เขาแอบชอบเธอตั้งแต่เจอกันครั้งแรกแต่เธอกลับกลัวและพยายามอยู่ให้ห่างจากเขาแล้วเขาจะทำอย่างไรที่จะตามจีบเธอดีในเมื่อเธอเป็นน้องรหัสของเขา
ณ.มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง
ตึก..ตึก..ตึก..พลั้ก!..ตุ๊บ..
"ว้าย!..ขอโทษนะคะ..ขอโทษค่ะ"
กอหญ้าก้มหน้าพลางพูดโดยไม่ได้เงยหน้ามองคนที่ถูกชน
"วิ่งยังไงวะ!..ไม่เห็นคนหรือไง"ภีรนัสหรือภีมพูดด้วยเสียงดุๆและหน้าตาที่หงุดหงิด
"ขอโทษค่ะ..ขอโทษจริงๆ"กอหญ้าพูดพร้อมกับก้มลงเก็บหนังสือที่หล่นอยู่ที่พื้น
"ใจเย็นๆโว้ย!...ไอ้ภีม"
ตรีวิทย์หรือวิทย์พูดพลางเอามือจับบ่าของภีมไว้
"ใช่..น้องเค้าคงไม่ได้ตั้งใจหรอก"เดชาหรือชาช่วยพูด
"กูว่าเธอตั้งใจวิ่งชนกูมากกว่าว่ะ"
ภีมพูดสีหน้ายังคงหงุดหงิดเพราะเขาเคยเจอมาบ่อยๆที่ชอบมีสาวๆแกล้งมาเดินชนเพราะอยากจะพูดคุยกับเขา
"ห่ะ..พี่ว่าอะไรนะคะ!?"
กอหญ้าลุกขึ้นหลังจากเก็บหนังสือที่หล่นหมดแล้วจึงเงยหน้ามองหน้าของภีมพลางขมวดคิ้วเล็กน้อยเพราะไม่เข้าใจสิ่งที่เขาพูด ผู้ชายคนนี้สูงมากน่าจะเกิน180ซม.หน้าตาหล่อมากๆ แต่ดวงตาที่ทั้งคมทั้งดุแถมสีหน้าที่เรียบเฉยและสายตาที่ค่อนข้างเย็นชาทำให้ดูน่ากลัวในสายตาของกอหญ้าแต่เธอจำเป็นต้องพยายามทำเหมือนไม่กลัวทั้งๆที่กลัวจะแย่อยู่แล้ว
พอกอหญ้าเงยหน้าขึ้นมาทำให้วิทย์ ชารวมถึงภีมถึงกับอึ้งไปเลยเพราะกอหญ้ามีดวงตาที่กลมโตสดใสเหมือนดาวบนท้องฟ้า จมูกโด่งรั้นนิดๆ ปากอิ่มสีชมพู แก้มป่องๆขาวๆที่ตอนนี้มีสีแดงนิดๆน่าจะเหนื่อยจากการวิ่ง ผมตรงยาวสีดำไปถึงกลางหลัง สูงน่าจะไม่เกิน165ซม.ตัวเล็กมากๆน่ากลัวว่าถ้าลมพัดแรงๆจะปลิวไปตามลมมากกว่าสรุปแล้วเธอทั้งน่ารักและสวยรวมอยู่ในคนๆเดียว
"พี่พูดว่ายังไงนะคะ!?"กอหญ้าเอียงคอถามอีกครั้ง
"เอ่อ..ผมว่าคุณตั้งใจจะวิ่งชนผมมากกว่า"
ภีมพูดนิ่งๆหลังตื่นจากภวังค์ เธอโคตรน่ารักถูกใจเขามากแต่เขาต้องทำตัวเข้มและเย็นชาเหมือนเดิมไว้ก่อน
"ทำไมหนูต้องตั้งใจวิ่งชนพี่ด้วยล่ะคะ"กอหญ้าถามอย่างงงๆ
"เพราะคุณอยากคุยกับผมและอยากตีสนิทด้วยไงล่ะ.."ภีมพูดแบบหยิ่งๆ
"หึหึ..พี่คิดมากไปแล้วค่ะ..หนูไม่ได้อยากคุยหรืออยากจะตีสนิทกับพี่หรอกนะคะ..และถ้าพี่ไม่ได้เจ็บตรงไหนหนูขอตัวก่อนนะคะ..ขอโทษอีกครั้งค่ะ!"
