เสิ่นชิงชิว หลานสาวของเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองไห้ คบหาอยู่กับลู่จั๋วมาเป็นเวลาสามปีแล้ว แต่ความจริงใจของเธอกลับสูญเปล่า ลู่จั๋วปฏิบัติกับเธอเพียงในฐานะหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง และทอดทิ้งเธอในวันแต่งงาน โดยไปหารักแรกของเขา หลังจากเลิกรากันอย่างเด็ดขาด เสิ่นชิงชิวก็กลับมามีสถานะเป็นสาวรวยอีกครั้ง ได้รับมรดกมูลค่าหลายร้อยพันล้าน และเริ่มต้นชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุด แต่แล้วมักจะมีคนโผล่มาทไให้กับเธอหงุดหงิดอยู่เสมอ! ขณะที่เธอกำลังจัดการกับผู้ร้าย คุณชายฟู่ผู้มีอำนาจนั้นก็ปรบมือและโห่ร้องว่า "ที่รักของฉันสุดยอดมากจริงๆ"
ในที่สุด เสิ่นชิงชิวก็ได้แต่งงานกับลู่จั๋วสักที
เพลงงานแต่งงานอันศักดิ์สิทธิ์ขึงขังกำลังบรรเลงอยู่ เสิ่นชิงชิวที่สวมชุดแต่งงานสีขาวบริสุทธิ์ ค่อย ๆ ก้าวเดินอย่างช้า ๆ ไปบนบนพรมแดงเพื่อไปหาลู่จั๋วที่อยู่อีกทางด้านหนึ่ง
ลู่จั๋วสวมสูทสีขาว แสงสีทองสาดส่องลงมาบนร่างกายของเขา ทำให้เขาเหมือนถูกแสงอ่อน ๆ เคลือบเอาไว้ชั้นหนึ่ง ทำให้ออร่าที่อ่อนโยนและสง่างามของเขาดูโดดเด่นขึ้นมาอย่างสมบูรณ์แบบมาก ดุจดั่งชายหนุ่มในตอนนั้นไม่มีผิดเลย
พวกเขารู้จักกันมาสามปีแล้ว ซึ่งในช่วงเวลาสามปีนี้พวกเขาผ่านร้อนผ่านหนาวกันมาด้วยกัน ในที่สุดเธอก็ได้สมหวังดั่งที่ปรารถนาเสียที
มีเพียงสิ่งเดียวที่น่าเสียดายก็คือ การแต่งงานครั้งนี้ของเธอกลับไม่เป็นที่พอใจและไม่ได้รับคำอวยพรใด ๆ จากครอบครัวของเธอ
ทันทีที่ลู่จั๋วเดินเข้ามาและยื่นช่อดอกไม้ให้เธอ เบ้าตาของเสิ่นชิงชิวก็มีน้ำตาของความรู้สึกปลื้มปิติเอ่อล้นขึ้นมาอย่างกลั้นเอาไว้ไม่อยู่
“เจ้าบ่าว คุณเต็มใจที่จะแต่งงานกับผู้หญิงคนนี้ไปเป็นภรรยาของคุณและให้คำมั่นสัญญาในการสมรสหรือไม่? ไม่ว่าจะในยามเจ็บป่วยหรือสุขภาพแข็งแรงดี หรือว่าจะด้วยเหตุผลใด ๆ ก็แล้วแต่ คุณจะรักเธอ ดูแลเธอ เคารพเธอ ยอมรับเธอและซื่อสัตย์ต่อเธอตลอดไปหรือไม่ครับ?” บาทหลวงที่ยืนบนเวทีมองไปที่คู่บ่าวสาวที่อยู่ตรงหน้าด้วยสายตาอ่อนโยน
เสิ่นชิงชิวพยายามข่มอาการหัวใจเต้นแรงเอาไว้ สายตามองไปที่ลู่จั๋วด้วยความคาดหวัง อยากจะได้ยินคำยืนยันจากปากของเขา
สีหน้าของลู่จั๋วดูบึ้งตึงอย่างมาก เขาไม่ได้ตื่นเต้นขนาดนั้น แล้วก็เอาแต่ลังเลไม่ยอมพูดออกมาสักที
ทันใดนั้นเอง…...
