หลิวชิงเฟยดาราสาวในยุคปัจจุบัน กำลังเข้าฉากบู๊ที่ต้องปีนลงจากตึก ความจริงแล้วเธอควรจะใช้ตัวแสดงแทน ทว่าดาราสาวอยากท้าทายความสามารถของตนเอง ความไม่ชำนาญจึงให้ทุกอย่างพลาด!!!...นอกจากจะไม่ได้ท้าทายแล้วเธอกลับต้องจบชีวิตลง! แต่ทว่าวิญญาณกลับไม่ยอมไปยังปรโลก ไม่รู้เพราะเหตุใดเธอจึงมาอยู่ในร่างของหลิวชิงเฟย หญิงสาวที่มีชื่อเดียวกับเธอ นอกจากนั้นใบหน้าก็ยังงดงามเหมือนกัน แต่นิสัยกลับต่างกันราวฟ้ากับเหว ชิงเฟยผู้นี้มีนิสัยร้ายกาจเห็นแก่ตัวเป็นอย่างมากจนทำให้ครอบครัวต้องล่มจม หลิวชิงเฟยผู้นี้ยังมีพี่สาวชื่อหลิวจิ้งเฟย และหลานชายชื่อหลิวซานอีกด้วย เดี๋ยวก่อนนะ...เหตุใดตัวละครเหล่านี้มันช่างคุ้นหูเหลือเกิน หลิวชิงเฟยผู้นี้มิใช่ตัวประกอบหญิงที่ต้องตายเพราะถูกพระเอกที่เป็นผู้มีอิทธิพลติดหนึ่งในสามของนครเซียงไฮ้ฆ่าตายหรอกหรือ คนเคยตายมาแล้วหนึ่งครั้ง ย่อมไม่อยากตายเป็นครั้งที่สอง แต่เธอจะทำอย่างไรดี ในเมื่อคำสั่งเสียของพี่สาวผู้วายชนม์ต้องการให้เธอพาหลานชายไปหาบิดาของเขา ถ้าไปก็ต้องถูกเขาฆ่าตาย แต่ถ้าไม่ไปวิญญาณหลิวจิ้งเฟยก็คงไม่ได้ไปสู่สุคติ มองไปทางไหนก็เหมือนจะไม่มีทางเลือกเลย หลิวชิงเฟยคิดหนักเหลือเกิน เธอควรเลือกทางไหนดี...
ในยามพลบค่ำดวงตะวันค่อยๆ ลาลับท้องฟ้ามืดครึ้ม ผู้คนสัญจรไปมาเริ่มน้อยลงก่อนจะจางหายไป มีเพียงแสงไฟสลัวตามสองฝั่งข้างทาง ริมฟุตบาทของถนนสายหนึ่งที่ติดอยู่กับแม่น้ำห่างเพียงระเบียงกั้น สะท้อนให้เห็นเงาของหญิงสาวคนหนึ่งกำลังเดินทอดน่องไปเรื่อย ๆ อย่างไร้จุดหมาย
หญิงสาวร่างผอมบางในชุดเดรสชีฟองสีขาวสวมหมวกไหมพรมสีขาว เดินไปตามฟุตบาตก่อนจะมาหยุดอยู่บนสะพานข้ามฝั่งแม่น้ำ ดวงตาเศร้าหมองเหม่อลอยทอดมองไปด้านหน้าอย่างไร้ทิศทาง
หากมองดูใกล้ๆ คงเห็นว่าดวงตาของเธอบวมแดงหลังจากผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก ใบหน้าที่เคยงดงามผุดผ่องนั้นซีดเซียวซูบตอบไร้สีเลือดฝาดอย่างเห็นได้ชัดริมฝีปากที่เคยแดงระเรื่อซีดขาวราวกับกระดาษ
ที่ผ่านมาราวกับว่าโชคชะตาเล่นตลกกับชีวิตของเธอ เมื่อปีก่อนเธอป่วยอาการเริ่มทรุดหนักเมื่อไปตรวจที่โรงพยาบาล กลับพบว่าเธอเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายอาจอยู่ได้ไม่เกินสองปี
นั่นเสมือนกับฝันร้ายชีวิตที่กำลังราบรื่นวาดฝันไว้อย่างดีกับคนรักที่คบกันมาถึงห้าปี เธอตั้งใจไว้ว่าจะแต่งงานและมีลูกกับเขาชีวิตครอบครัวของเธอก็จะสมบูรณ์ เติมเต็มชีวิตในอดีตที่ขาดหาย
