศ เหอเสี่ยวหงที่นั่งข้างคนขับเหม่อมองข้างนอกอย่างไร้จุดหมาย ทั้ง ๆ ที่มันเต็มไปด้วยกลุ่มควัน
“ยัยหง หง เสี่ยว… หงหง ยัยหง!” เสียงตะโกนของหยาดฟ้าดังลั่นรถยนต์
“อะไรยัยฟ้า!” เหอเสี่ยวหงสะดุ้งตกใจ
ตอนนี้เป็นเวลาเลิกงานทั้งสองคนจึงพูดกันด้วยความสนิทสนม ต่างจากเวลาทำงานเพราะหยาดฟ้าเป็นลูกน้องจึงต้องให้เกียรติเจ้านาย หากมีคนอื่นมาว่าหล่อนตีตนเสมอนาย เหอเสี่ยวหงจะมีปัญหา
“ของที่เตรียมไว้แล้วมีอะไรบ้าง” เรื่องการที่เธอต้องย้อนกลับอดีตที่ผ่านมา หยาดฟ้าก็รู้เช่นกัน!
“ก็มียาสามัญประจำบ้านแล้วก็ยาสำคัญที่ต้องใช้ ผักผลไม้หลายสิบอย่าง สบู่ผลไม้รวมตระกูลเบอร์รีแล้วก็แยกหลายสิบล้านก้อน จักรเย็บผ้าเครื่องเล็ก 10 ตัว จักรยานที่แกไปเอฟมาหลายเดือนก่อน 10 คัน กล่องใส่อาหาร แก้วพลาสติก กะละมัง หม้อดิน หม้อเหล็ก กระทะ” เหอเสี่ยวหงบอกรายการบางส่วนที่จำได้ บางอย่างก็ถูกเธอเก็บใส่มิติเป็นสิบ ๆ ปี เธอจำได้ก็เก่งเกินไปแล้ว
“โห้! แกสบายเลยสิ” หยาดฟ้าอุทาน
เหอเสี่ยวหงหัวเราะ “ก็ตอนนั้นมันลำบากมาก พอมีโอกาสใครไม่อยากคว้าไว้ล่ะ”
“อ๋อจริงสิ ฉันสั่งผลไม้ตระกูลเบอร์รีทั้งแบบสดแล้วก็แห้งจากต่างประเทศมาให้ด้วย แต่ไม่แน่ใจว่าจะได้เยอะมากไหมเพราะเขาบอกของตีกลับเยอะมากต้องจำกัด” หยาดฟ้าว่าพลางเลี้ยวรถหาที่จอด
เหอเสี่ยวหงที่เห็นว่าเพื่อนจอดรถแล้วก็เอ่ยบอก “ถ้าลุงฟ่านมาแล้วก็บอกให้แกขึ้นไปรอเลย”
ชีวิตของลิลลี่เป็นชีวิตที่ใครหลาย ๆ คนใฝ่ฝันอยาจะเป็นแบบเธอ แต่คนอื่นไม่เคยรู้เลยว่ามันโดดเดี่ยวมากแค่ไหน เกิดในตระกูลหมื่นล้านครอบครัวค่อย ๆ จากไปทีละคน อายุเพียงยี่สิบอาชายผู้ที่เป็นญาติผู้ใหญ่คนสุดท้ายที่เหลืออยู่ดวลจากไป ลิลลี่ ลลิลิล จึงกลายเป็นทายามเพียงคนเดียวของตระกูล มีแล้วอย่างไรสุดท้ายคนเราต้องจากไป มีเงินหมื่นล้านยื้อชีวิตใครไม่ได้สักคน ลิลลี่ในวัยยี่สิบปีเธอรู้ว่าธุรกิจของตระกูลไม่อาจสานต่อได้ ขายหุ้นให้คนอื่นรอรับเพียงเงินปันผลก็เพียงพอ ยี่สิบสามเรียนจบปริญญาตรีด้านแฟชั่นก่อนเรียนต่อปริญาเอก ปริญญาโท ในปีที่สามสิบของชีวิตลิลลี่ประสบความสำเร็จในด้านดีไซเนอร์ เป็นดีไซเนอร์ที่มีชื่อเสียง ยังไม่ทันได้ใช้ชีวิตหลังเรียนจบก็เสียชีวิตจากความเครียดที่สะสมมาตลอด คิดว่าหลังความตายคงจะถูกบรรพบุรุษสาปแช่งที่ดูแลตระกูลไม่ได้ ใครจะรู้ว่าลืมตาแล้วจะมาอยู่ในร่างของคนอื่น วันที่เจ็ดเดือนมกราคมปี 1980 ลิลลี่ตื่นขึ้นในในร่างของลูกสาวคนโตของบ้านฉิน ฉินเสี่ยวหราน มีน้องสาวหนึ่งคน พ่อเป็นทหารหารเพิ่งได้รับเลื่อนขั้นเป้นพันตรี แม่เป็นหญิงในชนบท ฉินเสี่ยวหรานเป็นนักเรียนมัธยมปลายชั้นปีสุดท้าย ส่วนฉินเสี่ยวหลิงเป็นนักเรียนมัธยมต้นชั้นปีสุดท้ายที่จะขึ้นมัธยมปลาย
แป้งร่ำสาวใหญ่วัยสี่สิบ ชีวิตของเธอเต็มไปด้วยงานจนกระทั่งเพิ่งรู้ตัวว่าไม่มีใครเคียงข้าง หลังจากทบทวนชีวิตดีแล้วจึงยื่นขอลาออกจากบริษัท และนับตั้งแต่นั้นมาชีวิตของเธอก็เปลี่ยน ระบบเส็งเคร็งนี่คืออะไร!