“พี่ แย่แล้ว!” จู่ ๆ ลู่เยียนที่ร้องไห้หนักมากจนตาพร่าก็วิ่งปรี่เข้ามาจากด้านนอกและมาขัดจังหวะคำพูดของลู่จั๋วเอาไว้ เธอเหมือนเด็กที่กำลังสะอึกสะอื้นอย่างแรงมาก “พี่เนียนเย้า เธอ เธอ…..”
เสิ่นชิงชิวรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาในทันที เธอมองไปที่ลู่จั๋วด้วยความกังวลโดยไม่รู้ตัว มือที่จับลู่จั๋วอยู่กระชับแน่นขึ้นเล็กน้อยโดยสัญชาตญาณ
เสิ่นชิงชิวรู้ดีว่า ชื่อซุนเนียนเย้ามีความสำคัญกับลู่จั๋วมากเพียงใด
เพราะผู้หญิงคนนั้นคือคนรักฝังใจของลู่จั๋ว เป็นความรักที่ชีวิตนี้ลู่จั๋วไม่มีทางได้สมหวัง
ตอนนั้นที่ตระกูลลู่ตกอับ เพื่อโอกาสในการไปต่างประเทศ ซุนเนียนเย้าจึงเลือกที่จะทอดทิ้งลู่จั๋วไป ส่วนลู่จั๋วเองก็เป็นคนที่ทะนงตัวเข้ากระดูกดำอยู่แล้ว ด้วยความโกรธเขาจึงเลือกที่จะตัดการติดต่อทั้งหมดกับซุนเนียนเย้า แล้วก็หันมาเลือกเสิ่นชิงชิวแทน
แต่เมื่อเดือนที่แล้ว จู่ ๆ ซุนเนียนเย้าก็โผล่มาซะอย่างนั้น
สีหน้าของลู่จั๋วเปลี่ยนไปในทันที เสียงที่ตึงเครียดของเขาฟังดูตื่นตระหนกอย่างมาก “เย้าเย้าเธอเป็นอะไรเหรอ!”
“พี่เนียนเย้ามีเลือดออกเยอะมาก ทำยังไงก็ไม่ยอมหยุดสักที หมอบอกว่ามีความเป็นไปได้สูงมากที่เธอจะตกอยู่ในอันตราย!” ลู่เยียนพูด
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ลู่จั๋วก็สะบัดมือของเสิ่นชิงชิวออกและรีบสาวเท้าวิ่งออกไปอย่างรวดเร็วมาก
“คุณไปไม่ได้นะคะ!” เสิ่นชิงชิวก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว แล้วก็จับมือของลู่จั๋วไว้แน่น ร่างกายของเธอสั่นเทาอย่างควบคุมไม่ได้ สายตาของเธอจับจ้องไปที่เขาอย่างไม่คาดสายตาเลย “ลู่จั๋ว วันนี้เป็นพิธีแต่งงานของเรานะคะ คุณแน่ใจเหรอว่าจะไปน่ะ?”
เสียงกระซิบกระซาบของผู้คนที่มาร่วมงานและสายตาที่มองมาที่เธออย่างเยาะเย้ยและเสียดสีเหล่านั้น มันเหมือนกับมีดแหลมเล่มหนึ่งที่แทงทะลุเข้ามาในหัวใจของเธอไม่มีผิด
เธอมองไปที่ลู่จั๋วด้วยเบ้าตาที่แดงก่ำ น้ำเสียงของเธอมีความอ้อนวอนและอ่อนน้อมอยู่ “ลู่จั๋ว จัดการงานแต่งงานให้เสร็จก่อนได้ไหม?”
