“ไอ้ชั่ว ไอ้เลว ไอ้...” “จุ๊ๆๆ อย่าด่าผัวมากสิจ๊ะเมียจ๋า ด่ามากลูกดกนะ” เขายิ้ม มะปรางยิ้มไม่ออก ได้แต่ร้องฮึ่มๆ ในใจ “มาให้ผัวชื่นใจหน่อยเร็ว เป็นเดือนแล้วนะที่ไม่ได้กกเมีย คิดถึงที่สุดเลย” นับตั้งแต่ความสัมพันธ์ครั้งนั้น ก้องเกียรติกับมะปรางไม่มีอะไรเกินเลยกันอีก ทุกครั้งที่เจอหน้ากันมะปรางเป็นฝ่ายเดินหนี หลีกเลี่ยงการพูดคุย พอเกิดเรื่องในไร่กอบกุล ก้องเกียรติก็วิ่งวุ่นดูแลจัดการ ทั้งเรื่องงานศพคนงานในไร่ ให้เงินเยียวยาครอบครัวคนตาย และเรื่องคดีความ ส่วนมะปรางก็ต้องกลับมาเรียนหนังสือ ส่งผลให้ทั้งสองห่างกันโดยปริยาย “ใครเมียแก ฉันไม่ใช่เมียแก” “ทำไมจะไม่ใช่ ลืมแล้วเหรอว่าเราสนุกกันมากแค่ไหน เสียงครางเธอดังจนแก้วหูฉันแทบแตก ดูเธอมีความสุขจนกระอัก” เขาเอาความจริงมาพูด มะปรางหน้าแดงซ่าน อายก็อาย เจ็บใจก็เจ็บใจ “คืนนี้เรามาสนุกกันดีกว่า ฉันอยากเต็มแก่แล้ว” “ไม่นะ อย่าทำอะไรฉัน ถ้าแกฉันทำล่ะก็ ฉันจะแจ้งตำรวจมาลากคอแกเข้าคุก” มะปรางขู่ หวังว่าเขาจะกลัว แต่ไม่เลย ไม่เลยสักนิด “เอาสิ ไปเลย” ก้องเกียรติขยับตัวให้ร่างเล็กเป็นอิสระ มะปรางรีบลุกขึ้นแล้ววิ่งหมายจะออกไปจากห้องนี้ให้เร็วที่สุด ทว่าเสียงหนึ่งที่ดังเข้าหูทำให้เท้าเล็กชะงัก “หนังโป๊เรื่องนี้นางเอกผิวดี๊ดี นมก็ใหญ่ ร้องครางได้อารมณ์ชะมัด” มะปรางหันมามองต้นเสียงที่กำลังดูคลิปในมือถือ ใบหน้าเขาแต่งแต้มด้วยรอยยิ้ม นัยน์ตาเป็นประกายเสน่หา ก้องเกียรติเงยหน้ามองมะปรางแล้วกระตุกยิ้ม “มาดูหนังโป๊ด้วยกันไหม เธอจะได้เห็นหน้านางเอกไง ส่วนพระเอกไม่ต้องมองหรอก อยู่ตรงหน้าเธอไง” “คุณทำแบบนี้ทำไม ทำไปทำไม” มะปรางถามเสียงสั่น ไม่คิดว่าชายตรงหน้าจะชั่วมากขนาดนี้ “ทำอะไร ไม่ได้ทำอะไรเลย ก็แค่บันทึกลีลารักของเราเก็บไว้ดูเท่านั้นเอง” ก้องเกียรติตอบ “แต่ถ้าเธอไม่อยากให้คลิปนี้หลุดออกไปในโลกอินเทอร์เน็ต และไม่อยากให้พ่อแม่เธอรู้ความจริง และยังอยากให้พี่ชายเธอออกจากคุก เธอก็ต้องทำตัวดีๆ เชื่อฟังฉัน ตามใจฉัน ถ้าเธอทำตรงกันข้าม คลิปนี้จะถูกเบลอหน้าพระเอก แต่หน้านางเอกจะเด่นชัด เรื่องคดีของพี่เธอก็ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ ฉันจะสั่งให้ทนายชะลอไว้ก่อน รอไปเรื่อยๆ จนกว่าเธอจะยอมฉันอีกครั้งและอีกครั้ง”
