จันทร์เจ้าขาจำได้ว่าเขาคือ ‘คุณอา’ ที่เคยเล่นด้วยตอนห้าขวบ และเธอก็เป็น ‘หนูขา’ ของเขา แต่ไม่ยักจะรู้ว่าพอโตขึ้น เธอจะตกหลุมรักเขาเข้าเต็มเปาอย่างนี้ ‘อยากเป็นผู้หญิงที่คุณอาชอบจังเลย...’ เป็นความปรารถนาที่ผุดพรายขึ้นมาในใจจนทำให้ร่างกายสั่นไหวทุกครั้งที่ใกล้ชิดชายหนุ่ม ไม่รู้ว่าวันไหนผู้หญิงวัยแรกแย้มอย่างเธอจะเป็นที่ปรารถนาของอินทัชบ้าง จะต้องแก่แดดแค่ไหน จะต้องยั่วยวนอย่างไร ต้องมีความเป็นผู้หญิงขนาดไหน อินทัชถึงจะชายตามาสนใจมากกว่า ‘ความเป็นหลาน’ อย่างนี้ เป็นสิ่งที่หญิงสาวใคร่อยากรู้เหลือเกิน...
เส้นเลือดสีเขียวจางๆ ปูดโปนออกมาจากท่อนแขนแกร่งเรียกให้ดวงตากลมสวยของหญิงสาวจับจ้องไม่วางตา ก่อนที่ลำคอระหงจะกระเดือกน้ำลายลงคอเอื้อกใหญ่เมื่อคนตรงหน้าถลกแขนเสื้อเชิ้ตมากขึ้น เผยผิวสีแทนและกล้ามเนื้อแน่นให้เห็นเต็มตามากกว่าเดิม แต่อะไรก็ไม่ชวนให้มองตามเท่ากับการที่อีกฝ่ายเอื้อมมือไปคว้าชายเนกไทแล้วค่อยๆ รูดมันออกจากคอ
เนกไทถูกวางลงบนโต๊ะ กระดุมเสื้อเชิ้ตสองสามเม็ดถูกปลดออก พลันแผงอกแกร่งก็ปรากฏให้เห็นรำไร น้ำลายเอื้อกใหญ่ถูกบังคับให้ต้องกลืนลงคออีกระลอก
เธอถึงกับต้องแอบกำชายกระโปรงของตัวเองที่ใต้โต๊ะอาหารไว้มั่น เม้มริมฝีปากแน่นเมื่อเห็นว่าริมฝีปากหยักบนใบหน้าคร้ามคมเผยอออกเล็กน้อย วูบหนึ่งที่สติสัมปชัญญะเกือบหลุด เธอก็สะดุ้งโหยงสุดตัวเมื่อจู่ๆ คนตรงหน้าก็ เปล่งเสียง
“อาแต่งหน้าเค้กให้เองแบบนี้ หนูขาชอบไหม”
เธอพยักหน้า
ชอบ...
แต่ชอบอะไรนั้น เธอไม่ได้บอก แน่นอนว่าไม่ใช่สิ่งที่เขาถาม ได้แต่จับจ้องใบหน้าสมมาตรของชายหนุ่มนิ่ง
เขาหล่อเหลาเหลือเกิน...ยิ่งไปกว่านั้น เขายังมีเสน่ห์เหลือร้ายที่เธอไม่เคยเห็นจากผู้ชายคนไหน
ยิ่งมองก็ยิ่งลุ่มหลง จมดิ่งลึกสู่ห้วงตัณหา
เธอแอบจินตนาการโดยที่เขาไม่รู้ว่าถ้าหากเธอถูกริมฝีปากสีสวยของเขานั้นรุกรานไปตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย มันจะเป็นเช่นไร...
