ดาวน์โหลดแอป ฮิต
หน้าแรก / โรแมนติก / ยอดดวงใจแม่ทัพกลับเป็นคู่หมายองค์ชายรอง
ยอดดวงใจแม่ทัพกลับเป็นคู่หมายองค์ชายรอง

ยอดดวงใจแม่ทัพกลับเป็นคู่หมายองค์ชายรอง

5.0
25 บท
3.6K ชม
อ่านเลย

เกี่ยวกับ

สารบัญ

ความรักแท้จริงที่สามารถเอาชนะอุปสรรคทุกอย่างได้ด้วยความเชื่อมั่นและความเสียสละจริงเหรอ? การต่อสู้เพื่อความรัก หรือการยอมรับในชะตากรรมที่ถูกลิขิตจากสวรรค์ สิ่งใดกันคือเส้นทางรักที่ข้าควรเลือก?

บทที่ 1 บุปผาแย้มบานในยามที่เหมาะสม

ในยามเช้าที่หมอกบางเบาแผ่คลุมเหนือยอดเขา ดวงตะวันเริ่มเผยแสงแรกของวัน ลอดผ่านม่านหมอกและเมฆขาวที่ล่องลอยเหนือสวนบุปผา จวนของตระกูลไป๋ตั้งตระหง่านในนครลั่วหยางเป็นดั่งสัญลักษณ์แห่งความมั่งคั่งและอำนาจ ความโอ่อ่าของจวนนี้ไม่ได้มีเพียงแค่กำแพงหินสูงที่ถูกแกะสลักลวดลายอย่างวิจิตรบรรจง แต่ยังรวมถึงสวนดอกไม้ที่ล้อมรอบด้วยสระน้ำใส สะท้อนภาพของศาลาทรงเก๋งจีนที่ตั้งอยู่กลางน้ำ

ในจวนนี้เอง “ไป๋เสวี่ยหนี่” บุตรสาวของขุนนางใหญ่ เป็นที่เลื่องลือในความงามของนาง ผู้คนต่างกล่าวขานว่านางงามยิ่งกว่าดอกเหมยที่ผลิบานกลางฤดูหนาว และนางยังเป็นหญิงสาวที่มีความสามารถทั้งในด้านกวีนิพนธ์และดนตรี ผู้ชายหนุ่มทั่วทั้งนครต่างหลงรักในความงามและคุณสมบัติของนาง ทุกวันนางจะได้รับจดหมายรักมากมายจากเหล่าบุรุษที่หมายปอง แต่ไม่มีใครสักคนที่สามารถเข้าไปถึงหัวใจของนางได้

ภายในห้องบรรทมอันหรูหราของเสวี่ยหนี่ ผ้าม่านผืนยาวปักลายหงส์และมังกรพลิ้วไหวไปตามสายลมเย็น เงาของดอกเหมยที่ผลิบานในสวนทอดผ่านหน้าต่างเข้ามาเป็นลายเงาบนพื้นไม้ขัดมัน ทว่านางกลับยืนอยู่เพียงลำพัง ใบหน้าของเสวี่ยหนี่ที่สวยงามดั่งภาพวาดดูนิ่งสงบแต่เต็มไปด้วยความเศร้าหมอง ดวงตาคู่นั้นมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างเหม่อลอย นางมิได้ยินเสียงขับกล่อมของนกในสวน มิได้ชื่นชมความงามของดอกไม้รอบตัว แต่กลับรู้สึกเหมือนถูกพันธนาการด้วยกรงทองคำที่ยิ่งใหญ่แต่ไร้ซึ่งอิสรภาพ

แม้เสวี่ยหนี่จะมีทุกสิ่งที่หญิงสาวพึงปรารถนา แต่หัวใจของนางกลับว่างเปล่า ดั่งทะเลทรายที่กว้างใหญ่ไม่มีสิ้นสุด ในห้วงคิดนั้น นางถามตัวเองซ้ำๆ ว่าความสุขที่แท้จริงคือสิ่งใด สิ่งที่นางได้รับคือความรักที่ห้อมล้อมจากคนที่นางไม่เคยรู้จักอย่างแท้จริง ความรักที่ไม่ได้มาเพราะตัวตนของนาง แต่เป็นเพราะนางเป็น “ไป๋เสวี่ยหนี่” บุตรสาวของขุนนางใหญ่ที่ถูกจับจ้องในฐานะทรัพย์สินอันล้ำค่ามากกว่าคนที่มีจิตใจ

