‘บัว’ ยอมให้อิทธิเชยชมความสาว เพียงเพราะคำว่า ‘กลัวไม่รัก’ จากดอกไม้สูงค่าที่แม่ฟูมฟัก กลายเป็นดอกไม้ริมทางที่ชายเด็ดดมได้โดยง่าย และเมื่อความสาวถูกตีราคา บัวจะทำอย่างไรให้ราคานั้นเปลี่ยนเป็นคุณค่า และคุณค่านั้นเหมาะสมกับใคร ชายมากมายที่มาติดพัน หรือ ‘เข้ม’ พี่ชายข้างบ้าน
‘บัว’ สาวบ้านนาอุบล หล่อนกำพร้าพ่อตั้งแต่เล็ก มีแม่และยายเป็นผู้ดูแล
ปีนี้บัวอายุย่าง 19 ปี หน้าตาสวยคม ผิดแผลกไปกว่าหญิงสาววัยเดียวกัน ใครๆ ก็ว่าบัวสวยได้พ่อและผิวได้แม่ บัวมีผิวสีน้ำผึ้ง ไม่ดำและไม่ขาว แต่กลับนวลเนียนน่าสัมผัส สีอ่อนอมเหลืองนวลดุจน้ำผึ้งเดือนห้า
ความสวยของบัวลือเลื่องจนกำนันเคยมาทาบทามไปประกวดนางงามประจำตำบล แต่แม่ไม่ยอมให้ไป เพราะไม่อยากให้บัวต้องใส่ชุดว่ายน้ำหรือนุ่งสั้นให้ใครๆ ดู
ทว่าแม่ก็ซุกซ่อนความสวยของบัวไว้ไม่ได้ ไม่ว่าบัวจะไปไหน ก็จะมีหนุ่มๆ มองเหลียวหลัง แต่เมื่อ 1 เดือนก่อน ทุกอย่างเริ่มเปลี่ยนไป ไม่มีใครกล้าแซวหรือทำตัวเกาะแกะบัว มากสุดก็มองอย่างเสียดายเท่านั้น เพราะหนึ่งในหนุ่มที่หมายปองบัวก็คือ ‘อิทธิ’
อิทธิหนุ่มหล่อ สูงยาวเข่าดี เรียนจบปริญญาตรีจากกรุงเทพฯ ทั้งยังเป็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนเพียงคนเดียวของกำนันอัฐ เรื่องฐานะเงินทองก็ไม่ต้องพูดถึง อิทธิใช้จ่ายเงินเป็นเบี้ย ทั้งยังลูกน้องไว้ติดสอยห้อยตามตัวเองไม่ต่างจากกำนันผู้เป็นพ่อ
กำนันอัฐมีกิจการหลายอย่าง ทั้งโรงสีข้าว รถยนต์โดยสารเข้าตัวเมือง ทั้งยังเป็นเจ้าของตลาดสดที่ใหญ่สุดในตำบล แค่เก็บค่าเช่าร้าน ค่าแผงผักแผงอาหารในแต่ละเดือนก็ได้หลายหมื่นบาทแล้ว และแม่ของบัวก็เป็นหนึ่งในผู้เช่าแผงขายผัก บัวกับอิทธิจึงได้พบหน้ากันบ่อยครั้ง เพราะอิทธิมาบริหารตลาดแทนพ่อ
ตามธรรมดาของสาวต่างจังหวัดเรียนจบก็แค่มัธยมสาม บัวจึงพอใจในตัวอิทธิโดยง่าย เพราะอิทธิเช้าถึงเย็นถึงและมักจะมีของฝากติดไม้ติดมือมาให้แม่กับยายไม่ได้ขาด
ยุพินถอนหายใจเฮือกใหญ่เมื่อคิดถึงความสัมพันธ์ของอิทธิและบัว หล่อนไม่ชอบใจที่อิทธิเปิดตัวว่าบัวเป็นผู้หญิงของเขา ห้ามใครมายุ่งเกี่ยว แต่หล่อนก็ต้องยอมตามเหตุผลของแม่ว่าบัวโตเป็นสาวแล้ว ถ้ามีคนมาชอบและอยู่ในหูตาผู้ใหญ่ก็ดีกว่าไปลักลอบพบกัน อีกทั้งยังเป็นการดีที่ผู้ชายคนนั้นเป็นอิทธิ เพราะอิทธิพลของกำนันอัฐจะได้กันผู้ชายคนอื่นไม่ให้มาหาเศษหาเลยกับบัว
