ตั้งแต่เห็นเลขาฯ เฉิ่มของพี่ชายในชุดรัดรูปสีแดงเพลิงที่ไนต์คลับในค่ำคืนนั้น อิศราก็ไม่สามารถสลัดความต้องการที่มีต่อเจ้าของเรือนร่างนาฬิกาทรายอย่างบัวชมพูออกไปจากหัวได้เลย เขาเป็นคนที่อยากได้ก็ต้องได้ และแน่นอนว่า เขาจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เชยชมบัวชมพู ไม่เว้นแม้แต่การโยกย้ายหล่อนให้มาเป็นเลขาส่วนตัว ทั้งในที่ทำงาน และบนเตียง “ล็อกประตูด้วย” หล่อนทำตามอย่างไม่มีทางเลือก และก็เดินไปหยุดตรงหน้าของเขา “คุณเล็กมีอะไรจะให้ชมพูทำเหรอคะ” “ยังจะมีหน้ามาถามอีกหรือ” “อ๊ะ คุณเล็ก!” ร่างอรชรปลิวเข้ามาปะทะแผงอกกว้างแข็งแรงของอิศราโดยที่ไม่ทันตั้งตัว พร้อมกับเขาที่ตวัดแขนกอดรัดเอาไว้แน่น “ฉันไม่ชอบให้เธอไปยิ้มให้ผู้ชายคนอื่น แบบที่ทำเมื่อกี้นี้” น้ำเสียงของอิศราดุดันและเต็มไปด้วยความน่าสะพรึงกลัว “ชมพู... ก็แค่คุยกับคุณเอกปกติ” “แต่ฉันไม่ชอบ ตราบใดที่เธอยังอยู่ในฐานะสินค้าของฉัน ก็อย่าทำให้ฉันไม่พอใจ จำเอาไว้” บัวชมพูน้ำตาร่วง มองคนใจร้ายอย่างตัดพ้อเสียใจ “ไม่ต้องมาบีบน้ำตา ฉันไม่ใจอ่อนกับเธอหรอก จำเอาไว้ ฉันเป็นคนหวงของ แม้ว่าของชิ้นนั้นจะไม่มีค่าสักเท่าไหร่ก็ตาม” อิศราพูดออกไปแล้วก็อยากจะตบปากตัวเองให้ฉีกนัก นี่เขาพูดออกไปทำไมกัน ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วไม่ได้คิดอย่างที่พูดออกไปเลย บัวชมพูไม่ได้โต้ตอบอะไร นอกจากก้มหน้าร้องไห้เงียบๆ “เลิกร้องไห้ได้แล้ว จะได้ทำงาน” หล่อนยกมือขึ้นป้ายน้ำตาทิ้ง เพราะคิดว่างานของอิศราคือการทำงานจริงๆ แต่ไม่ช้าก็รู้ว่าตัวเองคิดผิด “คุณเล็ก... จะทำอะไรชมพูคะ” หล่อนละล่ำละลักถามอย่างตกใจ เมื่อจู่ๆ ก็ถูกอิศราดันร่างไปชิดกำแพง “ก็ให้เธอทำงานไงล่ะ” “ทำงาน?” “ฉันต้องการเธอเดี๋ยวนี้”
“นั่งลงสิ บัวชมพู”
เสียงห้าวลึกและทรงอำนาจของเจ้านายคนใหม่ดังขึ้น
บัวชมพูค่อยๆ หย่อนกายที่สั่นเทาไปทั้งร่างลงนั่งบนเก้าอี้ตรงหน้าโต๊ะทำงานไม้ขนาดใหญ่ที่เจ้าของชื่ออิศรา
หล่อนไม่เข้าใจเลยว่าทำไมอคิราห์ถึงต้องการให้หล่อนมาทำงานกับอิศรา ถึงเหตุผลที่แจ้งมาจะบอกว่าเพราะอิศราขาดเลขาฯ กะทันหัน แต่ผู้ชายที่มีอำนาจล้นมืออย่างเขาสามารถซื้อตัวเลขาฯ เก่งๆ คนไหนมาทำงานด้วยก็ได้ ไม่จำเป็นต้องโยกหล่อนที่เป็นเลขาฯ ของอคิราห์มาแบบนี้
“เอ่อ... สวัสดีค่ะคุณเล็ก”
“พี่ใหญ่คงบอกเธอแล้วใช่ไหม”
“ค่ะ”
หล่อนก้มหน้าไม่กล้าสบตากับอิศรา มือเล็กที่ประสานกันบนตักบีบกันแน่นเพื่อควบคุมสติสตังของตนเอง
“งั้นต่อจากนี้ไป เธอก็คือเลขาฯ ส่วนตัวของฉัน”
“แต่... ชมพูมาทำหน้าที่ชั่วคราว...”
