“อย่าทำฉันอีกเลย ฉันไม่ไหวแล้วค่ะ” เรย์ไม่พอใจสิ่งนี้แต่ไม่อยากเสียงดังให้อารมณ์หดหายเพียงบอกให้เธอรู้ว่าร่างกายเธอพร้อมสำหรับเขามากแค่ไหน มือใหญ่โลมลูบหน้าอกอวบอิ่มซึ่งชื้นไปด้วยเหงื่อเพราะแรงพิศวาสที่เพิ่งจบลง และลูบไล้ต่ำลงไปสู่เนินเนื้อที่ยังชุ่มฉ่ำพร้อมพรั่ง เสียงครางเหมือนแมวทำให้เขากระซิบเสียงพร่า “เลิกต่อต้านและบอกว่าไม่ เธอพร้อมยิ่งกว่าพร้อม” “แต่ฉันเหนื่อย” เสียงอุทรณ์ไม่นำพาให้ร่างกายแข็งแรงที่ต้องการปลดปล่อยอีกครั้งหยุดมือ ฐิตานันท์จ้องนัยน์ตาสีฟ้า ผู้ชายที่เป็นพ่อของลูก แต่ตอนนี้เขายัดเยียดบทนางบำเรอชั่วคราวให้กัน อยากจะร้องไห้แต่ครู่ต่อมาเธอต้องครวญครางอย่างน่าอาย เพราะคนแรงเยอะนำพาเธอสู่บทเรียนแห่งความเร่าร้อน เสียวซ่าน เหมือนคืนแรกที่เจอกันเพราะความบังเอิญ คืนนั้นที่เธอไม่เคยลืมเลือนมันจากหัวใจ
คฤหาสน์ดลยาออกแบบสไตน์โมเดิร์นสเปนนิชมีเนื้อที่ประมาณสามไร่ตั้งอยู่ใกล้แม่น้ำเจ้าพระยา ใกล้ตึกใหญ่มองเห็นเรือนไทยซึ่งไว้รับรองแขกสีขาว2 หลัง อยู่ในสวนท่ามกลางน้ำตกร่มรื่นเสมือนอยู่ธรรมชาติสรรสร้างขึ้นมา เชื่อมต่อทางเดินไปยังเรือนไทยคือสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ไว้รองรับแขก ซึ่งแยกจากสระว่ายน้ำส่วนตัวของเจ้าของคฤหาสน์
ยามเช้าตรู่ดลลธี เรย์ วังชนันท์ ใช้เวลาอยู่บนเตียงเพื่อระบายฮอร์โมนที่พลุกพล่าน ชายหนุ่มเร่งความเร็วของสะโพกสอบเพื่อกิจกรรมเข้าจังหวะจะได้ลุล่วง สองมือขาวคนใต้ร่างดึงรั้งตนเพื่อแนบชิดใกล้ ชายหนุ่มไม่สนใจเพียงทำตามที่ตนต้องการ คือโบยบินสู่สวรรค์ไม่ถามไถ่คนที่ไขว่คว้าหาความสุข
เธอเสร็จหลายครั้ง ครั้งนี้เรย์จะตามใจร่างกายตน “อ้า” ร้องสุขสม ตอกอัดรุนแรงเมื่อถึงจุดหมาย กดแช่นิ่งนานอย่างที่ชอบ นัยน์ตาสีฟ้าหลับตาพริ้ม
“เรย์มีอะไรกันแล้วทำไมชอบหลับตาอยู่เรื่อยโมอยากให้คุณสบตามองโมนะคะ”
ร่างใหญ่เหงื่อท่วมตัวถอดถอนแก่นกายออกจากร่างอวบอัด แต่ยังคงหลับตา คู่หมั้นสาวแง่งอน “ได้ยินโมหรือเปล่า”
“เรื่องมากน่าไปอาบน้ำได้แล้วต้องออกไปต้อนรับเพื่อนผม”
“ตอบมาก่อนสิผู้ชายเย็นชา”
โมริสาตื้อไม่เลิก ใจกล้าแกล้งเอามือไปจับก้นเปลือย มือใหญ่เล็บยาวนิดหน่อยตกแต่งสะอาดสะอ้านป่ายปัดมือเรียวให้ห่าง
“อย่าเซ้าซี้สิ ทำให้เสร็จหลายครั้งอย่างที่ชอบแล้วนะ เราตกลงกันแล้วนี่น่า”
