S2.1 ...แสนดีตั้งใจที่จะเรียนจิตแพทยย์เพื่อญะญ๋า แต่กลับต้องมารักษาอาการป่วยจิตให้กับหมอปืนแฟนของเธอแทน... (ฉันจะรักษาหมอปืนให้หาย แกไม่ต้องเป็นห่วงนะญะญ๋า)
S2.1 ...แสนดีตั้งใจที่จะเรียนจิตแพทยย์เพื่อญะญ๋า แต่กลับต้องมารักษาอาการป่วยจิตให้กับหมอปืนแฟนของเธอแทน... (ฉันจะรักษาหมอปืนให้หาย แกไม่ต้องเป็นห่วงนะญะญ๋า)
INTRO!(สำคัญ)
"ทำความเข้าใจก่อนอ่าน"
S1อาหมอ S2.1 บำบัดรักแฟนเพื่อน (OLD.)
ควรอ่านตามนี้เพื่อไม่ให้งง มี2แบบ ดังนี้.
เริ่มอ่าน s1อาหมอ ต่อด้วย s2.1 บำบัดรักแฟนเพื่อน (ตอนจบแบบเก่า)
เริ่มอ่าน s1อาหมอ ต่อด้วย s2.2 คุณหมอสองรัก (ตอนจบแบบใหม่)
ปล.ใครยังไม่เคยอ่านเรื่องแรก สามารถเริ่มอ่านเรื่องใหม่ 'บำบัดรักแฟนเพื่อน' ได้เลยนะครับ เดี๋ยวไรท์จะลำดับเหตุการณ์คร่าวๆ ของS1ไว้ให้ เผื่อใครอยากเริ่มอ่านที่เรื่องนี้เลย
S1.ญะญ๋าและหมอปืนทั้งคู่เป็นอาหลาน (เพื่อนรุ่นน้องคนสนิทของพ่อ) ญ๋ามาอาศัยอยู่ที่เพนท์เฮ้าส์ของหมอปืนและทำงานที่เดียวกันจึงเกิดความรักขึ้น ญะญ๋าป่วยเป็นแพนิคและซึมเศร้า มีเรื่องฝังใจมากมาย เช่น ความเครียดในวัยเด็ก เธอมีเพื่อนคนเดียวคือแสนดีเพราะหลายคนไม่ชอบที่เธออ่อนแอและความกดดันจากการเรียนแพทย์ (ญ๋าเรียนไม่เก่ง หัวไม่ดีแต่ก็พยายามถึงที่สุดเพื่อจะเป็นหมอ) บุกคลิกของเธอที่เป็นสาวหวานน่ารักไร้เดียงสา ท่าทางของเธอไม่ถูกใจเพื่อนร่วมงานจนถูกเอาไปนินทาในกลุ่มลับว่าเธอเป็นพวกแอ๊บใส ซึ่งต่อหน้าทุกคนทำเป็นพูดดีด้วยแต่ลับหลังพูดถึงเธอเสียๆ หายๆ ถึงอาการป่วยที่เธอเป็น (ว่าเป็นโรคอ่อยผู้ชายยอดฮิต) แต่เธอกลับมองว่าพวกเขาเป็นเพื่อนที่น่ารักกลุ่มหนึ่งซึ่งความจริงแล้วไม่ได้เป็นเช่นนั้น เหตุการณ์ฝั่งใจที่ทำให้อาการเธอแย่ขั้นสุด คือเธอไม่สามารถรักษาคนไข้ต่อได้เพราะอาการแพนิคกำเริบจนทำคนไข้เสียชีวิตคาเตียงผ่าตัด เรื่องที่ต้องปิดบังพ่อแม่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ลับๆ ของเธอกับหมอปืน และเหตุผลอีกมากมายที่ทำให้คนอ่อนแออย่างญะญ๋าตัดสินใจฆ่าตัวตาย (ในตอนจบของเรื่อง s1อาหมอ) จนเป็นที่มาให้หมอปืนคนรักของเธอเสียสติ
ตอนจบเก่า OLD! [แสนดีตั้งใจที่จะเรียนจิตแพทย์เพื่อญะญ๋า แต่กลับต้องมารักษาอาการป่วยจิตให้กับหมอปืนแฟนของเธอแทน]
...ฉันจะรักษาหมอปืนให้หาย แกไม่ต้องเป็นห่วงนะญะญ๋า...
