ล้อมดาวมีวันไนท์สแตนด์กับหนุ่มหล่อเอวพลิ้ว เธอไม่รู้ว่าเขาคือคุณหมอ จนกระทั่งวันหนึ่งเธอมาตรวจภายใน และเขาเป็นคนตรวจให้ เรื่องเสียวสยิวดั่งค่ำคืนนั้นจึงเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทุกอย่างที่มีเกิดขึ้นทำไมเสมือนจริงแบบนี้นะ จูบที่เต็มไปด้วยความหิวกระหายก็เหมือนจริงมากๆ ไหนจะฝ่ามือใหญ่ที่ลูบไล้ตามเรือนกายสาวนั่นอีก มันเหมือนจริงราวกับไม่ใช่ความฝัน แต่มันจะเป็นความจริงไปได้ยังไงกันล่ะ ในเมื่อตอนที่สบตากันนั้น ผู้ชายคนนี้ไม่ได้แสดงทีท่าว่าสนอกสนใจหล่อนแม้แต่นิดเดียว ขนาดขอไลน์ก็ยังไม่ยอมให้เลย นี่คงจะเป็นความฝันนั่นแหละ ความฝันแสนหวาน ที่หล่อนมีสิทธิ์จะระเริงไปกับความสุขนี้ได้อย่างไม่ต้องอับอายใคร “อ๊า... อ๊า... ซี๊ดดดดด...” หล่อนร้องครางออกไปอย่างไร้ยางอาย ก็จะต้องไปอายใครล่ะ ในเมื่ออยู่เพียงลำพังคนเดียวในห้องนอน และคนบนร่างจริงๆ แล้วก็คงหนีไม่พ้นหมอนข้างแน่ๆ “อู๊ยยยย... อ๊า...” รู้สึกดีเหลือเกิน ยามที่รู้สึกว่าปากของตัวเองกำลังจะหลอมละลายรวมกับปากของผู้ชายในความฝัน เขากำลังปลุกเร้าให้หล่อนร่านแรดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน น้ำบางอย่างไหลทะลักออกมาจากซอกขา จนเปียกลื่น
ล้อมดาว รักดี สาวบัญชีหน้าตาเฉิ่มเชย แต่งเนื้อแต่งตัวไม่ต่างจากแม่ชีในโบสถ์ ชีวิตของหล่อนเดียวดาย และอ้างว้าง เพราะหล่อนคือเด็กกำพร้าที่ไร้ญาติ เติบโตมาในสถานรับเลี้ยงดูเด็กกำพร้า ต้องดิ้นรน ส่งตัวเองเรียนจนสามารถจบชั้นประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส) ได้สำเร็จ
และทันทีที่เรียนจบ หล่อนก็ตระเวนหาสมัครงานไปทั่วทั้งเมืองหลวง ใช้เวลาเกือบครึ่งปีกว่าหล่อนจะสามารถหางานทำได้สำเร็จ
หล่อนแยกมาเช่าห้องอยู่ใกล้ๆ กับที่ทำงาน แต่เมื่อถึงวันหยุด หล่อนก็ไม่ลืมที่จะกลับไปช่วยแม่ครูเลี้ยงดูเด็กกำพร้าที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เป็นประจำ
ชีวิตของหล่อนดำเนินเรื่อยเปื่อยไร้จุดหมายเช่นนี้มายาวนาน จนกระทั่งค่ำคืนหนึ่ง บริษัทที่หล่อนทำงานอยู่ได้จัดงานเลี้ยงขึ้นในสถานบันเทิงชื่อดัง ซึ่งแน่นอนว่าหล่อนไม่อาจจะปฏิเสธหรือหลีกเลี่ยงการไปร่วมงานได้
“คืนนี้แต่งตัวให้มันทันสมัยหน่อยนะน้องดาว”
คำพูดของหัวหน้างานดังลั่นในหัวอีกครั้ง ยามที่หล่อนเปิดประตูตู้เสื้อผ้า และพบว่าในตู้ตรงหน้ามีแต่ชุดสีทึมและสีเข้มเกือบทั้งหมด
“เฮ้อออ...”
