“มิว่าภพใด..ข้าจักเฝ้าติดตามถามหา จนกว่าอรุณรุ่งของข้า..จักมาถึง” เมื่อวาระแห่งกรรมเวียนมาบรรจบ เมื่อนั้นกงล้อกฎแห่งกรรมจะได้รับการสะสาง ภายใต้ซากเรือสำเภาใต้ท้องทะเลอ่าวไทย เสียงครวญจากทะเลถูกเล่าขานยาวนานจากรุ่นปู่ย่าจนถึงรุ่นหลาน อาถรรพ์เล่าลือเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้ที่หลงไปกับเสียงชักพา ทว่าทรัพย์สมบัติอันไม่สามารถประเมินค่าได้จาก.. ซากสำเภาทองที่แสดงถึงความรุ่งเรืองจนถึงขีดสุดแห่งเมืองสุโขทัย กลับกลายเป็นสิ่งที่ทำให้นักล่าสมบัติใต้ทะเลยอมที่จะเสี่ยง แม้ว่าจะต้องเดิมพันด้วยลมหายใจเฮือกสุดท้ายก็ตาม วิญญาณหนึ่งถูกจองจำด้วยความแค้นในรักที่ถูกหลอกลวงและการถูกฆ่าให้ตายอย่างเลือดเย็น ไม่ว่ากี่ภพกี่ชาติเธอก็จะรอคอยจนกว่าวาระแห่งกรรมนั้นจะหมุนมาเยือน บุรุษหนึ่งยึดมั่นในรักเพียงนางเดียว เมื่อไม่อาจครองคู่ในชาตินี้ คำสัตย์ปรารถนาจึงขอมีเพียงนางเดียวทุกภพทุกชาติไป เมื่อกงล้อแห่งกรรมเวียนมาบรรจบ ผู้ก่อกรรมจะต้องได้รับผลแห่งกรรมเป็นสัจธรรม
ท่ามกลางความมืดมิดและเย็นเยียบอย่างที่สุดแห่งท้องทะเล มีเพียงสปอร์ตไลท์กันน้ำได้เท่านั้นที่ส่องนำทางลงสู่ด้านล่าง “ยิ่งลึกยิ่งมืด” นั่นคือสิ่งที่มองเห็น ทว่าที่รู้สึกมากไปกว่านั้นก็คือ ยิ่งใกล้ถึงจุดหมายความหนาวที่รับรู้ได้แถวสันหลังช่างสามารถแยกแยะได้แตกต่างไปจากความเย็นที่ลอดผ่านชุดประดาน้ำ อันจะรับรู้ได้เมื่อร่างกายค่อยๆ เคลื่อนที่จากผิวน้ำที่ซึมซับความอุ่นของแสงอาทิตย์มาตลอดทั้งวัน ลงสู่จุดหมายเบื้องล่างที่แสงอาทิตย์สาดส่องไปไม่ถึง
“ดำน้ำลึกตอนเที่ยงคืน”
ช่างเป็นเรื่องที่น่าโง่เขลาเบาปัญญาอย่างยิ่งสำหรับคนที่กล้าเสี่ยงจะทำเช่นนี้ แต่ว่าความโลภไม่เข้าใครออกใคร ยิ่งต้องทนอยู่ท่ามกลางสิ่งของที่จะสามารถบันดาลให้เขาเป็นเศรษฐีได้เพียงชั่วข้ามคืนแต่กลับไม่สามารถหยิบฉวยออกไปได้สักชิ้นนั้น เขายิ่งทรมานเสียยิ่งกว่าไม่ได้พบได้เห็นเสียอีก
ตลอด 3 วันที่ผ่านมาที่ต้องทนเก็บความโลภไว้และทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยนักโบราณคดีใต้น้ำจากกรมศิลปฯ กำหนดพื้นที่ของแหล่งขุดค้นที่ชัดเจน อาณาเขตที่กรมศิลปฯ ประกาศเป็นเขตหวงห้ามไม่ให้ชาวบ้านลงงมโบราณวัตถุนั้นมีระยะทางเป็นรัศมีกว้างกว่า 2 ไมล์ แค่ 3 วันที่ผ่านมายังสำรวจได้ไม่ถึงเสี้ยว แต่แค่ดำสำรวจโดยรอบๆ ก็พบว่ามีซากวัตถุโบราณกระจายอยู่จนทั่ว
สิ่งของที่เหมือนวางล่อตาล่อใจโดยไม่มีใครเคลื่อนย้ายนอกจากทำบันทึกสำรวจ ถ้วยโถโอชามที่มีมากเป็นพันๆ ชิ้นนี้ หากขาดหายไปเพียงชิ้นสองชิ้นหรือว่าสิบชิ้นก็คงจะไม่มีใครสงสัยหรือติดใจแน่แล้วเขา.. จะช้าอยู่ไย หากโชคดีเขาอาจได้สิ่งของที่มีค่ามากกว่าที่เห็นก็ได้ ของโบราณที่ได้ยินพวกนักสำรวจพูดคุยกันว่าคงมีอายุประมาณสัก 700 ปี ในสมัยนั้น...
