เพลิง…ชายหนุ่มที่เต็มไปด้วยปมในอดีต ความเจ็บปวดจากภรรยาที่หนีตามชู้ยังไม่เคยจืดจางในใจเขา จนจิตใจของพ่อเลี้ยงหนุ่มด้านชา ไม่เคยมองเห็นหญิงสาวคนใดมีค่ามากไปกว่า ดอกไม้ประดับเตียง พอดอมดมจนพอใจก็โยนทิ้ง จนกระทั่งมาเจอเธอ ธันย์ณิชา ดอกไม้ดอกสวยที่ไม่ได้มีดีแค่ความสาว เธอยังมีเสน่ห์ปลายจวักอันยอดเยี่ยม และนั่นทำให้ความคิดของเขาเปลี่ยนไปตลอดกาล “มื้อนี้ทำอะไรให้ฉันกิน” “มื้อนี้วุ้นทำปลาสามรสให้พี่เพลิงทานค่ะ แล้วยังมีไข่เจียวกุ้งสับทรงเครื่องกับแกงจืดไว้ให้พี่เพลิงซดคล่องคอ” เธอบอกเมนูอาหารที่ทำสุดฝีมือ “ไข่เจียวกุ้งสับทรงเครื่อง วุ้นจำสูตรมาจากทีวี วุ้นเพิ่งทำเป็นครั้งแรกด้วย อร่อยไม่อร่อยยังไง พี่เพลิงติวุ้นได้นะคะ วุ้นจะได้เอาไปปรับปรุง” “ฉันกลายเป็นหนูทดลองของเธออีกใช่ไหมเนี่ย” เพลิงพูดติดตลก แต่ก็ยอมเป็นหนูทดลองให้เธอแต่โดยดี ลงมือทานอาหารที่ธันย์ณิชาบอกว่า เพิ่งทำครั้งแรกเป็นจานแรก โดยมีแม่ครัวแสนสวยนั่งลุ้นอยู่ใกล้ๆ “เป็นไงคะ อร่อยไหมคะ” “มันแปลกๆ เพราะปกติฉันเคยกินแต่ไข่เจียวหมูสับ” เพลิงตอบตามความรู้สึกของตนเอง “แต่รสชาติอร่อย กลมกล่อม มีกลิ่นหอมของต้นหอมซอยด้วย ฉันชอบ” คนทำอาหารยิ้มกว้างกับคำชม แต่ก็ต้องหุบยิ้ม ใบหน้าแดงซ่านเมื่อเขาพูดประโยคต่อมา “ฉันยอมเป็นหนูทดลองให้เธอแล้ว คืนนี้เธอต้องเป็นหนูทดลองอุปกรณ์ใหม่ของฉันด้วยนะ ตกลงไหม” เพลิงส่งสายตาประกายวับวาว เป็นสายตาที่ไม่เคยส่งให้หญิงสาวคนใดมาก่อน มันเต็มไปด้วยความปรารถนาที่พร้อมจะลุกโชนได้ทุกครั้งที่ชิดใกล้เธอ รวมถึงตอนนี้ด้วย “ค่ะ” เธอตอบสั้นๆ ด้วยกิริยาเหนียมอาย คนที่มองเห็นแทบจะกระชากร่างเล็กมากอดจูบให้หายอยาก แต่ก็ต้องกลั้นความรู้สึกเอาไว้ รวบยอดทีเดียวตอนค่ำพร้อมอุปกรณ์เซ็กซ์ชิ้นใหม่ที่เพิ่งส่งถึงมือเขาตอนสายดีกว่า
1
อุณหภูมิภายนอกที่ต่ำกว่าสิบห้าองศาเซลเซียส ไม่ได้ทำให้สามชีวิตที่อยู่ในห้องนอนห้องหนึ่งเกิดความหนาวเหน็บเหมือนคนอื่นๆ ที่อาศัยใบบุญของพ่อเลี้ยงเพลิงเลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้ามทั้งสามมีแต่ความร้อนและร้อน ความร้อนที่เกิดจากบทเพลงสวาทเร่าร้อนที่กินระยะเวลามากว่าสองชั่วโมงแล้ว แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะยุติลงง่ายๆ
“พ่อเลี้ยงขา...พ่อเลี้ยง”