ไปเริ่มกันเลย!!
• ACTION •
วันนี้เป็นวันที่ฉันต้องมาพบกับคนไข้จิตเวชคนพิเศษ หลังจากที่เราไม่ได้เจอกันนานสามปี เพราะหลังจากที่พวกเราสูญเสียญะญ๋าไปทุกคนก็แยกย้ายกันกลับไปใช้ชีวิตของตัวเอง และกว่าที่จะตั้งหลักกับความเป็นจริงที่ไม่มีญ๋าได้ฉันก็ใช้เวลาไปเป็นปี
แต่ยังมีอยู่คนนึงที่ติดอยู่กับเหตุการณ์ในอดีตไม่ยอมไปไหน และหากว่าเขายังเป็นแบบนี้อยู่อีกไม่นานก็คงเกิดเรื่องน่าเศร้าขึ้น เพราะการที่เขาอยู่ที่เพนท์เฮ้าส์หรูนี้ลำพังและไม่ได้รับการดูแลรักษาอย่างถูกต้อง ไม่นานความโดดเดี่ยวจะฆ่าเขาในที่สุด
หลังจากที่แสนดีปฏิเสธการรักษาหมอปืนอยู่หลายครั้ง เพราะกลัวว่าการที่ได้เจอหมอปืน มันจะทำให้พากันเศร้าทั้งคนไข้แล้วก็หมอ แต่สุดท้ายเธอก็รับรักษาคนไข้คนนี้เหตุผลก็เพราะเพื่อนรักของเธอ
ติ๊งต่อง!
พอได้ยินเสียงคนกดกริ่งเจ้าบ้านก็เดินมาเปิดประตูทันที แล้วก็ต้องแปลกใจที่เห็นว่าแสนดีมาที่นี่
“อ้าวแสนดี ไม่เจอกันนานเลย มาหาญะญ๋าเหรอ...”
คำพูดนั้นของหมอปืนทำให้เธอจุก จนแน่นิ่งไปสักพัก “ค่ะหมอ” นี่แหละสิ่งที่ฉันกลัว การที่หมอปืนยังพร่ำเพ้อพูดถึงญ๋าอยู่แบบนี้
“เข้ามาก่อนสิ ญ๋ายังหลับอยู่เลย”
หลับอยู่เหรอ “...หมอปืนสบายดีใช่ไหมคะ”
แสนดีมองดูสภาพผมยาวเฟื้อยหนวดไม่ได้โกน ร่างกายซูบผอมของคนไข้ของเธอแล้วก็รู้สึกเวทนา
“ก็สบายดีนะ แต่ญ๋านี่สิเอาแต่นอนอย่างเดียวขี้เกียจตัวเป็นขนเลย ฮ่าๆ” หมอปืนหัวเราะออกมาทั้งที่สีหน้าของตัวเองนั้นดูเศร้ามากและมันก็ยิ่งทำให้คนที่เห็นรู้สึกหดหู่จนแทบจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ “นั่งก่อนสิแสนดี”
“ค่ะหมอ”
เธอนั่งลงที่โซฟาห้องรับแขกและมองไปรอบๆ บ้านก็เห็นว่าที่นี่ดูสะอาดตาดีเหมือนว่าหมอปืนจะเก็บกวาดทำความสะอาดบ้านเป็นปกติ แต่ที่ดูรกหูรกตาที่สุดก็หน้าจะเป็นเจ้าของบ้านนี่แหละ ตอนนี้หมอปืนผมยาวกว่าเธอซะอีกแถมหนวดเคราก็ยาวรกรุงรังปิดหน้าไปหมด พอเห็นสภาพคนไข้แล้วเธอก็รู้สึกท้อใจเพราะเขาดูแย่กว่าที่เธอคิดไว้
หมอปืนเดินเข้าไปเอาน้ำในครัวมาวางไว้ให้แสนดี ก่อนจะถามถึงธุระของเธอ “มีธุระอะไรกับญ๋าเหรอ?”
