“ผมจะให้ทะเบียนสมรสตามที่คุณต้องการ แต่ผมจะไม่มีวันให้หัวใจ” “แล้วคุณจะยอมแต่งงานกับฉันทำไม” หล่อนถามเสียงสั่น “เพราะผมต้องการโสเภณีส่วนตัวที่สามารถใช้งานบนเตียงได้สะดวกทุกเวลาที่ผมมีอารมณ์ยังไงล่ะ ในสังคม…คุณจะเป็นภรรยาไม้ประดับ แต่ในห้องนอน…คุณจะเป็นได้แค่เมียบำเรอที่มีค่าแค่ร่างกายสวยๆเท่านั้น”
“อา...”
เสียงครางกระเส่าดังจากคนสองคนที่ตอนนี้หลอมรวมร่างกายเป็นหนึ่ง ‘วีรยา’ปรือตาฉ่ำหวานมองใบหน้าคมที่เห็นห่างเพียงคืบอย่างเคลือบแคลง
หล่อนฝันไปหรือเปล่า ชายที่โอบกอดหล่อนไว้แนบร่างคนนี้คือ‘กฤตพล’ ชายหนุ่มนักรักที่ไร้หัวใจ เขาเคยมองหล่อนอย่างหมิ่นแคลน ดวงตาคู่คมชวนฝันช่างกระด้างไร้ความรู้สึกอยู่เป็นนิตย์
ทว่าในเวลานี้ เขากลับกอดหล่อนราวกับรักเสียเต็มประดา ดวงตาสีเข้มที่เคยเฉยชา วันนี้เปี่ยมล้นด้วยไฟพิศวาส เขาต้องการหล่อน...แม้ไม่บอกผ่านคำพูด แต่ภาษากายและแววตาที่เห็นก็ทำให้หญิงสาวรู้โดยอัตโนมัติว่าตอนนี้เขาเจียนคลั่ง
“อ๊ะ...” วีรยาอุทานสั้นๆ ใบหน้าร้อนผ่าวเมื่อบางสิ่งรุกล้ำเยื่อพรหมจรรย์ก่อนทะลวงเข้าสู่ความอุ่นร้อนที่คับแคบ อาการเจ็บปร่าเกิดขึ้นทั่วเนินสาว แต่เขากลับไม่ปรานีเมื่อขยับกายรุกล้ำเข้ามาอย่างกระชั้นชิด
“จะ...เจ็บ” หญิงสาวบอกเสียงสั่น กระบอกตาร้อนผ่าว ซึ่งเขาก็ชะงักไปชั่วอึดใจเดียว นาทีต่อมาร่างหนาก็ขยับกายอีกครั้ง พร้อมริมฝีปากอุ่นจัดที่ครอบครองยอดถันอิ่มดูดดื่มราวหิวกระหายมาเนิ่นนาน
น่าแปลกที่ความเจ็บปวดในช่วงแรกคลายลง ก่อนความรัญจวนจะเข้าแทนที่ วีรยาหลับตาแน่น นิ้วครูดไปตามแผ่นหลังเปลือยเปล่าของผู้ชายที่คร่อมอยู่เหนือร่าง เสียงหวีดร้องบ่งบอกความหฤหรรษ์มาพร้อมกับหยาดน้ำตาแห่งความอิ่มเอม
แต่ดูเหมือนกฤตพลจะยังไม่อิ่มในรสสวาท เพราะชายหนุ่มจูบที่เรียวปากอิ่มแล้วไต่มาตามซอกคอ ขณะที่สองมือบีบเคล้นเต้าทรวงอย่างหนักหน่วงเพื่อปลุกเร้าให้ไฟสวาทลุกโชนอีกครั้ง
ไม่ใช่ฝันไปใช่ไหม...
