รักคือการให้ยังได้ยินอยู่ทุกยุคสมัยและเป็นคติประจ าใจของ ‘เมฆ’ เสมอมา ตั ้งแต่ได้มาพบกับ ‘ก๊อป’ เด็กหนุ่มผู้มีรูปร่างหน้าตาคล้ายคลึง กับน้องชายผู้จากไป ท าให้เขาอดคิดถึงอีกคนเสียไม่ได้ เมฆจะมีวิธี อย่างไรเมื่อฟ้าลิขิตให้ก๊อปเดินเข้ามาในวันที่เขาสูญเสียน้องชายไปตลอด กาล... ความสัมพันธ์แบบพี่น้องที่เขาวาดไว้กลับแปรเปลี่ยนกลายเป็น ความเกลียดชังแก่อีกฝ่ายเพียงเพราะอารมณ์ชั่ววูบ..." LIPPO
หน้าบ้านหลังใหญ่ตระกูลดัง
“เฮ้ย!! จะทันเปล่าวะเนี่ย แม่ง 7 โมงจะครึ่งละ”
ผมบ่นกับตัวเองขณะที่กำลังถือกระเป๋านักเรียนและแฟ้มเอกสารพะลุงพะลังทั้งยังต้องก้มใส่รองเท้าอย่างทุลักทุเลด้วยความเร่งรีบหน้าประตูบานใหญ่
ขณะเดียวกันนั้น...เสียงลุงคนขับรถก็ดังขึ้นจากทางด้านหลังของผม
"คุณหนูครับ เอ่อ...วันนี้คงเอารถออกไปส่งคุณหนูไม่ได้แล้วครับ" คำพูดของลุงคนขับรถทำให้ผมรีบหันไปถามท่านด้วยความตกใจปนความสงสัย
"ทำไมล่ะลุง แบบนี้ก๊อปจะไปโรงเรียนทันมั๊ยอ่ะครับ?" (ก๊อป คำนี้ย่อมาจาก ก๊อปปี้นะครับ)
"รถติดตั้งแต่หน้าปากซอยจนถึงหน้าบ้านเลยครับคุณหนู"
ลุงคนขับรถประจำบ้านบอกผมด้วยสีหน้าจริงจัง ผมถึงกับยืนเอ๋ออยู่พักหนึ่งก่อนตัดสินใจอะไรบ้างอย่างได้โดยไม่คิดมาก
"งั้นไม่เป็นไรครับลุง ไม่ต้องไปส่งก๊อปก็ได้ เดี๋ยวก๊อปวิ่งไปหาวินเอาข้างหน้าปากซอยเองครับ"
ผมบอกจบก็รีบวิ่งออกจากตัวบ้านไปหน้าประตูก็เล่นเอาหอบแล้วครับ เล่นอยู่ห่างกันเกือบร้อยเมตร (เอ๊ะ!! ไม่ต้องสงสัยหรอกครับว่าทำไมมันอยู่ห่างกันขนาดนั้น เดี๋ยวมาเล่าให้ฟังทีหลังนะครับ เดี๋ยวผมจะไปโรงเรียนไม่ทันครับ)
ทางลุงคนขับรถก็เรียกตามหลังแต่ไม่ทันหรอกครับ เพราะผมวิ่งถึงหน้าบ้านแล้ว ฮ่า ฮ่า ฮ่า (หัวเราะ) ทำไมวันนี้รถมันติดจังวะตั้งแต่หน้าบ้านจนจะถึงปากซอยอยู่แล้วยังไม่ขยับเลย ผมวิ่งไปบ่นไปตลอดทาง บนหลังก็มีกระเป๋านักเรียน มือซ้ายก็ถือแฟ้มเอกสารโครงงาน มือขวาก็ถือถุงรายงานที่ต้องส่งอาจารย์วันนี้ถึง 3 วิชา จะเล่มใหญ่ไปไหนเนี่ย เฮ้อ ผมละเพลีย
ผมวิ่งสปีดจนเลยปากซอยหมู่บ้านมาละแต่ท่าทีที่รถจะเคลื่อนตัวก็ไม่มี จังหวะเดียวกันนั้นเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นเข้าโสตประสาทหูผมแทบอยากจะปล่อยของจากมือขึ้นมาปิดหูทันทีแต่ไม่สามารถที่จะทำได้
บึ้นน...บึ้นน...บึ้นนนน…
"เสียงรถเชี้ยอะไรวะหนวกหูโว้ย!!"