“แค่คิดถึงญ๋าเฉยๆ น่ะค่ะ ก็เลยแวะมาหา” เธอรู้ว่าถ้าบอกคนไข้ไปตามตรงว่าเธอจะมารักษาเขา เธอคงจะโดนเขาไล่ออกจากบ้านแน่
“ช่วงนี้ญ๋าเอาแต่นอน ข้าวปลาก็ไม่ยอมลุกมากิน..ถ้าอยากเจอก็ลองเข้าไปเรียกดูสิเผื่อว่าญ๋าจะตื่น” ผู้ป่วยคิดไปว่าถ้าแฟนของตนเห็นว่าเพื่อนมาหาเธออาจจะดีใจ
“ไปเรียกเหรอคะ”
“ใช่ ในห้องนั้น เดินเข้าไปได้เลย”
“ค่ะ”
ถึงจะรู้ว่าภายในห้องนั้นไม่มีใคร แต่ฉันก็ต้องลุกไปดูญ๋าตามที่คนไข้ของฉันบอก เพราะการได้รู้ความเป็นอยู่ของเขามันน่าจะมีอะไรที่ฉันสามารถเก็บข้อมูลไว้ไปทำการรักษาเขาได้
พอเปิดเข้ามาในห้องนี้ก็ดูสะอาดตาเหมือนกับภายนอก พอมองไปที่เตียงฉันก็เห็นญ๋าของคนไข้ฉันจริงๆ หมอนข้างที่สวมชุดนอนสีฟ้าอ่อนมีโบผูกผมมัดไว้ที่จุกหมอนข้าง
ภาพที่เห็นทำให้แสนดีกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ เพราะเธอเองก็ยังจดจำญะญ๋าได้ดีไม่เคยลืม “ฮึกๆ ญ๋า”
เธอฟุบหน้าร้องไห้กับหมอนข้างตัวแทนของญ๋าที่นอนหลับไหลอยู่บนเตียง เพราะภาพจำทั้งหมดมันยากเกินจะทนเจ็บ เมื่อได้นึกถึง
“ตั้งสติหน่อยสิแสนดี แกมารักษาหมอปืนนะ” เธอพูดเตือนตัวเองที่กำลังร้องไห้ฟูมฟาย
“ญ๋าตื่นหรือเปล่าแสนดี?”
“เอ่อ..ญ๋าบอกว่าอยากนอนต่ออีกหน่อยน่ะค่ะ” แสนดีรีบยกมือขึ้นมาปาดเช็ดน้ำตาออก เพื่อไม่ให้หมอปืนเห็นว่าเธอกำลังร้องไห้อยู่ “เราออกไปข้างนอกกันดีกว่านะคะ”
จิตแพทย์อย่างแสนดีเริ่มคิดหาวิธีที่จะทำการรักษา และเขาควรจะได้รับยาเพื่อปรับสารเคมีในสมองที่เป็นผลต่อโรคให้มีความสมดุล ซึ่งมันก็เป็นเรื่องยากมากๆ ที่จะให้คนไข้จิตเวชทานยาตามที่หมอสั่ง
“หมอปืนอยู่แต่บ้านไม่ออกไปไหนเลยเหรอคะ?”
“ใช่..หมอไม่ได้ออกไปไหนหรอกอยู่บ้านเป็นเพื่อนญ๋าน่ะ จะมีก็แต่ไอเซฟกับแสนรักที่มาหาบ้าง”
“อ๋อจริงสิ หนูมีของฝากมาให้หมอปืนด้วยน่ะค่ะ” ฉันหยิบกระปุกยาวิตามินอาหารเสริมที่ด้านในถูกสลับเปลี่ยนเป็นยาที่หมอปืนควรจะได้รับเพื่อการรักษา
“วิตามินอาหารเสริมค่ะ ยี่ห้อนี้กินดีมากเลยนะคะ” ฉันวางกระปุกยาไว้ที่โต๊ะตรงโซฟาก่อนจะหาเรื่องชวนหมอปืนกินข้าว “หมอปืนทานข้าวหรือยังคะ”
“กินหรือยังเหรอ?” เขาพยายามนึกว่าตนเองทานข้าวไปหรือยัง แต่ก็นึกไม่ออก มือที่สั่นไม่หยุดเพราะอดข้าวตอบกลับอีกคนได้เป็นอย่างดี
“เราทานข้าวกันดีไหมคะ หนูยังไม่ได้กินอะไรมาเลย”
“ได้สิ เดี๋ยวหมอทำอะไรให้กินนะ” เขาพูดจบก็ลุกเดินเข้าครัวไป แต่เมื่อเปิดดูของในตู้เย็นและตู้เก็บของในครัวก็ไม่เห็นว่ามีอะไรเหลืออยู่ จะมีก็แค่มาม่าคัพเท่านั้น
“อ้าว ลืมไปว่าในตู้เย็นไม่มีของเลย...ทำไงดีล่ะ”
“ไม่มีของเหรอคะ?”