วีรยาถามตัวเองในใจเช่นนั้น ทว่าใบหน้าคมที่ลอยเด่นอยู่ไม่ห่าง...คิ้วเข้มยาวได้รูป ดวงตาคมกริบ จมูกโด่งเป็นสัน และริมฝีปากสีชมพูสวย
ทุกอย่างที่ประกอบขึ้นเป็นกฤตพล หล่อนไม่มีทางลืม ทั้งรูปหน้าที่คมสัน และเรือนร่างกำยำ บัดนี้หล่อนได้ครอบครองเขาแล้วทุกสัดส่วน
หล่อนเป็นเจ้าของเขาแล้วอย่างเต็มตัวใช่ไหม ?
รอยยิ้มปลื้มปิติผุดขึ้นที่เรียวปากอิ่ม แขนเรียวยังคงโอบรัดลำคอแกร่งไว้อย่างกลัวว่าเขาจะหนีหาย ขณะที่สะโพกสอบเพรียวยังคงทำหน้าที่ขยับเข้าออกอย่างแข็งขัน
หยาดเหงื่อเม็ดเล็กไหลซึมจากเรือนผม ไล่ลงมาตามแนวแก้มราวกับว่าอากาศร้อนจัด ทั้งๆที่ในห้องติดเครื่องปรับอากาศอย่างดี
“เก้า...ฉัน ฉันรักคุณ” หญิงสาวบอกด้วยเสียงสั่นแต่หนักแน่น ซึ่งเขาก็ขมวดคิ้วฉับ ดวงตาเปล่งประกายประหลาดขึ้นวูบหนึ่งก่อนจะจางหายไปอย่างรวดเร็ว
กฤตพลไม่พูดอะไร เขากระแทกกระทั้นส่วนร้อนผ่าวอย่างสม่ำเสมอ ไม่มีคำบอกรัก ไม่มีคำพูดใดๆที่บอกถึงความห่วงหา
แม้ใจหนึ่งจะนึกน้อยใจ แต่กระนั้นวีรยาก็ยังต้องการเขา เมื่อร่างกายร้อนผ่าวเหมือนถูกไฟอังอยู่ตลอดเวลา หล่อนปรารถนาอยากให้เขาโอบกอด จูบซ้ำๆและเป่าลมหายใจร้อนๆรดต้นคอและเนินอก
อยากให้นิ้วเขาสัมผัส แตะทุกสัดส่วน อยากเป็นของเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น...
เพราะท่วงท่าเร่าร้อน และการสนองกลับที่เป็นไปโดยสัญชาตญาณของหญิงสาว ทำให้กฤตพลยิ้มหยัน เขามองร่างงามเหมือนมองของเล่นที่ถูกใจ
ใช่...หล่อนถูกใจเขา ผู้หญิงที่บริสุทธิ์และหอมหวานเช่นหล่อนหาไม่ได้ง่ายๆในโลกปัจจุบัน
แล้วดูดวงตาหล่อนสิ เชิญชวนจนเขาไม่อยากผละห่างไปไหน...อยากกอด อยากแนบชิดไปนานๆ
เพราะอารมณ์ฝ่ายต่ำพัดโหมกระพือ สุดจะอดใจไหว กฤตพลขบกัดเนินอกขาวผ่องอย่างแรงจนหญิงสาวสะดุ้ง ฝ่ามือใหญ่โลมลูบสีข้างนวลเนียนไปเรื่อย ก่อนเลื่อนขึ้นกอบกุมทรวงอกอวบหยุ่น
“คุณ...ถูกใจผมมาก” เสียงทุ้มกระซิบ วนเวียนดมดอมแก้มสาว สัมผัสจุดชวนหวิวซ้ำๆหลายครั้งราวจะย้ำว่าเรือนกายนี้มีคนครอบครองแล้ว
วีรยายิ้มออกมาอย่างเปี่ยมสุขเมื่อความร้อนที่มีคลายลงจนเหลือเพียงความอบอุ่น ร่างหนาเกร็งกระตุกก่อนจะพาลาวาแห่งรักเข้าสู่ร่างกายหล่อนเต็มที่
บทเพลงรักมอดดับ และหญิงสาวก็อ่อนเพลียเกินกว่าจะพูดอะไร ดวงตาคู่โตหลับพริ้มแล้วจมดิ่งสู่ห้วงนิทราอย่างรวดเร็ว โดยที่ร่างบางยังอยู่ภายใต้อ้อมกอดของคนที่ทิ้งตัวลงนอนเคียงข้าง
คืนนี้คงเป็นคืนที่หล่อนจะหลับฝันดี และต่อให้ฝันร้ายแค่ไหน หล่อนก็ไม่หวั่น เพราะตอนนี้หล่อนมีความสุขเหลือเกินที่ได้หลับพร้อมกับคนที่หล่อนรัก
แสงแรกของเช้าวันใหม่สาดส่องลอดช่องหน้าต่างเห็นเป็นลำแสงสีขาวอ่อนๆกระทบดวงตาของคนที่หลับอยู่บนเตียงกว้างจนต้องเปิดเปลือกตาขึ้นมาอย่างช้าๆ
เพดานห้องสูง...มีโคมไฟระย้าสีทองประดับอยู่ !
