นาจำต้องเลี้ยงดูลูกติดของน้องเขยเพราะว่าเขากับน้องสาวของเธอนั้นประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต นับแต่นั้นมาฝาแฝดก็มีคุณป้าคนสวยเพียงคนเดียวดูแลตลอดมา พอโตเป็นหนุ่มแล้วพวกเขาก็ชอบเล่นกล้ามและไปแข่งประกวดเพาะกายจนได้รางวัลและเงินมามากมาย คุณป้ายังสาวจึงต้องคอยดูแลอาหารการกินและเสื้อผ้าหน้าผมสองหนุ่มอยู่ตลอดเวลา วันดีคืนดีก็ต้องดูแลเรื่องบนเตียงของพวกเขาด้วย ในเมื่อหนุ่มๆพวกนี้ทั้งคึกคักและแรงดี เรียกได้ว่าเผลอทีไรเป็นต้องถึงเนื้อถึงตัวกับนาทุกครั้งไป แนะนำตัวละคร นา นางเอก อายุ29ปี ด้วยความที่เธอมีเชื้อจีนและหน้าเด็กตัวเล็กขาวจึงดูเหมือนสาววัยรุ่น (สายตาสั้น,เฉิ่ม) อภิวัฒน์ น้องเขยของนา (ปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว) เขาเป็นเสี่ยอายุ38 (มีลูกติดมาจากเมียเก่าสองคนเป็นฝาแฝด) นิน น้องสาวของนา อายุ 28 (เสียชีวิต) ปกป้อง หลานแฝดผู้พี่ อายุ18ปี เล่นกล้าม เพาะกาย เรียนปีหนึ่ง ปราบปราม หลานแฝดผู้น้อง อายุ18ปี เล่นกล้าม เพาะกาย เรียนปีหนึ่ง *หมายเหตุ แฝดทั้งสองเป็นแฝดคนละฝา หน้าตาและนิสัยไม่เหมือนกัน
นี่ฉันเป็นป้าแฝดหื่นแล้วหรือเนี่ย?
ตอน ไม่เคยเกรงใจ ไม่เคยฟังผู้มีพระคุณ
แปดปีก่อน
แว๊น! ๆ ๆ รถมอเตอร์ไซค์คันเล็กแล่นออกจากบ้านเดี่ยวไปตามท้องถนน สาวสวยวัยยี่สิบกว่ากำลังขี่รถโดยมีเด็กแฝดเพศชายนั่งข้างหน้าหนึ่งคนและข้างหลังอีกหนึ่งคน ซ้อนอัดกันบนเบาะรถเล็กๆ
นมคุณป้าหย่อนลงตั้งบนหัวหลานแฝดผู้พี่เพราะเต้าของเธอใหญ่เกือบเท่าหน้า ตูดงอนใหญ่ก็อัดติดกับเป้ากางเกงหลานแฝดผู้น้องที่โอบแขนกอดเธอจนตัวกลม ตอนนั้นหลานทั้งสองยังอายุสิบขวบ อยู่ป.4
"ป้าฮะ! ๆ ทำไมผมมีแค่ป้าคนเดียวล่ะฮะ" ด.ช. ปกป้องเงยหน้ากลับหัวมองนา
"ก็เพราะพ่อกับแม่หนูขึ้นไปอยู่บนสวรรค์แล้วไงจ๊ะ"
"ว๊า! พ่อแม่ใจร้ายจัง แต่ไม่เป็นไรป้าใจดี" ด.ช.ปราบปราม
"แล้วทำไมป้าไม่มีคู่ล่ะฮะ แม่ยังมีพ่อ แล้วทำไมป้าไม่มีลุง" ด.ช.ปกป้อง
"อย่าพูดถึงไอ้คนนั้นเลย"
"น่านะ บอกมาเถอะผมก็อยากรู้" ด.ช.ปราบปราม
"เอาเป็นว่าพอแต่งได้ปีเดียวเขาก็ทิ้งป้าไปน่ะ"
"อ้าว เขาก็ทิ้งป้าไปเหมือนพ่อกับแม่ที่ทิ้งเราไปเหรอครับ" ด.ช.ปราบปราม
"ไม่ใช่ๆ เขาทิ้งไปมีเมียใหม่ ส่วนพ่อแม่ป้องกับปราบเสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุ พวกเขาเป็นคนดี ตายแล้วจึงได้อยู่บนสวรรค์ เข้าใจรึยังจ๊ะ"
"ฮะ , ครับ"
"ขอถามอีกนิดได้ไหมฮะ" ด.ช.ปกป้อง
"สงสัยอะไรก็ถามมาซิจ๊ะ"
"ทำไมพวกเราต้องไปวิ่งทุกเช้าเลยครับ" ด.ช.ปราบปราม
"ก็เพื่อให้มีร่างกายที่แข็งแรงไงจ๊ะ จิตใจที่แข็งแรงย่อมอยู่ในร่างกายที่แข็งแกร่ง เข้าใจไหม"
อ๋อ! ฮะ!
