/0/4459/coverbig.jpg?v=52729a8f794e5d718ab3663eece7f2cd)
หากไม่เพราะสวรรค์ชิงชังก็คงจะยมโลกกลั่นแกล้ง เมื่อหญิงสาวชาวไทยอย่าง ‘มีนา’ ที่อุตส่าห์ดั้นด้นมาเล่าเรียนปริญญาโทถึงประเทศเกาหลีใต้ถูกแฟนหนุ่มทอดทิ้งอย่างไม่ไยดี ความโดดเดี่ยวในต่างบ้านต่างเมืองทำให้เธอเหมือนตายทั้งเป็น ยังดีที่เจ้าหล่อนยังมีหนังสือนิยายเรื่องโปรดเป็นเพื่อนปลอบใจ เสียเพียงอย่างเดียวที่นางเอกในเรื่องน่าหมั่นไส้ไปสักนิด ชายหนุ่มในเรื่องพากันหลงรักทั้งพระเอกพระรอง ต่างจากเธอที่หัวเดียวกระเทียมลีบ น่าหมั่นไส้ยิ่งกว่าเมื่อเห็นพระรองอย่าง ‘คิมคังยู’ ท่านรองเจ้ากรมที่รักมั่นต่อนางเอกมากเสียจนสละชีวิตให้ได้ ถ้าหากเธอเป็นนางเอกนิยายล่ะก็ คงไม่รอช้า เลือกท่านรองเจ้ากรมมาตบแต่งเป็นสามีแล้ว แสนดีขนาดนั้นต้องอย่าให้หลุดมือ! เมื่อหลุดปาก ทั้งสวรรค์และยมโลกจึงบันดาลให้หญิงสาวลืมตาตื่นมาพร้อมกับร่างหนาของชายหนุ่มแปลกหน้าในชุดโบราณ “ที่แห่งนี้...ใช่โชซอนหรือเปล่าแม่นาง” คุณพระ! เขาหลุดออกมาจากนิยายเหรอเนี่ย!?
อกหักไม่ยักตาย...
รู้ทั้งรู้แต่หญิงสาวไม่อาจห้ามน้ำตาไม่ให้หลั่งรินอาบพวงแก้มได้ ดวงตาโตดุจกวางและขนตาหนาเป็นแพเปียกชื้นครั้งแล้วครั้งเล่า ปลายจมูกโด่งรั้นแดงเรื่อจากการถูกความสากของทิชชูที่ใช้ซับใบหน้าเสียดสี เจ้าหล่อนยังไม่เข้าใจว่าตนทำหน้าที่ขาดตกบกพร่องในฐานะคนรักอย่างไร ฝ่ายชายซึ่งคบหาดูใจกันมาตั้งแต่สมัยเรียนจบปริญญาตรีในไทยถึงได้ปันใจไปหารักจากหญิงอื่นจนถึงขั้นบอกเลิกเธออย่างไร้ปรานีอย่างนี้ ร้ายกว่านั้นคือถ้าเธอไม่เห็นด้วยตาตัวเองว่าเขามีคนอื่น เขาก็ยังจะคงปิดบังไปเรื่อยๆ ประหนึ่งเธอเป็นคนโง่ รู้ตัวอีกที บนศีรษะก็มีเขางอกยาวคู่หนึ่งแล้ว
ทั้งที่เธออุตส่าห์ดั้นด้นทำทุกอย่างเพื่อที่จะมาเรียนต่อปริญญาโทที่ประเทศเกาหลีใต้เพียงเพราะอยากอยู่ใกล้เขาแท้ๆ เพียงไม่ถึงปีกลับทอดทิ้งเธออย่างไม่มีเยื่อใยอย่างนี้ มันหมายความว่าอย่างไรกัน!
ยิ่งคิดก็ยิ่งแค้น มือเรียวขยำทิชชูเป็นก้อน โยนทิ้งลงถังขยะสุดแรงก่อนจะกระชากเอาทิชชูแผ่นใหม่จากกล่องมาซับหยดน้ำตาบนใบหน้าอีกครั้ง ในหัวมีคำก่นด่าอดีตคนรักเต็มไปหมด แต่ก็ไม่มีคำใดที่จะปรามาสผู้ชายคนนั้นได้ดีเท่ากับคำที่แวบเข้ามาในหัวเธอครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างประโยคนี้เลย
ผู้ชายเฮงซวย!