แต่ถึงอย่างนั้นหล่อนก็ยังหนักใจ กลัวประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย เพราะพ่อของบัวเป็นชายที่มาเร่ฉายหนังขายยา
ชายคนโก้มาจากกรุงเทพฯ รูปหล่อ แต่งตัวดี และเจ้าคารมเป็นที่สุด แค่มาฉายหนังวันเดียว หล่อนก็ยินยอมมอบความสาวให้เขาเชยชม เขาจึงเห็นหล่อนเป็นแค่ดอกไม้ไร้ค่า เด็ดดมสมใจก็คลายความหอม
คำสัญญาเพียงลมปากไม่มีความจริงสักนิด พ่อค้าหนังเร่จากไปแล้วไปลับ ไปแล้วไม่เคยกลับมาอีกเลย
หล่อนตั้งท้องไม่มีพ่อ นำความอับอายมาให้ครอบครัว หล่อนไม่อยากให้ลูกสาวเป็นอย่างหล่อน ถ้าเลือกได้ หล่อนอยากให้บัวตบแต่งกับ ‘ไอ้เข้ม’ ลูกชายเพื่อนบ้านแสนดี ที่คอยช่วยเหลือกันมาตลอด
หล่อนดูออกว่าเข้มทั้งรักทั้งเทิดทูนบัว ถ้าบัวได้เข้มเป็นผัว บัวน่าจะมีความสุขที่สุด เพราะอะไรจะดีไปกว่า “ผัวรัก” เพราะนั่นคือหลักประกันของชีวิตคู่ว่ายังไงเสีย เข้มก็จะทำทุกอย่างให้บัวมีความสุขและสุขสบาย ทว่าบัวกลับไม่เคยมีใจให้เข้มเลย
“แม่... ฉันอยากให้มันได้กับเจ้าเข้ม”
“แล้วบัวมันจะยอมเรอะ”
“นั่นแหละแม่ที่ฉันหนักใจ”
“เอ็งจะหนักใจทำไม บัวมันโตแล้ว มันเลือกผัวเองได้”
“โธ่แม่... คนรวยเขาจะมาจริงใจอะไรกับมัน”
“อย่าว่าไป แม่เห็นพ่ออิทธิเขาก็ดูรักนังบัวมันจะตาย”
“ยังไม่เสียกันน่ะสิแม่ ผู้ชายก็แบบนี้ พอยังไม่ได้ก็เทียวไร้เทียวขื่อ เดี๋ยวพอได้กันสิ มันก็เปลี่ยนใจไปหาคนอื่น”
“เอ็งน่ะมันอคติกับพ่ออิทธิเขา”
“โธ่แม่... ฉันจะอคติทำไม มีลูกเขยรวยๆ ฉันก็ชอบเหมือนกัน แต่เพราะฉันรู้น่ะสิว่ายังไงเสียกำนันเขาก็ไม่ให้ลูกชายคนเดียวของเขามาเอานังบัวทำเมียหรอก หรือถ้าได้เป็นเมียจริงๆ ก็คงเป็นได้แค่เมียเก็บ ไม่มีทางที่เขาจะยกย่อง”
“เอ็งอย่าตีตนไปก่อนไข้ อาจไม่เป็นอย่างที่เอ็งคิดก็ได้ รอดูกันไปก่อน”
“ไม่เป็นยังไงล่ะแม่ คนที่ตลาดเขาคุยกันว่ากำนันทาบทามลูกสาวเจ้าของร้านทองไว้ให้พ่ออิทธิแล้วนะ แล้วคุณหนูร้านทองก็เรียนอยู่กรุงเทพฯ เหมือนกัน ปิดเทอมถึงจะกลับมาบ้าน เงินเขาต่อกัน เราจะไปมีปัญญาทำอะไรได้ วันนี้ฉันก็แทบหาเงินจ่ายค่าแผงไม่ทันแล้ว”
“ก็เอ็งไม่ยอมรับน้ำใจพ่ออิทธิเขานี่นา เขาก็บอกอยู่แล้วว่าไม่ต้องจ่าย เอ็งก็ไม่ต้องไปจ่าย เก็บเงินไว้ซื้อเสื้อผ้าดีๆ ให้นังบัวมันใส่ดีกว่า”
“ฉันไม่อยากให้ใครคิดว่า ฉันเอาลูกเป็นตัวล่อนะแม่”
“ตัวล่ออะไรวะ ก็พ่ออิทธิเขารักนังบัว เอ็งเป็นว่าที่แม่ยาย ว่าที่ลูกเขยก็ต้องให้ฟรีสิ”
“โธ่แม่... หนุ่มสาวจะรักกันจริงแค่ไหนกัน”
“แล้วถ้าพ่ออิทธิเขารักนังบัวจริงๆ ล่ะ”