“ใช่ หมอไม่ได้ออกไปซื้อของมาตุนไว้เลยน่ะ”
“งั้นเราออกไปซุปเปอร์ใกล้ๆ ซื้อของกันก่อนดีไหมคะ” ฉันหลอกล่อหมอปืนให้ออกไปเจอโลกภายนอกบ้าง เผื่อว่าการที่เขาได้เห็นอะไรแปลกหูแปลกตา จะช่วยกระตุ้นให้เขาตื่นตัวพร้อมรับกับการรักษาของฉัน
“ไม่ได้หรอก หมอทิ้งญ๋าไว้บ้านคนเดียวไม่ได้ เธอเป็นซึมเศร้าอยู่แสนดีลืมเหรอ” การทิ้งผู้ป่วยไว้คนเดียวเป็นเรื่องที่อันตราย ผมทำแบบนั้นไม่ได้
“แต่เมื่อกี้ญ๋าก็บ่นว่าหิวเหมือนกันนะคะ เห็นบอกว่าอยากจะกินตีนไก่เผ็ดด้วย สงสัยเธอคงต้องอดกินแล้วล่ะ” เธอยกญะญ๋าขึ้นมาอ้างเพื่อหลอกล่อหมอปืน
“เอ่อ...” หมอปืนทำท่าทางคิดหนัก
“เราไปซื้อของกันแล้วให้ญ๋านอนรออยู่ที่บ้าน พอทำเสร็จค่อยไปเรียกญ๋ามากินข้าวด้วยกันดีไหมคะ”
“แต่ว่ารถหมอ...”
“หนูเอารถมาค่ะ ไปรถหนูก็ได้”
“งั้น..หมอขอไปบอกญ๋าก่อนนะว่าจะออกไปข้างนอก เดี๋ยวตื่นมาแล้วหาหมอไม่เจอเดี๋ยวจะงอแงอีก”
“ได้ค่ะ..ฝากถามญ๋าด้วยนะคะว่าอยากกินอะไรเพิ่มไหม”
การที่จะเป็นจิตแพทย์ได้ฉันก็ต้องเข้าใจคนไข้ที่ตัวเองรักษาโดยการเอาตัวเข้าไปอยู่ใกล้เขา แบ่งปันเรื่องเล่าความทุกข์จากเขาและบางทีฉันก็ยังต้องทำตัวบ้าเหมือนเขาอีกด้วย เคสหมอปืนก็ยังถือว่าดีกว่าคนไข้ของฉันก่อนหน้านี้เขาคิดว่าตัวเองเป็นนางทาสในสมัยรัชกาลที่5 ซึ่งฉันก็แปลงร่างเป็นคุณหญิงเพื่อช่วยบำบัดคนไข้มาแล้ว เรื่องตามน้ำคนไข้จิตแพทย์แบบฉันถนัดเรื่องนั้นที่สุด
ฉันสัญญานะญ๋า ว่าจะรักษาคนรักของแกให้หายกลับมาเป็นปกติให้ได้...
