เจนนิส สาวสวยกำพร้าวัย22ที่มีคุณป้าส่งเสีย เมื่อเรียนจบแทนที่จะได้ทำงานดีๆ คุณป้าที่เป็นหัวหน้าแม่บ้านเกิดเจ็บป่วย เธอจึงต้องมาดูแลและกลายเป็นสาวใช้ชั่วคราวอยู่ในบ้านหลังใหญ่ที่มีแต่เจ้านายหื่นๆ
สาวใช้กับเจ้านายหื่น
ตอน วันแรก
"คุณป้าเป็นยังไงบ้างนะ" เจนนิสยืนบ่นอยู่หน้าคฤหาสน์หลังใหญ่
ติ๊งต่อง! ๆ เธอกดออดหน้าบ้านและยืนแบกเป้ใบใหญ่
เนื่องจากคุณป้าของเจนนิสส่งเสียเธอเข้าเรียนในโรงเรียนประจำตั้งแต่เด็กเพราะว่าเธอกำพร้าพ่อกำพร้าแม่
มาวันนี้ป้าของเธอป่วยจนต้องนอนติดเตียง เจนนิสจึงต้องกลับมาช่วยดูแลและรับตำแหน่งแม่บ้านแทนชั่วคราว
เจนนิสเป็นสาวน้อยที่สวยเอาเรื่อง เธอมีผิวสีน้ำผึ้ง ใบหน้าสวยแบบอินเตอร์ตาโตจมูกเชิ่ดโด่ง หุ่นเธอผอมเพรียวขายาวและมีตูดที่งอนใหญ่ แถมยังมีหน้าอกหน้าใจที่ใหญ่เกินตัวจนเป็นจุดเด่นที่ทำให้ใครๆต้องมอง
"เห้อ อุส่าห์เรียนจบแล้วเเท้ๆเลย แทนที่เราจะได้ทำงานแล้วพาคุณป้าไปอยู่ด้วย"
"แทนที่ฉันจะได้ทำงานแล้วให้ป้าเลิกทำงานมาอยู่กับฉัน ทำไมนะสวรรค์"
เจนนิสยืนบ่นขณะที่รอคนมาเปิดประตูคฤหาสน์ให้
แอ๊ดดดด! ประตูบ้านขนาดใหญ่สีทองวาววับค่อยๆเปิดออก
"มาทำงานเหรอ" หนุ่มผิวสีแทนตัวล่ำใหญ่เดินออกมาทักทาย เขาใส่หมวกแบบมีปีกใบใหญ่จนมองไม่เห็นหน้า และใส่เสื้อแขนยาวขายาวราวกับคนสวน
"ค่ะ หนูเป็นหลานป้าแม่บ้านชื่อเจนนิส หนูมาทำงานแทนเธอและอยู่ดูแลเธอค่ะ" เจนนิสยิ้มและตอบอย่างใสซื่อ
"เข้ามาสิ" หนุ่มผิวแทนบอก
ตุบ! ๆ ๆ สาวน้อยเดินตามหลังเขาต้อยๆ
"เอากระเป๋ามา" หนุ่มตัวล่ำใหญ่บอก
"นี่ค่ะลุง" เจนนิสยื่นกระเป๋าผ้าใบใหญ่ให้เขาไปสะพายและเธอก็เดินตามตูดเขา
ฮิ! ๆ สวยจัง! เจนนิสมองไปรอบๆบ้านและยิ้มอย่างตื่นตาเมื่อเห็นสนามหญ้าเขียวขจีและสวนดอกไม้รอบๆ
บ้านหลังนี้ใหญ่มาก แค่ทางเข้าไปถึงตัวบ้านยังต้องเดินเกือบหนึ่งกิโล ด้านหน้าทั้งหมดเป็นสนามหญ้าและสวนดอกไม้ขนาดใหญ่
"ลุงคะ ป้าหนูเป็นยังไงบ้างคะ" เจนนิสวิ่งตามชายร่างใหญ่กำยำเหมือนนักรบและถามเขา
"ก็อาการเบาหวาน นอนพักรักษาตัวซักสองสามเดือนคงหายเพราะที่นี่มีหมอดี" หนุ่มผิวแทนตอบ
"อั๊ยยะ ที่ที่มีหมอประจำบ้านเลย เจ้าของเค้ารวยแค่ไหนกันนะ บ้าชะมัดฮิ! ๆ "
