เมื่อผู้ดีตีนแดง ตะแคงตีนเดิน ไฮโซปากตลาดฉายา ‘อีปริม’ ทายาทคนเดียวของเจ้าแม่ปลากระป๋อง ต้องมาเจอกับเลขาฯ บอร์ดี้การ์ด 'อลัน แบรดฟอร์ด' หนุ่มลูกครึ่งไทย-บราซิล สัญชาติอเมริกัน ระดับความฮ็อตหลุดโลก ดีกรีความดิบเถื่อนสูงปรี้ดติดเพดาน! สำคัญสุดคือเขาดันตกหลุมรักคุณหนูเอาแต่ใจ ยอมตกเป็นทาสรักในเรือนเบี้ย เธอจะทำอย่างไรต่อไป... อลันถึงจะขี้หงุดหงิด ยังเป็นคนคิดเร็วทำเร็วอยู่สักหน่อย เขาคงไม่ปล่อยให้เธอต้องหนาวตายซะก่อน มือหนาสากลากชุดกระโปรงนอนออกจากเรือนกายแน่งน้อยออกอย่างระวัง เนื้อตัวของเธอส่งกลิ่นหอมอ่อนราวดอกไม้แรกแย้มบาน ก็คงจะใช่... นี่มันเด็กสาว! ยัยเด็กบ้านี่อายุห่างจากเขาตั้งสิบปี ------------------------ “ต้องให้ฉันเช็ดหนอนน้อยให้ด้วยไหมคะ? คุณอลัน...” “เช็ดไหมล่ะ?” แกล้งถามไปอย่างนั้น ยังไม่เคยมีผู้หญิงบนเตียงคนไหนเรียกน้องชายของเขาว่าหนอนน้อย! เห็นจะมียัยปริมคนแรก “บ้า... จะเช็ดได้ไง? ทะลึ่งจัง” “หน้าตาคุณทะลึ่งกว่าผมอีก อย่าบอกนะว่าไม่รู้ตัวเลย?” เขาว่าขณะที่ยังนอนเฉย ๆ รอรับบริการของหญิงสาวที่คงไม่มีใครคิดว่าเธอจะอายเป็น! ดวงตาสุกใสประกายวิบวับ ยิ้มกรุ้มกริ่มมองผลงานชิ้นโบว์แดงของตัวเอง หลังถอดเสื้อผูกข้างอยู่หลายนาน จากกิริยาตาลุกวาวมองเรือนกายแน่นขนัดไปด้วยมัดกล้ามเหมือนจะกัดกินกันเข้าไป หน้าแดงซ่านอ่อน ๆ มือยังลูบเช็ดไป ลูบขึ้นลูบลงวนไปมาอยู่บนหน้าอกจนเขาสะดุ้ง คว้าหมับเข้าข้อมือเรียวเพราะมันโดนหัวนมเข้าอย่างจัง! “พอก่อน... ผมว่า... ทำเอง... ดีกว่า”
พ่ายรักนายเลขาฯเถื่อน
Chapter 1
ร่างสูงสง่าในเชิ้ตสีดำสนิทกางเกงสแล็คเข้ารูปหยุดก้าวลงข้าง ๆ บีเอ็มดับเบิลยูซีรี่ส์ 3 หรูหราสมราคารถยนต์ที่เป็นทรัพย์สินส่วนตัวของเขาเอง เพราะไม่ได้นำรถเจ้านายมาในวันนี้
อลันไม่ได้ทำหน้าที่เป็นแค่เลขาฯ ยังเป็นผู้อารักขาที่ดีตามแบบฉบับของพ่อ
ตระกูล ‘แบรดฟอร์ด’ ตั้งแต่รุ่นทวดทุกคนมีการศึกษาอย่างน้อยระดับปริญญา ได้รับการฝึกฝนวิชาป้องกันตัวทุกขนาน ไม่น้อยหน้าไปกว่าบอร์ดี้การ์ดชั้นแนวหน้า ดาราคนดังเซเลบระดับโลก หรือแม้แต่ประธานาธิบดียินดีที่จะจ่ายเงินเดือนสูงลิบ สำหรับการมีเลขาฯ ดี ๆ ไว้ข้างกาย
แม้ว่าพวกเขาจะสิ้นชื่อสิ้นเนื้อประดาตัวไปนานแล้ว หลังผู้นำครอบครัวอย่างนิคาซิโอ้ (Nicasio) เสียชีวิตในหน้าที่อย่างสมเกียรติ มรดกมากมายกว่าล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตามพินัยกรรมตกเป็นของลูกชายเพียงคนเดียว
ทรัพย์สินของพ่อเรียกได้ว่ามากพอจะทำให้อลันใช้ชีวิตอย่างสุขสบายไปตลอดชาติ เขากลับไม่ได้แตะต้องเงินส่วนนั้นเลย
ด้วยนิสัยความตระหนี่ถี่เหนียว ใช้เงินอย่างระมัดระวังหากต้องไปเที่ยวสังสรรค์นาน ๆ ครั้ง แบ่งสันปันส่วนการใช้จ่ายเงินอย่างสมเหตุสมผล ประสาคนซึ่งเรียนรู้คำว่า ‘เลขานุการ’ มาตั้งแต่เป็นเด็กหัดเดินกระเตาะกระแตะ เขายังเป็นคนจู้จี้จุกจิกอยู่สักหน่อย
เป็นธรรมดาของทุกคนที่ใช้นามสกุล ‘Bradford’ พ่วงชื่อกลางด้วยคือ ‘Eduardo’ ความเรื่องมากของเขาเริ่มต้นที่บราซิล อลันเกิดที่นั่นแต่ด้วยสังคมไม่ค่อยจะดีนักในความคิดเห็นของพ่อ พ่อของเขาซึ่งถือสัญชาติอเมริกันจึงทำให้เขาเป็นพลเมืองสหรัฐฯ โดยสมบูรณ์แบบ
สักประมาณสิบขวบได้ อลันเคยถามพ่อว่า ทำไมพ่อถึงเป็นคนอเมริกัน? ในเมื่อพวกเขาอยู่บราซิลกันหมดแม้กระทั่งแม่ที่เป็นคนภูเก็ต เขาควรถือสัญชาติไทยด้วยซ้ำ ก่อนจะได้คำตอบว่าพ่อไปเกิดที่สหรัฐฯ โดยบังเอิญ
สหรัฐอเมริกาและแคนาดา เป็นเพียงสองประเทศที่มีกฎหมายเปิดทางให้ถือสัญชาติตามสถานที่เกิด โดยไม่คำนึงถึงสัญชาติของพ่อแม่ หมายความว่าเด็กที่เกิดที่นั่นจะได้สัญชาติอเมริกัน ต่อให้พวกเขาจะเป็นนักท่องเที่ยวก็ตาม
อลันจึงเติบโตและใช้ชีวิตในสหรัฐฯ ตลอดจนมาอาศัยอยู่ในเมืองไทยถึงสิบปี พูด-อ่านภาษาไทยชัดแจ๋วเท่าเจ้าของภาษา ทำงานให้สถาปนิกหนุ่ม นักธุรกิจคนดัง ในฐานะเลขานุการที่ไม่ต่างไปจากทาสในเรือนเบี้ย...
บางครั้งก็ไม่แน่ใจนักว่าเมืองไทยได้เลิกทาสไปนานหรือยัง...
เลขาฯ บอร์ดี้การ์ดอย่างเขาทำงานวันละไม่ต่ำกว่าสิบสองถึงสิบห้าชั่วโมง ขยันตัวเป็นเกลียวหัวเป็นน็อต! ช่วยงานหลักงานเอกสาร ส่งตารางประชุมของบอสแล้วเขายังดูแลเด็กในความดูแลให้เสียด้วย
คิ้วเข้มหนาที่เรียบขนานไปกับดวงตาคู่คมสีฟ้าครามขมวดมุ่น ชะเง้อคอหาเมียเจ้านายที่ไม่กลับมาสักที ก่อนจะก้มหน้าลงมองกระจกด้านข้างตัวรถ หรี่ตามองหยดน้ำที่เกาะอยู่เป็นหยดหย่อม
เขาไม่ชอบความสกปรก...
เขาไม่ชอบอะไรที่ไม่เรียบร้อย อะไรที่มันไม่เป็นที่เป็นทางเหมือนตัวเขา ก็จะพาลหงุดหงิดไม่ชอบมันไปเสียทุกอย่าง
เจ้าของวงหน้าคร้ามคมโน้มตัวลงเอามือไพล่หลังเพ่งพิจารณามันให้ชัด เสื้อเชิ้ตสีดำหลุดลุ่ยออกมาจากกางเกงถูกจัดแจงให้เข้าที่เข้าทางให้อยู่ในสภาพเรียบร้อยในชั่วโมงทำงาน
มือหนาหยิบกระดาษทิชชูเปียกจากกระเป๋าด้านในเสื้อสูท เช็ดกระจกไปมา พยายามที่จะจัดการกับเรื่องเล็กน้อย ด้วยการเสียสละผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าเสื้อมาเช็ดอีกรอบ จนกลายเป็นคนที่ทำอะไรโง่ ๆ
พองานตรงหน้าเรียบร้อยดี จึงทอดสายตามองไปทางโล่งกว้างในวัดอีกครั้งหนึ่ง รอยยิ้มแสนหวานบนใบหน้างามหมดจดพาวงหน้าหล่อเหลาปรากฏรอยยิ้มบาง ๆ
‘น้องพุทราคนสวย’ นั่นคือชื่อในอัลบั้มรูปถ่ายในโทรศัพท์มือถือ และยังคงอยู่ในหน้าแรกของจอโทรศัพท์
วันนี้เป็นวันครบรอบวันเสียชีวิตแม่ของปรายลดา เขาได้รับหน้าที่เป็นสารถี เพื่อที่จะคอยดูแลเธอใกล้ ๆ เนื่องมาจากว่าสถานการณ์ทางบ้านเจ้านายไม่ค่อยจะดีนัก
ร่างสูงพิงแผ่นหลังไว้กับประตูรถยนต์สีดำสนิท ขณะยืนรอหญิงสาวที่เดินหายไปทางหลังวัดได้สักพัก ถึงเขาจะได้รับคำสั่งว่าไม่ให้คลาดสายตาจากเธอ เขาก็มีมารยาทในสังคมขั้นพื้นฐาน สำหรับเวลาทำความเคารพศพของผู้ล่วงลับ
คนอะไรไม่รู้... ยิ่งโต ยิ่งสวย ไม่น่ารีบมีแฟนเลย
อลันจำได้ว่าเคยพูดประโยคนั้นกับเจ้านายขี้หวงครั้งหนึ่ง ก่อนจะโดนลูกถีบมหากาฬ ต้องไปนอนลอยคอกลางเกาะสวรรค์ ประเทศฟิลิปปินส์ ทว่าตอนนี้เขาก็ยังไม่ได้เปลี่ยนความคิดว่าเธอสวย...
ใบหน้าหล่อเหลาคมคายระรื้น ก่อนที่เขาจะกลับขึ้นรถยนต์ สตาร์ทรถรอเจ้าตัว พอเม็ดฝนโปรยปรายลงมาเป็นหยดหย่อม เขาถึงได้เห็นว่าร่างบางในชุดนักศึกษาก้าวฉับ ๆ กลับขึ้นรถอย่างรวดเร็ว
“ฝนตกทำไมไม่เรียกผมล่ะครับ?”
“ไม่ได้ตกหนักค่ะ คุณอลัน แค่ปรอย ๆ รถอยู่ใกล้แค่นี้เอง” เหตุผลของเธอพอฟังขึ้นอยู่ หากไม่ใช่เป็นเพราะเจ้านายกำชับเรื่องบางอย่างไว้ อลันหน้าเครียดเข้มบอก
“แต่คราวหน้าต้องโทรเรียกผมนะ ผมจะเดินไปรับ พุดท้องลูกเจ้านายผมอยู่ เกิดเป็นลมเป็นแล้ง เดินสะดุดอะไรขึ้นมา ผมจะลำบากทีหลัง”
“ถ้าพุดเป็นอะไร เรียกคุณอลันไปนานละ ห่วงตัวเองเถอะค่ะ ทำตัวติดพุดมาก ระวังให้ดี” ว่าแล้วก็ดึงเข็มขัดนิรภัยรัดรวบตัวไว้เรียบร้อย ชายหนุ่มออกรถ เหยียบคันเร่งไปเบา ๆ ไม่เร็วไม่ช้ามากนัก
ขณะที่ใบหน้าสดสวยเง้างอนทำให้เขาเผลอลอบยิ้ม พอเธอสะบัดหน้าใส่เขาก็ทำเคร่งขรึมเช่นเดิม
ไม่แปลกที่หัวใจของหนุ่มวัยสามสิบปีจะสั่นไหวอยู่เล็กน้อย ทว่าตัวเขาเองคงต้องอกหักไปตามระเบียบ
เพราะเมื่อไม่นานมานี้ปรเมษฐ์เพิ่งลงเอยความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยากับลูกเลี้ยงของพี่ชาย ที่รับอุปการะมาตั้งแต่ตัวเล็ก ๆ และถ้าหากว่าไม่มีเรื่องจำเป็นจริง ๆ ผู้ชายขี้หวงคงไม่ทิ้งสาวน้อยคนสวยไว้ในความดูแลของเขา ระหว่างไปสะสางงานในต่างประเทศให้เสร็จแน่
ความไว้ใจก็เป็นส่วนหนึ่ง ด้วยความที่ทำงานให้บอสมาร่วมสิบปี ตัวเขาไม่ต่างไปจากน้องชายหรือเพื่อนสนิท
การเดินทางจากวัดไปถึงบ้านใช้เวลาไม่นาน เครื่องปรับอากาศเย็นฉ่ำทำให้หญิงสาวผล็อยหลับไป แต่ยังคงอยู่ในอาการครึ่งหลับครึ่งตื่น ด้วยเสียงดังกระหน่ำของสายฝนสาดเทลงมาดังพายุ
บีเอ็มดับบลิวสีดำจอดสนิทดีหน้าบ้านหลังใหญ่โตที่เขาต้องมาส่งคือบ้านของแม่เจ้านาย เนื่องจากว่าเจ้าตัวอยู่ต่างประเทศในตอนนี้และคงไม่อยากให้คนท้องไส้อยู่คนเดียว เขาเห็นว่าเธอตื่นดีแล้วจึงบอก
“พุดอยู่บ้านแม่อนงค์จนกว่าบอสจะกลับนะครับ บอสกำชับไว้ว่าให้ผมไปรับ ไปส่งตลอด พรุ่งนี้ผมจะมารับแต่เช้า ต้องไปทำธุระที่มอใช่ไหม?”
หญิงสาวรู้สึกเกรงใจเขา ด้วยความที่เธอยังมีเรื่องส่วนตัวต้องจัดการหลายอย่าง กลอกตาไปมา “อืม... พุดว่าจะหยุดนอนอยู่บ้านนะ เวียนหัว รู้สึกไม่ค่อยสบายเลย”
“งั้นคุณพุดโทรหาผมอีกทีครับ... ถ้าจะไปไหน” อลันคลี่ยิ้มกว้างอย่างรู้ใจอีกฝ่ายดี ถ้าเธอคิดจะไปไหนตามลำพัง ไม่มีทางรอดพ้นสายตาเขาไปได้
เป็นเรื่องที่อีกคนรู้ว่าเธอคงจะปลีกตัวได้ยาก โทรศัพท์ในกระเป๋าที่สั่นดังได้อย่างตรงเวลา หญิงสาวหยิบมันออกมากดสองสามที ชูขึ้นให้อีกคนดู
“ปริมไลน์มาพอดี... สงสัยว่าจะมานอนเป็นเพื่อนพุด กลับบ้านนั้นละกันค่ะ”
นัชชาหรือปริมเป็นเพื่อนสนิทของปรายลดามาตั้งแต่ชั้นอนุบาล เลขาฯ คนสนิทอย่างเขารู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี แม้ว่าจะไม่ได้เจอหน้าหล่อนมานานมาก ๆ แล้ว ในสีหน้าเคร่งขรึมของลูกครึ่งหนุ่มเปลี่ยนไปเป็นนิ่งเฉย
“ครับ ตามใจ”
อลันไหวไหล่ แล้วเหยียบคันเร่งอีกครั้ง เพื่อไปส่งหญิงสาวที่บ้าน
วันละสามเวลามากกว่าอาหาร เห็นจะเป็น สุรา สุรา สุรา... ท่านอามัวแต่ร่ำสุรา เมื่อใดจะร่ำนารีบ้างเล่า -------------------- “ทำไมเจ้าไม่ลองปรนนิบัติข้าด้วยวิธีอื่น ไม่ดีกว่าหรือ? เจียลี่ งานดูแลความสะอาดให้บ่าวรับใช้ทำไป” “ท่านอาจะให้ข้าทำอะไร?” คำถามเต็มใบหน้าของนาง หวังเฟยถอนหายใจหนัก “เอาเถอะ เจ้ายังเป็นเด็กสาว คงจะไม่รู้เรื่องรู้ราว ให้เจ้าไปว่าจ้างโสเภณีในเมืองมาบำรุงบำเรอข้าดีกว่า” เจียลี่เบิกตากว้างตกใจ นางละล่ำละลักพูด “ไม่ ๆ ท่านอา ข้าไม่ได้หมายความเช่นนั้น ข้าพอรู้เรื่องราวระหว่างชายหญิง ข้าเคยอ่านตำรากามาด้วย ข้าเพียงเห็นว่าไม่เหมาะ หญิงขาไม่ดีอย่างข้า ไม่คู่ควรกับผู้ดีอย่างท่าน” “อย่างไรถึงจะเหมาะ?” “อย่างไรก็ไม่เหมาะ” ในน้ำเสียงที่แผ่วเบาลงนั้นไม่ได้กระด้างกระเดื่องต่อท่านอา เขาอาจโกรธนางและไล่ตะเพิดนางได้ หลังจากที่เหล้าเข้าปากแล้วเขาจะกลายเป็นคนละคนทีเดียว นางรีบแก้ต่าง “ท่านอาหวังเปรียบดังเทวดาของเจียลี่ผู้แสนต่ำต้อย ข้ามิบังอาจ” “เทวดาบ้าบออะไรของเจ้า เลิกพร่ำเพ้อพรรณนาเรื่องบุญคุณนี่เสียที ท่านอาขี้เมาของเจ้าน่ะ...” ร่างสูงโน้มลงหานาง กระซิบข้างหูทีละคำ “อสุรกายจากขุมนรกทีเดียว” กว่าจะเจียลี่จะเข้าใจท่านอาผู้ไม่ได้ดูแคลนนางเหมือนกับที่ผู้อื่นรังเกียจนาง หัวใจดวงน้อยเต้นเร็วแรง น้ำเสียงสะเทือนอารมณ์ของเขา ยากที่นางจะต้านทาน “ข้าชอบกลิ่นเด็กสาวตัวหอม ๆ อย่างเจ้าซะด้วย”
ธิดาปักษาได้รับความช่วยเหลือจากราชาจิ้งจอกผู้โหดเหี้ยมทารุณ ไยนางกล้าหลอกลวงว่านางเป็นเพียงปักษาธรรมดา...
เพื่อรักษาเกียรติท่านอาจารย์ ไป๋เหม่ยหลานยอมรับโทษทัณฑ์ของสำนักเซียวเหยา ถูกทรมานจนตาย ภพชาติใหม่นี้นางขอเป็นเพียงมนุษย์เดินดิน มิขอเกี่ยวข้องกับท่านอาจารย์อีก ไยท่านจึงกลับมาพัวพันวาสนาชะตาชีวิตนาง...
‘มิตรรักลวงใจ’ เรื่องราวของเพื่อนสนิท คิดคดกับเธอมานานแล้ว ดันมาโพล๊ะเข้าได้ในวันเมามายไร้สติ ได้ลองกินเพื่อนสักคำหนึ่งแล้วก็ต้องมีคำที่สองคำที่สาม คำเดียวจะอิ่มพอได้ไง ----------------------- ‘เรือนใจนายอคิน’ เมื่อหนุ่มนักเฝ้าหนังสือ มาเฝ้ามองหาความรักจากครูสาวทุกวัน หลายคนคงเห็นเขาเอาแต่มองคุณครูสาวมาเป็นปี ๆ ได้ขับรถผ่านไปดูประตูรั้วโรงเรียนหน่อยก็ยังดี...
‘แม่แก้ว’ ลูกสาวเศรษฐีโรงฝิ่นมีความจำเป็นต้องแต่งงานกับ ‘คุณหลวงจัน’ เพื่อรักษาหน้าตาวงศ์ตระกูลและชื่อเสียงของหล่อน ทว่าหลังแต่งงานไปกลับต้องพบกับเรื่องแปลกประหลาด ความลับบางอย่างของคุณหลวงและคุณพระบ้านนี้ ซีรีส์สาปอสุรา มนตร์ตาละวัน มนตร์ตาละวัน ภพคุณหลวง (ภาคพิเศษ) พันวาเสน่หา
Arachné Tailors ‘เพราะบุคลิกภาพที่ดีเริ่มต้นจากเสื้อผ้า’ เป้าหมายสายตาเสื้อผ้าหน้าผมโดนใจ เข้าสโลแกนหน้าร้านบนป้ายตัวเบ้อเริ่ม หลายคนยังได้ยิน ‘ตรึงใจ’ ถูกหัวหน้างานเรียก ตามด้วยเจ้านายหนุ่ม ภายใต้รูปลักษณ์หล่อเหลา เอาการเอางาน ไม่มีใครรู้ว่าเจ้าของห้องเสื้อสูทชื่อดัง แท้จริงแล้วคือปีศาจแมงมุม! ผู้มาพร้อมสัญญาแห่งความปรารถนา ซึ่งเธอจะต้องเสียสละวิญญาณเข้าแลก และกฎแรงดึงดูดเที่ยงตรงเสมอ... “อ่านก่อนเซ็นนะครับ คุณดาว...” “ด้วยความหวังดี...” คำเตือนถึงสองครั้งสองครา! หญิงสาวก็ยังพลาด จนเกิดแต่เรื่องประหลาด ๆ ยิ่งสัมผัสจากเจ้านายหนุ่มช่างแตกต่างจากใคร เขาแสนอ่อนโยนกับเธอที่เผลอใจเต้นตึกตัก แต่นั่น... ก็จนกระทั่งเรียวปากหนาหยักได้รูปอ้ากว้าง คายเจ้าแมงมุมตัวสีดำออกมา... ให้ตายเหอะ นี่มันยิ่งกว่าหนังสยองขวัญ! อีกหนึ่งผลงานโรมานซ์ทริลเลอร์ แฟนตาซี 18+ ของพันพราย ซีรีส์สาปอสุรา มนตร์ตาละวัน มนตร์ตาละวัน - ภพคุณหลวง - (พีเรียด) พันวาเสน่หา
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
เพิ่งหย่ากับอดีตสามีไปไม่นานแต่ปรากฏว่าตัวเองท้อง จะทำอย่างไรดี? หรือจะให้อดีตสามีรับผิดชอบ แต่ก็ไม่คิดว่าอดีตสามีมีคนรักใหม่ไปแล้ว ชีวิตของถังชีชีนั้นช่างสับสน ช่างน่าวิตกกังวลและไม่รู้จะอธิบายยังไงดี เธอต้องคอยระวังไม่ให้คุณเฟิงรู้เรื่องการตั้งครรภ์จนกระทั่งคลอดลูกออกมาอย่างปลอดภัย แต่ไม่คิดว่าจะถูกเขาบังคับถึงเพียงนี้ "เราหย่ากันแค่สี่เดือน แต่เธอกลับตั้งครรภ์ได้เจ็ดเดือนแล้ว บอกมาดี ๆ ว่า ลูกเป็นของใคร!"
‘ทริปฮันนิมูนที่ไม่ได้มีแค่เรา แต่ฉันและเขายังมีผู้ร่วม ทริปเข้ามาสร้างสีสันอีกมากมาย’ หลังแต่งงาน ตฤณก็พาภรรยาสาววัยละอ่อนอย่างยี่หวาไปฮันนิมูนเหมือนคู่สามีภรรยาคู่อื่น ๆ แต่การเดินทางไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์กับสามีผู้เป็นนักธุรกิจในครั้งนี้ กลับทำให้ยี่หวาได้รู้ว่าตฤณสามีของเธอมีรสนิยมทางเพศแบบไหน และที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นคือ เขาทำให้เธอได้รู้จักตัวตนของตัวเองอย่างที่เธอไม่คิดว่าจะได้รู้จักด้วยซ้ำ ตฤณจะพายี่หวาไปฮันนิมูนที่ไหน อย่างไร และกับใคร ติดตามอ่านได้ใน “ฉ่ำรักเมียนักธุรกิจ” แนะนำตัวละคร ยี่หวา : สาวสวยวัย 24 ปี ผู้มีผิวขาว และรูปร่างอวบอัด แต่น่าทะนุถนอม นิสัยอ่อนหวาน ว่าง่าย แต่เป็นคนอยากรู้อยากลอง ยี่หวาเพิ่งจะรู้ว่าสิ่งที่ตฤณทำกับเธอในห้องหอนั้นมันก็แค่น้ำจิ้ม เพราะเมื่อเดินทางไปฮันนิมูนกับตฤณจริง ๆ เธอกลับได้เรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ จนเธอติดอกติดใจอย่างยากจะถอนตัว สำหรับยี่หวาแล้ว 'คืนเข้าหอที่เคยคิดว่าเด็ด ยังไม่เผ็ดเท่าทริปฮันนิมูนที่สามีหนุ่มจัดให้' ตฤณ : นักธุรกิจหนุ่มวัย 34 ปีหนุ่มลูกเสี้ยว บ้างาน แต่เวลาคลายเครียดก็สนุกสุดเหวี่ยง โดยเฉพาะเรื่องเซ็กส์ ตฤณหมั้นหมายกับยี่หวาตามความเห็นชอบของผู้ใหญ่เพราะถูกใจในความน่ารัก แต่ยิ่งไปกว่านั้นคือเพราะยี่หวาเป็นเด็กดี และไม่เคยดื้อกับเขาเลยสักครั้ง ว่านอนสอนง่ายแบบนี้สิ ถึงจะใช้ชีวิตคู่ไปด้วยกันตลอดรอดฝั่ง
ตลอดระยะเวลาสามปีที่หยุยเอินแต่งงานกับฝู้ถิงหย่วน เธอพยายามทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุด เธอคิดว่าความอ่อนโยนของตนจะสามารถละลายใจที่เย็นชาของฝู้ถิงหย่วนได้ แต่ต่อมาเธอก็รู้ตัวว่าไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ผู้ชายคนนี้ก็ไม่มีวันจะตกหลุมรักเธอได้ ด้วยความสิ้นหวังของเธอ สุดท้ายเธอตัดสินใจที่จะยุติการแต่งงานครั้งนี้ ในสายตาของฝู้ถิงหย่วน หยุยเอิน ภรรยาของเขาเป็นผู้หญิงที่โง่ ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่าภรรยาของเขาจะกล้าโยนใบหย่าใส่เขาต่อหน้าคนมากมายในงานเลี้ยงวันครบรอบฝู้ซื่อ กรุ๊ป หลังจากหย่าร้าง ทุกคนต่างคิดว่าพวกเขาจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป แต่เรื่องราวระหว่างทั้งสองคงไม่ได้จบลงอย่างง่าย ๆ แบบนี้ หยุยเอินได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และคนที่เป็นผู้มอบถ้วยรางวัลให้กับเธอก็คือฝู้ถิงหย่วน หยุยเอินคิดไม่ถึงว่าผู้ชายที่สูงส่งและแสนเย็นชาคนนี้จะลดตัวลงอ้อนวอนเธอต่อหน้าผู้ชมทั้งหมด"หยุยเอิน ก่อนหน้านี้คือผมผิดเอง ขอโอกาสให้ผมอีกครั้งได้ไหม"หยุยเอินยิ้มด้วยความมั่นใจ"ขอโทษนะคุณฝู้ ตอนนี้ฉันสนใจแต่เรื่องงาน"ชายหนุ่มคว้ามือเธอไว้ ดวยตานั้นเต็มไปด้วยความผิดหวัง หยุยเอินสบัดมือเขาและเดินจากไปโดยปราศจากความลังเลใด ๆ
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"
คุณท่านเสียว คุณชายยอดเยี่ยมที่โด่งดังในเมือง B ได้แต่งงาน แต่มีข่าวลือว่าเจ้าสาวมีรูปร่างหน้าตาที่น่าเกลียดและมีฐานะต่ำต้อย สามปีมานี้ เขาปฏิบัติกับเธออย่างเย็นชาและทำเหมือนเป็นคนแปลกหน้า เจียงซิงซิงอดทนกับความเย็นชาอย่างเงียบ ๆ เธอยังคงรักเขาอย่างสุดหัวใจ เสียสละความนับถือตนเองและยอมละทิ้งตัวตนของเธอเอง จนกระทั่งวันหนึ่ง สุดที่รักของเขากลับประเทศ เขได้สารภาพว่าเขาแต่งงานกับเธอเพียงเพื่อช่วยชีวิตคนรักในใจของเขาเท่านั้น เจียงซิงซิงเสียใจและผิดหวังมาก เธอจึงเซ็นเอกสารหย่าและจากไปด้วยความเศร้าใจ สามปีต่อมา เจียงซิงซิงผู้สวยงามจนน่าทึ่งกลับมาอีกครั้ง ได้กลายมาเป็นศัลยแพทย์ที่ดีที่สุดและเป็นยอดฝีมือด้านเปียโน อดีตสามีรู้สึกเสียใจ และกอดเธอแน่นท่ามกลางสายฝน เสียงของเขาสั่นเครือ "ที่รัก คุณเป็นของผม..."