เคยรักใครสักคนไหม ผูกพัน... แม้ว่าจะอยู่ห่างไกลคนละชาติภพ หัวใจเฝ้ารอคอยอย่างมีความหวัง... ว่าสักวันเราสองจะมีโอกาสได้พบกัน สักเพียงครั้งก็ยังดี
เคยรักใครสักคนไหม ผูกพัน... แม้ว่าจะอยู่ห่างไกลคนละชาติภพ หัวใจเฝ้ารอคอยอย่างมีความหวัง... ว่าสักวันเราสองจะมีโอกาสได้พบกัน สักเพียงครั้งก็ยังดี
เคยรักใครสักคนไหม
ผูกพัน... แม้ว่าจะอยู่ห่างไกลคนละชาติภพ
หัวใจเฝ้ารอคอยอย่างมีความหวัง...
ว่าสักวันเราสองจะมีโอกาสได้พบกัน
สักเพียงครั้งก็ยังดี
แผ่นดินจีนในสมัยโบราณ
ยุคชุนชิวและยุคจ้านกว๋อ
ยุคจ้านกว๋อหรือเลียดก๊ก (477 ปีก่อนคริสต์ศักราช – 222 ปีก่อนคริสต์ศักราช) เป็นยุคสำคัญยุคหนึ่งในประวัติศาสตร์จีน ยุคนี้เป็นยุคที่มีการต่อสู้อย่างดุเดือดและรุนแรงระหว่างแคว้นทั้งเจ็ดในแผ่นดินจีน ถ้าพูดถึงความดุเดือดแล้ว อาจจะเข้มข้นกว่ายุคสามก๊กเสียด้วยซ้ำไป ยุคนี้คือยุคก่อนการรวมแผ่นดินของจิ๋นซีฮ่องเต้
ต้นยุคชุนชิวแผ่นดินจีนมีประมาณสองร้อยนครรัฐ แต่สงครามแย่งชิงอำนาจหรือแผ่ขยายอิทธิพลต่างผนวกดินแดนต่างๆ เข้ากับรัฐผู้ชนะจนกระทั่งเหลือเพียงรัฐใหญ่เจ็ดรัฐมหาอำนาจในตอนปลายยุคชุนชิวนักประวัติศาสตร์จีนเรียกว่า เจ็ดมหานครรัฐแห่งยุคจ้านกว๋อ ได้แก่ รัฐฉี รัฐฉู่ รัฐเยียน รัฐฉิน รัฐหาน รัฐเว่ย และรัฐจ้าว ยุคสมัยนี้มีสงครามดุเดือดระหว่างรัฐต่อเนื่อง รัฐฉินกับรัฐฉีได้รับการขนานนามเป็นสองรัฐมหาอำนาจฟากตะวันออกและฟากตะวันตก ซึ่งถือเป็นดุลอำนาจต่อกัน
ยุคนี้สิ้นสุดโดยการขึ้นครองอำนาจของ อิ๋งเจิ้ง แห่งรัฐฉิน หรือที่รู้จักกันในนาม จิ๋นซีฮ่องเต้ (พระเจ้าฉินสื่อหวงตี้) โดยถือเป็นจักรพรรดิองค์แรกของจีน
ซึ่งเจ็ดแคว้นใหญ่แห่งยุคจ้านกว๋อประกอบไปด้วย
“รัฐจ้าวหรือแคว้นจ้าว” เป็นรัฐจีนโบราณหนึ่งในเจ็ดรัฐใหญ่แห่งยุครณรัฐ เกิดขึ้นเมื่อรัฐจิ้นแยกออกเป็นสามรัฐ คือ รัฐจ้าว, รัฐหาน, และรัฐเว่ย เมื่อศตวรรษที่ห้าก่อนคริสตกาล จากนั้นรัฐจ้าวปฏิรูปทหารในรัชสมัยพระเจ้าจ้าวอู่หลิง ทำให้แข็งแกร่งขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แต่ภายหลังพ่ายแพ้ยับเยินให้แก่รัฐฉิน ในยุทธการที่ฉางผิง และถูกผนวกอาณาเขตของรัฐจ้าว ประกอบด้วยดินแดนซึ่งปัจจุบันเป็นมองโกเลียใน, เหอเป่ย์, ชานซี, และฉ่านซี รายล้อมด้วยดินแดนของรัฐฉิน, รัฐเว่ย์, ซยงหนูและหานตาน
