ไม่คิดว่าการช่วยชีวิตบุรุษแปลกหน้ากลางป่าในวันนั้น จะย้อนกลับมาช่วยชีวิตนางในวันนี้ "บุญคุณช่วยชีวิต วันหน้าข้าจะชดใช้ให้" "เช่นนั้นก็ชดใช้เสียวันนี้... มาเป็นสามีของข้าเถิด" ------ เยี่ยนหลิง : หญิงสาวชาวบ้าน นางเกือบถูก บังคับให้แต่งงานกับบุตรชายหัวหน้าหมู่บ้าน เพื่อแลกกับยารักษาร่างกายให้พี่ใหญ่ แต่แล้วที่นางเก็บบุรุษแปลกหน้าได้ที่กลางป่า ชีวิตนางก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เซียวชินหย่วน : ซื่อจื่อจวนเซียวกั๋วกง ขึ้นเขามาเก็บสมุนไพร แต่ถูกลอบทำร้ายจนพลัดตกเขา โชคดีที่ได้เยี่ยนหลิงช่วยชีวิตเอาไว้
"อาหลิง อย่างไรเจ้าก็ต้องแต่งกับเสิ่นหัวหรง" น้ำเสียงร้อนรนแฝงด้วยความปวดใจดังขึ้นจากด้านหลัง ดรุณีน้อยผู้มีนามว่าเยี่ยนหลิงเอียงหน้าหันไปมองด้านหลัง พร้อมกับมุ่นหัวคิ้วเล็กน้อย
ครั้นเห็นสีหน้าของผู้เป็นมารดา นางก็มิได้สนใจและหันหน้ากลับไปหั่นผักบนเขียงไม้ต่อเช่นเดิม ปล่อยให้ท่านแม่มองแผ่นหลังของนางอย่างไม่พอใจ
"ถึงอย่างไรวันหน้าเจ้าก็ต้องแต่งงานกับผู้อื่นอยู่ดี จะแต่งกับผู้ใดก็ต้องแต่งมิใช่หรือ แต่เจ้าลองคิดดูเอาเถิด เสิ่นหัวหรงเป็นถึงบุตรชายของหัวหน้าหมู่บ้านหยู่เปิงแห่งนี้ อีกอย่างเขาก็ถูกใจเจ้ายิ่งนัก แม่ว่าหากเจ้าแต่งออกไปเขาจะต้องดีต่อเจ้าแน่นอน"
ครั้นเห็นว่าบุตรสาวยังไม่ยอมปริปากพูดสิ่งใดออกมา จ้าวเหรินมารดาของเยี่ยนหลิงก็ถอนหายใจพลางเร่งยาแรงไปอีกคำรบ ในใจของผู้เป็นมารดา ย่อมต้องอยากเห็นลูกสาวแต่งงานกับคนที่ดี และนางก็คิดว่าเสิ่นหัวหรงก็เป็นตัวเลือกที่ดี หากพลาดไปแล้วจะมาเสียใจภายหลัง มีสตรีตั้งเท่าไรที่อยากเกี่ยวดองกับสกุลเสิ่น
"คุณชายเสิ่นหัวหรงเป็นถึงบุตรชายของท่านหัวหน้าหมู่บ้าน เจ้าก็รู้ว่าหมู่บ้านเรามิได้ใหญ่โต อำนาจของสกุลเสิ่นยิ่งใหญ่เพียงใดเจ้าไม่รู้หรอกหรือ พวกเราเป็นเพียงตระกูลพ่อค้าเล็ก ๆ เขาก็ยินดีมาสู่ขอเจ้าอย่างถูกต้อง สามหนังสือหกพิธีการ ล้วนไม่ขาด
หากเจ้าไม่ยินดี จะไม่เป็นการหักหน้าสกุลเสิ่นหรอกหรือ อาหลิงการค้าของครอบครัวเราจะราบรื่นหรือไม่ก็อยู่ที่เจ้าแล้ว แม่ขอร้องเจ้าคิดเสียว่าทำเพื่อครอบครัวเถอะนะ" เยี่ยนหลิงยังไม่กล่าววาจาใดเช่นเดิม จ้าวเหรินผู้เป็นมารดาเห็นเช่นนั้นก็ร้อนใจ แต่กระนั้นก็รู้ดีว่าไม่ควรเร่งรัดนางมากไปกว่านี้
"เจ้าลองคิดดูดี ๆ เถิด"
ครั้นเงาร่างของมารดาไกลออกไปแล้ว เยี่ยนหลิงก็วางมีดทำครัวลง นางเดินไปทิ้งตัวนั่งบนเก้าอี้ที่ท่านแม่นั่งเมื่อสักครู่ ก็ใครใช้ให้นางเป็นบุตรสาวของท่านแม่กันเล่า ครอบครัวของเยี่ยนหลิงทำอาชีพค้าขายเล็ก ๆ ในหมู่บ้านหยู่เปิง หมู่บ้านเล็ก ๆ ของเมืองหลิงอี้ นางมีพี่ชายผู้หนึ่งนามว่าเยี่ยนฟง ท่านพี่มีสุขภาพไม่สู้ดีมาตั้งแต่เกิด บัดนี้ก็ได้แต่แบกห่อยานอนอยู่แต่ในห้อง ออกมาโดนแดดโดนลมเพียงนิดก็ไม่ได้
จะว่าไปครอบครัวนางถึงแม้จะไม่ได้ร่ำรวย ทว่าการค้าขายก็นับว่าพอไปได้ แต่เรื่องดี ๆ มักจะอยู่ได้ไม่นาน จนกระทั่งหัวหน้าหมู่บ้านคนก่อนจากไปด้วยวัยชรา บุตรชายของเขานามว่าเสิ่นอันจึงขึ้นมาเป็นหัวหน้าหมู่บ้านแทน เสิ่นอันมีบุตรชายหัวแก้วหัวแหวนหนึ่งคนนั่นก็คือเสิ่นหัวหรง คุณชายเสิ่นพึงใจในตัวเยี่ยนหลิงมากมิใช่แค่ถูกใจวันสองวันนี้
แต่เสิ่นหัวหรงนั้นคอยเฝ้าเกี้ยวนางมาโดยตลอด เมื่อก่อนที่ท่านหัวหน้าผู้เฒ่าเสิ่นยังอยู่ คนพวกนั้นก็ไม่กล้ากำเริบเสิบสานถึงเพียงนี้ ตั้งแต่ผู้เฒ่าเสิ่นจากไป เสิ่นอันขึ้นมาแทนที่ กิจการของสกุลเยี่ยนก็พลันสะดุดลง
"ท่านป้าเยี่ยนกำลังจะทำสิ่งใดอยู่หรือ ให้ลูกเขยช่วยดีหรือไม่ พวกเจ้ายืนซื่อบื้ออยู่ทำไม มาช่วยว่าที่แม่ยายข้าเร็วเข้า" เสียงที่ดังเข้ามาจากทางหน้าบ้านไม่ต้องเห็นหน้า ก็รู้ว่าเป็นผู้ใด
"อาหรงเจ้าจะยกของพวกนี้ได้อย่างไร มา ๆ นั่งลงก่อน อาหลิงเอ๊ยยกน้ำชามาให้อาหรงหน่อยลูก" เยี่ยนหลิงหลับตาลง สูดลมหายใจเข้าลึกจนเจ็บอก นางไม่อยากทำ แต่หากไม่ทำท่านแม่ก็ต้องเรียกนางออกไปอยู่ดี หญิงสาวลุกขึ้นไปที่หน้าเตาไฟ เทใบชาใส่ในกาแล้วจึงยกออกไปด้านนอก
"รบกวนหลิงเอ๋อร์แล้ว"
"หากรู้ว่ารบกวน เหตุใดยังมาเล่า รู้ว่ารบกวนคราวหน้าก็ไม่ต้องมา"
"อาหลิง!"
"ท่านป้าเยี่ยนไม่เป็นอันใดขอรับ หลิงเอ๋อร์ก็แค่เขินอายเท่านั้นเอง ใบชานี่หอมมาก พี่หรงรู้ว่าหลิงเอ๋อร์ชอบดื่มชา วันนี้ข้าจึงนำชาเข็มเงินมาฝาก หลิงเอ๋อร์รับไปสิ" จ้าวเหรินเห็นว่าบุตรสาวไม่ยื่นมือออกไปรับ นางจึงรับเอามาเสียเอง
"โอ๊ย! ลำบากคุณชายเสิ่นแล้ว ชาเข็มเงินมีแต่พวกขุนนางนิยมชงดื่ม เป็นวาสนาของอาหลิงที่คุณชายเอ็นดู"
"ข้าต้มยาให้พี่ชายอยู่บนเตา ขอตัวก่อน" ไม่รอให้ผู้ใดได้เอ่ยรั้ง เยี่ยนหลิงก็สะบัดตัวเดินหนีกลับเข้าไปในห้องครัว เบื่อที่จะฟังท่านแม่กับคุณชายผู้นั้นพูดกันเจ้าคำข้าคำอีก
ความจริงแล้วคุณชายเสิ่นหัวหรงผู้นี้นับว่าเป็นบุรุษที่มีใบหน้าหล่อเหลาอันดับหนึ่งของหมู่บ้านหยู่เปิงเลยทีเดียว แต่แม้จะหน้าตาดีเพียงใด ทว่านิสัยกลับเป็นพวกไม่เอาไหน วัน ๆ ดื่มแต่สุรา เข้าโรงพนันเหมือนเป็นบ้านหลังที่สอง ยังไม่นับก่อนหน้านี้เขาไปฉุดสตรีนางหนึ่งที่มีสามีแล้วมาเป็นอนุของตน อีกทั้งยังทุบตีสามีของสตรีนางนั้นจนตายไปอีกด้วย บุรุษเช่นนี้นางไม่มีทางแต่งไปเป็นภรรยาของเขาแน่นอน
"อาหลิงยกสำรับออกไปเร็วเข้า ท่านพ่อเจ้ากลับมาแล้ว ไม่ต้องมองแล้วคุณชายเสิ่นกลับไปแล้ว แล้วนี่สมุนไพรจากเมืองหลวงคุณชายเสิ่นไปซื้อมาให้พี่ชายของเจ้าประเดี๋ยวก็เอาไปต้มให้อาฟงกินด้วยเล่า ไม่รู้เวรกรรมอันใดของข้า การแต่งงานที่ดีเช่นนี้เจ้ายังไม่ต้องการ เลือกมากมายถึงเพียงนั้นไม่เข้าวังไปเป็นสนมของฮ่องเต้เสียเลยเล่า"
จ้าวเหรินกระแทกฝ่าเท้าหมุนตัวเดินออกไปจากห้องครัว พูดดีก็แล้วข่มขู่ก็แล้ว บุตรสาวหัวแข็งก็ยังเมินเฉย แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามงานแต่งครั้งนี้ ย่อมต้องฟังคำพูดบิดามารดา คุณชายเสิ่นรับปากแล้วว่า จะหาหมอเทวดามารักษาบุตรชายนาง เพื่อบุตรชายแล้ว หากต้องเสียสละบุตรสาวจะเป็นอันใดไป
"เห็นว่าคุณชายเสิ่นมาหรือ เหตุใดเจ้าไม่อยู่พูดคุยกับคุณชายเสิ่นให้มากเสียหน่อยเล่าอาหลิง ถึงอย่างไรงานมงคลนี้ข้ากับแม่ของเจ้าก็เห็นดีแล้ว ไม่มีบิดามารดาที่ไหนไม่อยากให้ลูกได้ดี เจ้าลองออกไปมองดูบ้าง ว่าเจ้าโชคดีแค่ไหน บ้านสกุลถานก็อยากให้บุตรสาวแต่งเข้าสกุลเสิ่น แต่คุณชายเสิ่นนั้นมีใจให้เจ้า อีกอย่างคุณชายก็ส่งคนออกไปตามหาหมอเทวดาฉีแล้วด้วย ไม่อยากให้พี่ชายเจ้าหายดีหรอกหรือ"
เยี่ยนหลิงมองมารดาคีบปีกไก่ให้บิดา สองผัวเมียช่างมีน้ำใจเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเหลือเกิน
บิดาของนางกลับมาถึงก็เอาแต่พูดเรื่องแต่งงานไม่หยุดไม่หย่อน เยี่ยนหลิงเบื่อเป็นอย่างยิ่งมีวันใดบ้างที่ท่านพ่อกับท่านแม่จะไม่พูดถึง มิใช่ว่านางไม่รักพี่ชาย ทว่าท่านพ่อกับท่านแม่ไม่ถามความต้องการนางสักครึ่งคำก็ตัดสินใจแทนนางแล้ว หรือมีเพียงพี่ชายที่เป็นบุตรของพวกท่าน
เยี่ยนหลิงจึงเดินอ้อมจากบ้านและมุ่งหน้าขึ้นไปบนเขาในทันที เป้าหมายก็คือถ้ำแห่งหนึ่งที่นางชอบขึ้นไปหลบซ่อนหนีจากความวุ่นวายเห็นจะมีเพียงที่แห่งนั้นที่นางสามารถร้องไห้ออกมาได้ เช้านี้อากาศดีเหลือเกิน
ฤดูใบไม้ผลิเช่นนี้ ต้นไม้ใบหญ้าล้วนเขียวชอุ่มชวนมองเป็นอย่างมาก สายลมพัดเอื่อยพอประโลมจิตใจที่หม่นหมองได้ไม่มากก็น้อย เยี่ยนหลิงเดินขึ้นเขามาตามทางเรื่อย ๆ ระหว่างทางไม่ระวังจึงเผลอเตะโดนก้อนหินก้อนหนึ่ง นางซูดปากด้วยความเจ็บปวด อดจะตัดพ้อชะตาบัดซบออกมามิได้
"อันใดกัน แม้แต่สวรรค์ก็ยังกลั่นแกล้งข้ากระนั้นหรือ กระทั่งก้อนหินก็ยังขวางทางข้า สวรรค์ไม่มีตาจริง ๆ" บ่นเสร็จหญิงสาวก็เดินออกมา ทว่าสายตาของนางก็เหมือนจะมองเห็นอะไรบางอย่าง
"เอ๋! นั่นมันคือสิ่งใดกันนะ"
ร่างอรชรขมวดคิ้วขึ้นก้าวขาเลี่ยงออกไปอีกทาง ทว่าเดินไปได้สามก้าวความอยากรู้อยากเห็นก็ทำให้ ปลายเท้าเปลี่ยนทิศทางขยับเดินเข้าไปใกล้ ๆ ครั้นเมื่อเห็นเต็มสองตานางก็ต้องเบิกตาขึ้น
"คนอย่างนั้นหรือ!"
เยี่ยนหลิงมองดูคนตรงหน้า ที่บัดนี้กำลังนอนคว่ำหน้า ข้างกายของเขามีกระบุงใบหนึ่งล้มตะแคงอยู่ ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันแน่น พลางครุ่นคิดในใจว่ากลางป่ากลางเขาเช่นนี้ เหตุใดจึงมีคนมานอนอยู่อย่างนี้เล่า
หรือว่าเขาตายแล้ว!
