เพราะถูกแม่เลี้ยงใจร้ายเสือกไสไล่ส่งมาให้เป็นเมียขัดดอกของนายใหญ่แห่งหุบเขาคนเถื่อนที่ใครๆ ต่างก็กล่าวขวัญกันว่า โหดร้ายน่ากลัว แต่แล้วเธอกลับพบว่า คนเถื่อนอย่างเขาก็มีหัวใจ และมีไว้เพื่อเธอคนเดียว ++++++++++ “พี่มาร์คไปแล้ว.. ทีนี้ก็เหลือแค่เรา..” ปิ่นกมลเอ่ยขึ้นเมื่ออยู่กันตามลำพัง และถิ่นเถื่อนก็เอาแต่นิ่งเงียบไม่พูดไม่จา ดูท่าทางเขาขัดเขินไม่น้อย “มีอะไรจะสารภาพกับปิ่นมั้ยคะ” “ไม่มีนี่นา..” “ใครกันนะบอกว่า เป็นผัวเมียกัน ต้องบอกกันทุกเรื่อง ให้ไว้ใจกันและกัน” ถิ่นเถื่อนทำอึกๆ อักๆ ท่าทางของคนตัวใหญ่โต แต่ดูเก้งก้างเมื่อตอนนี้เขามีความผิดติดตัว “ก็บางเรื่อง มันยังไม่ถึงเวลาที่จะบอกไง..” “อ้ออออ.. หรือคะ แล้วพี่เถื่อนคิดว่าจะบอกปิ่นตอนไหนคะ และเรื่องไหนบ้าง” ปิ่นกมลเดินมาหยุดตรงหน้าชายหนุ่ม แล้วเงยหน้ามองเขายิ้มๆ ถิ่นเถื่อนเมินหน้าหนีน้อยๆ แต่ใบหูแดงก่ำ “ก็..” “ก็อะไรคะ..” ปิ่นกมลซักไซ้ ถิ่นเถื่อนหันกลับมามองหน้าคนช่างซักอย่างรู้สึกหมั่นไส้แกมเอ็นดูคนตรงหน้ายิ่งนัก “ก็.. ไปคุยกันบนห้องดีกว่าไง” “ว้าย... พี่เถื่อน ปล่อยปิ่นนะคะ เรายังคุยกันไม่รู้เรื่องเลย..” ปิ่นกมลหวีดร้องออกมาอย่างตกใจ เมื่อชายหนุ่มตวัดร่างบอบบางขึ้นไว้ในวงแขนแข็งแรงหน้าตาเฉย
ปิ่นกมล น้ำตาไหลพรากเมื่อ กิ่งแก้ว ผู้เป็นแม่เลี้ยงสาววัยสามสิบห้าปียืนค้ำตระหง่านอยู่เหนือร่างของเธอที่นั่งอยู่กับพื้น สภาพไม่ต่างจากผ้าขี้ริ้วเก่าๆ ในขณะที่แม่เลี้ยงสาวสวย เฉิดฉายราวนางพญา และ กมล ผู้เป็นบิดาก็นั่งเงียบกริบ ไม่ปริปากพูดอะไรเลย เหมือนว่าท่านไม่ได้มองเห็นเธอเสียด้วยซ้ำ เหมือนเธอเป็นอากาศธาตุ และเธอไม่ใช่ลูกของเขา
“เอาเป็นว่าตกลงตามนี้ก็แล้วกัน”
ในที่สุดกลีบปากอิ่มสีแดงสดจากลิปสติกยี่ห้อดังก็เอื้อนเอ่ยวาจาอันเสมือนมีดคมๆ ออกมา
“แต่น้ากิ่งคะ ปิ่นไม่อยากไป ให้ปิ่นรับใช้น้ากิ่งกับคุณพ่อที่บ้านเถอะค่ะ จะให้ปิ่นทำอะไรปิ่นก็ยอมทั้งนั้น แต่อย่าส่งปิ่นไปที่นั่นเลยนะคะ”
ปิ่นกมลน้ำตาไหลพราก คร่ำครวญร้องขออย่างน่าเวทนา แต่ดูเหมือนคนทั้งคู่และอีกคนหนึ่งคือพ่อแท้ๆ ของเธอกลับไม่ได้ใส่ใจเธอเลย