“เย้าเย้าต้องมาถูกรถชนและเข้าโรงพยาบาลเพราะเธอพยายามช่วยผมเอาไว้ ผมไม่สามารถทิ้งเธอไว้คนเดียวโดยไม่สนใจอะไรเลยได้หรอกนะ”
ลู่จั๋วพยายามสะบัดมือของเสิ่นชิงชิวออก แต่แล้วกลับพบว่าผู้หญิงตรงหน้าเขาดื้อดึงอย่างมาก สีหน้าของเขาจึงดูเคร่งขรึมขึ้นมาอย่างควบคุมไม่อยู่ สายตาของเขาดูดุดันมากยิ่งขึ้น “เสิ่นชิงชิว คุณก็รู้ดีนี่ว่า การแต่งงานระหว่างคุณกับผมมันเป็นแค่ข้อตกลงเท่านั้น คุณแค่ทำหน้าที่เป็นคุณนายลู่ให้ดีก็พอ ส่วนเรื่องของผมคุณไม่จำเป็นต้องเข้ามาก้าวก่าย!”
ข้อตกลง……
รูม่านตาของเสิ่นชิงชิวหรี่ลงทันที เธอมองไปที่ใบหน้าที่เย็นชาของลู่จั๋วอย่างไม่อยากจะเชื่อ แล้วแววตาที่ดูตกใจของเธอก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นความเย้ยหยันแทน
ทันใดนั้นมุมปากของเธอก็กระตุกขึ้นเผยรอยยิ้มถากถางออกมา ในน้ำเสียงที่อ่อนโยนนั้นมีความเศร้าปะปนอยู่ด้วย “ที่แท้ในสายตาของคุณ สิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเรามันก็เป็นเพียงการทำข้อตกลงร่วมกันอย่างนั้นเหรอ? !”
หยางจื้อซี เด็กกำพร้าจากศตวรรษที่21 ถูกองค์กรมืดเลี้ยงดูจนเติบโตและทำให้เธอกลายเป็นมนุษย์กลายพันธ์ ในระหว่างที่ถูกส่งตัวไปทำภารกิจลับ เธอกลับถูกคนในองค์กรมืดหักหลังและถูกฆ่าโดยเพื่อนสนิทที่เธอไว้ใจมากที่สุด ก่อนสิ้นใจเธอถามเพื่อนสนิทว่าทำไม แต่ไม่ได้รับคำตอบจากปากของอีกฝ่าย สิ่งที่เธอได้รับคือรอยยิ้มที่ดูถูกเหยียดหยามและ คำว่า “โง่” จากปากของอีกฝ่ายเท่านั้น หลังจากที่ตายไปแล้วสิ่งที่เธอคิดไว้ คงจะเป็นนรกหรือที่ไหนสักแห่งที่เป็นโลกหลังความตาย แต่ทว่ามันกลับไม่เป็นเช่นนัน เธอตื่นขึ้นมาในร่างของ หยางจื้อซี เด็กหญิงอายุ เพียง 13 ขวบปีในหมู่บ้านป่าหมอก ในดินแดนโบราณล้าหลังที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ คล้ายกับว่าเป็นโลกคู่ขนานที่อยู่อีกมิติหนึ่ง เธอตื่นขึ้นมาในบ้านที่ผุพัง ครอบครัวยากจน มีแม่ที่อ่อนแอและเจ็บป่วย มีพี่น้องที่อายุน้อย มีปู่ย่าตายายที่เห็นแก่ตัวและใจร้าย มีลุงที่เห็นแก่ได้ป้าสะใภ้ที่เต็มไปด้วยความละโมบโมบโลภมาก หยางจื้อซี คิดว่านับจากนี้ไปชีวิตจะต้องอยู่ได้ด้วยตัวเอง หากใครมารังแกก็แค่ทุบตี เธอไม่เชื่อว่าด้วยพลังที่ติดตัวเธอมาจากชาติที่แล้วจะไม่สามารถอยู่รอดได้ในโลกล้าหลังแห่งนี้