ยิ่งคิดถึงอนาคตที่ถูกกำหนดไว้ ความรู้สึกโศกเศร้าของเสวี่ยหนี่ก็ยิ่งลึกซึ้ง นางรู้ดีว่าวันหนึ่งนางจะต้องแต่งงานกับชายที่พ่อเลือกให้ โดยที่หัวใจของนางไม่เคยได้มีส่วนเลือกเลยสักครั้ง ดั่งดอกเหมยที่เบ่งบานกลางฤดูหนาว แม้จะงดงามเพียงใด ก็ต้องทนต่อความหนาวเหน็บเพียงลำพัง ไม่มีผู้ใดเข้าใจถึงความเจ็บปวดที่ซ่อนอยู่ในดวงใจของนาง

ไป๋เสวี่ยหนี่ถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะหันกลับมาจากหน้าต่าง สายตาที่เคยเฉยชากลับเปลี่ยนเป็นเด็ดเดี่ยว นางรู้ดีว่าชะตากรรมที่ถูกลิขิตไว้นั้นไม่อาจหลีกหนี แต่ในส่วนลึกของหัวใจ นางยังคงมีความหวังเล็ก ๆ ว่าสักวันหนึ่ง ความรักที่แท้จริงอาจมาถึง แม้ต้องแลกด้วยสิ่งใดก็ตาม

ไป๋เสวี่ยหนี่ทิ้งตัวลงบนเตียงผ้าไหมที่ถูกปูอย่างพิถีพิถัน สีหน้าแสนเศร้าปรากฏชัดบนใบหน้าของนาง ขณะที่มือเรียวของนางลูบไล้ไปบนผ้าห่มที่ปักด้วยลวดลายดอกไม้ประณีต นางรู้สึกถึงความหนาวเย็นที่ไม่สามารถคลายออกได้ แม้จะห่อหุ้มด้วยความหรูหรารอบกาย ความเบื่อหน่ายและท้อแท้ในชีวิตที่ถูกตีกรอบไว้อย่างแน่นหนาทำให้นางรู้สึกเหมือนถูกกักขังอยู่ในกรงทองคำที่ไร้ประตูทางออก

ในจังหวะนั้น ประตูไม้แกะสลักก็เปิดออกเบา ๆ หญิงวัยกลางคนที่มีใบหน้าสงบนิ่งแต่แฝงไปด้วยความเมตตาเดินเข้ามา "แม่นมหลิน" ผู้เป็นพี่เลี้ยงคนสนิทของเสวี่ยหนี่ ตั้งแต่ยังเยาว์วัย นางเป็นมากกว่าพี่เลี้ยง นางคือผู้ที่เสวี่ยหนี่สามารถพูดคุยและระบายความรู้สึกได้เสมอ

"คุณหนูเจ้าคะ ท่านเป็นอะไรรึเปล่า ข้าสังเกตเห็นว่าท่านดูเหม่อลอยมาหลายวันแล้ว" แม่นมหลินถามอย่างอ่อนโยน พร้อมเดินเข้ามานั่งใกล้ๆ

เสวี่ยหนี่มองแม่นมหลินด้วยสายตาอ่อนล้า นางถอนหายใจยาวก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา "แม่นม... ข้าเหนื่อยเหลือเกิน ชีวิตนี้ดูเหมือนจะมีทุกอย่าง แต่ข้ากลับรู้สึกว่าตัวเองไม่มีอะไรเลย ข้าอยู่ในจวนที่งดงาม มีผู้คนล้อมรอบ แต่ทำไม... ทำไมข้าถึงรู้สึกว่างเปล่าเช่นนี้?"