“ก็ได้ ก็ได้ เรย์จอมบงการ และไร้หัวใจ”
ร่างอวบอัดในวัยยี่สิบหกเดินลงจากเตียง ไม่มีผ้าขนหนูติดกายแต่ก็ไม่สามารถทำให้คนด้านหลังดึงเธอไปที่เตียงเหมือนทุกๆ วันที่เขาเฉยชาเพียงเสร็จกามกิจ โมริสาปัดเรื่องวุ่นวายใจทิ้ง เธอต้องการแค่เงิน ไม่อยากคิดเรื่องอื่นให้วุ่นวายใจ หญิงสาวผิวพรรณขาวผ่องดุจน้ำนมอาบน้ำด้วยความรวดเร็วเพราะรับรู้ว่าเรย์เดินไปอาบห้องอื่น จะให้เขาเสร็จก่อนไม่ได้เดี๋ยวมีน้ำโห
ดลลธียืนอยู่กลางสายน้ำจากฝักบัว เรือนร่างหกฟุตครึ่งเหยียดตัวตรงตรง ลำคอใหญ่แหงนใบหน้าเคร่งขรึม แววตาคมหลับตาแม้สายน้ำค่อนข้างร้อนแต่ไม่ระเคืองระคายผิวสีทอง เรือนผมดำมีสีดอกเลาแซมเปียกชุ่ม ชายหนุ่มไม่ชอบน้ำเย็นตั้งแต่มาเมืองไทย แม้เมืองไทยจะร้อนแต่กลับรู้สึกว่าการโดนน้ำค่อนข้างร้อนราดรดบนเรือนร่างมันสะใจดี
ความหนาวเหน็บเคยเจอมาก่อน มันเนิ่นนานสมองนั้นควรลืมแต่ยิ่งยากลืมกลับฝังแน่นเหมือนเพิ่งเกิด ซึ่งนั่นคือเรื่องที่ตนควบคุมไม่ได้ มันบ้าสิ้นดี
มือใหญ่เอื้อมเปิดน้ำให้แรงจนกระทั่งความสดชื่นมาเยี่ยมเยือน แต่เมื่อก้มมองความเป็นชายที่ใหญ่เกินมาตราฐานซึ่งชี้โด่ชายหนุ่มอายุ 30ปี ทำเสียงจิจ๊ะอย่างขัดอกขัดใจ
เสร็จแค่หนึ่งครั้งมันไม่เคยพอสำหรับเขา แต่ให้ลากโมริสาขึ้นเตียงไม่อยากทำ เรย์ตัดสินใจใช้นิ้วมือทั้งห้ารูดขึ้นรูดลงน้องชาย นัยน์ตาที่ขรึมอยู่เป็นนิจหลับลง
ใครสักคนที่นายเรย์ต้องการคิดถึง แม้อยากจะลืมแต่ทำไม่ได้ แต่ไม่เป็นไร มีเพียงเขาที่รับรู้สิ่งนี้ ไม่มีใครล่วงรู้ความนึกคิด
ความสุข ความใคร่ ความต้องการในวันวานวิ่งอยู่ในสมอง เรย์ทำร้ายร่างกายที่แข็งขึงซึ่งรักมากสำเร็จ “อ้าสสส” แหงนหน้ามือรูดขึ้นรูดลงบนความยาวใหญ่ รีดพิษความกำหนัดออกจากตัว ลำคอใหญ่เส้นเลือดปูดโปน ร่างทุกส่วนเกร็งด้วยความสุขสม
เลิกจากอาการแบบนี้ จะมีวันนั้นหรือเปล่า ใครจะให้คำตอบได้บ้าง เรย์ใบหน้าแดงก่ำรู้สึกเกลียดตนเองเหมือนและเกลียดคนที่กำลังอยู่ในความคิดกำหนัดเมื่อครู่ ซึ่งการเกลียดจะเกิดขึ้นเพียงไม่นาน
เกลียดเพราะต้องรอคอย เขาคาดเดาว่าเป็นเช่นนั้น อย่าให้เจอจะบีบเค้นให้หนักหน่วง หลายปีที่ผ่านมาเธอไปทำอะไรอยู่กับใคร ที่ไหน และไม่ว่าเธออยู่ที่ไหน ในสถานะไหนกับใคร เขาจะเอาเธอกลับคืนมา!