1
รถบีเอ็มดับบลิวรุ่นใหม่ล่าสุดสีน้ำเงินป้ายแดงแล่นมาจอดหน้าคณะบัญชี ในมหาวิทยาลัยชื่อดังเมืองเชียงใหม่ เจ้าของรถก้าวลงมาจากรถ ก่อนเดินอ้อมมายังประตูฝั่งคนขับ เขาเปิดประตูหยิบช่อดอกไม้ช่อใหญ่ออกมา จากนั้นไปนั่งรอสตรีที่เขาตั้งใจมาหาหน้าคณะ
มะปรางชะงักเท้าที่กำลังเดินออกจากคณะเมื่อเห็นชายหน้าตาดีแต่นิสัยเลวนั่งอยู่ตรงโต๊ะม้าหิน หล่อนอยากเบี่ยงเท้าเดินหนีไปที่อื่น เพราะไม่อยากเห็นหน้าตาเฒ่าหัวงูสักเท่าไหร่ ทว่าคงหนีไม่ทันเพราะเขาดันเห็นหล่อนเสียก่อน
ทว่าหญิงสาวอีกคนที่เดินมาพร้อมกับมะปรางยิ้มกว้างเมื่อเห็นก้องเกียรติ เนื้อเต้นทันทีที่เห็นเขาเดินมาหาพร้อมช่อดอกไม้
“ดอกไม้สำหรับคนสวยครับ” ก้องเกียรติยื่นช่อดอกไม้ให้นภาพร เพื่อนร่วมคณะของมะปราง ทว่านัยน์ตาเขากลับมองมะปรางที่เบือนหน้าหนี
“ขอบคุณค่ะพี่ก้อง” นภาพรรับดอกไม้และกล่าวคำขอบคุณ “พี่ก้องน่ารักจังเลยค่ะ”
“น่ารักแล้วรักหรือเปล่าครับ พี่อยากให้ฟ้ารักพี่จังเลย”
ก้องเกียรติหยอดคำหวาน นภาพรหน้าแดงระเรื่อ บิดตัวไปมาด้วยกิริยาเขินอาย มะปรางเห็นแล้วรู้สึกเลี่ยนจนอยากจะอาเจียน
“ไปกินข้าวด้วยกันนะฟ้า ร้านอาหารเพื่อนพี่เพิ่งเปิด พี่ว่าจะไปอุดหนุนมันซะหน่อย” ก้องเกียรติกล่าวชวนนภาพร ก่อนหันไปพูดกับมะปราง “เธอไปด้วยนะ เพราะเธอต้องไปเอาของที่คอนโดฉัน พ่อกับแม่เธอฝากมาให้”
“ไม่ไป” มะปรางตอบกลับทันที “ไม่ว่าง มีนัดแล้ว”
“มีนัดกับใคร” เสียงถามของก้องเกียรติค่อนข้างเข้ม
“โน่นไง เดินมาโน่นแล้ว” มะปรางชี้ไปทางชายหนุ่มหน้าตาดีที่กำลังเดินมาทางคณะ มะปรางรีบเดินไปหามานพ เพื่อนต่างคณะ “นพวันนี้เรามีนัดไปกินข้าวด้วยกัน ลืมหรือเปล่า”
มานพที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวทำหน้างง แต่พอมะปรางแอบหยิกแขนตนเบาๆ มานพถึงเข้าใจ
“อ๋อๆ ใช่ๆ ลืมเลย” มานพไหลไปตามน้ำ ก้องเกียรติกระตุกยิ้มขยับสายตามองผู้พูด
“ถ้าอย่างนั้นก็ไปกินข้าวด้วยกันทั้งหมดนี่แหละ ฉันเลี้ยงเอง”
“ไม่ไป ฉันจะไปกินข้าวแกงข้างทาง ฉันไม่ชอบกินของหรู”
มะปรางพูด หล่อนไม่อยากอยู่ใกล้ก้องเกียรติ ไม่แม้แต่อยากเห็นหน้า นึกดีใจที่มหาวิทยาลัยเปิด หล่อนจะได้ไม่ต้องเห็นหน้าเขา ที่ไหนได้ ก้องเกียรติกลับมาอยู่บ้านที่เชียงใหม่ มิหนำซ้ำเขายังตามจีบนภาพร เพื่อนร่วมคณะ มาให้มะปรางเห็นหน้าทุกวัน แรกๆ มะปรางไม่รู้สึกอะไร เพราะเกลียดก้องเกียรติเป็นทุนเดิม แล้วยิ่งเขาข่มเหงตนความเกลียดก็ดูจะเพิ่มมากขึ้น แต่พอเห็นภาพหวานบ่อยๆ มะปรางก็เริ่มรู้สึกตงิดๆ ในใจขึ้นมา