“ก็นี่ไง สิ่งที่ฉันต้องการให้แกทำ ทำตามความต้องการของฉันอย่างที่แกร้องขอเลย แค่เปลี่ยนสถานที่ จากบ้านนี้ไปที่ หุบเขาคนเถื่อน เท่านั้นเอง”
ผู้เป็นแม่เลี้ยงสาวสวยสดเอื้อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงหวาน แต่มันแฝงไว้ด้วยความโหดร้ายอย่างที่สุดสำหรับคนฟังอย่างเธอ
หุบเขาคนเถื่อน คือชื่อของสถานที่แห่งหนึ่ง ในจังหวัดเล็กๆ แห่งนี้ ซึ่งเป็นพื้นที่หุบเขาสูงและเต็มไปด้วยคำเล่าลือว่า คนที่นั่นแสนจะดุร้ายป่าเถื่อน โดยเฉพาะ นายใหญ่ ของที่นั่น ที่ใครๆ ต่างก็พูดกันว่า เขาทั้งป่าเถื่อน ดุร้ายและพล่าผลาญหญิงสาวอย่างไร้ความปราณี
และปิ่นกมลก็หวาดกลัวเหลือเกิน หากว่าเธอถูกส่งไปขัดดอกแทนเงินจำนวนมากที่แม่เลี้ยงของเธอไปกู้ยืมมาจากนายใหญ่ของหุบเขาคนเถื่อน ซึ่งปิ่นกมลไม่เข้าใจ และไม่รู้เลยว่า เหตุใดแม่เลี้ยงของเธอจึงเป็นหนี้ก้อนใหญ่นับล้านได้อย่างนั้น
“ทำตามที่น้ากิ่งบอกนั่นล่ะหนูปิ่น อย่าดื้อ”
“คุณพ่อคะ..” ปิ่นกมลพูดไม่ออกเมื่อบิดาพูดเช่นนั้น นั่นหมายความว่า คำขอร้องอ้อนวอนของเธอมันไม่เป็นผล และเธอคงต้องไปที่นั่นโดยไม่มีข้อแม้
“พรุ่งนี้เช้าแกก็เตรียมตัวดีๆ ล่ะ และอย่าคิดหนีเป็นอันขาด เพราะไม่อย่างนั้นพ่อแกต้องตายด้วยน้ำมือของไอ้คนที่หุบเขาคนเถื่อนแน่”
กิ่งแก้วก้มลงมากระซิบเบาๆ กับเธอ แววตาของเจ้าหล่อนดูเยือกเย็นน่ากลัวจนปิ่นกมลขนลุก จำต้องเช็ดน้ำตาออกจากแก้มซีดขาว ก้มหน้ารับชะตากรรมที่ไม่อาจจะหลีกเลี่ยงได้
ถึงแม้บิดาจะเย็นชาและเฉยเมยกับเธอนับตั้งแต่แต่งงานใหม่กับสาวสวยรุ่นน้องที่อ่อนวัยกว่าเกือบยี่สิบปี แต่ยังสวยสด จนไม่สนใจใยดีเธอ แต่ภาพความทรงจำในวัยเด็กที่อยู่กันพร้อมหน้า พ่อ แม่ ลูก ที่แสนสุขก็ตอกย้ำให้เธอได้ตระหนักถึงบุญคุณของท่าน พ่อเคยรักเธอมาก และตามใจเธอทุกอย่าง ตั้งแต่เล็กจนโตพ่อคือฮีโร่ คือที่หนึ่งในใจมาเสมอ จนเมื่อห้าปีก่อน ที่เธอเสียมารดาด้วยอุบัติเหตุในขณะที่เธอเรียนอยู่มหาวิทยาลัยชั้นปีที่ 1 บิดาก็เปลี่ยนไป
ท่านเสียใจมากและดื่มเหล้าหนักทุกวัน จนวันหนึ่งก็ดื่มจนได้เมียใหม่ซึ่งสาวสวยสด นั่นก็คือ กิ่งแก้ว นั่นเอง และนับตั้งแต่ที่กิ่งแก้วเข้ามาในบ้าน ด้วยฐานะเมียใหม่ของบิดา หรือแม่เลี้ยงของเธอ ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป...