เจนนิสวิ่งตามหนุ่มใหญ่ต้อยๆเพราะว่าเขาเดินเร็ว
"ถึงละ ห้องในสุดนะห้องหัวหน้าแม่บ้านป้าของเธอน่ะ พักก่อนแล้วตอนสี่โมงเย็นค่อยมาประชุมที่ห้องโถงหน้าบ้าน" หนุ่มใหญ่บอกและยื่นกระเป๋าให้เจนนิส
"ขอบคุณนะคะลุง เอ่อลุงชื่ออะไรคะ" เจนนิสรับกระเป๋ามาแล้วเงยหน้าถามหนุ่มตัวสูงล่ำใหญ่
"พสุธา" เขาตอบแล้วเดินหายไป
ก๊อก! ๆ ๆ ๆ "คุณป้าคะ" เจนนิสเดินมาห้องพักแม่บ้านที่เรียงรายกันอยู่ตรงชั้นหนึ่งด้านหลังบ้านในสุด
"เข้ามาเลย" เสียงอ่อนๆของคุณป้าดังแว่วมาราวกับคนไม่มีแรง
แอ๊ดดด! เจนนิสเปิดกระตูแล้ววิ่งปรี่เข้ามานั่งบนเตียงที่คุณป้านอนเสียบสายน้ำเกลืออยู่
ฮือ! ๆ ๆ ๆ "คุณป้าเป็นอะไรมากไหม เจ็บไหมคะ หนูมาดูแลแล้วนะ ฮือ! ๆ ๆ " เจนนิสนั่งฟุบกอดเอวเอาหน้าซุกอกคุณป้าและร้องไห้
เธอคิดถึงคุณป้ามากเพราะเธออยู่โรงเรียนประจำตั้งแต่เด็กปีๆนึงจะเจอคุณป้าแค่ครั้งเดียว
แถมครั้งที่แล้วที่ป้าไปเยี่ยมเธอยังแข็งแรงดี มาวันนี้ป้าตัวบวมและใส่สายน้ำเกลือเธอเลยใจหาย
ฟุ่บ! ๆ ๆ ๆ ป้าเอามืออีกข้างลูบหัวเจนนิสเบาๆ
"ไม่เป็นอะไรแล้วลูก ป้าแค่เบาหวานกำเริบ มีอาการโรคหัวใจนิดหน่อย" ป้าปลอบสาวน้อยและกอดเธอไว้ด้วยแขนข้างเดียว
"ฮือ! ๆ ๆ หนูรักคุณป้านะคะ รักเหมือนพ่อเหมือนแม่เลย ถ้าป้าหายหนูจะเอาวุฒิป.ตรีไปสมัครงานแล้วพาคุณป้าลาออกไปอยู่ด้วยนะคะ" เจนนิสร้องไปบอกความในใจไปด้วย
"อือ! ๆ เอาตรงนี้ให้ดีก่อน หนูต้องทำหน้าที่หัวหน้าแม่บ้านแทนป้า คุณท่านมีบุญคุณกับเรา เงินที่ป้าส่งเสียหนูจนเรียนจบก็เงินคุณท่านทั้งนั้น" ป้าบอกและลูบผมเจนนิส
"ค่ะ หนูจะทำหน้าที่แทนป้าให้ดีที่สุดจนคุณป้าหายนะคะ" เจนนิสบอกและลุกนั่งเช็ดน้ำตา
"ดูสิ โตเป็นสาวแล้วสวยมากๆเลย ฮิ! ๆ ๆ " คุณป้ายิ้มออกและสีหน้าดีขึ้นทันที่เมื่อเจนนิสมาหา
ทั้งคู่นั่งคุยกันอย่างมีความสุขอยู่นานสองนานเพื่อให้หายคิดถึงกัน
เจนนิสวิ่งเข้าครัวที่อยู่ใกล้ๆห้องพักแม่บ้านแล้วทำโจ๊กมาป้อนให้คุณป้ากิน แล้วเธอก็ปูผ้านอนข้างล่างเตียงคุยกับคุณป้าจนหลับไป
"เจนนิส ๆ สี่โมงแล้ว หนูต้องไปประชุมแม่บ้าน" ป้าเรียก
ฮ้าวววว! ค่ะ ๆ เจนนิสหาววอดๆและลุกนั่งขยี้ตา
"แล้วหนูจะกลับมาหานะคะ" เจนนิสยิ้มและก้มจุบหน้าฝากคุณป้าหนึ่งที
จุ๊บ!