“ไม่เป็นไรผมจะคอยอยู่ข้างๆ ดูแลคุณเอง”
คำพูดนั้นของเขาทำให้เธอยังคงมีชีวิตต่อไปอย่างมีความสุข เธอเริ่มเข้ารับการรักษาแม้ว่าจะไม่เห็นความหวังที่ปลายทาง แต่เธอก็ยังคงมีกำลังใจที่จะใช้ชีวิตต่อไปกับเขาแม้ว่าสิ่งที่วาดฝันไว้จะไม่เป็นอย่างที่คิด หากแต่เขาเป็นคนเดียวที่เป็นที่พึ่งสุดท้ายและเป็นกำลังใจในการใช้ชีวิตของเธอ
เธอชื่อหลินฟาง เป็นเด็กกำพร้าไร้ญาติขาดมิตร ตั้งแต่จำความได้เธอก็ใช้ชีวิตอยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เธอต้องใช้ความพยายามอย่างหนักกว่าคนอื่นกว่าจะก้าวขึ้นมาถึงจุดนี้
หลังจากที่เธอเรียนจบเธอก็ได้ทำงานในบริษัทใหญ่โตมีตำแหน่งหน้าที่การงานที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยความที่เธอเป็นคนขยันและทำงานดีละเอียดรอบคอบ อายุเพียงยี่สิบห้าปีเธอก็ได้ขึ้นเป็นหัวหน้าเป็นที่น่าอิจฉาของคนอื่น ๆ พวกเขาทำงานมาทั้งชีวิตยังไม่ได้เลื่อนตำแหน่งเลย
แต่กว่าเธอจะมาถึงจุดนี้ได้ก็เพราะว่าเธอมีกำลังใจที่ดี จงเหวินคนรักที่คอยอยู่เคียงข้างเธอมาตลอดห้าปี เธอกับเขาคบกันตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย ทางบ้านของเขามีฐานะปานกลาง แต่เขาก็พยายามช่วยเหลือให้กำลังใจเธอมาตลอด ทั้งสองฝ่าฟันอุปสรรคมาด้วยกันมากมาย
หลินฟางรู้สึกว่าเขาเป็นคนดีมากเป็นที่พึ่งเดียวในชีวิตเธอ เธอจึงตั้งใจว่าหลังจากที่การงานมั่นคงเธอจะแต่งงานและมีลูกกับเขามีครอบครัวที่มีความสุข
แต่แล้วชีวิตในวัยยี่สิบหกปีของเธอกลับพังทลายลงเมื่อเธอตรวจพบว่าเธอเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายอยู่ได้ไม่เกินสองปี จึงทำให้เธอต้องออกจากงานมารักษาตัว เธอคิดว่าชีวิตของเธอนั้นยังโชคดีที่มีจงเหวินคนรักที่คอยดูแลอยู่ข้างๆ แต่โชคชะตากลับเล่นตลกกับเธออีกครั้ง
‘ที่รักทำอะไรอยู่คะ ที่เรานัดกันว่าจะไปดินเนอร์เย็นนี้ฉันจองโต๊ะที่ดาดฟ้าของโรงแรมไว้เรียบร้อยแล้วนะคะ’
‘ได้ครับผมจะรีบไป ผมเองก็คิดถึงคุณจะแย่แล้ว’
ข้อความพวกนั้นแจ้งเตือนขึ้นมาบนหน้าจอโทรศัพท์ของคนที่เธอรัก หลินฟางทรุดตัวลงกับพื้นขบเม้มริมฝีปากแน่นน้ำตาไหลอาบสองพวงแก้มอย่างห้ามไม่ได้ เธอไม่คิดว่าคนรักที่คบกันถึงห้าปีจะนอกใจเธอ
เธอยังคงคิดเข้าข้างตัวเองว่าข้อความนั้นอาจจะมีใครบางคนส่งผิดมาก็ได้
ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูดังขึ้นทำให้หลินฟางได้สติขึ้นมาอีกครั้ง เธอวางโทรศัพท์ของเขาไว้บนโต๊ะที่เดิม มือเรียวเล็กยกขึ้นมาปาดน้ำตาบนใบหน้าก่อนจะเดินไปเปิดประตู
“จงเหวินคุณกลับมาแล้วเหรอคะ” หลินฟางปั้นหน้ายิ้มให้กับเขา
“ครับวันนี้ผมซื้อวัตถุดิบมาทำกับข้าวให้คุณโดยเฉพาะ มีประโยชน์สำหรับคนป่วยทั้งนั้นเลย คุณจะได้แข็งแรงและหายไวๆ จะได้อยู่กับผมไปนาน ๆ” ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งพูดพร้อมกับยิ้มอย่างอ่อนโยนให้กับหลินฟาง
“จริงสิเย็นนี้ผมต้องไปงานด่วนคงอยู่กับคุณไม่ได้คุณอยู่คนเดียวได้ใช่ไหม พรุ่งนี้ผมจะรีบกลับมานะ”
จงเหวินพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน หากแต่ทำให้คนฟังรู้สึกสะอึกขึ้นมา
หลินฟางกลืนน้ำลายลงคอพยายามกดกั้นน้ำตาที่พร้อมจะไหลพรากออกมาได้ทุกเมื่อ
“ค่ะ” หญิงสาวตอบรับเพียงสั้น ๆ ก่อนจะยกยิ้มเล็กน้อยให้กับเขา
โรงแรมแห่งหนึ่งติดริมแม่น้ำบรรยากาศค่อนข้างดีทีเดียว มองโดยรอบเห็นวิวทิวทัศน์แม่น้ำที่กว้างใหญ่ตึกน้อยใหญ่เรียงรายเป็นแถว ในยามเย็นแสงไฟหลากหลายสีสันสะท้อนบนแม่น้ำยิ่งมองดูสวยงามจนไม่อาจละสายตา
บนดาดฟ้าของโรงแรมแห่งนี้ได้จัดโต๊ะสำหรับทานดินเนอร์ไว้สำหรับลูกค้าวีไอพี ซึ่งหนึ่งในนั้นก็ปรากฏร่างของชายหนุ่มร่างสูงโปร่งที่ดูคุ้นตาสวมสูทสีดำดูภูมิฐาน ฝั่งตรงข้ามเขาเป็นหญิงสาวสวยในชุดเดรสเกาะอกสีแดงคลุมทับด้วยเสื้อสูทสีขาวดูมีระดับ หากมองดูดี ๆ แล้วผู้หญิงคนนี้คงมีฐานะอยู่ไม่น้อย ใบหน้าของเธอถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางราคาแพง ริมฝีปากสีแดงสดยกยิ้มกว้างให้กับชายหนุ่มตรงหน้าตลอดเวลา
“อร่อยไหมคะ มื้อนี้ฉันสั่งแต่ของโปรดของคุณทั้งนั้นเลยนะ”
“ขอบคุณนะครับ” เขาเองก็ยิ้มอย่างอ่อนโยนให้กับเธอเช่นกัน
ทั้งสองนั่งทานอาหารด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มอย่างมีความสุข โดยไม่เห็นว่ามุมหนึ่งมีหญิงสาวคนหนึ่งยืนกำมือแน่น ใบหน้าซีดเซียวเปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำตาริมฝีปากขบเม้มจนห้อเลือด ก่อนจะตัดสินใจเดินไปยังโต๊ะที่คนรักของเธอนั่งอยู่กับหญิงสาวที่เธอไม่คุ้นตา
“นี่มันอะไรกันคะจงเหวิน แล้วผู้หญิงคนนี้เป็นใคร” หลินฟางเอ่ยถามเสียงสั่น เธอไม่คิดว่าคนที่นั่งอยู่ตรงนี้จะเป็นเขา
จงเหวินเบิกตากว้างอย่างตกใจ เช่นเดียวกับหญิงสาวชุดแดงตรงหน้าที่ขมวดคิ้วอย่างสงสัย
“เขาเป็นแฟนของฉัน แล้วเธอเป็นใคร?”