แต่แล้วก็ได้สติกลับคืนมา หญิงสาวสะบัดหน้าน้อยๆ พยายามต่อสู้กับความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของตัวเองเป็นอย่างมาก เพราะผู้ชายที่เธอคิดเกินเลยอยู่นั้นมีศักดิ์เป็น ‘คุณอา’
ถึงจะไม่ใช่อาแท้ๆ ก็เถอะ แต่เขาก็เป็นผู้ปกครองของเธออยู่ดี
ก็แค่ชั่วคราวล่ะนะ
ส่วนสาเหตุที่เขาได้กลายมาเป็นผู้ปกครองของเธอ หญิงสาวไม่พร้อมที่จะอธิบายในตอนนี้หรอก เพราะหลังจากนั้นดวงตาก็จ้องมองการกระทำของเขาอย่างหลงใหลต่ออย่างอดไม่ได้
มือแกร่งทั้งสองข้างบีบครีมแต่งหน้าเค้กละเลงบนตัวเค้กที่ได้รับการปาดครีมแล้ว เขาตั้งใจมากทีเดียว ขณะที่เธอเองก็ตั้งใจมองเขาเหมือนกัน
จะเป็นอย่างไรนะหากครีมนั้นถูกละเลงบนตัวเธอ?
เผลอไผลคิดน่าเกลียดอีกแล้ว แต่เธอก็ไม่คิดที่จะรั้งความรู้สึกตัวเองไว้ด้วยคิดว่าไม่มีใครล่วงรู้นอกจากตัวเอง
สายตาของเธอจับจ้องเขาเนิ่นนาน...กระทั่งเห็นว่าครีมแต่งหน้าเค้กนั้นถูกบีบมาเลอะปลายนิ้วมือของชายหนุ่ม
เขายกมือขึ้นจรดริมฝีปากและดูดครีมนั้นเข้าไปด้วยท่าทางที่...ชวนมองเกินคำบรรยาย
พลันก็ทำให้คนมองทนไม่ไหวอีกต่อไป ลุกพรวดจากเก้าอี้ตรงไปคว้ามือข้างนั้นของเขาเอาไว้ แล้วสบตาเมื่อเขาเลิกคิ้วสูงคล้ายจะถามว่ามีอะไร ทว่าเธอไม่ตอบหรอก ได้แต่อ้าปากแล้วงับปลายนิ้วของเขาที่ยังเปรอะเปื้อนครีมเค้กอยู่ แล้วละเลียดเลียไล้ ดูดดุดราวกับลูกแมวยังไม่หย่านม
ดวงตาช้อนมองใบหน้าคร้ามคมนิ่ง ส่งสัญญาณคล้ายเชิญชวนให้ทำเรื่องสนุกๆ กัน ก่อนที่เขาจะเอื้อมมือไป ปัดเค้กที่วางอยู่บนโต๊ะตกลงพื้น แล้วจับเธอขึ้นไปวางแทน
ร่างบางถูกกดให้นอนราบ ใบหน้าคร้ามโน้มลงต่ำ ซุกไซ้จมูกและริมฝีปากไปตามซอกคอหอมกรุ่นของเธอ แล้วประทับจุมพิตหนักๆ ไปทั่วทุกอณูผิวอุ่น
ความหวามไหวแผ่ซ่านกำจาย เธอยินดีให้เขาล่วงเกินตามประสาชายหญิง แต่แล้วเธอก็ต้องสะดุ้งสุดตัวอีกครั้งเมื่อมีเสียงแหบห้าวดังเข้ามาในโสตประสาท
“เสร็จแล้ว เป็นไง”
เธอจับจ้องใบหน้าเขาอีกครั้ง ครั้งนี้เขาหยักยิ้มพิมพ์ใจ พร้อมกับยื่นเค้กที่ตกแต่งหน้าตามาให้เธอดู
“อาหวังว่าหนูขาจะชอบนะคะ”
เค้ก...ไม่ได้ถูกปัดตก เธอก็ไม่ได้ถูกจับขึ้นวางบนโต๊ะแทนเค้ก
ในวินาทีนี้เองที่หญิงสาวตระหนักได้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้นเป็นเพียงจินตนาการลามกในหัวของเธอเพียงคนเดียว ก่อนจะถอนหายใจยาวออกมาด้วยความเสียดาย แล้วตอบอย่างเนิบนาบ
“หนูชอบค่ะ”
แต่ก็เรียกรอยยิ้มกว้างให้กับคนฟังได้เป็นอย่างดี พลันเขาก็วางมือจากการแต่งหน้าเค้ก คว้าเทียนมาปักและจุดมันขึ้น พร้อมกับนั่งลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามเธอ ก่อนจะเอ่ย
“งั้น...สุขสันต์วันเกิดครบยี่สิบนะคะ หนูขาของอา”
หนูขาของอา...ถูกเรียกอย่างนี้ เธอชอบที่สุด
มุมปากยกยิ้มขึ้นมาด้วยความพอใจ ขณะที่อีกฝ่ายว่ามาอีก
“อธิษฐานแล้วเป่าเทียนสิคะ”
ถึงจะเป็นเรื่องที่เด็กๆ ทำ แต่หญิงสาวหลับตาแล้วยกมือขึ้นพนมที่ระหว่างอก
ขอให้หนูเป็นหนูขาของคุณอาตลอดไป...
อธิษฐานเสร็จก็ลืมตาแล้วเป่าเทียนจนดับ ก่อนจะสบตาอีกฝ่ายที่ส่งยิ้มให้เธอแล้วคว้ามีดพลาสติกมาถือ
“ได้เวลาตัดเค้กแล้ว เจ้าของวันเกิดจะให้อาตัด หรือจะตัดเอง”
“ให้คุณอาตัดเลยค่ะ”
เธอบอก อีกฝ่ายจึงลงมือทำตามนั้น ไม่นาน เค้กชิ้นหนึ่งก็ถูกส่งมาตรงหน้า พร้อมกับคำคะยั้นคะยอ
“หนูขาต้องกินนะ กินเป็นพิธีก็ได้ ไม่ต้องกลัวอ้วน”
เธอเหลือบมองเค้กในจาน ชิ้นแค่นี้ไม่ทำให้เธออ้วนหรอก แต่สิ่งที่เธออยากกินน่ะมันไม่ใช่เค้ก ทว่าเป็นคนตรงหน้าที่ตัดเค้กใส่จานตัวเองแล้วลงมือกินโดยการใช้มือต่างหาก
เขาดูดครีมเค้กเข้าปากด้วยท่าทางเหมือนเด็กเล็กๆ จนเผลอทำครีมเลอะมุมปากไปนิดหน่อย คนมองอยากจะกินเค้กที่เปรอะเปื้อนอยู่บนมุมปากของเขามากกว่าเค้กในจาน ขณะที่เขาชำเลืองมองเธอแล้วหัวเราะน้อยๆ
“กินสิ อากินเปิดประเดิมให้แล้ว ถึงตาหนูขาแล้วค่ะ”
เธอจึงจำต้องคว้าเค้กเข้าปากบ้าง โดยที่ใจอยากบอกเขาเหลือเกินว่าสิ่งที่เธออยากกินในวันเกิดตัวเองหาใช่เค้กที่เขาตกแต่งหน้าตาให้แต่อย่างใด ทว่าเป็นตัวเขาต่างหาก
เธออยากกินเขา...หรือถ้าจะให้เขากินเธอ เธอก็ไม่ขัด
แต่ความลับนี้ไม่สามารถบอกออกไปได้ ทำได้เพียงกักเก็บไว้ในใจทั้งๆ ที่เพลิงปรารถนาที่จะได้สัมผัสแนบแน่นกับเขาพลุ่งพล่านไปทั่วสรรพางค์กาย
คิดไม่ดีกับคุณอา...แบบนี้จะเรียกว่าแรดร่านได้ไหมนะ
เอาเถอะ จะเรียกว่าอะไร เธอก็ไม่สนแล้ว รู้แต่เพียงว่าเค้กที่มีคุณอาร่วมกินด้วย...อร่อยกว่าเค้กวันเกิดปีอื่นเป็นไหนๆ
แต่แล้ว...
อยากกินคุณอามากกว่า...