--------------------------------------------------------------------------
[ติดตามตอนต่อไป] - [Follow the next episode]
[-กดใจ -เพิ่มเข้าชั้น -คอมเมนท์ให้กำลังใจ และฝากกดติดตามไรท์ด้วยนะครับ🙏]
S2(ต่อจากเรื่อง ไอมาเฟียนั่นเมียกู) เรื่องราวความรักของคู่ยูมิ และโจอิ น้องชายตัวแสบของโจดิน
U7 - ฉันเพิ่งมารู้ว่าเด็กที่ฉันถูกว่าจ้างให้อุ้มบุญ เป็นลูกของแฟนเก่าที่เลิกกันไปเมื่อสองปีก่อน… (ผู้ชายที่เขาไม่เคยรักฉัน)
เพื่อนของผมดันหาเด็กสาวมาเป็นติวเตอร์ให้ แถมเธอก็กำลังแตกเนื้อสาวซะด้วย ( ความใสซื่อของเธอทำให้ผมสับสนเรื่องตามไปง้อเมียที่เมืองนอกแล้วทำไงดี )
คู่หมั้นของ ‘โจดิน’ มาเฟียผู้ยิ่งใหญ่ ดันเป็น ’ยูมิ’ แฟนสาวผู้อ่อนแอของ ’นิเณอ’ หญิงแกร่งใจกล้า และบุคลิกของเธอมันก็ดันเข้าตาเขาเต็มๆ จนอยากได้เธอมาเป็นเมียแทน…
เพิ่งหย่ากับอดีตสามีไปไม่นานแต่ปรากฏว่าตัวเองท้อง จะทำอย่างไรดี? หรือจะให้อดีตสามีรับผิดชอบ แต่ก็ไม่คิดว่าอดีตสามีมีคนรักใหม่ไปแล้ว ชีวิตของถังชีชีนั้นช่างสับสน ช่างน่าวิตกกังวลและไม่รู้จะอธิบายยังไงดี เธอต้องคอยระวังไม่ให้คุณเฟิงรู้เรื่องการตั้งครรภ์จนกระทั่งคลอดลูกออกมาอย่างปลอดภัย แต่ไม่คิดว่าจะถูกเขาบังคับถึงเพียงนี้ "เราหย่ากันแค่สี่เดือน แต่เธอกลับตั้งครรภ์ได้เจ็ดเดือนแล้ว บอกมาดี ๆ ว่า ลูกเป็นของใคร!"
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
เขาเป็นถึงมาเฟียใหญ่ของประเทศญี่ปุ่นเขาทั้งโหดทั้งเถื่อนแต่ทำไมเขากลับยังซิง เขารักแค่ผู้หญิงเพียงคนเดียวมาโดยตลอดแต่พอมาเจอเธอทำไมเขาถึงกลับหวั่นไหวได้ล่ะ หรือเขาจะเป็นผู้ชายหลายใจหรือรักใครไม่เป็น?
องค์หญิงสิบสามนามหลินฮุ่ยหมินสตรีผู้ที่งดงามโดดเด่นไม่เป็นรองผู้ใดแต่กลับมีฐานะต่ำต้อยในวังหลวงด้วยพระมารดาเสียชีวิตตั้งแต่นางยังเด็ก ท่ามกลางความคับแค้นใจนางยังต้องคำสาปร้ายต้องกลายร่างเป็นสัตว์ทุกคืนวันพระจันทร์เต็มดวง เขาคือ หยางเอ้อหลาง แม่ทัพหนุ่มผู้มีความสามารถรูปโฉมสง่างามและเป็นวีรบุรุษคนสุดท้ายของสกุลหยาง ทั้งยังเป็นที่รักเคารพของชาวเมือง ทว่าด้วยความสามารถและตำแหน่งใหญ่โต ฮ่องเต้มิอาจวางใจจึงได้คิดกำจัดเขาให้พ้นตำแหน่งเสีย โดยมอบสมรสพระราชทานให้หยางเอ้อหลางกับพระธิดาของตน เดิมทีชีวิตของคนสองคนย่อมไม่บรรจบ เมื่อสตรีที่หมายหมั้นกับหยางเอ้อหลางคือองค์หญิงใหญ่ที่ปักใจรักเขาตั้งแต่เยาว์วัย ทว่าเรื่องไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อคนทั้งคู่เกิดอุบัติเหตุจนคนเข้าพิธีสมรสกลายเป็นองค์หญิงสิบสาม