“เธอไม่ไปก็ได้” ก้องเกียรติไม่เซ้าซี้ เขามีไม้เด็ดกว่านั้น “แต่ฉันจะบอกความลับของเธอให้พ่อกับแม่รู้”
มะปรางตกใจไม่คิดว่าก้องเกียรติจะขู่ตนต่อหน้านภาพรกับมานพ แน่นอนว่าอีกสองคนหูผึ่ง อยากรู้ขึ้นมาทันใดว่าความลับนั้นคืออะไร
“ความลับอะไรเหรอคะพี่ก้อง” นภาพรรีบถาม มะปรางทำหน้าตามีพิรุธ กลัวเหลือเกินว่าก้องเกียรติจะปากเสีย
“ไม่มี...” มะปรางชิงพูดก่อน ทว่าเสียงของก้องเกียรติที่ดังกว่ากลบ
“ไม่มีอะไรหรอก ก็แค่ปรางทำของที่ไร่พังน่ะ แล้วไม่ได้บอกพ่อกับแม่ พี่เป็นคนจิตใจดีเห็นว่ากำลังเรียนหนังสือ พ่อกับแม่ปรางก็เป็นคนงานเก่าแก่ในไร่พี่ด้วย พี่เลยไม่หักจากเงินเดือน เอาเรื่องนี้ไว้ขู่ปรางเวลาดื้อ ฟ้าก็รู้นี่ว่า ปรางดื้อแค่ไหน ถ้าไม่มีอะไรขู่ ไม่มีใครเอาอยู่จริงไหม” ก้องเกียรติปด มะปรางโล่งใจ
“จริง” นภาพรกับมานพประสานเสียงพูดพร้อมกัน มะปรางมองเพื่อนตาขวาง แทนที่จะพูดแก้ต่าง กลับเห็นด้วยซะงั้น
“แกสองคนนี่นะ” มะปรางกระเง้ากระงอดเพื่อน
“ก็มันจริง แกดื้อมาก ดื้อสุดๆ ดื้อที่สุดในสามโลกเลย” นภาพรรู้ดี
“เรื่องนี้ฉันก็เห็นด้วย” มานพเสริม มะปรางงอนใส่เพื่อนทั้งสอง และไม่ลืมสะบัดหน้าใส่ก้องเกียรติ
“สรุปว่าไปกินข้าวด้วยกันทั้งหมดนะ รีบไปเถอะ พี่หิวแล้ว” ก้องเกียรติพูด
“ค่ะ ไปกันหมดนี่แหละค่ะ” นภาพรตอบกลับ “แกก็ไปด้วยนะปราง ถ้าแกไม่ไปความลับแกถูกเปิดโปงแน่”
มะปรางมองหน้านภาพร ก่อนหันไปมองหน้าก้องเกียรติที่ยืนยิ้มให้ มะปรางไม่อยากไปด้วยแต่ก็กลัวว่าก้องเกียรติเปิดเผยความลับ หล่อนจึงต้องไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“ไปก็ได้”
“ไปกันเลยดีกว่าค่ะพี่ก้อง ฟ้าหิ๊วหิว”
นภาพรควงแขนก้องเกียรติก้าวเดินไปยังรถยนต์คันหรูที่จอดอยู่ไม่ไกลนัก โดยมีมะปรางกับมานพเดินตามไป
แม้ว่าร้านอาหารที่ก้องเกียรติพามากินมื้อเย็นจะเป็นร้านอาหารเปิดใหม่ ทว่ารสชาติอาหารไม่เป็นสองรองใคร โดยเฉพาะอาหารพิเศษประจำร้านอร่อยจนลืมความอ้วน ตักข้าวเพิ่มไม่ต่ำกว่าสองจาน