มือเล็กสีขาวสะอาดค้นๆ ไปสักพักก็ตัดสินใจหยิบชุดหนึ่งออกมา มันคือชุดเดรสพอดีตัวสีดำ ยาวพอดีกับหัวเข่า ซึ่งเป็นชุดที่หล่อนไม่เคยหยิบมาสวมใส่เลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่ที่ยังเก็บเอาไว้ในตู้เสื้อผ้าก็เพราะว่ามันคือชุดที่เพื่อนสมัยเรียนซื้อมาให้เป็นของขวัญวันเกิดนั่นเอง
“วันนี้คงต้องหยิบเจ้ามาใส่แล้วล่ะ”
ล้อมดาวถอนใจออกมาอย่างไม่มีทางเลือก และในที่สุดชุดเดรสสีดำก็ถูกหยิบออกมาจากตู้เสื้อผ้า
หล่อนขยับตัวมาที่กระจกเงาที่ติดอยู่กับบานเปิดของตู้เสื้อผ้า เอาชุดเดรสทาบกับตัวเอง เอียงคอมองด้วยความรู้สึกประหม่า
ชุดนี้สวยมาก แต่หากมันมาอยู่บนร่างกายที่มีไขมันส่วนเกินของหล่อน ความสวยงามของชุดเดรสคงจะลดลงไปมากเลยทีเดียว
หญิงสาวถอนใจแล้วถอนใจอีก แต่ก็ไม่อาจที่จะปฏิเสธสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นได้
ฐานัส เกียรติก้องไพศาล คุณหมอสูตินารีเวชมืออันดับต้นๆ ของประเทศไทย ชายหนุ่มเป็นทายาทเพียงคนเดียวของ นายชินดนัย เกียรติก้องไพศาล มหาเศรษฐีหม้ายเนื้อหอม
ตระกูลเกียรติก้องไพศาล ทำธุรกิจหลากหลายประเภท แต่ที่เด่นๆ และทำกำไรให้มากที่สุด เห็นจะไม่พ้นกลุ่มงานเกี่ยวกับการบริการสุขภาพ ดังนั้นตระกูลมั่งคั่งนี้จึงเป็นเจ้าของโรงพยาบาลยักษ์ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย และก็มีสาขาทุกจังหวัดเลยทีเดียว
“คุณหมอนัสกลับแล้วเหรอคะ”
คุณหมอหนุ่มที่ขึ้นชื่อลือชาในความหล่อเหลาปานเทพบุตรเดินดินชะงักเท้าเล็กน้อย ก่อนจะหันไปมองนางพยาบาลตัวเล็กที่เดินตามหลังมา
“ครับ”
“เอ่อ... นุ่มเอาคุกกี้มาฝากค่ะ”
เขาระบายยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะยื่นมือไปรับขวดโหลคุกกี้ที่สตรีตรงหน้าบรรจงผูกโบว์สีชมพูมาให้อย่างสวยงามตามมารยาท
“ขอบคุณมากครับ”
เจ้าของคุกกี้บิดตัวไปมาด้วยความขัดเขินเป็นที่สุด เมื่อได้รับรอยยิ้มละไมจากคุณหมอหนุ่มผู้ได้รับสมญานามว่าคุณหมอเทพบุตร
“ด้วยความยินดีค่ะ แล้วถ้าคุณหมอนัสชอบล่ะก็ นุ่มจะทำมาให้ทุกวันเลยค่ะ”
“ขอบคุณอีกครั้งนะครับ แต่ผมไม่ค่อยถูกกับของหวานเท่าไหร่ กินทีไรเมาทุกทีเลยครับ”