ก็มีความคิดหนึ่งแวบเข้ามาในหัวอีกครั้ง
เค้กชักรสชาติกร่อยแล้วสิ เฮ้อ...คุณอานะคุณอา ทำไมถึงได้น่ากินกว่าเค้กขนาดนี้นะ
หนูไม่เข้าใจเลยจริงๆ
เมื่อมนุษย์เพศชายเกิดการวิวัฒนาการทางร่างกาย ผู้ชายกลุ่มหนึ่งจึงสามารถตั้งท้องได้ และเพราะความเมาชนิดหลุดโลกในคืนวันนั้น ‘นภัทร’ เดือนคณะสุดหล่อจึงตื่นขึ้นมาพร้อมกับความจริงว่าตัวเองจัดการรวบหัวรวบหางลากหลืบคณะอย่าง ‘สิงหา’ ไปมี one night stand เป็นที่เรียบร้อย เรื่องควรจะจบลงแค่นั้น แต่ไม่จบเมื่อชีวิตน้อยๆ ถือกำเนิดขึ้น นภัทรหายตัวไป กลับมาอีกครั้งพร้อมกับข่าวลือประหลาดๆ ก่อนสิงหาจะพบว่าต้นเหตุของข่าวลือคือเด็กหญิงตัวน้อยอย่าง ‘น้องณดา’ ที่สิงหาสงสัยเหลือเกินว่าจะเป็นลูกของเขา “ให้เรียกนายว่าพ่อไม่ได้หรอก น้องณดาไม่ได้ลูกของนาย” “งั้นเรียกป๊ะป๋าก็ได้” “ไม่ได้” “แด๊ดดี้” “นี่...พอเลย” “ดาดา” คำเรียกที่หลุดจากปากของเด็กหญิงตัวน้อยทำเอาคุณพ่อกำมะลอยิ้มหน้าบาน ปฏิบัติการทวงคืนความเป็นพ่อต้องมา ต่อให้นภัทรไม่ยอมรับ งั้นสิงหาก็ขอเข้าทางลูกสาวตัวจิ๋วก็แล้วกัน! รับผมเป็นพ่อของลูกเถอะนะครับ!
เพราะไปตีกับเกรียนคีย์บอร์ดที่บังอาจเอานิยายเธอมาวิจารณ์หยาบๆ คายๆ ว่างานเธอเชิดชูระบอบปิตาธิปไตย ตามมาด้วยการดูแคลนเหยียดหยามทางเพศสภาพอีกหลายอย่าง ทำเอา ‘อาคิรา’ นักเขียนนิยายประโลมโลกถึงกับเลือดเฟมินิสต์ในกายเดือดพล่าน กล้าดียังไงมากล่าวหาเธออย่างนี้ งานเธอถึงจะเป็นงานประโลมโลก แต่ใช่ว่าจะเชิดชูระบอบชายเป็นใหญ่สักหน่อย! ต้องตามไปตบตีจนกว่าจะชนะ เถียงแพ้รอบนั้น แต่คนไม่แพ้ ตามหาแอคเคาทน์ของคนที่ใช้นามแฝงว่า ‘เวนไตย’ ไปจนเจอเข้ากับตอจังเบ้อเร่อ โดยหารู้ไม่ว่าเวนไตยคนนี้ หาใช่ไอ้เวรตะไลที่ประนามหยามเหยียดแต่อย่างใดไม่ ทว่าเป็นบรรณาธิการหนุ่มผู้คว่ำหวอดในวงการวรรณกรรมสร้างสรรค์สังคมต่างหาก “ฉันจะทำให้ดูว่างานเขียนฉันมันไม่ได้เชิดชูระบอบชายเป็นใหญ่!” “งั้นก็ลองเขียนมาดู ผมอยากอ่านเหมือนกัน อยากรู้ว่านักเขียนอย่างคุณจะทำได้ดีสักกี่น้ำ” โดนท้าทายมาถึงกับปรี๊ด คอยดูเถอะ เธอจะเอารางวัลมาฟาดหน้าไอ้เวรตะไลนี่ให้ได้เลย!
“ฉันจะเป็นเมียของนายดินค่ะ” ไม่รู้ว่าส้มหล่นหรือโชคร้ายกันแน่ที่จู่ๆ คุณหนู ‘หยาดฟ้า’ ของตระกูลเศรษฐีเมืองกรุงก็มาถวายตัวยอมเป็นเมียของ ‘ไอ้ดิน’ อย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยเสียอย่างนั้น ไอ้ดินค่อนข้างจะงุนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ก็จะไม่ให้งงได้อย่างไร เขาไม่รู้จักมัดจี่กับเจ้าหล่อนนี่ จู่ๆ ก็มาบอกว่าจะเป็นเมียเขา เป็นใครก็งงทั้งนั้นแหละ! ก่อนที่เขาจะได้รับรู้ว่าเหตุนี้เกิดขึ้นเพราะหยาดฟ้าถูกบิดาบังคับให้แต่งงาน เธอจึงหนีมาอยู่ที่บ้านพักตากอากาศในต่างจังหวัด และได้เจอกับกุลีหนุ่มที่นี่ ประจวบเหมาะกับที่บิดาของเธอโทรมาคาดคั้นให้เธอกลับไปแต่งงานพอดี เธอถึงได้ลั่นวาจานี้ออกมาให้บิดารู้ว่าเธอมีผู้ชายคนใหม่ที่ยินยอมพร้อมใจจะเป็น ‘เมีย’ ของเขาแล้ว หาใช่ผู้ชายที่บิดาจัดเตรียมมาให้ สำหรับไอ้ดิน นี่คงไม่ใช่ส้มหล่นหรอก เป็นคราวเคราะห์เสียมากกว่า เขาจึงรีบบอกปัดหัวขวิด “ไม่ล่ะครับคุณหนู ผมคงไม่อาจเอื้อมไปเด็ดดอกฟ้าหรอก ผมก็แค่กุลีใช้แรงงานไปวันๆ จะเอาเงินที่ไหนไปเลี้ยงให้คุณหนูอยู่ดีกินดีได้” “ไม่ต้องกินดีอยู่ดีก็ได้ แค่ให้ฉันอยู่ด้วยก็พอ” “ให้อยู่ด้วยก็ไม่ได้ครับ ก็คุณหนูน่ะเป็น...” “เป็นเมียนายดินไงล่ะ” เป็นที่ไหนกัน เขายังไม่ได้ซั่มเธอเลยสักกะยก! ไอ้ดินปวดขมับตุบๆ ขณะที่หยาดฟ้าเชื้อเชิญเขาเป็นการใหญ่ “แล้วนี่มัวรออะไรอยู่ รีบพาฉันเข้าบ้านสิ จะได้ทำอะไรอย่างที่ผัวเมียเขาทำกัน” เธอรู้หรือเปล่าว่าพูดถึงเรื่องอะไรอยู่น่ะ!? ไอ้ดินไม่แน่ใจนัก แต่แวบเดียวก็แน่ใจแล้ว เพราะจู่ๆ หญิงสาวก็ดึงคอเสื้อให้หน้าอกอิ่มล้นทะลักออกมา ไอ้ดินมองจ้องตาไม่กะพริบ ได้สติมาอีกครั้งก็ตอนที่สาวเจ้าเอ่ยปาก “มาสิพี่ดิน มาเอากัน ฟ้าพร้อมจะเป็นเมียพี่แล้ว” ดูพูดจาเข้า เรียกแทนตัวด้วยชื่อ แทนเขาว่าพี่ชวนให้เอ็นดูอีก! โอ๊ย! ไอ้ดินจะบ้าตาย! เห็นทีเขาคงหนีไม่พ้นการถูกยัดเยียดความเป็น ‘ผัว’ ด้วยฝีมือหยาดฟ้าแล้วล่ะ
เพราะอกหักจากคนที่แอบชอบมานาน ทำให้ ‘ภีม’ พาตัวเองไปในที่อโคจรเพื่อที่จะระบายความเศร้าเสียใจออกไปบ้าง หากทว่าในคืนนั้น เขากลับได้พบกับชายแปลกหน้าอย่าง ‘สุดเขต’ ที่บังเอิญเข้ามาพูดคุยด้วย ทั้งสองเกือบจะลงเอยกันด้วยความสัมพันธ์ข้ามคืน หรือที่เรียกกันว่า One night stand หากทว่าก็เกิดเรื่องวุ่นๆ เสียก่อน ก่อนที่ภีมจะพบว่าผู้ชายที่เขาได้เจอในคืนนั้น เป็นคนคนเดียวกับคนที่เขาแอบชอบตกหลุมรัก ให้ตาย! นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน! ขณะเดียวกัน ปฏิบัติการ ‘ลัก’ ความรักของภีมก็เริ่มต้นขึ้น เมื่อสุดเขตไม่สามารถลืมความน่ารักของภีมลงได้เลย เขาต้องเอามาให้ได้ ทั้งตัวภีม และความรักของภีม จะเอามาให้ได้ทั้งหมดเลยคอยดู!