นี่ไม่ใช่ห้องของหล่อนแน่ๆ !
วีรยาหลับตาลงครู่หนึ่งเพื่อปรับสายตาให้ชินกับแสงสว่าง ก่อนจะลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง พลางหลุบตาลงมอง...เห็นตนเปลือยเปล่าไร้เสื้อผ้าปกปิดร่างกาย มีเพียงผ้าห่มผืนบางเท่านั้นที่คลุมร่างไว้เพื่อกันอุจาด
หน้าหวานเผือดสีก่อนจะแดงปลั่งเมื่อนึกทุกอย่างออก เมื่อคืนนี้มีงานเลี้ยงรื่นเริงเพื่อขอบคุณพนักงานที่สู้อุตส่าห์เหนื่อยยากอยู่เคียงข้างบริษัท
งานสังสรรค์จัดขึ้นที่บริษัท หลังงานเลี้ยงเลิกรา บิดาก็ขับรถมาส่งหล่อนที่บ้านหลังใหญ่ไม่คุ้นตา จากนั้นก็ถูกบังคับให้ดื่มน้ำในขวดจนเกือบหมด
เมื่อดื่มไปแล้ว หล่อนก็ร้อนไปทั้งร่างราวถูกไฟแผดเผา อยากปลดเปลื้องเสื้อผ้าออก แทบไม่เป็นตัวของตัวเอง ครั้นจะขอให้พ่อพากลับไปส่งที่บ้านของตน พ่อก็ขับรถหนีไปแล้ว ทิ้งให้หล่อนยืนอยู่ท่ามกลางความมืดหน้าบ้านของคนอื่นที่หล่อนไม่คุ้นเคย
เธอแต่งงานกับสามีที่เย็นชา หน้าดุ และไม่เคยบอกเธอว่ารักสักคำ เธอจะอบอุ่นแค่ตอนเขาร่วมรักด้วย จากนั้นเธอจะรู้สึกเหน็บหนาวกับความเฉยชาที่เขามีให้ สิ่งเดียวที่ทำให้เธอมีกำลังใจคือการตั้งครรภ์ลูกแฝด เธอไปจากเขาโดยไม่ล่ำลา 4 ปีต่อมา เธอและเขาได้พบกันอีกครั้ง พร้อมเด็กฝาแฝดวัย 3 ขวบที่เรียกเขาว่า ‘พ่อ’
เพราะน้ำเมาในคืนนั้น เธอจึงพลาดท่า ‘ท้องไม่มีพ่อ’ เธอจำผู้ชายคนนั้นไม่ได้ ไม่รู้ว่าเขาคือใคร สิ่งที่จำได้ดีคือเสียงของเขาเท่านั้น วันเวลาผ่านไป เธอคลอดลูกชายฝาแฝด มีคนแปลกหน้ามาจับตัวเธอและลูกๆไป…คฤหาสน์หลังใหญ่ราวกับวังคือสถานที่เธอและลูกถูกพาตัวมา เธอได้พบใครคนหนึ่งซึ่งมีใบหน้าหล่อเหลาราวกับเทพบุตร แต่ทว่าแววตากลับเย็นชาเหมือนน้ำแข็ง เขาเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ “ในที่สุด ผมก็ตามหาคุณเจอเสียทีนะ” เธอจำได้…เสียงทุ้มทรงอำนาจที่ไม่เคยลืมเลย