แปดปีต่อมา
วืน! ๆ ๆ มอเตอร์ไซค์ออโตเมติกสามร้อยซีซีคันใหญ่แล่นฉิวอยู่บนท้องถนนในยามเช้าตรู่ หนุ่มวัยสิบแปดผมเขียวเป็นคนขับ หนุ่มอีกคนซ้อนท้าย ตรงกลางมีสาวเชื้อจีนตัวเล็กวัย29นั่งอยู่ เธอถูกอัดด้วยร่างกายล่ำใหญ่ของฝาแฝดนักเพาะกายที่น้ำหนักตัวมากถึงคนละ80กิโลกรัม
ทั้งสามคนแต่งชุดออกกำลังกายยามเช้า ฝาแฝดนักกล้ามใส่เสื้อแขนกุด แฝดพี่ย้อมผมเขียว แฝดน้องย้อมผมสีน้ำตาลเข้ม คุณป้าใส่เสื้อยืดไซส์sสีขาวและกางเกงวิ่งขาสั้นสีดำแถบข้างสีขาว
วืน! ๆ ๆ รถแล่นมาเกือบถึงสวนสาธารณะใจกลางเมือง ลมเย็นในฤดูหนาวพัดโชย ชวนให้ตัวเกร็งและขาสั่น
"อย่าจับ" สาวสวยร้องดังขณะที่เต้านมอัดแนบแผ่นหลังหลานผู้พี่ ตูดถูกบีบฟัดโดยน้ำมือของหลานแฝดผู้น้อง
"จับอะไรป้า ผมแค่จับขาตัวเอง" นายปราบปรามเลื่อนมือออกจากแก้มก้นนามาลูบขากางเกงนักวิ่งสีดำ
เอี๊ยด! ๆ ๆ ๆ แฝดพี่บีบเบรคหน้าย้ำๆจนเต้านมคุณป้าอัดกระแทกแผ่นหลังล่ำกว้าง "โอ๊ย! ๆ อย่าเบรค เจ็บนม"
"ไม่ๆ มดตัดหน้าไงป้า" นายปกป้อง
"ห๊ะ! ป้าเจ็บนมเหรอ เดี๋ยวผมเอามือรองไว้นะ จะได้ไม่ชนหลังป้อง" ปราบเอ่ยแล้วสอดมือลอดรักแร้นา เอามือใหญ่สอดระหว่างรอยแยกของแผ่นหลังแฝดพี่และโอบจับเต้านมใหญ่เอาไว้
"โอ๊ย! ๆ อย่าบีบ" คุณป้ายังสาวร้องเสียงดัง
"ไม่ได้บีบนะป้า" ปราบตอบ
ปกป้องปล่อยมือซ้ายที่จับแฮนด์บังคับรถแล้วยื่นมาลูบขาป้านาอีกคน ฝ่ามือสากกร้านทีผิวหนังแตกด้านจากการยกลูกเหล็กบาดเนื้อขานวลนุ่มของสาวใหญ่ เธอทั้งเจ็บแปล๊บและขนลุกซู่
พอก้มมองหน้าอกตัวเองอีกมีก็เพิ่งรู้ว่าหัวนมกำลังโดนบีบบี้ด้วยนิ้วมือแฝดน้องจนเสื้อออกกำลังกายยับยู่ยี่
"อ๊ะ! อย่า ๆ มันเจ็บ ถ้าไม่หยุดจะร้องแล้วนะ" คุณป้าส่ายสะเอวดิ้นพล่านๆ
"ปล่อยแล้วครับ หยุดแล้วครับๆ" หลานแฝดตอบแล้วหดมือกลับที่กลับทาง
"แต่ว่านะครับ ป้าไม่มีผัวแล้วก็ไม่เป็นไรหรอกนะครับ ป้ายังมีเรา" ปกป้องลูบขาขาวของนาอีกแล้ว
"ใช่ครับ ป้าคงรักเรามากใช่ไหมครับเลยไม่ยอมมีใคร" ปราบปรามเอามือยื่นข้ามบ่าน้อยมาลูบแก้มขาวๆอย่างไม่เกรงอกเกรงใจ