ก้องเกียรติ นภาพรและมานพกินอาหารอย่างเอร็ดอร่อย พูดคุยอย่างสนุกสนาน จะมีเพียงคนเดียวที่นั่งหน้าง้ำหน้างอ กินอาหารด้วยท่าทางซังกะตาย ลอบมองก้องเกียรติเอาใจนภาพรด้วยความหมั่นไส้ อยากลุกหนีไปให้พ้นๆ ช่างขัดหูขัดตาเหลือเกิน
“กินเยอะๆ นะฟ้า อาหารร้านนี้อร่อยมาก” ก้องเกียรติตักกับข้าวใส่จานนภาพร
“ขอบคุณค่ะพี่ก้อง แต่ถ้ากินมากกว่านี้ ฟ้ากลัวอ้วนค่ะ”
“จะกลัวทำไมครับ ถึงฟ้าจะอ้วนตัวเท่าตุ่มพี่ก็ชอบฟ้า”
นภาพรอายม้วน มะปรางถึงกับเบ้ปาก นึกอยากคายของที่กินเข้าไปออกมาทางปาก
“ทำไมทำหน้าอย่างนั้นล่ะปราง เป็นอะไรอาหารไม่อร่อยเหรอ” คนถามคือมานพที่หันมาเห็นใบหน้ามะปรางพอดี
“อาหารอร่อย แต่แกงนี้มันเลี่ยนไปหน่อยเลยอยากจะอ้วก” มะปรางตอบ
“นึกว่าที่อยากอ้วกเพราะท้องซะอีก” ก้องเกียรติพูดมองมะปรางแล้วยิ้มกริ่ม มะปรางอยากลุกขึ้นเอาส้อมทิ่มหน้าเขาเหลือเกิน คนอะไรพูดกวนโมโหได้ทุกเวลา พูดแต่ละประโยคชวนให้คนอื่นคิดไปไกล
“ฉันอิ่มแล้ว ขอตัวกลับก่อนนะ” มะปรางไม่อยากพูดมาก ไม่อยากเถียงก้องเกียรติ เพราะกลัวว่าจะเข้าตัวเองอีก ทางเดียวคือ หนีไปจากตรงนี้ดีที่สุด
“เธอต้องไปเอาของที่พ่อกับแม่ฝากฉันมาให้เธอนะ เพราะฉะนั้นเธอยังกลับไม่ได้” ก้องเกียรติบอกมะปราง
“แล้วทำไมคุณไม่เอามาเลยล่ะ จะได้ไม่เสียเวลา”
เพียงแค่ได้เห็นใบหน้าสวย สรีระหน้าฟัดของ พลอยพัตรา ทำให้ เฟอเดอริค มอโร อยากจะคว้าตัวเธอมาเป็นดอกไม้บนเตียงของเขาทันที คนเจ้าเล่ห์และเจ้าบุญทุ่มอย่างเขาจึงทำทุกอย่างที่จะได้ดอกไม้ดอกนี้มาเชยชม
"ฮือๆ .. ทำไมทำอย่างนี้กับรุ้ง ทำไมต้องเป็นเดียร์ ทำไม?" ความรู้สึกเสียงใจของหทัยชนกจะน้อยกว่านี้ หากคนที่เป็นภรรยาน้อยของสามีไม่ใช่เกวลิน...เพื่อนรักของเธอ
"คนอย่างเธอความเจ็บปวดแค่นี้มันยังน้อยเกินไป เธอต้องเจ็บเหมือนกับที่มินามิเจ็บ และต้องเจ็บยิ่งกว่าหลายร้อยเท่า ฉันจะทำให้เธอตายอย่างช้าๆ แต่ทุกข์ทรมานแสนสาหัส เธอจะไม่ได้ยินหรือสัมผัสกับความอ่อนโยนเมตตาจากฉัน สิ่งที่ฉันจะมอบให้เธอมีเพียงความเกลียดชังเท่านั้น จำใส่กะโหลกไว้" เรียวเหวี่ยงร่างงามไปที่เตียงนอนอย่างแรง มือหนาจับที่ข้อเท้าของเธอไว้แน่นเมื่อรู้ว่าเธอกำลังกระเถิบตัวหนี "หนีสิ หนีเลย ถ้าเธอหนี คนที่ตายเป็นคนแรกคือแม่ของเธอ ฉันจะให้แม่เธอตายเหมือนหมูเหมือนหมาข้างถนน