เขาคือผู้ชายในคืนนั้น ! “คุณตามหาฉันเจอได้ยังไง” “ไม่มีอะไรที่ผมต้องการแล้วจะไม่ได้หรอกนะ ถึงแม้จะใช้เวลานานไปหน่อยก็เถอะ” หญิงสาวนั่งคุกเข่ากอดลูกๆแนบอก เนื้อตัวสั่นระริก ถามด้วยเสียงที่สั่นจนควบคุมไม่อยู่ “คุณต้องการอะไร” “ตอนแรกแค่อยากรู้ว่าผู้หญิงคนไหนกันที่มาเสียตัวให้ผมแล้วก็ชิ่งหนีไป แต่พอรู้ว่าคุณมีลูก ผมก็ต้องการลูก” “ไม่ได้นะ” เธอกอดลูกชายทั้งสองแน่นกว่าเดิม “เด็กๆเป็นลูกของฉัน ไม่เกี่ยวกับคุณ” ร่างสูงขยับมายืนใกล้ๆ หรี่ตามองเธอและเด็กๆ ก่อนยกมุมปากเป็นรอยยิ้มหยัน “มีแค่มดลูก คุณจะท้องได้เองหรือไง ถ้าไม่ได้สเปิร์มจากผมไปน่ะ” หญิงสาวหน้าร้อนวูบ… เพิ่งรู้ก็วันนี้เองว่า พ่อของลูกเธอนั้นไม่ใช่ผู้ชายธรรมดา แต่เป็นประธานบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ร่ำรวยมหาศาล ที่สำคัญเขาต้องการลูกๆ เธอจะต้องหนีจากเงื้อมมือของเขาให้ได้ อุตส่าห์อุ้มท้องมาตั้ง 9 เดือน จะยอมให้เขามาพรากลูกไปจากอกไม่ได้เด็ดขาด แม้จะตั้งใจเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าจะต้องหนีให้ได้ แต่ทว่าสุดท้ายแล้ว…นอกจากจะหนีไม่พ้นแล้ว อย่าว่าแต่ลูกเลย แม้แต่หัวใจของเธอก็ตกเป็นของเขา !
ปภาวีหลงรักนัธทวัฒน์ข้างเดียวมานานแล้ว ในวันที่เขาหมั้นหมายกับผู้หญิงคนอื่น เป็นวันที่เธอพลาดพลั้งมีอะไรกับเขาโดยไม่ได้ตั้งใจ เธอตกอยู่ในสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เมื่อพ่อขายเธอให้เป็นเมียเก็บของเขาในราคา 3 ล้าน ตอนกลางวันเธอเป็นคนรับใช้ที่โดนทุกคนในบ้านกดขี่รังแก ส่วนค่ำคืน เธอคือนางบำเรอของท่านประธานที่มองว่าเธอเป็นเพียงของเล่นเท่านั้น เมื่อเธอเกิดตั้งครรภ์ขึ้นมาและอยู่ในความเสี่ยง ‘แท้งคุกคาม’ หนทางเดียวที่จะปกป้องลูกฝาแฝดชายหญิงในท้องไว้ได้คือเธอต้องหนีไปจากเขา...!!