รัฐจ้าวเป็นที่กำเนิดของเชิ่น เต้า นักนิติปรัชญา, กงซุนหลง นักตรรกวิทยา, และสวินข้วง ปรัชญาเมธีลัทธิขงจื๊อ
แค้วนจ้าวตั้งอยู่ตอนเหนือ ประเทศติดกับเขตอนารยชน เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยคนเก่ง ฉลาดหลักแหลม แต่มักเจอกับปัญหาด้านการเมืองที่ไม่ค่อยมั่นคง มีการชิงอำนาจอยู่ตลอดเวลา เมืองหลวงของแค้วนจ้าวคือหานตาน ปัจจุบันคือเมืองหานตาน มณฑลเหอเป่ย
“รัฐฉีหรือแคว้นฉี” เป็นเมืองท่าติดกับทะเลเหลือง ถือเป็นเมืองที่มีความสงบสุขสูง วิถีชีวิตของชาวเมืองจะค่อนไปทางสบายๆ แต่เพราะไม่ค่อยระแวดระวังเกินไปจึงไม่ทันรับมือกับภัยสงครามที่ถูกเมืองอื่นบุกมาตี เมืองหลวงของแคว้นฉีคือหลินจือ ปัจจุบันคือเมืองจือป๋อมณฑลซานตง
“รัฐหานหรือแคว้นหาน” เป็นรัฐจีนโบราณในยุครณรัฐ ตั้งอยู่ในท้องที่ซึ่งปัจจุบันเป็นชานซีและเหอหนาน ที่ตั้งดังกล่าวกีดกันมิให้รัฐฉินเข้าถึงที่ราบจีนเหนือ ทำให้รัฐหานตกเป็นเป้าโจมตีของรัฐฉินบ่อยครั้ง ที่สุดแล้วรัฐหานก็กลับกลายเป็นรัฐแรกในกลุ่มเจ็ดรณรัฐที่ผนวกเข้ากับรัฐฉิน หลังจากการรบราจนเลือดนองแผ่นดินในยุทธการที่ฉางผิงเมื่อสองร้อยหกสิบปีก่อนคริสตกาล
กล่าวกันว่าแค้วนหานถือเป็นเมืองที่น่าสงสารมากที่สุด เพราะตั้งอยู่ตรงกึ่งกลางของแคว้นใหญ่ๆ ทั้งฉิน ฉู่และเว่ย จึงเป็นเมืองที่ต้องเฝ้าระวังภัยตลอดเวลา แต่ก็ยังถือว่ามีข้อดีในแง่เป็นเมืองที่ตั้งอยู่บนที่ราบจงหยวนอันอุดมสมบูรณ์ เมืองหลวงของแคว้นหานคือ เจิ้ง ปัจจุบันคือเมืองซินเจิ้งมณฑลเหอหนาน
“รัฐเว่ยหรือแคว้นเว่ย” เป็นอีกเมืองที่ตั้งตรงกลางรัฐใหญ่ แคว้นเหว่ยเป็นหนึ่งในเจ็ดรัฐสำคัญในช่วงระยะเวลาต่อสู้ของจีนโบราณ ถูกสร้างขึ้นจาก Partition ของ Jin แบบสามทางพร้อมกับ Han และ Zhao ดินแดนตั้งอยู่ระหว่างรัฐฉินและฉีและรวมบางส่วนของเหอหนานสมัยใหม่เหอเป่ย์ชานซีและชานตง หลังจากเมืองหลวงถูกย้ายจาก Anyi ไปยัง Daliang ในช่วงรัชสมัยของกษัตริย์ Hui, Wei แค้วนเว่ยเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยคนเก่ง อีกทั้งยังอยู่ในดินแดนที่อุดมสมบูรณ์ แต่มีข้อด้อยเรื่องปัญหาขุนนางใหญ่แย่งชิงอำนาจกันจนบ้านเมืองเกิดความวุ่นวายไปทั่ว เมืองหลวงของแคว้นเว่ยคือต้าเหลียง ปัจจุบันคือเมืองไคเฟิงมณฑทลเหอหนาน