ผมหลุดปากออกไปอย่างดังขณะที่ยืนพักเหนื่อยอยู่ริมฟุตบาทที่มีรถติดยาวเหยียดเป็นกิโลๆ
"ไม่ใช่รถเชี้ยหรอกครับ รถบิ๊กไบค์พี่เอง" ผมต้องหันไปตามเจ้าของเสียงที่กำลังนั่งค่อมบนรถบิ๊กไบค์คันโตนั้นทันที
'กรูจะตายมั๊ยเนี่ย แม่งได้ยินด้วย ปากหนอปาก'
ผมด่าตัวเองในใจอย่างรู้สึกกลัวและอยากตีปากตัวเองหลายๆ ทีแต่ก็ทำไม่ได้เช่นเคย เท่าที่ผมสังเกตรถบิ๊กไบค์กับเจ้าของแม่งโคตรเท่เลยครับ ใส่ชุดหนังสีดำ หมวกกันน็อกสีดำและรถก็ยังสีดำ ดูคลาสสิคลงตัวเป๊ะเลยครับแล้วดันมาจอดข้างๆ ผมด้วย ห่างกันแค่เมตรเดียวว่าแล้วทำไมถึงได้ยินที่ผมพูด ฮ่า ฮ่า ฮ่า (หัวเราะ) แต่ตอนนี้ผมแทบจะหัวเราะไม่ออก ทำตัวไม่ถูก จึงทำเพียงส่งยิ้มหวานแห้งๆ ให้เขาแทน
"อ๋อครับ คือก๊อปตกใจอ่ะครับเลยหลุดปากไป ขอโทษด้วยนะครับพี่" พูดไปยิ้มไปอย่างคนรู้สึกผิด กรูจะไม่เจอตรีนใช่มั๊ย!!? ผมก้มหน้าพูดกับตัวเองอย่างหัวเสีย
"จริงดิ!! ตกใจหรอครับน้องงั้นพี่ขอโทษด้วยละกันครับ"
เมื่อพี่เขาพูดจบก็เปิดกระจกหมวกกันน็อกขึ้น เฮ้ย!! ยังกับดาราเลยครับ จมูกโด่ง ตาสีดำดูมีเสน่ห์ คิ้วเข้มๆ มีหนวดกับเครานิดหน่อย ผิวสีแทนไม่ถึงกับดำแดงนะครับ ปากสวยเป็นกระจับได้รูปสีออกคล้ำนิดๆ โดยรวมแล้วโคตรหล่ออ่ะครับ เฮ้ย!! นี่ผมกำลังบรรยายใบหน้าผู้ชายใช่มั๊ยเนี่ย เหอะๆ ตลกละผมชอบผู้หญิงนะคร้าบแต่ที่บรรยายมาทั้งหมดสรุปสั้นๆ เลยนะครับ ผมหล่อกว่าเยอะจบป้ะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า (หัวเราะ)
"ไม่เป็นไรครับพี่ไม่ต้องขอโทษก๊อปหรอกครับ แฮ่ๆ" คิดว่าจะเจอตรีนแต่เช้าแล้วกรู
"จะรีบไปโรงเรียนหรอครับ?"
