เพราะเป็นคนสวน 'เมฆ' จึงต้องรดน้ำดอกไม้ของ 'คุณนายชวนชม' ทั้งวัน...ทั้งคืน ‘คุณนายครับ’ เป็นเรื่องราวความเร่าร้อนของ ‘เมฆ’ คนสวนหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ผิวกายดำแดง ตามแบบฉบับคนท้องไร่ท้องนาเต็มขั้น เมื่อเมฆต้องมาทำสวนที่บ้านของ ‘คุณนายชวนชม’ เมฆก็เลยต้องเป็นคนสวนที่ดีที่สุด ดังนั้นดอกไม้ในบ้านของคุณนายไม่ว่าจะมีกี่ดอก เมฆก็ต้องทำหน้าที่รดน้ำดอกไม้เหล่านั้นให้ชุ่มฉ่ำ ทั้งวันและทั้งคืน
‘เมฆ’ หนุ่มบ้านนอกวัย 26 ปี เดินมาหยุดอยู่ด้านหน้าของรั้วอัลลอยด์ขนาดใหญ่ซึ่งทำหน้าที่กำหนดอาณาเขตของบ้านคนรวย ใบหน้ากร้านไปด้วยแดดลมมีเหงื่อซึมออกมาตามขมับและแนวสันจมูก จนต้องใช้ผ้าขาวม้าที่พาดคอมาด้วยซับออก เพราะกว่า 8 ชั่วโมงที่เดินทางรอนแรมนั่งรถทัวร์มาลงที่หมอชิต ก่อนจะต่อรถเมล์มาลงที่ปากซอยและเดินมาถึงที่นี่ ก็ทำเอาหอบเหมือนกัน
เมื่อเช็ดเหงื่อจนหมาดและคิดว่าหน้าตาของตัวเองคงพอดูสะอาดสะอ้านมากพอที่จะเข้าไปสู่ด้านใน ดวงตาโชนแสงของเมฆก็มองลอดผ่านช่องว่างระหว่างรั้วเข้าไปด้านใน ที่เห็นนั้นคือบ้านเดี่ยว 2 ชั้นขนาดใหญ่ในรูปทรงยุโรปที่ตั้งอยู่ตรงกลางของพื้นที่ ขนาบข้างไปด้วยสวนกว้างใหญ่ซึ่งโอบรอบโดยรั้วอลังการบ่งบอกถึงฐานะของท่านเจ้าของบ้านได้เป็นอย่างดี เพราะจากสายตาคาดคะเน อาณาเขตนี้คงกว้างกว่า 2 ไร่
เมฆถอยหลังออกมามองดูตำแหน่งของกริ่ง แต่เมื่อคิดอีกทีคงไม่เหมาะสมที่เขาจะทำให้เกิดเสียงในเวลาเช้าตรู่อย่างนี้ สายตาจึงมองลอดเข้าไประหว่างรั้วอีกครั้งเพื่อหวังจะแจ้งใครสักคนที่ผ่านมาว่าเขามาถึงแล้ว และเขาก็พร้อมแล้วสำหรับการเริ่มงานในวันแรก
เพียงก้าวเข้ามาในบ้าน เขาก็ถูกพาให้มาพบกับเจ้าของบ้านและท่านกำลังส่งคำถามอย่างเมตตามาให้เขา
“เดินทางลำบากมั้ยล่ะเมฆ”
“ไม่ลำบากครับคุณนาย นั่งรถแค่สองต่อเท่านั้นครับ”
เมฆก้มหน้าตอบคำถาม เพราะไม่กล้าที่จะเงยหน้ามองเจ้านายสาวสวยของพ่อ ‘ใช่’ เขามาทำงานที่คฤหาสน์หลังนี้แทนพ่อที่ล่วงลับไปแล้ว
“ตอนแรกฉันก็อดเป็นห่วงไม่ได้ คิดว่าเมฆจะมาไม่ถูกซะแล้ว และนี่ที่บ้านเรียบร้อยแล้วเหรอ ฉันบอกแล้วไงว่าอีกหนึ่งอาทิตย์ค่อยมาก็ได้”
“ไม่เป็นไรครับคุณนาย ทางนั้นไม่มีอะไรแล้วครับ”
“ฉันต้องขอโทษจริงๆ นะที่ไปร่วมงานไม่ได้ คุณท่านก็เสียใจ นี่ถ้าไม่ติดว่าท่านต้องไปประชุมที่ต่างประเทศ ท่านคงต้องไปส่งพี่ชิตให้ได้”
‘พี่ชิต’ ที่คุณนายพูดถึงนั้นคือพ่อของเขา ที่เสียชีวิตเมื่อสัปดาห์ก่อนด้วยโรคมะเร็งลำไส้ ท่านและคุณนายดูแลค่ารักษาพยาบาลทุกอย่าง และช่วงสุดท้ายเมื่อหมอบอกให้พาพ่อกลับไปดูใจที่บ้าน ทั้งท่านและคุณนายก็กรุณาจัดจ้างรถพยาบาลนำพ่อไปส่งจนถึงบ้านที่ต่างจังหวัด และเมื่อพ่อจากไป ท่านก็ยังกรุณาส่งเงินช่วยค่าทำศพไปให้อีก แค่นี้ก็เป็นบุญหัวที่สุดแล้ว
“แค่นี้ผมก็ต้องขอบพระคุณ ท่านกับคุณนายมากแล้วครับ ที่กรุณารับผมเข้ามาทำงานแทนพ่อ และถ้าไม่ได้เงินช่วยงานจากท่านและคุณนาย ผมและแม่คงจะจัดงานให้พ่อไม่ได้ดีขนาดนั้น”
เมฆพนมมือไหว้คุณนายเจ้าของบ้านอีกครั้ง ซึ่งเธอก็รับไหว้อย่างอ่อนโยน
“จะเป็นบุญคุณได้ยังไงกันเมฆ พี่ชิตน่ะดีกับฉันมากนะ ไม่ว่าฉันต้องการอะไรพี่ชิตก็หามาให้ได้ทุกอย่าง อาจเป็นฉันที่ใช้งานพี่ชิตมากไปจนไม่ได้พักผ่อนก็ได้ พี่ชิตจึงมาป่วยแบบนี้”
“คุณนายอย่าโทษตัวเองเลยครับ พ่อเขาทำบุญมาแค่นั้น และเรื่องเจ็บป่วยก็เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องเจอ ไม่ใช่ความผิดของใครหรอกครับ ถ้าพ่อรับรู้ได้ก็คงไม่มีความสุข ถ้ารู้ว่าเป็นสาเหตุให้คุณนายต้องเป็นทุกข์อย่างนี้น่ะครับ”
หยาดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มขาวนวลอมชมพูนั้นทำให้เมฆใจหาย ดวงตากร้าวอ่อนแสงลงมองซ้ายขวาและเมื่อเห็นกล่องกระดาษทิชชูที่ถูกตกแต่งด้วยลูกไม้สีชมพูหวานเป็นระบายระย้า เมฆก็ไม่รอช้าที่จะเข้าไปประคองความสวยงามนั้นเพื่อส่งมอบให้กับเจ้านาย แม้จะคิดได้ว่ามือดำๆ นี้ไม่ควรอาจเอื้อมที่จะแตะของสวยงามและบอบบางด้วยซ้ำ แต่ก็ไม่อาจทนเห็นคุณนายมีน้ำตาไหลอาบแก้มได้
“กระดาษครับคุณนาย”
“ขอบใจนะเมฆ ขอบใจเธอจริงๆ ที่อุตส่าห์มีใจตอบรับมาทำงานกับฉัน คงมีสิ่งนี้ที่ฉันจะชดเชยให้พี่ชิตได้ ต่อไปนี้เธอไม่ต้องกลัวนะ ฉันกับท่านจะดูแลเธอกับแม่เอง อยู่ที่นี่ให้สบายใจ ให้ถือซะว่าเป็นบ้านของตัวเอง ถ้ามีอะไรไม่เข้าใจ หรือต้องการอะไรเพิ่มเติม ก็บอกพิศกับขวัญใจนะ”
“ครับ ผมขอบคุณคุณนายอีกครั้งครับ”
“อืม... มาเหนื่อยๆ ไปอาบน้ำอาบท่าเถอะ พิศพาเมฆไปนอนห้องเดิมของพี่ชิตล่ะนะ แล้วแนะนำงานให้เมฆด้วย ถ้าไม่เข้าใจอะไรก็มาถามฉันล่ะกัน”
เมฆหันไปยิ้มให้กับคุณแม่บ้านที่ชื่อว่า ‘น้าพิศ’ คนที่คอยเป็นธุระนำเงินไปให้เขากับแม่ และยังไปอยู่ช่วยงานศพหลายวัน จึงได้รู้ว่าน้าพิศเป็นหญิงวัยเดียวกันกับแม่ของเขา แต่เพราะอยู่ดีกินดีที่กรุงเทพฯ ไม่ได้ทำงานหนักและทำนาเหมือนแม่ น้าพิศจึงดูเหมือนสาวอายุสัก 30 ปีเศษได้ และเมื่อเช้าก็ได้น้าพิศนี่แหละที่พาเขาเข้ามาในบ้าน
พิศพาเมฆเดินลัดเลาะมาที่เรือนคนงานด้านหลังของตึกใหญ่ซึ่งเป็นลักษณะเรือนแถวคล้ายห้องเช่า จำนวนห้องนั้นมีด้วยกัน 3 ห้อง โดยพิศแนะนำว่า ห้องที่ 1 นั้นเป็นห้องของแกกับ ‘น้ามิ่ง’ ผัวของแกที่ทำหน้าที่เป็นคนขับรถของท่าน ห้องที่ 2 นั้นเป็นของ ‘ขวัญใจ’ และห้องที่ 3 นั้นก็คือห้องเก่าของพ่อ
หากนาไม่แล้ง ข้าวไม่แห้งตาย ‘เดช’ ก็ไม่คิดจะหอบเอา ‘ฟ้า’ เมียรักเข้ามาทำงานในเมืองกรุง แต่ความจนทำให้เลือกไม่ได้ และงานดี เงินดี เจ้านายเห็นใจ ก็เป็นเส้นทางที่ดีที่สุด ทว่า... หากรู้ว่ามาแล้วจะต้องเสียเมียให้นายฝรั่ง เดชเลือกที่จะไม่มาเสียยังดีกว่า แต่... เสียแล้วคือเสียเลย สิ่งเดียวที่จะชดเชยความแค้นก็คือ ‘เมียนาย’ คุณผู้หญิงเร่าร้อน เร่งเร้า รุนแรง และมากครั้งเท่าที่ต้องการ เดชไม่รู้แล้วว่านั่นคือการแก้แค้นหรือรางวัล +++++ ‘เดช’ พา ‘ฟ้า’ เมียรักมาทำงานที่บ้านนายฝรั่ง แต่ ‘คริส’ นายฝรั่งกินเมียเขาไปแล้ว และยังเอาดุ้นยาวใหญ่มาล่อให้ฟ้าติดใจ จนฟ้ากินไม่อิ่มไม่พอ อยากได้อะไรที่เทียบเท่า เขาก็เลยแอบกิน ‘โรส’ เมียของนายฝรั่ง แก้แค้นให้สาสม แต่แค้นช่างแสนหวานและฉ่ำชุ่ม จนเขาต้องกินซ้ำๆ ยิ่งได้กินพร้อมๆ กับพี่โชค เขาก็ยิ่งเมามัน และแน่นอนว่าโรสชอบ ในขณะที่นายฝรั่งกระหยิ่มยิ้มที่ได้กินเมียเขา เดชกลับสุขและยิ้มกว้างยิ่งกว่า เพราะเขาได้กิน ‘คุณหนูแพทตี้’ คุณหนูช่างร่านร้อนไม่ต่างจากแม่ แน่นอนว่าเขาชวนพี่โชคมากินด้วย
‘หากหัวใจปราศจากความแค้น คงไร้แล้วซึ่งลมหายใจ’ สำหรับหล่อน เขาคือชายชุดดำ บอดี้การ์ดหน้านิ่งของพ่อ เคร่งขรึม เก๊กหล่อ หมางเมินใส่ราวหล่อนไม่สำคัญ ก็แน่ล่ะ เพราะพี่สาวเขากำลังจะมาเป็นเมียใหม่ของพ่อ แต่มีเหรอที่หล่อนจะยอม นารีมีรูปเป็นทรัพย์ฉันใด หล่อนก็พร้อมจะลงทุนเพื่อสิ่งที่ได้มา ภายใต้แว่นดำนั้น หล่อนต้องรู้ให้ได้ว่า ‘หัวใจ’ หรือเปล่าที่ซุกซ่อนอยู่ แต่สำหรับเขา... หล่อนคือ เหยื่อ! ที่ความแค้นจะได้เอาคืน
ความรักหรือเพียงความปรารถนาแค่ข้ามคืน พบกับนิยายสุดเร่าร้อน 3 เรื่อง 1.คืนเคาท์ดาวน์ 2.คืนฝนฉ่ำรัก 3.คืนเหงาสาวข้างบ้าน
#มาดามทรายกับชายเลี้ยงม้า เปิดประสบการณ์รักร้อนในฟาร์มม้ากันสักครั้ง หรือจะลองกลิ่นฟางแห้งบ่มแดดอุ่นๆ ในโรงนาก็ไม่เลวนะ +++++ เคิร์กรู้ว่าฉันชอบขี่ม้า เขาจึงสอนให้ฉันขี่ม้าจริงๆ หลังจากขี่เขาจนช่ำชองมาหลายครั้ง และฉันก็หัวไวสอนง่ายซะด้วย เพราะเมื่อฝึกหัดขี่ม้าจริงตอนเย็นเสร็จ พอตกกลางคืนฉันก็ซ้อมขี่กับม้าเทียมอย่างเคิร์กอยู่ทุกวัน ไม่ได้ว่างเว้น และก็มีบ้างเป็นบางวันที่ฉันทนไม่ไหวและเคิร์กก็อดไม่ได้ เมื่อฟางใหม่หอมกลิ่นแดดเร่งเร้าความกำหนัดของเราเหลือเกิน เคิร์กก็จะพาฉันไปซ้อมขี่กันที่คอกม้าในโรงนาซะหลายครั้ง และความตื่นเต้นก็ทำให้ฉันกับเคิร์กคึกคักกันมากเป็นพิเศษ ยามที่ฉันควบขี่เคิร์กอยู่ในโรงนา กลิ่นฟางแห้งที่รองรับร่างกายยิ่งใหญ่ของเขาอยู่นั้น เร้าใจจนฉันควบขี่เขาได้ไวกว่าที่เคยทำได้ บั้นเอวและช่วงบั้นท้ายทำหน้าที่โยกตัวไปข้างหน้าและโย้มาข้างหลัง ทว่าปากก็ร่ำร้องบอกถึงความเสียวซ่านที่ดุ้นบังเหียนกระทำกับร่องลึกลับของฉันอยู่ตลอดเวลา
พี่หนึ่งจะทำยังไงถ้าต้องเจอหน้า ‘พี่ชมพู่’ อยู่ทุกวัน รุ่นพี่สาวสวยที่เขาเคยไปสารภาพรัก แต่เธอกลับปฏิเสธอย่างไม่มีเยื่อใยด้วยข้อหา ‘เด็กไป’ ครั้งนี้ พี่หนึ่งตั้งใจจะลบคำสบประมาทให้ได้ พี่ชมพู่จะได้รู้ว่า ‘รุ่นน้อง’ ก็ทำอะไรได้หลายๆ อย่างไม่แพ้รุ่นพี่ โดยเฉพาะพี่หนึ่งน่ะจบด็อกเตอร์สาขา ‘เซ็กซ์ศาสตร์’ มาซะด้วย ‘เด็กกว่าแล้วไง’ รุ่นพี่ถ้ามาเจอ ‘รุ่นน้อง... สายดาร์ก’ จะทนได้เหรอ พี่หนึ่งจะพิสูจน์เอง
รักต้องห้าม เป็นนิยายที่ขับเคลื่อนด้วยความรักและเซ็กซ์! ประเภทที่ว่า ‘รักแล้วทำอะไรก็ไม่ผิด’ หรือ ‘ด้วยความสมยอม’ ‘นิชชา’ หญิงสาวที่มีความหลงใหลให้กับคนที่ไม่คู่ควร ทว่า... หากใจมันหลงไปแล้ว หล่อนจะทำยังไง ถอยห่าง หรือ ก้าวเข้าหา ในเมื่อหัวใจร่ำร้อง และ กายเนื้อต้องการ +++++ ‘นีรนุช’ ลูกสะใภ้ตระกูลใหญ่ที่สามีไม่ค่อยมีเวลาให้ แต่หล่อนก็พยายามเป็นสะใภ้ เป็นเมีย และแม่ที่ดีของลูก ทว่าสิ่งที่พลาดไปแล้วหล่อนกลับลืมไม่ได้ มันฝังใจ ลึกแน่น และพร้อมจะเรียกร้อง +++++ ‘นันทิยา’ ม่ายสาวไฮโซ ตั้งแต่สามีตายจาก หล่อนไม่คิดจะแต่งงานใหม่ เพราะไม่อยากให้ใครมาทำลายความทรงจำดีๆ ของหล่อนกับสามี แต่ความอยากที่ไม่ปรานีใคร ก็ทำให้นันทิยาร้อนรุ่ม +++++ ‘มีนา’ เข็ดกับรักครั้งแรกจนไม่คิดจะมีใครอีก แต่แล้วความรักก็หวนมาให้เจ็บแสบและซาบซ่าน และครั้งนี้ไม่ได้มาเพียง 1 แต่มาถึง 2 หล่อนควรทำอย่างไร ในเมื่อคนหนึ่งก็รัก แต่อีกคนก็หวั่นไหว
เพิ่งหย่ากับอดีตสามีไปไม่นานแต่ปรากฏว่าตัวเองท้อง จะทำอย่างไรดี? หรือจะให้อดีตสามีรับผิดชอบ แต่ก็ไม่คิดว่าอดีตสามีมีคนรักใหม่ไปแล้ว ชีวิตของถังชีชีนั้นช่างสับสน ช่างน่าวิตกกังวลและไม่รู้จะอธิบายยังไงดี เธอต้องคอยระวังไม่ให้คุณเฟิงรู้เรื่องการตั้งครรภ์จนกระทั่งคลอดลูกออกมาอย่างปลอดภัย แต่ไม่คิดว่าจะถูกเขาบังคับถึงเพียงนี้ "เราหย่ากันแค่สี่เดือน แต่เธอกลับตั้งครรภ์ได้เจ็ดเดือนแล้ว บอกมาดี ๆ ว่า ลูกเป็นของใคร!"
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
เพราะคิดว่าเป็นความฝัน ฉินหร่านจึงร่วมมือบรรเลงเพลงรักอย่างไม่ได้ตั้งใจ ไฉนตื่นขึ้นมาถึงมีสามีเป็นของตัวเอง อีกทั้งสามีนางยังตาบอดอีกด้วย! แต่นั่นไม่น่าตกใจ เท่ากับที่นางมาอยู่ในร่างเด็กสาวในยุคจีนโบราณ ที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ อีกทั้งร่างนี้ถูกขายให้มาเป็นภรรยาของชายตาบอด แต่ไหนๆ ก็มาแล้วจึงจะใช้ชีวิตให้ดี ส่วนสามีนะหรือ หล่อขนาดนั้น แซ่บขนาดนี้ เดินหน้าเกี้ยวสามีสิ จะรออะไร!
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"
ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"