“รัฐเหยี่ยนแคว้นเหยี่ยน” เป็นรัฐที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของจีน ติดกับอ่าวปั่วไห่ เชื่อมต่อกับทะเลเหลือง ส่วนทิศใต้จะติดกับแคว้นฉี ทิศตะวันตกติดกับแคว้นจ้าว ส่วนทิศเหนือและทิศตะวันออกติดกับมองโกเลีย ทำให้แคว้นเหยี่ยนมีสภาพอากาศหนาวเย็น ห่างไกลจากแคว้นอื่นๆ เป็นเมืองที่ได้รับความยำเกรงจากรัฐอื่นบ้างเป็นพักๆ แต่ส่วนใหญ่มักเป็นแคว้นที่ต้องพึ่งพาพวกพ้องเมืองพี่เมืองน้อง เมืองหลวงของแคว้นเหยี่ยนคือเมืองจี้ ปัจจุบันอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงเป่ยจิง
รัฐฉู่หรือแคว้นฉู่ (1030 – 223 ปีก่อนคริสตกาล) เป็นรัฐศักดินาโบราณของจีนในช่วงยุควสันตสารท – ยุครณรัฐ ทรงอำนาจและอิทธิพลอย่างมากทั้งทางด้านการทหารและการปกครองก่อนจะถูกรัฐฉินพิชิตเมื่อสองร้อยยี่สิบสามปีก่อนคริสตกาล เป็นแคว้นใหญ่ มีศักยภาพในการดำเนินการต่างๆ สูง แต่เจอปัญหาการฉ้อโกงภายในอยู่เสมอจนบ้านเมืองระส่ำระสาย เมืองหลวงของแค้วนฉู่คือหยิ่ง ปัจจุบันคือเขตเจียงหลิง เมืองจิงโจวมณฑลเหอเป่ย
ครั้นมาถึงในช่วงปลายราชวงศ์ฉินราวสองร้อยหกปีก่อนคริสตกาล ได้มีเชื้อพระวงศ์คนหนึ่งของอดีตรัฐฉู่นามว่าเซี่ยงอวี่ ได้ตั้งตนเองเป็นกษัตริย์แห่งรัฐฉู่ตะวันตก และสามารถโค่นล้มราชวงศ์ฉินลงได้สำเร็จ ขณะเดียวกันมีชาวนาซึ่งมาจากอดีตรัฐฉู่เช่นกันนามว่า หลิวปัง ได้ตั้งตนเป็นใหญ่และต่อสู้กับเซี่ยงอวี่หรือ ฌ้อปาอ๋อง นานถึงสี่ปีก็ได้ชัยชนะเหนือเซี่ยงอวี่อย่างเด็ดขาดและตั้งตนเองเป็นปฐมจักรพรรดิแห่งราชวงศ์ฮั่นตะวันตก ทรงมีพระนามว่าจักรพรรดิฮั่นเกาจู่
รัฐฉินหรือแคว้นฉิน เป็นรัฐจีนโบราณในช่วงราชวงศ์โจว ถือกำเนิดจากการยึดดินแดนฟากตะวันตกที่เคยเสียให้แก่ชาวซีหรง ความที่ตั้งอยู่ชายขอบด้านตะวันตกของอารยธรรมจีนนี้เอง ทำให้รัฐฉินขยายพื้นที่และพัฒนาได้อย่างที่รัฐคู่แข่งทางที่ราบจีนเหนือไม่สามารถทำได้มาก่อน ครั้นเมื่อปฏิรูปกฎหมายขนานใหญ่ในศตวรรษที่สามก่อนคริสตกาล รัฐฉินก็กลายเป็นหนึ่งในผู้ทรงอำนาจที่โดดเด่นของกลุ่มเจ็ดรณรัฐ จนผนวกดินแดนจีนทั้งมวลได้ในปีที่สองร้อยยี่สิบเอ็ดก่อนคริสตกาลภายใต้การนำของฉินฉื่อหฺวังตี้ (“ปฐมจักรพรรดิฉิน”) ก่อตั้งเป็นจักรวรรดิฉิน ซึ่งแม้จะดำรงอยู่ไม่นานแต่ก็มีอิทธิพลมากยิ่งในประวัติศาสตร์จีนยุคหลัง