กอหญ้ายิ้มกว้างก่อนจะก้มหัวแล้วหันหลังวิ่งออกไปทันทีเพราะจะเข้าเรียนคาบแรกไม่ทันแล้วและอีกอย่างเธอรู้สึกกลัวผู้ชายที่ถูกเธอชนมากๆ
"นี่!..เธอ.."
ภีมอึ้งกับคำพูดของกอหญ้ามาก ตั้งแต่เขาโตมาไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนปฏิเสธเขาเลยสักคน มีแต่พยายามเข้าหาเขาตลอดและนั่นทำให้เขารู้สึกเบื่อมากๆจนไม่ค่อยอยากจะพูดคุยกับผู้หญิงสักเท่าไร แต่คนตัวเล็กเมื่อกี้กลับบอกว่าไม่อยากจะคุยและสนิทกับเขา
"555..ตั้งแต่กูเป็นเพื่อนกับมึงมานะ..ไอ้ภีม..นี่เป็นครั้งแรกที่มีสาวมาบอกว่าไม่อยากคุยกับมึงว่ะ!"วิทย์ขำ
"ใช่ว่ะ!..แถมสาวคนนั้นทั้งสวยและน่ารัก..แม่งเหมือนตุ๊กตาเลยว่ะ"ชาสนับสนุน
"เออ..ไม่รู้ว่าเป็นคนหรือตุ๊กตา..แหม!..กูอยากรู้จริงๆว่าเรียนคณะไหน..จะได้ตามไปจีบเสียหน่อย"วิทย์พูด
"แต่เมื่อกี้...ตอนน้องเค้าเก็บหนังสือ..ดูเหมือนจะเป็นหนังสือเรียนวิศวะปี1นะ"ชาบอก
"จริงเหรอวะ!...มึงแน่ใจนะ"ภีมถาม
"ทำไม!?..มึงสนใจเหรอวะ..แต่ปกติมึงไม่เคยจะสนใจนี่หว่า"ชาถามพลางจ้องหน้าภีมตรงๆ
"ก็..ป่าว..แค่ถามดู"ภีมตอบเลี่ยงๆ
"ไม่จริงมั้ง!..พวกกูรู้จักมึงมาตั้งนานแล้วนะโว้ย!..จะไม่รู้จักนิสัยมึงเลยหรือไงวะ"วิทย์พูดยิ้มๆ
"ใช่...ถ้ามึงสนใจ..พวกกูก็จะไม่ยุ่งแถมยังจะช่วยมึงอีกด้วย..ใช่มั้ย..ไอ้วิทย์"ชาบอก
"ใช่สิวะ..น้ำแข็งจะได้กลายเป็นน้ำเสียที555"วิทย์ขำ
"พอๆ..เลิกพูด..ไปเข้าเรียนก่อนเถอะว่ะ"ภีมรีบเปลี่ยนเรื่องเมื่อถูกเพื่อนๆแซว
"เออๆ..ไม่พูดก็ได้..แต่สวยน่ารักขนาดนั้น..ถ้าไม่รีบ..กูว่าคงมีคนคาบเอาไปแดกแน่ๆ"ชาบอก
"ของที่กูสนใจ..ใครก็เอาไปไม่ได้ทั้งนั้น"ภีมบอกเสียงเรียบๆ
"งั้น..ก็ไปเข้าเรียนกัน..ไป..พวกมึง"
วิทย์บอกแล้วเดินนำไปทางตึกคณะวิศวะ
ภีม วิทย์และชาเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ประถม เรียนด้วยกันมาตลอดจึงสนิทกันมาก ทางบ้านของทั้งสามคนมีฐานะร่ำรวยมาก มีกิจการเป็นของตัวเองแล้วทั้งสามคนยังได้ร่วมกันเปิดผับแบบกึ่งร้านอาหารด้วยกันอีกด้วย ทั้งสามคนเป็นหนุ่มฮอตประจำมหาลัยที่ทั้งหล่อทั้งรวย เป็นที่หมายปองของสาวๆทั้งในมหาลัยและข้างนอกโดยเฉพาะภีมมีดีกรีเป็นถึงเดือนของมหาลัยเมื่อปีที่แล้วด้วย ทั้งสามคนเรียนอยู่คณะวิศวะปี2แล้ว