ชีวิตของสาวน้อยวัยใสก็ต้องกลายเป็นผู้แบกรับภาระในบ้านทุกอย่าง งานบ้านทุกอย่าง รวมไปถึงการหุงหาอาหารดูแลบ้านดูแลสวน ก็คือเธอ และไม่เพียงเท่านั้นหน้าที่การหารายได้เข้าบ้านก็เป็นเธออีกด้วย เพราะเงินทองที่มีเริ่มร่อยหลอและหมดลงอย่างรวดเร็ว จากที่เคยมีฐานะที่เรียกได้ว่าเข้าขั้นร่ำรวยก็กลายเป็นคนที่หมดเนื้อหมดตัวในเวลาไม่กี่ปี
ปิ่นกมลต้องทำงานหนัก ทั้งยังต้องเรียนไปด้วย เพราะหากไม่เรียนต่อ ปิ่นกมลก็รู้อนาคตเลยว่าเธอจะเป็นได้แค่คนไร้ค่า ไร้ความรู้คนหนึ่ง ไม่มีโอกาสได้ลืมตาอ้าปากอย่างแน่นอน และเมื่อเธออยากเรียนต่อในขณะที่บิดากับแม่เลี้ยงไม่ได้สนับสนุน เธอจึงต้องทั้งทำงานและเรียนไปด้วย และรายได้ยังต้องแบ่งให้แม่เลี้ยงใช้สอยซื้อข้าวของแต่งเนื้อแต่งตัวอย่างสวยงามอีกด้วย ในขณะที่คนหาเงินสวมใส่เสื้อผ้าเก่าๆ เฉิ่มเชยล้าสมัย
เสื้อผ้าสวยๆ ชุดสวยๆ ข้าวของเครื่องใช้ดีๆ ที่เธอเคยได้ใช้ สมัยที่มารดายังมีชีวิตอยู่ ไม่มีอีกต่อไป เพราะกิ่งแก้วเอาไปทิ้งหมด และสั่งห้ามไม่ให้เธอซื้อของพวกนี้ใช้อีกด้วย
เธอจะได้ใช้เสื้อผ้าเก่าๆ ของกิ่งแก้ว หรือไม่ก็ต้องซื้อตามตลาดนัดและเป็นของมือสอง หรือถ้าซื้อใหม่ก็ต้องไม่เกินราคา 199 บาท เพราะถ้าแพงกว่านั้นปิ่นกมลก็ไม่อาจเอื้อม ครีม หรือเครื่องสำอางต่างๆ ก็แค่ ครีมซองเล็กๆ ที่ขายในร้านสะดวกซื้อ ราคาไม่กี่สิบบาท
ชีวิตของเธอนี่มันช่าง... รันทดสิ้นดี
“เอาล่ะ วันนี้แกไม่ต้องทำงานอะไรแล้วขึ้นไปพักผ่อนเถอะ”
พูดเหมือนใจดีและยิ้มอ่อนโยนให้ แต่แววตานั้นกลับเต็มไปด้วยความสะใจและเหี้ยมเกรียม ปิ่นกมลไม่เข้าใจเลยว่าบิดาหลงรักผู้หญิงสวยแต่รูป แต่นิสัยหยาบกระด้างไร้เมตตาคนนี้ได้อย่างไร...