พี่เขาถามกลับมาด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มแลดูเป็นมิตรมากๆ ครับ แต่ผมก็อดระแวงไม่ได้กลัวจะเจอเหมือนในข่าวตอนเช้าๆ อ่ะครับที่จะมีพวกรถตู้หรือไม่ก็พวกทำตัวเป็นพวกแมวมองมาหาเด็กหนุ่มไปเป็นดารา นายแบบอะไรแบบนี้น่ะครับ แล้วสรุปก็ล่อลวงไปค้ากามซะงั้น เอ๊ะ!! ผมคิดมากไปหรือเปล่าเนี่ยก่อนจะรีบตอบคำถามพี่เขาไป
"ครับพี่"
"นี่ก็จะแปดโมงแล้วเหลืออีก 20 นาทีจะทันหรอให้พี่ไปส่งดีมั๊ยครับ"
พี่เขายกแขนซ้ายขึ้นดูนาฬิกาข้อมือ โห!! นาฬิกาโคตรเท่เลยว่ะ ผมอยากได้ยี่ห้อนี้มานานละ แต่ปี๊ไม่ยอมซื้อให้สักที (ปี๊ ก็พ่อแหละครับที่บ้านผมเรียก ปี๊ ส่วน มี๊ ก็คือแม่ เข้าใจตรงกันนะครับ)
จะแปดโมงแล้ว!!...พักแปบเดียวเองนะเนี่ย โอ๊ย!! ไปไม่ทันแน่เลยกรูเอ๊ย!! ผมบ่นอุบแต่ทำไมพี่เขามองผมแปลกๆ วะ มีแอบอมยิ้มด้วยหรือจะเป็นอย่างที่ผมคิดวะเนี่ย ตายแน่ๆ เลยกรู ผมกำลังจะก้าวขาเดินต่อไปแต่ถูกพี่เขาชิงยิงคำถามเสียก่อน "ให้พี่ไปส่งนะครับ อยู่โรงเรียนอะไรหรอ?" ผมเลยค่อยๆ ดึงขานั้นกลับมาที่เดิม
เป็นไงเป็นกันวะถามมาก็ตอบไปแล้วกันแต่ผมกลับไม่ทันได้พูดอะไรสักคำ
"อ๋อโรงเรียนนี้เป็นทางผ่านไปที่ทำงานของพี่พอดีเลย ป้ะขึ้นรถ…"
จู่ๆ พี่เขาก็คว้าเอาแฟ้มเอกสารและถุงรายงานไปจากมือผมดื้อๆ อ้าว!! แบบนี้ผมก็งงสิครับ
"พี่ๆ ก๊อปว่าไม่เป็นไรดีกว่าครับ ถึงจะสายก็สายวันเดียวก๊อปไปเองดีกว่าครับรบกวนพี่เปล่าๆ"
ผมปฏิเสธอย่างสุภาพที่สุดทั้งที่ตัวจริงเป็นคนสุภาพมาก ฮ่า ฮ่า ฮ่า (หัวเราะ) ใครจะกล้าไปด้วยวะรู้จักก็ไม่รู้จักจะเอากรูไปข่มขืนแล้วลืมฆ่าหรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่ก็ไม่ทันครับรถเริ่มเคลื่อนตัวแล้วรถพี่เขาขวางทางมอไซด์ข้างหลังอีกเป็นสิบคันและมอเตอร์ไซค์ข้างหน้าก็ออกตัวไปพอดี
ไคด้า ดาริน ลูกสาวพราวเสน่ห์อดีตเจ้าพ่อมาเฟียผู้ยิ่งใหญ่ มีปมชีวิตกับการสูญเสียคนที่รักไปทั้งครอบครัว จากฝีมือคู่อริของพ่อ การแก้แค้นจึงเป็นหนทางเดียวที่จะทำให้เธอได้ทุกสิ่งคืนมา แล้วเธอจะมีวิธีอะไรที่ทำให้ทุกอย่างกลับมาเป็นของเธออีกครั้ง