แคว้นฉินจัดเป็นสุดยอดแคว้นที่ยิ่งใหญ่ในยุคจ้านกั๋วตอนปลาย แคว้นนี้เต็มไปด้วยคนเก่ง มีความสามารถ มีการจัดการปัญหาบ้านเมืองที่ดีจนก้าวกระโดด ทำให้ท้ายที่สุด เจ้าแคว้นอย่าง “จิ๋นซีฮ่องเต้” สามารถรวบแผ่นดินให้เป็นหนึ่งเดียวได้สำเร็จ เมืองหลวงของแคว้นฉินในยุคโบราณคือ เสียนหยาง ในยุคปัจจุบันคือดินแดนทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองเสียนหยาง ซึ่งอยู่ในเขตของมณฑลส่านซี
ตำหนักไร้รัก สถานที่พำนักของอุปราชหนุ่มแห่งเทียนจิน เจ้าของตำหนักนี้ หัวใจเต็มไปด้วยความด้านชามาแทบทุกพระองค์ แต่แล้ววันหนึ่ง คุณหมอสาวแสนสวย นามว่าจ้าวย่าเจินได้รับของขวัญ ย้ายเข้าบ้านใหม่เป็นภาพวาดตำหนักโบราณ มีชื่อว่าตำหนักเย่วเชียง ในภาพนั้นมีผู้ชายยืนเอามือไพล่หลังไม่เห็นหน้า เฝ้ามองตำหนักฝั่งตรงกันข้าม และที่น่าประหลาดผู้ชายในภาพวาดจะโตขึ้นทุกวัน จวบจนกระทั่ง คุณหมอคนสวยถูกดึงเข้าไปในภาพวาดตำหนักโบราณดังกล่าวและได้พบกับ เจ้าของตำหนักไร้รัก ซึ่งเขาก็คืออุปราชแห่งเทียนจินและเป็นผู้ชายคนเดียวกัน ที่อยู่ในภาพวาดที่หญิงสาวเห็นเขาอยู่ทุกค่ำคืน ตำหนักไร้รักเมื่อไร้หัวใจ ตำหนักไร้กังวลเมื่อหัวใจกลับมามีรักอีกครั้ง
คำโปรย การกลับมาแก้ไขเหตุการณ์ในอดีตครั้งนี้ ทำให้นางมารใจโฉดกลับกลายเป็นคนดี แต่กลับมีเหตุการณ์ที่ทำให้ ถานหยี่เหยียนซึ่งผสานจิตใจกับร่างในปัจจุุบัน จนสงบกลับปะทุขึ้นมาอีกครั้ง และกลับมาทำลายล้างทุกอย่างจนวอดวาย เอลิซาเบธ ลีหรือหยางลี่จู บินกลับประเทศจีนเป็นครั้งแรกในชีวิตและถูกดวงตาสวรรค์ที่มีวาสนาผูกพันกันนำนางหวนคืนกลับตระกูลถาน ซึ่งเป็นชาติอดีตของตัวเองเพื่อกลับมาแก้ไขเหตุการณ์ในอดีตตามที่เคยอ้อนวอนต่อสวรรค์เบื้องบน ดวงตาสวรรค์นำนางกลับมาในชาติที่เกิดเป็นสตรีที่แสนจะร้ายกาจที่สุดในตระกูลถาน และนางก็คือนางมารชื่อกระฉ่อน ถานหยี่เหยียน คุณหนูใจโฉดที่เต็มไปด้วยความอำมหิต สนใจแต่ตัวเองไม่เคยใส่ใจผู้ใดและต้องได้ทุกอย่างที่นางต้องการ จนเป็นต้นเหตุทำให้ตระกูลถานถูกประหารล้างตระกูล และการคัดเลือกพระชายาของอดีตฉู่อ๋องเพื่อเลือกเฟ้นให้กับพระอนุชา เป็นที่มาของการประหารล้างตระกูลถานในอดีต แต่การกลับมาอีกครั้งของถานหยี่เหยียน ซึ่งเป็นร่างในยุคปัจจุบันทำให้ร่างในอดีตและปัจจุบันหลอมรวมเป็นร่างเดียวกันและนางก็คือนางในฝันของบุรุษหน้าหยกผู้เลื่องลือ สตรีใจโฉดผู้เคยเป็นอนุชายาของชินอ๋องรูปงามก่อนที่จะกลับมาแก้ไขเปลี่ยนแปลง