“สมัยสุโขทัย”
เวลาเดินทางจะมีอะไรใช้แลกเปลี่ยนสินค้าได้ดีไปกว่า “ทองคำ” เข้มเหมือนจะแสยะยิ้มทั้งที่ปากนั้นอมท่ออากาศไว้แน่น เขารู้ว่าตัวเองยิ้มเพราะอะไร เพราะวิมานในฝันขณะนี้สิ่งที่เขาเห็นก็คือตัวเองนั่งอยู่บนกองเงินกองทองที่มากมายเสียจน ตั้งแต่เกิดมาจนบัดนี้ยังไม่เคยเห็นของจริงสักครั้ง แต่หลังจากวันนี้ไปเขาคงต้องปรับชีวิตของตัวเองให้ชินกับการเป็นเศรษฐีใหม่เสียที ดีกว่าต้องคอยแต่เป็นลูกมือนักสำรวจใต้น้ำเช่นนี้ หรือหากจะดียิ่งกว่าก็คือทำงานต่อไปเพราะว่าแหล่งสำรวจที่ลงบันทึกทั่วทั้งทะเลอ่าวไทยนั้นที่ยังตกสำรวจอยู่มากกว่า 100 จุด ถึงตอนนั้นเขาคงจะรวยไม่รู้เรื่องไปเสียแล้ว
ทว่า.. ความคิดของเข้มต้องหยุดลงเพราะเสียงบางอย่างที่แล่นเข้ามากระทบโสตประสาท เสียงร่ำไห้ คร่ำครวญของอะไรหรือใครบางคน เสียงที่ไม่มีทางจะสื่อผ่านเข้ามาได้ในสถานที่เย็นเยียบใต้น้ำลึกอย่างนี้ เสียงที่บ่งชี้ไม่ได้ว่าเป็นสัตว์ มนุษย์หรือว่าอมนุษย์ ขนกายทั่วตัวเหมือนจะลุกชันโดยพร้อมเพรียง แต่ก็เพียบแวบเดียวที่รู้สึก.. คนอย่างเจ้าเข้มเสียอย่างจะกลัวอะไรเล่า ถ้ากลัวคงไม่มา
ของเก่ามี “เจ้าของ” เรื่องนี้เขารู้ดีเพราะลูกน้ำเค็มอย่างเขาออกเรือไดหมึกเรือหาปลามาก็มาก เรื่องลี้ลับผิดธรรมชาติเขาเคยชินและรู้ดีว่ามีอยู่จริง และสิ่งที่มักจะติดตามกันมาก็คือ ของชิ้นไหนอาถรรพ์แรงเจ้าของหวง ของชิ้นนั้นยิ่งมีราคาอันประเมินค่าไม่ได้ ประสบการณ์นักโจรกรรมที่สั่งสมบ่งบอกมาอย่างนั้น
ร่างแกร่งกำยำสะบัดตีนเป็ดพาว่ายตรงไปยังจุดหมายไม่สนใจกับเสียงคร่ำครวญส่อให้ขนกายลุกชันที่ก็เพียงข่มขู่ให้กลัวเหมือนเช่นเหตุการณ์หลายๆ ครั้งที่เคยพานพบมา ทว่าพอเอาเข้าจริงก็ไม่เคยมีอมนุษย์ตนไหนทำอะไรเขาได้เพราะทุกครั้งที่ทำมาหากินแบบนี้ ก็ไม่เห็นจะมีวิญญาณหรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “ผี” นั้นจะทำอะไรเขาได้สักตัว ว่ากันว่า “คนชั่วแม้แต่ผียังกลัว” สงสัยว่าเขาจะจัดอยู่ในคนประเภทนั้นและของดีที่บรรพบุรุษมอบให้ “ตะกรุดภูติ” กันภูติผีและคุณไสยร้ายไม่ให้กล้ำกรายก็เป็นสิ่งที่เขาพกติดตัวอยู่เสมอ
เข้มดำดิ่งสู่จุดหมายพร้อมกับความกระหยิ่มในใจที่ทั้งท้องฟ้าและใต้ท้องทะเลนี้ดูเหมือนจะเป็นใจไปกับเขา สถานที่ที่แม้แต่ตอนกลางวันแสงอาทิตย์ยังสาดส่องลงไปได้ยาก ทว่าสิ่งที่เห็นตรงหน้าในคืนนี้กลับกลายเป็นลำแสงของจันทร์เดือนเพ็ญที่ลอดผ่านลงมาเป็นสายและไปหยุดอยู่ ณ บริเวณปีกซ้ายของลำเรือ
ลำแสงสิ้นสุดที่เห็นเหมือนมีอะไรบอกกับเขาว่า สิ่งที่รอคอยอยู่สุดปลายแสงนั้นต้องเป็นสิ่งที่คุ้มค่ากับการเสี่ยงในวันนี้อย่างแน่นอน ไม่รอช้าเข้มเบนร่างไป ณ จุดนั้นทันที ทว่าสายเชือกที่ผูกโยงร่างกับลำเรือที่รอคอยอยู่เบื้องบนกลับเป็นอุปสรรคที่ทำให้เขาไปไม่ถึง แค่อึดใจเท่านั้นที่เขาคิด สิ่งเร้าตรงหน้ามีค่ามากกว่าที่จะทิ้งไป หากพลาดครั้งนี้เขาคงต้องรอคอยอีกนานจึงจะได้ลงมาอีกหน
เข้มไม่รอช้าค่อยๆ กระถดตัวจนฝ่าเท้าสัมผัสผืนทรายก่อนจะวางสปอร์ตไลท์ไว้แทบเท้าอย่างเบาที่สุด เพราะไม่ต้องการให้ฝุ่นทรายใต้น้ำมาบดบังสิ่งตรงหน้าไปมากกว่านี้ กระแสน้ำด้านใต้ที่พัดเอื่อยไม่รุนแรงทำให้ตัดสินใจเด็ดขาด มือค่อยๆ แกะเชือกบริเวณเอวและผูกไว้กับซากเรือที่พอจะจับยึดได้ แค่นี้ก็หมดปัญหาการจับทิศของเรือที่รอคอยเขาอยู่บนผืนน้ำและไม่ต้องกลัวว่ากระแสน้ำจะพัดพาร่างให้ลอยคว้างออกไปไกล
หากนาไม่แล้ง ข้าวไม่แห้งตาย ‘เดช’ ก็ไม่คิดจะหอบเอา ‘ฟ้า’ เมียรักเข้ามาทำงานในเมืองกรุง แต่ความจนทำให้เลือกไม่ได้ และงานดี เงินดี เจ้านายเห็นใจ ก็เป็นเส้นทางที่ดีที่สุด ทว่า... หากรู้ว่ามาแล้วจะต้องเสียเมียให้นายฝรั่ง เดชเลือกที่จะไม่มาเสียยังดีกว่า แต่... เสียแล้วคือเสียเลย สิ่งเดียวที่จะชดเชยความแค้นก็คือ ‘เมียนาย’ คุณผู้หญิงเร่าร้อน เร่งเร้า รุนแรง และมากครั้งเท่าที่ต้องการ เดชไม่รู้แล้วว่านั่นคือการแก้แค้นหรือรางวัล +++++ ‘เดช’ พา ‘ฟ้า’ เมียรักมาทำงานที่บ้านนายฝรั่ง แต่ ‘คริส’ นายฝรั่งกินเมียเขาไปแล้ว และยังเอาดุ้นยาวใหญ่มาล่อให้ฟ้าติดใจ จนฟ้ากินไม่อิ่มไม่พอ อยากได้อะไรที่เทียบเท่า เขาก็เลยแอบกิน ‘โรส’ เมียของนายฝรั่ง แก้แค้นให้สาสม แต่แค้นช่างแสนหวานและฉ่ำชุ่ม จนเขาต้องกินซ้ำๆ ยิ่งได้กินพร้อมๆ กับพี่โชค เขาก็ยิ่งเมามัน และแน่นอนว่าโรสชอบ ในขณะที่นายฝรั่งกระหยิ่มยิ้มที่ได้กินเมียเขา เดชกลับสุขและยิ้มกว้างยิ่งกว่า เพราะเขาได้กิน ‘คุณหนูแพทตี้’ คุณหนูช่างร่านร้อนไม่ต่างจากแม่ แน่นอนว่าเขาชวนพี่โชคมากินด้วย