หัวใจของหญิงสาวเต้นแรงจนได้ยินเสียงออกมานอกอก คนผู้นี้มีที่มาที่ไปเป็นอย่างไรก็ไม่อาจรู้ ทางที่ดีนางอย่าไปยุ่งเกี่ยวจะดีกว่า เพียงแค่เรื่องตนเองนางก็แทบจะเอาตัวไม่รอดแล้ว หญิงสาวหันหลังวิ่งหนีออกไป ทว่าคุณธรรมในใจก็ร้องเตือนว่า เป็นเช่นนี้จะดีจริง ๆ หรือ หากนางยังสามารถช่วยเขาได้เล่า
แต่หากนางช่วยแล้วเขานำความเดือดร้อนมาให้นางและคนในครอบครัวเล่า นางจะรับมืออย่างไร เช่นนั้นแล้วท่านพ่อกับท่านแม่นางคงรีบจับนางแต่งเข้าสกุลเสิ่น โบราณว่าไว้บุตรสาวที่แต่งไปแล้ว ก็เหมือนน้ำที่สาดออกไป ไม่ว่าวันหน้าคนผู้นี้จะมีปัญหาหรือไม่ ท่านพ่อกับท่านแม่ก็คงคิดว่าให้สกุลเสิ่นจัดการเองกระมัง
ในขณะที่คิดไม่ตกร่างอรชรก็แอบไปหลบที่หลังต้นไม้ใหญ่ ศีรษะเล็ก ๆ ชะโงกออกไปมองพลางสำรวจเนื้อตัวเขาไปด้วย อาภรณ์ที่สวมใส่ดูต่างจากพวกนางอยู่บ้าง เนื้อผ้าดูเหมือนจะใส่สบายกว่า นางนั่งตบตีกับความคิดตนเองพักใหญ่ จนกระทั่งได้ยินเสียงดังออกมาจากชายผู้นั้น
ชายหนุ่มส่งเสียงครางต่ำออกมาน้ำเสียงเหมือนจะเจ็บปวดอยู่มาก เขายันแขนขึ้นแต่แล้วก็ล้มลงไปอีกครั้ง จึงทำได้เพียงพลิกกายกลับมานอนหงาย ดวงตาคมปรือขึ้นแต่แล้วก็ปิดลงไปอีกครั้ง
ชายหนุ่มนอนนิ่งอยู่กับที่ ในหัวกลับกำลังขบคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ใช่แล้วก่อนหน้านี้เขาขึ้นเขามาเก็บสมุนไพรเพื่อนำไปปรุงเป็นยาแต่ในขณะที่กำลังก้มหน้าศีรษะก็ปวดร้าวขึ้นมา จึงทำให้ดวงตาพร่ามัวและพลัดตกลงมาจากเขา ไม่รู้ว่าเขานอนเจ็บอยู่ตรงนี้นานเพียงใดแล้ว ในท้องก็เริ่มรู้สึกหิวอยู่บ้าง ทั้งร่างกายก็เจ็บปวดจนแทบจะขยับไม่ได้ แต่เหนืออื่นใดคือเขากระหายน้ำจนคอแห้งผาก
************************
ความทะเยอทะยานผลักดันให้นางปีนขึ้นสู่ตำแหน่งฮองเฮาทว่ายังมิทันจะได้เสวยสุข กลับถูกฮ่องเต้ผู้เป็นสวามีสวมข้อหากบฏวางลงบนศีรษะนาง เกิดใหม่คราวนี้นางไม่ขอเป็นฮองเฮาของฮ่องเต้สารเลวผู้นั้น ชีวิตนี้ที่ได้มาใหม่อีกครั้ง นางจะลิขิตเอง
เพราะความผูกพันที่มีมาตั้งแต่เกิด ทำให้หทัยชนกไม่อาจหักห้ามความรักที่มีต่ออาหมอสิงได้อีกต่อไป และแม้รักนี้พ่อจะไม่ปลื้ม แต่หญิงสาวจะขอฝ่าฟันและไม่มีทางยอมแพ้ให้อุปสรรคในครั้งนี้เด็ดขาด
เพราะคำสัญญาของผู้ใหญ่ ทำให้ ศิรวิช จำใจต้องแต่งงานกับ สุทธิดา ชายหนุ่มทำทุกทางให้หญิงสาวทนไม่ไหว แต่เพราะความรักตั้งแต่แรกเจอ ทำให้สุทธิดาทนอยู่กับคนใจร้าย จนวันที่หญิงสาวทนไม่ไหวในวันที่สายไป ศิรวิชต้องเสียเธอไปพร้อมกับลูกแฝดที่เขาไม่เคยรับรู้