แม่นมหลินมองเสวี่ยหนี่ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความห่วงใย "คุณหนู ความรู้สึกเช่นนี้มิได้ผิดหรือประหลาดแต่อย่างใด ท่านเป็นหญิงสาวที่มีหัวใจอ่อนโยนและลึกซึ้ง การที่ท่านรู้สึกเช่นนี้เป็นเพราะท่านยังไม่พบสิ่งที่หัวใจของท่านต้องการอย่างแท้จริง"

เสวี่ยหนี่ฟังคำพูดนั้นและรู้สึกว่ามันกระทบใจของนางอย่างลึกซึ้ง นางหลุบตาลง มือของนางเริ่มกำผ้าห่มในมือแน่นขึ้น

"แต่ข้าจะทำเช่นไรได้ ในเมื่อชะตาชีวิตของข้าไม่ได้เป็นของข้าเอง ข้าไม่มีสิทธิ์เลือกทางเดินของตัวเอง ทุกอย่างถูกกำหนดไว้แล้ว ไม่ว่าข้าจะปรารถนาอะไร มันก็เป็นเพียงความฝันที่ไม่มีวันเป็นจริง"

แม่นมหลินยิ้มอย่างอ่อนโยนและเอื้อมมือมาจับมือของเสวี่ยหนี่ "คุณหนู ข้ารู้ว่าท่านมีความรู้สึกที่หนักอึ้งในใจ แต่ข้าอยากให้ท่านรู้ว่าชีวิตนั้นมิได้มีเพียงกรอบที่เราต้องยอมรับเสมอไป บางครั้งทางออกอาจอยู่ที่การเปิดใจรับสิ่งใหม่ ๆ หรือการกล้าหาญพอที่จะเผชิญหน้ากับความเป็นจริงและสร้างชะตากรรมของตัวเอง"

เสวี่ยหนี่มองแม่นมหลินด้วยความสับสนและความหวังที่ค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นในใจ นางไม่แน่ใจว่าคำพูดของแม่นมหลินหมายถึงอะไร แต่คำแนะนำนี้ทำให้นางรู้สึกว่าในโลกที่ดูเหมือนจะปิดกั้นทุกสิ่ง อาจยังมีทางออกที่นางไม่เคยเห็นมาก่อน

“ท่านคิดว่าข้า... ควรทำอย่างไรดี แม่นม?”

แม่นมหลินบีบมือของเสวี่ยหนี่เบา ๆ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ "ท่านต้องเริ่มต้นด้วยการฟังเสียงหัวใจของตัวเอง ข้าเชื่อว่าถ้าท่านตามหัวใจของตัวเอง ท่านจะพบคำตอบที่ท่านกำลังมองหา และเมื่อถึงเวลานั้น ข้าเชื่อว่าท่านจะสามารถเปลี่ยนชะตากรรมของตัวเองได้"

คำพูดนั้นทำให้เสวี่ยหนี่เงียบไปครู่หนึ่ง นางรู้สึกถึงความกล้าที่เริ่มก่อตัวขึ้นทีละน้อยในใจ แม้จะยังไม่แน่ใจว่านางจะทำเช่นไร แต่หัวใจของนางบอกว่านี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของสิ่งใหม่ที่นางเฝ้ารอมาตลอดชีวิต

ทันใดนั้น แววตาของไป๋เสวี่ยหนี่ก็เปลี่ยนไป ดั่งมีประกายแห่งความคิดสว่างวาบขึ้นในใจ นางค่อย ๆ ผุดลุกจากเตียงด้วยท่าทางที่สง่างาม ดวงตาที่เคยหม่นหมองกลับส่องประกายความมุ่งมั่นเล็กน้อย ริมฝีปากบางเผยรอยยิ้มอ่อนโยนขณะนางหันมาทางแม่นมหลิน

"แม่นม ข้าอยากออกไปที่สวนเก็บดอกไม้กับท่านเจ้าค่ะ" เสวี่ยหนี่เอ่ยด้วยน้ำเสียงที่สดใสขึ้น "ข้าคิดว่าเราน่าจะนำดอกไม้เหล่านั้นมาทำอบร่ำ เผื่อกลิ่นหอมของมันจะช่วยให้ข้ารู้สึกดีขึ้นบ้าง"