อุปราชปีศาจ สมญานามนี้เลื่องลือไปทั่วหล้า อุปราชเฟิงหลง ผู้ก่อตั้งแผ่นดินเป่ยถังจนเป็นปึกแผ่นเป็นหนึ่งเดียว วิชาอมตะทำให้มีชีวิตเป็นนิรันดร์ และมีญาณหยั่งรู้ล่วงรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าและหูทิพย์ หากแม้นผู้ใดเข้ามาใกล้พระวรกายน้อยกว่ารัศมีสิบฉื่อ ร่างจะต้องสลายกลายเป็นเถ้าธุลีขาวไปทันที อุปราชในตำนานประทับอยู่ในพระตำหนักลืมเลือนมานานกว่า 329 ปีนับตั้งแต่สถาปนาแคว้น จวบจนกระทั่งองค์หญิงเย่วเพ่ยเพ่ย จากแคว้นเย่วปรากฎกาย นางเป็นสตรีเพียงหนึ่งเดียวที่สามารถเข้าใกล้และสัมผัสพระองค์ได้ และนางคือสตรีที่ผูกพันกับพระองค์นับตั้งแต่พานพบกันตั้งแต่ครั้งแรก แรงรักแรงพิศวาสเริ่มก่อตัวขึ้นภายในตำหนักลืมเลือน ก่อนจะถึกปิดตายหายไปอย่างไร้ร่องรอยเพื่อรอคอยนางหวนคืนกลับมาอีกครั้ง กลับมาเพื่อครองรักกับอุปราชปีศาจอีกครั้งตามสัญญาที่มีไว้ให้ต่อกัน ไม่ว่ากาลเวลาจะผ่านไปนานนับพันปีก็ตาม
เพราะการพบกันครั้งแรกระหว่าง จอมอำมหิตแห่งกู้กงและหวางเย่หลิง ทำให้รองผู้บัญชาการองครักษ์เสื้อแพร ต้องการนางเก็บไว่้ใกล้ตัวเพื่อ เหตุผลบางอย่าง และเพื่อสืบเสาะหามารดาผู้ให้กำเนิดจากนาง ครั้นเกิดเหตุการณ์เงินห้าหมื่นตำลึงทองสูญหายไปอย่างไร้ร่องรอย ภายในสำนักคุ่้มกันหวางซื่อของตระกูลหวาง จึงทำให้จอมอำมหิตสบโอกาส หวางเย่หลิง บุตรีเพียงคนเดียวของหวางเจี้ยนเฉิง จะต้องถูกนำส่งเข้าจวน ในฐานะสตรีของอิ๋งชวนโหว เพื่อช่วยทุกชีวิตของตระกูลหวางให้รอดพ้นจาก การถูกประหารชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว
ตงฟางลี่หยาง แม่ทัพหนุ่มแห่งแคว้นเทียนหยวน หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความด้านชาและเต็มไปด้วยความแค้น ที่ฝังแน่นอยู่ภายในใจที่รอวันชำระแค้นกับอดีตสหายเก่า หากแต่หัวใจที่เต็มไปด้วยความด้านชา กลับปรากฏหมอหญิงจากสกุลหลิง ผู้มาจากยุคปัจจุบัน ผุดขึ้นอยู่ภายในหัวใจ หยกบุบผานำเธอให้มาพบกับแม่ทัพจอมโหด และหลิงลี่ย่านางคือสตรีที่แม่ทัพหนุ่มต้องตามจับเธอ !!!