อธิบายคุณลักษณะของอดีตชายคนรักได้ดีเลยทีเดียว
แต่ถึงจะรู้ว่าเขาเฮงซวยแค่ไหน สมองก็ไม่อาจลบเลือนภาพใบหน้าของไอ้เวรนั่นได้ หัวใจเองก็ไม่อาจหยุดรักในวินาทีนี้ได้เช่นกัน มันยังเร็วไปที่เธอจะตัดใจได้
เพิ่งถูกบอกเลิกมาสดๆ ร้อนๆ วันนี้ ใครมันจะไปตัดใจได้ ของแบบนี้มันต้องใช้เวลา…
ปลอบใจตัวเองเสร็จ มีนาก็ยกมือขึ้นปาดน้ำตา ดูท่าทิชชูคงจะไม่พอสำหรับเธอเสียแล้ว ก่อนที่เธอจะเอื้อมไปหยิบเอาขวดเหล้าโซจูที่หิ้วมาจากซูเปอร์มาร์เก็ตแถวอพาร์ตเมนต์มากระดกดื่ม รสชาติฝาดคอทำเอาสาวเจ้าเบ้หน้าเหยเก ปกติแล้วเธอไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สักเท่าไรด้วยเธอไม่ใช่พวกคอแข็งอะไรนัก ทว่าที่ตัดสินใจหิ้วมาเสียโหลหนึ่งก็เพราะกะจะดื่มเอาให้หลับ ให้ลืมผู้ชายทุเรศคนนั้นไป
ชั่วคราวก็ยังดี ขอแค่ให้ได้ลืมก็พอ...
คิดอย่างนั้นก็กระดกดื่มไปอีก หากแต่ทนกระดกดื่มไปได้ไม่เท่าไร มีนาก็ต้องยอมแพ้ วางขวดโซจูลง ทิ้งตัวลงนอนบนพื้น มองเพดานห้องแคบๆ พลันปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาอีกรอบ
ไม่ได้อยากจะร้องไห้เลย แต่มันห้ามไม่ได้
ผู้ชายหน้าพลาสติกคนนั้นกล้าดีอย่างไรมาทำให้ฉันร้องไห้! จมูกก็ทำ คางก็เหลา ตาก็กรีด กรามก็ทุบ พลาสติกทั้งหน้า แถมสมองยังฉีดโบท็อกซ์จนโง่เง่า รักลงไปได้ยังไงกันมีนา!
ในเวลานี้อะไรที่เคยว่าดีก็ไม่ดีอีกแล้ว มีนาพยายามหาข้อเสียของอีกฝ่ายมาพร่ำสะกดจิตตัวเองให้เลิกคิดถึงเขา แต่ภาพบาดตาบาดใจยามเห็นชายหนุ่มมากับคนรักใหม่ก็กระตุ้นให้ความรวดร้าวในใจของหญิงสาวทวีมากขึ้น
ความจริงเขาก็ไม่ผิดหรอกถ้าจะทิ้งเธอไปหาผู้หญิงที่น่ารักน่าทะนุถนอมกว่า สวยกว่า เอาใจเขาได้ดีกว่าและมีอะไรๆ ที่ดีกว่า มันผิดที่เธอเองที่ละเลยเขามากเกินไป เอาแต่วุ่นวายกับเรื่องเรียนจนไม่มีเวลาให้เขาเท่าที่ควร เมื่อไม่ได้ใส่ใจเพราะคิดว่าอีกฝ่ายยังรักตนเหมือนเดิม ความชะล่าใจจึงทำให้เธอประสบกับเรื่องอย่างนี้
ถึงจะเป็นไอ้ทุเรศที่นอกใจเธอ แต่เขาก็ไม่ผิดหรอก มนุษย์ย่อมหาสิ่งที่ดีที่สุดให้กับชีวิตตัวเองอยู่แล้ว
ไม่อยากคิดโทษตัวเองสักเท่าไร แต่มันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ อย่างที่รู้กันในหมู่นักศึกษาไทยว่าประเทศเกาหลีเป็นประเทศที่ให้ความสำคัญกับเรื่องเรียนเป็นอย่างมาก ทุกคนเอาจริงเอาจังเสียจนเกินคำว่าพอดี มีนาจึงถือคติเข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตามอย่างไม่มีทางเลือก ใช่ว่าเธออยากจะหน้าดำคร่ำเครียดกับการเรียนนักหรอก แต่ในเมื่ออยู่ในสังคมอย่างนี้ก็ต้องปรับตัวเพื่อให้อยู่รอด ทว่าใครจะคิดล่ะว่าความตั้งใจของเธอมันจะส่งผลอย่างนี้
ไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย ผู้ชายคนนั้นเคยทำอะไรให้เธอบ้างกัน!