“คะ?” คนฟังทำหน้าฉงน จนฐานัสต้องรีบอธิบายเพิ่มเติม
“คือผมน่ะ แพ้นมน่ะครับ”
คู่สนทนาของเขาผงกศีรษะหงึกๆ ก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงสูงลิบ
“อ๋ออออ แบบนี้นี่เอง นุ่มถึงไม่เคยเห็นคุณหมอนัสดื่มนมเลย”
เขาระบายยิ้มบางๆ ออกไป ก่อนจะเอ่ยขอตัว เพราะวันนี้มีนัดกับเพื่อนในผับ
“ผมขอตัวก่อนนะครับ”
“เอ่อ... ค่ะ เดินทางปลอดภัยค่ะ”
“ขอบคุณครับ”
ฐานัสระบายยิ้มให้กับคู่สนทนาอีกครั้งตามมารยาท ก่อนหมุนตัวพาเรือนกายสูงสง่าเดินจากไป
“ขนาดแพ้นมยังสูงล่ำขนาดนี้เลย”
นายิกายกสองมือขึ้นประสานกันเอาไว้ตรงหน้าอก และบิดตัวไปมาด้วยความตื่นเต้นดีใจ ก่อนจะเดินกลับไปยังแผนกของตนเอง
“เป็นไงบ้างล่ะยายนุ่ม” เพื่อนร่วมงานที่รู้ว่าหล่อนไปไหนมาเอ่ยถามทันที
“สำเร็จจ้า...”
นายิกาฉีกยิ้มกว้าง แต่เพื่อนร่วมงานคนที่ถามส่ายหน้าไปมา
“แกอย่าดีใจไปเลย ฉันเห็นคุณหมอนัสรับขนมจากสาวๆ ทุกคนนั่นแหละ แต่จะกินหรือไม่กินนั่น มันอีกเรื่องหนึ่ง”
“นี่แกจะมาดับฝันฉันใช่ไหมเนี่ย”
“ฉันไม่ได้จะดับฝันแก ฉันก็แค่อยากให้แกล้มเลิกความคิดซะ คุณหมอนัสทั้งหล่อทั้งรวยทั้งเก่ง เขาไม่มองนางพยาบาลอย่างพวกเราหรอก”
นายิกาทำหน้าม่อย ก่อนจะถอนใจออกมา เพราะสิ่งที่เพื่อนร่วมงานพูดมันคือความจริง
“ฉันก็แค่หาความสุขใจเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้นแหละ คุณหมอนัสไม่เอาฉัน ฉันก็ไม่ได้เสียใจอะไร แต่ถ้าเกิดฉันโชคดีคุณหมอดันชอบฉัน นั่นก็อีกเรื่องหนึ่ง จริงไหม”
“เออๆ”
เพื่อนร่วมงานของนายิกาพยักหน้ารับส่งเดช
“มาๆ มาทำงานเถอะ คนไข้เริ่มมากันแล้ว”
“จ้า”
เมื่อ คิมหันต์ ชายหนุ่มหล่อ รวย ทายาทคนเดียวของตระกูล ถูกใจ พอฤทัย นักกายภาพบำบัดที่คุณย่าจ้างมา เขาคิดว่าหล่อนง่าย แต่หล่อนกลับไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิดเลย หล่อนสวย แต่ยาก และนั้นก็ยิ่งทำให้เขากระหาย ยิ่งอยากได้หล่อนจนใจจะขาด ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ ประตูห้องยังไม่ทันจะปิดสนิท คิมหันต์ก็ดึงคนตัวเล็กเข้ามาประกบปากจูบดูดดื่ม ราวกับว่าถ้ารออีกนิดเดียวเขาจะขาดใจตาย "คุณคิมหันต์ อย่าค่ะ...