เสียงหวานกระเส่าของนภา สาวบริการจากเมืองกรุงที่พ่อเลี้ยงเพลิงจ้างมาสร้างความสุขแบบรายสัปดาห์ที่มีอัตราค่าจ้างสูงถึงเจ็ดหมื่นบาท ยังไม่รวมเงินพิเศษที่จะได้รับเมื่อเดินทางกลับกรุงเทพฯ ร้องครวญครางไม่หยุด เสียงครางแห่งความกระสันซ่าน เธอเสียวสะท้านไปทั้งกายยามขยับโยกเคลื่อนไหวบนร่างกายของพ่อเลี้ยงหนุ่ม ที่มีสาวบริการนามว่า เอมอรเพื่อนร่วมงานอีกคน ที่ถูกซื้อบริการมาด้วยจำนวนเงินเท่ากันกำลังใช้ปากและลิ้นไล้เลียยอดอกของเขา
“พ่อเลี้ยงดีไหมคะ อา...นภาทำถูกใจ...พ่อเลี้ยงรึปะ...เปล่าคะ...อ๊า”
นภาเอ่ยถามเจ้าของเงินที่จ่ายค่าตัวเสียงขาดห้วน ใบหน้าแดงก่ำจากพิษเสน่หาเล่นงาน โยกกายขึ้นสูงแล้วกระแทกร่างลงมาเต็มแรง จนเกิดเสียงดังของเนื้อกระทบเนื้อ บางจังหวะเธอก็เสยร่างไปข้างหน้า ทำทุกอย่างให้เขาพอใจ แต่ทว่าคำตอบก็ไม่ได้หลุดออกมาจากปากหนาได้รูปมีเสน่ห์ของเพลิง เนื่องจากเวลานี้ปากของเขาไม่ว่าง กำลังจูบอย่างดูดดื่มกับเอมอรที่เลื่อนปากมาประกบปิด
นภาขย่มร่างอรชรของตนอยู่สักพัก ร่างของเธอก็เกร็ง ความสุขกำลังวิ่งเข้าใส่ นภาขยับร่างโยกตัวแรงขึ้นเพื่อนำพาตัวเองไปยังความสุขที่อยู่ใกล้แค่เอื้อม เป็นความสุขที่เธอวิ่งเข้าใส่ครั้งแล้วครั้งเล่า แต่พ่อเลี้ยงเพลิงยังไม่ถึงสถานที่แห่งนั้นเลยสักครั้ง...เขาอึดจริงๆ
“เอมอร ไปเอาของในลิ้นชักมา”
เพลิงผลักใบหน้าของเอมอรให้ออกห่าง ส่งผลให้ปากของทั้งคู่แยกห่างกัน ก่อนที่เขาจะสั่งเอมอรให้ไปหยิบของบางอย่างในลิ้นชัก ที่เอมอรและนภาต่างรู้ดีว่าคืออะไร
“ค่ะพ่อเลี้ยง” เอมอรเดินไปหยิบของที่พ่อเลี้ยงต้องการ ซึ่งเธอกับเพื่อนร่วมงานได้ใช้อุปกรณ์เหล่านี้มาตั้งแต่วันแรกที่มาทำหน้าที่และไม่เกี่ยงงอนจะทำตามใจลูกค้า ยิ่งเป็นลูกค้ากิตติมศักดิ์ผู้ร่ำรวย ให้ค่าบริการสมน้ำสมเนื้อกับสิ่งที่เธอกับเพื่อนต้องเผชิญ พวกเธอก็ยิ่งต้องเอาใจที่สุด
“นี่ค่ะพ่อเลี้ยง” เอมอรวางอุปกรณ์ที่เพลิงต้องการลงบนที่นอนข้างร่างสูงใหญ่ เพลิงผลักร่างนภาที่หอบหายใจแรงบนตัวเขาให้ไปนอนบนที่นอน ก่อนที่เขาจะลุกขึ้นนั่ง ดึงถุงยางอนามัยที่สวมใส่ความเป็นชายของตนออก จากนั้นก็นำของใหม่มาสวมใส่แทนถึงสามชั้น
“แส้ไหมคะพ่อเลี้ยง” เอมอรถาม
“ไม่” เพลิงตอบสั้นๆ ขณะที่หยิบอวัยวะเทียมของเพศชายที่มีขนาดความใหญ่ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าของเขาเลย อีกทั้งยังมีความนุ่มหยุ่นคล้ายกันด้วยแบบสวมเอวมาคล้องไว้ที่เอวเตรียมการออกศึกรักกับสองสาว “เอากุญแจมือมาสองอันเลย”
เอมอรหยิบสิ่งของที่พ่อเลี้ยงหนุ่มต้องการ แล้วยื่นให้เขารับมันไว้ในมือ พลางเอี้ยวตัวไปทางร่างของนภาที่รู้งานว่าต้องทำอย่างไร
นภาหยิบกุญแจมือที่เขาส่งมาให้มาคล้องข้อมือของตนทั้งสองข้าง แล้วล้มตัวลงนอนตรึงแขนเหนือศีรษะ ส่วนกุญแจมืออีกอันหนึ่งเพลิงส่งให้เอมอรที่ขยับตัวนำกุญแจมือที่อยู่ในมือมาคล้องไว้กับโซ่ระหว่างกุญแจมือที่นภาสวมอยู่ ปลายอีกด้านคล้องไว้กับหัวเตียงที่ทำจากเหล็กดัด
“ท่าเดิมนะ” เพลิงหันมาสั่งเอมอร
“ค่ะพ่อเลี้ยง”
เอมอรรับคำ จัดท่วงท่าที่เพลิงต้องการ ด้วยการคร่อมร่างนภาในลักษณะคุกเข่า มือของเธอเท้าวางลงบนที่นอนข้างหัวไหล่ของนภา
เพลิงขยับตัวมาอยู่ในกลางร่างของสองสาว กดบั้นท้ายขาวของเอมอรลงมาให้ร่างกายส่วนหน้าของเอมอรและนภาแนบชิดกัน จากนั้นก็สอดแทรกตัวตนทั้งของจริงและของปลอมเข้าสู่ความเป็นอิสตรีของทั้งคู่ กายแกร่งที่มีชีวิตดันลึกเข้าไปในรวงผึ้งของนภา ส่วนของเทียมสอดแทรกเข้าไปในร่างของนภา เพลิงกำลังมอบความสุขให้สองสาวพร้อมกัน
“อ๊า...อ๊า...พ่อเลี้ยงขา...อา”
นภาส่งเสียงครางรับพละกำลังแรงของเพลิงที่สาดใส่ พร้อมกันนี้เสียงครางของนภายังระบายความเจ็บจากกุญแจมือที่คล้องข้อมือของตน เพราะจากแรงโจนจ้วงของเขา และแรงเสียดสีระหว่างกุญแจมือกับผิวเนื้อของเธอก็จะเสียดทานกันตลอดเวลา ความเจ็บจึงบังเกิดขึ้นด้วย แต่พอนึกถึงเงินที่จะได้รับตอบแทนความเจ็บ เธอก็พร้อมจะฮึดสู้ เก็บงำความเจ็บเอาไว้
“โอ้...อา...พ่อเลี้ยง...อืม”
เอมอรแม้ว่าจะไม่ได้สัมผัสกับความแข็งแรงของเพลิง ทว่าอวัยวะเทียมก็สร้างความสุข เร้าใจให้กับเธอไม่น้อย เพลิงบีบแก้มก้นของเอมอร ขยำสุดแรงจนเกิดรอยมือซ้อนกัน บางครั้งก็ใช้มือฟาดราวกับว่าเขากำลังฟาดก้นอาชาไนยยามที่ควบขี่
จังหวะประสานกายของเพลิงเร่งเร้าขึ้นทุกขณะ ตามแรงอารมณ์ของเขาที่กำลังจะทะยานเข้าสู่เส้นชัย ยิ่งใกล้เพลิงยิ่งกระแทกสุดแรง จนช่องทางรักของสองสาวร้อนฉ่า เพลิงเร่งจังหวะแรงขึ้นและแรงขึ้นก่อนที่เขาจะคว้าเส้นชัยแค่มือเอื้อม
กว่าที่เพลิงจะสุขสม สองสาวก็เหนื่อยหอบ ร่างของเอมอรพลิกกายลงนอนบนเตียง หอบหายใจแรงและรู้สึกปวดเนื้อปวดตัวกับการหนักมือของพ่อเลี้ยงสุดหล่อ เช่นเดียวกับนภาที่หายใจแรงไม่แพ้กัน เหนื่อยล้ากับบทรักที่กินระยะเวลาสองชั่วโมงกว่า
“ฉันจะไปต่อในห้องน้ำ” พ่อเลี้ยงเพลิงเอ่ยขึ้นขณะที่ก้าวลงจากเตียง ถอดเครื่องป้องกันออกจากตัวตนแล้วโยนลงไปในถังขยะ จากนั้นก็ถอดอวัยวะเพศปลอมออกจากเอว “นภา เธอกลับห้องไป ส่วนเอมอรตามฉันไปในห้องน้ำ”
“ค่ะพ่อเลี้ยง” เอมอรแม้ว่าจะเหนื่อยล้า แต่เมื่อนึกถึงเงินที่จะได้ แรงกำลังก็มีขึ้นมามากมาย “พ่อเลี้ยงจะให้เอมเอาอะไรเข้าไปในห้องน้ำมั่งคะ”
“เชือก” เพลิงตอบสั้นๆ ก่อนจะเดินเปลือยกายเข้าไปในห้องน้ำ เอมอรทำตามคำสั่ง เธอพยุงกายลุกขึ้นนั่ง หยิบลูกกุญแจที่วางอยู่บนตู้ข้างเตียงมาไขกุญแจมือที่คล้องอยู่บนข้อมือของเพื่อน จากนั้นก็หยิบเชือกตามคำสั่งแล้วเดินตามร่างสูงใหญ่เข้าไปในห้องน้ำ
เพลิง โยธาบดินทร์เจ้าของไร่เพลิงพยัคฆ์ ไร่ชา และไร่กาแฟที่ใหญ่ที่สุดในเมืองเหนือ นอกจากนี้เขายังเป็นเจ้าของรีสอร์ตสุดหรูบนเนินเขา ทว่าโดยนิสัยส่วนตัวเพลิงเป็นคนที่ป่าเถื่อน โหดเหี้ยม โมโหร้าย เป็นที่ยำเกรงต่อลูกน้องทั้งหลายและคนรอบข้าง
ครั้งหนึ่งเขามอบความรักและความไว้วางใจให้กับพิมพิไล มอบตำแหน่งแม่เลี้ยงให้ด้วยความเต็มใจ เธองดงามราวกับเทพธิดา วาจาไพเราะเพราะพริ้ง กริยามารยาทสมกับเป็นกุลสตรี แต่ทว่าเธอกลับมีใจสกปรก ชั่วช้า ตอบแทนความรัก ความไว้ใจด้วยการคบชู้สู่ชายไม่เลือกหน้า และสุดท้ายก็คบชู้กับเพื่อนของเขา นับตั้งแต่นั้นเพลิงไม่เคยมองสตรีคนไหนมากไปกว่าคู่นอน หญิงสาวที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของเขาเป็นเพียงเครื่องสนองอารมณ์ทางเพศ พอเสร็จสมก็ทางใครทางมัน ไม่มีค่าอะไรมากกว่านี้
หลังจากที่เอมอรเข้าไปในห้องน้ำพร้อมกับเชือก ไม่นานเสียงครางครวญของเธอก็ดังลั่นห้องน้ำ โดยไม่มีเสียงครางของเพลิงเลยสักนิด เขาโหมกระหน่ำใส่ร่างเอมอรที่กรีดร้องด้วยความสุขระคนความเจ็บ เซ็กซ์ของเพลิงดุดัน ดิบเถื่อน พร้อมสรรพไปด้วยอุปกรณ์ทางด้านนี้ที่เขาสรรหามาสร้างความตื่นเต้น หญิงสาวทุกคนที่ผ่านมาอาจจะมองเขาว่า เถื่อน ซาดิสต์ แต่ในความเป็นจริงเขากำลังลบความรู้สึกบางอย่างในจิตใจ ที่ติดค้างไม่ยอมมลายหาย และหวังว่าสักวันหนึ่งความรู้สึกนี้จะหมดไปจากจิตใจ
สักวันหนึ่ง...
เพียงแค่ได้เห็นใบหน้าสวย สรีระหน้าฟัดของ พลอยพัตรา ทำให้ เฟอเดอริค มอโร อยากจะคว้าตัวเธอมาเป็นดอกไม้บนเตียงของเขาทันที คนเจ้าเล่ห์และเจ้าบุญทุ่มอย่างเขาจึงทำทุกอย่างที่จะได้ดอกไม้ดอกนี้มาเชยชม
"ฮือๆ .. ทำไมทำอย่างนี้กับรุ้ง ทำไมต้องเป็นเดียร์ ทำไม?" ความรู้สึกเสียงใจของหทัยชนกจะน้อยกว่านี้ หากคนที่เป็นภรรยาน้อยของสามีไม่ใช่เกวลิน...เพื่อนรักของเธอ
"คนอย่างเธอความเจ็บปวดแค่นี้มันยังน้อยเกินไป เธอต้องเจ็บเหมือนกับที่มินามิเจ็บ และต้องเจ็บยิ่งกว่าหลายร้อยเท่า ฉันจะทำให้เธอตายอย่างช้าๆ แต่ทุกข์ทรมานแสนสาหัส เธอจะไม่ได้ยินหรือสัมผัสกับความอ่อนโยนเมตตาจากฉัน สิ่งที่ฉันจะมอบให้เธอมีเพียงความเกลียดชังเท่านั้น จำใส่กะโหลกไว้" เรียวเหวี่ยงร่างงามไปที่เตียงนอนอย่างแรง มือหนาจับที่ข้อเท้าของเธอไว้แน่นเมื่อรู้ว่าเธอกำลังกระเถิบตัวหนี "หนีสิ หนีเลย ถ้าเธอหนี คนที่ตายเป็นคนแรกคือแม่ของเธอ ฉันจะให้แม่เธอตายเหมือนหมูเหมือนหมาข้างถนน เหมือนกับที่เธอฆ่าแม่ของฉัน" ดวงตาเขาเปล่งแสงแรงกล้าของความอาฆาต เมื่อนึกถึงข้อนี้อยากจะฆ่าหญิงสาวตรงหน้าให้ตายตามมารดาและคนที่เขารัก แต่ความตายอาจจะไม่ทำให้เขาสะใจ นอกจากกระกระทำต่อไปนี้ที่สะใจเขามากที่สุด ทรรศิกาหยุดดิ้นรนขัดขืน เขาจึงปล่อยข้อเท้าของเธอให้เป็นอิสระ จัดการปลดเปลื้องเสื้อผ้าต่อหน้าเธอ ความกลัวเริ่มเกาะกินจิตใจของเธอมากขึ้นเรื่อยๆ อยากจะวิ่งหนีออกไปจากที่นี่ แต่เมื่อนึกถึงมารดา ทำให้เธอก้มหน้ารับชะตากรรมที่กำลังจะเกิดขึ้น เรื่องที่คุณน่าจะสน
ความอิจฉาน้องสาวต่างมารดาคือจุดเริ่มต้นของแผนการ “ชิงไอศูรย์” มาเป็นของตน เธอจึงใช้เล่ห์เหลี่ยมง่ายๆ คือวางยานอนหลับเขา พอตื่นขึ้นมาก็จะติ๋งต่างว่า เขากับเธอมีอะไรกัน ทว่าแผนเกิดผิดพลาด ยาที่ผสมในไวน์กลับเป็นยาปลุกเซ็กซ์ ผลที่ออกมาคือ ไอศูรย์มีความสัมพันธ์ทางกายกับเธอจริงๆ ในที่สุด ชเนตตีได้แต่งงานกับเขาตามตั้งใจ ทว่าผลที่ออกมา ไม่ได้เป็นไปตามที่คิดไว้ “เนยใส่อะไรในแก้วไวน์ของพี่ใช่ไหม