เหมือนกับที่เธอฆ่าแม่ของฉัน" ดวงตาเขาเปล่งแสงแรงกล้าของความอาฆาต เมื่อนึกถึงข้อนี้อยากจะฆ่าหญิงสาวตรงหน้าให้ตายตามมารดาและคนที่เขารัก แต่ความตายอาจจะไม่ทำให้เขาสะใจ นอกจากกระกระทำต่อไปนี้ที่สะใจเขามากที่สุด ทรรศิกาหยุดดิ้นรนขัดขืน เขาจึงปล่อยข้อเท้าของเธอให้เป็นอิสระ จัดการปลดเปลื้องเสื้อผ้าต่อหน้าเธอ ความกลัวเริ่มเกาะกินจิตใจของเธอมากขึ้นเรื่อยๆ อยากจะวิ่งหนีออกไปจากที่นี่ แต่เมื่อนึกถึงมารดา ทำให้เธอก้มหน้ารับชะตากรรมที่กำลังจะเกิดขึ้น เรื่องที่คุณน่าจะสน
ความอิจฉาน้องสาวต่างมารดาคือจุดเริ่มต้นของแผนการ “ชิงไอศูรย์” มาเป็นของตน เธอจึงใช้เล่ห์เหลี่ยมง่ายๆ คือวางยานอนหลับเขา พอตื่นขึ้นมาก็จะติ๋งต่างว่า เขากับเธอมีอะไรกัน ทว่าแผนเกิดผิดพลาด ยาที่ผสมในไวน์กลับเป็นยาปลุกเซ็กซ์ ผลที่ออกมาคือ ไอศูรย์มีความสัมพันธ์ทางกายกับเธอจริงๆ ในที่สุด ชเนตตีได้แต่งงานกับเขาตามตั้งใจ ทว่าผลที่ออกมา ไม่ได้เป็นไปตามที่คิดไว้ “เนยใส่อะไรในแก้วไวน์ของพี่ใช่ไหม ไม่อย่างนั้นพี่จะไม่มีวันอยู่ในสภาพแบบนี้” เขาถามอีกครั้งเมื่อเห็นอีกฝ่ายเงียบ เสียงที่ถามเข้มห้วน ใบหน้ายังคงเรียบตึง สายตาถมึงทึงใส่ร่างอวบที่ย่นคอหนีน้ำเสียงแผดกร้าว “ตอบพี่มา” “ใส่อะไร เนยไม่รู้เรื่อง…ฮือ…พี่เจย์ทำผิดแล้วอย่ามาโทษว่าเนยวางยาพี่นะ…ฮือ” เธอยังคงปากแข็งต่อไป หลบสายตาแข็งกร้าวพัลวัน
“ว้าย!!..” เธอร้องได้เพียงเท่านั้น ก่อนที่ปากของหยาดน้ำค้างจะถูกมือใหญ่ของใครบางคนปิดเอาไว้ ลำแขนอีกข้างรัดร่างน้อยไว้แน่น ก่อนจะลากไปที่พุ่มไม้รกข้างทาง “อย่าดิ้น อย่าร้อง ไม่งั้นจะจับปล้ำมันตรงนี้แหละ” เสียงที่พูดชิดเรียวหูสะอาด ทำให้เธอรู้ว่าเจ้าของเสียงนั้นคือใคร..เหมันต์ วิเศษเดโช เขาดันร่างเล็กให้แผ่นหลังแนบชิดกับต้นไม้ใหญ่ขนาดสี่คนโอบ ใช้ลำแขนกักร่างบางเอาไว้ “ปล่อยนะ” หญิงสาวพูดเสียงเบาทว่าหนักแน่น เธอไม่กล้าพูดเสียงดังมาก เพราะกลัวว่าคนที่เดินผ่านไปผ่านมาจะได้ยิน “ไปกล่อมพ่อหรือกล่อมลูกมาล่ะ ถึงได้อ้อยอิ่งเป็นชั่วโมงแบบนี้” น้ำเสียงของเหมันต์เขียวเหมือนกับใบหน้าที่เขียวคล้ำด้วยความโกรธ “มันเรื่องของฉัน..คุณไม่เกี่ยว..