“ม่าย...”
อิศราเอ่ยยานคาง ขณะลุกขึ้นยืน เท้าสองแขนกับโต๊ะไม้ และยื่นหน้าชะโงกข้ามโต๊ะเข้ามาใกล้ๆ
กลิ่นลมหายใจของอิศราทำให้หล่อนรู้สึกมึนเมาและอุ่นซ่านไปทั้งตัว
“เธอต้องทำหน้าที่เลขาฯ ของฉัน จนกว่าฉันจะสามารถหาเลขาฯ ที่ถูกใจได้”
“ก็คง... ไม่น่าจะนานสักเท่าไหร่ใช่ไหมคะ...” บัวชมพูพึมพำเสียงเบาหวิว
“ถ้าเป็นเรื่องงาน ฉันเป็นคนที่เลือกเยอะ เลือกมาก กว่าจะถูกใจก็คงต้องใช้เวลาสักพัก... ไม่เหมือนเรื่องบนเตียง ที่ฉันไม่ค่อยจนสนใจความสามารถสักเท่าไหร่ แค่ลีลาเด็ดเป็นใช้ได้”
บัวชมพูรู้สึกใจคอไม่ดีเลย แววตาคมกริบที่
อิศราใช้มองมานั้นมันแฝงไปด้วยอันตรายน่าสะพรึงกลัวเหลือเกิน
“วันนี้เธอก็นั่งศึกษางานในส่วนที่ฉันรับผิดชอบไปก่อนนะ อ้อ... แล้วเย็นนี้ฉันมีงานเลี้ยงที่จำเป็นต้องไป และเธอต้องตามฉันไปด้วย"
“คะ?”
“เดี๋ยวสักบ่ายสองฉันอนุญาตให้เธอกลับบ้านไปแต่งตัว ค่ำๆ ฉันจะไปรับ”
“เอ่อ... คุณเล็ก... ชมพูว่า...”
อิศราแค่นยิ้ม ขณะมองผู้หญิงตรงหน้าด้วยสายตาดูแคลน
“แต่งตัวแบบคืนนั้นก็ได้นะ ที่ฉันเห็นเธอในไนต์คลับน่ะ”
สองพวงแก้มนวลร้อนผ่าว ดวงตากลมโตเบิกกว้างตื่นตระหนก
“เพราะนั่นคงเป็นตัวตนที่แท้จริงของเธอ ใช่ไหมล่ะ บัวชมพู”
“เอ่อ...”