เป็นเพียงขยะไร้ค่าของตระกูลจะสู้หลานชายสุดที่รักของคุณปู่ได้อย่างไร ติณณ์เดินออกจากตระกูลไปยังประเทศเกรย์ดัชตามคำบอกเล่าของเพื่อนสาว แต่เข้าประเทศเขาวันแรกดันปากดีใส่องค์รัชทายาทจนโดนหมายหัว
แป้งร่ำสาวใหญ่วัยสี่สิบ ชีวิตของเธอเต็มไปด้วยงานจนกระทั่งเพิ่งรู้ตัวว่าไม่มีใครเคียงข้าง หลังจากทบทวนชีวิตดีแล้วจึงยื่นขอลาออกจากบริษัท และนับตั้งแต่นั้นมาชีวิตของเธอก็เปลี่ยน ระบบเส็งเคร็งนี่คืออะไร! .
ซุนลี่เป็นหนึ่งเกรียงไกร แผ่นดินยิ่งยงไพศาล ใต้หล้าสยบชั่วกาล ว่านอี้ครองราชย์...ประชาร่มเย็น ว่านอี้ครองราชย์...ประชาร่มเย็น คำนี้มีความจริงเจือจางอยู่กี่มากน้อยกันแน่? เรื่องเหล่านี้คงเป็นเพียงบทเรียนในวังหลังที่จารึกให้คนท่องจำ ไปอย่างสูญเปล่า เพราะสำหรับตัวนางแล้ว คำกล่าวนี้ดูห่างไกลความจริง จนสุดหล้าทีเดียว
ตายด้วยเงื้อมมือของเพื่อนร่วมสาขา เนเน่ เนตรนภา จึงทะลุมิติมาอยู่ในร่างเด็กน้อยวัยสิบหนาวที่ป่วยตาย นามเซี่ยซูเหยา มีบิดา พี่สาว พี่ชายที่เป็นห่วงนางมากกว่าสิ่งใด
เมื่อภัทราได้ทะลุมิติเข้าไปอยู่ในร่างของเจียงอันเล่อ ตัวละครในนิยายเรื่อง "ชะตารักพันธนาการ" ภารกิจปกป้องหานอี้หลง พระรองของเรื่องแต่เป็นชายในดวงใจของเธอก็เริ่มต้นขึ้น
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
เพียงสบตาสาวน้อยหน้าหวาน ‘นัยน์ตาชวนฝัน’ ที่อาจหาญตบหน้าซีอีโอผู้ยิ่งใหญ่อย่างเขา ‘เดวิโก หนึ่งเดียว เวนนิส’ ก็ประกาศก้องกับตัวเองว่า เขาจะต้องลากเจ้าหล่อนเข้าสู่ ‘กรงทอง’ ให้จงได้ ไม่มีวันที่ ‘แม่กวางน้อยด้อยประสบการณ์’ อย่างหล่อนจะต้านทานเจ้าป่า ‘ผู้ชำนาญงานรัก’ อย่างเขาได้ ใครจะคิดว่าวันสุดท้ายของการฝึกงานก่อนจบการศึกษาจะเป็นวันที่เปลี่ยนชีวิตเธอไปตลอดกาล เพียงเพราะเผลอสบตาคมเข้มคู่นั้นเข้าอย่างจัง!! หากฟ้าประทานพรให้เธอขอพรได้หนึ่งข้อ ‘ปรารถนา’ บอกตัวเองอย่างไม่ต้องหยุดคิดว่าพรข้อนั้นที่เธอจะขอคืออะไร เพราะสิ่งเดียวที่เธอจะขอ คือ... ‘ขอให้ผู้ชายบ้าอำนาจ บ้ากามที่จ้องลวนลามเธอคนนี้หายสาบสูญไปซะ’ แต่ยิ่งนานวันเข้า นอกจากฟ้าจะไม่นำพาแล้วยังเหมือนจะเป็นใจหยิบยื่นเนื้อกวางแสนหวานอย่างเธอเข้าปากเสือเสียนี่ เพราะยิ่งเธอพยายามหนีห่างจากเขามากเท่าไร เธอกลับพบว่าตัวเองกลับยิ่งเข้าใกล้เขามากขึ้นเท่านั้น ใกล้เสียจน...เธอสั่นสะท้านไปทั้งกายและใจ “ฉันลงมือปรุงซุปถ้วยนี้ด้วยตัวเองเลยนะ เธอจะไม่ชิมสักหน่อยเหรอ ใช่ว่าใครจะมีวาสนาได้กินฝีมือฉันง่ายๆนะ” “คุณทำคุณก็กินเองสิคะ ฉันไม่ได้ขอร้องให้คุณทำสักหน่อย” “เธอไม่กินงั้นฉันกินเองก็ได้” “เชิญ!” ปรารถนาเบะปากยิ้มหยันพลางขยับกายหมายล้มตัวลงนอน แต่ทว่า... “ว้าย! คุณจะทำอะไรฉัน ปล่อยนะ” “บังเอิญฉันไม่ชอบอะไรที่มันจืดชืดแบบซุปนั่น เลยอยากลองชิมเนื้อกวางอย่างเธอเสียหน่อยว่าจะอร่อยแค่ไหน หึหึ”