ชายหนุ่มคนเดียวในนั้นถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะลุกขึ้นจับแขนเล็กของหลินฟางไว้
“ผมขอโทษนะ แต่ผมหมดรักคุณแล้วเราเลิกกันเถอะ”
เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาอย่างไร้เยื่อใย ยิ่งทำให้หลินฟางรู้สึกสั่นสะท้านไปทั้งร่าง เธอกลืนน้ำลายเหนียวข้นลงคอสะบัดแขนเล็กของตัวเองออกจากมือใหญ่ก่อนจะค่อย ๆ ถอยหลังแล้วเดินออกมา
โลกทั้งใบของเธอพังทลายลงต่อหน้าต่อตาเหลือเพียงความสิ้นหวังและโดดเดี่ยว ในหัวอื้ออึงไปหมดมีเพียงความคิดที่วนเวียนไปมาอยู่อย่างนั้น
ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ที่เธอเดินออกมาจากตรงนั้นพอรู้ตัวอีกทีก็มาอยู่บนสะพานแห่งหนึ่งเสียแล้ว ดวงตาของเธอวางเปล่าทอดมองไปด้านหน้าอย่างไร้จุดหมาย ที่พึ่งสุดท้ายก็ไม่เหลือแล้วต่อไปเธอจะใช้ชีวิตอย่างไร เธอสูญสิ้นทุกสิ่งอย่างไม่เหลือแล้วไม่เหลืออะไรเลย
น้ำในแม่น้ำแห่งนี้คงเย็นพอที่จะทำให้ร่างกายของเธอผ่อนคลายกับสิ่งเลวร้ายที่พบเจอมาได้ ต่อไปเธอจะได้ไม่ต้องมาเจอเรื่องพวกนี้อีก ทุกสิ่งอย่างในชาตินี้ก็ให้จบลงเพียงเท่านี้เธอแบกรับมันไม่ไหวอีกแล้ว
หญิงสาวค่อย ๆ หลับตาลงอย่างช้า ๆ ก่อนจะปลดปล่อยตัวเองดิ่งลงสู่ห้วงน้ำอันมืดมิดเวิ้งว้าง ร่างผอมบางค่อยๆ จมลงสู่ก้นบึ้งความเย็นยะเยือกของน้ำในยามค่ำคืนโอบล้อมร่างของเธอไว้ ภาพความทรงจำอันแสนหวานรอยยิ้มและเสียงหัวเราะภาพเหล่านั้นย้อนกลับคืนมาในหัวก่อนจะเลือนหายไป
‘ลาก่อนโลกที่แสนจะโหดร้ายใบนี้’
ความเย็นยะเยือกแทรกซึมเข้าสู่ประสาทสัมผัส หญิงสาวค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาอีกครั้งก็พบว่าบรรยากาศรอบตัวเงียบสงัดทั้งยังมืดมิดไร้ซึ่งแสงสว่าง
หลินฟางย่นคิ้วอย่างฉงนพลางย้อนคิดถึงเรื่องราวที่เพิ่งเกิดขึ้น
“ที่นี่คงเป็นยมโลกสินะ!” เธอถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนหน้านี้เธอฆ่าตัวตายโดยการกระโดดลงแม่น้ำแต่ไฉนจึงมาอยู่ที่นี่ได้ หากที่นี่ไม่ใช่ยมโลกแล้วจะเป็นที่ใดได้อีก วิญญาณของหลินฟางล่องลอยไปเรื่อย ๆ สู่เส้นทางที่มืดมิดอันยาวไกลอย่างไร้จุดหมาย
“เจ้าหมดอายุขัยจากโลกนั้นแล้ว ตอนนี้ก็คงถึงเวลาที่เจ้าจะต้องหวนคืนกลับสู่ที่เดิมที่เจ้าจากมา ดังคำอธิษฐานที่เจ้าเคยร้องขอ” เสียงทุ้มแหบที่คาดว่าน่าจะเป็นเสียงของชายสูงวัยดังขึ้นอย่างปริศนาก้องไปทั่วบริเวณนั้น จนทำให้หลินฟางต้องหยุดชะงักหันไปมองตามเสียงนั้นแต่ก็เห็นเพียงความมืดมิด
“นั่นใคร” เธอเอ่ยถามด้วยความสงสัยเธอเคยอ้อนวอนขอให้มีชีวิตด้วยเหรอ แต่ทว่าเสียงนั้นยังคงพูดต่อ
“เจ้ารู้แต่เพียงว่ายังคงมีใครบางคนเฝ้าอ้อนวอนขอให้เจ้าตื่นขึ้นมาในทุกคืนวัน ตัวข้าแม้นจะเป็นเทพผู้ชี้ชะตาแต่ก็ทนถูกคนผู้นั้นเฝ้าอธิษฐานจิตอยู่ทุกวี่วันจนข้ามิอาจปล่อยไปได้ จึงต้องมาเร่งรับตัวเจ้ากลับไป”
ตาแก่นี่พูดอะไรเธอไม่เห็นจะเข้าใจเลย แล้วใครบางคนคือใครกัน? เธอก็เพิ่งอกหักมาคนที่เธอรักนอกใจเธอถึงขนาดนี้จะมีใครมาเฝ้าอธิษฐานจิตรอเธออยู่อีก บ้าไปแล้วแน่ ๆ
ยังไม่ทันที่เธอจะได้ไถ่ถามอะไรให้มากความ แสงสว่างจ้าวูบหนึ่งก็พุ่งเข้ามายังใบหน้าของเธออย่างเต็มแรง ภาพความจำเมื่อครั้งอดีตไหลเวียนเข้ามาในหัว จวบจนวันที่ตัวเธอในอดีตกับครอบครัวถูกใส่ร้ายว่าเป็นกบฏและวางแผนฆ่าสตรีผู้หนึ่งซึ่งเป็นชายารองของสามี ทำให้เธอและครอบครัวต้องโทษประหารชีวิตทั้งตระกูล
เมื่อจำอดีตได้หลินฟางถึงกับนิ่งอึ้งทรุดตัวลงไปกับพื้น เรื่องราวหนักหนาถึงเพียงนี้จะให้เธอกลับไปทำไมอีก
“ท่านเทพผู้ชี้ชะตาโปรดเมตตา ฉันไม่อยากกลับไปอีกแล้ว ฉันไม่อยากเผชิญหน้ากับสิ่งที่เลวร้ายอีกแล้ว ขอร้องอย่าส่งฉันกลับไปเลย” หลินฟางร้องไห้อ้อนวอนแต่เสียงทุ้มแหบนั้นกลับพูดขึ้นมาอย่างอ่อนโยน
“อดีตสามารถแก้ไขและเปลี่ยนแปลงได้ ทุกอย่างขึ้นอยู่ที่ตัวของเจ้าเอง”
“แก้ไขเหรอ...แก้ไขอย่างไร?”
“ไปได้แล้ว!”
“เดี๋ยวสิ! บอกฉันมาก่อน…”
วูบ
สิ้นเสียงของชายชราผู้นั้นก็เกิดลมแรงวูบหนึ่งราวกับคนผู้นั้นเพียงใช้มือโบกเบา ๆ สติของหลินฟางก็ดับวูบไป
อดีตที่เธอเคยทำร้ายจิตใจเขาเอาไว้ ยังคงเป็นรอยแผลใจยากจะสมานกลับคืนได้ คนเคยร้ายอย่างเธอต่อให้เปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดียังไง เขากลับมองเป็นเพียงผู้หญิงร้ายกาจไม่เปลี่ยนแปลง
นางเคยมอบความรัก ความภักดี ให้เขาด้วยความจริงใจ แต่เขากลับตอบแทนนางด้วยการทรยศ หักหลัง สกุลของนางต้องล่มสลาย ยามที่สวรรค์มอบโอกาสให้นางได้หวนคืนชะตา นางจึงตั้งมั่นไม่ขอหวนกลับไปยุ่งเกี่ยวพัวพันกับเขาอีก เพียงแต่นางพยายามหลีกหนี คนหน้าหนากลับพยายามไล่ตาม ใช้ความเจ้าเล่ห์ทั้งหลอกล่อบีบคั้นจนนางไร้หนทางหลีกหนี ในเมื่อมิอาจหลีกหนีเช่นนั้นครั้งนี้นางก็จะทำให้เขาได้รู้ว่า สตรีสกุลหลิวจะไม่ยอมโง่เขลาเป็นครั้งที่สอง "กู่เหว่ยหยวน ตลอดชีวิตของข้า สิ่งที่ข้าเสียใจที่สุด คือมอบใจให้บุรุษชั่วช้าเช่นเจ้า หากสวรรค์มีจริง ไม่ว่าจะกี่ภพชาติอย่าได้พบกันอีกเลย"
นั่งรีวิวนิยายอยู่ดีๆ จ้าวลี่หลินก็ทะลุมิติมาเกิดใหม่เป็นนางร้ายในนิยายตรงหน้า สวรรค์ข้าเพียงด่านางร้ายผู้นี้ไปสองสามประโยคเท่านั้น เหตุใดต้องกลั่นแกล้งกันถึงเพียงนี้ แล้วสามีผู้นี้มิใช่ว่าเขาคือแม่ทัพผู้เก่งกาจหรือไร เกิดอะไรขึ้นจึงได้มาเป็นชาวสวนแบบนี้ แต่ถึงจะถูกไล่ออกมาเป็นชาวสวนแล้วอย่างไร ไม่ได้เป็นขุนนางก็เป็นคนร่ำรวยได้ มีเงินย่อมมีอำนาจมิใช่หรือ แต่หากอยากกลับไปยิ่งใหญ่อีกครั้งก็ต้องฟังภรรยาอย่างข้า สามี...อยากรวยต้องช่วยข้าทำสวน
ในขณะที่เขาเฝ้ารักสตรีผู้นั้น ทว่าในขณะเดียวกันนางก็เฝ้ารอความรักจากเขาอย่างมีความหวัง 'ความรักทำให้คนโง่งม' คำกล่าวนี้ช่างเหมาะสมกับนางยิ่ง หรือชั่วชีวิตนี้ของนางจะเป็นได้เพียงอากาศ วนเวียนอยู่รอบกายแต่กลับไร้ค่าไม่มีตัวตน "พระองค์จะหันมาเหลียวแลหม่อมฉันบ้างได้หรือไม่ หม่อมฉันก็มีหัวใจไม่ต่างจากผู้อื่นเช่นกัน"
นิยายเรื่องนี้เป็นการนำตัวละคร ของสามเรื่องหลัก มาแต่งเป็นตอนพิเศษสั้น ๆ เพื่อตอบแทนนักอ่านที่รักทุกท่านที่สนับสนุนกันมาตลอดเวลา จะเป็นฉากเก็บตกที่รี๊ดขอมาทั้งสิ้น ฝากติดตามด้วยนะคะ
เพื่อแคว้นนางเสียสละ เพื่อบิดานางกตัญญู จำใจรับสถานะพระชายาที่พระสวามีไม่ยินดี ได้ครองร่างกายแต่มิอาจได้ครองใจ เพราะมิอาจขัดขืนคำสั่งพระบิดา ฟางหลินจึงต้องอภิเษกกับองค์ชายต่างแคว้นเพื่อเชื่อมสัมพันธ์ ทว่าองค์ชายผู้นั้นกลับมีสตรีในดวงใจแล้ว เห็นทีชีวิตการแต่งงานของนางคงไม่พ้นต้องแบกรับความไม่เป็นธรรม
จางลี่สตรีเกิดมาพร้อมกับความเกลียดชัง บิดามารดาไม่รัก พี่สาวรังเกียจ รอบด้านทำร้ายร่างกาย ชาติภพนี้นางถูกคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีทำร้ายจนตาย เมื่อเกิดพบชาติใหม่อีกครั้ง นางก็ขอตอบแทบพวกเขาอย่างสาสม อย่าคิดว่าชาติภพนี้พวกเขาจะได้อยู่สุขสบาย นางในชาตินี้จะถนอมพวกเขาเป็นอย่างดี “ข้าไม่ใช่คนดี ท่านอย่าได้หวังว่าข้าจะดีเหมือนคนอื่น หากท่านปรารถนา พบสตรีที่ดีก็เชิญไปหาที่อื่น” บุรุษปริศนาที่ติดตามนางจะเลือกเส้นทางไหน แล้วนางจะตอบแทนพวกเขาเหล่านั้นเช่นไร รอพวกเขาหาคำตอบ แต่บอกได้เลยว่านางหาได้ใจดีเหมือนชาติที่แล้วไม่ “ข้าเตือนท่านแล้ว ว่าอย่าได้หวังว่าข้าจะเป็นคนดี”
วิญญาณฮองเฮาชั่วร้ายต้องเข้ามาอยู่ในร่างคุณหนูหลินจื่อเว่ยที่ตายโดยไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะต้องต่อกรกับแม่เลี้ยงใจยักษ์และโหดเหี้ยม งานนี้นางจึงต้องงัดฝีไม้ลายมือเก่า ๆ เอามาใช้ เพียงแต่ว่าเรื่องนี้ช่างยากเย็นนัก เมื่อนางมิได้ต่อสู้กับแม่เลี้ยงใจโฉดเพียงคนเดียว เมื่อบัดนี้กลับต้องเผชิญหน้ากับท่านอ๋องคู่หมั้น ที่วิปริตเย็นชาและยังเป็นโรคประสาทบ้าตัณหาผู้หนึ่ง!
หลังจากแต่งงานกันสามปี เจียงหยุนถังพยายามสุดความสามารถเพื่อช่วยชีวิตสามีที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ โดยไม่คาดคิด ว่าเขาได้ละทิ้งเธอเหมือนกับขยะ รับรักแรกของเขากลับประเทศและตามใจเธอทุกอย่าง เจียงหยุนถังที่ท้อใจตัดสินใจหย่า และทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอที่กลายเป็นภรรยาที่ถูกทอดทิ้งจากตระกูลเศรษฐี อย่างไรก็ตาม เธอกลับเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างกะทันหันเป็นหมอเทวดาที่พบเจอยาก "Lillian"แชมป์แข่งรถที่มีฐานแฟนคลับจำนวนมาก และยังเป็นนักออกแบบสถาปัตยกรรมระดับโลกอีกด้วย ชายร้ายหญิงชั่วคู่นั้นเยาะเย้ยเธอว่า เธอจะไม่มีวันหาคู่รักได้ใ แต่ไม่คาดคิดว่าลุงของอดีตสามีของเธอ ซึ่งเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดทำกแงทัพกลับมาเพียงเพื่อขอแต่งงานกับเธอ
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
เสิ่นชิงชิว หลานสาวของเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองไห้ คบหาอยู่กับลู่จั๋วมาเป็นเวลาสามปีแล้ว แต่ความจริงใจของเธอกลับสูญเปล่า ลู่จั๋วปฏิบัติกับเธอเพียงในฐานะหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง และทอดทิ้งเธอในวันแต่งงาน โดยไปหารักแรกของเขา หลังจากเลิกรากันอย่างเด็ดขาด เสิ่นชิงชิวก็กลับมามีสถานะเป็นสาวรวยอีกครั้ง ได้รับมรดกมูลค่าหลายร้อยพันล้าน และเริ่มต้นชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุด แต่แล้วมักจะมีคนโผล่มาทไให้กับเธอหงุดหงิดอยู่เสมอ! ขณะที่เธอกำลังจัดการกับผู้ร้าย คุณชายฟู่ผู้มีอำนาจนั้นก็ปรบมือและโห่ร้องว่า "ที่รักของฉันสุดยอดมากจริงๆ"
เธอตกหลุมพรางของว่าที่สามีและเพื่อนสนิทของตัวเอง ทำให้เธอสูญเสียไปทุกอย่าง เธอตายอยู่บนถนน เมื่อเธอลืมตาขึ้นมาอีกที ก็พบว่าสามีของเธอกำลังพยายามรัดคอเธอให้ตาย แต่โชคดี ที่สุดท้ายเธอรอดชีวิตมาได้ แล้วเธอก็ตกลงเซ็นข้อตกลงการหย่ากับสามีของเธออย่างไม่ลังเล ที่เธอคิดไม่ถึงคือ แม่ของเธอได้ทิ้งทรัพย์สมบัติจำนวนมหาศาลก้อนหนึ่งให้เธอ ซึ่งช่วยให้เธอได้มีโอกาสแก้แค้นและพลิกสถานการณ์ทั้งหมด จากนั้น ทุกอย่างกำลังจะดีขึ้น และเธอก็ได้รับความรักอีกครั้งกับอดีตสามีของเธอ...