กมลมองตามแผ่นหลังบอบบางของลูกสาวคนเดียวไปด้วยแววตาที่มีแววหม่นเศร้าเล็กน้อย ก่อนจะรีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติเรียบเฉย เมื่อภรรยาสาวหันกลับมายิ้มหวานให้
“แค่นี้ก็เรียบร้อย หนี้ไม่ต้องใช้แถมเรายังได้เงินมาตั้งตัวอีกนะคะพี่กมล”
กมลไม่พูดอะไรได้แต่ยิ้มบางๆ ให้ภรรยาสาวคนสวย...
“สวัสดีค่ะ ท่านผีปู่ผีย่าผีตาผียายท่านผีบรรพบุรุษทั้งหลายเจ้าขา หนูชื่อลลนานะคะ ชื่อเล่นว่านุ่มค่ะ ถูกคนใจร้ายหน้าตาดีแต่ปัญญานิ่มเข้าใจผิดจับตัวมาแล้วยังพูดจาทำร้ายจิตใจนุ่มต่างๆ นานา นุ่มเสียใจมากเลยค่ะและคิดถึงบ้านมากแล้วก็เป็นห่วงนิ่งที่อาการสาหัสอยู่ด้วย นุ่มอยากขอให้พวกท่านดลบันดาลให้เขาปล่อยตัวนุ่มกลับบ้านเร็วๆ ด้วยค่ะ และขอให้นุ่มพ้นจากอำนาจชั่วร้ายป่าเถื่อนของคนใจร้ายด้วยเถิ้ดดด และจะให้ดีนุ่มขอสามตัวตรงๆ งวดนี้เลยนะคะ นุ่มจะได้มีเงินมีความสุขสบายไม่ต้องทำงานกลางคืนให้ใครดูหมิ่นเหยียดหยามว่าเป็นผู้หญิงกลางคืน ไม่ต้องเจอผู้ชายนิสัยไม่ดีมาลวนลามทำร้าย แต่ถ้าจะให้ดีที่สุด ดีมากๆ ก็ขอให้นุ่มได้สามีดีๆ หล่อๆ จิตใจดีไม่ปัญญานิ่ม และรวยมาก รักนุ่มมากๆๆๆ นะคะ สาธุๆๆ” “นี่เธอ พอได้แล้ว เลอะเทอะเพ้อเจ้อไปกันใหญ่แล้ว” สิงหาเอ็ดหญิงสาวที่บรรจงปักธูปด้วยรอยยิ้มอย่างหมั่นไส้เหลือคณา “อ้าว.. คุณนี่นะ ฉันขอในสิ่งที่ฉันอยากได้จริงๆ เผื่อท่านจะดลบันดาลให้ฉันได้ดังหวัง จะได้ไม่ต้องมาเจอคุณอีกไง” “อย่างกับฉันอยากจะเจอเธองั้นล่ะ” “แต่คุณก็จับตัวฉันมา” “โอ๊ย... โอเค ฉันผิดเองที่ไม่ดูให้ดี ขอโทษ โอเคมั้ย พอใจรึยัง” สิงหาโวยเสียงขุ่นมองหน้าหญิงสาวที่ยิ้มยียวนด้วยความหมั่นไส้เหลือกำลัง พอรู้ว่าเขาผิดเจ้าหล่อนก็เล่นไม่เลิก
สวย ดุดัน เข้ม หยาบคาย เผ็ด แซ่บ ตดเป็นตด ฟังไม่ผิดหรอก ตดน่ะถูกแล้ว นั่นคือ นิยามของ ฝันงาม ชื่อสวยหรูคุณหนูสุดๆ แต่นั่นมันไม่ใช่ตัวชี้วัดว่าเธอจะเป็นคุณหนูสายแบ๊ว เพราะเธอคือผู้ฉีกทุกกฎของคำว่ากุลสตรี .. +++++++ “จะมีผัวทั้งทีก็ต้องดูดีๆ สิคะ ธิดาหน่อทองไม่ได้กระจอกงอกง่อยนะ มีทั้งมงและสายตะพายพร้อมโล่เกลียดก็อด.. จะให้เอาพวกไม่มีอนาคตมาทำผัวเหรอ..” “ครับเมียพี่ฉลาดเก่งที่สุดในสามโลก