เธอเป็นเลขาของเขา ส่วนเขาก็เป็นเจ้านายของเธอ.... อัมพิกาตกหลุมรักนิโคลัสตั้งแต่แรกเห็น ทว่า...สถานะระหว่างเลขากับท่านประธานช่างต่างกันจนเธอไม่อาจคาดหวังเกินตัว 1 ปีผ่านไป จากการได้ทำงานใกล้ชิด เธอยิ่งหวั่นไหวจนยากจะถอนหัวใจ ได้แต่เก็บงำความรักไว้เป็นความลับในใจ ไม่สามารถเอ่ยปากไปได้ จนวันหนึ่ง เธอและเขาต่างเมาด้วยกันทั้งคู่จนมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกัน เธอยินยอมเพราะรัก แต่เขามีเพียงความใคร่ ในวันที่เสียตัวให้เขาแล้ว เขาพาเธอไปอยู่ด้วยกันที่บ้าน...ที่นั่น ก็มีสาวสวยอยู่แล้วคนหนึ่ง เขาตั้งกติกาว่า ระหว่างเธอกับผู้หญิงคนนั้น...หากใครมีทายาทให้เขาได้ก่อน เขาจะยอมจดทะเบียนสมรสด้วย เพราะสิ่งที่เขาต้องการไม่ใช่ความรัก แต่เป็นทายาทสืบสกุล ! ผู้ชายเลือดเย็นคนนี้น่ะหรือที่เธอรัก...ต่อให้เธอเกิดตั้งท้องขึ้นมาก็อย่าฝันเลยว่าเธอจะยอมให้เห็นหน้าลูก !!
สรวิชญ์คือรักแรกของฝากขวัญ... เธอเป็นลูกสาวหัวหน้าคนงาน ส่วนเขาคือลูกชายเจ้าของไร่สิงห์คำรามที่อายุมากกว่าเธอ 5 ปี ความใกล้ชิดก่อเกิดความสายสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง เธอในวัยเยาว์ ไร้เดียงสา เรียนยังไม่จบมัธยมปลายก็เสียตัวให้เขา เธอวาดฝันถึงอนาคตที่ดี ความรักที่สวยงาม แต่แล้ว...ในวันที่เธอจบการศึกษาชั้น ม.6 คือวันเดียวกับที่ถูกเขาทอดทิ้ง พ่อพาเธอไปอยู่กรุงเทพเพื่อฟื้นฟูสภาพจิตใจ ในขณะที่ท้องของเธอเริ่มโตขึ้นทุกวัน โดยที่สรวิชญ์ไม่เคยรู้เลยว่าเธออุ้มท้องสายเลือดของเขาอยู่ เวลาผ่านไป 6 ปี ลูกสาวของเธออายุ 5 ขวบ เธอได้เดินทางกลับมาที่ไร่สิงห์คำรามเพื่อดูแลสรัณซึ่งเป็นเจ้านายเก่าของพ่อ เธอและเขาได้พบกันอีกครั้ง...เขาไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว จากหนุ่มหน้าใส กลายเป็นผู้ชายดุดัน ไว้หนวดเครา ตัวโตร่างใหญ่ ที่สำคัญ...เขามีคู่หมั้นแล้ว แต่เธอไม่มีทางให้เขาสมหวังหรอกนะ เธอเคยเสียใจมากแค่ไหน เขาต้องได้รับความเสียใจมากกว่าเธอ ฝากขวัญไม่รู้เลยว่า...ความอยากเอาคืนในวันนั้น จะทำให้เธอตกหลุมรักอดีตสามีเป็นครั้งที่สอง ทว่าเธอไม่ใช่เด็กสาวม.ปลายผู้ไร้เดียงสาอีกแล้ว เธอไม่มีวันทำผิดพลาดเหมือนเมื่อก่อนแน่ๆ !