‘หากหัวใจปราศจากความแค้น คงไร้แล้วซึ่งลมหายใจ’ สำหรับหล่อน เขาคือชายชุดดำ บอดี้การ์ดหน้านิ่งของพ่อ เคร่งขรึม เก๊กหล่อ หมางเมินใส่ราวหล่อนไม่สำคัญ ก็แน่ล่ะ เพราะพี่สาวเขากำลังจะมาเป็นเมียใหม่ของพ่อ แต่มีเหรอที่หล่อนจะยอม นารีมีรูปเป็นทรัพย์ฉันใด หล่อนก็พร้อมจะลงทุนเพื่อสิ่งที่ได้มา ภายใต้แว่นดำนั้น หล่อนต้องรู้ให้ได้ว่า ‘หัวใจ’ หรือเปล่าที่ซุกซ่อนอยู่ แต่สำหรับเขา... หล่อนคือ เหยื่อ! ที่ความแค้นจะได้เอาคืน
ความรักหรือเพียงความปรารถนาแค่ข้ามคืน พบกับนิยายสุดเร่าร้อน 3 เรื่อง 1.คืนเคาท์ดาวน์ 2.คืนฝนฉ่ำรัก 3.คืนเหงาสาวข้างบ้าน
#มาดามทรายกับชายเลี้ยงม้า เปิดประสบการณ์รักร้อนในฟาร์มม้ากันสักครั้ง หรือจะลองกลิ่นฟางแห้งบ่มแดดอุ่นๆ ในโรงนาก็ไม่เลวนะ +++++ เคิร์กรู้ว่าฉันชอบขี่ม้า เขาจึงสอนให้ฉันขี่ม้าจริงๆ หลังจากขี่เขาจนช่ำชองมาหลายครั้ง และฉันก็หัวไวสอนง่ายซะด้วย เพราะเมื่อฝึกหัดขี่ม้าจริงตอนเย็นเสร็จ พอตกกลางคืนฉันก็ซ้อมขี่กับม้าเทียมอย่างเคิร์กอยู่ทุกวัน ไม่ได้ว่างเว้น และก็มีบ้างเป็นบางวันที่ฉันทนไม่ไหวและเคิร์กก็อดไม่ได้ เมื่อฟางใหม่หอมกลิ่นแดดเร่งเร้าความกำหนัดของเราเหลือเกิน เคิร์กก็จะพาฉันไปซ้อมขี่กันที่คอกม้าในโรงนาซะหลายครั้ง และความตื่นเต้นก็ทำให้ฉันกับเคิร์กคึกคักกันมากเป็นพิเศษ ยามที่ฉันควบขี่เคิร์กอยู่ในโรงนา กลิ่นฟางแห้งที่รองรับร่างกายยิ่งใหญ่ของเขาอยู่นั้น เร้าใจจนฉันควบขี่เขาได้ไวกว่าที่เคยทำได้ บั้นเอวและช่วงบั้นท้ายทำหน้าที่โยกตัวไปข้างหน้าและโย้มาข้างหลัง ทว่าปากก็ร่ำร้องบอกถึงความเสียวซ่านที่ดุ้นบังเหียนกระทำกับร่องลึกลับของฉันอยู่ตลอดเวลา
พี่หนึ่งจะทำยังไงถ้าต้องเจอหน้า ‘พี่ชมพู่’ อยู่ทุกวัน รุ่นพี่สาวสวยที่เขาเคยไปสารภาพรัก แต่เธอกลับปฏิเสธอย่างไม่มีเยื่อใยด้วยข้อหา ‘เด็กไป’ ครั้งนี้ พี่หนึ่งตั้งใจจะลบคำสบประมาทให้ได้ พี่ชมพู่จะได้รู้ว่า ‘รุ่นน้อง’ ก็ทำอะไรได้หลายๆ อย่างไม่แพ้รุ่นพี่ โดยเฉพาะพี่หนึ่งน่ะจบด็อกเตอร์สาขา ‘เซ็กซ์ศาสตร์’ มาซะด้วย ‘เด็กกว่าแล้วไง’ รุ่นพี่ถ้ามาเจอ ‘รุ่นน้อง... สายดาร์ก’ จะทนได้เหรอ พี่หนึ่งจะพิสูจน์เอง
เพราะเป็นคนสวน 'เมฆ' จึงต้องรดน้ำดอกไม้ของ 'คุณนายชวนชม' ทั้งวัน...ทั้งคืน ‘คุณนายครับ’ เป็นเรื่องราวความเร่าร้อนของ ‘เมฆ’ คนสวนหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ผิวกายดำแดง ตามแบบฉบับคนท้องไร่ท้องนาเต็มขั้น เมื่อเมฆต้องมาทำสวนที่บ้านของ ‘คุณนายชวนชม’ เมฆก็เลยต้องเป็นคนสวนที่ดีที่สุด ดังนั้นดอกไม้ในบ้านของคุณนายไม่ว่าจะมีกี่ดอก เมฆก็ต้องทำหน้าที่รดน้ำดอกไม้เหล่านั้นให้ชุ่มฉ่ำ ทั้งวันและทั้งคืน