ห้องเสื้อผ้ากว้างขวางซึ่งมีของใช้ครบครัน ล้วนเป็นแบรนด์ดังของช็อปอยู่ในห้างสรรพสินค้าของตน เรย์มองตู้เสื้อผ้าก่อนจะหยิบเสื้อสูทสีเทาที่ใช้ไม่บ่อยนักสวมทับเชิ้ตสีขาวเรียบกริบ กางเกงสแล็คสีเดียวกับสูทใส่เรียบร้อย ใบหน้าคมเข้มซึ่งมีหนวดเคราเสมอมองตนเองในกระจก หนวดจะปล่อยไว้อย่างนั้น เขาไม่ชินกับใบหน้าที่เกลี้ยงเกลา มือใหญ่บ่งบอกถึงคนที่เคยทำงานหนักเอื้อมไปหยิบหวีมาเสยผมให้เรียบ หันซ้ายขวาตรวจความพอใจอีกคราและเดินไปใส่ถุงเท้า รองเท้า
“พร้อมแล้วค่ะ” โมริสาเดินเข้ามา ดวงตาเฉี่ยวคมมองเธอจากหัวจรดเท้า “ชุดสวยที่สุดแล้วเหรอ”
“ทำไมถามแบบนั้น ปกติไม่เคยสนใจโมจะใส่อะไร” โมริสาก้มมองตนเอง
ชุดราตรีสั้นเนื้อผ้าดิสโก้ จั้มเอว ปาดไหล่ ผ่าแหวกหน้าขาพองาม มือข้างหนึ่งจัดแต่งสร้อยเพชรที่คอ ท่าทีนั้นบอกให้รู้ว่าเธอไม่ได้สนใจว่าคู่หมั้นจะชอบชุดของเธอหรือไม่
“ก็ไม่มีอะไร”
ดลลธีลุกขึ้นยืนก่อนหยิบมือถือมากดหาคนสนิท โมริสาเหลือบมองคนที่หล่อเพอร์เฟค
แม้จะหล่อเหลาแต่ชักจะเบื่อท่าทีเย็นชาเขาเข้าทุกวัน ถ้าไม่ติดว่าเซ็กซ์เยี่ยมและอยากได้เงินเพิ่มจากการได้เป็นคู่หมั้นเรย์ เธอก็อยากโบยบินออกจากกรงทองในบ้างครั้ง
“คิดอะไรอยู่ลงไปสิ คนขับรถมาแล้ว จะได้ไปต่อที่ซึ่งเธอต้องการ”
โมริสาสีหน้าสดชื่น ดีเสียจริงที่เรย์รู้ทันความคิด เธอจะไม่ยอมนั่งฟังเพื่อนทั้งสองพูดถึงความหลัง มันน่าเบื่อ โมริสาเดินไปเปิดประตู ดลลธีมองตามก่อนจะกดรับสายเพื่อนที่โทรเข้ามา
“ถึงแล้วเหรอจุล”
เสียงปลายสายบอกว่านั่งรอที่โรงแรม ย้ำว่าไม่ต้องรีบเพราะพนักงานที่นี่สวยน่ามองทั้งนั้น
“เที่ยวมาทั่วโลกอย่าบอกว่าจะมาสละโสดที่เมืองไทยนะ ไม่เคยเห็นออกอาการมาก่อน ”
“แปลกที่ไหนตอนรู้ว่านายหมั้นฉันยังช็อกแต่ตอนนี้ไม่แปลกใจเลย”