"ที่ฉันไม่มีผัวก็เพราะคนอื่นคิดว่าฉันมีลูกแล้วไงยะ เลยไม่มีใครมากล้าจีบ"
"อีกอย่าง เอามือออกไป ฉันไม่กล้ามีผัวก็เพราะว่ากลัวเหมือนในข่าว พ่อเลี้ยงซ้อมลูก พ่อเลี้ยงทำร้ายเด็กจนตายไง"
"แหม ๆ อุส่าห์เสียสละชีวิตคู่แล้วยังไม่รู้บุญคุณอีก จะแต๊ะอั๋งป้าไปถึงไหนห๊ะ! เกรงใจกันบ้างสิ"
"เสียสละชีวิตคู่เลยเหรอฮะ ฮ่า! ๆ" ปกป้อง
"แต่ป้าก็ยังเหลือเราอีกเป็นคู่เลยนะครับ พวกเราโตแล้วก็ทำอะไรๆแบบผู้ใหญ่ตอบแทนป้าได้นะ" ปราบปราม
"ทะลึ่งละ อายุสิบแปดเอง โตแต่ตัวล่ะสิ ตัวเท่าควายแล้วเนี่ย" คุณป้า
"แหนะ พูดหยายคายใส่พวกเราอีกละ" ปกป้อง
"ใช่ ทีตอนเด็กๆห้ามเราพูดคำหยาบ เดี๋ยวบิดจู๋ ๆ ไหนตอนนี้ลองบิดดูสิครับ" ปราบปรามดึงมือนายื่นไปข้างหลัง ยัดเข้าเป้ากางเกงนักวิ่ง
"อีบ้า" นารีบชักมือกลับด้วยพละกำลังทั้งชีวิตที่มี"
"บิดไม่เจ็บแล้วนะครับ พวกผมแข็งนะ" ปกป้อง
"หึ! ๆ ถ้าป้าอยากอาบน้ำกับพวกเราเหมือนตอนเด็กๆก็บอกได้นะครับ ผมจะอาบให้ป้าบ้าง ตอบแทนที่ป้าเคยอาบให้ผมไงครับ" ปราบปราม
ฮ่า! ๆ ๆ ๆ ปกป้องหัวเราะลั่น
หมับ! นาเอาแขนโอบเอวหลานแฝดผู้พี่แล้วล้วงมือจับเป้ากางเกงของเขา กำแท่งนุ่มหนึบบิดริ้ววนๆด้วยนิ้วมือที่ไว้เล็บยาว
โอ๊ย! ๆ ๆ เจ็บ! ๆ ๆ "ยอมแล้วครับ ผมยอมแล้วป้า" ปกป้องร้องลั่น แถมยังขับรถส่ายไปมาจวนจะล้ม
หมับ! ๆ ๆ นายื่นมือกลับมาข้างหลังแล้วกำบีบไข่หลานแฝดผู้น้อง ใช้เล็บหยิกหนังหุ้มปลายแท่งรักดึงหงึดๆ
"โอ๊ย! ป้า โอ๊ยผมขอโทษครับ" ปราบปราม
"ขอโทษนะไรนะ ไม่ได้ยิน"
"ผมขอโทษที่พูดทะลึ่งครับ โอ๊ย! ป้า"
ฮิ! ๆ ๆ ๆ นาเอามือกลับมากอดอกและหัวเราะ
พอรถมาถึงสวนคุณป้าก็ยืนหอบหายใจระทวยรวยแรง ส่วนฝาแฝดนั้นถอดเสื้อวิ่งต้านลมหนาวไปก่อนแล้ว นารู้สึกเจ็บหัวนมสองข้างแบบคัดตึง ราวกับตอนนมเพิ่งตั้งเต้าสาวก็ไม่ปาน หว่างขาแฉะน้ำจนรู้สึกถึงกางเกงในที่เปียกชุ่ม
นาไม่ได้คิดอะไรกับหลานๆเลย ไม่ได้มีอารมณ์ ไม่พอใจด้วยซ้ำไป แต่ทำไมร่างกายถึงได้ตอบสนองกับมือไม้ที่ยุ่มย่ามของพวกเขาได้ขนาดนี้ก็ไม่อาจทราบได้จริงๆ บางทีแค่ได้กลิ่นเหงื่อหรือเข้าใกล้หลานแฝดก็รู้สึกใจสั่น ช่วงนี้เธอรู้สึกว่าอะไรๆมันเริ่มแปลกประหลาดไปหมด ทั้งที่เธอเลี้ยงดูเด็กพวกนี้มาเองกับมือแท้ๆ