ไม่อย่างนั้นพี่จะไม่มีวันอยู่ในสภาพแบบนี้” เขาถามอีกครั้งเมื่อเห็นอีกฝ่ายเงียบ เสียงที่ถามเข้มห้วน ใบหน้ายังคงเรียบตึง สายตาถมึงทึงใส่ร่างอวบที่ย่นคอหนีน้ำเสียงแผดกร้าว “ตอบพี่มา” “ใส่อะไร เนยไม่รู้เรื่อง…ฮือ…พี่เจย์ทำผิดแล้วอย่ามาโทษว่าเนยวางยาพี่นะ…ฮือ” เธอยังคงปากแข็งต่อไป หลบสายตาแข็งกร้าวพัลวัน
“ว้าย!!..” เธอร้องได้เพียงเท่านั้น ก่อนที่ปากของหยาดน้ำค้างจะถูกมือใหญ่ของใครบางคนปิดเอาไว้ ลำแขนอีกข้างรัดร่างน้อยไว้แน่น ก่อนจะลากไปที่พุ่มไม้รกข้างทาง “อย่าดิ้น อย่าร้อง ไม่งั้นจะจับปล้ำมันตรงนี้แหละ” เสียงที่พูดชิดเรียวหูสะอาด ทำให้เธอรู้ว่าเจ้าของเสียงนั้นคือใคร..เหมันต์ วิเศษเดโช เขาดันร่างเล็กให้แผ่นหลังแนบชิดกับต้นไม้ใหญ่ขนาดสี่คนโอบ ใช้ลำแขนกักร่างบางเอาไว้ “ปล่อยนะ” หญิงสาวพูดเสียงเบาทว่าหนักแน่น เธอไม่กล้าพูดเสียงดังมาก เพราะกลัวว่าคนที่เดินผ่านไปผ่านมาจะได้ยิน “ไปกล่อมพ่อหรือกล่อมลูกมาล่ะ ถึงได้อ้อยอิ่งเป็นชั่วโมงแบบนี้” น้ำเสียงของเหมันต์เขียวเหมือนกับใบหน้าที่เขียวคล้ำด้วยความโกรธ “มันเรื่องของฉัน..คุณไม่เกี่ยว..เราไม่มีอะไรต่อกันแล้ว คุณก็ได้ในสิ่งที่คุณต้องการแล้วนี่ จะมาเอาอะไรกับฉันอีก ปล่อยนะ ฉันจะกลับที่พัก” หยาดน้ำค้างพยายามดิ้นรนหนีพันธนาการที่รัดร่างอยู่ แต่ทว่าลำแขนของเขานั้นหาได้คลายออกไม่ ยิ่งรัดแน่นมากกว่าเก่า เมื่อได้ยินวลีของเธอ “ทำไมผมจะไม่เกี่ยว ในเมื่อน้ำค้างเป็นเมียของผม..เป็นเมีย หรือว่าจำไม่ได้ว่าเราสองคนมีความสุขกันมากแค่ไหน” เขาเท้าความหนหลังให้เธอได้ฟัง ฝ่ายหญิงนิ่งเงียบกับคำพูดของเขา เธอไม่เถียงว่ามีความสุขมากแค่ไหนเวลาได้อยู่ใกล้ชิดกับเรือนกายที่แสนแข็งแรงและอบอุ่น หากแต่ความทุกข์และความเสียใจที่เธอได้รับนั้นมันก็มากมายเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นความสุขหรือว่าความทุกข์ เธอก็ไม่มีวันลืมเช่นกัน และไม่มีทางจะกลับไปจมกับความทุกข์อีกแล้ว “ฉันไม่ใช่เมียคุณ..