เธอเคยคิดว่าเขา รัก’จึงยอมยกให้ทั้งตัวและหัวใจ ทว่าในความจริง เธอเป็นได้แค่ ‘เมียในความลับ’ ที่ทำได้เพียงรอเวลาให้เขามานอนด้วย เจ้าสาวที่เขาจะแต่งงานด้วย ไม่ใช่เธอ แต่เป็นผู้หญิงคนอื่น และฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้ความอดทนของเธอขาดลงก็คือการที่เธอตั้งครรภ์ แต่เขากลับแนะนำให้ไปทำแท้ง พอที...เธอไม่สามารถคบกับผู้ชายใจร้ายเช่นเขาได้อีก พรอุษาตัดสินใจตัดขาดความสัมพันธ์ที่มีแต่ความเจ็บปวด อุ้มท้องลูกน้อยหนีไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ 4 ปีผ่านไป บาดแผลในใจเริ่มจางหาย พร้อมลูกสาวที่เติบโตมาอย่างน่ารัก แล้วในวันหนึ่ง...โชคชะตาก็ทำให้เธอบังเอิญพบเจอกับสามีเก่าอีกครั้ง ถ่านไฟที่ยังไม่ทันได้ดับสนิทเริ่มติดไฟขึ้นมาอีกครั้ง...แต่ทว่าเธอจะไม่มีวันยอมผิดพลาดอีกเป็นครั้งที่สองแน่ๆ ...................... “นี่มัน” ชายหนุ่มย่นหัวคิ้ว ดึงแผ่นทดสอบมาดู... ถึงเขาจะเป็นผู้ชาย แต่ก็ใช่ว่าจะไม่รู้ว่าที่ถืออยู่นี้คืออะไร แล้วความหมายของสองขีดแดงคืออะไร...สายตาคู่คมจ้องหน้าเธออย่างเดือดดาล “เธอท้องเหรอ” “คือ...มัน...เอ่อ” เธออึกอัก “เธอท้อง...” เขากดเสียงให้ต่ำลงไปอีก ส่งผลให้เธอตัวลีบเล็ก อึกอัก “พิมลองตรวจดู ไม่คิดเหมือนกันว่ามันจะขึ้นสองขีด” “ไม่คิดงั้นเหรอ” ชายหนุ่มแค่นเสียง แสยะมุมปาก ปล่อยมือจากเธอพร้อมขยำแผ่นทดสอบปาลงพื้น “ฉันจะถือซะว่าเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้น ไปเอาเด็กออกซะ”
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
หลังจากแต่งงานกันมาสองปี สามีของเธอไม่เคยเหยียบเข้าไปในบ้านและมองดู 'ภรรยาขี้เหร่' ของเขาเลย แถมเขาก็มีเรื่องอื้อฉาวกับดาราหน้าใหม่หลายคนทุกวัน ซูเหว่ยทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอตัดสินใจปล่อยเขาไป ต่อไปก็ต่างคนต่างไปเลย แต่เมื่อเธอเสนอเรื่องหย่า... ฟู่เหยียนอันพบว่านักออกแบบในบริษัทนั้นสะดุดตาเป็นพิเศษ เขาค่อยๆ ทำความรู้จักกับเธอเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาค้นพบตัวตนที่แท้จริงของเธอเข้า เขาเสียใจแล้ว
เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"
เพราะคิดว่าเป็นความฝัน ฉินหร่านจึงร่วมมือบรรเลงเพลงรักอย่างไม่ได้ตั้งใจ ไฉนตื่นขึ้นมาถึงมีสามีเป็นของตัวเอง อีกทั้งสามีนางยังตาบอดอีกด้วย! แต่นั่นไม่น่าตกใจ เท่ากับที่นางมาอยู่ในร่างเด็กสาวในยุคจีนโบราณ ที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ อีกทั้งร่างนี้ถูกขายให้มาเป็นภรรยาของชายตาบอด แต่ไหนๆ ก็มาแล้วจึงจะใช้ชีวิตให้ดี ส่วนสามีนะหรือ หล่อขนาดนั้น แซ่บขนาดนี้ เดินหน้าเกี้ยวสามีสิ จะรออะไร!
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"