"กอหญ้า..ทางนี้!"รุ้งดาวหรือรุ้งเรียกเมื่อเห็นกอหญ้ายืนอยู่ที่ประตูห้องเรียน
"ทำไมช้าจังล่ะ"เมยาหรือเมย์ถามเมื่อกอหญ้าเข้ามานั่งลงแล้ว
"พอดีมีเรื่องนิดหน่อยน่ะ..ดีนะที่มาทัน"กอหญ้าพูดเหนื่อยๆเพราะวิ่งมา
"มีอะไร..!?"รุ้งถาม
"ไม่มีอะไรหรอก..ชั้นแค่วิ่งชนคนน่ะ..น่าจะเป็นรุ่นพี่..แต่ไม่รู้ว่าคณะอะไรตรงมุมตึกน่ะ"
กอหญ้าเล่าให้เพื่อนฟัง เธอกับรุ้งและเมย์เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กเพราะพ่อแม่ของทั้งสามคนเป็นเพื่อนกันมีบริษัทรับเหมาก่อสร้างเหมือนกัน เพียงแต่แม่ของกอหญ้าเสียไปตั้งแต่กอหญ้าได้2ขวบ เธอจึงอยู่กับป๊าและพี่ชายที่อายุมากกว่าถึง8ปี ดังนั้นเธอจึงสนิทกับรุ้งและเมย์จนเหมือนพี่น้องกันแท้ๆ
"ซุ่มซ่ามอีกแล้วล่ะสิแกน่ะ"เมย์บอก
"แหม!..ชั้นก็แค่รีบน่ะ"กอหญ้าเสียงอ่อยๆ
"ทุกทีเลยนะแกน่ะ..ปล่อยไปไหนคนเดียวทีไร..เกิดเรื่องทุกที"รุ้งว่า
"พวกแกเลิกว่าชั้นเถอะนะ..ต่อไปจะระวัง..นะ..นะ"กอหญ้าอ้อน
"ก็พูดอย่างนี้ทุกครั้งแหละ..ว่าแต่นี่แกบอกป๊าหรือยัง..ที่ออกมาอยู่ที่หอพักน่ะ"เมย์ถาม
"ยังเลยว่ะ...ว่าจะรอให้ป๊ากลับมาจากฮ่องกงแล้วรู้เองดีกว่า..อีกอย่างรอให้เฮียกลับมาจากมาเลย์ด้วย..จะได้มาช่วยพูดกับป๊าให้น่ะ"
กอหญ้าบอกหน้าเรียบๆ เธอเคยขอป๊าแล้วว่าจะออกมาอยู่หอพักใกล้ๆกับมหาลัยแต่ป๊าไม่ยอม เธอเลยแอบย้ายออกมาตอนที่ป๊าไปทำงานที่ฮ่องกง
"ชั้นว่านะ..ถ้าป๊ารู้มีหวัง..มาตามแกถึงมหาลัยแน่ๆ"รุ้งว่า
"ชั้นก็ว่าอย่างนั้นแหละ..แล้วนี่ป๊าจะกลับเมื่อไหร่วะ"เมย์ถาม
"ก็น่าจะวันสองวันนี้แหละ..ชั้นคงต้องหลบๆจนกว่าเฮียจะกลับมาน่ะ"กอหญ้าบอก
"แล้วเฮียจะกลับเมื่อไหร่ล่ะ"รุ้งถาม
"เห็นว่าวันศุกร์หรือเสาร์นี้แหละ"กอหญ้าบอก
"เออๆ..เอาไว้ค่อยคุย..อาจารย์มาแล้ว"เมย์ว่า
สามสาวจึงหันกลับไปตั้งใจเรียนก่อน
สองวันต่อมา โรงอาหารคณะวิศวะ
"ว้าย!แกดูนั่นสิ..พี่ภีมโคตรหล่อเลยอ่ะ"