“ดูให้อิ่มตานะ เมื่อไปถึงเราจะคุยกันเรื่องที่ฉันรอมานาน จะมัวนั่งเหล่สาวไม่ได้”
“พาเมียมาจะสะดวกหรือ”
“คู่หมั้นเท่านั้นอย่าพูดมาก”
“ฟังดูเป็นผู้ชายที่ตามใจแฟนมาก ไม่อยากเชื่อนายจะทิ้งลายคาสโนว่า”
ดลลธีวางสาย ชินชากับประโยคนี้ ใครจะพูดอย่างไรไม่สนใจ ร่างสูงก้าวเดินอย่างมั่นคง วันนี้เขาเตรียมสมองให้ว่างไว้เพื่อบันทึกเรื่องราวของตระกูลเบสซอเนียน
ตระกูลซึ่งไม่เคยนับนายเรย์ เป็นญาติ ซ้ำฆ่าแม่เขา ทำให้ความแค้นฝังใจมาจนทุกวันนี้
อทิตยาคือหญิงสาวที่นายพลภัทรอุปการะไว้ตั้งแต่อายุสิบขวบ เธอรัก เคารพนายพลเหมือนพ่อแต่กลัวคุณหญิง ภรรยานายพลมาก ดังนั้นเมื่อโตเป็นสาวเธอก็ไม่กล้าเข้าใกล้นายพลอีก จนกระทั่งภัทรกร ลูกชายคนโตของนายพลเข้ามาแทรกซึมให้หัวใจที่ว้าเหว่อบอุ่นขึ้น เธอหลงรักเขาอย่างห้ามใจไม่ได้ เธอยอมเป็นคนในความลับ เพื่อรอวันที่จะได้ทะเบียนสมรสจากเขา แต่แล้ววันหนึ่งคนรักเขากลับมา เขาไม่รีรอที่จะมอบเงินให้เธอ ตัดสัมพันธ์ที่เธอหวงแหนลง แล้วเธอจะพูดอะไรได้ นอกจากทำตามที่เขาต้องการ ทว่าเมื่อรู้ว่าตั้งท้องเธอก็เปลี่ยนใจ อยากให้ภัทรกรรู้เรื่องลูก แต่เขากลับคิดว่าเธอโกหกเพราะคิดจะจับเขา หญิงสาวเสียใจมาก เธอยอมไปจากบ้านดลจิตรตามที่คุณหญิงสั่ง เพราะที่นี่ไม่มีใครช่วยเธอได้ นายพลเธอก็ไม่อยากให้เดือดเนื้อร้อนใจเพราะเธอ
กัญญายอมมาเป็นผู้หญิงของรอน กวี อลอนโซแทนน้องเพื่อใช้หนี้ให้พ่อ แม้เธอจะต้องทิ้งรักแรกแต่ก็ไม่สามารถหลีกหนีได้ ทว่าวันหนึ่งกลับเจอว่าน้องสาวและคนรักเก่ากำลังคบหาจะแต่งงานกัน เธอได้รับรู้ที่ผ่านมาไม่มีใครสนใจถึงความเสียสละของเธอแม้แต่น้อย กัญญารู้สึกโดดเดี่ยว เสียใจเป็นที่สุด และในเวลานั้นรอนก็กำลังจะแต่งงาน ยุติความสัมพันธ์กับเธอ ซ้ำจะยกเธอให้ลูกน้องเขา เธอไม่มีค่ากับใครเลยหรือ?
