เมื่ออยู่ๆ เจ้านายที่สาวๆ หมายปองปรากฏกายต่อหน้าแถมยังให้ไปทำงานใกล้ชิด ตำแหน่ง ช่างเสื้อส่วนตัว แต่หน้าที่ของเธอนั่นเหมือนสาวใช้ส่วนตัวเสียนี่สิ แถมยังมีหน้าที่พิเศษที่ทั้งสุขปนซาบซ่านรออยู่อีกด้วย.... “ก็ได้ ฉันยอมหยุด ออกไปซะ แต่ถ้าอยากให้ฉันคลายความทรมานให้ก็ถอดเสื้อผ้าออกให้หมด”
“วันนี้ยอดขายเป็นยังไงบ้าง” เจ้านายหนุ่มหล่อเหลาเดินควงสาวเข้ามายังร้านขายเสื้อผ้าผู้ชาย ถามพนักงานที่จ้างไว้ดูแลเสียงเรียบ พร้อมกายหนาปรากฏต่อสายตาอีกฝ่าย
“เท่าเมื่อวานเลยค่ะ” หญิงขยับลุกขึ้นยืนรายงานเพราะคิดว่าเป็นเพื่อนข้างๆ ร้าน แต่เมื่อเห็นว่าใครก็ต้องรีบปิดปากแน่น
ยอดขายของทุกวันดีอย่างเกินคาด แม้จะเป็นวันธรรมดาเสื้อผ้าแบรนด์นี้ก็ขาย สาขาที่เธออยู่น้อยครั้งนักที่เจ้านายจะเข้ามาตรวจและวันนี้มาแปลกเขาเดินควงสาวสวยเข้ามา ไร้ร่างผู้ชายเหมือนครั้งก่อน
“แล้วมันเท่าไหร่ล่ะ ที่เท่านั่นนะ”
“เจ้านายไม่ได้ดูบัญชีที่หญิงทำให้เหรอคะ”
ถึงได้มาถามเนี่ย เธอต่อคำในใจเพราะยังเกรงๆ เจ้านายหนุ่มหล่อ และโสดแต่ไม่สดคนนี้จะไล่เธอออกจากงาน ดวงหน้าหวานขาวผ่องภายใต้กรอบแว่นสี่เหลี่ยมที่สวมทับดวงตากลมโตสุกสกาวมองหน้าหล่อเหลาราวกับเทพบุตร แต่นิสัยเพลย์บอยเจ้าสำราญทำให้เธอไม่อยากเข้าใกล้ ถึงแม้ว่าเขาจะดูดีมากก็ตาม
“นี่ยอกย้อนฉันเหรอ” กวิน มองพนักงานที่กำลังต่อปากต่อคำไม่ตกฟากด้วยความแปลกใจ
“เปล่าค่ะ หญิงไม่บังอาจ”
“งั้นหล่อนก็รีบรายงานมาสิยะ เสียเวลา” คู่ขาอีกฝ่ายตีฝีปากกล้าต่อว่าแทน
กวินหันมองหน้าเมญ่าแล้วชักสิหน้าไม่พอใจเขาไม่ชอบให้คู่ขาสอดปากสอดคำ “คุณกลับไปได้แล้วเมญ่า”
“มะ..หมายความว่าไงคะ” เมญ่าหน้าเสียที่อยู่ๆ ถูกสั่งให้ไล่กลับเสียอย่างนั้น
“ผมบอกให้กลับไป แล้วไม่ต้องมาหาผมอีก”
“คุณทำแบบนี้กับเมญ่าไม่ได้นะคะ จะไล่เมญ่าแบบนี้ไม่ได้”
“ทำไมไม่ได้ คุณรู้ใช่ไหมผมไม่ชอบผู้หญิงที่สอดปากสอดคำ และกิริยาเต้นเร้าแบบนี้” เสียงห้าวต่อว่าอีกฝ่าย
เขาไม่สนว่าจะมีใครมองอยู่ตอนนี้
“คิคิ” วนิดากลั้นหัวเราะ เมื่อเห็นผู้หญิงที่มาด้วยหน้าถอดสี
“หัวเราะอะไรยะ” เมญ่าหวีดร้อง มองหน้าวนิดาด้วยความไม่พอใจ
“เดี๋ยวหญิงไปเอาน้ำมาให้นะคะเจ้านาย” วนิดารีบเจ้นไปหลังร้านทันทีเพราะเกรงว่าอาการขำสะใจของตนจะไปขัดใจเจ้านายหนุ่มหล่อเหลาเข้าจนถูกไล่ออก
“กลับไปซะแล้วอย่ามาให้ผมเห็นหน้าอีก”
“เชอะ คิดว่าตัวเองหล่อ รวยคนเดียวเหรอไง ฉันไม่ง้อก็ได้ ผู้ชายไร้หัวใจ!” ต่อว่าเสร็จก็สะบัดหน้าหนี และเดินออกจากร้านด้วยความขัดใจที่อยู่ๆ ถูกมหาเศรษฐีหล่อ รวยทิ้งกลางคัน
ด้านวนิดาหลังจากรินน้ำเย็นใส่แก้วเสร็จก็เดินออกมา เธอยังเห็นเจ้านายหนุ่มยืนสำรวจร้านเงียบๆ
“น้ำค่ะเจ้านาย” เธอวางมันลงบนโต๊ะแล้วถอนออกมายืนห่างๆ เพราะกลัวจะเข้าไปขัดสายตาของผู้เป็นนาย
หญิงมองชายชาตรีตรงหน้าด้วยความชื่นชม เขาทั้งหล่อเหลา รวยล้นฟ้า และเก่งกาจ เธอแอบหลงรักมานานแล้วอยากเจอตัวเป็นๆ สักครั้ง แต่ตอนนั้นคงได้แค่ฝัน หากเพียงว่าเวลานี้ชายที่เธอหลงรักมายืนตรงหน้า ก่อนจะรีบหลบตาเมื่อชายตรงหน้าหันกลับมาทางตน
“ทำงานที่นี่มากี่ปีแล้ว” กวินถามสาวน้อยตรงหน้า สายคาดุคมมองสำรวจร่างบางอ้อนแอ่นอย่างสนใจ โครงหน้ารูปไข่ผิวกระจ่างใสเนียนอมชมพู ดวงตากลมโตซุกซน และเรียวปากน่าจูบ... อ่า ชักอยากทำอะไรมากกว่ามองแล้วสิ
“เพิ่งทำงานไม่กี่เดือนค่ะ”
วนิดาไม่ได้ตอบว่านานหรือไม่ เธอก้มหน้าหลบตาคู่คมแกร่งนั้นด้วยความประหม่า เคยถูกจ้องมองมาหลายต่อหลายครั้งแต่ไม่รู้สึกแปลกเท่าครั้งนี้เลย สายตาที่มองมานั้นดูร้อนแรงแฝงไปด้วยความเสน่หาจนหัวใจดวงน้อยในอกซ้ายเต้นแรงเร็ว
ทำไมตื่นเต้นแบบนี้นะ
“อายุเท่าไหร่แล้ว”
กวินยังถามต่อขณะขยับเข้าไปใกล้อีกฝ่ายมากขึ้น กลิ่นกายหอมๆ ลอยแตะจมูกกระตุ้นความปรารถนาในร่างกายให้วิ่งพล่านไปทั่วทั้งร่าง ความต้องการรุนแรงจนปวดร้าวไปทั่วลำกายทำให้กวินเบี่ยงหน้าหนีเล็กน้อย
บ้าจริง แค่ได้กลิ่นก็ต้องการมากแบบนี้ ถ้าได้จับ กอด จูบ ไม่คลั่งเหรอวะ
“ยี่สิบสามปีค่ะ” วนิดาเงยหน้าขึ้นตอบคำถามตามมารยาท กลับต้องสงสัยเมื่อเห็นอีกฝ่ายเบี่ยงหน้าหนี
“มีครอบครัวหรือยัง แล้วที่บ้านอยู่กับใคร”
เขาชักอยากรู้เรื่องของเธอมากขึ้น อยากรู้ทุกอย่าง อาการแบบนี้ไม่เคยเป็นมาก่อน จนตัวเองไม่เข้าใจทำไมต้องสนใจเธอคนนี้มากด้วย