“เอาล่ะ กลับไปโต๊ะทำงานของเธอได้แล้ว ถ้าฉันมีอะไรจะเรียกเข้ามาก็แล้วกัน”
บัวชมพูไม่อาจจะเอื้อนเอ่ยคำใดออกไปได้ นอกจากรีบเดินออกไป
ดวงตาคมกริบของอิศรามืดลึกลง เมื่ออยู่ตามลำพัง เขาหย่อนกายใหญ่โตลงนั่งบนเก้าอี้ ภาพของบัวชมพูในค่ำคืนนั้นยังคงติดตรึงอยู่ในความทรงจำ
“ฉันก็แค่อยากรู้ว่าเธอจะเด็ดสักแค่ไหน บัวชมพู”
เขาอยากได้หล่อนมาเป็นของเล่นบนเตียง และเขาจะเอาให้ได้ด้วย แม้ว่าจะต้องโยนเศษเงินให้หล่อนมากกว่าผู้หญิงคนอื่นก็ตาม
บัวชมพูต้องหยุดนิ้วมือที่กำลังกดแป้นพิมพ์ลง เมื่อโทรศัพท์มือถือดังขึ้น
เสียงริงโทนแบบนี้ เป็นสายของใครไปไม่ได้นอกจากมารดา
หญิงสาวรีบเปิดลิ้นชัก หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดรับด้วยความร้อนใจ
ถ้าสายของมารดาเรียกเข้ามา แสดงว่าจะต้องมีเรื่องอย่างแน่นอน
“จ้ะแม่ มีอะไรเหรอจ๊ะ”
“นังชมพู... พ่อแก่ชักอีกแล้ว”
ใบหน้านวลของบัวชมพูซีดเผือด ดวงตาเบิกกว้างเต็มไปด้วยความตกใจ
“แม่... เรียกรถพยาบาลก่อนเลยนะ เดี๋ยวชมพูรีบตามไปที่โรงพยาบาลจ้ะ”
“โรงพยาบาลไหนล่ะนังชมพู”
“โรงพยาบาลเดิมก็ได้จ้ะแม่” หล่อนละล่ำละลักตอบออกไปเสียงตื่นตระหนก ห่วงบิดาจับใจ
“แต่มันแพงนะนังชมพู ข้าว่าส่งไปโรงพยาบาลรัฐดีกว่า”
“ไม่ได้นะแม่ พ่ออาการไม่ดี ชมพูไม่อยากเสี่ยง ส่วนเรื่องเงินแม่ไม่ต้องกังวลนะ ชมพู... พอจะมีจ้ะ”
“โอเค งั้นเอ็งรีบตามมานะนังชมพู ข้าจะพาพ่อเอ็งไปก่อน”
“จ้ะแม่ อีกไม่เกินครึ่งชั่วโมง ชมพูจะไปถึงโรงพยาบาลจ้ะ แม่... เรียกรถพยาบาลเลยนะจ๊ะ” หล่อนรีบย้ำมารดา เพราะเป็นห่วงบิดาเหลือเกิน
“ได้ๆ แค่นี้นะ ข้ารีบไปเรียกรถพยาบาลก่อน พ่อเอ็งกำลังแย่แล้ว”
“จ้ะแม่”
บัวชมพูรีบวางสายจากมารดา หัวใจเต็มไปด้วยความหวาดกลัว กลัวว่าบิดาจะเป็นอะไรไป
หล่อนรักบิดา...
รักมาก...
ท่านเลี้ยงดูหล่อนกับแม่มาอย่างดี จนกระทั่งท่านล้มป่วยเมื่อต้นปีที่แล้ว ด้วยอาการเส้นเลือดในสมองอุดตัน นั่นก็ทำให้ครอบครัวที่เคยสงบสุขของหล่อนแปรเปลี่ยนไป
หลังจากผ่าตัดเรียบร้อยแล้ว และรับยามาพักรักษาตัวอยู่ที่บ้าน แต่หลายครั้งพ่อก็เกิดอาการชักขึ้น หล่อนกับแม่ต้องพาพ่อกลับเข้าไปในโรงพยาบาลใหม่ มันวนลูปแบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า และถี่ขึ้นเรื่อยๆ จนหล่อนต้องย้ายพ่อมาเข้าโรงพยาบาลเอกชน เพื่อที่พ่อจะได้รับการรักษาที่รวดเร็วขึ้น คุณหมอพยายามหาสาเหตุที่เกิดขึ้น แต่ก็ยังหาไม่เจอ
บัวชมพูคว้ากระเป๋าสะพายขึ้นมาวางบนโต๊ะ มือเล็กหยิบกระดาษทิชชูขึ้นมาซับน้ำตาที่ไหลล้นออกมา
หล่อนรีบเดินไปหยุดที่หน้าห้องทำงานของเจ้านายคนใหม่นั้นก็คืออิศรา
ก๊อก ก๊อก
“คุณเล็กคะ ชมพูขออนุญาตเข้าไปนะคะ”
“เข้ามา”
หล่อนดึงบานประตูให้เปิดออกด้วยความรีบร้อน และก้าวเข้าไปหยุดตรงหน้าของผู้ชายตัวสูงเจ้าของห้องทำงานกว้าง
ดวงตาคมกริบที่ล้อมกรอบไปด้วยแพขนตาดกและยาวปานอิสตรีจ้องมองมา ก่อนที่ริมฝีปากหยักสวยจะเคลื่อนไหว
“มีอะไรหรือ”
“เอ่อ... ชมพูต้องขอลางานครึ่งวันได้ไหมคะ พอดีชมพูมีธุระสำคัญมากน่ะค่ะ”
เมื่อ คิมหันต์ ชายหนุ่มหล่อ รวย ทายาทคนเดียวของตระกูล ถูกใจ พอฤทัย นักกายภาพบำบัดที่คุณย่าจ้างมา เขาคิดว่าหล่อนง่าย แต่หล่อนกลับไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิดเลย หล่อนสวย แต่ยาก และนั้นก็ยิ่งทำให้เขากระหาย ยิ่งอยากได้หล่อนจนใจจะขาด ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ ประตูห้องยังไม่ทันจะปิดสนิท คิมหันต์ก็ดึงคนตัวเล็กเข้ามาประกบปากจูบดูดดื่ม ราวกับว่าถ้ารออีกนิดเดียวเขาจะขาดใจตาย "คุณคิมหันต์ อย่าค่ะ...คุณปวดเอวอยู่ไม่ใช่เหรอ?" หล่อนจับมือที่บีบขยำนมออก แต่เขาก็เอาขึ้นมาบีบใหม่ ก้มหน้าลงกระซิบข้างหู "ปวดก็ต้องซ้ำครับ จะได้หายปวด" พูดจบก็อุ้มร่างบางขึ้นแนบอกทันที พอฤทัยรู้ว่าโดนหลอก ก็โมโหเอาฟันกัดที่หัวไหล่เขาไปทีหนึ่ง แล้วก็รู้ว่าตัวเองทำผิดพลาดครั้งใหญ่ เมื่อได้ยินประโยคที่เขาพูดออกมา "ที่แท้คุณก็ชอบความรุนแรงนี่เอง ได้เลยครับเมียจ๋า...เดี๋ยวผัวจัดให้" เขาเดินก้าวยาว ๆ จนมาถึงเตียง วางร่างบางบนที่นอน จากนั้นก็ถอดเหมือนกระชากชุดของหล่อนออกจากร่าง ตามด้วยเสื้อผ้าของตัวเอง แล้วทาบทับลงไป "เห็นคุณชอบความรุนแรงแบบนี้ แสดงว่าต้องชอบแบบจูบแรกของเราด้วยใช่ไหม?" เขาเคลื่อนหน้าลงมาถาม หล่อนถลึงตาใส่เขา เมื่อนึกถึงจูบรุนแรง ที่มีแต่ความเจ็บตรงหน้าห้องน้ำ "ก็ลองทำอีกสิ คราวนี้ฉันจะกัดลิ้นคุณให้ขาดเลย" เขาได้ยินก็หัวเราะเสียงร่วนออกมา ก่อนจะก้มหน้าลงไปจูบกลีบปากอิ่มอ่อนโยน และเปลี่ยนเป็นร้อนแรงขึ้นในเวลาต่อมา
นนท์ปวิธคือคุณหมอหนุ่มรูปงามและใจดี และมีเพียงแค่เธอคนเดียวเท่านั้นที่ได้เห็นมุมมืดของผู้ชายคนนี้ มุมมืด... ที่เขาสร้างเอาไว้เพื่อทำร้ายเธอเพียงคนเดียว +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "นอนกับฉัน แล้วฉันจะยอมช่วยลูกสาวของเธอ" นี่คือข้อเสนอของนายแพทย์นนท์ปวิธ อริณวัฒน์ ศัลยแพทย์หัวใจชื่อดังของเมืองไทย เขาคือเทพเจ้าแห่งการผ่าตัดหัวใจ เพราะคนไข้ทุกคนที่ผ่านมีดผ่าตัดของเขาจะประสบความสำเร็จทุกราย ทุกคนต่างชื่นชมในฝีมือและความมีน้ำใจของคุณหมอหนุ่มหล่อคนนี้มาก เขาคือเทพบุตร คือเทวดาสำหรับคนไข้และญาติๆ แต่ในมุมมืดของเขามีเพียงแค่หล่อนคนเดียวที่ได้เห็น แน่ล่ะ... เขาสร้างมุมมืดเอาไว้เพื่อทำร้ายหล่อนแค่เพียงคนเดียวเท่านั้น "ตกลงค่ะ" รอยยิ้มหยันเกลื่อนใบหน้าหล่อเหลาของนายแพทย์นนท์ปวิธ ขณะที่เคลื่อนเรือนร่างสูงโปร่งหกฟุตสามนิ้วเข้ามาหยุดใกล้ๆ "งั้นก็คืนนี้เลย" "ตาว... ขอเวลา..." "ลูกสาวของเธอ มีเวลาเหลือเยอะสินะ" "เอ่อ..." "ฉันต้องการเอาเธอคืนนี้..." แล้วเท้าใหญ่ก็ขยับเข้ามาใกล้ขึ้นอีก จนตอนนี้ร่างกายอยู่ห่างกันแค่เพียงฟุตเดียวเท่านั้น กลิ่นหอมเฉพาะตัวของเขาโชยฟุ้งเข้ามาในจมูก ทำให้รจิตราตัวสั่นเทา หล่อนช้อนตาขึ้นมองคนตัวสูง ซึ่งเขาก็ลดสายตามองลงมามองพอดี ดวงตาสองดวงสบประสานกัน โลกทั้งใบหยุดหมุน ความทรงจำเมื่อห้าปีก่อนย้อนกลับเข้ามาราวกับสายน้ำไหลหลาก ความทรงจำที่หล่อนไม่เคยลืม... และใช้มันหล่อเลี้ยงหัวใจมากว่าห้าปี
ในสายตาของทุกคน คชาวุฒิเก่งฉลาด สุภาพเรียบร้อย และสุดเนิร์ด คงมีเพียงแค่เธอคนเดียวเท่านั้น ที่รู้ว่าใต้แว่นตาหนาของเขาซ่อนความร้อนแรงเอาไว้มากแค่ไหน ไม่รู้จะอวยยศให้อาจารย์ฟิสิกส์คนนี้ยังไงดี แต่รับประกันว่าอาจารย์แซ่บมาก แซ่บฉ่ำแฉะ^^ +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "ตรงไหนดี..." หล่อนควรต่อต้านสิ ควรผลักไส เพราะมันไม่ใช่เรื่องที่ควรเกิดขึ้นเลย แต่... แต่ร่างกายของหล่อนมันอ่อนระทวยไม่มีแรงเลย "ตรงไหนดีเด็กน้อย..." เขากระซิบถามเสียงกระเส่า "ถ้าคุณไม่ตอบ ผมจะเลือกเองนะ..." "อาจารย์... หนู... หนู..." ใบหน้านวลแดงระเรื่อ ตอนนี้สมองของหล่อนขาวโพลนไร้ความคิดชั่วคราว รอยยิ้มจากปากหยักสวยของอาจารย์ฟิสิกส์สุดหล่อช่างบาดใจเหลือเกิน เขาค่อยๆ ย่อตัวลง และคุกเข่าลงกับพื้น ขณะที่สายตาช้อนขึ้นมาสบประสานกับหล่อนตลอดเวลา ไฟร้อนๆ ในดวงตาของเขากำลังแผดเผาให้หล่อนมอดไหม้ "อา... จารย์..." นี่เขากำลังจะทำอะไรน่ะ เขาคุกเข่าทำไม
พระเอกเรื่องนี้แรกๆ จะออกแนวปากหมา ใจร้าย ชอบทำนางเอกช้ำใจ แต่หลังจากเห่าหอนเป็นแล้ว ก็จะกลายเป็นหมาโบ้คลั่งรักสุดๆ เลยค่ะ ไรต์นอนยันเลย 555+++ คำเตือน... พระเอกเรื่องนี้โบ้ซ้ำโบ้ซ้อนโบ้ไม่ปรานีใคร 55 ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "คุณ... ภาม... เป็นอะไรคะ..." คำถามของหล่อนตะกุกตะกักจนแทบฟังไม่เป็นคำ "หึ... ยังจะมีหน้ามาถามอีกหรือคาลิสา!" เขายื่นมาบีบคอของหล่อน และนั่นก็ทำให้หล่อนตกใจแทบช็อก "คุณภาม... ครีม... กลัว..." ทำไมเขาทำแบบนี้ ทำไมภาวินทร์ถึงบีบคอหล่อนล่ะ แม้จะไม่ได้บีบแรงนัก แต่ก็ทำให้หล่อนกลัวจนแทบหยุดหายใจ "เธอนี่มันเลี้ยงไม่เชื่อง" "คุณภาม... พูดอะไรคะ ครีมไม่เข้าใจ... อ๊ะ..." นิ้วยาวของเขาบีบเค้นลงกับลำคอขาวผ่องของหล่อนแรงขึ้น จนหล่อนเกือบจะหายใจไม่ออก "ยังจะมีหน้ามาถามอีกเหรอ เธอไปทำอะไรเอาไว้ล่ะ" "ครีม... ครีมเปล่า..." "เลิกตอแหลเถอะ ฉันรู้เรื่องจากน้องอัญหมดแล้ว" "..." "เธอจงใจละเมิดข้อตกลงของเรา" "ครีมเปล่านะคะ คุณอัญเธอรู้อยู่แล้ว... เธอรู้จากคุณภามไม่ใช่เหรอคะ..." หล่อนพยายามจะอธิบายในมุมของตัวเอง แต่ชายหนุ่มไม่ยอมรับฟัง "เธอเดือดร้อน ฉันก็ช่วย ให้ข้าวให้น้ำ ให้เงิน เซ็กซ์ดีๆ ฉันก็ให้ งานก็มีให้ทำ แล้วเธอยังต้องการอะไรจากฉันอีก อยู่เงียบๆ อยู่ในที่ตัวเองไม่ได้หรือไง หื้อ!" "ครีม... ฮืออออ..." "แล้วเธอยังมีหน้าไปโกหกน้องอัญว่าท้องกับฉันอีกเหรอ เธอกล้าดียังไงพูดแบบนั้นออกไป คาลิสา!" หากหล่อนบอกออกไปว่าตัวเองกำลังตั้งท้องลูกของเขาจริงๆ ภาวินทร์ก็คงจะไม่เชื่อ ใช่... เขาไม่มีทางเชื่อหรอก ตอนนี้เขาเชื่อคำพูดของคู่หมั้นคนสวยของเขาคนเดียวเท่านั้น "ตอบมาสิ... เธอท้องลูกของฉันจริงหรือเปล่า" ใบหน้าที่เปียกชุ่มไปด้วยหยาดน้ำตาส่ายไปมา ก่อนจะตอบเสียงสะอื้น "ไม่... ไม่ได้ท้องค่ะ..." "หึ... นึกอยู่แล้วเชียว เธอมันก็แค่ผู้หญิงมารยา ที่ต้องการทำให้ฉันเดือดร้อนเท่านั้นเอง" เขาหยุดบีบคอของหล่อน และผลักร่างของหล่อนออกห่าง แสดงท่าทางรังเกียจออกมา "เราเลิกกันเถอะ"
เรื่องนี้พระเอกเป็นพวกชอบวิ่ง ตอนแรกวิ่งหนี ตอนหลังวิ่งชนจนมดลูกน้องแทบอักเสบ ฝากติดตามเป็นกำลังใจให้ไรต์ด้วยค่ะ เลิฟ เลิฟ ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "พี่วิศ... ทำไมพี่เปลี่ยนไปแบบนี้คะ... อื้อ... อย่าทำแบบนี้สิคะ... " แม้จะพยายามขัดขืน แต่เสียงก็แผ่วเบา และอ่อนแรงเหลือเกิน "แล้วชอบพี่แบบนี้ไหมล่ะครับ... อืมม หอมจัง" ปลายจมูกของเขาซุกไซ้อยู่ที่ลำคอ ในขณะที่ฝ่ามืออบอุ่นลูบไล้ซุกซน "พี่ชอบก้นของเธอจัง นุ่มนิ่มมาก" "พี่วิศ..." "และพี่ก็ชอบเสียงครางของเธอด้วย ฟังแล้วยิ่งมีอารมณ์..." เขาเงยหน้าขึ้นจากลำคอของหล่อนที่ดูดเม้มจนแดงช้ำ ดวงตาสบประสานกัน ก่อนที่ปากหยักสวยจะแนบชิดลงมาหา เขาจูบเบาๆ หนึ่งครั้ง ก่อนจะกระซิบเสียงแปร่งพร่า "ให้พี่เอานะ... พี่หิว..."
เพราะแอบรักจึงยอมทุกอย่าง ยอมแม้กระทั่งเป็นคนในความลับ อยู่เงียบๆ ในเงามืดชั่วนิรันดร์ กฎของเขาก็คือ มีอะไรกัน นอนด้วยกัน สนุกกัน แต่ห้ามบอกใคร ห้ามให้ใครรู้ว่ามีความสัมพันธ์กันแบบไหน ในที่ทำงานเขาคือท่านประธาน และเธอก็คือพนักงานคนหนึ่งในบริษัทเท่านั้น เมื่อเจอกันก็ทักทายกันบ้างแบบเจ้านายกับลูกน้อง ห้ามแสดงท่าทางหรือแสดงความเป็นเจ้าของ ห้ามโพสต์สถานะในโซเชียล แม้จะไปเที่ยวด้วยกัน ไปถึงไหนต่อไหนด้วยกันก็แล้วแต่ห้ามเปิดเผยทั้งนั้น ซึ่งด้วยความรักที่มีต่อเขา ทำให้เธอตกลงยอมเป็น คนในความลับของเขาอย่างเต็มใจ +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "มามี๊ขา..." วชิรวัฒน์มองเด็กหญิงตัวน้อยที่อายุน่าจะไม่ถึงสามขวบวิ่งเข้ามาสวมกอดฟาริดาด้วยความประหลาดใจและตกใจในเวลาเดียวกัน เขามองใบหน้ากลมๆ ของเด็กหญิงคนนั้น สลับกับใบหน้าของฟาริดา ซึ่งก็พบว่าหญิงสาวกำลังหน้าซีดเผือดไร้สีเลือด "นี่มันอะไรกัน น้องฟาง... เด็กคนนี้... เป็น..." เขายังพูดไม่ทันจบ ฟาริดาก็ดันร่างของเด็กหญิงไปไว้ด้านหลัง ก่อนจะตอบเขาด้วยสุ่มเสียงดังฟังชัด "ลูกสาวของฟางเองค่ะ" วชิรวัฒน์ถึงกับอึ้ง เขาหันไปมองสบตากับอภิวัฒน์ ก็พบว่าเลขาฯ หนุ่มก็อึ้งไม่ต่างกัน หลังจากตั้งสติอยู่ชั่ววินาที เขาก็หันกลับมาจ้องหน้าฟาริดาเขม็ง "เด็กคนนี้เป็นลูกของใครครับ" เขาพยายามที่จะถามเสียงสุภาพ ทั้งๆ ที่ภายในในเต็มไปด้วยเพลิงไฟกัลป์ เพราะอย่างนี้เองเหรอ ฟาริดาถึงได้หนีจากเขาไป เพราะหล่อนท้อง... แล้วหล่อนท้องกับใครล่ะ นอกจากเขาแล้ว หล่อนยังแอบมีความสัมพันธ์กับผู้ชายคนอื่นอีกอย่างนั้นเหรอ บ้าชิบ! นี่หล่อนกำลังจะทำให้เขาโมโหจนเป็นบ้าอยู่แล้วนะ! "ลูกของใครก็ช่างเถอะค่ะ แต่ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับพี่โรมแน่นอน"
ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"
ในคืนวันเกิดอายุยี่สิบสองปี ลี่เฉี่ยนโลว่ถูกแฟนหนุ่มวางยา และไปมีอะไรกันกับซือจิ้นเหิง ผู้ชายลึกลับคนหนึ่งตลอดทั้งคืน วันรุ่งขึ้นเธอพบว่าครอบครัวเธอถูกทำลายจนไม่มีอะไรเหลือ เธอแต่งงานกับจิ้นเหิง ได้รับการคุ้มครองจากเขา และใช้เขาเพื่อแก้แค้น "ฉันเป็นภรรยาที่ถูกกฎหมายของเขา" แม้ว่าแม่สามีของเธอจะไม่ยอมรับ แม้ว่าแฟนสาวที่เป็นซุปเปอร์สตาร์ของเขาจะตามมาอยู่ด้วยกัน เธอก็ยังคงยืนยันอยู่อย่างนั้น เธอแท้งโดยบังเอิญ แต่เขากลับเข้าใจผิดว่าเธอไม่อยากมีลูกกับเขา และด้วยความเข้าใจผิดต่าง ๆ อีกหลายหย่าง เธอเลือกที่จะกระโดดลงทะเลเพื่อฆ่าตัวตาย หลายปีต่อมา เมื่อเธอกลับเข้ามาในชีวิตของเขาอีกครั้ง เขาถึงกับตกตะลึง ชายคนนี้ได้สิ่งที่ต้องการจากเธอแล้ว แต่เธอไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงยังรังควานและทรมานเธอต่อไป
ลู่เจียหง นักวิทยาศาสตร์ชื่อดังในยุคปัจจุบัน จับผลัดจับพลูลงลิฟต์ก็โผล่ไปยังยุคโบราณ แถมยังอยู่ในชุดเจ้าสาวอีก ถ้าประหลาดแค่นั้นไม่พอคงไม่เป็นไร ถ้าไม่พบว่าตัวเองกำลังถูกตามล่าจากว่าทีสามีที่ยังไม่ทันเข้าหอ งานนี้นางถือคติไม่ยุ่งเกี่ยวต่างคนต่างอยู่ แต่ท่านอ๋องผู้นั้นก็เอาแต่วนเวียนอยู่ข้างตัวนางไม่หยุด แบบนี้นางจะหย่าสำเร็จได้ตอนไหนกัน!!
รูรักอันบริสุทธิ์เมื่อถูกปลายลิ้นร้อนของชายหนุ่มเป็นครั้งแรกดูเหมือนว่าจะตอบสนองได้เป็นอย่างดี ร่องของนางขมิบรัว สะโพกของนางยกขึ้นยังเด้งเข้าไปหาปากร้อน ฝ่าบาทเก่งกาจยังสามารถแยงลิ้นเข้าไปในรู อันซูเซี่ยถูกทาขี้ผึ้งหอมรอบปากทาง ขี้ผึ้งนี้นอกจากจะมีรสชาติดีส่งเสริมรสน้ำรักของนางแล้วยังมีคุณสมบัติอันวิเศษ แม้จะเป็นหญิงพรหมจรรย์ก็จะไม่รู้สึกเจ็บปวด และเผลอทำร้ายฝ่าบาทจนบาดเจ็บ อี้หลงดูดแบะขาของนางให้กว้างขึ้นแล้วรวบขึ้นไปให้ขาชี้ฟ้า จากนั้นมุดใบหน้าลงมาอย่างหลงใหล “หอมอร่อยเหลือเกิน รู้สึกเหมือนดื่มสุราไม่เมามาย อ้า ข้าชอบยิ่ง หอยของฮองเฮาช่างใหญ่โต ดูโคกเนื้อโยนีแทบจะล้นริมฝีปากของข้า สีแดงเช่นนี้คงไม่เคยผ่านสิ่งใดมาก่อน บริสุทธิ์ยิ่งนัก ซี้ด” นางดิ้นเร่าอยู่ในปาก ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรนอกจากเชื่อฟังในคำของฝ่าบาท “อืม อร่อยยิ่งนัก อ้า ข้าไม่ไหวแล้วขอดูหน้าฮองเฮาของข้าหน่อยเถิด” ดูเหมือนว่าร่องรักของนางยังขมิบ นางไม่อยากให้เขาเงยหน้าขึ้นจากตรงนั้นด้วยซ้ำ อยากถูกปลายลิ้นเลียเช่นนั้นจนกว่านางจะได้รับการปลดปล่อย “อ้า ฝ่าบาทเพคะ อย่าหยุดเพคะ อื้อ” นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักสำหรับผู้ใหญ่ มี 2 เล่มจบ เป็นนิยายแบบพล็อตอ่อน เน้นฉากรักบนเตียงของตัวละครเป็นหลัก เหมาะสำหรับผู้มีอายุ 25 ปีขึ้นไป ไม่เหมาะสำหรับสายคลีนใส ๆ นะคะ หากใครไม่ชอบอ่าน NC เยอะ ๆ กรุณาเลื่อนผ่าน เพราะเรื่องนี้เน้น NC เป็นหลักค่ะ ซีไซต์ นักเขียน
ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!
เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"