เกิดใหม่ในชาตินี้ นางแค่ต้องการอยู่อย่างสงบสุขปกป้องครอบครัวจากเรื่องร้ายที่จะเกิดขึ้น นางไม่อยากตกอยู่ในบ่วงรักอันทำให้ครอบครัวต้องพบกับวิบัติอีกต่อไปแล้ว... คำเตือน นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักโรแมนติก ดราม่า มีฉากความรุนแรง ฉาก NC และมีฉากเศร้าสะเทือนใจ โปรดพิจารณาก่อนดาวโหลดนะคะ กราบขอบพระคุณค่ะ
เสิ่นซือหนิงซ่อนตัวตนไว้ยอมทำทุกอย่างให้ แต่ความจริงใจของเธอกลับถูกสามีทำลายไปหมด และสิ่งที่เธอได้รับนั้นคือข้อตกลงการหย่า ด้วยความผิดหวังเธอจึงหันหลังจากไปและกลายเป็นตัวเองที่แท้จริงอีกครั้ง หลังจากได้เห็นความใกล้ชิดของสามีกับคนรักของเขา เธอก็จากไปด้วยความผิดหวัง จากนั้นเปิดเผยตัวตนที่เป็นนักปรุงน้ำหอมอัจฉริยะระดับนานาชาติ ผู้ก่อตั้งองค์กรข่าวกรองที่มีชื่อเสียง และผู้สืบทอดในโลกแฮ็กเกอร์ อดีตสามีของเธอเลยเสียใจมาก เมื่อเมิ่งซือเฉินรู้ว่าตัวเองทำผิด เขาก็เสียใจมาก หนิง ผมผิดไปแล้ว ให้โอกาสผมอีกครั้งเถอะ ทว่าฮั่วจิ่งชวนขาพิการนั้นกลับลุกขึ้นยืนและจับมือกับเธอว่า "อยากคบกับเธอ นายยังไม่มีค่าพอ"
ซูมู่หยูคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลที่พลัดพรากจากกันไปนาน หลังจากกลับมาสู่ครอบครัว เธอพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเอาใจญาติๆ ไม่ว่าจะเป็นตัวตน เกียรติศักดิ์ หรือผลงานการออกแบบ เธอก็ถูกบังคับให้มอบสิ่งเหล่านี้ให้กับลูกสาวบุญธรรม อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้รับความรักและการดูแลจากครอบครัวแต่อย่างใด แต่กลับโดนเอาเปรียบตลอด นับแต่นั้นเป็นต้นมา มู่หยูไม่ยอมให้ใครอีกเลย และตัดความรู้สึกและความรักทั้งหมดออกไป ปัจจุบันเธอเป็นสายดำระดับเก้า เชี่ยวชาญภาษาถึงแปดภาษา เป็นผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ และนักออกแบบระดับโลก ซูมู่หยูกล่าวว่า "จากนี้ไป ฉันเป็นหนึ่งของตระกูลซู"
จางหยู่เสวียน เดิมทีเป็นสตรีปากร้ายและถูกผีพนันเข้าสิงจนไม่ใส่ใจลูกและสามีที่เกิดอุบัติเหตุจนพิการไป สตรีนางนั้นก็เริ่มทอดทิ้งสามีแล้วเลือกที่จะทอดสะพานให้บัณฑิตหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่ง จนทำให้ภรรยาของเขาเกิดความหึงหวงผลักนางตกน้ำจนพบจุดจบที่น่าอดสู ทว่าเมื่อจางหยู่เสวียน นักฆ่าสาว เจ้าของรหัสหมายเลข 13 ในองค์กรนักฆ่าระดับโลกมีเหตุให้ถูกฆ่าตาย เนื่องจากไม่ยอมสังหารคนดี เธอจึงได้รับโอกาสใหม่จากสวรรค์เพื่อตอบแทนความดีครั้งนี้ในการมาเกิดใหม่ในร่างคนอื่นในยุคจีนโบราณ ทว่าเจ้าของร่างเดิมนั้นทำตัวเหลวแหลก ไม่เคยใส่ใจความรู้สึกของครอบครัว จนถึงขนาดคิดขายลูกกิน นักฆ่าสาวที่ข้ามเวลามาจากอนาคตจึงต้องทำทุกทางเพื่อแก้ไขเรื่องราวที่ยุ่งเหยิงนี้ ก่อนที่จะมีจุดจบเลวร้ายไม่ต่างไปจากเจ้าของร่างเดิม ชีวิตใหม่ครั้งนี้ นางจะใช้มันอย่างดีเพื่อดูแลครอบครัวนี้ให้มีความสุข และลบแผลใจแย่ๆ ให้หมดไปจากทุกคนในครอบครัว "ท่านแม่จะทิ้งเราเหรอ!" ไม่รู้เด็ก ๆ ที่วิ่งเล่นกันอยู่ด้านนอกเข้ามาได้ยินที่ประโยคไหน เข้าใจว่าผู้เป็นแม่จะออกไปและไม่กลับมาอีก สองพี่น้องกอดหมับที่ขามารดาคนละข้าง ทิ้งน้ำหนักลงพื้นเต็มที่ หากจะไปพวกเขาจะเกาะหนึบนางไปเช่นนี้ "ท่านแม่อย่าทิ้งข้าเลยนะเจ้า" ซ่งอวี้หลานร้องไห้โฮ น้ำตาทะลักออกจนชายชุดนางชุ่มในเวลาไม่กี่พริบตา ทางด้านซ่งหยวนหมิงก็รู้สึกว่าจะแพ้ไม่ได้ เลยกลั้นใจบีบน้ำตาจนหน้าแดง เห็นลูกทุ่มเทช่วยเขาขนาดนี้ ซ่งอี้หนานก็คุกเข่าลง ประคองมือนางไว้ไม่ปล่อย ใบหน้าคมคายจากมุมมองที่สูงกว่า ทำให้เขาดูคล้ายสุนัขตัวโต "ข้า เอ่อ" จางหยู่เสวียนพูดไม่ออก
หวังฉีหลิน อายุ 25 ปีสาวเจ้าหน้าที่การเกษตรและพ่วงมาด้วยเจ้าของสวนสมุนไพรรายใหญ่ เสียชีวิตกระทันหันหลังจากกลับมาจากท่องเที่ยวพักผ่อนและเธอได้เก็บเอาก้อนหินสีรุ้งมาจากพระราชวังโปตาลามาได้เพียงสามเดือน ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ หากตายไปแล้วก็ไม่เป็นไรเพราะเธอเองเติบโตมาอย่างโดดเดี่ยวในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าจนกระทั่งมีอายุได้ 18ปี ถึงได้ออกไปใช้ชีวิตด้วยตัวเองตอนนี้เธอ ไม่มีอะไรให้ต้องห่วงแล้ว เพียงแต่เสียดายที่เธอยังไม่ได้ทำตามความฝันของตัวเองเลย เฮ้อ ชีวิตคนเรานั้นมันแสนสั้น อายุ25 แฟนไม่เคยมี สามียังอยากได้ ไหนจะลูกๆที่ฝันอยากจะมีอีก คงต้องหยุดความหวังและความฝันเอาไว้เท่านี้ เหนือสิ่งอื่นใด ตายแล้วตายเลยจะไม่ว่า แต่ดันตื่นขึ้นมาในร่างหญิงชาวนายากจน ชื่อหวังฉีหลินเช่นเดียวกับเธอพ่วงมาด้วยภาระชิ้นใหญ่ อย่างสามีที่ป่วยติดเตียงและลูกชายฝาแฝดทั้งสอง แถมยังมีภาระชิ้นใหญ่ม๊ากกกมาก กอไกล่ล้านตัวอย่างพ่อแม่สามีและน้องๆของสามี ที่โดนบ้านสายหลักกดขี่ข่มเหงรังแก เอารัดเอาเปรียบและบังคับแยกบ้านหลังจากที่สามีของนางได้รับบาดเจ็บสาหัส สาเหตุที่หวังฉีหลินต้องมาตายไปนั้นเพราะโดนลูกสะใภ้บ้านสายหลักผลักตกเขาระหว่างที่กำลังยื้อแย่งโสมคนที่หวังฉีหลินขุดมาได้