“ที่บ้านอยู่กับพ่อและแม่ค่ะ ส่วนครอบครัวหญิงยังโสดอยู่ค่ะ” วนิดาตอบไปตามตรง เริ่มตื่นเต้นจนหูอื้อ ไม่คิดฝันว่าเจ้านายอย่างเขาจะสนใจพนักงานต่ำต้อยเช่นเธอได้
“งั้นแสดงว่าไม่มีแฟน” ท่าทางครุ่นคิดนั้นทำคนฟังชักตงิดใจ “ดีเลยฉันจะให้เธอย้ายไปทำงานด้วย”
“คะ หมายความว่ายังไง” วนิดาเบิกตาโตมองอีกฝ่ายอย่างตกใจในคำพูด หรือเธออาจแค่หูแว่วไปเองจนต้องถามซ้ำ
“พรุ่งนี้ฉันจะให้เธอไปทำงานกับฉัน เตรียมตัวให้พร้อมพรุ่งนี้จะมารับ” คำสั่งสั้นๆ ห้าว
“เดี๋ยวสิคะ ฉันยังไม่ได้ตอบตกลงเลยนะคะ” วนิดาร้องเสียงหลงไม่ใช่ว่าไม่อยากไปทำงานที่อื่นเพราะเธอเองก็หวังเงินเดือนและความก้าวหน้า แต่นี่มันปุบปับเกินไปจนตั้งตัวไม่ทัน
“เธอทำสัญญาทำงานไว้หนึ่งปีใช่ไหม” กวินมองหน้ากระจ่างใส สองคิ้วย่นเข้าหากัน ด้วยความแปลกใจ เธอคนนี้มีอะไรที่น่าสนใจอยู่มาก
หากคุณเชื่อเรื่องความบังเอิญ คุณก็คงเชื่อเรื่อง พรหมลิขิต เช่นกัน ทิศเหนือสะดุดรักแรกพบ และเฝ้ารอคอยการเจอกับเธออีกครั้งและสัญญากับตัวเองจะไม่มีวันปล่อยเธอให้หลุดมือไป
หนี้สินที่พ่อหยิบยืมเอามาลงทุนกับไร่ถึงเวลาที่ต้องส่งทั้งเงินต้นและดอก แต่โชคร้ายที่ปีนั้นขาดทุน ด้วยความรักลูกไม่อยากให้รู้เรื่องนี้จึงปิดไว้ แต่ความลับไม่มีในโลก! อวัสดาที่เพิ่งเรียนจบหมาด ๆ ตั้งใจกลับมาช่วยสืบทอดกิจการของที่บ้านต้องเจอเข้ากับเรื่องไม่คาดคิด เธอต้องหาเงินมาใช้หนี้ภายในหนึ่งเดือน ด้วยจำนวนเงินมากมายทำให้เธอหมดหนทางเลือก จำใจต้องไปคุยกับเจ้าหนี้ให้รู้เรื่อง
ทุกคนมีความชื่นชอบเป็นของตัวเอง แต่เธอที่ชอบและมโนหยามใจพิมพ์ลงเป็นเรื่องราวจนเกิดความเดือดร้อน แต่รสสุคนธ์ก็ได้ชดใช้ให้เขาไปแล้ว ทว่าเรื่องราวไม่จบเมื่อธราธิปรู้ว่าเจ้าหล่อนหอบลูกในท้องหนี
ทศกัณฐ์ หวงความโสด และถูกเข้าใจผิดคิดว่าชอบผู้ชายด้วยกัน จันทร์จิราถูกไหว้วานให้ทำยังไงก็ได้ให้หลานชายของเรืองศักดิ์กลับมาเป็นชายชาตรีอีกครั้ง โดยที่เธอไม่รู้ลยว่ามันเป็นแผน
“จะทำอีกเหรอ ไหนว่าจะอาบน้ำไง” “ช่วงนี้ฤดูหนาว ไม่อาบน้ำก็ไม่เหม็นหรอก” เมื่อพ่อเลี้ยงหนุ่มหล่อเหลาต้องการเพื่อนรักของน้องสาว แผนการรักหื่น ซาบซ่านจึงอุบัติขึ้น เนื้อหาในเรื่องเน้นความหื่นเป็นหลัก พิจารณาก่อนกดซื้อเพราะคุณอาจพลาดความมันส์.....