คิดวกวนกลับมาโทษอดีตคนรักอีกแล้ว นี่เธอเป็นไบโพลาร์หรือไงกันนะ เดี๋ยวโทษตัวเอง เดี๋ยวโทษแฟนเก่า อารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ ประหนึ่งประจำเดือนมาไม่ปกติก็ไม่ปาน มีนาจึงเบี่ยงเบนความฟุ้งซ่านของตนด้วยการยื่นมือออกไปควานหาหนังสือจากกระเป๋าที่วางระเนระนาดอยู่บนพื้น ก่อนจะคว้ามันขึ้นมาดูหน้าปก มันเป็นหนังสือนิยายชื่อเรื่อง ‘จนกว่าเราจะพรากจากกัน’ เป็นนิยายรักธีมพีเรียดเกาหลีที่ดำเนินเรื่องอยู่ในยุคสมัยโชซอน1ว่าด้วยเรื่องรักสามเส้าของหนึ่งหญิงสองชายภายใต้ความขัดแย้งทางการเมือง
หนึ่งหญิงเป็นบุตรสาวของขุนนางตกอับตระกูลหนึ่ง หนึ่งชายเป็นบุตรนอกสมรสของขุนนางผู้มีอำนาจและเป็นคู่หมั้นของหญิงสาวซึ่งเป็นผู้หลงรักนางเอกเพียงฝ่ายเดียว ส่วนอีกหนึ่งชายหนุ่มเป็นคนไร้ยศศักดิ์ที่พยายามผลักดันตัวเองให้ขึ้นมาอยู่ในวังวนแห่งการแย่งชิงและเป็นคนรักของบุตรสาวตระกูลขุนนางผู้นั้น
พล็อตเรื่องน้ำเน่า แต่นับว่าเป็นนิยายเรื่องโปรดของเธอและยังเป็นเรื่องที่โด่งดังในอินเทอร์เน็ตมากทีเดียว ได้รับการพูดถึงว่ามีชั้นเชิงทางวรรณศิลป์และวางปมปริศนาต่างๆ ในเรื่องได้ดี เสียอย่างเดียวคือนิยายออกมาได้เล่มที่สามแล้วยังไม่มีวี่แววจะจบเลยแม้แต่น้อย ได้ยินมาว่านักเขียนหยุดเขียนไปดื้อๆ การเคลื่อนไหวบนอินเทอร์เน็ตก็ไม่มี ซ้ำบรรดานักอ่านยังไม่มีใครรู้ว่าผู้เขียนคือใคร รู้จักกันแต่เพียงนามแฝงบนเว็บไซต์ที่ลงนิยายให้อ่าน สำนักพิมพ์ที่เป็นผู้เช่าซื้อลิขสิทธิ์นิยายเรื่องนี้ก็ปิดเงียบแม้ว่าจะถูกแฟนหนังสือโวยวาย ซ้ำยังให้คำตอบไม่ได้ด้วยว่านิยายเรื่องนี้จะจบเมื่อไร ขนาดเล่มต่อไปออกเมื่อไรยังบอกไม่ได้เลย
ความหวังริบหรี่ มีแววถูกลอยแพสูง แต่ถึงอย่างนั้น มีนาก็ยังจะซื้อนิยายเรื่องนี้มา และก็ไม่ได้มีอารมณ์จะมาสนใจเรื่องของคนอื่นในตอนนี้ด้วย เธอพยายามเพ่งสมาธิอ่านเนื้อหาในหนังสืออย่างสุดความสามารถ หากแต่การอ่านนิยายเรื่องโปรดของเธอในวันนี้มันช่างไม่ได้อรรถรสเอาเสียเลย อ่านไปก็หงุดหงิดไปกับการพร่ำพรรณาของพระรองที่มีต่อนางเอก
‘แม้ตัวข้าต้องตาย ข้าก็จะขอรักมั่นเพียงเจ้า’
‘ต่อให้ดวงใจของเจ้าไม่เคยมีข้า ข้าก็จะรักเพียงเจ้า’
‘ข้า...คิมคังยูจะขอรักเพียงแต่เจ้า’
รักกันเข้าไป น่ารำคาญ!
โสดแล้วพาลคือมีนาคนนี้นี่เอง ยิ่งอ่านยิ่งอารมณ์เสีย ไม่รู้ว่าผู้ชายคนนี้จะรักผู้หญิงที่ไม่เคยเห็นค่าตัวเองไปถึงไหน นางเอกก็เล่นตัวเหลือเกิน ทั้งที่อีกฝ่ายออกจะแสนดี ดูแลใส่ใจมากกว่าพระเอกของเรื่องเสียอีก
ถ้าจะไม่ชายตาแลมองขนาดนี้ล่ะก็นะ เสียของชะมัด!