คุณปวดเอวอยู่ไม่ใช่เหรอ?" หล่อนจับมือที่บีบขยำนมออก แต่เขาก็เอาขึ้นมาบีบใหม่ ก้มหน้าลงกระซิบข้างหู "ปวดก็ต้องซ้ำครับ จะได้หายปวด" พูดจบก็อุ้มร่างบางขึ้นแนบอกทันที พอฤทัยรู้ว่าโดนหลอก ก็โมโหเอาฟันกัดที่หัวไหล่เขาไปทีหนึ่ง แล้วก็รู้ว่าตัวเองทำผิดพลาดครั้งใหญ่ เมื่อได้ยินประโยคที่เขาพูดออกมา "ที่แท้คุณก็ชอบความรุนแรงนี่เอง ได้เลยครับเมียจ๋า...เดี๋ยวผัวจัดให้" เขาเดินก้าวยาว ๆ จนมาถึงเตียง วางร่างบางบนที่นอน จากนั้นก็ถอดเหมือนกระชากชุดของหล่อนออกจากร่าง ตามด้วยเสื้อผ้าของตัวเอง แล้วทาบทับลงไป "เห็นคุณชอบความรุนแรงแบบนี้ แสดงว่าต้องชอบแบบจูบแรกของเราด้วยใช่ไหม?" เขาเคลื่อนหน้าลงมาถาม หล่อนถลึงตาใส่เขา เมื่อนึกถึงจูบรุนแรง ที่มีแต่ความเจ็บตรงหน้าห้องน้ำ "ก็ลองทำอีกสิ คราวนี้ฉันจะกัดลิ้นคุณให้ขาดเลย" เขาได้ยินก็หัวเราะเสียงร่วนออกมา ก่อนจะก้มหน้าลงไปจูบกลีบปากอิ่มอ่อนโยน และเปลี่ยนเป็นร้อนแรงขึ้นในเวลาต่อมา
นนท์ปวิธคือคุณหมอหนุ่มรูปงามและใจดี และมีเพียงแค่เธอคนเดียวเท่านั้นที่ได้เห็นมุมมืดของผู้ชายคนนี้ มุมมืด... ที่เขาสร้างเอาไว้เพื่อทำร้ายเธอเพียงคนเดียว +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "นอนกับฉัน แล้วฉันจะยอมช่วยลูกสาวของเธอ" นี่คือข้อเสนอของนายแพทย์นนท์ปวิธ อริณวัฒน์ ศัลยแพทย์หัวใจชื่อดังของเมืองไทย เขาคือเทพเจ้าแห่งการผ่าตัดหัวใจ เพราะคนไข้ทุกคนที่ผ่านมีดผ่าตัดของเขาจะประสบความสำเร็จทุกราย ทุกคนต่างชื่นชมในฝีมือและความมีน้ำใจของคุณหมอหนุ่มหล่อคนนี้มาก เขาคือเทพบุตร คือเทวดาสำหรับคนไข้และญาติๆ แต่ในมุมมืดของเขามีเพียงแค่หล่อนคนเดียวที่ได้เห็น แน่ล่ะ... เขาสร้างมุมมืดเอาไว้เพื่อทำร้ายหล่อนแค่เพียงคนเดียวเท่านั้น "ตกลงค่ะ" รอยยิ้มหยันเกลื่อนใบหน้าหล่อเหลาของนายแพทย์นนท์ปวิธ ขณะที่เคลื่อนเรือนร่างสูงโปร่งหกฟุตสามนิ้วเข้ามาหยุดใกล้ๆ "งั้นก็คืนนี้เลย" "ตาว... ขอเวลา..." "ลูกสาวของเธอ มีเวลาเหลือเยอะสินะ" "เอ่อ..." "ฉันต้องการเอาเธอคืนนี้..." แล้วเท้าใหญ่ก็ขยับเข้ามาใกล้ขึ้นอีก จนตอนนี้ร่างกายอยู่ห่างกันแค่เพียงฟุตเดียวเท่านั้น