นพวรรณ ถูกบิดาและมารดาบังเกิดเกล้าที่ติดการพนันอย่างหนักขายหักหนี้ให้กับ คิม ซีวาน หนุ่มลูกครึ่งไทยเกาหลีเจ้าของบ่อนคาสิโนหรูย่านใจกลางเมือง หลังจากรู้จักกับซีวาน นพวรรณ จึงได้รู้ว่าการตกนรกทั้งเป็น มันคือยังไง ชายหนุ่มปฎิบัติกับหญิงสาวเยี่ยงทาส นพวรรณจะทนได้นานแค่ไหน เธอจะหนีจากขุมนรกนี้ได้อย่างไร
ต่ำศักดิ์ ไร้ค่าแล้วอย่างไร ในสายตาของนาง เขาคือยอดบุรุษผู้สง่างาม ความอัปยศที่เขาเคยได้รับ ความเจ็บช้ำที่เขาเคยต้องอดทน วันนี้นางจะทวงคืนให้เขาเอง "บุรุษของข้า ใครกล้าแตะต้องก็ลองดู"
อดีตที่เธอเคยทำร้ายจิตใจเขาเอาไว้ ยังคงเป็นรอยแผลใจยากจะสมานกลับคืนได้ คนเคยร้ายอย่างเธอต่อให้เปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดียังไง เขากลับมองเป็นเพียงผู้หญิงร้ายกาจไม่เปลี่ยนแปลง
"พี่ริก" นินิวเรียกคนที่เข้ามาในห้องเธอ ฉันอยากจะกรี๊ดและกัดลิ้นตัวเองให้ขาด ฉันลืมไปสนิทว่าริกเป็นคนที่เข้าออกคอนโดของเธอได้อย่างง่ายดาย "ออกไป ถ้าไม่อยากโดนข้อหาบุกรุกห้องคนอื่นในยามวิกาล" นินิวบอกริกมาเสียดังด้วยสีหน้าโกรธจัด ที่ริกเข้าห้องเธออย่างถือวิสะ "ไม่ไป ในเมื่อที่นี่คือห้องเมียฉัน ทำไมฉันต้องออก" ร่างสูงบอกมาด้วยเสียงแข็งด้วยความไม่พอใจ "ห้องฉันไม่ใช่ห้องของยัยโมเน่ เมียคนปัจจุบันของพี่ ถ้าพี่ยังหลงเหลือความเป็นคนอยู่บ้างก็ออกไปจากห้องฉันคะ" แต่ริกกับไม่สนใจคำพูดนินิวเลยซักนิด ร่างสูงเดินเข้ามาหาคนตรงหน้า นินิวที่เห็นเช่นนั้นถึงกับจับที่ชายผ้าขนหนูเอาไว้แน่นขึ้น เพราะคนตรงหน้านั่นดูอันตรายสำหรับเธอ "อย่านะพี่ริก เรื่องของเรามันจบไปแล้ว" นินิวบอกมาด้วยเสียงสั่นเพราะสายตาที่เขามองเธอมามันน่ากลัวมากจริงๆ "ชอบฉันไม่ใช่เหรอ เอาฉันแล้วจะไปอ่อยคนอื่น อีกทำไม ฉันเห็นเต็มสองตาว่าเธอจูบกับไอ้ไทม์" "ในเมื่อพี่เห็นเช่นนั้น พี่ก็เลิกยุ่งกับฉันเสียสิ ฉันจะอ่อยจะจูบกับใครมันก็เรื่องของฉันไหม ฉันบอกพี่ไม่กี่ร้อยครั้งแล้วว่าเราเลิกกันแล้ว เพราะพี่มันเลว ฉันเลยไม่อยากได้พี่แล้ว " นินิวบอกคนใจร้ายอย่างคนเหลืออด เธอระเบิดอารมณ์ใส่คนตรงหน้าอย่างไม่มีท่าทีเกรงกลัว สำหรับริกตอนนี้เธอมองเขาเป็นแค่เศษฝุ่นที่รู้สึกขยะแขยงยิ่งกว่าแมลงสาบ ริกถึงกับกัดฟันกอดด้วยความโกรธและโมโห เชตเรื่องหนุ่มๆวิศวะทั้ง 