ถ้าคุณคิดว่าการที่เรามีอะไรกันแล้วฉันจะเป็นเมียคุณ พี่ว่านก็ต้องเป็นสามีของฉันเหมือนกัน” หยาดน้ำค้างคิดว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุด วิธีที่เขาไม่มีทางมายุ่งเกี่ยวกับเธออีก อ้อมแขนที่รัดร่างนิ่มคลายออกโดยอัตโนมัติ หัวใจของคนที่ฟังเต้นเร็ว ดวงตาคมเข้มสีดำเรืองแสงในความมืดที่โรยตัวไปทั่วบริเวณ บ่งบอกอะไรหลายอย่างในแววตา เสียใจ ไม่คาดฝัน ไม่แน่ใจ
จะกี่หมัดก็ไม่หวั่น กี่ยกก็ไม่กลัว เธอจะ Knock Out ด้วยหัวใจติดปลายนวม ภัทรียายินดีสานต่อค่ายมวยและรับผิดชอบหนี้สินรุงรังต่อจากพ่อซึ่งเสียชีวิต แต่ ณ วันนี้หนี้สินสามปีที่ผัดผ่อนมาตลอดทำให้เธอมืดแปดด้าน ไม่ว่าความหวังแสนริบหรี่แค่ไหน เธอก็คว้าไว้อย่างไม่รอช้า ไม่เว้นแม้แต่การเป็นภรรยาหลอกๆ ต่อให้ต้องโดนแม่สามีดูถูกทุกขณะ น้องสาวสามีจ้องเหยียดชาติกำเนิดทุกครั้งที่เจอหน้า ภัทรียาก็ไม่หวั่นเกรงแม้แต่น้อย เพราะเธอคือ... ‘มะปราง ลูกจ่าดาบ ศิษย์จอมทอง’ นักมวยสาวหุ่นกระชากใจหนุ่มๆ หากไม่เพราะกำลังจะถูกแม่จับคลุมถุงชน ธัชธรรมจึงต้องเลือกใช้วิธีสิ้นคิด จ้างนักมวยสาวหมัดหนักที่กำลังร้อนเงินมาเป็นภรรยากำมะลอ จดทะเบียนจริง อยู่ด้วยกันจริง...และทำท่าว่าจะต้องอยู่ด้วยกันอีกนาน รออีกอย่างเดียวเท่านั้น... รอให้สะใภ้กำมะลอยอมเป็นภรรยาตัวจริงของเศรษฐีหนุ่มหล่อ
คุณท่านเสียว คุณชายยอดเยี่ยมที่โด่งดังในเมือง B ได้แต่งงาน แต่มีข่าวลือว่าเจ้าสาวมีรูปร่างหน้าตาที่น่าเกลียดและมีฐานะต่ำต้อย สามปีมานี้ เขาปฏิบัติกับเธออย่างเย็นชาและทำเหมือนเป็นคนแปลกหน้า เจียงซิงซิงอดทนกับความเย็นชาอย่างเงียบ ๆ เธอยังคงรักเขาอย่างสุดหัวใจ เสียสละความนับถือตนเองและยอมละทิ้งตัวตนของเธอเอง จนกระทั่งวันหนึ่ง สุดที่รักของเขากลับประเทศ เขได้สารภาพว่าเขาแต่งงานกับเธอเพียงเพื่อช่วยชีวิตคนรักในใจของเขาเท่านั้น เจียงซิงซิงเสียใจและผิดหวังมาก เธอจึงเซ็นเอกสารหย่าและจากไปด้วยความเศร้าใจ สามปีต่อมา เจียงซิงซิงผู้สวยงามจนน่าทึ่งกลับมาอีกครั้ง ได้กลายมาเป็นศัลยแพทย์ที่ดีที่สุดและเป็นยอดฝีมือด้านเปียโน อดีตสามีรู้สึกเสียใจ และกอดเธอแน่นท่ามกลางสายฝน เสียงของเขาสั่นเครือ "ที่รัก คุณเป็นของผม..."
ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"
ตลอดระยะเวลาสามปีของการแต่งงาน เธอรู้สึกสิ้นหวัง ที่ถูกบังคับให้เซ็นใบหย่า ทั้งๆที่เธอกำลังท้อง เธอใจสลายกับความไร้มนุษยธรรมของเขา กระทั่งเธอออกไปจากชีวิตของเขา เขาเพิ่งรู้ตัวว่าเธอคือรักแท้ของเขา ไม่มีวิธีใดที่จะเยียวยาหัวใจที่บอบช้ำของเธอให้หายขาดได้ เขาจึงมอบความรักทั้งหมดของเขาให้แก่เธอเพื่อชดเชย
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"
อวิ๋นเจินอาศัยอยู่ในตระกูลอวิ๋นมาเป็นเวลา 20 ปี กลับพบว่าเธอเป็นลูกสาวปลอม พ่อแม่บุญธรรมของเธอวางยาเธอเพื่ออยากจะได้เงินมาลงทุน หลังจากที่อวิ๋นเจินรู้เรื่องนี้ เธอก็ถูกไล่กลับไปที่ชนบท จากนั้นเธอก็ค้นพบว่าตัวเองคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลเฉียวและมีชีวิตที่หรูหราสุด ๆ หลังจากกลับมา เธอได้รับความรักจากครอบครัวและมีชื่อเสียงโด่งดัง น้องสาวจอมปลอมใส่ร้ายอวิ๋นเจิน แต่เธอไม่คาดคิดว่าอวิ๋นเจินจะมีความสามารถต่างๆ เมื่อต้องเผชิญกับการยั่วยุ เธอได้แสดงความสามารถและทักษะต่างๆ มากมายเพื่อจัดการผู้รังแก มีข่าวลือกันว่าอวิ๋นเจินยังคงโสด และชายหนุ่มชื่อดังแห่งเมืองงก็ผลักเธอไปเข้ากำแพง "คุณนายกู้ ถึงตามราเปิดเผยตัวตนได้แล้วนะ"
"นางเป็นบุตรีผู้สูงศักดิ์ของฮูหยินเอกของจวนเสนาบดี นางมีหน้าตาโดดเด่น ทั้งอ่อนโอนและมีน้ำใจไมตรีต่อผู้อื่น แต่... นางทำดีต่อป้าของนาง นางกลับฆ่าแม่ของนางตาย นางรักเอ็นดูน้องสาวของนาง แต่น้องสาวกลับแย่งสามีของนางไป นางคอยสนับสนุนและดูแลสามีของนางอย่างสุดหัวใจ แต่สามีกลับทำให้นางตายทั้งกลม...ตระกูลฝ่ายมารดาของนางก็ถูกประหารชีวิตทั้งตระกูลด้วย นางตายตาไม่หลับและสาบานว่าหากมีชาติหน้า นางจะไม่เมตาตาต่อใครอีก ใครก็ตาม กล้ามาทำร้ายข้า ข้าจะล้างแค้นด้วยชีวิตทั้งตระกูลของพวกเจ้า เมื่อเกิดใหม่อีกครั้ง นางอายุได้สิบสี่ปี นางสาบานว่าจะต้องเปลี่ยนชะตากรรมและแก้แค้นชาติก่อน ป้านางใจ้ร้าย นางจะใจร้ายกลับยิ่งกว่านาง นางคิดจะได้ครองตำแหน่งฮูหยินงั้นเหรอ บอกเลยไม่มีทาง! ส่วนน้องสาวชอบผู้ชายชั่ว ๆ นักไม่ใช่หรือ ได้!ข้าจะยกให้เลย ส่วนชายชั่วนั่น ข้าจะทำให้เจ้าไม่สามารถมีทายาทได้อีกตลอดทั้งชาติ!แต่ข้าจะแก้แค้น เหตุใดเจ้าต้องมาช่วยข้าด้วย?"