กลิ่นหอมเฉพาะตัวของเขาโชยฟุ้งเข้ามาในจมูก ทำให้รจิตราตัวสั่นเทา หล่อนช้อนตาขึ้นมองคนตัวสูง ซึ่งเขาก็ลดสายตามองลงมามองพอดี ดวงตาสองดวงสบประสานกัน โลกทั้งใบหยุดหมุน ความทรงจำเมื่อห้าปีก่อนย้อนกลับเข้ามาราวกับสายน้ำไหลหลาก ความทรงจำที่หล่อนไม่เคยลืม... และใช้มันหล่อเลี้ยงหัวใจมากว่าห้าปี
ในสายตาของทุกคน คชาวุฒิเก่งฉลาด สุภาพเรียบร้อย และสุดเนิร์ด คงมีเพียงแค่เธอคนเดียวเท่านั้น ที่รู้ว่าใต้แว่นตาหนาของเขาซ่อนความร้อนแรงเอาไว้มากแค่ไหน ไม่รู้จะอวยยศให้อาจารย์ฟิสิกส์คนนี้ยังไงดี แต่รับประกันว่าอาจารย์แซ่บมาก แซ่บฉ่ำแฉะ^^ +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "ตรงไหนดี..." หล่อนควรต่อต้านสิ ควรผลักไส เพราะมันไม่ใช่เรื่องที่ควรเกิดขึ้นเลย แต่... แต่ร่างกายของหล่อนมันอ่อนระทวยไม่มีแรงเลย "ตรงไหนดีเด็กน้อย..." เขากระซิบถามเสียงกระเส่า "ถ้าคุณไม่ตอบ ผมจะเลือกเองนะ..." "อาจารย์... หนู... หนู..." ใบหน้านวลแดงระเรื่อ ตอนนี้สมองของหล่อนขาวโพลนไร้ความคิดชั่วคราว รอยยิ้มจากปากหยักสวยของอาจารย์ฟิสิกส์สุดหล่อช่างบาดใจเหลือเกิน เขาค่อยๆ ย่อตัวลง และคุกเข่าลงกับพื้น ขณะที่สายตาช้อนขึ้นมาสบประสานกับหล่อนตลอดเวลา ไฟร้อนๆ ในดวงตาของเขากำลังแผดเผาให้หล่อนมอดไหม้ "อา... จารย์..." นี่เขากำลังจะทำอะไรน่ะ เขาคุกเข่าทำไม
พระเอกเรื่องนี้แรกๆ จะออกแนวปากหมา ใจร้าย ชอบทำนางเอกช้ำใจ แต่หลังจากเห่าหอนเป็นแล้ว ก็จะกลายเป็นหมาโบ้คลั่งรักสุดๆ เลยค่ะ ไรต์นอนยันเลย 555+++ คำเตือน... พระเอกเรื่องนี้โบ้ซ้ำโบ้ซ้อนโบ้ไม่ปรานีใคร 55 ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "คุณ... ภาม... เป็นอะไรคะ..." คำถามของหล่อนตะกุกตะกักจนแทบฟังไม่เป็นคำ "หึ... ยังจะมีหน้ามาถามอีกหรือคาลิสา!" เขายื่นมาบีบคอของหล่อน และนั่นก็ทำให้หล่อนตกใจแทบช็อก "คุณภาม... ครีม... กลัว..." ทำไมเขาทำแบบนี้ ทำไมภาวินทร์ถึงบีบคอหล่อนล่ะ แม้จะไม่ได้บีบแรงนัก แต่ก็ทำให้หล่อนกลัวจนแทบหยุดหายใจ "เธอนี่มันเลี้ยงไม่เชื่อง" "คุณภาม... พูดอะไรคะ ครีมไม่เข้าใจ... อ๊ะ..." นิ้วยาวของเขาบีบเค้นลงกับลำคอขาวผ่องของหล่อนแรงขึ้น จนหล่อนเกือบจะหายใจไม่ออก "ยังจะมีหน้ามาถามอีกเหรอ เธอไปทำอะไรเอาไว้ล่ะ" "ครีม... ครีมเปล่า..." "เลิกตอแหลเถอะ ฉันรู้เรื่องจากน้องอัญหมดแล้ว" "..." "เธอจงใจละเมิดข้อตกลงของเรา" "ครีมเปล่านะคะ คุณอัญเธอรู้อยู่แล้ว... เธอรู้จากคุณภามไม่ใช่เหรอคะ..." หล่อนพยายามจะอธิบายในมุมของตัวเอง แต่ชายหนุ่มไม่ยอมรับฟัง "เธอเดือดร้อน ฉันก็ช่วย ให้ข้าวให้น้ำ ให้เงิน เซ็กซ์ดีๆ ฉันก็ให้ งานก็มีให้ทำ แล้วเธอยังต้องการอะไรจากฉันอีก อยู่เงียบๆ อยู่ในที่ตัวเองไม่ได้หรือไง หื้อ!" "ครีม... ฮืออออ..." "แล้วเธอยังมีหน้าไปโกหกน้องอัญว่าท้องกับฉันอีกเหรอ เธอกล้าดียังไงพูดแบบนั้นออกไป คาลิสา!" หากหล่อนบอกออกไปว่าตัวเองกำลังตั้งท้องลูกของเขาจริงๆ ภาวินทร์ก็คงจะไม่เชื่อ ใช่... เขาไม่มีทางเชื่อหรอก ตอนนี้เขาเชื่อคำพูดของคู่หมั้นคนสวยของเขาคนเดียวเท่านั้น "ตอบมาสิ... เธอท้องลูกของฉันจริงหรือเปล่า" ใบหน้าที่เปียกชุ่มไปด้วยหยาดน้ำตาส่ายไปมา ก่อนจะตอบเสียงสะอื้น "ไม่... ไม่ได้ท้องค่ะ..." "หึ... นึกอยู่แล้วเชียว เธอมันก็แค่ผู้หญิงมารยา ที่ต้องการทำให้ฉันเดือดร้อนเท่านั้นเอง" เขาหยุดบีบคอของหล่อน และผลักร่างของหล่อนออกห่าง แสดงท่าทางรังเกียจออกมา "เราเลิกกันเถอะ"
เรื่องนี้พระเอกเป็นพวกชอบวิ่ง ตอนแรกวิ่งหนี ตอนหลังวิ่งชนจนมดลูกน้องแทบอักเสบ ฝากติดตามเป็นกำลังใจให้ไรต์ด้วยค่ะ เลิฟ เลิฟ ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "พี่วิศ... ทำไมพี่เปลี่ยนไปแบบนี้คะ... อื้อ... อย่าทำแบบนี้สิคะ... " แม้จะพยายามขัดขืน แต่เสียงก็แผ่วเบา และอ่อนแรงเหลือเกิน "แล้วชอบพี่แบบนี้ไหมล่ะครับ... อืมม หอมจัง" ปลายจมูกของเขาซุกไซ้อยู่ที่ลำคอ ในขณะที่ฝ่ามืออบอุ่นลูบไล้ซุกซน "พี่ชอบก้นของเธอจัง นุ่มนิ่มมาก" "พี่วิศ..." "และพี่ก็ชอบเสียงครางของเธอด้วย ฟังแล้วยิ่งมีอารมณ์..." เขาเงยหน้าขึ้นจากลำคอของหล่อนที่ดูดเม้มจนแดงช้ำ ดวงตาสบประสานกัน ก่อนที่ปากหยักสวยจะแนบชิดลงมาหา เขาจูบเบาๆ หนึ่งครั้ง ก่อนจะกระซิบเสียงแปร่งพร่า "ให้พี่เอานะ... พี่หิว..."