เขาทิ้งเธอไว้ไปในวันฝนพร่ำเพื่อไปหาคนรักที่รอคอยมาเนิ่นนาน ความฝันที่จะได้เคียงคู่พลันมลายลง เธอเป็นแค่คนผ่านทาง เธอจะไม่ร้องไห้ แต่ทำไม น้ำตาไหลไม่หยุดแบบนี้เล่า ------------------------ เพราะยินยอมพร้อมใจเป็นเด็กเลี้ยงของหมอดลทัช เมื่อเขาจะจากไป โดยที่ไม่บอกกล่าวล่วงหน้า ชลรัมภาจำต้องยอมรับความทุกข์ ความปวดร้าวให้ได้ ทว่าเมื่อต้องเจอหน้าเขาอยู่ร่ำไป เพราะเธอคือเพื่อนรักน้องสาวเขา เธอจะทำตัวเช่นไรดี ให้เขาไม่สมเพช ไม่เห็นน้ำตาที่ไม่มีค่าของเธอ
เพราะอนาคตของน้องสาว เพราะแม่ พลอยหวาน สาวสมองขี้เลื่อยจึงต้องมารับกรรมที่ไม่ได้ก่อ คีตะคราม เขาหล่อ แต่เขาร้าย แต่ไม่ปราณีเธอ แม้เป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ วันที่หลานชายเขาฟื้นขึ้นมาจากการหลับใหล เธอรู้ว่าตนเองท้อง ทว่าพ่อของลูก คนใจร้ายคนนั้นไม่ยอมรับฟัง เขายังต้องการให้เธอไปให้ไกลตาหลานชายของเขา แต่กลับไปบ้าน สักวันคนบ้านนั้นอาจจะรู้เรื่องน้องสาว ที่ไม่เคยเหลียวแลพี่สาวอย่างเธอ ดังนั้นเธอต้องไปหางาน หาเงินเอาข้างหน้า คลอดลูกเมื่อไหร่ จะเอามาให้พ่อเขาก็แล้วกัน ไม่โกรธแม่ใช่ไหมลูก? เธอน้ำตาไหล เธอหวังลูกจะตอบกลับเป็นประโยคเดียวกับคำถามของเธอ
เรื่องราวของอัญชลียาผู้ซึ่งยึดมั่นในความผูกพัน จนกลายเป็นความรัก แม้รู้ว่าคุณอคินของเรามีให้แค่เงินและสัมพันธ์ทางกายเธอก็ยังไม่เปลี่ยนใจจากเขา จนกระทั่งวันที่ต้องลาจากมาถึง เพราะคนรักที่เขาสัญญาจะแต่งงานด้วยกลับมาจากเมืองนอก ความผูกพันของเธอก็ดูไร้ค่าจนน่าสมเพชตนเอง และเรื่องราวที่เกิดขึ้นมากมายทำให้ความรักกลายเป็นความแค้น เรื่องราวจะเป็นอย่างไรติดตามกันในเล่มนะคะ ------ “ฉันไปนะอันอัน อย่าลืมฝากคีย์การ์ดไว้ที่เคาน์เตอร์นะ” “อะไรกันแค่คีย์การ์ด ฉันจะเอาไปทำไม” อันอัน เช็ดหน้าเดินไปหาเสื้อผ้า ดึงของใช้ตนเองออกมา” “เธอจะโมโหทำไม เอ๊ะ! หรือว่าคิดไม่ทำตามสัญญา อย่าเชียวนะ นั่นๆ ดึงไปให้หมดเลยเสื้อผ้าพวกนั้น” เขายืนมอง ปากก็พูดไล่อีกครั้ง หญิงสาวหันไปมองเขา “เลือดเย็นกับฉันจังเลยนะอคิน ทั้งที่เมื่อคืนปากบอกว่าชอบฉัน” อดไม่ได้จะตัดพ้อ แต่เขาคงฟังเป็นถ้อยคำน่ารำคาญ เพราะหันหลังหนีไปอีกครั้ง หยิบกุญแจรถขึ้น “เวลาเข้าด้ายเข้าเข็ม กำลังมันส์จะให้พูดว่าเกลียดหรือไง เธอเองก็ชอบนี่น่า พอๆ อย่าหาเรื่อง นั่นเช็คนะ ดูแลตัวเองด้วย” อย่างน้อยยังมีน้ำใจ แม้จะออกมาเพราะเธอคาดคั้น อัญชลียาหันมองเช็ค ใจแห้งเหี่ยวเดินเข้าไปแต่งตัว พร้อมกับเจ้าของห้องหรูเดินห่างไป เสียงประตูปิดลง หญิงสาวผู้ไม่เคยแสดงความอ่อนแอ นั่งลงปาดน้ำตา ขอบคุณทุกการสนับสนุนค่ะ ทรายสีรุ้ง