"พี่วิทย์กับพี่ชาก็น่ารัก"
เสียงสาวๆนักศึกษาที่มารวมกันอยู่ในโรงอาหารพากันพูดและมองไปทางสามหนุ่มหล่อของมหาลัยที่กำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะ
"ทำไมวันนี้โรงอาหารคณะเรามีสาวๆมากจังล่ะ!..ไหนบอกว่าคณะวิศวะมีผู้หญิงเรียนน้อยไง"
กอหญ้าถามเมื่อเดินเข้ามาในโรงอาหาร
"อ้อ!..ชั้นรู้แล้ว..ก็พี่ๆสุดหล่อประจำมหาลัยมานั่งกินข้าวอยู่นั่นไงล่ะ..สาวๆจากหลายคณะจึงมารวมตัวกัน"เมย์บอก
"ไหนวะ..จริงด้วย..นั่นพี่ภีม..พี่วิทย์และพี่ชา..โอ้ย!โคตรหล่ออ่ะ"รุ้งทำท่าปลื้ม
กอหญ้าหันไปมองตามที่เพื่อนบอก เธอเห็นภีมแล้วถึงกับชะงัก นั่นมันพี่หน้าดุๆที่โดนเธอชนวันนั้นนี่นา นี่เขาเรียนวิศวะเหรอ ไม่ใช่มั้งถ้าใช่ ตาย! ตายแน่!!ไอ้กอหญ้า
เขาตกหลุมรักเพื่อนสนิทของน้องสาวตั้งแต่เห็นครั้งแรกแต่เพราะเธอมีนิสัยที่ไม่เหมือนใครทำให้เขาไม่กล้าแสดงตัวว่าชอบได้แต่พยายามตีสนิทโดยมีน้องสาวตัวแสบคอยช่วยเหลือคงต้องมาช่วยกันลุ้นว่าเขาจะจีบเธอมาเป็นแฟนได้มั้ย
เขาแอบรักเธอตั้งแต่เขายังเรียนมัธยมต้นแต่ไม่กล้าบอกเพราะเธอเป็นน้องสาวของเพื่อนสนิทจนผ่านมาถึง10ปีเขาได้เจอกับเธออีกครั้งและตั้งใจจะบอกกับเธอ แต่เขาก็ต้องมีคู่แข่งอีกหลายคนดังนั้นจึงต้องมีการวางแผนเพื่อทำให้เธอรักเขาให้ได้
เมื่อเขาต้องเลือกเจ้าสาวจากลูกสาวของเพื่อนสนิทของพ่อที่มีอยู่2คน คนพี่สวยเซ็กซี่หยิ่งทนง คนน้องสวยน่ารักใสซื่อไม่ถือตัว เขาควรจะเลือกใครดี
เขาเป็นลูกชายของมาเฟียที่ผันตัวเองมาทำธุรกิจ เขาควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าไม่จริงจังกับใครแต่แล้ววันหนึ่งเขาก็ได้ช่วยชีวิตเธอไว้โดยบังเอิญแล้วนั่นก็เป็นความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เมื่อเขาตกหลุมรักเธอโดยยังไม่รู้แม้แต่ชื่อ แต่เขาก็ไม่คิดจะปล่อยเธอไป
เขาหลงรักเธอตั้งแต่ในความฝันแล้วพยายามตามหาเธอในความจริงจนกระทั่งพรหมลิขิตก็ทำให้เขาได้เจอกับเธอ
เธอแอบชอบรุ่นพี่มาตั้งแต่เข้ามหาลัยปี 1 แต่ไม่กล้าบอกจนผ่านมาได้ 1 ปีเธอถึงได้กล้าไปบอกเขาและขอตามฉี่เป็นเวลา 3 เดือนเขาปฏิเสธ
เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้
เขาแอบชอบเธอตั้งแต่เจอกันครั้งแรกแต่เธอกลับกลัวและพยายามอยู่ให้ห่างจากเขาแล้วเขาจะทำอย่างไรที่จะตามจีบเธอดีในเมื่อเธอเป็นน้องรหัสของเขา
ตลอดระยะเวลาสามปีของการแต่งงาน เธอรู้สึกสิ้นหวัง ที่ถูกบังคับให้เซ็นใบหย่า ทั้งๆที่เธอกำลังท้อง เธอใจสลายกับความไร้มนุษยธรรมของเขา กระทั่งเธอออกไปจากชีวิตของเขา เขาเพิ่งรู้ตัวว่าเธอคือรักแท้ของเขา ไม่มีวิธีใดที่จะเยียวยาหัวใจที่บอบช้ำของเธอให้หายขาดได้ เขาจึงมอบความรักทั้งหมดของเขาให้แก่เธอเพื่อชดเชย
หลังจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ เจียงหว่านฉือตื่นขึ้นมาด้วยความเจ็บปวด ทีแรกเธอยังคิดว่าสามีของเธอที่แต่งงานกันมาเป็นเวลาสามปีนั้นมาที่นี่เพื่อดูอาการของเธอ แต่ไม่คิดเลยว่า ชายคนนั้นกลับเดินไปที่ห้องผู้ป่วยข้างๆ เพื่อดูแลผู้หญิงอีกคนหนึ่ง และเพื่อผู้หญิงคนนั้นแล้ว เขายังต้องการส่งเธอเข้าคุกด้วย "2500 ล้าน เพื่อแลกกับการตบผู้หญิงของคุณหนึ่งฉาด"เจียงหว่านฉือมองไปที่เขาอย่างเย็นชา "เราหย่ากันเถอะ"" เธอรับใช้เขาอย่างอดทนมาเป็นเวลาตั้งสามปี ตอนนี้ เธอขอไม่ทำเรื่องโง่ ๆ แบบนั้นอีกต่อไปแล้ว เธอจะกลับไปสืบทอดมรดกมหาศาลของตระกูล
เมื่อเธออายุยี่สิบ ชิงฉือได้รู้ว่าตนเองไม่ใช่ลูกโดยกำเนิดของตระกูลต้วน เธอถูกลูกสาวที่แท้จริงของตระกูลต้วนล้อมกรอบ จนถูกพ่อแม่บุญธรรมไล่ออกจากบ้านและกลายเป็นตัวตลกในเมือง เมื่อเธอกลับไปหาพ่อแม่ชาวนา จากนั้นก็พบว่าบิดาผู้ให้กำเนิดของเธอเป็นคนที่รวยที่สุดในเมืองเจียงเฉิงส่วนพี่ชายของตนเองเป็นอัจฉริยะในแวดวงต่างๆ ทุกคนมองดูเด็กสาวตัวเล็กคนนี้ด้วยความเห็นใจและถือว่าเธอเป็นสมบัติล้ำค่า แต่ค่อยๆ พบว่า... ที่แท้ว่าน้องสาวเป็นคนมากความสามารถ? อดีตแฟนหนุ่มผู้น่ารังเกียจหัวเราะเยาะ "อย่ามาตามเซ้าซี้ไม่เลิก ฉันมีแต่เมียนเมียนอยู่ในใจ!" คนใหญ่แห่งเมืองหลวงปรากฏตัว "เมียฉันจะเห็นหัวนายเหรอ?"
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"