เพราะแอบรักจึงยอมทุกอย่าง ยอมแม้กระทั่งเป็นคนในความลับ อยู่เงียบๆ ในเงามืดชั่วนิรันดร์ กฎของเขาก็คือ มีอะไรกัน นอนด้วยกัน สนุกกัน แต่ห้ามบอกใคร ห้ามให้ใครรู้ว่ามีความสัมพันธ์กันแบบไหน ในที่ทำงานเขาคือท่านประธาน และเธอก็คือพนักงานคนหนึ่งในบริษัทเท่านั้น เมื่อเจอกันก็ทักทายกันบ้างแบบเจ้านายกับลูกน้อง ห้ามแสดงท่าทางหรือแสดงความเป็นเจ้าของ ห้ามโพสต์สถานะในโซเชียล แม้จะไปเที่ยวด้วยกัน ไปถึงไหนต่อไหนด้วยกันก็แล้วแต่ห้ามเปิดเผยทั้งนั้น ซึ่งด้วยความรักที่มีต่อเขา ทำให้เธอตกลงยอมเป็น คนในความลับของเขาอย่างเต็มใจ +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "มามี๊ขา..." วชิรวัฒน์มองเด็กหญิงตัวน้อยที่อายุน่าจะไม่ถึงสามขวบวิ่งเข้ามาสวมกอดฟาริดาด้วยความประหลาดใจและตกใจในเวลาเดียวกัน เขามองใบหน้ากลมๆ ของเด็กหญิงคนนั้น สลับกับใบหน้าของฟาริดา ซึ่งก็พบว่าหญิงสาวกำลังหน้าซีดเผือดไร้สีเลือด "นี่มันอะไรกัน น้องฟาง... เด็กคนนี้... เป็น..." เขายังพูดไม่ทันจบ ฟาริดาก็ดันร่างของเด็กหญิงไปไว้ด้านหลัง ก่อนจะตอบเขาด้วยสุ่มเสียงดังฟังชัด "ลูกสาวของฟางเองค่ะ" วชิรวัฒน์ถึงกับอึ้ง เขาหันไปมองสบตากับอภิวัฒน์ ก็พบว่าเลขาฯ หนุ่มก็อึ้งไม่ต่างกัน หลังจากตั้งสติอยู่ชั่ววินาที เขาก็หันกลับมาจ้องหน้าฟาริดาเขม็ง "เด็กคนนี้เป็นลูกของใครครับ" เขาพยายามที่จะถามเสียงสุภาพ ทั้งๆ ที่ภายในในเต็มไปด้วยเพลิงไฟกัลป์ เพราะอย่างนี้เองเหรอ ฟาริดาถึงได้หนีจากเขาไป เพราะหล่อนท้อง... แล้วหล่อนท้องกับใครล่ะ นอกจากเขาแล้ว หล่อนยังแอบมีความสัมพันธ์กับผู้ชายคนอื่นอีกอย่างนั้นเหรอ บ้าชิบ! นี่หล่อนกำลังจะทำให้เขาโมโหจนเป็นบ้าอยู่แล้วนะ! "ลูกของใครก็ช่างเถอะค่ะ แต่ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับพี่โรมแน่นอน"
ผู้หญิงที่ทำงานเก่งและประสบความสำเร็จทุกอย่างในชีวิต แต่กลับประสบอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด แล้วตื่นขึ้นมาในร่างของ “หลินจิ่วเอ๋อร์” ภรรยาคนที่สองของแม่ทัพซูเหยียนในทันทีที่นางเปิดตาขึ้นในร่างนี้...