4 หนุ่มนะคะ พันธะร้ายนายวิศวะ เรียวตะ x เชอรีน (มีให้อ่านจบเรื่อง) พิษรักร้าย Toxic Love ริกกี้ x นินิว พลาดรักร้ายนายวิศวะ อรัณ x มิริณ คลั่งรักร้ายนายวิศวะ ริว x เจนิส โลกสวยไม่เหมาะกับนิยายเรื่องนี้ ข้ามไปได้เลยจ้า นิยายเรื่องนี้เขียนขึ้นตามจิตนาการของผู้แต่ง ห้ามขัดลอกเรียนแบบใดๆ ทั้งสิ้นเขียนขึ้นตามจิตนาการของผู้เขียนเท่านั้น นิยายเรื่องนี้อาจมีเนื้อหารุนแรงในบางตอน โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน อายุต่ำกว่า 18 ปีควรได้รับคำแนะนำ
เมื่อภัทราได้ทะลุมิติเข้าไปอยู่ในร่างของเจียงอันเล่อ ตัวละครในนิยายเรื่อง "ชะตารักพันธนาการ" ภารกิจปกป้องหานอี้หลง พระรองของเรื่องแต่เป็นชายในดวงใจของเธอก็เริ่มต้นขึ้น
หลังจากดูแลสามีมาเป็นเวลาสามปี เมื่อเห็นสามีสอบติดขุนนาง เฉียวชูเยว่ก็นึกว่าชีวิตดีๆ จะมาแล้ว แต่กลับไม่รู้ว่าสามีเป็นคนโลภ และเจ้าชู้ เพื่อจัดการปัญหาให้สามี เฉียวชูเยว่เสียตัวให้กับจักรพรรดิโหดร้ายโดยไม่ได้ตั้งใจ เพื่อชีวิตและอนาคตของสามี นางได้แต่อดทนเอาไว้ จากนั้น สามีของนางก็ได้รับการยกย่องจากจักรพรรดิ และถูกเลื่อนตำแหน่งเรื่อยๆ เมื่อสามีของนางกำลังเพลิดเพลินอำนาจและสาวสวยนั้น นางกำลังรับใช้กับจักรพรรดิอย่าง้อยใจ แต่ไม่คาดคิดว่าความพยายามของนางได้แลกกับใบหย่าจากสามี ในวันแต่งงานของสามี นางถูกฆาตกรไล่ตามและตกลงไปในโคลน เมื่อนางหมดหวังนั้น จักรพรรดิก็มายืนอยู่ตรงหน้านาง "มาเป็นคนของข้าสิ และจะไม่มีใครกล้ารังแกเจ้าอีก!"
หลังจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ เจียงหว่านฉือตื่นขึ้นมาด้วยความเจ็บปวด ทีแรกเธอยังคิดว่าสามีของเธอที่แต่งงานกันมาเป็นเวลาสามปีนั้นมาที่นี่เพื่อดูอาการของเธอ แต่ไม่คิดเลยว่า ชายคนนั้นกลับเดินไปที่ห้องผู้ป่วยข้างๆ เพื่อดูแลผู้หญิงอีกคนหนึ่ง และเพื่อผู้หญิงคนนั้นแล้ว เขายังต้องการส่งเธอเข้าคุกด้วย "2500 ล้าน เพื่อแลกกับการตบผู้หญิงของคุณหนึ่งฉาด"เจียงหว่านฉือมองไปที่เขาอย่างเย็นชา "เราหย่ากันเถอะ"" เธอรับใช้เขาอย่างอดทนมาเป็นเวลาตั้งสามปี ตอนนี้ เธอขอไม่ทำเรื่องโง่ ๆ แบบนั้นอีกต่อไปแล้ว เธอจะกลับไปสืบทอดมรดกมหาศาลของตระกูล