เขารักคนอื่น กำลังจะแต่งงานกัน ในค่ำคืนหนึ่งเธอกลายเป็นของเขาด้วยความงงๆ อยากบอกเขาให้รับผิดชอบ เพราะไม่รู้จะทำอย่างไร แต่คนที่เขาจะแต่งงานเป็นคนที่เธอรัก เคารพ อารยายอมตัดใจ แม้อุ้มท้องและโดนพ่อด่าทอ ทุบตี ว่าแย่งของคนอื่นเธอก็ไม่อาจโต้แย้ง ---------------------- “อย่าเพิ่งไป” มือใหญ่คว้ามือเธอไว้ อารยาสะบัด “จะกลับแล้ว ถ้าคุยเรื่องไร้สาระ” “การที่เรานอนกันดุเดือดคืนนั้น เธอพูดว่าไร้สาระเหรอ ฉันคงจะคิดผิดเสียแล้ว ว่าเธอไร้เดียงสา” ดวงตาคมโตหันไปถลึงตา “พูดอะไรเงียบไปเลยนะ” โยธินหัวเราะขื่น “แสดงท่าทีแบบนี้ ยอมรับแล้วสินะ” อารยากำหมัดแน่น มองซ้ายขวา ที่นี่คงให้เธอตะโกนให้หายแค้นใจได้ “ยอมรับแล้วไง คุณก็ไม่สามารถทำอะไรให้ฉันกลับมาเป็นคนเดิม พอๆ เลิกพูดเรื่องนี้ อย่ามายุ่งกับฉันอีก!” ไม่คิดจะกลายเป็นคำพูดนี้ที่ปิดการสนทนา เธอแหงนมองท้องฟ้า ห้ามน้ำตาไม่ให้ไหล ไม่มีอะไรดีขึ้น จะร้องไห้ไปทำไม “เธอหวังอะไรล่ะ น่าจะรู้ฉันจะแต่งกับพี่สาวเธอเท่านั้น” อารยากำหมัดแน่น พลั่ก! “โอ้ย!” โยธินกุมจมูก สบถเสียงดัง “เธอเป็นบ้าอะไร เจ็บนะ” “ให้คุณมีสติและคิดบ้าง ตั้งแต่เกิดเรื่อง ฉันเคยอ้อนวอนอะไรคุณบ้าง ฉะนั้นอย่ามาตัดสินว่าฉันคิดหรือไม่คิดอะไร เข้าใจไหม” โยธินอึ้งไปแต่ไม่ยอมแพ้ “ผู้หญิงเก็บกด อยากลองจะว่างั้น แล้วทำไมไม่บอกกันดีๆ ล่ะ แอบลอบเข้าไปมันคงเร้าใจใช่ไหม ก็แน่ล่ะ หุ่นผมมันคงน่ากิน” อารยายกมือจะซัดอีกครั้งแต่กลับโดนรวบที่เอว ก่อนใบหน้าบึ้งตึงจะก้มลงมาบดจูบปากเธอ หญิงสาวพยายามกระทืบเท้าเขาและดิ้น คนบ้านี่ ทำอะไรอีก
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"
เธอก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่เคยสนใจ แต่ก็ยังดึงดันอยากจะอยู่ใกล้ ต่อให้เธอเป็นเมียแต่งเขาก็คงไม่มีวันเปลี่ยนใจ เพราะเหตุนี้เธอจึงตัดสินใจจากไปในคืนแต่งงาน "จากนี้ไปเราไม่มีอะไรติดค้างกันอีก" 🥀
