โลโก้ที่ฉันออกแบบขึ้นเป็นพิเศษสำหรับบริษัทใหม่ของธนดล มหานที ของขวัญวันเกิดครบรอบ 22 ปีของฉัน และเป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตคู่ที่เราวาดฝันไว้ หลุดลอยจากปลายนิ้วในวินาทีที่ฉันได้ยินเขาบอกกับที่ปรึกษาคนสนิทว่า เขากำลังแกล้งหมั้นเพื่อกำจัดฉันให้พ้นทาง
มันตกลงบนพรมหนานุ่มนอกห้องส่วนตัวด้วยเสียงตุบเบาๆ เสียงนั้นถูกกลืนหายไปกับเสียงดนตรีที่ดังคลอเบาๆ จากในคลับ แต่สำหรับฉัน... โลกทั้งใบกลับเงียบงัน
บทที่ 1
ศรันยา POV:
ฉันรักธนดล "เงา" มหานที มาตั้งแต่อายุสิบห้า เขาคือทายาทของตระกูลมหานที ตระกูลผู้ทรงอิทธิพล ส่วนฉันเป็นลูกสาวของลภัส มโนรมย์ มือขวาที่พ่อของเขาไว้ใจที่สุด ในโลกของเรา เขาคือ ‘ดอน’ ของฉัน คือพรหมลิขิตของฉัน
ฉันเห็นภาพนั้นชัดเจนขึ้นเมื่อตอนอายุสิบหก ในงานกาลาการกุศลของตระกูลมหานที ชิ้นส่วนนั่งร้านก่อสร้างที่ทั้งหนักและอันตรายหลุดลงมาจากด้านบน ธนดลเคลื่อนไหวรวดเร็วดุจสายฟ้า ร่างสูงในชุดสูทราคาแพงเต็มไปด้วยพลังดิบ เขาคว้าแขนฉันกระชากกลับมาอย่างแรง ในจังหวะเดียวกับที่แท่งเหล็กนั้นพุ่งกระแทกลงบนพื้นที่ที่ฉันเคยยืนอยู่
เขาไม่ได้พูดอะไรเลย แค่ก้มลงมองฉันด้วยแววตาสีเข้มที่กำลังประเมิน ก่อนจะโยนเหรียญเงินเหรียญหนึ่งใส่มือที่สั่นเทาของฉัน มันประทับตราสัญลักษณ์ของมหานที เป็นการประกาศความเป็นเจ้าของอย่างเงียบงัน เขาคือผู้พิทักษ์ของฉัน ฉันเก็บเหรียญนั้นไว้กับตัวเสมอ เหมือนเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เชื่อมโยงอนาคตของเราไว้ด้วยกัน
ในวันเกิดครบรอบสิบแปดปี ด้วยฤทธิ์แชมเปญและความกล้าบ้าบิ่น ฉันสารภาพทุกอย่างออกไป ฉันจูบเขา แต่ดูเหมือนเขาจะเบื่อหน่ายมากกว่าสิ่งอื่นใด มีเพียงรอยยิ้มเยาะจางๆ ที่มุมปาก "รอให้เธออายุ 22 แล้วเรียนจบก่อน" เขาพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำที่สั่นสะเทือนไปทั้งร่าง "ถ้าเธอยัง...ภักดีแบบนี้อยู่...ฉันอาจจะพิจารณาเรื่องของเรา"
มันคือคำบัญชาของดอน
ฉันยึดถือคำพูดไม่ใส่ใจของเขาดั่งคำสาบานศักดิ์สิทธิ์ เป็นคำสัญญาเรื่องการแต่งงานที่จะผูกพันสองตระกูลของเราไว้ด้วยกัน ฉันสร้างชีวิตทั้งชีวิตของฉันเพื่อรอวันนั้น ฉันเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยศิลปากรในกรุงเทพฯ เพื่อจะได้อยู่ใกล้ใจกลางอาณาจักรของเขา ตลอดสี่ปี ฉันฝึกฝนฝีมือของตัวเองให้สมบูรณ์แบบที่สุด...และเฝ้ารอ
คืนนี้คือวันเกิดครบรอบ 22 ปีของฉัน วันที่ทุกสิ่งทุกอย่างจะสมบูรณ์ ฉันออกแบบโลโก้ที่สมบูรณ์แบบสำหรับธุรกิจถูกกฎหมายฉากหน้าของเขา เป็นสัญลักษณ์ที่ทันสมัยและโฉบเฉี่ยว ทั้งสวยงามและน่าเกรงขามในเวลาเดียวกัน มันคือจิตวิญญาณของฉันที่ถ่ายทอดลงบนแผ่นกระดาษ เป็นเครื่องพิสูจน์ความภักดีของฉัน ของขวัญที่จะผนึกสายสัมพันธ์ของครอบครัวเรา
แต่ตอนนี้ ขณะที่ยืนอยู่หน้าห้องส่วนตัวของเขา ฉันกลับได้ยินความจริง
"เธอน่ารำคาญว่ะวิทย์" น้ำเสียงของธนดลเต็มไปด้วยความหงุดหงิดเดือดดาล "ความภักดีแบบหัวปักหัวปำของยัยนั่นมันเป็นภาระ"
"แล้วจะเอายังไงต่อครับดอน" วิทย์ ที่ปรึกษาของเขาถาม
"อิซาเบลล่าเป็นคนทะเยอทะยาน เธอจะเล่นตามบทไปก่อน เราจะประกาศหมั้น แล้วก็เรื่องลูก นั่นก็น่าจะพอให้ยัยเด็กมโนรมนั่นกลัวจนหนีไปเอง ยัยนั่น...ใสซื่อเกินไปสำหรับโลกนี้ ทำแบบนี้ก็เพื่อตัวยัยนั่นเอง"
เสียงหัวเราะของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น เป็นเสียงทุ้มที่แฝงความมั่นใจ อิซาเบลล่า โรจนไพศาล คนนอกที่พยายามถีบตัวเองขึ้นมา "ไม่ต้องห่วงค่ะดล เบลจะเล่นให้สมบทบาทที่สุดเลย"
ลมหายใจของฉันติดขัดในลำคอ เจ็บปวดอย่างแสนสาหัส โลโก้...ของขวัญจากใจของฉัน...ถูกลืมเลือนอยู่บนพื้นแทบเท้า เหรียญเงินในกระเป๋าเสื้อกลับเย็นเฉียบราวกับน้ำแข็ง
ฉันหันหลังและเดินจากไป ฉันไม่ได้วิ่ง ทุกย่างก้าวรู้สึกเหมือนไม่ใช่ร่างกายของตัวเอง เหมือนกำลังมองคนอื่นเคลื่อนไหว ฉันผลักประตูหนักๆ ของคลับออกไปสู่สายฝนที่โปรยปรายของกรุงเทพฯ ความเย็นของมันซึมผ่านชุดเดรสของฉันในไม่กี่วินาที แต่ฉันไม่รู้สึกอะไรเลย
โทรศัพท์ในกระเป๋าสั่นขึ้นมา ธนดล... แล้วก็พี่ลภัส พี่ชายของฉัน ฉันกดปิดเสียงแล้วยัดมันลงไปในกระเป๋าให้ลึกที่สุด
เขาไม่ต้องการความภักดีของฉัน เขาต้องการตัดฉันทิ้ง งั้นฉันก็จะทำ ฉันจะตัดสายใยนี้ด้วยตัวเอง