“รักจริงก็เป็นได้แค่เมียเก็บเท่านั้นแหละแม่ เราจนนะแม่ คนรวยเขาไม่อยากดองกับคนจนหรอก”
หากนาไม่แล้ง ข้าวไม่แห้งตาย ‘เดช’ ก็ไม่คิดจะหอบเอา ‘ฟ้า’ เมียรักเข้ามาทำงานในเมืองกรุง แต่ความจนทำให้เลือกไม่ได้ และงานดี เงินดี เจ้านายเห็นใจ ก็เป็นเส้นทางที่ดีที่สุด ทว่า... หากรู้ว่ามาแล้วจะต้องเสียเมียให้นายฝรั่ง เดชเลือกที่จะไม่มาเสียยังดีกว่า แต่... เสียแล้วคือเสียเลย สิ่งเดียวที่จะชดเชยความแค้นก็คือ ‘เมียนาย’ คุณผู้หญิงเร่าร้อน เร่งเร้า รุนแรง และมากครั้งเท่าที่ต้องการ เดชไม่รู้แล้วว่านั่นคือการแก้แค้นหรือรางวัล +++++ ‘เดช’ พา ‘ฟ้า’ เมียรักมาทำงานที่บ้านนายฝรั่ง แต่ ‘คริส’ นายฝรั่งกินเมียเขาไปแล้ว และยังเอาดุ้นยาวใหญ่มาล่อให้ฟ้าติดใจ จนฟ้ากินไม่อิ่มไม่พอ อยากได้อะไรที่เทียบเท่า เขาก็เลยแอบกิน ‘โรส’ เมียของนายฝรั่ง แก้แค้นให้สาสม แต่แค้นช่างแสนหวานและฉ่ำชุ่ม จนเขาต้องกินซ้ำๆ ยิ่งได้กินพร้อมๆ กับพี่โชค เขาก็ยิ่งเมามัน และแน่นอนว่าโรสชอบ ในขณะที่นายฝรั่งกระหยิ่มยิ้มที่ได้กินเมียเขา เดชกลับสุขและยิ้มกว้างยิ่งกว่า เพราะเขาได้กิน ‘คุณหนูแพทตี้’ คุณหนูช่างร่านร้อนไม่ต่างจากแม่ แน่นอนว่าเขาชวนพี่โชคมากินด้วย
‘หากหัวใจปราศจากความแค้น คงไร้แล้วซึ่งลมหายใจ’ สำหรับหล่อน เขาคือชายชุดดำ บอดี้การ์ดหน้านิ่งของพ่อ เคร่งขรึม เก๊กหล่อ หมางเมินใส่ราวหล่อนไม่สำคัญ ก็แน่ล่ะ เพราะพี่สาวเขากำลังจะมาเป็นเมียใหม่ของพ่อ แต่มีเหรอที่หล่อนจะยอม นารีมีรูปเป็นทรัพย์ฉันใด หล่อนก็พร้อมจะลงทุนเพื่อสิ่งที่ได้มา ภายใต้แว่นดำนั้น หล่อนต้องรู้ให้ได้ว่า ‘หัวใจ’ หรือเปล่าที่ซุกซ่อนอยู่ แต่สำหรับเขา... หล่อนคือ เหยื่อ! ที่ความแค้นจะได้เอาคืน
ความรักหรือเพียงความปรารถนาแค่ข้ามคืน พบกับนิยายสุดเร่าร้อน 3 เรื่อง 1.คืนเคาท์ดาวน์ 2.คืนฝนฉ่ำรัก 3.คืนเหงาสาวข้างบ้าน
#มาดามทรายกับชายเลี้ยงม้า เปิดประสบการณ์รักร้อนในฟาร์มม้ากันสักครั้ง หรือจะลองกลิ่นฟางแห้งบ่มแดดอุ่นๆ ในโรงนาก็ไม่เลวนะ +++++ เคิร์กรู้ว่าฉันชอบขี่ม้า เขาจึงสอนให้ฉันขี่ม้าจริงๆ หลังจากขี่เขาจนช่ำชองมาหลายครั้ง และฉันก็หัวไวสอนง่ายซะด้วย เพราะเมื่อฝึกหัดขี่ม้าจริงตอนเย็นเสร็จ พอตกกลางคืนฉันก็ซ้อมขี่กับม้าเทียมอย่างเคิร์กอยู่ทุกวัน ไม่ได้ว่างเว้น และก็มีบ้างเป็นบางวันที่ฉันทนไม่ไหวและเคิร์กก็อดไม่ได้ เมื่อฟางใหม่หอมกลิ่นแดดเร่งเร้าความกำหนัดของเราเหลือเกิน เคิร์กก็จะพาฉันไปซ้อมขี่กันที่คอกม้าในโรงนาซะหลายครั้ง