หวังฉิงชวน สาวสวยจากศตวรรษที่ 21 นักศึกษาคณะศิลปะการแสดงและการละคร ซึ่งจะต้องเขียนบทละครแนวพีเรียดย้อนยุคเพื่อผลิตซีรีย์เรื่องยาว 40 ตอนจบ และยังเป็นผลงานภาคบังคับที่นักศึกษาทุกคนจะต้องทำบทละครเพื่อขออนุมัติจบการศึกษา หญิงสาวจึงนำเกร็ดประวัติของท่านหญิงธิดาลูกเจ้าเมือง จากยุคจ้านกว๋อ มาเขียนบทละคร ทว่าประวัติของท่านหญิงผู้นั้นเป็นของปลอมที่ถูกทำขึ้นในยุคนั้น เป็นเหตุให้หวังฉิงชวนเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นกับชีวิต เมื่อเธอเกิดหัวใจวายกะทันหัน ครั้นฟื้นขึ้นมาอีกครั้งดวงวิญญาณของเธอกลับอยู่ในร่างของท่านหญิงหยางเฉียนเฉียน ธิดาเจ้าเมืองอูเจี๋ยนผู้วายชนม์ เธอถูกกลับมาในเหตุการณ์ของท่านหญิงที่นำประวัติของนางมาทำเป็นบทละคร เพื่อล่วงรู้เหตุการณ์จริงในอดีตที่เกิดขึ้น และเธอกลับมาเพื่อผูกวาสนากับจอมโจรเยี่ยคัง ซึ่งมีอดีตเป็นถึงองค์ชายเฉินคัง องค์ชายห้าแคว้นหมิ่นเย่ว วาสนาผูกพันลึกซึ้งเกิดขึ้นกับคนทั้งสอง และสัญญารักมั่นจากหัวใจที่พี่คังมีต่อเฉียนเฉียน นำหวังฉิงชวนให้หวนกลับคืนสู่อ้อมกอด องค์ชายเฉินคังแห่งแคว้นหมิ่นเย่วอีกครั้งเพื่อครองคู่ไปชั่วนิจนิรันดร์
ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวของเฉียวซิงเฉินหนีไปกับผู้หญิงอีกคน เธอโกรธมาก จึงสุ่มหาชายคนหนึ่งมาแต่งงานด้วยทันที "ตราบใดที่คุณกล้าแต่งงานกับฉัน ฉันก็ยอมเป็นเมียคุณ" หลังจากแต่งงาน เธอได้ค้นพบว่าสามีของเธอคือลูกชายคนโตของตระกูลลู่ที่ขึ้นชื่อว่าไร้ประโยชน์ ชื่อลู่ถิงเซียว ทุกคนเยาะเย้ยว่า "เธอยนี่ช่วยไม่ได้จริงๆ" และผู้ชายที่ทรยศเธอก็มาเกลี้ยกล่อมว่า "ไม่เห็นต้องทำร้ายตัวเองเพราะฉันหรอก สักวันเธอต้องเสียใจแน่ๆ" เฉียวซิงเฉินหัวเราะเยาะและโต้ตอบว่า "ไปให้พ้น ฉันกับสามีรักกันมาก" ทุกคนต่าก็คิดว่าเธอเป็นบ้า ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อตัวตนที่แท้จริงของลู่ถิงเซียวถูกเปิดเผย ที่แท้เขาเป็นคนรวยอันดับต้นๆในโลก ในการถ่ายทอดสดทั่วโลก ชายคนนี้คุกเข่าข้างเดียว ถือแหวนเพชรมูลค่าหลักพันล้าน และพูดช้าๆ ว่า "คุณภรรยา ชีวิตที่เหลือนี้ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ"
[แสนหวาน + วิวาห์ฟ้าแล่บ + แต่งงานก่อน แล้วรักทีหลัง] แฟนที่หลู่ชิงชิงเลี้ยงดูมาหลายปีกลับนอกใจเธอ แอบไปคบกับเพื่อนสนิทของเธอ? เธอทนต่อกับเรื่องนี้ไม่ได้ และไปสมัครขอแต่งงานโดยตรง และแต่งงานกับชายแปลกหน้าอย่างรวดเร็ว หลังจากการแต่งงานแล้ว ชายคนนั้นคำหนึ่งก็ว่าเขาจะออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดในครอบครัวสองคำก็ว่าจะเลี้ยงดูเธอ หลู่ชิงชิงเยาะเย้ยคิดว่ามันเป็นกลอุบายและคำโกหกของผู้ชายอีกแล้ว โดยไม่คาดคิดว่าชายคนนี้กลับกลายเป็นคนให้ความสำคัญกับภรรยาตัวเองจริงๆ ทั้งสนับสนุนอาชีพการงานของเธอและยังช่วยเธอทำงานบ้านด้วย และให้เธอตกแต่งบ้านตามใจชอบ ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข สิ่งที่ทำให้เธอประหลาดใจยิ่งกว่านั้นคือทุกครั้งที่เธอประสบปัญหา เขาก็สามารถแก้ปัญหาให้เธอได้ตลอด ทุกครั้งที่เธอถามเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ เขามักจะหัวเราะและเปลี่ยนเรื่องอย่างฉลาดโดยชมเธอว่าเป็นคนมีความสามารถ ทำงานเก่ง จนกระทั่งวันหนึ่ง ภายใต้การเลี้ยงดูจากสามีของเธออย่างต่อเนื่อง เธอก็ประสบความสำเร็จเช่นกัน จากนั้นเธอถึงพบว่ามีผู้ชายคนหนึ่งในนิตยสารการเงินระดับโลกที่ดูเหมือนสามีของเธอทุกประการ...