ตุบ! ๆ ๆ ๆ เธอวิ่งกระโปรงปลิวออกไปห้องโถงหน้าบ้านปล่อยให้คุณป้านอนยิ้มทั้งน้ำตาด้วยความปลาบปลื้มในตัวหลานสาวที่แสนดี
เจนนิสวิ่งมาถึงหน้าบ้านที่เป็นห้องโถงขนาดใหญ่มีโคมไฟหรูหราสีทองห้อยลงมาระยิบระยับ
โอ๊ย! "ขอโทษค่ะหนูมาสายใช่ไหม" เจนนิสวิ่งมายืนเข้าแถวหน้ากระดานรวมกับคนรับใช้ คนสวนและคนขับรถที่ยืนเรียงแถวยาวนับสิบกว่าคน
เธอมองไปข้างหน้าเห็นคนอยู่ห้าคน คนนึงคือคุณท่านเจ้าของบ้านเขาแก่มากแล้วนั่งบนรถเข็น
มีอีกสี่คนยืนเรียงกันเป็นผู้ชายทั้งหมด แต่ละคนอายุไล่ๆกันตั้งแต่สามสิบลงมา ทุกคนตัวสูงหน้าตาหล่อเหลาคนละแบบและดูเป็นผู้ดีมีสง่าราศีทุกคน
"เอาละ วันนี้ขอแนะนำตัวหัวหน้าแม่บ้านคนใหม่นะ ออกมายืนข้างหน้าสิ" คุณท่านที่นั่งรถเข็นพูดเสียงแหบ
ตุบ! ๆ ๆ แฮร่! ๆ ๆ เจนนิสวิ่งมายืนเด๋อๆด๋าๆอยู่หน้าคุณท่านและยิ้มแปล้
"สวัสดีค่ะ! ๆ ๆ ๆ หนูชื่อเจนนิสค่ะ" เจนนิสมองกลับมายกมือไหว้เพื่อนๆคนใช้และหันมาไหว้คุณท่านกับหนุ่มหล่อทั้งสี่
หิ! ๆ ๆ ๆ พวกเขาหัวเราะในความบ๊องแบ๊วของเจนนิสกันใหญ่
บ้านนี้เป็นตระกูลผู้ดีที่ร่ำรวยมีสมบัติมหาศาลจนลูกๆไม่ต้องทำงานก็สุขสบายไปตลอดชีวิต ดังนั้นอาชีพที่เหล่าลูกชายทั้งสี่คนทำจึงเป็นเพียงแค่งานอดิเรกเท่านั้น ไม่ได้ทำเพื่อหาเงินหาทองอะไร
"นี่ลูกชายของฉันนะรู้จักไว้ก่อน" คุณท่านบอกและชี้นิ้ว
"อัคคี! คนสุดท้อง" คุณท่านชี้มาที่คนผิวขาวหน้าตาดี เขาตัวล่ำสันหุ่นนักกีฬา เขาดูหยิ่งๆแต่หล่อเวอร์หุ่นเท่ห์ระเบิด เขาเป็นนักกีฬาหลายชนิดที่ดูแข็งแรงมาก
"คนที่สามชื่อนาวา" คุณท่านชี้หนุ่มตัวผอมสูงผิวสี เขามีหน้าตาคมเข้มคิ้วดกจมูกโด่ง เขาดูหล่อคมไว้หนวดไว้เครา เขาโบกมือให้เจนนิสด้วย นาวาดูเป็นคนอารมณ์ดี ชอบการผจญภัยบุกป่าและเป็นช่างภาพสายธรรมชาติแถมยังทำอาหารเก่ง
"วารี คนที่สองนะ" คุณท่านชี้ไล่มาที่หนุ่มผอมสูงผิวขาว เขายิ้มตอบเจนนิสด้วย วารีดูเป็นคนสุขุมเยือกเย็นและใจดี เขาเป็นศิลปิน ทั้งแต่งเพลง วาดรูป และร้องรำ
"แล้วก็คนโต" คุณท่านชี้มาที่หนุ่มผิวแทนหน้าตาหล่อล่ำคมเข้ม เขาตัวใหญ่กำยำเหมือนนักรบ เขามาดเข้ม เงียบขรึมน่าค้นหาและเป็นนักธุรกิจที่ซื้อขายของแทบทุกชนิด
