เมื่อเธอคิดจะหลอกล่อจอมมารเสน่ห์ร้ายด้วยประสบการณ์อ่อนหัดแล้วยังกล้าดีหลบหนีออกจากกรงทองของจอมมารผู้หล่อเหลาอย่างไม่ใยดีทำให้เขาต้องเสียความมั่นใจ เกมแก้แค้นแสนเร่าร้อนจึงอุบัติขึ้น... “จะหนีไปไหน เธอก็รู้ว่าหากฉันไม่อนุญาตใครก็ออกไปจากที่นี่ไม่ได้ ที่คืนนั้นเธอกลับไปได้ก็เพราะฉันไม่เคยให้ผู้หญิงที่หิ้วมานอนร่วมเตียงจนถึงเช้า..” คำพูดของเขาทำให้วิกานดาทั้งโกรธทั้งอาย เขาเห็นเธอเป็นเพียงอีตัวที่หิ้วมานอนด้วยแล้วก็เขี่ยทิ้งเท่านั้นแล้วทำไมจะต้องมายุ่งกับเธอด้วย “ถ้าฉันเป็นแค่อีตัว ก็ปล่อยฉันไปสิ ไม่อยากร่วมเตียงกับอีตัวไม่ใช่เหรอ” “แต่บังเอิญว่าเธอถูกใจฉัน และฉันยังไม่เบื่อ ผู้ชายหน้าไหนก็ห้ามยุ่ง” “แต่เราจบกันแล้ว คุณให้เช็คฉันมานั่นหมายความว่าการซื้อขายของเรามันสิ้นสุดจบลงแล้ว” วิกานดาตัดสินใจยกเรื่องนี้มาอ้างแม้จะรู้สึกอับอายไม่น้อย “อ้อ.. งั้นซื้อบริการใหม่ก็ได้ คราวนี้จะให้เยอะกว่าเดิมด้วยเอาไหม” “ไม่.. ฉันไม่ได้สิ้นไร้ไม้ตอกขนาดต้องขายตัวให้คุณ และหากฉันจะขายอีกครั้ง คงไม่คิดจะขายให้ผู้ใช้บริการรายเก่าหรอก ไม่เร้าใจ..” วิกานดาตอบกลับไปด้วยความน้อยใจทั้งโกรธที่ธีร์ทำเหมือนว่าเธอเป็นหญิงขายบริการที่เขาจะซื้อมานอนด้วยตอนไหนก็ได้ แต่คำพูดของเธอทำให้ธีร์เลือดขึ้นหน้าเลยทีเดียว...
วิกานดา ใจคอไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเมื่อถูก ธีร์ ธีรเทพ ลูเซียโน่ เฉิน เจ้าของภัตตาคารชื่อดังที่เธอทำงานอยู่ซึ่งวันนี้เขาเข้ามาตรวจงานด้วยตัวเองเรียกไปพบที่ห้องพักของเขา ซึ่งอยู่ชั้นบนสุดของโรงแรมริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งไม่เคยมีใครได้ขึ้นไปพบเขาแบบเป็นการส่วนตัวเช่นนี้สักครั้ง เพราะส่วนใหญ่งานต่างๆ ในภัตตาคารจะมีผู้จัดการร้านคอยดูแลและสำนักงานของภัตตาคารก็อยู่ที่ชั้นสองของโรงแรม แต่ครั้งนี้เกิดเรื่องใหญ่เมื่อเธอเผลอทำให้แขกคนสำคัญไม่พอใจอย่างมากถึงขนาดที่ธีร์ต้องมาจัดการด้วยตัวเองทีเดียว หญิงสาวเข้ามายืนอยู่กลางห้องพักสุดหรูด้วยความตื่นเต้นและหวาดหวั่นอยู่ในที เธอไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าธีร์พักอยู่ท
ี่นี่ตลอดเวลาที่มาดูแลงานที่ภัตตาคาร
“อ้อ.. เธอนี่เองวิกานดา..” ธีร์ลุกขึ้นเต็มความสูงใบหน้าเรียวยาวได้รูปกับเครื่องหน้าที่วิกานดาให้คำนิยามว่า หล่อตี๋ คมเข้มแสนสมาร์ต เพราะเขาเป็นลูกผสมถึงห้าเชื้อชาติใบหน้าหล่อเหลานั้นจึงผสมผสานความลงตัวของทุกเชื้อชาติไว้ในตัวเขา เหมือนว่าพระเจ้าได้ประทานความหล่อเหลาขั้นเทพที่แสนจะสมบูรณ์แบบไว้ที่เขาเพียงผู้เดียว มารดาของธีร์เป็นลูกครึ่งสาวไทยเกาหลีใต้และอังกฤษ ส่วนบิดาของเขาเป็นลูกครึ่งจีนอิตาลี และตอนนี้ใบหน้าหล่อเหลาบึ้งตึงจนเธอนึกขยาด ปกติใครๆ มักเห็นเขายิ้มหัวอย่างคนอารมณ์ดี อย่างที่เรียกว่าหนุ่มเจ้าสำราญ ซึ่งธีร์ก็เป็นหนุ่มเนื้อหอมมีหญิงสาวล้อมหน้าล้อมหลังและมีข่าวคาวกับหญิงสาวแทบไม่เว้นแต่ละวันทั้งดารานักร้องนางแบบหรือเหล่าไฮโซชื่อดัง แล้วฉายาเพลย์บอยของธีร์จะไปไหนเสีย...
“คะ คือค่ะ ฉันเองวิกานดาไม่ทราบว่าคุณธีร์เรียกดิฉันมาพบเรื่องอะไรคะ”
“นี่ยังจะมาถามอีกเหรอว่าฉันเรียกเธอมาทำไม เธอทำให้ร้านเกือบวอดวายไปเกือบครึ่งร้าน ซ้ำลูกสาวของคุณหญิงไก่ก็โวยวายจะเอาเรื่องร้านฉัน เดือดร้อนไปจนถึงคุณหญิงแม่ของฉันต้องออกโรงไกล่เกลี่ยด้วยตัวท่านเองทั้งที่ตลอดสิบปีมานี้ภัตตาคารของเราไม่เคยมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น”
ธีร์เสียงดังใส่เธอแล้วเดินไปรินวิสกี้ยี่ห้อดังเทใส่แก้วใบสวยเกือบครึ่งแก้วแล้วกระดกทีเดียวหมดแก้ว วิกานดาตาโตไม่คิดว่านอกจากเขาจะเป็นคาสโนว่าตัวพ่อแล้วยังเป็นนักดื่มตัวยงด้วย
“อย่ามองฉันด้วยสายตาแบบนั้น ที่ฉันดื่มก็เพราะเธอนั่นล่ะ รู้อะไรมั้ยวันนี้ฉันชวดสนุกกับสาวสวยแซบอย่างน้องแพตตี้ แล้วยังโดนคุณแม่ของฉันด่าซะจนหูชา ไม่พอ ที่ร้านก็ยังจะมีปัญหาอีก เพราะเธอเลยทีเดียว..”
“ตะ แต่ว่าวิว เอ่อ ฉันไม่เกี่ยวอะไรกับการดูตัวของคุณเลยนะคะ คุณไม่มีเสน่ห์ไม่รวยมากพอจะทำให้เขาสนใจรึเปล่าคะ อุ๊บ..”
ด้วยความเผลอตัวทำให้วิกานดาพูดอย่างที่คิดออกไปและมันทำให้ธีร์หน้าตึงเดินมาตรงหน้าเธอด้วยใบหน้าแดงก่ำไม่รู้ว่าเพราะโกรธหรือเพราะวิสกี้ที่เขาดื่มไป
“รู้อะไรมั้ย ฉันนี่รวยระดับมหาเศรษฐี และฉันมีธุรกิจในมือมากมายไม่มีผู้หญิงหน้าโง่คนไหนปฏิเสธฉันหรอก แต่ที่ชวดก็เพราะเธอทำให้ร้านวุ่นวาย และน้องแพตตี้คือคนที่ฉันจะเดตด้วยคืนนี้ พอเกิดเรื่องที่ร้านฉันจึงต้องมาจัดการที่นี่ก่อน จากที่ฉันจะได้ไปสนุกกับน้องแพตตี้ฉันต้องลดตัวมาอบรมพนักงานต๊อกต๋อยอย่างเธอไง เออ.. ก็ไม่รู้ทำไมฉันต้องทำแบบนี้ด้วยวะ..”
ธีร์พูดเสียงดังเหมือนจะว่าเธอแต่ก็เหมือนเขาพูดกับตัวเอง วิกานดามองเขาอย่างงงๆ และเจ็บปวดกับคำว่าพนักต๊อกต๋อยที่เขาต้องลดตัวมาคุยด้วย แต่ก็จริงอย่างที่เขาว่านั่นล่ะ
“แล้วคุณจะให้ฉันทำยังไงล่ะคะ”
“พรุ่งนี้เธอต้องไปกราบขอโทษคุณหญิงไก่กับลูกสาวที่บ้านของเขา”
“ไม่ค่ะ เพราะฉันได้ขอโทษเขาไปแล้ว อีกอย่างที่หม้อแกงหกราดตัวของคุณวัชราลูกสาวคุณหญิงไก่ก็เพราะเธอทำตัวเอง เธอทำหกใส่ตัวเองเพราะต้องการจะเอาแกงหม้อนั้นราดหัวฉัน แต่พลาดโดนตัวเอง กล้องวงจรปิดในร้านก็บันทึกภาพในร้านทุกมุม คุณสามารถไปดูได้เลยค่ะว่าจริงมั้ย พนักงานในร้านก็เป็นพยานให้ฉันได้”
“สวัสดีค่ะ ท่านผีปู่ผีย่าผีตาผียายท่านผีบรรพบุรุษทั้งหลายเจ้าขา หนูชื่อลลนานะคะ ชื่อเล่นว่านุ่มค่ะ ถูกคนใจร้ายหน้าตาดีแต่ปัญญานิ่มเข้าใจผิดจับตัวมาแล้วยังพูดจาทำร้ายจิตใจนุ่มต่างๆ นานา นุ่มเสียใจมากเลยค่ะและคิดถึงบ้านมากแล้วก็เป็นห่วงนิ่งที่อาการสาหัสอยู่ด้วย นุ่มอยากขอให้พวกท่านดลบันดาลให้เขาปล่อยตัวนุ่มกลับบ้านเร็วๆ ด้วยค่ะ และขอให้นุ่มพ้นจากอำนาจชั่วร้ายป่าเถื่อนของคนใจร้ายด้วยเถิ้ดดด และจะให้ดีนุ่มขอสามตัวตรงๆ งวดนี้เลยนะคะ นุ่มจะได้มีเงินมีความสุขสบายไม่ต้องทำงานกลางคืนให้ใครดูหมิ่นเหยียดหยามว่าเป็นผู้หญิงกลางคืน ไม่ต้องเจอผู้ชายนิสัยไม่ดีมาลวนลามทำร้าย แต่ถ้าจะให้ดีที่สุด ดีมากๆ ก็ขอให้นุ่มได้สามีดีๆ หล่อๆ จิตใจดีไม่ปัญญานิ่ม และรวยมาก รักนุ่มมากๆๆๆ นะคะ สาธุๆๆ” “นี่เธอ พอได้แล้ว เลอะเทอะเพ้อเจ้อไปกันใหญ่แล้ว” สิงหาเอ็ดหญิงสาวที่บรรจงปักธูปด้วยรอยยิ้มอย่างหมั่นไส้เหลือคณา “อ้าว.. คุณนี่นะ ฉันขอในสิ่งที่ฉันอยากได้จริงๆ เผื่อท่านจะดลบันดาลให้ฉันได้ดังหวัง จะได้ไม่ต้องมาเจอคุณอีกไง” “อย่างกับฉันอยากจะเจอเธองั้นล่ะ” “แต่คุณก็จับตัวฉันมา” “โอ๊ย... โอเค ฉันผิดเองที่ไม่ดูให้ดี ขอโทษ โอเคมั้ย พอใจรึยัง” สิงหาโวยเสียงขุ่นมองหน้าหญิงสาวที่ยิ้มยียวนด้วยความหมั่นไส้เหลือกำลัง พอรู้ว่าเขาผิดเจ้าหล่อนก็เล่นไม่เลิก
เพราะถูกแม่เลี้ยงใจร้ายเสือกไสไล่ส่งมาให้เป็นเมียขัดดอกของนายใหญ่แห่งหุบเขาคนเถื่อนที่ใครๆ ต่างก็กล่าวขวัญกันว่า โหดร้ายน่ากลัว แต่แล้วเธอกลับพบว่า คนเถื่อนอย่างเขาก็มีหัวใจ และมีไว้เพื่อเธอคนเดียว ++++++++++ “พี่มาร์คไปแล้ว.. ทีนี้ก็เหลือแค่เรา..” ปิ่นกมลเอ่ยขึ้นเมื่ออยู่กันตามลำพัง และถิ่นเถื่อนก็เอาแต่นิ่งเงียบไม่พูดไม่จา ดูท่าทางเขาขัดเขินไม่น้อย “มีอะไรจะสารภาพกับปิ่นมั้ยคะ” “ไม่มีนี่นา..” “ใครกันนะบอกว่า เป็นผัวเมียกัน ต้องบอกกันทุกเรื่อง ให้ไว้ใจกันและกัน” ถิ่นเถื่อนทำอึกๆ อักๆ ท่าทางของคนตัวใหญ่โต แต่ดูเก้งก้างเมื่อตอนนี้เขามีความผิดติดตัว “ก็บางเรื่อง มันยังไม่ถึงเวลาที่จะบอกไง..” “อ้ออออ.. หรือคะ แล้วพี่เถื่อนคิดว่าจะบอกปิ่นตอนไหนคะ และเรื่องไหนบ้าง” ปิ่นกมลเดินมาหยุดตรงหน้าชายหนุ่ม แล้วเงยหน้ามองเขายิ้มๆ ถิ่นเถื่อนเมินหน้าหนีน้อยๆ แต่ใบหูแดงก่ำ “ก็..” “ก็อะไรคะ..” ปิ่นกมลซักไซ้ ถิ่นเถื่อนหันกลับมามองหน้าคนช่างซักอย่างรู้สึกหมั่นไส้แกมเอ็นดูคนตรงหน้ายิ่งนัก “ก็.. ไปคุยกันบนห้องดีกว่าไง” “ว้าย... พี่เถื่อน ปล่อยปิ่นนะคะ เรายังคุยกันไม่รู้เรื่องเลย..” ปิ่นกมลหวีดร้องออกมาอย่างตกใจ เมื่อชายหนุ่มตวัดร่างบอบบางขึ้นไว้ในวงแขนแข็งแรงหน้าตาเฉย
สวย ดุดัน เข้ม หยาบคาย เผ็ด แซ่บ ตดเป็นตด ฟังไม่ผิดหรอก ตดน่ะถูกแล้ว นั่นคือ นิยามของ ฝันงาม ชื่อสวยหรูคุณหนูสุดๆ แต่นั่นมันไม่ใช่ตัวชี้วัดว่าเธอจะเป็นคุณหนูสายแบ๊ว เพราะเธอคือผู้ฉีกทุกกฎของคำว่ากุลสตรี .. +++++++ “จะมีผัวทั้งทีก็ต้องดูดีๆ สิคะ ธิดาหน่อทองไม่ได้กระจอกงอกง่อยนะ มีทั้งมงและสายตะพายพร้อมโล่เกลียดก็อด.. จะให้เอาพวกไม่มีอนาคตมาทำผัวเหรอ..” “ครับเมียพี่ฉลาดเก่งที่สุดในสามโลก เมียจ๋า.. พี่ร้อนแล้ว..” กวินเริ่มเสียงสั่นพร่าเมื่อมือเล็กร้ายกาจเลื่อนไปยังแก่นกลางกายที่เริ่มคึกคะนอง.. “วันนี้งามจะทำให้พี่วินลืมโศก ลืมเศร้า เราจะมันกันอย่างเดียว..” กวินหัวเราะลั่นกับคำพูดห่ามๆ ของเมียรักที่แสนจะตรงไปตรงมาและตรงใจเขาเหลือเกิน.. “งั้นแสดงฝีมือเลยเมียจ๋า หากฟ้าไม่เหลืองห้ามหยุดนะ..” กวินท้าทายฝันงามหรี่ตามองเขาอย่างเจ้าเล่ห์แล้วแลบลิ้นเลียริมฝีปากตัวเองอย่างยั่วยวน.. “อย่าร้องขอชีวิตก็แล้วกัน..” ปล. หนังสือเสียงนี้ได้รวมตอนพิเศษไว้ด้วยนะคะฟังกันเต็มอิ่มไปเลยจ้า
“จะอ่อยฉันอีกนานไหม...” เสียงห้าวดังขึ้นทำให้หญิงสาวลืมตาทันทีก่อนจะผละออกจากวงแขนแกร่งของเขาทันที ใบหน้านวลแดงปลั่งทั้งขัดเขินและอับอายกับคำพูดของเขาแต่เหนือสิ่งอื่นใดเธออับอายที่กำลังจะกลายเป็นสาวร่านร้อนเที่ยวกอดจูบกับผู้ชายมากกว่า “คนบ้า ปากเสีย... ฉะ ฉันไม่ได้ทำแบบนั้นเสียหน่อย...” หญิงสาวสูดหายใจลึกๆ แล้วถลึงตาใส่เขาพลางต่อว่าเขาเสียงเขียวแต่ข้างในใจสาวกลับสั่นไหวหวิวๆ แทบจะเป็นลมแข้งขาสั่นไปหมดจนขยับเดินไม่ได้...
เจ้าสาวคาวโลกีย์สำหรับเขา เพราะหวงชีวิตหนุ่มโสดที่ยังใช้ไม่คุ้ม เพราะไม่ต้องการแต่งงานตามคำสั่งของมารดาที่ทั้งเจ้ายศเจ้าอย่างและจุ้นจ้านวุ่นวาย ทำให้เขาต้องหาไม้กันหมาที่ต้องแสบแซบเร้าใจเพื่อคานอำนาจของมารดา...สำหรับเธอ มีเงินท่วมหัว ไม่ต้องมีผัวก็ได้ จึงต้องมารับอาชีพไม้กันหมาให้ชายหนุ่ม แต่เมื่อหลวมตัวรับงานนี้ ณดา ก็แทบมอดไหม้ด้วยไฟเสน่หาอันร้อนแรง
เขาหล่อเขาร้ายและร้อนแรงดังเปลวเพลิงที่พร้อมจะละลายน้ำแข็งอย่างเธอ ให้เดือดพล่านด้วยไฟเสน่หา.. ++++++++++ “คนบ้าปล่อยนะ พี่แสน อ๊ายย” หญิงสาวหวีดร้องเสียงหลงเมื่อภาสกรก้มลงหอมแก้มใสหนักๆ อย่างมันเขี้ยวและอยากแกล้ง “แก้มน้ำแข็งหอมจัง” “พี่แสนคนบ้า รังแกน้ำแข็ง คอยดูนะน้ำแข็งจะฟ้องพี่ธาร” หญิงสาวหน้าแดงก่ำทั้งโกรธทั้งอาย “ฟ้องไอ้ธารคนเดียวเหรอ ฟ้องคุณอาด้วยสิ และฟ้องให้หมดด้วยนะว่าพี่ทำอะไรบ้าง” “พี่แสนจะทำอะไร ว้าย.. ปล่อยนะ คนบ้า พี่แสน กรี๊ดดด..” ทิพย์ธาราหวีดร้องเสียงหลงเมื่อตกอยู่ในวงแขนที่รัดแน่นของเขาแล้วทิพย์ธาราก็รู้ได้ทันทีว่าตนตกเป็นรองเขาหญิงสาวดิ้นเร่าอย่างโมโหฉุนเฉียวเกรี้ยวกราด ความเยือกเย็นที่มีก่อนหน้าหายไปสิ้น เพราะเมื่อปะทะกับเขาทีไรเธอก็มักจะเป็นเช่นนี้และไม่สามารถควบคุมตัวเองให้สงบเยือกเย็นได้นานเลยสักครั้ง
เสิ่นชิงชิว หลานสาวของเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองไห้ คบหาอยู่กับลู่จั๋วมาเป็นเวลาสามปีแล้ว แต่ความจริงใจของเธอกลับสูญเปล่า ลู่จั๋วปฏิบัติกับเธอเพียงในฐานะหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง และทอดทิ้งเธอในวันแต่งงาน โดยไปหารักแรกของเขา หลังจากเลิกรากันอย่างเด็ดขาด เสิ่นชิงชิวก็กลับมามีสถานะเป็นสาวรวยอีกครั้ง ได้รับมรดกมูลค่าหลายร้อยพันล้าน และเริ่มต้นชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุด แต่แล้วมักจะมีคนโผล่มาทไให้กับเธอหงุดหงิดอยู่เสมอ! ขณะที่เธอกำลังจัดการกับผู้ร้าย คุณชายฟู่ผู้มีอำนาจนั้นก็ปรบมือและโห่ร้องว่า "ที่รักของฉันสุดยอดมากจริงๆ"
หลังจากแต่งงานกันมาสองปี สามีของเธอไม่เคยเหยียบเข้าไปในบ้านและมองดู 'ภรรยาขี้เหร่' ของเขาเลย แถมเขาก็มีเรื่องอื้อฉาวกับดาราหน้าใหม่หลายคนทุกวัน ซูเหว่ยทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอตัดสินใจปล่อยเขาไป ต่อไปก็ต่างคนต่างไปเลย แต่เมื่อเธอเสนอเรื่องหย่า... ฟู่เหยียนอันพบว่านักออกแบบในบริษัทนั้นสะดุดตาเป็นพิเศษ เขาค่อยๆ ทำความรู้จักกับเธอเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาค้นพบตัวตนที่แท้จริงของเธอเข้า เขาเสียใจแล้ว
ในสายตาของเขา เธอเป็นคนขี้โกหก ในสายตาของเธอ เขาเป็นคนไร้หัวใจ เดิมทีถังหว่านคิดว่าเธอคือคนพิเศษหลังจากอยู่กับเสิ่นติงหลานมาสองปี แต่สุดท้ายก็พบว่าตัวเองเป็นแค่ของเล่นที่สามารถทิ้งได้อย่างตามใจเมื่อไม่มีค่าอีกต่อไป จนกระทั่งถังหว่านเห็นว่าเสิ่นติงหลานพาคนรักของเขาไปตรวจครรภ์ เธอจึงยอมแพ้แล้ว เธอหยุดติดตามเขาอีก แต่จู่ๆ เขากลับไม่ยอมปล่อยเธอไป "ถ้าคุณไม่เชื่อฉัน ทำไมคุณไม่ปล่อยฉันไปล่ะ?" ชายผู้เคยหยิ่งยะโสขนาดนั้น ตอนนี้ก้มหัวลงและขอร้องว่า "หวานหว่าน ฉันผิดไปแล้ว โปรดอย่าทิ้งฉันไป"
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"