นางเอกถูกสามีนอกใจแต่กลับแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น เธอยอมเป็นเมียโง่เพื่อที่ได้แอบกินตับกับพ่อผัว ลูกเลี้ยง หลานชาย และคนสวนในบ้าน สรุปแล้วเธอเสียสามีไปแค่คนเดียว แต่กลับได้ชู้ในบ้านเพิ่มเป็นสิบๆคน
หลังจากโดนผัวทิ้งตอนน้ำหนัก80กิโลแจมก็ผันตัวมาออกกำลังกายดูแลสุขภาพอย่างหนักหน่วง เพียงไม่กี่ปีเธอก็กลายเป็นสาวหุ่นดี แถมยังมีสถาบันฟิตเนสทาบทามให้ไปเป็นเทรนเนอร์สุดสวยประจำยิมเสียด้วย แต่ด้วยการที่ต้องหาลูกเทรนและทำยอดขายช่างยากเย็นไม่ต่างอะไรกับการขายประกัน ล่าสุดแจมเกิดปิ๊งไอเดียใหม่เพื่อหาคนมาเทรนด้วย เธอชอบยั่วยวนลูกชายเพื่อนๆให้มาออกกำลังกายที่ยิมแล้วหลอกกินตับ ไปๆมาๆได้ทั้งคู่นอนได้ทั้งค่าคอมจนกระเป๋าตุง เรียกได้ว่านับแต่นั้นมาแทบไม่มีวันไหนที่เธอได้นอนคนเดียวเลยซักคืน
นางเอกเปิดสำนักไถ่บาป สร้างลัทธิหลอกลวงผู้คนให้บริจาคเงิน แถมยังใช้ร่างกายที่สวยและสาวยั่วยวนเหล่าคนรวยบ้าตัญหาจนยอมเปย์ให้ทุกอย่าง นอกเหนือจากนั้นยังยั่วสวาทเหล่าหนุ่มวัยรุ่นชายฉกรรจ์ให้มาเป็นสมุนรับใช้งานต่างๆ เพื่อแลกกับการได้สัมผัสกับร่างกายอันไร้ที่ติของศาสดาสาว
กระต่ายถูกเก็บมาเลี้ยงในตระกูลผู้ดีที่มีชื่อเสียงทางสังคม ทว่าเธอกลับพลาดพลั้งไปมีอะไรกับพี่ชาย พอน้องเห็นเข้าก็แบล็คเมล์เธออีก ไปๆมาๆก็โดนคุณปู่ด้วยอีกคน ในไม่ช้าก็คงไม่พ้นพ่อเลี้ยง สรุปแล้วผู้ชายทั้งบ้านโดนเด็กสาวคนเดียวที่เก็บมาเลี้ยงกินตับจนหมด เธออยากได้อะไรก็ต้องให้ เธออยากไปไหนก็ต้องตามใจ เพราะทุกคนต่างก็คลั่งรักเด็กสาวที่ทั้งสวยและสดใส
เอรีนคือเจ้าหญิงจากต่างแดนที่อพยพมาลงหลักปักฐานที่เมืองใหญ่ หลังการปฏิวัติตระกูลของเธอก็เปลี่ยนจากราชวงศ์มาเป็นมาเฟียแทน นับแต่นั้นมาเจ้าหญิงที่สวยใสจึงกลายเป็นเจ้าหญิงมาเฟียสายโหด ดุ หื่น และเอาแต่ใจ เรียกได้ว่าชอบผู้ชายคนไหนก็สั่งลูกน้องให้อุ้มมาขืนใจได้ทั้งหมด....