“ทำอะไรกัน” มัลลิกาได้ยินเสียงลูอิสก็พยายามลุกขึ้นเดินไปหาเขา กำเสื้อเชิ้ตไว้ทั้งสองมือ “กลับมาแล้วเหรอคะ” “คุณดื่มเหรอ” ลูอิสก้มลงดมกลิ่นใกล้ ๆ เธอส่ายหน้าหันไปชี้ทางโดมินิกและอลิส “คุณหมอบอกเป็นยาบำรุงร่างกายค่ะ” ลูอิสมองหน้าเพื่อน คว้าเอวคอดไว้เมื่อเจ้าหล่อนทำท่าจะเซล้มไปทางอื่นให้ขยับมาพิงกายตัว แต่คนเมาดื้อยันมือออกห่างแถมยังใจกล้ากำเสื้อเขาไว้ “จริงไหมคะ” “เรื่องอะไรครับ” ลูอิสควงหญิงสาวไปทางโซฟารั้งเธอให้นั่งบนตัก มัลลิกาแกะมือที่จับเอวขยับขึ้นนั่งคร่อมสอดแขนคล้องลำคอมองหน้าเขาอย่างเรื่อง โดยไม่รู้เลยว่าการกระทำของเธอกำลังทำให้เก๊กขรึมหลุดภาพลักษณ์ “ก็คุณโดมินิกเล่าว่าคุณแอบซุกกิ๊กไว้ที่บริษัท ที่ให้พลอยอยู่แต่บ้านเพราะตัวเองจะได้มีความสุขส่วนพลอยก็นั่งโง่ ๆ ทำกับข้าวรอสามี รอนอนพร้อมคุณเท่านั้น” เธอชี้ไปทางคนเล่าที่ยกมือขึ้นฉับ ลูอิสมองหน้าเพื่อนอีกฝ่ายรีบลุกขึ้นขยับถอยห่าง “พวกเรากลับก่อนนะ” อลิสลุกขึ้นตามแรงสะกิดส่งยิ้ม “กลับแล้วเหยอ” คนเมาหันไปถามเสียงยาน “แล้วอลิสมาหาใหม่นะคะ” “ค่ะ บ๊ายบาย” มัลลิกาที่เมากรึ่มพยักหน้าโบกมือให้ ก่อนจะหันกลับไปมองหน้าสามีอย่างเอาเรื่อง ลูอิสมองอาการขู่เป็นลูกแมวแล้วยิ้ม ยกมือขึ้นลูบเส้นผมนุ่มความเหนื่อยจากการทำงานถูกเธอช่วยชำระล้างอย่างง่ายดายอยู่ทุกวัน เสียงเตือนข้อความเข้า “อลิสบอกว่าวันนี้เหมาะที่สุดสำหรับการปั๊มลูก ฉันเอาใจช่วยนายนะ” มัลลิกาแย่งมือถือเขาแล้ววางไว้ข้างกาย กุมหน้าคมคายให้หันมาสนใจ “จริงไหมคะ” “เรื่องไหน” ลูอิสถามเธอพร้อมกระเตงร่างหญิงสาวขึ้นเดินออกจากห้องนั่งเล่นตรงไปห้องนอน ทุกจังหวะการเดินมั่นคงหนักแน่น สายตาก็มองหน้าคนเมาแล้วยิ้มอารมณ์ดี ไม่ว่าจะมองอีกกี่ครั้ง มัลลิกาก็เป็นคนที่สามารถทำให้เขารู้สึกดีโดยที่ไม่ต้องทำอะไรเลย “ที่ไม่ยอมให้พลอยไปทำงานเพราะจะได้มีความสุขกับพวกหล่อน” มัลลิกาว่าพรางทำแก้มป่องสอดสองแขนคล้องคอ ลูอิสยิ้มชอบใจที่ได้เห็นอาการคล้ายหึงหวงตนจากเจ้าหล่อน ประตูห้องถูกเปิดและปิดลงพร้อมสองกายเดินเข้ามาด้านใน สะโพกได้รูปถูกวางบนเตียงกายชายกำลังจะถอยออกห่างแต่ถูกแขนที่คล้องคอรั้งไว้ จนเขาต้องตอบเสียงหนักแน่น “ผมมีแค่คุณ”