อวิ๋นเจินอาศัยอยู่ในตระกูลอวิ๋นมาเป็นเวลา 20 ปี กลับพบว่าเธอเป็นลูกสาวปลอม พ่อแม่บุญธรรมของเธอวางยาเธอเพื่ออยากจะได้เงินมาลงทุน หลังจากที่อวิ๋นเจินรู้เรื่องนี้ เธอก็ถูกไล่กลับไปที่ชนบท จากนั้นเธอก็ค้นพบว่าตัวเองคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลเฉียวและมีชีวิตที่หรูหราสุด ๆ หลังจากกลับมา เธอได้รับความรักจากครอบครัวและมีชื่อเสียงโด่งดัง น้องสาวจอมปลอมใส่ร้ายอวิ๋นเจิน แต่เธอไม่คาดคิดว่าอวิ๋นเจินจะมีความสามารถต่างๆ เมื่อต้องเผชิญกับการยั่วยุ เธอได้แสดงความสามารถและทักษะต่างๆ มากมายเพื่อจัดการผู้รังแก มีข่าวลือกันว่าอวิ๋นเจินยังคงโสด และชายหนุ่มชื่อดังแห่งเมืองงก็ผลักเธอไปเข้ากำแพง "คุณนายกู้ ถึงตามราเปิดเผยตัวตนได้แล้วนะ"
ตลอดระยะเวลาสามปีของการแต่งงาน เธอรู้สึกสิ้นหวัง ที่ถูกบังคับให้เซ็นใบหย่า ทั้งๆที่เธอกำลังท้อง เธอใจสลายกับความไร้มนุษยธรรมของเขา กระทั่งเธอออกไปจากชีวิตของเขา เขาเพิ่งรู้ตัวว่าเธอคือรักแท้ของเขา ไม่มีวิธีใดที่จะเยียวยาหัวใจที่บอบช้ำของเธอให้หายขาดได้ เขาจึงมอบความรักทั้งหมดของเขาให้แก่เธอเพื่อชดเชย
ถึงจะโกรธ เกลียด เคียดแค้นแค่ไหน แต่หัวใจไม่อาจต้านรักได้ ----------------------------------------- ไรยาค่อยๆ คลานไป ทันทีที่เจ้าบ่าวหันหน้ามา เพื่อจะยื่นมือให้เธอจับ จะได้ไม่ล้มนั้น ยิ่งจะทำให้เธอเกือบล้มไปเพราะเขาแล้ว ในหัวสมองก็ประมวลผลออกมาได้คำตอบทันที ว่าคนที่เธอเฝ้าครุ่นคิดว่าเป็นใครมาตลอดสองอาทิตย์นั้น แท้จริงก็คือใครกันแน่ในที่สุด ‘Mr. H. Hhemmhawattana ก็คือหรัญญ์ เหมวัฒน์’ ‘หรือพี่ฮั้นท์ของสาวๆ ที่เธอมักจะได้ยินเรียกขานกันนี่เอง’ ‘เขากลายมาเป็นเจ้าบ่าวเธอได้ยังไง’ ‘เขาจะมาแต่งงานกับเธอทำไม’ เท่าที่รู้มา เขาไม่ได้ร่ำรวยระดับร้อยล้านพันล้านแน่ๆ แล้วเขาไปทำอะไรมา ถึงได้มีเงินมากมายขนาดเอามาทุ่มซื้อหุ้นบริษัทของพ่อเธอได้ ไหนจะไถ่บ้านคืนให้ และอีกหลายต่อหลายอย่างที่เขาจ่ายไป รวมทั้งแหวนเพชรน้ำงามและไม่น่าจะต่ำกว่าห้ากระรัตบนพานดอกไม้ตรงหน้าเธออีก ---------------------------------------------------------------------------------------- ฮั้นท์ (หรัญญ์ เหมวัฒน์) นักธุรกิจหนุ่ม ผู้มีชีวิตที่พลิกผันจากเลวร้ายกลับกลายเป็นดี ซึ่งเขาเองก็ตั้งตัวไม่ทัน แต่ทั้งหมดนั้น มาจากความดี ความขยันหมั่นเพียรของเขา บวกกับโชคช่วย ถึงเวลาที่เขากลับมายืนอยู่จุดเดิม ในฐานะใหม่ ที่ใครต่อใครต่างงุนงง โดยเฉพาะเพื่อนๆ หรือแม้แต่กับผู้หญิงที่เคยเมนเขามาแล้ว และเขาก็จะทำให้ผู้หญิงพวกนั้นได้รู้ ว่าไม่ควรเมินเขาจริงๆ ---------------------- ย้า (ไรยา เจริญรัตชตะ) ทายาทนักธุรกิจหลายร้อยล้าน ที่ชีวิตพลิกผัน จากดีกลายเป็นเลวร้ายในไม่กี่ปี จนเธอกับครอบครัวก็ตั้งตัวไม่ติด รับภาวะย่ำแย่แทบไม่ทัน และถึงเวลาที่เธอจะต้องเลือก ระหว่างช่วยกู้ทุกอย่างของครอบครัวคืน กับทิ้งทุกอย่างไปแบบไม่เหลียวหลัง เพื่อไปเลียแผลหัวใจจากชายที่เธอรักแทบตาย สุดท้ายเธอจะเลือกทางเดินยังไง จะไปต่อหรือพอแค่นี้ ---------------------------------------------------------------------------------------- เมียแต่งท่านประธาน Chairman's Wife ตอนแรกคิดว่าจะให้นิยายที่เรื่องนี้มีแค่ชื่อภาษาอังกฤษเท่านั้นค่ะ ที่เหลือให้รี้ดไปตีความเอาเอง ว่าควรจะใช้ภาษาไทยว่าอะไรดี ระหว่าง แรงรัก - รั้งรัก - รังรัก และใช้นามปากกาพิมรภัค แต่สุดท้ายก็คิดชื่อใหม่ได้แล้วค่ะ และตัดสินใจใช้นามปากกาหลัก นั่นคือ กันเกราค่ะ เพราะแว้ปไปเขียนอวตารหลายเรื่องแล้ว และไม่ได้ออกนามปากกานี้นานแล้ว ส่วนแนวก็จะเพิ่มดราม่าเข้าไปอีก ซึ่งจะเป็น Signature ของกันเกราอยู่แล้ว รี้ดอยากได้มาม่าเจ้มจ้นแค่ไหน บอกกันได้เด้อ ----------------------------------------------------------------------------------------
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"
เพราะคิดว่าเป็นความฝัน ฉินหร่านจึงร่วมมือบรรเลงเพลงรักอย่างไม่ได้ตั้งใจ ไฉนตื่นขึ้นมาถึงมีสามีเป็นของตัวเอง อีกทั้งสามีนางยังตาบอดอีกด้วย! แต่นั่นไม่น่าตกใจ เท่ากับที่นางมาอยู่ในร่างเด็กสาวในยุคจีนโบราณ ที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ อีกทั้งร่างนี้ถูกขายให้มาเป็นภรรยาของชายตาบอด แต่ไหนๆ ก็มาแล้วจึงจะใช้ชีวิตให้ดี ส่วนสามีนะหรือ หล่อขนาดนั้น แซ่บขนาดนี้ เดินหน้าเกี้ยวสามีสิ จะรออะไร!
ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"