หลังจากแต่งงานกันมาสามปี เวินเหลี่ยงก็ยังไม่เคยได้ความรักจากฟู่เจิ้งแต่อย่างใดเลย เมื่อรักแรกของเขากลับมา สิ่งที่รอเธออยู่คือหนังสือการหย่า "ถ้าฉันมีลูก คุณยังเลือกหย่าไหม?" เธออยากจับโอกาสสุดท้ายนี้ไว้ แต่แล้วมีแต่คำตอบที่เย็นชาว่า "ใช่" เวินเหลี่ยงหลับตาและเลือกที่จะปล่อยมือ ...ต่อมาเธอนอนอยู่บนเตียงคนไข้ด้วยความสิ้นหวังและลงนามในข้อตกลงการหย่า "ฟู่เจิ้ง เราไม่ได้เป็นหนี้กันอีกต่อไปแล้ว..." ชายที่มีความเด็ดขาดและเย็นชามาโดยตลอดนอนอยู่ข้างเตียงขอร้องให้อีกฝ่ายกลับมาด้วยเสียงแผ่วเบา "เหลียง ได้โปรดอย่าหย่าได้ไหม?"
รูรักอันบริสุทธิ์เมื่อถูกปลายลิ้นร้อนของชายหนุ่มเป็นครั้งแรกดูเหมือนว่าจะตอบสนองได้เป็นอย่างดี ร่องของนางขมิบรัว สะโพกของนางยกขึ้นยังเด้งเข้าไปหาปากร้อน ฝ่าบาทเก่งกาจยังสามารถแยงลิ้นเข้าไปในรู อันซูเซี่ยถูกทาขี้ผึ้งหอมรอบปากทาง ขี้ผึ้งนี้นอกจากจะมีรสชาติดีส่งเสริมรสน้ำรักของนางแล้วยังมีคุณสมบัติอันวิเศษ แม้จะเป็นหญิงพรหมจรรย์ก็จะไม่รู้สึกเจ็บปวด และเผลอทำร้ายฝ่าบาทจนบาดเจ็บ อี้หลงดูดแบะขาของนางให้กว้างขึ้นแล้วรวบขึ้นไปให้ขาชี้ฟ้า จากนั้นมุดใบหน้าลงมาอย่างหลงใหล “หอมอร่อยเหลือเกิน รู้สึกเหมือนดื่มสุราไม่เมามาย อ้า ข้าชอบยิ่ง หอยของฮองเฮาช่างใหญ่โต ดูโคกเนื้อโยนีแทบจะล้นริมฝีปากของข้า สีแดงเช่นนี้คงไม่เคยผ่านสิ่งใดมาก่อน บริสุทธิ์ยิ่งนัก ซี้ด” นางดิ้นเร่าอยู่ในปาก ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรนอกจากเชื่อฟังในคำของฝ่าบาท “อืม อร่อยยิ่งนัก อ้า ข้าไม่ไหวแล้วขอดูหน้าฮองเฮาของข้าหน่อยเถิด” ดูเหมือนว่าร่องรักของนางยังขมิบ นางไม่อยากให้เขาเงยหน้าขึ้นจากตรงนั้นด้วยซ้ำ อยากถูกปลายลิ้นเลียเช่นนั้นจนกว่านางจะได้รับการปลดปล่อย “อ้า ฝ่าบาทเพคะ อย่าหยุดเพคะ อื้อ” นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักสำหรับผู้ใหญ่ มี 2 เล่มจบ เป็นนิยายแบบพล็อตอ่อน เน้นฉากรักบนเตียงของตัวละครเป็นหลัก เหมาะสำหรับผู้มีอายุ 25 ปีขึ้นไป ไม่เหมาะสำหรับสายคลีนใส ๆ นะคะ หากใครไม่ชอบอ่าน NC เยอะ ๆ กรุณาเลื่อนผ่าน เพราะเรื่องนี้เน้น NC เป็นหลักค่ะ ซีไซต์ นักเขียน