อดคิดไม่ได้เลยว่าถ้าเธอเป็นยัยนางเอก เธอคงจะเป็นฝ่ายตบแต่งผู้ชายที่ชื่อคิมคังยูคนนั้นเป็นสามีโดยไม่ต้องรอให้ฝ่ายนั้นพาผู้ใหญ่มาทาบทามแล้ว ดีไม่ดีจะเป็นฝ่ายจับพระรองปล้ำด้วย
ยิ่งอ่านก็ยิ่งหงุดหงิดที่นางเอกหักหาญน้ำใจพระรองอย่างไม่น่าให้อภัย
ถ้าไม่เอาก็ส่งมานี่ คิดว่าผู้ชายดีๆ อย่างนั้นหาจากที่ไหนบนโลกนี้ได้อีกหรือไงแม่คนเรื่องมาก!
อินอะไรเบอร์นี้ กระแทกหนังสือลงบนพื้น ดันตัวขึ้นนั่ง ยกมือไหว้ท่วมหัวไปอีก
“ถ้าสวรรค์มีจริงหรือนรกมีตาก็ส่งผู้ชายคนนี้มาให้ลูกด้วยเถ๊อะ ผู้ชายดีๆ แบบนี้ ถ้าแม่นั่นไม่เอา ลูกจะเอาเอง สาธุ!”
กะอ่านนิยายให้คลายเครียดแท้ๆ กลายเป็นเครียดกว่าเดิมเสียอีก
มีนาพ่นลมหายใจออกมาเต็มแรง คว้าขวดโซจูมากระดกดื่มระบายความหัวเสียอีกครั้ง ตอนนี้ไม่มีอะไรทำแล้วจึงเข้าสู่โหมดเครียดรับประทาน ซัดทุกอย่างที่ซื้อมาจากซูเปอร์มาร์เก็ตเข้าปาก ความขมฝาดของเหล้าโซจูในตอนแรกเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นรสชาติหวานล้ำเมื่อเริ่มรู้สึกมึนเมา
ไม่แน่ใจนักว่าเธอดื่มไปกี่ขวด รู้เพียงแต่ว่าสิ่งสุดท้ายที่เธอเห็นคือภาพผนังห้องหมุนคว้างก่อนจะผล็อยหลับไปโดยไม่รู้ตัว
เมื่อมนุษย์เพศชายเกิดการวิวัฒนาการทางร่างกาย ผู้ชายกลุ่มหนึ่งจึงสามารถตั้งท้องได้ และเพราะความเมาชนิดหลุดโลกในคืนวันนั้น ‘นภัทร’ เดือนคณะสุดหล่อจึงตื่นขึ้นมาพร้อมกับความจริงว่าตัวเองจัดการรวบหัวรวบหางลากหลืบคณะอย่าง ‘สิงหา’ ไปมี one night stand เป็นที่เรียบร้อย เรื่องควรจะจบลงแค่นั้น แต่ไม่จบเมื่อชีวิตน้อยๆ ถือกำเนิดขึ้น นภัทรหายตัวไป กลับมาอีกครั้งพร้อมกับข่าวลือประหลาดๆ ก่อนสิงหาจะพบว่าต้นเหตุของข่าวลือคือเด็กหญิงตัวน้อยอย่าง ‘น้องณดา’ ที่สิงหาสงสัยเหลือเกินว่าจะเป็นลูกของเขา “ให้เรียกนายว่าพ่อไม่ได้หรอก น้องณดาไม่ได้ลูกของนาย” “งั้นเรียกป๊ะป๋าก็ได้” “ไม่ได้” “แด๊ดดี้” “นี่...พอเลย” “ดาดา” คำเรียกที่หลุดจากปากของเด็กหญิงตัวน้อยทำเอาคุณพ่อกำมะลอยิ้มหน้าบาน ปฏิบัติการทวงคืนความเป็นพ่อต้องมา ต่อให้นภัทรไม่ยอมรับ งั้นสิงหาก็ขอเข้าทางลูกสาวตัวจิ๋วก็แล้วกัน! รับผมเป็นพ่อของลูกเถอะนะครับ!