เราไม่มีอะไรต่อกันแล้ว คุณก็ได้ในสิ่งที่คุณต้องการแล้วนี่ จะมาเอาอะไรกับฉันอีก ปล่อยนะ ฉันจะกลับที่พัก” หยาดน้ำค้างพยายามดิ้นรนหนีพันธนาการที่รัดร่างอยู่ แต่ทว่าลำแขนของเขานั้นหาได้คลายออกไม่ ยิ่งรัดแน่นมากกว่าเก่า เมื่อได้ยินวลีของเธอ “ทำไมผมจะไม่เกี่ยว ในเมื่อน้ำค้างเป็นเมียของผม..เป็นเมีย หรือว่าจำไม่ได้ว่าเราสองคนมีความสุขกันมากแค่ไหน” เขาเท้าความหนหลังให้เธอได้ฟัง ฝ่ายหญิงนิ่งเงียบกับคำพูดของเขา เธอไม่เถียงว่ามีความสุขมากแค่ไหนเวลาได้อยู่ใกล้ชิดกับเรือนกายที่แสนแข็งแรงและอบอุ่น หากแต่ความทุกข์และความเสียใจที่เธอได้รับนั้นมันก็มากมายเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นความสุขหรือว่าความทุกข์ เธอก็ไม่มีวันลืมเช่นกัน และไม่มีทางจะกลับไปจมกับความทุกข์อีกแล้ว “ฉันไม่ใช่เมียคุณ..ถ้าคุณคิดว่าการที่เรามีอะไรกันแล้วฉันจะเป็นเมียคุณ พี่ว่านก็ต้องเป็นสามีของฉันเหมือนกัน” หยาดน้ำค้างคิดว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุด วิธีที่เขาไม่มีทางมายุ่งเกี่ยวกับเธออีก อ้อมแขนที่รัดร่างนิ่มคลายออกโดยอัตโนมัติ หัวใจของคนที่ฟังเต้นเร็ว ดวงตาคมเข้มสีดำเรืองแสงในความมืดที่โรยตัวไปทั่วบริเวณ บ่งบอกอะไรหลายอย่างในแววตา เสียใจ ไม่คาดฝัน ไม่แน่ใจ
จะกี่หมัดก็ไม่หวั่น กี่ยกก็ไม่กลัว เธอจะ Knock Out ด้วยหัวใจติดปลายนวม ภัทรียายินดีสานต่อค่ายมวยและรับผิดชอบหนี้สินรุงรังต่อจากพ่อซึ่งเสียชีวิต แต่ ณ วันนี้หนี้สินสามปีที่ผัดผ่อนมาตลอดทำให้เธอมืดแปดด้าน ไม่ว่าความหวังแสนริบหรี่แค่ไหน เธอก็คว้าไว้อย่างไม่รอช้า ไม่เว้นแม้แต่การเป็นภรรยาหลอกๆ ต่อให้ต้องโดนแม่สามีดูถูกทุกขณะ น้องสาวสามีจ้องเหยียดชาติกำเนิดทุกครั้งที่เจอหน้า ภัทรียาก็ไม่หวั่นเกรงแม้แต่น้อย เพราะเธอคือ... ‘มะปราง ลูกจ่าดาบ ศิษย์จอมทอง’ นักมวยสาวหุ่นกระชากใจหนุ่มๆ หากไม่เพราะกำลังจะถูกแม่จับคลุมถุงชน ธัชธรรมจึงต้องเลือกใช้วิธีสิ้นคิด จ้างนักมวยสาวหมัดหนักที่กำลังร้อนเงินมาเป็นภรรยากำมะลอ จดทะเบียนจริง อยู่ด้วยกันจริง...และทำท่าว่าจะต้องอยู่ด้วยกันอีกนาน รออีกอย่างเดียวเท่านั้น... รอให้สะใภ้กำมะลอยอมเป็นภรรยาตัวจริงของเศรษฐีหนุ่มหล่อ