และความตื่นเต้นก็ทำให้ฉันกับเคิร์กคึกคักกันมากเป็นพิเศษ ยามที่ฉันควบขี่เคิร์กอยู่ในโรงนา กลิ่นฟางแห้งที่รองรับร่างกายยิ่งใหญ่ของเขาอยู่นั้น เร้าใจจนฉันควบขี่เขาได้ไวกว่าที่เคยทำได้ บั้นเอวและช่วงบั้นท้ายทำหน้าที่โยกตัวไปข้างหน้าและโย้มาข้างหลัง ทว่าปากก็ร่ำร้องบอกถึงความเสียวซ่านที่ดุ้นบังเหียนกระทำกับร่องลึกลับของฉันอยู่ตลอดเวลา
พี่หนึ่งจะทำยังไงถ้าต้องเจอหน้า ‘พี่ชมพู่’ อยู่ทุกวัน รุ่นพี่สาวสวยที่เขาเคยไปสารภาพรัก แต่เธอกลับปฏิเสธอย่างไม่มีเยื่อใยด้วยข้อหา ‘เด็กไป’ ครั้งนี้ พี่หนึ่งตั้งใจจะลบคำสบประมาทให้ได้ พี่ชมพู่จะได้รู้ว่า ‘รุ่นน้อง’ ก็ทำอะไรได้หลายๆ อย่างไม่แพ้รุ่นพี่ โดยเฉพาะพี่หนึ่งน่ะจบด็อกเตอร์สาขา ‘เซ็กซ์ศาสตร์’ มาซะด้วย ‘เด็กกว่าแล้วไง’ รุ่นพี่ถ้ามาเจอ ‘รุ่นน้อง... สายดาร์ก’ จะทนได้เหรอ พี่หนึ่งจะพิสูจน์เอง
เพราะเป็นคนสวน 'เมฆ' จึงต้องรดน้ำดอกไม้ของ 'คุณนายชวนชม' ทั้งวัน...ทั้งคืน ‘คุณนายครับ’ เป็นเรื่องราวความเร่าร้อนของ ‘เมฆ’ คนสวนหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ผิวกายดำแดง ตามแบบฉบับคนท้องไร่ท้องนาเต็มขั้น เมื่อเมฆต้องมาทำสวนที่บ้านของ ‘คุณนายชวนชม’ เมฆก็เลยต้องเป็นคนสวนที่ดีที่สุด ดังนั้นดอกไม้ในบ้านของคุณนายไม่ว่าจะมีกี่ดอก เมฆก็ต้องทำหน้าที่รดน้ำดอกไม้เหล่านั้นให้ชุ่มฉ่ำ ทั้งวันและทั้งคืน
ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"
"นางเป็นบุตรีผู้สูงศักดิ์ของฮูหยินเอกของจวนเสนาบดี นางมีหน้าตาโดดเด่น ทั้งอ่อนโอนและมีน้ำใจไมตรีต่อผู้อื่น แต่... นางทำดีต่อป้าของนาง นางกลับฆ่าแม่ของนางตาย นางรักเอ็นดูน้องสาวของนาง แต่น้องสาวกลับแย่งสามีของนางไป นางคอยสนับสนุนและดูแลสามีของนางอย่างสุดหัวใจ แต่สามีกลับทำให้นางตายทั้งกลม...ตระกูลฝ่ายมารดาของนางก็ถูกประหารชีวิตทั้งตระกูลด้วย นางตายตาไม่หลับและสาบานว่าหากมีชาติหน้า นางจะไม่เมตาตาต่อใครอีก ใครก็ตาม กล้ามาทำร้ายข้า ข้าจะล้างแค้นด้วยชีวิตทั้งตระกูลของพวกเจ้า เมื่อเกิดใหม่อีกครั้ง นางอายุได้สิบสี่ปี นางสาบานว่าจะต้องเปลี่ยนชะตากรรมและแก้แค้นชาติก่อน ป้านางใจ้ร้าย นางจะใจร้ายกลับยิ่งกว่านาง นางคิดจะได้ครองตำแหน่งฮูหยินงั้นเหรอ บอกเลยไม่มีทาง! ส่วนน้องสาวชอบผู้ชายชั่ว ๆ นักไม่ใช่หรือ ได้!ข้าจะยกให้เลย ส่วนชายชั่วนั่น ข้าจะทำให้เจ้าไม่สามารถมีทายาทได้อีกตลอดทั้งชาติ!แต่ข้าจะแก้แค้น เหตุใดเจ้าต้องมาช่วยข้าด้วย?"