เมียจ๋า.. พี่ร้อนแล้ว..” กวินเริ่มเสียงสั่นพร่าเมื่อมือเล็กร้ายกาจเลื่อนไปยังแก่นกลางกายที่เริ่มคึกคะนอง.. “วันนี้งามจะทำให้พี่วินลืมโศก ลืมเศร้า เราจะมันกันอย่างเดียว..” กวินหัวเราะลั่นกับคำพูดห่ามๆ ของเมียรักที่แสนจะตรงไปตรงมาและตรงใจเขาเหลือเกิน.. “งั้นแสดงฝีมือเลยเมียจ๋า หากฟ้าไม่เหลืองห้ามหยุดนะ..” กวินท้าทายฝันงามหรี่ตามองเขาอย่างเจ้าเล่ห์แล้วแลบลิ้นเลียริมฝีปากตัวเองอย่างยั่วยวน.. “อย่าร้องขอชีวิตก็แล้วกัน..” ปล. หนังสือเสียงนี้ได้รวมตอนพิเศษไว้ด้วยนะคะฟังกันเต็มอิ่มไปเลยจ้า
“จะอ่อยฉันอีกนานไหม...” เสียงห้าวดังขึ้นทำให้หญิงสาวลืมตาทันทีก่อนจะผละออกจากวงแขนแกร่งของเขาทันที ใบหน้านวลแดงปลั่งทั้งขัดเขินและอับอายกับคำพูดของเขาแต่เหนือสิ่งอื่นใดเธออับอายที่กำลังจะกลายเป็นสาวร่านร้อนเที่ยวกอดจูบกับผู้ชายมากกว่า “คนบ้า ปากเสีย... ฉะ ฉันไม่ได้ทำแบบนั้นเสียหน่อย...” หญิงสาวสูดหายใจลึกๆ แล้วถลึงตาใส่เขาพลางต่อว่าเขาเสียงเขียวแต่ข้างในใจสาวกลับสั่นไหวหวิวๆ แทบจะเป็นลมแข้งขาสั่นไปหมดจนขยับเดินไม่ได้...
เจ้าสาวคาวโลกีย์สำหรับเขา เพราะหวงชีวิตหนุ่มโสดที่ยังใช้ไม่คุ้ม เพราะไม่ต้องการแต่งงานตามคำสั่งของมารดาที่ทั้งเจ้ายศเจ้าอย่างและจุ้นจ้านวุ่นวาย ทำให้เขาต้องหาไม้กันหมาที่ต้องแสบแซบเร้าใจเพื่อคานอำนาจของมารดา...สำหรับเธอ มีเงินท่วมหัว ไม่ต้องมีผัวก็ได้ จึงต้องมารับอาชีพไม้กันหมาให้ชายหนุ่ม แต่เมื่อหลวมตัวรับงานนี้ ณดา ก็แทบมอดไหม้ด้วยไฟเสน่หาอันร้อนแรง
เขาหล่อเขาร้ายและร้อนแรงดังเปลวเพลิงที่พร้อมจะละลายน้ำแข็งอย่างเธอ ให้เดือดพล่านด้วยไฟเสน่หา.. ++++++++++ “คนบ้าปล่อยนะ พี่แสน อ๊ายย” หญิงสาวหวีดร้องเสียงหลงเมื่อภาสกรก้มลงหอมแก้มใสหนักๆ อย่างมันเขี้ยวและอยากแกล้ง “แก้มน้ำแข็งหอมจัง” “พี่แสนคนบ้า รังแกน้ำแข็ง คอยดูนะน้ำแข็งจะฟ้องพี่ธาร” หญิงสาวหน้าแดงก่ำทั้งโกรธทั้งอาย “ฟ้องไอ้ธารคนเดียวเหรอ ฟ้องคุณอาด้วยสิ และฟ้องให้หมดด้วยนะว่าพี่ทำอะไรบ้าง” “พี่แสนจะทำอะไร ว้าย.. ปล่อยนะ คนบ้า พี่แสน กรี๊ดดด..” ทิพย์ธาราหวีดร้องเสียงหลงเมื่อตกอยู่ในวงแขนที่รัดแน่นของเขาแล้วทิพย์ธาราก็รู้ได้ทันทีว่าตนตกเป็นรองเขาหญิงสาวดิ้นเร่าอย่างโมโหฉุนเฉียวเกรี้ยวกราด ความเยือกเย็นที่มีก่อนหน้าหายไปสิ้น เพราะเมื่อปะทะกับเขาทีไรเธอก็มักจะเป็นเช่นนี้และไม่สามารถควบคุมตัวเองให้สงบเยือกเย็นได้นานเลยสักครั้ง