ถึงจะโกรธ เกลียด เคียดแค้นแค่ไหน แต่หัวใจไม่อาจต้านรักได้ ----------------------------------------- ไรยาค่อยๆ คลานไป ทันทีที่เจ้าบ่าวหันหน้ามา เพื่อจะยื่นมือให้เธอจับ จะได้ไม่ล้มนั้น ยิ่งจะทำให้เธอเกือบล้มไปเพราะเขาแล้ว ในหัวสมองก็ประมวลผลออกมาได้คำตอบทันที ว่าคนที่เธอเฝ้าครุ่นคิดว่าเป็นใครมาตลอดสองอาทิตย์นั้น แท้จริงก็คือใครกันแน่ในที่สุด ‘Mr. H. Hhemmhawattana ก็คือหรัญญ์ เหมวัฒน์’ ‘หรือพี่ฮั้นท์ของสาวๆ ที่เธอมักจะได้ยินเรียกขานกันนี่เอง’ ‘เขากลายมาเป็นเจ้าบ่าวเธอได้ยังไง’ ‘เขาจะมาแต่งงานกับเธอทำไม’ เท่าที่รู้มา เขาไม่ได้ร่ำรวยระดับร้อยล้านพันล้านแน่ๆ แล้วเขาไปทำอะไรมา ถึงได้มีเงินมากมายขนาดเอามาทุ่มซื้อหุ้นบริษัทของพ่อเธอได้ ไหนจะไถ่บ้านคืนให้ และอีกหลายต่อหลายอย่างที่เขาจ่ายไป รวมทั้งแหวนเพชรน้ำงามและไม่น่าจะต่ำกว่าห้ากระรัตบนพานดอกไม้ตรงหน้าเธออีก ---------------------------------------------------------------------------------------- ฮั้นท์ (หรัญญ์ เหมวัฒน์) นักธุรกิจหนุ่ม ผู้มีชีวิตที่พลิกผันจากเลวร้ายกลับกลายเป็นดี ซึ่งเขาเองก็ตั้งตัวไม่ทัน แต่ทั้งหมดนั้น มาจากความดี ความขยันหมั่นเพียรของเขา บวกกับโชคช่วย ถึงเวลาที่เขากลับมายืนอยู่จุดเดิม ในฐานะใหม่ ที่ใครต่อใครต่างงุนงง โดยเฉพาะเพื่อนๆ หรือแม้แต่กับผู้หญิงที่เคยเมนเขามาแล้ว และเขาก็จะทำให้ผู้หญิงพวกนั้นได้รู้ ว่าไม่ควรเมินเขาจริงๆ ---------------------- ย้า (ไรยา เจริญรัตชตะ) ทายาทนักธุรกิจหลายร้อยล้าน ที่ชีวิตพลิกผัน จากดีกลายเป็นเลวร้ายในไม่กี่ปี จนเธอกับครอบครัวก็ตั้งตัวไม่ติด รับภาวะย่ำแย่แทบไม่ทัน และถึงเวลาที่เธอจะต้องเลือก ระหว่างช่วยกู้ทุกอย่างของครอบครัวคืน กับทิ้งทุกอย่างไปแบบไม่เหลียวหลัง เพื่อไปเลียแผลหัวใจจากชายที่เธอรักแทบตาย สุดท้ายเธอจะเลือกทางเดินยังไง จะไปต่อหรือพอแค่นี้ ---------------------------------------------------------------------------------------- เมียแต่งท่านประธาน Chairman's Wife ตอนแรกคิดว่าจะให้นิยายที่เรื่องนี้มีแค่ชื่อภาษาอังกฤษเท่านั้นค่ะ ที่เหลือให้รี้ดไปตีความเอาเอง ว่าควรจะใช้ภาษาไทยว่าอะไรดี ระหว่าง แรงรัก - รั้งรัก - รังรัก และใช้นามปากกาพิมรภัค แต่สุดท้ายก็คิดชื่อใหม่ได้แล้วค่ะ และตัดสินใจใช้นามปากกาหลัก นั่นคือ กันเกราค่ะ เพราะแว้ปไปเขียนอวตารหลายเรื่องแล้ว และไม่ได้ออกนามปากกานี้นานแล้ว ส่วนแนวก็จะเพิ่มดราม่าเข้าไปอีก ซึ่งจะเป็น Signature ของกันเกราอยู่แล้ว รี้ดอยากได้มาม่าเจ้มจ้นแค่ไหน บอกกันได้เด้อ ----------------------------------------------------------------------------------------