อวิ๋นเจินอาศัยอยู่ในตระกูลอวิ๋นมาเป็นเวลา 20 ปี กลับพบว่าเธอเป็นลูกสาวปลอม พ่อแม่บุญธรรมของเธอวางยาเธอเพื่ออยากจะได้เงินมาลงทุน หลังจากที่อวิ๋นเจินรู้เรื่องนี้ เธอก็ถูกไล่กลับไปที่ชนบท จากนั้นเธอก็ค้นพบว่าตัวเองคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลเฉียวและมีชีวิตที่หรูหราสุด ๆ หลังจากกลับมา เธอได้รับความรักจากครอบครัวและมีชื่อเสียงโด่งดัง น้องสาวจอมปลอมใส่ร้ายอวิ๋นเจิน แต่เธอไม่คาดคิดว่าอวิ๋นเจินจะมีความสามารถต่างๆ เมื่อต้องเผชิญกับการยั่วยุ เธอได้แสดงความสามารถและทักษะต่างๆ มากมายเพื่อจัดการผู้รังแก มีข่าวลือกันว่าอวิ๋นเจินยังคงโสด และชายหนุ่มชื่อดังแห่งเมืองงก็ผลักเธอไปเข้ากำแพง "คุณนายกู้ ถึงตามราเปิดเผยตัวตนได้แล้วนะ"
เมื่อเธออายุยี่สิบ ชิงฉือได้รู้ว่าตนเองไม่ใช่ลูกโดยกำเนิดของตระกูลต้วน เธอถูกลูกสาวที่แท้จริงของตระกูลต้วนล้อมกรอบ จนถูกพ่อแม่บุญธรรมไล่ออกจากบ้านและกลายเป็นตัวตลกในเมือง เมื่อเธอกลับไปหาพ่อแม่ชาวนา จากนั้นก็พบว่าบิดาผู้ให้กำเนิดของเธอเป็นคนที่รวยที่สุดในเมืองเจียงเฉิงส่วนพี่ชายของตนเองเป็นอัจฉริยะในแวดวงต่างๆ ทุกคนมองดูเด็กสาวตัวเล็กคนนี้ด้วยความเห็นใจและถือว่าเธอเป็นสมบัติล้ำค่า แต่ค่อยๆ พบว่า... ที่แท้ว่าน้องสาวเป็นคนมากความสามารถ? อดีตแฟนหนุ่มผู้น่ารังเกียจหัวเราะเยาะ "อย่ามาตามเซ้าซี้ไม่เลิก ฉันมีแต่เมียนเมียนอยู่ในใจ!" คนใหญ่แห่งเมืองหลวงปรากฏตัว "เมียฉันจะเห็นหัวนายเหรอ?"
ซ่งหยุนหยุนแต่งงานไปแล้ว แต่เจ้าบ่าวไม่เคยปรากฏตัวตั้งแต่ต้นจนจบเลย ด้วยความโกรธหนัก เธอจึงมอบกายให้กับชายแปลกหน้าคนหนึ่งแทนในคืนการแต่งงานนั้น หลังจากวันนั้น เธอก็ถูกชายคนนั้นจับตาเข้า...
ฟาเบียน ฟรองซัว (ฟา) 32 ปีลูกเสี้ยว ไทย-ฝรั่งเศส-จีนผู้กว้างขวาง และร่ำรวยจากการทำชิปปิ้งตัวแทนผู้นำเข้าและส่งออกรายใหญ่ของไทยชายหนุ่มที่ขาดเรื่องบนเตียงไม่ได้แต่เขาเบื่อผู้หญิงที่จ้องจะจับเขา ทิพย์ดารา นวลพรรณ (ดาด้า) นางแบบและนักแสดงสาวมากความสามารถกำลังหัวเสียที่เธอถูกฟาเบียนตัดความสัมพันธ์เธอนั่งบ่นให้กับช่างประจำที่ร้านฟังฟาเบียนบอกเธอว่า "ถ้าผมหิว ผมจะซื้อกินเอง" เพราะคำว่าแต่งงานหรือผูกมัดไม่ใช่ทางของเขา ปองรัก พลอยรัตนา (จิล) 22 ปีเธอกำลังต้องการเงินเพื่อไปช่วยครอบครัวที่กำลังถูกฟ้องและถูกหุ้นส่วนโกงจำนวนเงินอาจจะไม่มากเท่าไหร่แต่มันก็ทำให้ครอบครัวที่เคยอยู่เย็นเป็นสุขต้องเดือดร้อน แทบหมดตัวอีกอย่างตอนนี้เธอก็ยังเรียนไม่จบเหลืออีกเทอมเดียวเท่านั้นด้วยความบังเอิญเธอได้บัตรกำนัลทำผมที่ร้านแห่งหนึ่ง..