เธอก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่เคยสนใจ แต่ก็ยังดึงดันอยากจะอยู่ใกล้ ต่อให้เธอเป็นเมียแต่งเขาก็คงไม่มีวันเปลี่ยนใจ เพราะเหตุนี้เธอจึงตัดสินใจจากไปในคืนแต่งงาน "จากนี้ไปเราไม่มีอะไรติดค้างกันอีก" 🥀
ถึงจะโกรธ เกลียด เคียดแค้นแค่ไหน แต่หัวใจไม่อาจต้านรักได้ ----------------------------------------- ไรยาค่อยๆ คลานไป ทันทีที่เจ้าบ่าวหันหน้ามา เพื่อจะยื่นมือให้เธอจับ จะได้ไม่ล้มนั้น ยิ่งจะทำให้เธอเกือบล้มไปเพราะเขาแล้ว ในหัวสมองก็ประมวลผลออกมาได้คำตอบทันที ว่าคนที่เธอเฝ้าครุ่นคิดว่าเป็นใครมาตลอดสองอาทิตย์นั้น แท้จริงก็คือใครกันแน่ในที่สุด ‘Mr. H. Hhemmhawattana ก็คือหรัญญ์ เหมวัฒน์’ ‘หรือพี่ฮั้นท์ของสาวๆ ที่เธอมักจะได้ยินเรียกขานกันนี่เอง’ ‘เขากลายมาเป็นเจ้าบ่าวเธอได้ยังไง’ ‘เขาจะมาแต่งงานกับเธอทำไม’ เท่าที่รู้มา เขาไม่ได้ร่ำรวยระดับร้อยล้านพันล้านแน่ๆ แล้วเขาไปทำอะไรมา ถึงได้มีเงินมากมายขนาดเอามาทุ่มซื้อหุ้นบริษัทของพ่อเธอได้ ไหนจะไถ่บ้านคืนให้ และอีกหลายต่อหลายอย่างที่เขาจ่ายไป รวมทั้งแหวนเพชรน้ำงามและไม่น่าจะต่ำกว่าห้ากระรัตบนพานดอกไม้ตรงหน้าเธออีก ---------------------------------------------------------------------------------------- ฮั้นท์ (หรัญญ์ เหมวัฒน์) นักธุรกิจหนุ่ม ผู้มีชีวิตที่พลิกผันจากเลวร้ายกลับกลายเป็นดี ซึ่งเขาเองก็ตั้งตัวไม่ทัน แต่ทั้งหมดนั้น มาจากความดี ความขยันหมั่นเพียรของเขา บวกกับโชคช่วย ถึงเวลาที่เขากลับมายืนอยู่จุดเดิม ในฐานะใหม่ ที่ใครต่อใครต่างงุนงง โดยเฉพาะเพื่อนๆ หรือแม้แต่กับผู้หญิงที่เคยเมนเขามาแล้ว และเขาก็จะทำให้ผู้หญิงพวกนั้นได้รู้ ว่าไม่ควรเมินเขาจริงๆ ---------------------- ย้า (ไรยา เจริญรัตชตะ) ทายาทนักธุรกิจหลายร้อยล้าน ที่ชีวิตพลิกผัน จากดีกลายเป็นเลวร้ายในไม่กี่ปี จนเธอกับครอบครัวก็ตั้งตัวไม่ติด รับภาวะย่ำแย่แทบไม่ทัน และถึงเวลาที่เธอจะต้องเลือก ระหว่างช่วยกู้ทุกอย่างของครอบครัวคืน กับทิ้งทุกอย่างไปแบบไม่เหลียวหลัง