แม่นมหลินมองเสวี่ยหนี่ด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย แต่ก็ดีใจที่เห็นคุณหนูของนางกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง "เป็นความคิดที่ดีเจ้าค่ะคุณหนู ดอกไม้ในสวนนี้งดงามแล้วยังมีกลิ่นหอมชื่นใจอีกด้วย อาจจะช่วยคลายความเศร้าหมองในใจของคุณหนูได้"

ทั้งสองจึงเดินออกไปยังสวนดอกไม้ที่ตั้งอยู่ด้านหลังของจวน เสวี่ยหนี่สูดหายใจลึกเมื่อเท้าเปลือยเปล่าของนางสัมผัสกับหญ้าเขียวชอุ่ม ความสดชื่นของอากาศยามเช้าทำให้นางรู้สึกผ่อนคลายลงบ้าง ดอกเหมยที่ผลิบานสะพรั่งอยู่ทั่วสวนส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ ปกคลุมไปทั่วทุกอณูของสวน

เสวี่ยหนี่และแม่นมหลินเดินเคียงข้างกันผ่านสวนที่เต็มไปด้วยสีสันของดอกไม้หลากหลายชนิด มือเรียวของเสวี่ยหนี่ค่อยๆ เอื้อมไปเด็ดดอกเหมยสีขาวนวลที่บานอยู่บนกิ่งอย่างระมัดระวัง นางรู้สึกถึงความนุ่มนวลของกลีบดอกในมือ รอยยิ้มที่แท้จริงปรากฏขึ้นบนใบหน้าของนางเป็นครั้งแรกในหลายวัน

"ดอกเหมยเหล่านี้ช่างงดงามนัก แม่นม ข้ารู้สึกว่ากลิ่นหอมของมันสามารถชำระล้างความทุกข์ในใจได้" เสวี่ยหนี่พูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนหวาน

แม่นมหลินพยักหน้าและยิ้มอย่างอ่อนโยน "ดอกไม้ก็เหมือนหัวใจของเรานั่นแหละเจ้าค่ะ คุณหนู มันผลิบานเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม และกลิ่นหอมของมันจะนำความสดชื่นมาสู่ใจของผู้ที่เปิดใจรับ"

เสวี่ยหนี่เก็บดอกไม้ไปพลาง คุยกับแม่นมหลินไปพลาง นางรู้สึกว่าการได้ใช้เวลาอยู่ท่ามกลางธรรมชาติและทำสิ่งที่เรียบง่ายเช่นนี้ทำให้นางลืมความกังวลที่ถาโถมเข้ามาในจิตใจได้ชั่วคราว นางหวังว่ากลิ่นหอมของดอกไม้ที่นางเก็บมานี้ เมื่ออบร่ำแล้ว จะช่วยนำพาความสงบสุขมาสู่จิตใจที่เคยว้าวุ่นของนาง

เมื่อดอกไม้ในตะกร้าเริ่มเต็ม เสวี่ยหนี่หันมามองแม่นมหลินพร้อมกับรอยยิ้มที่อ่อนโยนและมีความสุข

"ขอบคุณท่านนะ แม่นม ขอบคุณที่ท่านคอยให้คำปรึกษาและรับฟังข้าเสมอ ตอนนี้ข้ารู้สึกดีขึ้นมากแล้ว"

แม่นมหลินหัวเราะเบา ๆ ด้วยความเอ็นดู "ข้าดีใจที่ได้เห็นรอยยิ้มของคุณหนูอีกครั้งเจ้าค่ะ ท่านดูงดงามที่สุดเมื่อท่านยิ้ม ข้าเชื่อว่าความสุขของท่านจะต้องกลับมาสู่ใจของท่านในไม่ช้านี้"

เสวี่ยหนี่รู้สึกอุ่นใจที่มีแม่นมหลินอยู่เคียงข้าง และนางก็สัญญากับตัวเองว่าจะพยายามค้นหาความสุขที่แท้จริงในชีวิต..

อ่านต่อ
img ไปดูความคิดเห็นเพิ่มเติมที่แอป
ออกใหม่ล่าสุด: บทที่ 25 ก่อนทุกอย่างจะจบลง   10-31 18:26
img
ดาวน์โหลดแอป
icon APP STORE
icon GOOGLE PLAY