เพราะไปตีกับเกรียนคีย์บอร์ดที่บังอาจเอานิยายเธอมาวิจารณ์หยาบๆ คายๆ ว่างานเธอเชิดชูระบอบปิตาธิปไตย ตามมาด้วยการดูแคลนเหยียดหยามทางเพศสภาพอีกหลายอย่าง ทำเอา ‘อาคิรา’ นักเขียนนิยายประโลมโลกถึงกับเลือดเฟมินิสต์ในกายเดือดพล่าน กล้าดียังไงมากล่าวหาเธออย่างนี้ งานเธอถึงจะเป็นงานประโลมโลก แต่ใช่ว่าจะเชิดชูระบอบชายเป็นใหญ่สักหน่อย! ต้องตามไปตบตีจนกว่าจะชนะ เถียงแพ้รอบนั้น แต่คนไม่แพ้ ตามหาแอคเคาทน์ของคนที่ใช้นามแฝงว่า ‘เวนไตย’ ไปจนเจอเข้ากับตอจังเบ้อเร่อ โดยหารู้ไม่ว่าเวนไตยคนนี้ หาใช่ไอ้เวรตะไลที่ประนามหยามเหยียดแต่อย่างใดไม่ ทว่าเป็นบรรณาธิการหนุ่มผู้คว่ำหวอดในวงการวรรณกรรมสร้างสรรค์สังคมต่างหาก “ฉันจะทำให้ดูว่างานเขียนฉันมันไม่ได้เชิดชูระบอบชายเป็นใหญ่!” “งั้นก็ลองเขียนมาดู ผมอยากอ่านเหมือนกัน อยากรู้ว่านักเขียนอย่างคุณจะทำได้ดีสักกี่น้ำ” โดนท้าทายมาถึงกับปรี๊ด คอยดูเถอะ เธอจะเอารางวัลมาฟาดหน้าไอ้เวรตะไลนี่ให้ได้เลย!
“ฉันจะเป็นเมียของนายดินค่ะ” ไม่รู้ว่าส้มหล่นหรือโชคร้ายกันแน่ที่จู่ๆ คุณหนู ‘หยาดฟ้า’ ของตระกูลเศรษฐีเมืองกรุงก็มาถวายตัวยอมเป็นเมียของ ‘ไอ้ดิน’ อย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยเสียอย่างนั้น ไอ้ดินค่อนข้างจะงุนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ก็จะไม่ให้งงได้อย่างไร เขาไม่รู้จักมัดจี่กับเจ้าหล่อนนี่ จู่ๆ ก็มาบอกว่าจะเป็นเมียเขา เป็นใครก็งงทั้งนั้นแหละ! ก่อนที่เขาจะได้รับรู้ว่าเหตุนี้เกิดขึ้นเพราะหยาดฟ้าถูกบิดาบังคับให้แต่งงาน เธอจึงหนีมาอยู่ที่บ้านพักตากอากาศในต่างจังหวัด และได้เจอกับกุลีหนุ่มที่นี่ ประจวบเหมาะกับที่บิดาของเธอโทรมาคาดคั้นให้เธอกลับไปแต่งงานพอดี เธอถึงได้ลั่นวาจานี้ออกมาให้บิดารู้ว่าเธอมีผู้ชายคนใหม่ที่ยินยอมพร้อมใจจะเป็น ‘เมีย’ ของเขาแล้ว หาใช่ผู้ชายที่บิดาจัดเตรียมมาให้ สำหรับไอ้ดิน นี่คงไม่ใช่ส้มหล่นหรอก เป็นคราวเคราะห์เสียมากกว่า เขาจึงรีบบอกปัดหัวขวิด “ไม่ล่ะครับคุณหนู ผมคงไม่อาจเอื้อมไปเด็ดดอกฟ้าหรอก ผมก็แค่กุลีใช้แรงงานไปวันๆ จะเอาเงินที่ไหนไปเลี้ยงให้คุณหนูอยู่ดีกินดีได้” “ไม่ต้องกินดีอยู่ดีก็ได้ แค่ให้ฉันอยู่ด้วยก็พอ” “ให้อยู่ด้วยก็ไม่ได้ครับ ก็คุณหนูน่ะเป็น...” “เป็นเมียนายดินไงล่ะ” เป็นที่ไหนกัน เขายังไม่ได้ซั่มเธอเลยสักกะยก! ไอ้ดินปวดขมับตุบๆ ขณะที่หยาดฟ้าเชื้อเชิญเขาเป็นการใหญ่ “แล้วนี่มัวรออะไรอยู่ รีบพาฉันเข้าบ้านสิ จะได้ทำอะไรอย่างที่ผัวเมียเขาทำกัน” เธอรู้หรือเปล่าว่าพูดถึงเรื่องอะไรอยู่น่ะ!? ไอ้ดินไม่แน่ใจนัก แต่แวบเดียวก็แน่ใจแล้ว เพราะจู่ๆ หญิงสาวก็ดึงคอเสื้อให้หน้าอกอิ่มล้นทะลักออกมา ไอ้ดินมองจ้องตาไม่กะพริบ ได้สติมาอีกครั้งก็ตอนที่สาวเจ้าเอ่ยปาก “มาสิพี่ดิน มาเอากัน ฟ้าพร้อมจะเป็นเมียพี่แล้ว” ดูพูดจาเข้า เรียกแทนตัวด้วยชื่อ แทนเขาว่าพี่ชวนให้เอ็นดูอีก! โอ๊ย! ไอ้ดินจะบ้าตาย! เห็นทีเขาคงหนีไม่พ้นการถูกยัดเยียดความเป็น ‘ผัว’ ด้วยฝีมือหยาดฟ้าแล้วล่ะ