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
หลินตงหยาง อายุ 27 ปี เติบโตมากับแม่เพียงสองคน ในวัยเด็กหลินตงหยางเคยมีพ่อผู้ให้กำเนิดแต่หลังจากที่พ่อได้งานใหม่ในเมืองหลวงพ่อที่เคยมีก็ไม่มีอีกแล้ว พ่อกลับมาหย่าขาดกับแม่ทันทีที่ไปทำงานในเมืองหลวงได้เพียง 2 เดือน ด้วยให้เหตุผลในการหย่าว่า แม่กับและเขาคือตัวถ่วงความเจริญในชีวิตพ่อ สาเหตุก็ไม่มีอะไรมากแค่พ่อหน้าตาหล่อเหลาและเป็นที่ถูกใจของลูกสาวหัวหน้างาน เพื่อตำแหน่งงานและความเป็นอยู่ที่สบายขึ้น พ่อเลือกที่จะทิ้งภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากที่ผ่านเรื่องยากลำบากมาด้วยกัน หย่าขาดกับภรรยาเพื่อไปแต่งงานใหม่ มีชีวิตใหม่ในเมืองหลวง โดยทิ้งคนข้างหลัง ทิ้งภรรยาที่เคยสาบานว่าจะอยู่ครองคู่กันตลอดไป ในปีที่เขาเรียนจบมหาวิทยาลัย แม่ก็ล้มป่วยและจากเขาไปในที่สุด สาเหตุที่หลินตงหยางเสียชีวิต เพราะทำงานหนัก อาชีพโปรแกรมเมอร์ตัวเล็กๆ อย่างเขา ต้องพยายามทำงานให้ได้ตามที่หัวหน้าสั่งมา ในที่สุดเขาก็พัฒนาเกมกำลังภายในของบริษัทได้สำเร็จ หลินตงหยางนอนหลับไปด้วยความสบายใจ แต่ทว่าพอเขาลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที นี่ไม่ใช่คอนโดหรูย่านใจกลางเมืองปักกิ่ง หลังคามุงหญ้านี่คืออะไร มันควรจะเป็นเพดานสีขาวสิ เมื่อมองไปรอบๆ ห้องนี่คืออะไร นี่มันไม่ใช่ผนังที่ทำมาจากคอนกรีต มันคือดินเหนียว หลินตงหยางคิดว่าตัวเองฝันไป เขาหลับตาลงอีกครั้งแล้วลืมตาขึ้น ทุกอย่างยังเหมือนเดิม มารดามันเถอะ เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง หลังจากแน่ใจแล้วว่าไมไ่ด้ฝัน ตอนนั้นเองเขารู้สึกปวดหัวขึ้นมาอย่างรุนแรง และในหัวของเขามีภาพเหตุการณ์ของเด็กชายที่ชื่อเดียวกับเขา หลินตงหยาง อายุ 10 ขวบ เรื่องราวชีวิตตั้งแต่เกิดจนตายไปของเด็กชาย ทำเอาหลินตงหยางกำมือแน่น ก่อนจะสบถออกมา “พ่อสารเลว เฉินซื่อเหม่ยชัดๆ” และตามมาด้วยเสียงร้องไห้ของน้องสาว สาเหตุที่เด็กชายหลินตงหยางเสียชีวิต เพราะถูกผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นย่าแย่งผักป่าและทุบตี ทั้งๆ ที่คนพวกนั้นได้ตัดขาดพับพวกเขาสามแม่ลูกแล้ว แต่ยังมิวายข่มเหงรังแก
ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"