"ลุง" เจนนิสอุทานเมื่อเห็นชุดของหนุ่มหล่อที่เปิดประตูบ้านให้เธอเมื่อเช้าอยู่ในร่างของลูกชายคนโต
"เขาชื่อพสุธา" คุณท่านบอก
โครมมม! เจนนิสเป็นลมล้มหงายตึงลงมานอนแผ่หราอยู่บนพื้น
นางเอกถูกสามีนอกใจแต่กลับแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น เธอยอมเป็นเมียโง่เพื่อที่ได้แอบกินตับกับพ่อผัว ลูกเลี้ยง หลานชาย และคนสวนในบ้าน สรุปแล้วเธอเสียสามีไปแค่คนเดียว แต่กลับได้ชู้ในบ้านเพิ่มเป็นสิบๆคน
หลังจากโดนผัวทิ้งตอนน้ำหนัก80กิโลแจมก็ผันตัวมาออกกำลังกายดูแลสุขภาพอย่างหนักหน่วง เพียงไม่กี่ปีเธอก็กลายเป็นสาวหุ่นดี แถมยังมีสถาบันฟิตเนสทาบทามให้ไปเป็นเทรนเนอร์สุดสวยประจำยิมเสียด้วย แต่ด้วยการที่ต้องหาลูกเทรนและทำยอดขายช่างยากเย็นไม่ต่างอะไรกับการขายประกัน ล่าสุดแจมเกิดปิ๊งไอเดียใหม่เพื่อหาคนมาเทรนด้วย เธอชอบยั่วยวนลูกชายเพื่อนๆให้มาออกกำลังกายที่ยิมแล้วหลอกกินตับ ไปๆมาๆได้ทั้งคู่นอนได้ทั้งค่าคอมจนกระเป๋าตุง เรียกได้ว่านับแต่นั้นมาแทบไม่มีวันไหนที่เธอได้นอนคนเดียวเลยซักคืน
นางเอกเปิดสำนักไถ่บาป สร้างลัทธิหลอกลวงผู้คนให้บริจาคเงิน แถมยังใช้ร่างกายที่สวยและสาวยั่วยวนเหล่าคนรวยบ้าตัญหาจนยอมเปย์ให้ทุกอย่าง นอกเหนือจากนั้นยังยั่วสวาทเหล่าหนุ่มวัยรุ่นชายฉกรรจ์ให้มาเป็นสมุนรับใช้งานต่างๆ เพื่อแลกกับการได้สัมผัสกับร่างกายอันไร้ที่ติของศาสดาสาว
กระต่ายถูกเก็บมาเลี้ยงในตระกูลผู้ดีที่มีชื่อเสียงทางสังคม ทว่าเธอกลับพลาดพลั้งไปมีอะไรกับพี่ชาย พอน้องเห็นเข้าก็แบล็คเมล์เธออีก ไปๆมาๆก็โดนคุณปู่ด้วยอีกคน ในไม่ช้าก็คงไม่พ้นพ่อเลี้ยง สรุปแล้วผู้ชายทั้งบ้านโดนเด็กสาวคนเดียวที่เก็บมาเลี้ยงกินตับจนหมด เธออยากได้อะไรก็ต้องให้ เธออยากไปไหนก็ต้องตามใจ เพราะทุกคนต่างก็คลั่งรักเด็กสาวที่ทั้งสวยและสดใส
นาจำต้องเลี้ยงดูลูกติดของน้องเขยเพราะว่าเขากับน้องสาวของเธอนั้นประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต นับแต่นั้นมาฝาแฝดก็มีคุณป้าคนสวยเพียงคนเดียวดูแลตลอดมา พอโตเป็นหนุ่มแล้วพวกเขาก็ชอบเล่นกล้ามและไปแข่งประกวดเพาะกายจนได้รางวัลและเงินมามากมาย