CEO,เมียเก็บ,การเบรรยายแบบมัลติเธรด,สัญญารัก,โรแมนติก,นิยายอีโรติก,ความสัมพันธ์ในครอบครัวที่ซับซ้อน,การมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก
"นางเป็นบุตรีผู้สูงศักดิ์ของฮูหยินเอกของจวนเสนาบดี นางมีหน้าตาโดดเด่น ทั้งอ่อนโอนและมีน้ำใจไมตรีต่อผู้อื่น แต่... นางทำดีต่อป้าของนาง นางกลับฆ่าแม่ของนางตาย นางรักเอ็นดูน้องสาวของนาง แต่น้องสาวกลับแย่งสามีของนางไป นางคอยสนับสนุนและดูแลสามีของนางอย่างสุดหัวใจ แต่สามีกลับทำให้นางตายทั้งกลม...ตระกูลฝ่ายมารดาของนางก็ถูกประหารชีวิตทั้งตระกูลด้วย นางตายตาไม่หลับและสาบานว่าหากมีชาติหน้า นางจะไม่เมตาตาต่อใครอีก ใครก็ตาม กล้ามาทำร้ายข้า ข้าจะล้างแค้นด้วยชีวิตทั้งตระกูลของพวกเจ้า เมื่อเกิดใหม่อีกครั้ง นางอายุได้สิบสี่ปี นางสาบานว่าจะต้องเปลี่ยนชะตากรรมและแก้แค้นชาติก่อน ป้านางใจ้ร้าย นางจะใจร้ายกลับยิ่งกว่านาง นางคิดจะได้ครองตำแหน่งฮูหยินงั้นเหรอ บอกเลยไม่มีทาง! ส่วนน้องสาวชอบผู้ชายชั่ว ๆ นักไม่ใช่หรือ ได้!ข้าจะยกให้เลย ส่วนชายชั่วนั่น ข้าจะทำให้เจ้าไม่สามารถมีทายาทได้อีกตลอดทั้งชาติ!แต่ข้าจะแก้แค้น เหตุใดเจ้าต้องมาช่วยข้าด้วย?"
ว่าที่ลูกสะใภ้ไฟแรงสูงเธอต้องเข้ามาอยู่ร่วมบ้านกับว่าที่พ่อผัวหม้ายร้างเมียมานายอรมปี
เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"
"ไล่ผู้หญิงคนนี้ออกไปซะ" "โยนผู้หญิงคนนี้ลงทะเลซะ" ขณะที่ไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเหนียนหย่าเสวียน โฮว่หลิงเฉินได้ปฏิบัติต่อเธออย่างไม่เป็นมิตร "คุณหลิงเฉินครับ เธอคือภรรยาของท่านครับ" ผู้ช่วยของหลิงเฉินกล่าวเตือนเขา เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลิงเฉินหยุดเพ่งมองไปที่เขาอย่างเย็นชาและบ่นขึ้นมาว่า "ทำไมไม่บอกผมให้เร็วกว่านี้?" นับจากนั้นเป็นต้นมา หลิงเฉินได้ตามใจและรักใคร่ทะนุถนอมหย่าเสวียนมาตลอด โดยไม่มีใครคาดคิดว่าพวกเขาจะหย่าร้างกัน