ยัยเด็กขาดสารอาหารคนนี้หรอ คือลูกสาวคนใหม่ของแม่.. เด็กอะไร ขวางหูขวางตาชะมัด เจอหน้ากันเอาแต่ก้มหน้าหลบตา แต่ทำไมยัยเด็กนี่ถึงสวยวันสวยคืน..ถ้าเขาจะแอบกินเด็กของแม่..จะผิดไหม
หลินตงหยาง อายุ 27 ปี เติบโตมากับแม่เพียงสองคน ในวัยเด็กหลินตงหยางเคยมีพ่อผู้ให้กำเนิดแต่หลังจากที่พ่อได้งานใหม่ในเมืองหลวงพ่อที่เคยมีก็ไม่มีอีกแล้ว พ่อกลับมาหย่าขาดกับแม่ทันทีที่ไปทำงานในเมืองหลวงได้เพียง 2 เดือน ด้วยให้เหตุผลในการหย่าว่า แม่กับและเขาคือตัวถ่วงความเจริญในชีวิตพ่อ สาเหตุก็ไม่มีอะไรมากแค่พ่อหน้าตาหล่อเหลาและเป็นที่ถูกใจของลูกสาวหัวหน้างาน เพื่อตำแหน่งงานและความเป็นอยู่ที่สบายขึ้น พ่อเลือกที่จะทิ้งภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากที่ผ่านเรื่องยากลำบากมาด้วยกัน หย่าขาดกับภรรยาเพื่อไปแต่งงานใหม่ มีชีวิตใหม่ในเมืองหลวง โดยทิ้งคนข้างหลัง ทิ้งภรรยาที่เคยสาบานว่าจะอยู่ครองคู่กันตลอดไป ในปีที่เขาเรียนจบมหาวิทยาลัย แม่ก็ล้มป่วยและจากเขาไปในที่สุด สาเหตุที่หลินตงหยางเสียชีวิต เพราะทำงานหนัก อาชีพโปรแกรมเมอร์ตัวเล็กๆ อย่างเขา ต้องพยายามทำงานให้ได้ตามที่หัวหน้าสั่งมา ในที่สุดเขาก็พัฒนาเกมกำลังภายในของบริษัทได้สำเร็จ หลินตงหยางนอนหลับไปด้วยความสบายใจ แต่ทว่าพอเขาลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที นี่ไม่ใช่คอนโดหรูย่านใจกลางเมืองปักกิ่ง หลังคามุงหญ้านี่คืออะไร มันควรจะเป็นเพดานสีขาวสิ เมื่อมองไปรอบๆ ห้องนี่คืออะไร นี่มันไม่ใช่ผนังที่ทำมาจากคอนกรีต มันคือดินเหนียว หลินตงหยางคิดว่าตัวเองฝันไป เขาหลับตาลงอีกครั้งแล้วลืมตาขึ้น ทุกอย่างยังเหมือนเดิม มารดามันเถอะ เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง หลังจากแน่ใจแล้วว่าไมไ่ด้ฝัน ตอนนั้นเองเขารู้สึกปวดหัวขึ้นมาอย่างรุนแรง และในหัวของเขามีภาพเหตุการณ์ของเด็กชายที่ชื่อเดียวกับเขา หลินตงหยาง อายุ 10 ขวบ เรื่องราวชีวิตตั้งแต่เกิดจนตายไปของเด็กชาย ทำเอาหลินตงหยางกำมือแน่น ก่อนจะสบถออกมา “พ่อสารเลว เฉินซื่อเหม่ยชัดๆ” และตามมาด้วยเสียงร้องไห้ของน้องสาว สาเหตุที่เด็กชายหลินตงหยางเสียชีวิต เพราะถูกผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นย่าแย่งผักป่าและทุบตี ทั้งๆ ที่คนพวกนั้นได้ตัดขาดพับพวกเขาสามแม่ลูกแล้ว แต่ยังมิวายข่มเหงรังแก
© 2018-now MeghaBook
บนสุด