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
" ผมใหญ่ครับ " " ใหญ่นี่ ชื่อหรือสรรพคุณคะ " " ก็... ทั้งสองอย่างครับ " +++++++++++++++++++++++++++ " ผมอยากเอาคุณเป็นบ้าเลย " ดวงตาของมิถุนาเบิกกว้างเมื่อได้ยินประโยคนั้น ไม่คิดไม่ฝันว่าเขาจะพูดมันออกมาตรง ๆ อย่างไม่ให้เกียรติเธอแม้แต่นิด " ไอ้โรคจิต หยาบคาย ! " เธอผรุสวาทออกมาทั้งยังพยายามดิ้นรนผลักไสให้ตัวเองหลุดพ้นพันธนาการอันเป็นอ้อมแขนเหนียวแน่นนั้น และแน่นอนว่านอกจากไม่หลุดแล้วเขายังรัดเธอแน่นเข้าไปอีก " ปล่อยฉันนะ ! " " ก็คุณบอกให้ผมพูดเอง " " ใครจะไปรู้ว่าความคิดคุณจะทุเรศลามกขนาดนั้น " " มันเป็นเรื่องปกติของมนุษย์ ธรรมชาติสร้างให้สัตว์เพศผู้เพศเมียสมสู่กันเพื่อดำรงเผ่าพันธุ์ ความต้องการทางเพศมันเป็นเรื่องปกติ หรือว่าคุณไม่เคยมีมัน " " ฉันมีคู่หมั้นแล้วและไม่ได้อยากดำรงเผ่าพันธุ์อะไรกับคนแบบคุณ ! " เขาหัวเราะเบา ๆ ต่างกับเธอที่ตาเขียวปั้ด อยากจะยกมือขึ้นตะกายหน้าหล่อ ๆ นั่นแทบบ้า ไอ้คนไร้มารยาท ! " เราไม่ต้องดำรงเผ่าพันธุ์อะไรทั้งนั้น " เขาเริ่มบทสนทนาต่อก่อนโน้มตัวไปกระซิบที่ข้างหูเธอเบา ๆ " แค่เอากันก็พอ " ++++++++++++++++++++++++++++++++++++ " ...แค่อยากจะมาทักทายคนคุ้นเคยเป็นการส่วนตัว " " ฉันไม่ใช่คนคุ้นเคยของนาย " " งั้นคุณเป็นคนคุ้นเคยของผมฝ่ายเดียวก็ได้ " " อย่ามากวนนะ ระวังจะโดนเอาคืน " " ก็เอาสิ จะเอาคืน เอาวัน หรือเอาทั้งวันทั้งคืนเลยก็ได้นะ ผมไม่ติด "
ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวของเฉียวซิงเฉินหนีไปกับผู้หญิงอีกคน เธอโกรธมาก จึงสุ่มหาชายคนหนึ่งมาแต่งงานด้วยทันที "ตราบใดที่คุณกล้าแต่งงานกับฉัน ฉันก็ยอมเป็นเมียคุณ" หลังจากแต่งงาน เธอได้ค้นพบว่าสามีของเธอคือลูกชายคนโตของตระกูลลู่ที่ขึ้นชื่อว่าไร้ประโยชน์ ชื่อลู่ถิงเซียว ทุกคนเยาะเย้ยว่า "เธอยนี่ช่วยไม่ได้จริงๆ" และผู้ชายที่ทรยศเธอก็มาเกลี้ยกล่อมว่า "ไม่เห็นต้องทำร้ายตัวเองเพราะฉันหรอก สักวันเธอต้องเสียใจแน่ๆ" เฉียวซิงเฉินหัวเราะเยาะและโต้ตอบว่า "ไปให้พ้น ฉันกับสามีรักกันมาก" ทุกคนต่าก็คิดว่าเธอเป็นบ้า ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อตัวตนที่แท้จริงของลู่ถิงเซียวถูกเปิดเผย ที่แท้เขาเป็นคนรวยอันดับต้นๆในโลก ในการถ่ายทอดสดทั่วโลก ชายคนนี้คุกเข่าข้างเดียว ถือแหวนเพชรมูลค่าหลักพันล้าน และพูดช้าๆ ว่า "คุณภรรยา ชีวิตที่เหลือนี้ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด