เมื่อความรักไม่แบ่งชนชั้นวรรณะ อายุก็เช่นกัน เขาที่อายุมากกว่าเธอขนาดจะเป็นพ่อเธอได้ตกหลุมรักสาวน้อยรุ่นลูกเข้าอย่างจัง รักครั้งนี้จึงมีทั้งเสียงหัวเราะและเสียงครางกระเส่าในทุกค่ำคืนอันเร่าร้อน ******** พ่อเพื่อนบำเรอรัก เดโชกระตุกเท้าขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อรู้สึกว่ากำลังเหยียบผ้าชิ้นเล็กๆ พอก้มมองก็พบว่าเป็นกางเกงชั้นในสีชมพูลายคิตตี้ เขาเกี่ยวมันขึ้นมาด้วยปลายนิ้วก่อนจะมองไปรอบๆ ห้องนอนของตนอย่างสำรวจ แต่เมื่อไม่เห็นใคร จึงชูกางเกงชั้นในนั้นขึ้นสูง “คุณพ่อจะทำอะไรคะ” เดโชหันขวับพอเห็นมายาวดีก็รีบซ่อนกางเกงชั้นในไว้ข้างหลัง “เปล่า” เดโชปฏิเสธ “ก็เห็นๆ อยู่ว่าคุณพ่อกำลังจะดมกางเกงในหยา” เพราะเธอกำลังเห็นด้านมืดของเขา ความกลัวจึงทำให้พลั้งปากออกไปกล่าวหาว่าเขาเป็นโรคจิต “นี่กางเกงในของเธอเองรึ” นายหัวหนุ่มเลิกคิ้ว พร้อมกับคีบซับในตัวน้อยขึ้นสูงระดับสายตา “ใช่ค่ะ ของหยาเอง” “แล้วทำไมมาอยู่ในห้องฉันได้ล่ะ” “ก็...” มายาวดีไม่รู้จะบอกยังไง เพราะความจริงมันเกิดขึ้นจากความไม่ตั้งใจ แต่พอลองเปิดดูแล้วเธอกลับมีอารมณ์จึงลองช่วยตัวเองเป็นครั้งแรก แน่นอนมันตื่นเต้นมากๆ “ถ้าตอบไม่ได้ งั้นพ่อยึด” ******* พ่อเลี้ยงบำเรอกาม ‘พ่อ’ แสงดาวเรียกเขาด้วยคำๆ นี้มาหลายปี แต่ความรู้สึกที่มีต่อเขาหาได้ให้ความเคารพ มันเต็มไปด้วยความรักที่ซ่อนเร้นอยู่ในอก กระทั่งเธอโตเป็นสาววัย 18 ปี แสงดาวก็อยากทำตามใจตัวเองบ้าง นั่นคือยั่วตัณหาพ่อเลี้ยงหนุ่มจนทั้งคู่ได้เสียกัน และซ้ำร้ายมารดาของเธอต้องมารู้เห็นและเสียใจจนตัวตาย บาปที่เธอทำไว้สร้างความทุกข์ระทมหัวใจยิ่งนัก ทว่า...ก่อนลมหายใจเฮือกสุดท้าย มารดาผู้เป็นที่รักได้ฝากเธอไว้กับพ่อเลี้ยงรูปงาม มันคือตราบาปที่เธอจะต้องตัดสินใจเด็ดขาดว่าจะหยุดเพื่อจบทุกอย่าง หรือจะเดินหน้าเพื่อรักษาสิ่งที่เป็นของมารดาเอาไว้ให้ได้ งานนี้ผีดาวยั่วก็ต้องเข้าสิงตัวเธอ เพื่อครอบครัวร่างกายและหัวใจของเขา “อาห์...แสงดาว ให้ตายสิเด็กบ้า เธอนี่มันโสเภณีชัดๆ” ปรมัยอุทาน เมื่อท่อนเอ็นของเขาจมจ่อมอยู่ในอุ้งปากและเรียวลิ้นเล็กสวาปามอย่างหิวโหย เขามองริมฝีปากชุ่มฉ่ำของเธอกำลังดูดกลืนท่อนเนื้อฉ่ำเยิ้มอย่างชอบใจ
มายาวดี ทอแสงงาม เธอมีพื้นเพเป็นคนเหนือผู้มีผิวกายนวลเนียนผุดผาด มีใบหน้างดงามแม้ไม่ได้แต่งหน้าก็สวยจนต้องเหลียวมอง บัณฑิตสาววัย 21 ปีผู้นี้ เธอมีความใฝ่ฝันที่จะทำงานในตึกสูงระฟ้าที่ใดที่หนึ่งในเมืองหลวง เธอมีความทะเยอทะยานอยู่พอสมควร แต่กระนั้นก็ไม่เคยหลงระเริงไปกับแสงสีจนเสียผู้เสียคน
มายาวดีเรียนจบพร้อมเกียรตินิยมอันดับสอง เธอทำให้พ่อกับแม่ซึ่งเป็นชาวไร่ชาวสวนภูมิใจ และมายาวดีก็อยากให้พวกท่านอยู่ดีมีสุขในบั้นปลายชีวิต เมื่อเรียนจบจึงตระเวนสมัครงานไว้หลายแห่ง ก็มีบางแห่งที่เรียกเธอเข้าสัมภาษณ์งานบ้างแล้ว แต่เธอยังไม่ผ่านการประเมินด้วยเหตุผลที่เจอมาเหมือนกันสองแห่ง นั่นคือความสวย
ไม่ผิดหรอก
เรื่องจริงๆ ที่เธอประสบพบมากับตัวเชียวล่ะ
เขาให้เหตุผลว่าเธอเหมาะที่จะไปประกวดนางงามมากกว่าจะมาทำงานในห้องแอร์ไปวันๆ มายาวดีทั้งแปลกใจและตกใจครามครัน คิดมาตลอดว่าหน้าตาผิวพรรณจะเป็นเครื่องนำทางให้เธอมีอนาคตสดใส พอเธอถามกลับก็ได้คำตอบว่า...ไม่อยากให้ความมั่นคงในองค์กรต้องระส่ำระสายเพราะผู้หญิงคนเดียว
มันคือคำตอบงี่เง่าที่สุดเท่าที่เคยได้ยินมา คนสวยและเรียนดีขนาดนี้ต้องไม่ถูกเมินสิ แล้วนี่อะไร องค์กรใหญ่ๆ 2 แห่งตอบเธอเหมือนกันเป๊ะ!
“เฮ้อ!!!” เสียงถอนใจของเธอคงดังมาก ขนาดทำให้เพื่อนรักอย่างประกายแก้วต้องเหลียวมอง
“เธอจะหนักใจอะไรกันนักหนายะหยา เขาเพิ่งจะปฏิเสธเธอแค่สองที่ ยังมีอีกหลายที่ไม่ใช่เหรอ”
ประกายแก้ว เพชรฤาชา สาวสวยผู้เรียนเก่งจนได้เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง เธอเป็นลูกสาวของเจ้าพ่อแดนใต้ พ่อของเธอใครๆ ก็เรียกเจ้าพ่อเพราะร่ำรวยล้นฟ้า เป็นเจ้าของเกาะปะการังสถานที่ท่องเที่ยวในทะเลอันดามัน เมื่อเรียนจบความหวังของประกายแก้วก็คือกลับไปช่วยงานพ่อที่บ้าน แต่กลายเป็นว่าเธอมีแฟนและตอนนี้ก็กำลังท้องอ่อนๆ เสียด้วย เรื่องนี้พ่อของเธอยังไม่รู้ ถ้ารู้ล่ะก็เป็นเรื่องใหญ่แน่ๆ
“ก็ใช่ แต่เหตุผลนั่นฉันรับไม่ได้จริงๆ กึ้ง”
“เขาอาจจะมองเลยไปถึงอนาคต”
“ก็ถ้าฉันไม่เล่นด้วย แล้วมันจะเสียหายตรงไหน”
“เธอสวยเกินไป ปัญหามันต้องตามมาไม่จบไม่สิ้น เขาน่าจะมองมุมนี้”
“แบบนี้ ฉันก็ไปสมัครงานที่ไหนไม่ได้เลยสิกึ้ง”
“เฮ้อ” ประกายแก้วนึกเห็นใจเพื่อนรัก “ทิ้งเรื่องบ้าๆ นี่ไว้ก่อนดีมั้ย ไปเที่ยวบ้านฉันก่อน นี่ฉันยังไม่รู้จะบอกพ่อยังไงเลยเรื่องท้องก่อนแต่ง”
“ท่านต้องเข้าใจ” ถึงคราวที่มายาวดีต้องปลอบใจเพื่อนบ้าง
“พ่อฉันดุอย่างกับเสือ จนคนที่นั่นเขาเรียกเจ้าพ่อไปแล้ว พี่ว่านจะโดนอะไรบ้างก็ไม่รู้”
ดีอย่างที่แฟนหนุ่มของประกายแก้วมีความรับผิดชอบ แถมยังมีหน้าที่การงานดี ไม่เจ้าชู้ เสมอต้นเสมอปลาย ข้อดีของเขาทำให้ประกายแก้วปล่อยให้ตัวเองท้อง แต่พอคิดถึงพ่อก็หวนกลับไปไม่ทันเสียแล้ว
“คงไม่หรอกมั้ง”
“ไม่พลาดล่ะสิยะหยา แต่ยังไงฉันก็ต้องบอกพ่อ ในเมื่อฉันมีพ่อเพียงคนเดียวนี่เนอะ” กำลังใจของประกายแก้วมาเต็มเปี่ยม “ว่าแต่...เธอจะไปเที่ยวบ้านฉันมั้ย จะได้ไปรู้จักกับพ่อฉันด้วย”
“ฉันไม่อยากไปเลยกึ้ง อยากทำงานแล้ว”
“ไปเปิดสมองแล้วค่อยกลับมาสู้ชีวิตต่อก็ได้นี่ พ่อฉันหล่อมากนะยะหยา ถ้าเธอไม่เห็นอาจจะต้องเสียใจ” ประกายแก้วกวาดสายตามองมายาวดีเพื่อนรัก
“มองอะไรแบบนั้นกึ้ง” มายาวดีเอ็ดเพื่อนเมื่อถูกมองอย่างโลมเลีย
“จะบอกว่า...พ่อฉันยังหนุ่มยังแน่น แม่ฉันก็เสียไปตั้งนานแล้วด้วย ฉันเห็นบางทีพ่อก็เหม่อลอยเหงาหงอย ฉันว่า...ถ้าเธอไป พ่อฉันอาจจะถูกใจเธอก็ได้”
“บ้า!! นี่เธอจะให้ฉันเป็นแม่เลี้ยงเธอหรือไง ไม่เอาหรอก” มายาวดีปฏิเสธเสียงหลง พ่อของประกายแก้วอายุมากแล้ว ส่วนเธอเพิ่งจะ 21 ปี เธอไม่อยากได้สามีแก่เลยสักนิด
“ฉันก็ไม่อยากได้คนอื่นมาเป็นแม่เลี้ยงเหมือนกัน สงสัยพ่อคงต้องเหี่ยวเฉาแบบนี้ไปตลอดชีวิตแน่ๆ” ประกายแก้วทำหน้าสลด
มายาวดีมองเมินทำไม่สนใจ รสนิยมของเธอไม่ชอบคนแก่ แก่กว่ากันมากสุดก็แค่ 7 ปีนั่นพอไหว แต่ระดับพ่อของประกายแก้วนี่คงห่างกันมาก ไม่ไหวแน่ๆ
“ไปนะยะหยา ฉันอยากให้เธอทิ้งความฝันไปชั่วครู่ แค่อาทิตย์เดียวก็ยังดี แล้วค่อยกลับมาตามหาความฝันต่อ นะยะหยานะ ไปเที่ยวบ้านฉันกัน ถ้ามีเธอไปด้วยพ่ออาจจะเข้าใจเราง่ายขึ้น”
“แล้วฉันจะมีส่วนช่วยเธอยังไงฮึกึ้ง เธอบอกพ่อดุมากจนใครๆ เรียกกันว่าเจ้าพ่อ แล้วฉันเป็นใครจะช่วยเธอให้พ้นเงื้อมือพ่อได้ยังไง” มายาวดีโวยวาย
“ต้องได้สิ เชื่อฉัน พ่อน่ะแพ้คนสวย”
“...” มายาวดีสะบัดหน้าหนี
“นึกว่าเห็นแก่หลานเธอในท้องฉันแล้วกันนะยะหยา” ประกายแก้วออดอ้อนเอาแก้มถูกบ่าของมายาวดีไปมา กระทั่งมายาวดีใจอ่อน
“ก็ได้ๆ อาทิตย์เดียวนะ”
“เย้! อาทิตย์เดียวก็เกินพอแล้วจ้ะเพื่อนรัก”
หลังจากนั้นเพียงวันเดียว ประกายแก้ว วงศกร และมายาวดีก็เดินทางมาถึงเกาะปะการัง
“นายหัวครับนายหัว ช่วยผมด้วยครับ”
เสียงไอ้เข้มดังมาแต่ไกล เดโชจึงต้องหันมาก็พอดีร่างของไอ้เข้มมาถึงตัว แล้วมันก็สะดุดรากไม้ล้มคุกเข่าไปกอดขาของนายหัว
“ไอ้ห่าเอ๊ย!!! กูว่ามึงจะพากูซวยก่อนจะได้ช่วยก็เพราะอย่างนี้ รีบร้อนอะไรนักหนาวะ ใครจะตายบนเกาะกูอีกล่ะ”
ท่อนขายาวแข็งแกร่งสะบัดร่างไอ้เข้มจนกระเด็นกลับหลัง ไอ้เข้มรีบรุดขึ้นยืนก้มหัวให้นายเหนือหัวของมันอย่างรวดเร็ว
“ไม่มีใครตายครับ มีแต่จะเกิด”
“ใครมันท้องแก่จะคลอดลูกวะ ก็ไม่มีนี่หว่า หรือจะเป็นนักท่องเที่ยว” เดโชก็เดาสุ่มเพราะไอ้เข้มไม่บอกให้ละเอียด
“ไม่ใช่ครับนายหัว”
“โอ๊ย! มึงจะถนอมปากถนอมคำไว้แลกทองหรือไงวะไอ้ห่าเข้ม! มีอะไรมึงก็พูดมาให้หมดสิวะ” เดโชเริ่มหงุดหงิด
“อีเปรี้ยวครับอีเปรี้ยว”
“ถ้าเรื่องอีนี่ มึงไม่ต้องบอก กูรู้ตั้งแต่ออกข่าววันแรก” ว่าแล้วเดโชก็หันหลังเดินหนี เบื่อที่ไอ้เข้มมันใช้สอยคำพูดอย่างประหยัด ถามยาวเหยียดตอบมาสั้นๆ กว่าจะรู้กันก็คงข้ามวัน ดีที่มันเป็นคนซื่อ เลี้ยงมันไว้ไม่เสียหายอะไร
“นายหัว!” เสียงของไอ้เข้มดังขึ้นเหมือนมันก็เริ่มจะเบื่อตัวเอง “อีเปรี้ยวน่ะควายผม มันจะออกลูก นายช่วยทำคลอดให้มันที” แล้วทุกอย่างก็หลุดจากปากไอ้เข้ม
กลางป่าเขาเขียวขจี ระหว่างการหลบหนีไล่ล่า กองเพลิงแห่งไฟสวาท นั้นเร่าร้อนแผดเผา สองร่างดื่มด่ำรสสวาท สองหัวใจผูกพันยึดมั่น เร่าร้อน...รุนแรง… หากแต่แม้นออกจากป่า เปลวไฟสวาทนั้นก็ยังไม่มอดไหม้
เขา...พ่อเลี้ยงดรัณ พัชรอมรินทร์ ผู้ชายที่เกิดมาบนกองเงินกองทองแต่มีอดีตสุดแสนจะเจ็บปวด บาดแผลที่ทิ่มแทงหัวใจมาตลอดระยะเวลาหลายปีมันกำลังจะกลัดหนอง ถ้าไม่ทำการรักษาให้หาย เธอ...พลับพลึง โรจนศุภเกียรติ สาวน้อยวัยใสผู้มีโลกส่วนตัวที่แสนจะงดงาม และหลงรักผู้ใหญ่ใจดีคนหนึ่งมาตลอด ‘ความรักคือการให้’ นี่คือนิยามความรักของเธอ เรื่องราวคงไม่วุ่นวายถ้าเธอไม่กลับมารับรู้ว่าเขาเป็น ‘หม้าย’ และเรื่องราวก็คงไม่วุ่นวายกว่า ถ้าเธอกับเขาไม่ต้องเปลี่ยนสถานะจาก ‘น้าเขยกับหลานเมีย’ มาเป็น ‘สามีกับภรรยา’ มันอาจจะเป็นความสมหวังถ้าเธอจะได้แต่งงานกับผู้ใหญ่ใจดีที่หลงรักมาตลอด แทนการแต่งงานกับผู้ใหญ่ใจร้ายที่ไม่รู้สาเหตุว่าอะไรถึงเปลี่ยนให้เขาเป็นคนละคน เถื่อนและไร้เหตุผลสิ้นดี “เมียของฉันต้องเก่งเรื่องบนเตียง ต้องทำกับข้าวอร่อย ต้องทำงานในไร่ได้ไม่ต่างจากคนงาน ที่จริงจะต้องทำงานบ้านเป็นทุกอย่าง ขยัน ไม่นิ่งดูดายปล่อยให้แม่บ้านทำเอง เธอก็ต้องเป็นแบบนั้น” “ก็ได้ พลับทำให้ได้” “เริ่มเลย” “ปล่อยสิคะ ไม่ปล่อยแล้วจะทำได้ไง” ถ้าเขายังกอดเธอแน่นแบบนี้ ยังหายใจรดใบหน้าเธอแบบนี้ แล้วจะออกไปทำทุกอย่างที่ต้องการได้ยังไง “หน้าที่แรกที่บอก จำได้ไหม”
“เจ้านายอย่าคิดว่า ความคิดความรู้สึกของเจ้านายนั้นถูกหมดทุกอย่างนะคะ” สาวน้อยเริ่มไม่พอใจ ที่เขาหาเรื่องรวนเธอ ชวนนท์ยืนขึ้น ก่อนจะเดินอ้อมโต๊ะทำงานมาหยุดอยู่หน้าหญิงสาว ห่างกันแค่มือเอื้อมถึง ความสูงใหญ่ของเขาทำให้เธอรู้สึกว่าตัวเองยิ่งเล็กลงไปอีก “เธออย่าปฏิเสธฉันเลยดลลดา ตั้งแต่วันแรกที่เธอเข้ามา ฉันก็รู้อยู่แล้วว่าเธอกลัวฉัน” “ดิฉันไม่มีเหตุผลอะไรต้องกลัวคุณ” หญิงสาวเชิดหน้าตอบ “แน่ใจเหรอ” “ค่ะ” แล้วลำแขนเรียวกลมกลึง ก็ถูกมือใหญ่กระชากเข้าหาตัวชายหนุ่ม จนทรวงอกนุ่มหยุ่นแนบชิดกับอกกว้างแข็งแรงของเขา ดลลดาขืนตัวเอาไว้เต็มกำลังที่มี แม้จะเหลืออยู่น้อยนิดก็ตาม ดวงตาคู่สวยมองสบดวงตาคมกริบด้วยความหวาดกลัว “นั่นไง เธอกลัวฉันจริงๆ” ชวนนท์เห็นความกลัวในดวงตาของหญิงสาว “เจ้านาย ปล่อยค่ะ” เสียงใสๆ นั้นสั่นระรัว
เนื้อตัวเต้นเร่าเตลิดเพลิดไปตามสัมผัสร้อนแรง เธอบังคับให้หยุดคิดถึงคนอื่นนอกจากคุณวายุ แต่เมื่อริมฝีปากของวายุแตะเข้ากับกลีบกาย พร้อมทั้งตวัดลิ้นเลียไปทั่วซอกหลืบ กลีบเนื้อบอบบางแต่อวบอูมของ 'หมูชมพู' จึงกระดิกแอ่นหยัดบั้นท้ายกระดกซอกหลืบสวนทางกับเรียวลิ้นของวายุ "คุณอุ่น และหอมมากหมูชมพู" พรรณชมพูส่ายวนโคกเนินที่เบียดบดไปกับริมฝีปากหนา ลิ้นของเขาปาดไปมาบนติ่งกระสันเหมือนกับปาดหน้าเค้ก เธอดิ้นพรวดพราดกัดริมฝีปากจนเบี้ยวไปข้างหนึ่ง ลิ้นสากๆ ห่อม้วนชำแรกเข้าไปในร่องสาวอันชุ่มฉ่ำ เมื่อนั้นริมฝีปากที่ถูกกัดจะห้อเลือดก็แยกอ้า พรรณชมพูเผลอกรีดร้องครวญครางถึงใครบางคน ที่จมอยู่ในห้วงความคิดไม่เคยเลือนหาย "อ๊า พี่เสือ" วายุผงกหัวขึ้นมองคนที่กำลังแอ่นลำคอและลำตัวทอดโค้ง แววตาของเขาไหววาบเป็นไฟ และเขาก็กัดกลีบกายบางๆ สีชมพูจนหมูชมพูของเขาสะดุ้งเฮือกสุดตัว "อ๊ะ เฮือก" เธอถูกกัด
เฉียวลู่ นักแสดงแถวหน้าของจีนมีข่าวฉาวออกมาทำให้ทางต้นสังกัดของเธอสั่งให้เธองดออกสื่อชั่วคราว จึงเป็นโอกาสที่หาได้ยากสำหรับคนงานยุ่งตลอดทั้งปีของเธอที่จะได้พักผ่อน เฉียวลู่เดินทางกลับบ้านเกิดของเธอและการกลับไปครั้งนี้ทำให้ชีวิตของเฉียวลู่เปลี่ยนไปตลอดการ ฉีหมิงเยี่ยน อนุชาองค์เล็กของฮ่องเต้แห่งแคว้นฉี ถูกลอบปลงพระชนม์ระหว่างที่เดินทางมาทำหน้าที่เจรจาสงบศึกกับเเเคว้นเซียว เพราะได้รับบาดเจ็บสาหัสทำให้ชินอ๋องความจำเสื่อมและได้รับการช่วยเหลือจากพ่อลูกตระกูลเฉียว เซียวยิ่น ฮ่องเต้แคว้นเซียวมีพระสนมมากมายเเต่กลับไม่สามารถให้กำเนิดพระโอรสได้โหรหลวงได้ทำนายเอาไว้ว่า ในอนาคตองค์รัชทายาทที่แท้จริงจะกลับมาเซียวยิ่นจึงมีรับสั่งให้ทหารออกตามหาพระโอรสและอดีตฮองเฮาของตนอย่างลับๆ ฉินอี้เหยา ได้รับบาดเจ็บสาหัสร่างลอยตามแม่น้ำมาพร้อมกับเด็กทารกในอ้อมแขนเมื่อฟื้นขึ้นมานางจึงแสร้งจำเรื่องราวในอดีตไม่ได้ เพื่อให้นางและบุตรชายมีชีวิตรอดต่อไป
ถึงจะโกรธ เกลียด เคียดแค้นแค่ไหน แต่หัวใจไม่อาจต้านรักได้ ----------------------------------------- ไรยาค่อยๆ คลานไป ทันทีที่เจ้าบ่าวหันหน้ามา เพื่อจะยื่นมือให้เธอจับ จะได้ไม่ล้มนั้น ยิ่งจะทำให้เธอเกือบล้มไปเพราะเขาแล้ว ในหัวสมองก็ประมวลผลออกมาได้คำตอบทันที ว่าคนที่เธอเฝ้าครุ่นคิดว่าเป็นใครมาตลอดสองอาทิตย์นั้น แท้จริงก็คือใครกันแน่ในที่สุด ‘Mr. H. Hhemmhawattana ก็คือหรัญญ์ เหมวัฒน์’ ‘หรือพี่ฮั้นท์ของสาวๆ ที่เธอมักจะได้ยินเรียกขานกันนี่เอง’ ‘เขากลายมาเป็นเจ้าบ่าวเธอได้ยังไง’ ‘เขาจะมาแต่งงานกับเธอทำไม’ เท่าที่รู้มา เขาไม่ได้ร่ำรวยระดับร้อยล้านพันล้านแน่ๆ แล้วเขาไปทำอะไรมา ถึงได้มีเงินมากมายขนาดเอามาทุ่มซื้อหุ้นบริษัทของพ่อเธอได้ ไหนจะไถ่บ้านคืนให้ และอีกหลายต่อหลายอย่างที่เขาจ่ายไป รวมทั้งแหวนเพชรน้ำงามและไม่น่าจะต่ำกว่าห้ากระรัตบนพานดอกไม้ตรงหน้าเธออีก ---------------------------------------------------------------------------------------- ฮั้นท์ (หรัญญ์ เหมวัฒน์) นักธุรกิจหนุ่ม ผู้มีชีวิตที่พลิกผันจากเลวร้ายกลับกลายเป็นดี ซึ่งเขาเองก็ตั้งตัวไม่ทัน แต่ทั้งหมดนั้น มาจากความดี ความขยันหมั่นเพียรของเขา บวกกับโชคช่วย ถึงเวลาที่เขากลับมายืนอยู่จุดเดิม ในฐานะใหม่ ที่ใครต่อใครต่างงุนงง โดยเฉพาะเพื่อนๆ หรือแม้แต่กับผู้หญิงที่เคยเมนเขามาแล้ว และเขาก็จะทำให้ผู้หญิงพวกนั้นได้รู้ ว่าไม่ควรเมินเขาจริงๆ ---------------------- ย้า (ไรยา เจริญรัตชตะ) ทายาทนักธุรกิจหลายร้อยล้าน ที่ชีวิตพลิกผัน จากดีกลายเป็นเลวร้ายในไม่กี่ปี จนเธอกับครอบครัวก็ตั้งตัวไม่ติด รับภาวะย่ำแย่แทบไม่ทัน และถึงเวลาที่เธอจะต้องเลือก ระหว่างช่วยกู้ทุกอย่างของครอบครัวคืน กับทิ้งทุกอย่างไปแบบไม่เหลียวหลัง เพื่อไปเลียแผลหัวใจจากชายที่เธอรักแทบตาย สุดท้ายเธอจะเลือกทางเดินยังไง จะไปต่อหรือพอแค่นี้ ---------------------------------------------------------------------------------------- เมียแต่งท่านประธาน Chairman's Wife ตอนแรกคิดว่าจะให้นิยายที่เรื่องนี้มีแค่ชื่อภาษาอังกฤษเท่านั้นค่ะ ที่เหลือให้รี้ดไปตีความเอาเอง ว่าควรจะใช้ภาษาไทยว่าอะไรดี ระหว่าง แรงรัก - รั้งรัก - รังรัก และใช้นามปากกาพิมรภัค แต่สุดท้ายก็คิดชื่อใหม่ได้แล้วค่ะ และตัดสินใจใช้นามปากกาหลัก นั่นคือ กันเกราค่ะ เพราะแว้ปไปเขียนอวตารหลายเรื่องแล้ว และไม่ได้ออกนามปากกานี้นานแล้ว ส่วนแนวก็จะเพิ่มดราม่าเข้าไปอีก ซึ่งจะเป็น Signature ของกันเกราอยู่แล้ว รี้ดอยากได้มาม่าเจ้มจ้นแค่ไหน บอกกันได้เด้อ ----------------------------------------------------------------------------------------
อวิ๋นเจินอาศัยอยู่ในตระกูลอวิ๋นมาเป็นเวลา 20 ปี กลับพบว่าเธอเป็นลูกสาวปลอม พ่อแม่บุญธรรมของเธอวางยาเธอเพื่ออยากจะได้เงินมาลงทุน หลังจากที่อวิ๋นเจินรู้เรื่องนี้ เธอก็ถูกไล่กลับไปที่ชนบท จากนั้นเธอก็ค้นพบว่าตัวเองคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลเฉียวและมีชีวิตที่หรูหราสุด ๆ หลังจากกลับมา เธอได้รับความรักจากครอบครัวและมีชื่อเสียงโด่งดัง น้องสาวจอมปลอมใส่ร้ายอวิ๋นเจิน แต่เธอไม่คาดคิดว่าอวิ๋นเจินจะมีความสามารถต่างๆ เมื่อต้องเผชิญกับการยั่วยุ เธอได้แสดงความสามารถและทักษะต่างๆ มากมายเพื่อจัดการผู้รังแก มีข่าวลือกันว่าอวิ๋นเจินยังคงโสด และชายหนุ่มชื่อดังแห่งเมืองงก็ผลักเธอไปเข้ากำแพง "คุณนายกู้ ถึงตามราเปิดเผยตัวตนได้แล้วนะ"
ในสายตาของเขา เธอเป็นคนขี้โกหก ในสายตาของเธอ เขาเป็นคนไร้หัวใจ เดิมทีถังหว่านคิดว่าเธอคือคนพิเศษหลังจากอยู่กับเสิ่นติงหลานมาสองปี แต่สุดท้ายก็พบว่าตัวเองเป็นแค่ของเล่นที่สามารถทิ้งได้อย่างตามใจเมื่อไม่มีค่าอีกต่อไป จนกระทั่งถังหว่านเห็นว่าเสิ่นติงหลานพาคนรักของเขาไปตรวจครรภ์ เธอจึงยอมแพ้แล้ว เธอหยุดติดตามเขาอีก แต่จู่ๆ เขากลับไม่ยอมปล่อยเธอไป "ถ้าคุณไม่เชื่อฉัน ทำไมคุณไม่ปล่อยฉันไปล่ะ?" ชายผู้เคยหยิ่งยะโสขนาดนั้น ตอนนี้ก้มหัวลงและขอร้องว่า "หวานหว่าน ฉันผิดไปแล้ว โปรดอย่าทิ้งฉันไป"
เธอก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่เคยสนใจ แต่ก็ยังดึงดันอยากจะอยู่ใกล้ ต่อให้เธอเป็นเมียแต่งเขาก็คงไม่มีวันเปลี่ยนใจ เพราะเหตุนี้เธอจึงตัดสินใจจากไปในคืนแต่งงาน "จากนี้ไปเราไม่มีอะไรติดค้างกันอีก" 🥀
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"