คุณป้ายังสาวจึงต้องคอยดูแลอาหารการกินและเสื้อผ้าหน้าผมสองหนุ่มอยู่ตลอดเวลา วันดีคืนดีก็ต้องดูแลเรื่องบนเตียงของพวกเขาด้วย ในเมื่อหนุ่มๆพวกนี้ทั้งคึกคักและแรงดี เรียกได้ว่าเผลอทีไรเป็นต้องถึงเนื้อถึงตัวกับนาทุกครั้งไป แนะนำตัวละคร นา นางเอก อายุ29ปี ด้วยความที่เธอมีเชื้อจีนและหน้าเด็กตัวเล็กขาวจึงดูเหมือนสาววัยรุ่น (สายตาสั้น,เฉิ่ม) อภิวัฒน์ น้องเขยของนา (ปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว) เขาเป็นเสี่ยอายุ38 (มีลูกติดมาจากเมียเก่าสองคนเป็นฝาแฝด) นิน น้องสาวของนา อายุ 28 (เสียชีวิต) ปกป้อง หลานแฝดผู้พี่ อายุ18ปี เล่นกล้าม เพาะกาย เรียนปีหนึ่ง ปราบปราม หลานแฝดผู้น้อง อายุ18ปี เล่นกล้าม เพาะกาย เรียนปีหนึ่ง *หมายเหตุ แฝดทั้งสองเป็นแฝดคนละฝา หน้าตาและนิสัยไม่เหมือนกัน
เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"
เธอก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่เคยสนใจ แต่ก็ยังดึงดันอยากจะอยู่ใกล้ ต่อให้เธอเป็นเมียแต่งเขาก็คงไม่มีวันเปลี่ยนใจ เพราะเหตุนี้เธอจึงตัดสินใจจากไปในคืนแต่งงาน "จากนี้ไปเราไม่มีอะไรติดค้างกันอีก" 🥀
"นางเป็นบุตรีผู้สูงศักดิ์ของฮูหยินเอกของจวนเสนาบดี นางมีหน้าตาโดดเด่น ทั้งอ่อนโอนและมีน้ำใจไมตรีต่อผู้อื่น แต่... นางทำดีต่อป้าของนาง นางกลับฆ่าแม่ของนางตาย นางรักเอ็นดูน้องสาวของนาง แต่น้องสาวกลับแย่งสามีของนางไป นางคอยสนับสนุนและดูแลสามีของนางอย่างสุดหัวใจ แต่สามีกลับทำให้นางตายทั้งกลม...ตระกูลฝ่ายมารดาของนางก็ถูกประหารชีวิตทั้งตระกูลด้วย นางตายตาไม่หลับและสาบานว่าหากมีชาติหน้า นางจะไม่เมตาตาต่อใครอีก ใครก็ตาม กล้ามาทำร้ายข้า ข้าจะล้างแค้นด้วยชีวิตทั้งตระกูลของพวกเจ้า เมื่อเกิดใหม่อีกครั้ง นางอายุได้สิบสี่ปี นางสาบานว่าจะต้องเปลี่ยนชะตากรรมและแก้แค้นชาติก่อน ป้านางใจ้ร้าย นางจะใจร้ายกลับยิ่งกว่านาง นางคิดจะได้ครองตำแหน่งฮูหยินงั้นเหรอ บอกเลยไม่มีทาง! ส่วนน้องสาวชอบผู้ชายชั่ว ๆ นักไม่ใช่หรือ ได้!ข้าจะยกให้เลย ส่วนชายชั่วนั่น ข้าจะทำให้เจ้าไม่สามารถมีทายาทได้อีกตลอดทั้งชาติ!แต่ข้าจะแก้แค้น เหตุใดเจ้าต้องมาช่วยข้าด้วย?"