เพราะอกหักจากคนที่แอบชอบมานาน ทำให้ ‘ภีม’ พาตัวเองไปในที่อโคจรเพื่อที่จะระบายความเศร้าเสียใจออกไปบ้าง หากทว่าในคืนนั้น เขากลับได้พบกับชายแปลกหน้าอย่าง ‘สุดเขต’ ที่บังเอิญเข้ามาพูดคุยด้วย ทั้งสองเกือบจะลงเอยกันด้วยความสัมพันธ์ข้ามคืน หรือที่เรียกกันว่า One night stand หากทว่าก็เกิดเรื่องวุ่นๆ เสียก่อน ก่อนที่ภีมจะพบว่าผู้ชายที่เขาได้เจอในคืนนั้น เป็นคนคนเดียวกับคนที่เขาแอบชอบตกหลุมรัก ให้ตาย! นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน! ขณะเดียวกัน ปฏิบัติการ ‘ลัก’ ความรักของภีมก็เริ่มต้นขึ้น เมื่อสุดเขตไม่สามารถลืมความน่ารักของภีมลงได้เลย เขาต้องเอามาให้ได้ ทั้งตัวภีม และความรักของภีม จะเอามาให้ได้ทั้งหมดเลยคอยดู!
แม้ขึ้นชื่อว่าเป็นปีศาจ ทว่าปีศาจกวางอย่าง ‘ลู่ลู่’ กลับหาได้พิสมัยการระรานมนุษย์สักเท่าไรนัก สะอาดบริสุทธิ์เสียจนแทบจะลุแก่ตบะแล้ว ทว่า... ชีวิตของเขาก็หาได้สงบสุขอีกต่อไปเมื่อนักพรตปราบปีศาจอย่าง ‘เยี่ยนเฉิน’ หนีตายจากการถูกล่าเพราะดันไปต้มตุ๋นชาวบ้านวิ่งทะเล่อทะล่ามาสลบอยู่หน้าถ้ำ ถึงจะเป็นปีศาจแต่ก็หาได้ไร้น้ำใจนัก มอบไมตรีช่วยเหลืออย่างไม่เกี่ยงงอน หากแต่เยี่ยนเฉินกลับตอบแทนบุญคุณด้วยการทำให้ชีวิตของลู่ลู่แปดเปื้อนด้วยมลทิน บีบบังคับให้ปีศาจกวางน้อยรวมหัวในแผนต้มตุ๋นชาวบ้านเพื่อเอาคืน! นักพรตจอมกะล่อนผงาด ใช้ชีวิตอย่างสำราญ ขณะที่ปีศาจน้อยถูกจิกหัวใช้ให้ไประรานชาวบ้านไม่เว้นวัน อะไรไม่ว่า เยี่ยนฉินยังขยันลูบหางเล็กๆ ของเขาเสียเหลือเกิน ไม่รู้หรือไงว่าตรงนั้นน่ะ...มะ...มัน... ...ทำให้ตัวร้อนผะผ่าวนะ! ต้องมีสักวันที่พลั้งเผลอไปมากกว่านี้แน่ สวรรค์! ลู่ลู่ผู้นี้จะหลั่งน้ำตาเป็นสายโลหิตแล้ว!
หากผู้ใดเชื่อว่าทะเลทรายผืนนี้โหดร้าย ผู้นั้นย่อมเชื่อในสิ่งที่ผิด เพราะสิ่งที่โหดร้ายกว่าผืนทะเลทรายแห้งแล้ง คือกองกำลังโจรทะเลทรายของ 'อัลมิราน' ผู้นี้ต่างหาก โหดร้าย...ชั่วช้า...เลวสามานย์ ดูเหมือนจะเป็นคำสร้อยที่พ่วงท้ายชื่อของโจรหนุ่มนามเลื่องลือไปเสียแล้ว แต่เขาจะสนใจสิ่งใดกัน ในเมื่อเขาถูกตราหน้าว่าชั่ว เขาก็จะเป็นคนชั่วให้สมดั่งที่ถูกบีบคั้น เพียงเพื่อให้ได้อัญมณีแห่งสุลต่านมาครอบครอง เขาก็ไม่เกรงกลัวสิ่งใดแล้ว หากแต่หารู้ไม่ว่าสวรรค์จะนำพาให้เขาพบกับอัญมณีมีชีวิตแห่งทะเลทราย...'จามิล' นักระบำร่อนเร่ผู้มีเสน่ห์เย้ายวน เพียงได้ชมระบำทะเลทรายของจามิลแค่ครั้งเดียวเท่านั้น หัวใจของอัลมิรานก็ถูกครอบครองไปสิ้น โดยหารู้ไม่ว่าตนกำลังก้าวเข้าสู่หุบเหวอเวจีแสนหวานที่จะฉุดคร่าชีวิตเขาไปเสียแล้ว...