ชีวิตที่พลิกผันเปลี่ยนเด็กหนุ่มกำพร้าให้มีเจ้าพ่อมาเฟียรับเขาไปอุปการะเลี้ยงดูราวกับน้องชายร่วมสายเลือด ความสัมพันธ์ของทั้งสองแปรเปลี่ยนเป็นคนรักในเวลาต่อมา จึงตัดสินใจที่จะมีลูกน้อยด้วยกัน แต่ใครจะรู้ว่าคนที่เด็กน้อยรักและเทิดทูนที่สุดในชีวิตจะกลายเป็นคนที่ทำลายชีวิตเขาให้พังพินาศที่สุดด้วยเช่นกัน การตัดสินใจที่จะหนีออกมาจากคฤหาสน์สุดหรู เพราะเขาไม่สามารถทนกับความรุนแรงและความเจ้าชู้ได้ ในที่สุดเด็กหนุ่มกลับได้พบรักกับนายแบบนู้ดชื่อดังอย่างไม่ตั้งใจ… เรื่องราวต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร ชีวิตของเขาจะพลิกผันอีกหรือไม่ไปติดตามพร้อมๆกันค่ะ
ดาราชื่อดังอย่างทิชาพบรักกับจันทร์ จันทร์หอมที่เป็นพ่อค้าขายผักในตลาด คนทั้งสองต้องร่วมกันฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ โดยมีแม่ของทิชาเป็นต้นเหตุที่คอยกีดกันความรักของเขาทั้งสองคนตลอดเวลา จนกระทั่งแม่ทิชานำตัวเองเป็นข้อต่อรองเพื่อที่จะให้ทิชาได้แต่งงานกับหลานชายของตน ซึ่งเป็นการกีดกันไม่ให้ทิชาได้สมหวังในความรักกับคนธรรมดาอย่างจันทร์ ความรักของคนทั้งสองจะเป็นอย่างไรและไปในทิศทางไหน มาติดตามกับความรักของคนทั้งคู่ไปพร้อมๆ กันค่ะ
'วายุ' หรือ 'วา' นายแบบหนุ่มหน้าหวาน ผู้มีรูปร่างสวยสง่า ปานอิสตรีผู้เลอโฉม มีชีวิตเฉิดฉายบนเส้นทางสายบันเทิงและแคทวอล์ค... เขา 'ณธีร์' หรือ 'ธีร์' ข้าราชการหนุ่มผู้มีอนาคตไกล ที่เปี่ยมไปด้วยความสุขุม นายแบบเนื้อหอมอย่างวา กำลังตามหาชายหนุ่มอย่างเขามาแสนนาน ….หนุ่มหน้าหวานที่ร้อนรุ่มดังสายลมร้อนเฉกเช่นวายุไฟอันระอุ แรงปรารถนาของเขาจะเป็นจริงหรือไม่... ติดตามได้แล้วที่นี่ค่ะ!!
องค์รัชทายาทตกอับถูกท่านน้าขับไล่ออกจากพระราชวังเพื่อหวังตั้งตนเป็นใหญ่ กระทั่งรัชทายาทหนุ่มต้องเร่ร่อนมาเป็นพ่อบ้านของมหาเศรษฐีคนหนึ่ง แต่แล้วเขาก็ถูกกลั่นแกล้งจนต้องลาออกจากงานที่นั่นไปทำงานเป็นพ่อบ้านที่บ้านของคุณชายทายาทของตระกูลใหญ่และเกิดเรื่องวุ่นวายมากมาย ในที่สุดท่านน้าเกิดสิ้นพระชนม์จึงมีคำสั่งให้องค์รัชทายาทกลับไปดำรงตำแหน่งรัชทายาทผู้ครองพระราชวังตามพินัยกรรมของพระมารดาโดยทันที LIPPO
เธอก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่เคยสนใจ แต่ก็ยังดึงดันอยากจะอยู่ใกล้ ต่อให้เธอเป็นเมียแต่งเขาก็คงไม่มีวันเปลี่ยนใจ เพราะเหตุนี้เธอจึงตัดสินใจจากไปในคืนแต่งงาน "จากนี้ไปเราไม่มีอะไรติดค้างกันอีก" 🥀
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"
ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"