แม้ขึ้นชื่อว่าเป็นปีศาจ ทว่าปีศาจกวางอย่าง ‘ลู่ลู่’ กลับหาได้พิสมัยการระรานมนุษย์สักเท่าไรนัก สะอาดบริสุทธิ์เสียจนแทบจะลุแก่ตบะแล้ว ทว่า... ชีวิตของเขาก็หาได้สงบสุขอีกต่อไปเมื่อนักพรตปราบปีศาจอย่าง ‘เยี่ยนเฉิน’ หนีตายจากการถูกล่าเพราะดันไปต้มตุ๋นชาวบ้านวิ่งทะเล่อทะล่ามาสลบอยู่หน้าถ้ำ ถึงจะเป็นปีศาจแต่ก็หาได้ไร้น้ำใจนัก มอบไมตรีช่วยเหลืออย่างไม่เกี่ยงงอน หากแต่เยี่ยนเฉินกลับตอบแทนบุญคุณด้วยการทำให้ชีวิตของลู่ลู่แปดเปื้อนด้วยมลทิน บีบบังคับให้ปีศาจกวางน้อยรวมหัวในแผนต้มตุ๋นชาวบ้านเพื่อเอาคืน! นักพรตจอมกะล่อนผงาด ใช้ชีวิตอย่างสำราญ ขณะที่ปีศาจน้อยถูกจิกหัวใช้ให้ไประรานชาวบ้านไม่เว้นวัน อะไรไม่ว่า เยี่ยนฉินยังขยันลูบหางเล็กๆ ของเขาเสียเหลือเกิน ไม่รู้หรือไงว่าตรงนั้นน่ะ...มะ...มัน... ...ทำให้ตัวร้อนผะผ่าวนะ! ต้องมีสักวันที่พลั้งเผลอไปมากกว่านี้แน่ สวรรค์! ลู่ลู่ผู้นี้จะหลั่งน้ำตาเป็นสายโลหิตแล้ว!
หากผู้ใดเชื่อว่าทะเลทรายผืนนี้โหดร้าย ผู้นั้นย่อมเชื่อในสิ่งที่ผิด เพราะสิ่งที่โหดร้ายกว่าผืนทะเลทรายแห้งแล้ง คือกองกำลังโจรทะเลทรายของ 'อัลมิราน' ผู้นี้ต่างหาก โหดร้าย...ชั่วช้า...เลวสามานย์ ดูเหมือนจะเป็นคำสร้อยที่พ่วงท้ายชื่อของโจรหนุ่มนามเลื่องลือไปเสียแล้ว แต่เขาจะสนใจสิ่งใดกัน ในเมื่อเขาถูกตราหน้าว่าชั่ว เขาก็จะเป็นคนชั่วให้สมดั่งที่ถูกบีบคั้น เพียงเพื่อให้ได้อัญมณีแห่งสุลต่านมาครอบครอง เขาก็ไม่เกรงกลัวสิ่งใดแล้ว หากแต่หารู้ไม่ว่าสวรรค์จะนำพาให้เขาพบกับอัญมณีมีชีวิตแห่งทะเลทราย...'จามิล' นักระบำร่อนเร่ผู้มีเสน่ห์เย้ายวน เพียงได้ชมระบำทะเลทรายของจามิลแค่ครั้งเดียวเท่านั้น หัวใจของอัลมิรานก็ถูกครอบครองไปสิ้น โดยหารู้ไม่ว่าตนกำลังก้าวเข้าสู่หุบเหวอเวจีแสนหวานที่จะฉุดคร่าชีวิตเขาไปเสียแล้ว...
ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
หลังจากแต่งงานกันมาสองปี สามีของเธอไม่เคยเหยียบเข้าไปในบ้านและมองดู 'ภรรยาขี้เหร่' ของเขาเลย แถมเขาก็มีเรื่องอื้อฉาวกับดาราหน้าใหม่หลายคนทุกวัน ซูเหว่ยทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอตัดสินใจปล่อยเขาไป ต่อไปก็ต่างคนต่างไปเลย แต่เมื่อเธอเสนอเรื่องหย่า... ฟู่เหยียนอันพบว่านักออกแบบในบริษัทนั้นสะดุดตาเป็นพิเศษ เขาค่อยๆ ทำความรู้จักกับเธอเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาค้นพบตัวตนที่แท้จริงของเธอเข้า เขาเสียใจแล้ว
"นางเป็นบุตรีผู้สูงศักดิ์ของฮูหยินเอกของจวนเสนาบดี นางมีหน้าตาโดดเด่น ทั้งอ่อนโอนและมีน้ำใจไมตรีต่อผู้อื่น แต่... นางทำดีต่อป้าของนาง นางกลับฆ่าแม่ของนางตาย นางรักเอ็นดูน้องสาวของนาง แต่น้องสาวกลับแย่งสามีของนางไป นางคอยสนับสนุนและดูแลสามีของนางอย่างสุดหัวใจ แต่สามีกลับทำให้นางตายทั้งกลม...ตระกูลฝ่ายมารดาของนางก็ถูกประหารชีวิตทั้งตระกูลด้วย นางตายตาไม่หลับและสาบานว่าหากมีชาติหน้า นางจะไม่เมตาตาต่อใครอีก ใครก็ตาม กล้ามาทำร้ายข้า ข้าจะล้างแค้นด้วยชีวิตทั้งตระกูลของพวกเจ้า เมื่อเกิดใหม่อีกครั้ง นางอายุได้สิบสี่ปี นางสาบานว่าจะต้องเปลี่ยนชะตากรรมและแก้แค้นชาติก่อน ป้านางใจ้ร้าย นางจะใจร้ายกลับยิ่งกว่านาง นางคิดจะได้ครองตำแหน่งฮูหยินงั้นเหรอ บอกเลยไม่มีทาง! ส่วนน้องสาวชอบผู้ชายชั่ว ๆ นักไม่ใช่หรือ ได้!ข้าจะยกให้เลย ส่วนชายชั่วนั่น ข้าจะทำให้เจ้าไม่สามารถมีทายาทได้อีกตลอดทั้งชาติ!แต่ข้าจะแก้แค้น เหตุใดเจ้าต้องมาช่วยข้าด้วย?"
เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้
หลังจากแต่งงานกันสามปี เจียงหยุนถังพยายามสุดความสามารถเพื่อช่วยชีวิตสามีที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ โดยไม่คาดคิด ว่าเขาได้ละทิ้งเธอเหมือนกับขยะ รับรักแรกของเขากลับประเทศและตามใจเธอทุกอย่าง เจียงหยุนถังที่ท้อใจตัดสินใจหย่า และทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอที่กลายเป็นภรรยาที่ถูกทอดทิ้งจากตระกูลเศรษฐี อย่างไรก็ตาม เธอกลับเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างกะทันหันเป็นหมอเทวดาที่พบเจอยาก "Lillian"แชมป์แข่งรถที่มีฐานแฟนคลับจำนวนมาก และยังเป็นนักออกแบบสถาปัตยกรรมระดับโลกอีกด้วย ชายร้ายหญิงชั่วคู่นั้นเยาะเย้ยเธอว่า เธอจะไม่มีวันหาคู่รักได้ใ แต่ไม่คาดคิดว่าลุงของอดีตสามีของเธอ ซึ่งเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดทำกแงทัพกลับมาเพียงเพื่อขอแต่งงานกับเธอ