ท่ามกลางความหวาดกลัวขององค์หญิงสิบสามที่กลัวความลับจะเปิดเผย ท่ามกลางหยางเอ้อหลางที่พยายามพาสกุลหยางให้รอดพ้น ท่ามกลางการแตกหักของความสัมพันธ์พี่น้องที่แสนรักใคร่ระหว่างองค์หญิงใหญ่และองค์หญิงสิบสามเพราะบุรุษเพียงผู้เดียว หลินฮุ่ยหมินจะทำเช่นใด เพื่อจะยุติเรื่องราวน่าเวียนหัวนี้
เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที
"พี่ริก" นินิวเรียกคนที่เข้ามาในห้องเธอ ฉันอยากจะกรี๊ดและกัดลิ้นตัวเองให้ขาด ฉันลืมไปสนิทว่าริกเป็นคนที่เข้าออกคอนโดของเธอได้อย่างง่ายดาย "ออกไป ถ้าไม่อยากโดนข้อหาบุกรุกห้องคนอื่นในยามวิกาล" นินิวบอกริกมาเสียดังด้วยสีหน้าโกรธจัด ที่ริกเข้าห้องเธออย่างถือวิสะ "ไม่ไป ในเมื่อที่นี่คือห้องเมียฉัน ทำไมฉันต้องออก" ร่างสูงบอกมาด้วยเสียงแข็งด้วยความไม่พอใจ "ห้องฉันไม่ใช่ห้องของยัยโมเน่ เมียคนปัจจุบันของพี่ ถ้าพี่ยังหลงเหลือความเป็นคนอยู่บ้างก็ออกไปจากห้องฉันคะ" แต่ริกกับไม่สนใจคำพูดนินิวเลยซักนิด ร่างสูงเดินเข้ามาหาคนตรงหน้า นินิวที่เห็นเช่นนั้นถึงกับจับที่ชายผ้าขนหนูเอาไว้แน่นขึ้น เพราะคนตรงหน้านั่นดูอันตรายสำหรับเธอ "อย่านะพี่ริก เรื่องของเรามันจบไปแล้ว" นินิวบอกมาด้วยเสียงสั่นเพราะสายตาที่เขามองเธอมามันน่ากลัวมากจริงๆ "ชอบฉันไม่ใช่เหรอ เอาฉันแล้วจะไปอ่อยคนอื่น อีกทำไม ฉันเห็นเต็มสองตาว่าเธอจูบกับไอ้ไทม์" "ในเมื่อพี่เห็นเช่นนั้น พี่ก็เลิกยุ่งกับฉันเสียสิ ฉันจะอ่อยจะจูบกับใครมันก็เรื่องของฉันไหม ฉันบอกพี่ไม่กี่ร้อยครั้งแล้วว่าเราเลิกกันแล้ว เพราะพี่มันเลว ฉันเลยไม่อยากได้พี่แล้ว " นินิวบอกคนใจร้ายอย่างคนเหลืออด เธอระเบิดอารมณ์ใส่คนตรงหน้าอย่างไม่มีท่าทีเกรงกลัว สำหรับริกตอนนี้เธอมองเขาเป็นแค่เศษฝุ่นที่รู้สึกขยะแขยงยิ่งกว่าแมลงสาบ ริกถึงกับกัดฟันกอดด้วยความโกรธและโมโห เชตเรื่องหนุ่มๆวิศวะทั้ง 4 หนุ่มนะคะ พันธะร้ายนายวิศวะ เรียวตะ x เชอรีน (มีให้อ่านจบเรื่อง) พิษรักร้าย Toxic Love ริกกี้ x นินิว พลาดรักร้ายนายวิศวะ อรัณ x มิริณ คลั่งรักร้ายนายวิศวะ ริว x เจนิส โลกสวยไม่เหมาะกับนิยายเรื่องนี้ ข้ามไปได้เลยจ้า นิยายเรื่องนี้เขียนขึ้นตามจิตนาการของผู้แต่ง ห้ามขัดลอกเรียนแบบใดๆ ทั้งสิ้นเขียนขึ้นตามจิตนาการของผู้เขียนเท่านั้น นิยายเรื่องนี้อาจมีเนื้อหารุนแรงในบางตอน โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน อายุต่ำกว่า 18 ปีควรได้รับคำแนะนำ
© 2018-now MeghaBook
บนสุด