หยางจื้อซี เด็กกำพร้าจากศตวรรษที่21 ถูกองค์กรมืดเลี้ยงดูจนเติบโตและทำให้เธอกลายเป็นมนุษย์กลายพันธ์ ในระหว่างที่ถูกส่งตัวไปทำภารกิจลับ เธอกลับถูกคนในองค์กรมืดหักหลังและถูกฆ่าโดยเพื่อนสนิทที่เธอไว้ใจมากที่สุด ก่อนสิ้นใจเธอถามเพื่อนสนิทว่าทำไม แต่ไม่ได้รับคำตอบจากปากของอีกฝ่าย สิ่งที่เธอได้รับคือรอยยิ้มที่ดูถูกเหยียดหยามและ คำว่า “โง่” จากปากของอีกฝ่ายเท่านั้น หลังจากที่ตายไปแล้วสิ่งที่เธอคิดไว้ คงจะเป็นนรกหรือที่ไหนสักแห่งที่เป็นโลกหลังความตาย แต่ทว่ามันกลับไม่เป็นเช่นนัน เธอตื่นขึ้นมาในร่างของ หยางจื้อซี เด็กหญิงอายุ เพียง 13 ขวบปีในหมู่บ้านป่าหมอก ในดินแดนโบราณล้าหลังที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ คล้ายกับว่าเป็นโลกคู่ขนานที่อยู่อีกมิติหนึ่ง เธอตื่นขึ้นมาในบ้านที่ผุพัง ครอบครัวยากจน มีแม่ที่อ่อนแอและเจ็บป่วย มีพี่น้องที่อายุน้อย มีปู่ย่าตายายที่เห็นแก่ตัวและใจร้าย มีลุงที่เห็นแก่ได้ป้าสะใภ้ที่เต็มไปด้วยความละโมบโมบโลภมาก หยางจื้อซี คิดว่านับจากนี้ไปชีวิตจะต้องอยู่ได้ด้วยตัวเอง หากใครมารังแกก็แค่ทุบตี เธอไม่เชื่อว่าด้วยพลังที่ติดตัวเธอมาจากชาติที่แล้วจะไม่สามารถอยู่รอดได้ในโลกล้าหลังแห่งนี้
หวังฉีหลิน อายุ 25 ปีสาวเจ้าหน้าที่การเกษตรและพ่วงมาด้วยเจ้าของสวนสมุนไพรรายใหญ่ เสียชีวิตกระทันหันหลังจากกลับมาจากท่องเที่ยวพักผ่อนและเธอได้เก็บเอาก้อนหินสีรุ้งมาจากพระราชวังโปตาลามาได้เพียงสามเดือน ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ หากตายไปแล้วก็ไม่เป็นไรเพราะเธอเองเติบโตมาอย่างโดดเดี่ยวในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าจนกระทั่งมีอายุได้ 18ปี ถึงได้ออกไปใช้ชีวิตด้วยตัวเองตอนนี้เธอ ไม่มีอะไรให้ต้องห่วงแล้ว เพียงแต่เสียดายที่เธอยังไม่ได้ทำตามความฝันของตัวเองเลย เฮ้อ ชีวิตคนเรานั้นมันแสนสั้น อายุ25 แฟนไม่เคยมี สามียังอยากได้ ไหนจะลูกๆที่ฝันอยากจะมีอีก คงต้องหยุดความหวังและความฝันเอาไว้เท่านี้ เหนือสิ่งอื่นใด ตายแล้วตายเลยจะไม่ว่า แต่ดันตื่นขึ้นมาในร่างหญิงชาวนายากจน ชื่อหวังฉีหลินเช่นเดียวกับเธอพ่วงมาด้วยภาระชิ้นใหญ่ อย่างสามีที่ป่วยติดเตียงและลูกชายฝาแฝดทั้งสอง แถมยังมีภาระชิ้นใหญ่ม๊ากกกมาก กอไกล่ล้านตัวอย่างพ่อแม่สามีและน้องๆของสามี ที่โดนบ้านสายหลักกดขี่ข่มเหงรังแก เอารัดเอาเปรียบและบังคับแยกบ้านหลังจากที่สามีของนางได้รับบาดเจ็บสาหัส สาเหตุที่หวังฉีหลินต้องมาตายไปนั้นเพราะโดนลูกสะใภ้บ้านสายหลักผลักตกเขาระหว่างที่กำลังยื้อแย่งโสมคนที่หวังฉีหลินขุดมาได้