ตลอดระยะเวลาสามปีของการแต่งงาน เธอรู้สึกสิ้นหวัง ที่ถูกบังคับให้เซ็นใบหย่า ทั้งๆที่เธอกำลังท้อง เธอใจสลายกับความไร้มนุษยธรรมของเขา กระทั่งเธอออกไปจากชีวิตของเขา เขาเพิ่งรู้ตัวว่าเธอคือรักแท้ของเขา ไม่มีวิธีใดที่จะเยียวยาหัวใจที่บอบช้ำของเธอให้หายขาดได้ เขาจึงมอบความรักทั้งหมดของเขาให้แก่เธอเพื่อชดเชย
ถึงจะโกรธ เกลียด เคียดแค้นแค่ไหน แต่หัวใจไม่อาจต้านรักได้ ----------------------------------------- ไรยาค่อยๆ คลานไป ทันทีที่เจ้าบ่าวหันหน้ามา เพื่อจะยื่นมือให้เธอจับ จะได้ไม่ล้มนั้น ยิ่งจะทำให้เธอเกือบล้มไปเพราะเขาแล้ว ในหัวสมองก็ประมวลผลออกมาได้คำตอบทันที ว่าคนที่เธอเฝ้าครุ่นคิดว่าเป็นใครมาตลอดสองอาทิตย์นั้น แท้จริงก็คือใครกันแน่ในที่สุด ‘Mr. H. Hhemmhawattana ก็คือหรัญญ์ เหมวัฒน์’ ‘หรือพี่ฮั้นท์ของสาวๆ ที่เธอมักจะได้ยินเรียกขานกันนี่เอง’ ‘เขากลายมาเป็นเจ้าบ่าวเธอได้ยังไง’ ‘เขาจะมาแต่งงานกับเธอทำไม’ เท่าที่รู้มา เขาไม่ได้ร่ำรวยระดับร้อยล้านพันล้านแน่ๆ แล้วเขาไปทำอะไรมา ถึงได้มีเงินมากมายขนาดเอามาทุ่มซื้อหุ้นบริษัทของพ่อเธอได้ ไหนจะไถ่บ้านคืนให้ และอีกหลายต่อหลายอย่างที่เขาจ่ายไป รวมทั้งแหวนเพชรน้ำงามและไม่น่าจะต่ำกว่าห้ากระรัตบนพานดอกไม้ตรงหน้าเธออีก ---------------------------------------------------------------------------------------- ฮั้นท์ (หรัญญ์ เหมวัฒน์) นักธุรกิจหนุ่ม ผู้มีชีวิตที่พลิกผันจากเลวร้ายกลับกลายเป็นดี ซึ่งเขาเองก็ตั้งตัวไม่ทัน แต่ทั้งหมดนั้น มาจากความดี ความขยันหมั่นเพียรของเขา บวกกับโชคช่วย ถึงเวลาที่เขากลับมายืนอยู่จุดเดิม ในฐานะใหม่ ที่ใครต่อใครต่างงุนงง โดยเฉพาะเพื่อนๆ หรือแม้แต่กับผู้หญิงที่เคยเมนเขามาแล้ว และเขาก็จะทำให้ผู้หญิงพวกนั้นได้รู้ ว่าไม่ควรเมินเขาจริงๆ ---------------------- ย้า (ไรยา เจริญรัตชตะ) ทายาทนักธุรกิจหลายร้อยล้าน ที่ชีวิตพลิกผัน จากดีกลายเป็นเลวร้ายในไม่กี่ปี จนเธอกับครอบครัวก็ตั้งตัวไม่ติด รับภาวะย่ำแย่แทบไม่ทัน และถึงเวลาที่เธอจะต้องเลือก ระหว่างช่วยกู้ทุกอย่างของครอบครัวคืน กับทิ้งทุกอย่างไปแบบไม่เหลียวหลัง เพื่อไปเลียแผลหัวใจจากชายที่เธอรักแทบตาย สุดท้ายเธอจะเลือกทางเดินยังไง จะไปต่อหรือพอแค่นี้ ---------------------------------------------------------------------------------------- เมียแต่งท่านประธาน Chairman's Wife ตอนแรกคิดว่าจะให้นิยายที่เรื่องนี้มีแค่ชื่อภาษาอังกฤษเท่านั้นค่ะ ที่เหลือให้รี้ดไปตีความเอาเอง ว่าควรจะใช้ภาษาไทยว่าอะไรดี ระหว่าง แรงรัก - รั้งรัก - รังรัก และใช้นามปากกาพิมรภัค แต่สุดท้ายก็คิดชื่อใหม่ได้แล้วค่ะ และตัดสินใจใช้นามปากกาหลัก นั่นคือ กันเกราค่ะ เพราะแว้ปไปเขียนอวตารหลายเรื่องแล้ว และไม่ได้ออกนามปากกานี้นานแล้ว ส่วนแนวก็จะเพิ่มดราม่าเข้าไปอีก ซึ่งจะเป็น Signature ของกันเกราอยู่แล้ว รี้ดอยากได้มาม่าเจ้มจ้นแค่ไหน บอกกันได้เด้อ ----------------------------------------------------------------------------------------