อวิ๋นเจินอาศัยอยู่ในตระกูลอวิ๋นมาเป็นเวลา 20 ปี กลับพบว่าเธอเป็นลูกสาวปลอม พ่อแม่บุญธรรมของเธอวางยาเธอเพื่ออยากจะได้เงินมาลงทุน หลังจากที่อวิ๋นเจินรู้เรื่องนี้ เธอก็ถูกไล่กลับไปที่ชนบท จากนั้นเธอก็ค้นพบว่าตัวเองคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลเฉียวและมีชีวิตที่หรูหราสุด ๆ หลังจากกลับมา เธอได้รับความรักจากครอบครัวและมีชื่อเสียงโด่งดัง น้องสาวจอมปลอมใส่ร้ายอวิ๋นเจิน แต่เธอไม่คาดคิดว่าอวิ๋นเจินจะมีความสามารถต่างๆ เมื่อต้องเผชิญกับการยั่วยุ เธอได้แสดงความสามารถและทักษะต่างๆ มากมายเพื่อจัดการผู้รังแก มีข่าวลือกันว่าอวิ๋นเจินยังคงโสด และชายหนุ่มชื่อดังแห่งเมืองงก็ผลักเธอไปเข้ากำแพง "คุณนายกู้ ถึงตามราเปิดเผยตัวตนได้แล้วนะ"
สายตาที่ประสานกันมันบอกอย่างชัดเจนว่าตอนนี้ชายหนุ่มนั้นลืมคำว่าผู้ปกครองกับเด็กในปกครองไปแล้ว **************** หญิงชายสมัยนี้มันเท่าเทียมกันนะบัว เธอคิดว่าจะนอนกับฉันและทิ้งฉันไปง่ายๆ แบบนั้นเหรอ ไม่มีทางหรอก เธอต้องรับผิดชอบทั้งตัวฉันและความรู้สึกของฉัน
จางลี่สตรีเกิดมาพร้อมกับความเกลียดชัง บิดามารดาไม่รัก พี่สาวรังเกียจ รอบด้านทำร้ายร่างกาย ชาติภพนี้นางถูกคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีทำร้ายจนตาย เมื่อเกิดพบชาติใหม่อีกครั้ง นางก็ขอตอบแทบพวกเขาอย่างสาสม อย่าคิดว่าชาติภพนี้พวกเขาจะได้อยู่สุขสบาย นางในชาตินี้จะถนอมพวกเขาเป็นอย่างดี “ข้าไม่ใช่คนดี ท่านอย่าได้หวังว่าข้าจะดีเหมือนคนอื่น หากท่านปรารถนา พบสตรีที่ดีก็เชิญไปหาที่อื่น” บุรุษปริศนาที่ติดตามนางจะเลือกเส้นทางไหน แล้วนางจะตอบแทนพวกเขาเหล่านั้นเช่นไร รอพวกเขาหาคำตอบ แต่บอกได้เลยว่านางหาได้ใจดีเหมือนชาติที่แล้วไม่ “ข้าเตือนท่านแล้ว ว่าอย่าได้หวังว่าข้าจะเป็นคนดี”
ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวของเฉียวซิงเฉินหนีไปกับผู้หญิงอีกคน เธอโกรธมาก จึงสุ่มหาชายคนหนึ่งมาแต่งงานด้วยทันที "ตราบใดที่คุณกล้าแต่งงานกับฉัน ฉันก็ยอมเป็นเมียคุณ" หลังจากแต่งงาน เธอได้ค้นพบว่าสามีของเธอคือลูกชายคนโตของตระกูลลู่ที่ขึ้นชื่อว่าไร้ประโยชน์ ชื่อลู่ถิงเซียว ทุกคนเยาะเย้ยว่า "เธอยนี่ช่วยไม่ได้จริงๆ" และผู้ชายที่ทรยศเธอก็มาเกลี้ยกล่อมว่า "ไม่เห็นต้องทำร้ายตัวเองเพราะฉันหรอก สักวันเธอต้องเสียใจแน่ๆ" เฉียวซิงเฉินหัวเราะเยาะและโต้ตอบว่า "ไปให้พ้น ฉันกับสามีรักกันมาก" ทุกคนต่าก็คิดว่าเธอเป็นบ้า ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อตัวตนที่แท้จริงของลู่ถิงเซียวถูกเปิดเผย ที่แท้เขาเป็นคนรวยอันดับต้นๆในโลก ในการถ่ายทอดสดทั่วโลก ชายคนนี้คุกเข่าข้างเดียว ถือแหวนเพชรมูลค่าหลักพันล้าน และพูดช้าๆ ว่า "คุณภรรยา ชีวิตที่เหลือนี้ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ"
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"