เพื่อไปเลียแผลหัวใจจากชายที่เธอรักแทบตาย สุดท้ายเธอจะเลือกทางเดินยังไง จะไปต่อหรือพอแค่นี้ ---------------------------------------------------------------------------------------- เมียแต่งท่านประธาน Chairman's Wife ตอนแรกคิดว่าจะให้นิยายที่เรื่องนี้มีแค่ชื่อภาษาอังกฤษเท่านั้นค่ะ ที่เหลือให้รี้ดไปตีความเอาเอง ว่าควรจะใช้ภาษาไทยว่าอะไรดี ระหว่าง แรงรัก - รั้งรัก - รังรัก และใช้นามปากกาพิมรภัค แต่สุดท้ายก็คิดชื่อใหม่ได้แล้วค่ะ และตัดสินใจใช้นามปากกาหลัก นั่นคือ กันเกราค่ะ เพราะแว้ปไปเขียนอวตารหลายเรื่องแล้ว และไม่ได้ออกนามปากกานี้นานแล้ว ส่วนแนวก็จะเพิ่มดราม่าเข้าไปอีก ซึ่งจะเป็น Signature ของกันเกราอยู่แล้ว รี้ดอยากได้มาม่าเจ้มจ้นแค่ไหน บอกกันได้เด้อ ----------------------------------------------------------------------------------------
เสิ่นชิงชิว หลานสาวของเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองไห้ คบหาอยู่กับลู่จั๋วมาเป็นเวลาสามปีแล้ว แต่ความจริงใจของเธอกลับสูญเปล่า ลู่จั๋วปฏิบัติกับเธอเพียงในฐานะหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง และทอดทิ้งเธอในวันแต่งงาน โดยไปหารักแรกของเขา หลังจากเลิกรากันอย่างเด็ดขาด เสิ่นชิงชิวก็กลับมามีสถานะเป็นสาวรวยอีกครั้ง ได้รับมรดกมูลค่าหลายร้อยพันล้าน และเริ่มต้นชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุด แต่แล้วมักจะมีคนโผล่มาทไให้กับเธอหงุดหงิดอยู่เสมอ! ขณะที่เธอกำลังจัดการกับผู้ร้าย คุณชายฟู่ผู้มีอำนาจนั้นก็ปรบมือและโห่ร้องว่า "ที่รักของฉันสุดยอดมากจริงๆ"
เพราะคิดว่าเป็นความฝัน ฉินหร่านจึงร่วมมือบรรเลงเพลงรักอย่างไม่ได้ตั้งใจ ไฉนตื่นขึ้นมาถึงมีสามีเป็นของตัวเอง อีกทั้งสามีนางยังตาบอดอีกด้วย! แต่นั่นไม่น่าตกใจ เท่ากับที่นางมาอยู่ในร่างเด็กสาวในยุคจีนโบราณ ที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ อีกทั้งร่างนี้ถูกขายให้มาเป็นภรรยาของชายตาบอด แต่ไหนๆ ก็มาแล้วจึงจะใช้ชีวิตให้ดี ส่วนสามีนะหรือ หล่อขนาดนั้น แซ่บขนาดนี้ เดินหน้าเกี้ยวสามีสิ จะรออะไร!
หลังจากแต่งงานกันมาสองปี สามีของเธอไม่เคยเหยียบเข้าไปในบ้านและมองดู 'ภรรยาขี้เหร่' ของเขาเลย แถมเขาก็มีเรื่องอื้อฉาวกับดาราหน้าใหม่หลายคนทุกวัน ซูเหว่ยทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอตัดสินใจปล่อยเขาไป ต่อไปก็ต่างคนต่างไปเลย แต่เมื่อเธอเสนอเรื่องหย่า... ฟู่เหยียนอันพบว่านักออกแบบในบริษัทนั้นสะดุดตาเป็นพิเศษ เขาค่อยๆ ทำความรู้จักกับเธอเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาค้นพบตัวตนที่แท้จริงของเธอเข้า เขาเสียใจแล้ว
‘ทริปฮันนิมูนที่ไม่ได้มีแค่เรา แต่ฉันและเขายังมีผู้ร่วม ทริปเข้ามาสร้างสีสันอีกมากมาย’ หลังแต่งงาน ตฤณก็พาภรรยาสาววัยละอ่อนอย่างยี่หวาไปฮันนิมูนเหมือนคู่สามีภรรยาคู่อื่น ๆ แต่การเดินทางไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์กับสามีผู้เป็นนักธุรกิจในครั้งนี้ กลับทำให้ยี่หวาได้รู้ว่าตฤณสามีของเธอมีรสนิยมทางเพศแบบไหน และที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นคือ เขาทำให้เธอได้รู้จักตัวตนของตัวเองอย่างที่เธอไม่คิดว่าจะได้รู้จักด้วยซ้ำ ตฤณจะพายี่หวาไปฮันนิมูนที่ไหน อย่างไร และกับใคร ติดตามอ่านได้ใน “ฉ่ำรักเมียนักธุรกิจ” แนะนำตัวละคร ยี่หวา : สาวสวยวัย 24 ปี ผู้มีผิวขาว และรูปร่างอวบอัด แต่น่าทะนุถนอม นิสัยอ่อนหวาน ว่าง่าย แต่เป็นคนอยากรู้อยากลอง ยี่หวาเพิ่งจะรู้ว่าสิ่งที่ตฤณทำกับเธอในห้องหอนั้นมันก็แค่น้ำจิ้ม เพราะเมื่อเดินทางไปฮันนิมูนกับตฤณจริง ๆ เธอกลับได้เรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ จนเธอติดอกติดใจอย่างยากจะถอนตัว สำหรับยี่หวาแล้ว 'คืนเข้าหอที่เคยคิดว่าเด็ด ยังไม่เผ็ดเท่าทริปฮันนิมูนที่สามีหนุ่มจัดให้' ตฤณ : นักธุรกิจหนุ่มวัย 34 ปีหนุ่มลูกเสี้ยว บ้างาน แต่เวลาคลายเครียดก็สนุกสุดเหวี่ยง โดยเฉพาะเรื่องเซ็กส์ ตฤณหมั้นหมายกับยี่หวาตามความเห็นชอบของผู้ใหญ่เพราะถูกใจในความน่ารัก แต่ยิ่งไปกว่านั้นคือเพราะยี่หวาเป็นเด็กดี และไม่เคยดื้อกับเขาเลยสักครั้ง ว่านอนสอนง่ายแบบนี้สิ ถึงจะใช้ชีวิตคู่ไปด้วยกันตลอดรอดฝั่ง