"นางเป็นบุตรีผู้สูงศักดิ์ของฮูหยินเอกของจวนเสนาบดี นางมีหน้าตาโดดเด่น ทั้งอ่อนโอนและมีน้ำใจไมตรีต่อผู้อื่น แต่... นางทำดีต่อป้าของนาง นางกลับฆ่าแม่ของนางตาย นางรักเอ็นดูน้องสาวของนาง แต่น้องสาวกลับแย่งสามีของนางไป นางคอยสนับสนุนและดูแลสามีของนางอย่างสุดหัวใจ แต่สามีกลับทำให้นางตายทั้งกลม...ตระกูลฝ่ายมารดาของนางก็ถูกประหารชีวิตทั้งตระกูลด้วย นางตายตาไม่หลับและสาบานว่าหากมีชาติหน้า นางจะไม่เมตาตาต่อใครอีก ใครก็ตาม กล้ามาทำร้ายข้า ข้าจะล้างแค้นด้วยชีวิตทั้งตระกูลของพวกเจ้า เมื่อเกิดใหม่อีกครั้ง นางอายุได้สิบสี่ปี นางสาบานว่าจะต้องเปลี่ยนชะตากรรมและแก้แค้นชาติก่อน ป้านางใจ้ร้าย นางจะใจร้ายกลับยิ่งกว่านาง นางคิดจะได้ครองตำแหน่งฮูหยินงั้นเหรอ บอกเลยไม่มีทาง! ส่วนน้องสาวชอบผู้ชายชั่ว ๆ นักไม่ใช่หรือ ได้!ข้าจะยกให้เลย ส่วนชายชั่วนั่น ข้าจะทำให้เจ้าไม่สามารถมีทายาทได้อีกตลอดทั้งชาติ!แต่ข้าจะแก้แค้น เหตุใดเจ้าต้องมาช่วยข้าด้วย?"
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
หลังจากแต่งงานกันสามปี เจียงหยุนถังพยายามสุดความสามารถเพื่อช่วยชีวิตสามีที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ โดยไม่คาดคิด ว่าเขาได้ละทิ้งเธอเหมือนกับขยะ รับรักแรกของเขากลับประเทศและตามใจเธอทุกอย่าง เจียงหยุนถังที่ท้อใจตัดสินใจหย่า และทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอที่กลายเป็นภรรยาที่ถูกทอดทิ้งจากตระกูลเศรษฐี อย่างไรก็ตาม เธอกลับเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างกะทันหันเป็นหมอเทวดาที่พบเจอยาก "Lillian"แชมป์แข่งรถที่มีฐานแฟนคลับจำนวนมาก และยังเป็นนักออกแบบสถาปัตยกรรมระดับโลกอีกด้วย ชายร้ายหญิงชั่วคู่นั้นเยาะเย้ยเธอว่า เธอจะไม่มีวันหาคู่รักได้ใ แต่ไม่คาดคิดว่าลุงของอดีตสามีของเธอ ซึ่งเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดทำกแงทัพกลับมาเพียงเพื่อขอแต่งงานกับเธอ
หลังจากแต่งงานกันมาสองปี สามีของเธอไม่เคยเหยียบเข้าไปในบ้านและมองดู 'ภรรยาขี้เหร่' ของเขาเลย แถมเขาก็มีเรื่องอื้อฉาวกับดาราหน้าใหม่หลายคนทุกวัน ซูเหว่ยทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอตัดสินใจปล่อยเขาไป ต่อไปก็ต่างคนต่างไปเลย แต่เมื่อเธอเสนอเรื่องหย่า... ฟู่เหยียนอันพบว่านักออกแบบในบริษัทนั้นสะดุดตาเป็นพิเศษ เขาค่อยๆ ทำความรู้จักกับเธอเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาค้นพบตัวตนที่แท้จริงของเธอเข้า เขาเสียใจแล้ว