หลี่เมิ่งเหยาย้อนเวลามาอยู่ในร่าง ของเด็กสาววัยสิบสองปี ในวันที่มารดาอนุผู้โง่เขลา ถูกขับไล่ออกจากจวน โชคยังดีที่ตอนตาย นางสวมกำไลหยกโลกันตร์เอาไว้ มันจึงติดตามนางมาที่นี่ด้วย +++ 1 : มารดาโง่ จนถูกไล่ออกจากตระกูล จวนตระกูลหลี่เจ้าเมืองถัง สตรีสองนางถูกสาวใช้จับคุกเข่าลง ตรงหน้าของหลี่หงซวนเจ้าเมืองถัง ทั้งยังเป็นพ่อสามีของทั้งคู่อีกด้วย ท่านกำลังสอบสวนเรื่องของสะใภ้ใหญ่ของบ้านสาม ถูกฮูหยินรองกับอนุรวมหัวกันลอบทำร้าย ด้วยการวางยาขับเลือดในถ้วยน้ำแกงบำรุงครรภ์ ทำให้นางต้องสูญเสียทารกในครรภ์ไป “ท่านพ่อข้าไม่รู้จริง ๆ ว่านั่นเป็นยาขับเลือด ฮูหยินรองบอกว่าเป็นน้ำแกงบำรุงครรภ์ ให้ข้าเป็นคนนำไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ เป็นนางนั่นเอง นางหลอกข้า !” เฉาซูหลิ่งชี้นิ้วไปทางสตรีด้านข้าง ร้อนรนเอ่ยออกมาเหมือนคนไม่ได้รับความเป็นธรรม “อนุเฉาเจ้าอย่ามาใส่ร้ายข้านะ เจ้าทำคนเดียวทั้งนั้นไม่เกี่ยวกับข้าเลย” ฮูหยินรอง ถูซวงอี้ ชี้นิ้วใส่หน้าเฉาซูหลิ่งกลับคืน ต่างคนต่างโยนความผิดให้กัน ฮูหยินผู้เฒ่าหลิวเยี่ยนหนานโบกมือให้คนเข้ามา “ข้าให้โอกาสพวกเจ้าสองคนพูดความจริง แต่กลับไม่มีใครยอมรับความผิดแม้แต่คนเดียว มันน่าจับส่งทางการให้รู้แล้วรู้รอด” พ่อบ้านหลัวให้คนลากสาวใช้คนหนึ่งเข้ามา สภาพของนางถูกทรมานจนเนื้อตัวบวมช้ำไปหมด “เรียนนายท่านข้าให้คนไปค้นห้องสาวใช้ทุกคนในจวน พบเทียบยาซ่อนไว้ใต้หมอน จากห้องของสาวใช้คนนี้ขอรับ” ถูซวงอี้ถึงกับคุกเข่าต่อไปไม่ไหว ทิ้งตัวลงไปนั่งอยู่บนพื้น สาวใช้ที่ถูกทรมานจนสภาพน่าเวทนานั่น เป็นเสี่ยวอิงสาวใช้สินเดิมของนางเอง “ฮูหยินรอง ข้าขอโทษ ข้าทนต่อไปไม่ไหวจริง ๆ ข้าขอโทษ !” เสี่ยวอิงโขกศีรษะลงตรงหน้าของถูซวงอี้แรง ๆ น้ำตาไหลนองหน้าจน แทบไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่แล้ว พ่อบ้านหลัวเอ่ย “ข้าให้คนไปถามที่หอโอสถแล้วขอรับนายท่าน เป็นเทียบยาขับเลือดจริง ๆ” หลี่หงซวนมองไปทางบุตรชายคนที่สามของตน พบว่าเขามีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก สตรีที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าคือฮูหยินรอง กับอนุภรรยาที่เขารักใคร่ไม่ต่างกัน เหตุใดถึงได้คิดร้ายต่อฮูหยินใหญ่ของเขาได้ เป็นเหตุให้เขาต้องสูญเสียลูกที่อยู่ในท้องของนางไป เดิมทีฮูหยินใหญ่ของเขาก็ตั้งท้องยากอยู่แล้ว เขารอมาตั้งนานกว่าจะมีวันนี้ได้ ไม่คิดมาก่อนว่าจะต้องสูญเสียไปเช่นนี้ “หย่วนเจ๋อนี่เป็นเรื่องในเรือนของเจ้า เจ้าอยากตัดสินเรื่องนี้ด้วยตัวเองหรือไม่” ผู้เป็นบิดาเอ่ยถามบุตรชาย “ไม่ ข้าไม่อยากเห็นหน้าพวกนางอีกต่อไป แล้วแต่ท่านพ่อเถอะขอรับ ข้าขอตัวไปดูฮูหยินใหญ่ก่อน” หลี่หย่วนเจ๋อคำนับบิดา สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปในทันที หางตายังไม่แม้แต่จะมองสตรีทั้งสองนาง เฉาซูหลิ่งลนลานตามเขาไป “ท่านพี่ช่วยข้าด้วย ข้าไม่ผิดนะเจ้าคะ ท่านพี่ !” แต่ถูกบ่าวรับใช้ขวางทางเอาไว้ หลี่หงซวน “หยุดโวยวายได้แล้วอนุเฉา เจ้าเป็นคนถือถ้วยน้ำแกงใส่ยาขับเลือด ไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ด้วยตัวเอง ยังคิดจะหนีความผิดนี้ไปได้อีกรึ” “ท่านพ่อขะข้าข้า...ไม่ผิด” เฉาซูหลิ่งทิ้งตัวไปด้านหลังอย่างหมดเรี่ยวแรง เดิมทีนางก็ไม่เป็นที่โปรดปรานของพ่อแม่สามีอยู่แล้ว เพราะไม่สามารถให้กำเนิดบุตรชายได้ ครั้นได้บุตรสาวก็นิสัยขี้ขลาดขี้กลัว ไหนเลยจะเชิดหน้าชูตาให้ตระกูลหลี่ได้ เฉาซูหลิ่งนั่งเหม่อลอย คล้ายคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขณะที่หลี่หงซวนกำลังประกาศโทษทัณฑ์ของพวกนาง ถูซวงอี้กับคนของนาง ถูกขายออกจากจวน ไปอยู่หอนางโลมอย่างเงียบ ๆ ชาตินี้อย่าได้ก้าวเท้า กลับมาเหยียบที่จวนตระกูลหลี่อีก ส่วนเฉาซูหลิ่งถูกขับไล่ออกจากจวน ไปพร้อมกับบุตรสาว ให้ไปอยู่เรือนร้างของตระกูลหลี่ที่เมืองฉาง ห้ามกลับมาที่ตระกูลหลี่อีกชั่วชีวิต “ท่านพ่อท่านขับไล่ข้าไป ข้ายังพอรับได้ เหตุใดต้องขับไล่เหยาเอ๋อร์ไปด้วย นางเพิ่งจะสิบสองปีเองนะเจ้าคะ” เฉาซูหลิ่งนึกถึงบุตรสาวร่างกายผ่ายผอม นอนซมเพราะพิษไข้อยู่ เกิดนึกสงสารนางขึ้นมาจับใจ ฮูหยินผู้เฒ่าหันไปมองสามีเล็กน้อย นางเห็นเด็กสาวคนนั้นมาตั้งแต่เกิด แม้ไม่ได้เอ็นดูแต่ก็นับว่าเป็นสายเลือดเดียวกัน “ฮูหยินเรื่องนี้ข้าตัดสินใจไปแล้ว ไม่อาจคืนคำได้” คำพูดของประมุขของตระกูล มีหรือใครจะกล้าขัด เฉาซูหลิ่งปล่อยเสียงร้องไห้โฮออกมาดัง ๆ นางโง่งมจนทำให้บุตรสาว ต้องมารับเคราะห์กรรมตามไปด้วย “ลากตัวอนุเฉาออกไป หารถม้าสักคันให้คนส่งนาง ไปที่เรือนร้างเมืองฉาง” คำสั่งของหลี่หงซวนเป็นคำขาด บ่าวไพร่รีบทำตามในทันที ครั้นได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพังกับฮูหยินผู้เฒ่า หลี่หงซวนถึงได้บอกเหตุผล ที่ต้องตัดสินใจทำเช่นนี้ นั่นเพราะตระกูลจี้ได้ยื่นคำขาดมา ให้ขับไล่พวกเขาออกไปให้หมด อย่าให้เหลืออยู่แม้แต่ตนเดียว ไม่ต้องการให้คนที่ทำร้ายบุตรสาวของพวกเขา อยู่ระคายสายตาของจี้ชิวหรงอีกต่อไป ฮูหยินผู้เฒ่าแค่นออกมาหนึ่งคำ “อ้างเหตุผลข้าง ๆ คู ๆ ความจริงแล้วต้องการกำจัดอนุในเรือนบุตรสาวทิ้งให้หมด นี่กระทั่งเด็กคนหนึ่งก็ไม่เว้น