อวิ๋นเจินอาศัยอยู่ในตระกูลอวิ๋นมาเป็นเวลา 20 ปี กลับพบว่าเธอเป็นลูกสาวปลอม พ่อแม่บุญธรรมของเธอวางยาเธอเพื่ออยากจะได้เงินมาลงทุน หลังจากที่อวิ๋นเจินรู้เรื่องนี้ เธอก็ถูกไล่กลับไปที่ชนบท จากนั้นเธอก็ค้นพบว่าตัวเองคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลเฉียวและมีชีวิตที่หรูหราสุด ๆ หลังจากกลับมา เธอได้รับความรักจากครอบครัวและมีชื่อเสียงโด่งดัง น้องสาวจอมปลอมใส่ร้ายอวิ๋นเจิน แต่เธอไม่คาดคิดว่าอวิ๋นเจินจะมีความสามารถต่างๆ เมื่อต้องเผชิญกับการยั่วยุ เธอได้แสดงความสามารถและทักษะต่างๆ มากมายเพื่อจัดการผู้รังแก มีข่าวลือกันว่าอวิ๋นเจินยังคงโสด และชายหนุ่มชื่อดังแห่งเมืองงก็ผลักเธอไปเข้ากำแพง "คุณนายกู้ ถึงตามราเปิดเผยตัวตนได้แล้วนะ"
"ไล่ผู้หญิงคนนี้ออกไปซะ" "โยนผู้หญิงคนนี้ลงทะเลซะ" ขณะที่ไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเหนียนหย่าเสวียน โฮว่หลิงเฉินได้ปฏิบัติต่อเธออย่างไม่เป็นมิตร "คุณหลิงเฉินครับ เธอคือภรรยาของท่านครับ" ผู้ช่วยของหลิงเฉินกล่าวเตือนเขา เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลิงเฉินหยุดเพ่งมองไปที่เขาอย่างเย็นชาและบ่นขึ้นมาว่า "ทำไมไม่บอกผมให้เร็วกว่านี้?" นับจากนั้นเป็นต้นมา หลิงเฉินได้ตามใจและรักใคร่ทะนุถนอมหย่าเสวียนมาตลอด โดยไม่มีใครคาดคิดว่าพวกเขาจะหย่าร้างกัน
เพิ่งหย่ากับอดีตสามีไปไม่นานแต่ปรากฏว่าตัวเองท้อง จะทำอย่างไรดี? หรือจะให้อดีตสามีรับผิดชอบ แต่ก็ไม่คิดว่าอดีตสามีมีคนรักใหม่ไปแล้ว ชีวิตของถังชีชีนั้นช่างสับสน ช่างน่าวิตกกังวลและไม่รู้จะอธิบายยังไงดี เธอต้องคอยระวังไม่ให้คุณเฟิงรู้เรื่องการตั้งครรภ์จนกระทั่งคลอดลูกออกมาอย่างปลอดภัย แต่ไม่คิดว่าจะถูกเขาบังคับถึงเพียงนี้ "เราหย่ากันแค่สี่เดือน แต่เธอกลับตั้งครรภ์ได้เจ็ดเดือนแล้ว บอกมาดี ๆ ว่า ลูกเป็นของใคร!"