ฟรี จากเพื่อนรักสุจิรา เดชธนาดล (จิรา)ลูกเจ้าของร้านเพชรชื่อดังในเมืองไทย ชื่อและประวัติของ ฟาเบียนทำให้จิลเห็นทางออกหญิงสาวที่ยังบริสุทธิ์ เธอจะทำยังไงให้ครอบครัวกลับมาอยู่ดีเหมือนเดิมได้เธอยินดี...ทำเธอเดินเข้าไปเสนอขายพรหมจรรย์ให้กับเขาเงินที่เธอร้องขอ สำหรับ ฟาเบียน แค่เศษเงินแค่เห็นหน้าเธอ เขาก็ปิ๊งเสียแล้วฟาเบียน รับข้อเสนอและให้เธอมาเป็น...เมียพาร์ทไทม์ เริ่มต้นก็สนุกเสียแล้ว พลาดได้ไง ขอฝากผลงานเรื่องนี้ไว้ในอ้อมใจของนักอ่านที่น่ารักด้วยนะคะ
เสียงเครื่องยนต์ดังกระหึ่มจนฉันต้องลดหนังสือในมือลงชะเง้อคอมองไปที่ถนน “เสียงท่อรถแบบนี้ ผ่านด่านตรวจมาได้ยังไงวะ?” ความรู้สึกแรกหลังได้ยินเสียงแสบหู ท่อไอเสียที่ถูกตัดแต่งเพิ่มเสียงให้ดังมากขึ้น จนทำให้คนที่ได้ยินเกิดความรำคาญ และฉันเป็นหนึ่งในหลายคนที่เบ้ปากร้องยี๋ แต่ฉันอาจจะอาการหนักกว่าคนอื่นนิดหน่อยก็ได้ เพราะฉันกำลังติดพันกับหนังสือนวนิยายที่เพิ่งได้มา มันเป็นหนังสือนิยายทำมือของนักเขียนท่านหนึ่งแต่ติดเรท ที่ฉันพยายามหลบๆ อ่าน เพราะบางทีสายตาของคนอื่นตอนที่มองปกหนังสือก็ทำให้ฉันหงุดหงิดเล็กๆ ฉันคิดในใจทุกครั้งหากสายตาคนเหล่านั้นพุ่งตรงมาที่หนังสือในมือฉัน ฉันซื้อมาด้วยสตางค์ที่หาได้ ไม่ได้ไปใครขโมยใครมา แล้วทำไมล่ะ ความชอบส่วนตัวของฉันจึงไปขัดตาคนอื่น จบเรื่องนั้นกันก่อนเถอะค่ะ เรามาว่ากันต่อด้วยเรื่องที่กำลังเกิดขึ้น ไอ้รถบิ้กไบค์คันนั้นดันมาจอดใกล้ๆ แปลที่ฉันนอนซุ่มอ่านหนังสือเล่มโปรดอยู่นี่สิ!!
แต่งงานกันเป็นเวลาสามปี เสิ่มชูคิดว่าต่อให้ป๋อมู่เหนียนจะใจแข็งสักแค่ไหนก็ควรจะอ่อนลงได้ด้วยความรักที่เธอมีกับเขามาโดยตลอด แต่เมื่อเขาบังคับให้เธอคุกเข่าลงในหอบรรพบุรุษของตระกูล เสิ่มชูถึงตระหนักว่าแท้ที่จริง ผู้ชายคนนี้ไม่มีหัวใจ คนที่ไม่มีหัวใจ เธอยังจะอาลัยอาวรณ์อยู่อีกทำไม? ดังนั้น เมื่อป๋อมู่เหนียนขอให้เธอเลือกระหว่างการคุกเข่าและการหย่าร้าง เสิ่มชูจึงเลือกการหย่าร้างไปโดยไม่ได้ลังเล เธอยังสาวยังสวยอยู่เช่นนี้ ทำไมจะต้องมาเสียเวลากับไอ้ผู้ชายคนนี้ด้วย!มิสู้กลับบ้านไปสืบทอดมรดกพันล้านของตระกูลจะดีกว่า