แต่ก็เอาเถอะ เหยาเอ๋อร์อยู่ที่นี่ ก็ใช่จะมีประโยชน์อันใด นางไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเราด้วยซ้ำ ให้นางไปกับแม่ของนางนั่นแหละดีแล้ว” หลี่หงซวนนั้นเป็นเพียงเจ้าเมืองเล็ก ๆ มีตำแหน่งเป็นขุนนางขั้นที่ห้า ฝั่งตระกูลจี้บ้านเดิมของจี้ชิวหรงนั้น อยู่ในเมืองหลวงมีตำแหน่งใหญ่โตกว่าหนึ่งขั้น เรื่องนี้เขาจึงต้องขบคิด ถึงผลได้ผลเสียในอนาคตอีกด้วย การเสียสละอนุกับหลานสาวคนหนึ่ง เพื่อชดเชยให้แก่คนตระกูลจี้ นับว่าเป็นเรื่องสมควรทำแล้ว “ข้าก็คิดเช่นฮูหยินนั่นแหละ เพียงแต่สะใภ้สามแท้งคราวนี้ ไม่รู้จะยังสามารถตั้งท้องได้อีกหรือไม่ พวกเรารอดูไปก่อนดีกว่า หากนางไม่สามารถตั้งท้องได้จริง ๆ เราค่อยหาอนุมาให้หย่วนเจ๋อภายหลังก็ยังได้ ยามนั้นคนตระกูลจี้จะเอาอะไรมาง้างกับเราได้อีก” “จริงดังท่านว่าเจ้าค่ะ” ฝ่ายเฉาซูหลิ่งที่ถูกคนใช้ ลากตัวออกมาให้เก็บของในเรือน นางส่งเสียงเอะอะโวยวายตลอดทาง พร่ำบอกต้องการพบหลี่หย่วนเจ๋อให้ได้ แต่ถูกสาวใช้ขวางไว้ไม่ให้ไป นางจำใจกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง รีบเก็บของสำคัญใส่ห่อผ้าเพื่อออกเดินทาง
เสิ่นซือหนิงซ่อนตัวตนไว้ยอมทำทุกอย่างให้ แต่ความจริงใจของเธอกลับถูกสามีทำลายไปหมด และสิ่งที่เธอได้รับนั้นคือข้อตกลงการหย่า ด้วยความผิดหวังเธอจึงหันหลังจากไปและกลายเป็นตัวเองที่แท้จริงอีกครั้ง หลังจากได้เห็นความใกล้ชิดของสามีกับคนรักของเขา เธอก็จากไปด้วยความผิดหวัง จากนั้นเปิดเผยตัวตนที่เป็นนักปรุงน้ำหอมอัจฉริยะระดับนานาชาติ ผู้ก่อตั้งองค์กรข่าวกรองที่มีชื่อเสียง และผู้สืบทอดในโลกแฮ็กเกอร์ อดีตสามีของเธอเลยเสียใจมาก เมื่อเมิ่งซือเฉินรู้ว่าตัวเองทำผิด เขาก็เสียใจมาก หนิง ผมผิดไปแล้ว ให้โอกาสผมอีกครั้งเถอะ ทว่าฮั่วจิ่งชวนขาพิการนั้นกลับลุกขึ้นยืนและจับมือกับเธอว่า "อยากคบกับเธอ นายยังไม่มีค่าพอ"
ตลอดระยะเวลาสามปีของการแต่งงาน เธอรู้สึกสิ้นหวัง ที่ถูกบังคับให้เซ็นใบหย่า ทั้งๆที่เธอกำลังท้อง เธอใจสลายกับความไร้มนุษยธรรมของเขา กระทั่งเธอออกไปจากชีวิตของเขา เขาเพิ่งรู้ตัวว่าเธอคือรักแท้ของเขา ไม่มีวิธีใดที่จะเยียวยาหัวใจที่บอบช้ำของเธอให้หายขาดได้ เขาจึงมอบความรักทั้งหมดของเขาให้แก่เธอเพื่อชดเชย
"ไล่ผู้หญิงคนนี้ออกไปซะ" "โยนผู้หญิงคนนี้ลงทะเลซะ" ขณะที่ไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเหนียนหย่าเสวียน โฮว่หลิงเฉินได้ปฏิบัติต่อเธออย่างไม่เป็นมิตร "คุณหลิงเฉินครับ เธอคือภรรยาของท่านครับ" ผู้ช่วยของหลิงเฉินกล่าวเตือนเขา เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลิงเฉินหยุดเพ่งมองไปที่เขาอย่างเย็นชาและบ่นขึ้นมาว่า "ทำไมไม่บอกผมให้เร็วกว่านี้?" นับจากนั้นเป็นต้นมา หลิงเฉินได้ตามใจและรักใคร่ทะนุถนอมหย่าเสวียนมาตลอด โดยไม่มีใครคาดคิดว่าพวกเขาจะหย่าร้างกัน
นาธัชชาถูกทำร้ายร่างกายและจิตใจจากผู้เป็นพ่อ เพียงเพราะเธอมีส่วนทำให้แม่ต้องตาย ใครจะคิดว่าชีวิตเด็กเจ็ดขวบ จะถูกโชคชะตาเล่นตลกครั้งแล้วครั้งเล่า และพลิกผันจนกลายเป็น 18 มงกุฏ เพื่อความอยู่รอดของชีวิต ฟาเบียน (อายุ 35 ปี) ชายหนุ่มรูปหล่อทายาทคนโตแห่งมาร์ตินกรุ๊ป เจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่มีธุรกิจโรงแรมทั้งที่ไทยและฝรั่งเศส ชีวิตของเขามีพร้อมทุกอย่างแต่กลับไร้เงาของสาวข้างกาย ใครๆ ก็พูดว่าเขาตั้งมาตรฐานผู้หญิงที่จะมาเป็นคู่ชีวิตไว้สูง บางคนบอกว่าระดับเขาต้องได้ผู้หญิงระดับนางงามที่มีมงกุฏการันตีความสวย ซึ่งมันก็คงจะจริง เพราะสาวที่เข้ามาพัวพันเป็นสาวสวยที่มีมุงกุฏการันตี และไม่ได้มีแค่มงกุฏเดียว เพราะเธอเป็น 18 มงกุฏ นาธัชชา (อายุ 20 ปี) นาธัชชาหรือหนูนา เด็กหญิงผู้เผชิญกับชีวิตที่แสนรันทดตั้งแต่อายุแค่เจ็ดขวบ เธอถูกพ่อแท้ๆ ยัดเยียดให้เป็นตัวซวย เพียงเพราะมีส่วนทำให้แม่ต้องตาย ชีวิตของเธอต้องพลิกผันซ้ำแล้วซ้ำเล่า เป็นกราฟชีวิตที่มีแต่จะตกต่ำ จนถึงขั้นต้องเป็น 18 มงกุฏ เพียงเพราะความอยู่รอดของชีวิต ความแตกต่างและความห่างชั้นทางสังคม จะชักนำให้เขาและเธอมาเจอกันได้อย่างไร เรามาติดตามไปพร้อมๆ กันค่ะ - ฟาเบียน ลูกชายคนโตของ เซดริก และมาลารินทร์ จากเรื่อง Malalin of love ร้อยรักมาลารินทร์ - นาธัชชา หรือหนูนา ตัวละครใหม่ คำเตือน -นิยายเรื่องนี้แต่งขึ้นมาเพื่อความบันเทิงเท่านั้น มิได้มีเจตนาชี้นำหรือเป็นตัวอย่างให้นำไปใช้ในชีวิตจริง -นิยายอาจมีเนื้อหาบางช่วงบางตอนที่ไม่เหมาะสม ทั้งเรื่องเพศ และมีคำหยาบคาย โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน - นิยายเรื่องนี้เหมาะสมกับผู้อ่านที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป
ต่อหน้าทุกคน เธอเป็นเลขานุการส่วนตัวของท่านประธาน โดยส่วนตัวแล้ว เธอเป็นภรรยาของเขา กู้เวยยีรู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่งเมื่อเธอทราบว่าตนเองตั้งครรภ์ ทว่าเธอกลับเห็นฟู่จิงเฉินกับรักแรกของเขาสิทสนมกัน... เธอจากไปอย่างเศร้าใจและตัดสินใจที่จะให้พวกเขาสมหวัง ต่อมา เมื่อฟู่จิงเฉินมองดูท้องที่ยื่นออกมาของเธอ และถามอย่างตื่นเต้นว่า "้กู้เวยยี นี่คือลูกของใคร!" เธอตอบอย่างหัวเราะเยาะ "มันไม่เกี่ยวอะไรกับคุณด้วย อดีตสามี!"