ผมต้องทำงานนอกเวลาทุกวันเพื่อหารายได้ประคองชีวิตและจ่ายค่าเรียนมหาวิทยาลัยด้วยตัวเอง เนื่องจากฐานะครอบครัวยากจนและไม่สามารถส่งเสียผมเข้ามหาวิทยาลัยได้ และตอนเรียนที่มหาวิทยาลัย ผมก็ได้พบกับเธอ-สาวแสนสวยที่หนุ่มๆ ทุกคนในชั้นเรียนต่างก็ใฝ่ฝันถึง ไม่เว้นแม้แต่ผมเอง แต่ผมก็รู้ตัวดีว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเธอ ถึงอย่างนั้นก็ตาม ผมก็รวบรวมความกล้าสารภาพกับเธอจนได้ สุดท้ายผมนึกไม่ถึงว่าเธอจะยอมตกลงเป็นแฟนกับผม เธอบอกกับผมว่าอยากได้ของขวัญเป็นไอโฟนรุ่นล่าสุด ผมก็ไปรับงานซักเสื้อผ้าให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนเพื่อพยายามเก็บเงินซื้อให้เธอจนได้ และในที่สุดหนึ่งเดือนต่อมา ผมก็ซื้อมาได้จริง ๆ แต่ขณะที่ผมกำลังห่อของขวัญเพื่อนำไปมอบให้เธอ ก็พบว่าเธอกำลังมีอะไรกับหัวหน้าทีมฟุตบอลในห้องล็อกเกอร์ เธอเหมือนเปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่งซึ่งผมไม่เคยรู้จักเลย เธอหัวเราะเยาะความโง่เขลาของผม เหยียดหยามศักดิ์ศรีของผม ปล่อยให้เขาซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นแฟนใหม่ของเธอไปแล้ว ทุบตีผม ผมนอนเจ็บอยู่บนพื้นอย่างสิ้นหวัง ต่อมา จู่ ๆ ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากพ่อ ตั้งแต่วันนั้น ชีวิตของผมก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างกับหนัามือเป็นหลังมือ ใครจะไปรู้ว่า ผมเป็นลูกชายของมหาเศรษฐี
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
ตลอดระยะเวลาสามปีที่หยุยเอินแต่งงานกับฝู้ถิงหย่วน เธอพยายามทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุด เธอคิดว่าความอ่อนโยนของตนจะสามารถละลายใจที่เย็นชาของฝู้ถิงหย่วนได้ แต่ต่อมาเธอก็รู้ตัวว่าไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ผู้ชายคนนี้ก็ไม่มีวันจะตกหลุมรักเธอได้ ด้วยความสิ้นหวังของเธอ สุดท้ายเธอตัดสินใจที่จะยุติการแต่งงานครั้งนี้ ในสายตาของฝู้ถิงหย่วน หยุยเอิน ภรรยาของเขาเป็นผู้หญิงที่โง่ ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่าภรรยาของเขาจะกล้าโยนใบหย่าใส่เขาต่อหน้าคนมากมายในงานเลี้ยงวันครบรอบฝู้ซื่อ กรุ๊ป หลังจากหย่าร้าง ทุกคนต่างคิดว่าพวกเขาจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป แต่เรื่องราวระหว่างทั้งสองคงไม่ได้จบลงอย่างง่าย ๆ แบบนี้ หยุยเอินได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และคนที่เป็นผู้มอบถ้วยรางวัลให้กับเธอก็คือฝู้ถิงหย่วน หยุยเอินคิดไม่ถึงว่าผู้ชายที่สูงส่งและแสนเย็นชาคนนี้จะลดตัวลงอ้อนวอนเธอต่อหน้าผู้ชมทั้งหมด"หยุยเอิน ก่อนหน้านี้คือผมผิดเอง ขอโอกาสให้ผมอีกครั้งได้ไหม"หยุยเอินยิ้มด้วยความมั่นใจ"ขอโทษนะคุณฝู้ ตอนนี้ฉันสนใจแต่เรื่องงาน"ชายหนุ่มคว้ามือเธอไว้ ดวยตานั้นเต็มไปด้วยความผิดหวัง หยุยเอินสบัดมือเขาและเดินจากไปโดยปราศจากความลังเลใด ๆ